“คุณปู่เหยียน ผมสงสัยจริง ๆ ว่าคุณกำลังโม้กับผมหรือเปล่า หรือว่าพวกเขาจะเป็นเทพเจ้ากัน” หานซานเฉียนพูดพร้อมกับเบะปาก“พวกเขาไม่ใช่เทพ ไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายภูเขาและทะเลเหมือนในตำนาน แต่พวกเขาก็แตกต่างจากคนทั่วไป ประโยคนี้ถ้าคุณอยากรู้ความจริงก็ต้องลองตรวจสอบดูด้วยตัวเอง" เหยียนจุนกล่าว"ก็ได้ครับ วันนี้ที่มานอกจากช่วยคุณทำสวนแล้ว ก็ไม่ได้อะไรเลย" หานซานเฉียนผายมือที่เปื้อนโคลนด้วยสีหน้าหมดหนทางเหยียนจุนตบหน้าผากหานซานเฉียนแล้วพูดว่า "พักพอแล้ว รีบไปทำงานต่อได้แล้ว"แม้ว่าหานซานเฉียนจะแสร้งทำเป็นไม่เต็มใจ แต่เขาก็ไม่ได้หย่อนยานแม้แต่น้อยเมื่อทำงาน ทั้งสองคนไม่กินข้าวกลางวัน จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน หานซานเฉียนเข้าไปที่ครัวเพื่อทำอาหารเย็นเหยียนจุนไม่มีพฤติกรรมที่ไม่ดีใด ๆ เขาไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า หรือเล่นกาม เรียกได้ว่าเขาเป็นนักพรตตัวจริง ก่อนที่เขาจะตาย สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือความปลอดภัยของตระกูลหาน แต่ตอนนี้เขามีความปรารถนามากขึ้น และนั่นก็คือหานซานเฉียนดูเหมือนว่าหานซานเฉียนจะค่อย ๆ ช่วยเขาไขชั้นลึกลับของระดับที่เหยียนจุนสงสัยมาตลอด แต่ไม่มีทางเข้าถึงได้"ดู
หานซานเฉียนเคยคุยเรื่องนี้กับหานลี่แล้ว ดังนั้นเมื่อเหยียนจุนสงสัยเรื่องนี้ หานซานเฉียนจึงเล่าความกังวลของหานลี่ให้เขาฟังเหยียนจุนหัวเราะอย่างตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งนี้ เหตุผลที่หานลี่ไม่ฆ่าหานซานเฉียนเพียงเพราะเขากลัวกรรมตามสนอง?“คุณนี่โง่จริง ๆ เขาสามารถเป็นตระกูลแรกในเขตจีนของอเมริกาได้ คุณคิดว่าเขาจะทำกรรมไว้น้อยอย่างงั้นเหรอ?” เหยียนจุนกล่าวหานซานเฉียนขมวดคิ้วและถามว่า "คุณปู่เหยียน คุณหมายความว่า ที่เขายังไม่ฆ่าผม ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้อย่างงั้นเหรอครับ?"เหยียนจุนยิ้มและพูดว่า "เด็กโง่ ถ้าจำเป็น เขาก็สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งคนในครอบครัวตัวเอง แล้วทำไมเขาถึงไม่ฆ่าคุณเพราะเหตุผลแค่นี้ล่ะ"แม้ว่าก่อนหน้านี้หานซานเฉียนจะรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกวันนี้ คนรวยจำนวนมากมีความคิดแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเข้าใจได้ว่าหานลี่อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นที่ถืออะไรพวกนี้แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เหยียนจุนพูด หานซานเฉียนก็จะไม่คิดอะไรโง่ ๆ อีกต่อไป“หรือว่าผมจะมีค่าอะไรสำหรับเขา?" หานซานเฉียนถามอย่างสงสัย"ผมรู้จักหานลี่แค่ผิวเผินเท่านั้น หากเขาอยากได้อะไร
หานซานเฉียนหันไปและเห็นว่ามี่เฟยเอ๋อร์จงใจลดคอเสื้อลงมาลึกมาก สำหรับผู้ชายนี่เป็นวิธีการยั่วยวนที่ตรงที่สุด น่าเสียดายที่เฟยเอ๋อร์ได้พบกับบุรุษเหล็ก ผู้สามารถเมินความงามอันน่าทึ่งของฉี๋อีหยุนได้ได้"เหอะ เหอะ" หานซานเฉียนทิ้งไว้คำสองคำก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนมี่เฟยเอ๋อร์ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่างเปล่าราวกับถูกฟ้าผ่า เธอไม่เพียงแต่ละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่เธอยังขายร่างกายของเธอด้วย แต่หานซานเฉียนกลับตอบมาแค่ เหอะ เหอะ สองคำนี้เท่านั้น!คำสองคำนี้เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและดูถูก ซึ่งทำให้มี่เฟยเอ๋อร์รู้สึกอับอายอย่างมาก"ฉันขอความช่วยเหลือจากคุณขนาดนี้แล้ว แต่คุณยังกล้าปฏิเสธฉัน คุณมีสิทธิ์อะไรถึงทำแบบนี้!" มี่เฟยเอ๋อร์พูดพร้อมกัดฟัน ราวกับมั่นใจว่า ขอแค่เธอเอ่ยขอ หานซานเฉียนจะต้องยอมช่วยเธออย่างแน่นอน เมื่อกลับมาบ้าน ฉี๋อีหยุนกำลังดูทีวีบนโซฟาในห้องนั่งเล่น ขาของเธอม้วนงอ และเธอไม่ได้แสดงด้านที่เซ็กซี่ของเธอมากนัก ตอนนี้เธอติดนิสัยชอบรอเสียงเปิดประตูไปแล้ว ต้องรอให้หานซานเฉียนกลับมาบ้านก่อน เธอถึงจะยอมเข้าห้องไปพักผ่อนบางครั้งฉี๋อีหยุนก็กลัวมากว่าเรื่องนี้จะจบลงกะทันหัน เพราะเธอติด
มี่เฟยเอ๋อร์รับไม่ได้ที่ถูกหานซานเฉียนเมินใส่ และไม่สนใจการยั่วยวนของเธอ จึงมาหาหานซานเฉียนเพื่อถามหาเหตุผล แต่เธอไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับฉี๋อีหยุนที่พลังรุนแรงกว่าในชีวิตของฉี๋อีหยุน เธอเป็นคนอ่อนน้อมเกือบตลอดเวลา อย่างน้อยเธอก็รู้สึกแบบนั้นกับคนนอก แต่นิสัยที่แท้จริงมีอารมณ์ที่รุนแรงเช่นกัน เพราะอย่างไรเธอก็เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย แล้วเธอจะไม่อารมณ์ร้ายเลยสักนิดได้อย่างไร?ที่เธอไม่ได้ระเบิดอารมณ์ เป็นเพราะยังอยู่ในขีดจำกัดที่เธอทนไหวแต่ตอนนี้สำหรับฉี๋อีหยุน ขีดจำกัดของเธอก็คือหานซานเฉียน มี่เฟยเอ๋อร์กล้ารบกวนเวลาที่เธอได้อยู่กับหานซานเฉียน นั่นจึงทำให้เธอโกรธมาก“เอะอะโวยวายอะไรนักหนา?” ฉี๋อีหยุนถามมี่เฟยเอ๋อร์เสียงแข็งมี่เฟยเอ๋อร์ปิดหน้าด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย เพราะเธอสัมผัสความเป็นลูกผู้ดีได้ผ่านสายตาฉี๋อีหยุน ความหยิ่งผยองนั้นทำให้มี่เฟยเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวเธอสามารถแสดงความเหนือกว่าต่อหน้าผู้คนในระดับเดียวกันได้ แต่เมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนที่ร่ำรวยกว่าเธอ มี่เฟยเอ๋อร์ก็จะรู้สึกด้อยกว่าไปโดยปริยาย นี่คือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมีนิสัยชอบเอาเปรียบ เธอไม่ต้องการแสดงปมด้อยของเธอต่อ
ฉี๋อีหยุนทำอาหารหลากหลาย และแตกต่างกันไปทุกวันให้หานซานเฉียน ดังนั้นการไปตลาดซื้อผักทุกเช้าจึงเป็นกิจวัตรประจำวันสำหรับเธอ ทางจากบ้านไปตลาด จะต้องเดินผ่านตรอกเล็ก ๆ ในวันคี่จะมีคนเยอะแยะมากมาย บางวันก็มีแม่ค้ามาตั้งแพงลอยขายของ แต่ในวันคู่นั้นแทบไม่มีคนเลยฉี๋อีหยุนไปตลาดซื้อผักตามปกติ และไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรเมื่อเดินผ่านตรอกซอกซอยที่เงียบสงัด จนกระทั่งเมื่อมีผู้ชายหลายคนเดินเข้ามาขวางทางเธอ ฉี๋อีหยุนถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ“พวกนายจะทำอะไร?” ฉี๋อีหยุนถามนิ่ง ๆหัวโจกเป็นชายหัวเกรียน และเขาคือเฉิงเผิงคนที่ตามจีบมี่เฟยเอ๋อร์“สาวแว่น เธอไม่มีตาจริง ๆ รึไง ถึงได้กล้ารุกรานผู้หญิงของฉัน” เฉิงเผิงพูดพร้อมกับเยาะเย้ย“มี่เฟยเอ๋อร์คือผู้หญิงของนายเหรอ?” ฉี๋อีหยุนยิ้มเบา ๆสีหน้าของเฉิงเผิงมีความตื่นตระหนก มี่เฟยเอ๋อร์เตือนเขาแล้วว่าอย่าเปิดเผย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับเดาได้ทันที“ในเมื่อกล้าทำแล้วจะต้องกลัวอะไร?” ฉี๋อีหยุนพูดนิ่ง ๆเฉิงเผิงเลิกคิ้วและพูดว่า "ฉันน่ะเหรอกลัวผู้หญิง อย่ามาล้อเล่น ใช่ ผู้หญิงของฉันคือมี่เฟยเอ๋อร์ แล้วไงล่ะ เธอขอให้ฉันสั่งสอนบทเรียน และทำให้เธอคุกเข่าข
เฉิงเผิงไม่เข้าใจความหมายที่ฉี๋อีหยุนพูด แต่เมื่อตงฮ้าวเดินเข้าไปหาฉี๋อีหยุนเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที“คนสวย คุณมีแฟนแล้วเหรอ?” เฉิงเผิงถามอย่างไม่ค่อยพอใจตงฮ้าวหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ฉี๋อีหยุน เขาก้มตัวลงและพูดว่า "คุณหนู คุณอยากจัดการกับขยะพวกนี้ยังไงดีครับ?"“สอนบทเรียนให้สักหน่อยก็พอ” ฉี๋อีหยุนพูดนิ่ง ๆคุณหนู ?สอนบทเรียนให้สักหน่อยก็พอ?เฉิงเผิงชำเลืองมองมี่เฟยเอ๋อร์อย่างไม่รู้ตัว นี่เธอกำลังมีเรื่องกับใครอยู่กัน ดูแล้วไม่เหมือนคนธรรมดาเลยสักนิด ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มีบอดี้การ์ดแบบนี้มี่เฟยเอ๋อร์รู้สึกสับสนเล็กน้อย ในความคิดของเธอ ฉี๋อีหยุนเป็นเพียงหญิงสาวที่โง่เขลาที่ถูกหานซานเฉียนหลอกเท่านั้น ทำไมจู่ ๆ เธอถึงกลายเป็นคุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวยได้อย่างไร แถมยังมีบอดี้การ์ดอีกด้วย“คนสวย คุณประเมินพวกเราต่ำไปหรือเปล่า คนเพียงคนเดียว คิดจะกล้าสู้กับพวกเรางั้นเหรอ?” ถึงแม้ว่าเฉิงเผิงตระหนักว่าตัวตนของฉี๋อีหยุนนั้นไม่ธรรมดา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจตงฮ้าว ในความคิดของเขา ยิ่งมีคนเยอะก็ยิ่งแข็งแกร่ง เขาไม่เชื่อว่าคนตั้งเยอะแยะจะเอาชนะตงฮ้าวไม่ได้ตงฮ้าวยิ้มเยาะ ขยะเหล่านี้ไม่คุ้มค่ากับการที
หยางเหมิงมองไปที่มี่เฟยเอ๋อร์ที่เหงื่อออกเต็มตัวและหน้าตาตื่นตระหนก ก่อนจะถามเธอว่า "พี่เฟยเออร์ พี่เป็นอะไรไป หรือว่าพี่จงไม่ยอมเหรอคะ?"มี่เฟยเอ๋อร์หอบหนัก พูดไม่ออกเห็นแบบนั้นหยางเหมิงจึงพูดต่อ “พี่เฟยเอ๋อร์ ฉัน... ฉันจะลองหาทางช่วยพี่ดู"ถ้าไม่ถึงที่สุด หยางเหมิงก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ เพราะเธอรู้ว่ามี่เฟยเอ๋อร์ทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้า เพราะไม่อยากขอความช่วยเหลือจากใคร แต่เธอไม่อยากให้มี่เฟยเอ๋อร์ถูกไล่ออก และตอนนี้คนที่สามารถช่วยเธอได้ มีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้น "หยางเหมิง บอกฉันมาสิว่าเธอกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่" มี่เฟยเอ๋อร์ถามหยางเหมิงหลังหายใจคล่องขึ้นหยางเหมิงตกใจ เรื่องที่เธอปิดบังมี่เฟยเอ๋อร์มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นก็คือตัวตนของหานซานเฉียน อีกอย่างหานซานเฉียนขอร้องเธอไว้ว่าห้ามบอกใครเป็นอันขาด เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหยางเหมิง มี่เฟยเอ๋อร์ที่รู้จักนิสัยของเธอดี ก็รู้ทันทีว่าหยางเหมิงปกบิดบางอย่างกับเธออยู่ “ถ้าเธอไม่บอกฉันอีก ความเป็นพี่น้องของเราก็จบลงวันนี้” มี่เฟยเอ๋อร์ขู่หยางเหมิงลนลานทันที เธอเป็นพี่น้องกับมี่เฟยเอ๋อร์มาหลายปีแล้ว และเธอไม่ต้องการให้ค
หยางเหมิงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่างเปล่า ตั้งแต่วันแรกที่พวกเธอได้รู้จักหานซานเฉียน ทัศนคติของมี่เฟยเอ๋อร์ที่มีต่อหานซานเฉียนนั้นแย่มาก เธอไม่ได้มองเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ และสิ่งนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าเธอรู้จักตัวตนของหานซานเฉียนเลยด้วยซ้ำแต่ตอนนี้มี่เฟยเอ๋อร์กลับโทษว่าเป็นความผิดเธอที่ปิดบังเรื่องนี้แม้ว่าเธอจะไม่ได้ปกปิดเรื่องนี้ แล้วมันจะเปลี่ยนแปลงความจริงที่มี่เฟยเอ๋อร์ดูถูกเหยียดหยามหานซานเฉียนได้เหรอ?“พี่เฟยเอ๋อร์ ฉันไม่รู้จักตัวตนของพี่หานตั้งแต่วันแรก แต่พี่ดูถูกถากถางเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ” หยางเหมิงพูดนิ่ง ๆ"แต่ถ้าเธอบอกฉันเร็วกว่านี้ ฉันก็มีโอกาสที่จะได้ไถ่บาป และเรื่องมันก็คงจะไม่ได้เลยเถิดมาถึงขนาดนี้" มี่เฟยเอ๋อร์มองไปที่หยางเหมิงอย่างดุร้าย ไม่รู้สึกได้คิดว่าเป็นความผิดของตัวเองเลยสักนิด แต่เป็นเพราะหยางเหมิงจงใจปิดบังตัวตนของหานซานเฉียน และทำให้เธอจมอยู่กับการเข้าใจผิดหยางเหมิงยิ้มเบา ๆ เธอปฏิบัติต่อมี่เฟยเอ๋อร์เหมือนพี่สาวแท้ ๆ ของเธอเสมอ ดังนั้นบางครั้งที่ต้องเผชิญกับความเอาแต่ใจของมี่เฟยเอ๋อร์ เธอก็เลือกที่จะอดทน แต่ในเรื่องนี้หยางเหมิงทนไม่ไหวแล้ว เธอไม่
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ