“พี่เตา พี่ซานเฉียนคิดจะทำอะไรน่ะ?” โจวป๋อถามเตาสือเออร์หลังจากที่เห็นหานซานเฉียนออกไปเตาสือเออร์ส่ายหัว เขาไม่เข้าใจว่าหานซานเฉียนต้องการทำอะไร ด้วยสถานะของเขา ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงไปชีวิตเลย ถึงจะไม่มีสนามมวยใต้ดินแล้ว มันก็ไม่มีผลกระทบอะไรกับเขาด้วยซ้ำ แต่ทำไมเขาถึงต้องขึ้นสังเวียนแทนตัวเองด้วย ?“หรือว่าพี่ซานเฉียนมีโอกาสเอาชนะตันฉิงได้?” โจวป๋อเดาเตาสือเออร์ปฏิเสธความเป็นไปได้นี้อย่างไม่ลังเล และพูดว่า "ฉันเพิ่งจะประลองฝีมือกับพี่ซานเฉียนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน แม้ว่าเขาจะพัฒนาขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้พัฒนาจนน่าตกใจอะไร ฉันเคยเห็นการเคลื่อนไหวของตันฉิง ความแข็งแกร่งของพี่ซานเฉียนเทียบกับเขาไม่ได้เลย"ตอนนั้นเอง หานซานเฉียนก็ก้าวขึ้นไปบนสังเวียนแล้ว และทุกคนต่างก็รู้สึกงุนงงกับการปรากฏตัวของเขาโจวหยางฝูประกาศสงครามกับเตาสือเออร์ แล้วเขาขึ้นมาบนสังเวียนทำไม?“หมอนี่กำลังจะทำอะไร? คงไม่ได้อยากจะท้าทายตันฉิงหรอกนะ?”"จะเล่นตลกหรือไง ร่างเล็ก ๆ แบบนั้นจะกล้าท้าทายตันฉิงได้ยังไง?"“ในความคิดของฉัน คงเป็นเพราะว่าเตาสือเออร์ไม่กล้าขึ้นสังเวียน ถึงได้ส่งเขาขึ้นมาตายแทนน่ะสิ”ผู้ชมจากทั่ว
นายอยากตายยังไง!ห้าคำง่าย ๆ แต่ทำให้อุณหภูมิของบรรยากาศสูงขึ้นอีกครั้งผู้ชมทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกันมากแต่เมื่อตันฉิงยกมือขึ้นมา ทั้งสนามมวยก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เห็นได้เลยว่าการควบคุมของตันฉิงนั้นแข็งแกร่งเพียงใด"ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเชียร์นายเลยนะ ขึ้นชกแทนสือเออร์ นายคิดถึงผลที่ตามมาดีแล้วหรือยัง?" หลังจากตันฉิงพูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่เตาสือเออร์บนอัฒจันทร์ และพูดต่อว่า "นายมีตำแหน่งเป็นถึงแชมป์มวยใต้ดิน แต่กลับทำตัวเป็นเต่าหดหัวในกระดอง ทำไม กลัวตายหรือไง?”“ฉันออกหน้าก็พอแล้ว” หานซานเฉียนกล่าวตันฉิงหัวเราะเสียงดัง และผู้ชมบนอัฒจันทร์ก็หัวเราะราวกับว่าพวกเขาได้ยินเรื่องตลก "ผู้ชายคนนี้บ้ามากจริง ๆ เขาไม่สนใจตันฉิงเลยสักนิด"“กล้าพูดกับตันฉิงแบบนั้น ตันฉิงไม่ปล่อยเขาไปแน่ ยังไงผู้ชายคนนี้ก็ต้องตาย”“ไม่รู้ว่าเขาจะตายด้วยน้ำมือของตันฉิงยังไง ด้วยวิธีการของตันฉิง เขาจะถูกทรมานจนตายแน่ ๆ”หลังจากที่ตันฉิงหัวเราะจนพอใจแล้ว เขาก็พูดกับหานซานเฉียนว่า "เศษขยะอย่างนาย ถึงฉันจะยอมให้นายต่อยฉันสักสิบที นายก็เอาชนะฉันไม่ได้อยู่ดี"หานซานเฉียนยกยิ้มมุมปาก เขาอาจไม่สามา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา และหลายคนก็ยังคงตกอยู่ในภวังค์เห็นเพียงตันฉิงที่ถูกต่อยลอยออกไปค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างไม่มั่นคง ก่อนจะกระอักเลือดออกมาราวกับน้ำพุ และล้มลงกับพื้นอีกครั้งอย่างไร้เรี่ยวแรงมีเพียงเสียงหายใจในสนามมวยอันเงียบสงบบนอัฒจันทร์ส่วนตัว โจวหยางฝูที่เพิ่งตื่นจากภวังค์กระโดดขึ้นจากโซฟา เดินไปที่กระจกกั้น และมองไปที่เวทีอย่างไม่เชื่อสายตาผู้ชายคนนี้…เขาสามารถน็อกตันฉิงด้วยหมัดเดียวได้อย่างไร!ความแข็งแกร่งอย่างตันฉิง เขาจะโดนน็อกได้อย่างไรไอ้หมอนั่นมันก็แค่ไก่อ่อนไม่ใช่หรือไงโจวหยางฝูเกาหัวล้านของตัวเองด้วยความตื่นตระหนก สนามมวยชิงหลงเฟื่องฟูได้เพราะตันฉิง แต่ตอนนี้ตันฉิงได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างเห็นได้ชัด หากไม่มีตันฉิง ชื่อเสียงของสนามมวยชิงหลงก็จะถูกทำลายลง!หลังจากความเงียบก็เกิดโกลาหลขึ้นบนเวทีมวย ทุกคนมองไปที่หานซานเฉียนด้วยสายตาไม่เชื่อ ทุกคนต่างก็สงสัยว่าตัวเองกำลังเห็นภาพหลอน ตันฉิงจะบินออกมาจากสังเวียนได้อย่างไร?คนที่ตายน่าจะเป็นเขาไม่ใช่เหรอ?"เกิดอะไรขึ้น! เขาน็อกตันฉิงได้ด้วยหมัดเดียวจริง ๆ เหรอ""พระเจ้า ฉันคงไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม ผู้ชายคน
ความดุเดือดของผู้ชมบนอัฒจันทร์นั้นสูงกว่าตอนที่ตันฉิงปรากฏตัวบนเวทีเสียอีก แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักชื่อของหานซานเฉียน แต่ทุกคนต่างก็ตะโกนว่า "แชมป์มวย" และดูเหมือนว่าหานซานเฉียนได้รับการยกย่องให้เป็นแชมป์มวยใต้ดินคนใหม่นี่คือโลกที่เคารพความแข็งแกร่ง สำหรับนักมวยดำใต้ดิน ผู้ชนะคือราชา พวกเขาจะไม่บูชาชื่อใครง่าย ๆ และถ้ามีผู้ที่แข็งแกร่งกว่า พวกเขาจะละทิ้งอดีตอย่างไม่ลังเลนี่ไม่ใช่การเปลี่ยนจุดยืนไปตามกระแส แต่เป็นเพียงการยอมรับและการแสวงหาผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้นบนอัฒจันทร์ส่วนตัว โจวหยางฝูตัวสั่นด้วยความโกรธ ในสายตาของเขา เตาสือเออร์ไม่มีทางกลับมาครองแชมป์มวยดำใต้ดินได้อีกในหยุนเฉิงอีกอย่าง การมีนักมวยที่แข็งแกร่งอย่างตันฉิง ทำให้เขาสามารถนั่งในตำแหน่งหัวหน้าสนามมวยอันดับหนึ่งได้อย่างมั่นคงแต่โจวหยางฝูไม่เคยคิดมาก่อนว่าตันฉิงจะถูกน็อกด้วยหมัดแบบนี้ เพิ่งจะได้รับเกียรตินี้ได้เแค่ไม่กี่วัน เขากลับถูกเด็กที่ไม่ได้ดูโดดเด่นอะไรน็อกได้ในหมัดเดียว ประกาศสงครามกับสนามมวยชิงหลงทั้งหมด หากหาคนมาสู้ไม่ได้ ชื่อเสียงของสนามมวยชิงหลงจะถูกทำลายแต่แม้แต่ตันฉิงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา โ
“รีบกลับไปเถอะ ฉันก็จะรีบกลับไปพักแล้วเหมือนกัน” หลังจากพูดจบ หานซานเฉียนก็ปลีกตัวเดินจากไปโจวป๋อถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะเดาผลลัพธ์เอาไว้อยู่แล้ว แต่ก็ยังอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้อยู่ดี"พี่เตา ผมว่าพี่ซานเฉียนทำให้คนเดาความคิดของเขาไม่ออกมากขึ้นเลย ๆ เลย ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมพี่ถึงยังติดตามเขาอยู่แบบนี้" โจวป๋อกล่าว“เขามีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เดี๋ยวนายก็จะค่อย ๆ ได้เห็นเอง ฉันไม่อาจรับประกันได้ว่าเขาจะให้อนาคตที่สดใสกับนาย แต่ฉันแน่ใจว่านายจะไม่เสียใจที่ติดตามเขา” เตาสือเออร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเมื่อหานซานเฉียนกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นฉี๋อีหยุนซึ่งอยู่ในชุดนอนผ้าไหมกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น นั่นทำให้เขาประหลาดใจ เพราะก่อนที่เขาจะออกไปข้างนอก เขารอให้ฉี๋อีหยุนกลับห้องไปนอนแล้วแท้ ๆ“คุณนอนไม่หลับเหรอ?” หานซานเฉียนถามฉี๋อีหยุนอย่างงงงวยฉี๋อีหยุนหลับไปแล้ว แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงหานซานเฉียนปิดประตูและออกไปข้างนอก เธอก็พลิกตัวไปมาบนเตียง ในเมื่อนอนไม่หลับ เธอจึงมานั่งรอหานซานเฉียนที่ห้องนั่งเล่นแทน“ฉันกลัวว่าคุณจะถูกทำร้ายอีกน่ะสิ และเผื่อต้องการให้ฉันออกไปช่วย” ฉี๋อีห
หานซานเฉียนพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อเขาออกมาจากห้อง ฉี๋อีหยุนก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสีหน้าของเขาไม่ปกติ“คุณเป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่า?” ฉี๋อีหยุนเดินไปด้านข้างและถามอย่างเป็นห่วงหานซานเฉียนส่ายหัว หลังจากอาการปวดหัวหายไป สภาพร่างกายของเขาก็ไม่มีความผิดปกติอื่น แต่แค่รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยเท่านั้น เขาจึงตอบไปว่า "ไม่ได้เป็นอะไร เมื่อคืนผมหลับไม่ค่อยสนิทน่ะ"“ฉันรู้ว่าคุณอยู่ภายใต้ความกดดัน แต่คุณก็ควรดูแลร่างกายตัวเองด้วย ถ้าคุณเป็นอะไร ก็จบเห่กันพอดี" ฉี๋อีหยุนเตือน“งั้นต่อไปคุณก็อย่าเผลอวางชุดชั้นในไว้ในห้องน้ำอีกล่ะ ไม่อย่างงั้นร่างกายของผมจะพังก่อนเวลาอันควร” หานซานเฉียนพูดติดตลกด้วยรอยยิ้มฉี๋อีหยุนไม่ได้แสดงความเขินอายใด ๆ เพราะเธอทำไปโดยตั้งใจ ดังนั้นเธอจึงคิดไว้อยู่แล้วว่าจะถูกหานซานเฉียนจะดูออก "สวยไหมล่ะ? ทุกครั้งที่คุณเข้าห้องน้ำ คุณคงไม่จ้องชุดชั้นในของฉันจนไม่กระพริบตาหรอกนะ”หานซานเฉียนไม่คิดมาก่อนว่าฉี๋อีหยุนจะมีปฎิกิริยาแบบนี้ ยิ่งเธอทำตัวเหมือนไม่แคร์มากเท่าไหร่ หานซานเฉียนก็ยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนมากขึ้นเท่านั้น เขาพูดขึ้นว่า "ไม่... ไม่หนิ มันก็แค่ชิ้นผ้า
แต่ตอนนี้ตงฮ้าวต้องเปลี่ยนใจ และเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะฆ่าหานซานเฉียน เพราะกลัวว่าจะตัวเองจะตายด้วยน้ำมือของหานซานเฉียนซะเองหลังจากที่ฉี๋อีหยุนตกตะลึงอยู่สักพัก รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ เป็นเรื่องดีที่หานซานเฉียนแข็งแกร่งขึ้น ข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่สามารถหยิบออกมาพูดได้นั่นก็คือ ยิ่งหานซานเฉียนแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งหลงใหลเขามากขึ้นเท่านั้น"ไม่มีอะไรแล้ว นายกลับไปได้" ฉี๋อีหยุนกล่าวตงฮ้าวเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อฉี๋อีหยุน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหานซานเฉียนที่ไม่อาจควบคุมได้แบบนี้ ตงฮ้าวจึงต้องเตือนฉี๋อีหยุน "คุณหนูครับ การที่หานซานเฉียนแข็งแกร่งขึ้นมันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเรา หากเขาได้รับประโยชน์แล้วถีบหัวส่งพวกเราจะทำยังไง คุณหนูต้องคิดหาวิธีควบคุมหานซานเฉียนด้วยนะครับ”“ถึงแม้ว่าชาตินี้ฉันจะไม่ใช่ผู้หญิงของเขา แต่เขาก็มีวันที่จะใจร้ายกับฉัน ทำไมฉันต้องกลับมากันนะ?”ฉี๋อีหยุนถามด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยตงฮ้าวส่ายหัวด้วยความสับสน เขาไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมฉี๋อีหยุนที่จากไปแล้ว ถึงได้กลับมาหาหานซานเฉียนอีกครั้ง"ฉันต้องการให้เขารู้สึกผิดต่อฉัน แม้เพียงเล็กน้อยก็เพี
ในเวลาเที่ยงวัน แสดงแดดแผดเผา คนแก่และคนหนุ่มนั่งหลบแดดที่ประตู มือของพวกเขาเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก และไม่ได้ล้างออกดูเหมือนชาวบ้านทั่วไป"ผมได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้ว" เหยียนจุนยิ้มให้หานซานเฉียนด้วยใบหน้าที่ใจดีใบหน้านี้เคยเป็นวีรบุรุษ แม้ว่าตอนนี้จะเต็มไปด้วยริ้วรอย แต่สำหรับหานซานเฉียนแล้วมันก็ยังคงเป็นใบหน้าเดียวในโลกที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจ"คุณปู่เหยียน คุณไม่คิดว่ามันแปลกเหรอครับที่ผมสามารถน็อกตันฉิงได้ด้วยหมัดเดียว" หานซานเฉียนกล่าวเหยียนจุนพยักหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้และกล่าวว่า "ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของตันฉิง ดังนั้นเมื่อผมได้ยินข่าวนี้ ผมจึงรู้สึกประหลาดใจมาก""คุณปู่เหยียน ถ้าผมบอกว่าจู่ ๆ ผมก็มีพลังมหาศาลคุณจะเชื่อไหม" หานซานเฉียนกล่าวสีหน้าของเหยียนจุนกลายเป็นเคร่งเครียดในทันที ก่อนจะพูดว่า "ช่วงนี้มีเรื่องแปลก ๆ อะไรเกิดขึ้นกับคุณหรือเปล่า?"หากถามถึงเรื่องแปลก ๆ จะมีก็แต่อาการปวดหัวทุกคืนอย่างไม่มีเหตุผล แต่เมื่อหานซานเฉียนบอกเหยียนจุนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความสงสัยบนใบหน้าของเหยียนจุนก็รุนแรงขึ้น“ปวดหัวเหรอ?” เหยียนจุนส่าย
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ