“คุณปู่เหยียน ผมสงสัยจริง ๆ ว่าคุณกำลังโม้กับผมหรือเปล่า หรือว่าพวกเขาจะเป็นเทพเจ้ากัน” หานซานเฉียนพูดพร้อมกับเบะปาก“พวกเขาไม่ใช่เทพ ไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายภูเขาและทะเลเหมือนในตำนาน แต่พวกเขาก็แตกต่างจากคนทั่วไป ประโยคนี้ถ้าคุณอยากรู้ความจริงก็ต้องลองตรวจสอบดูด้วยตัวเอง" เหยียนจุนกล่าว"ก็ได้ครับ วันนี้ที่มานอกจากช่วยคุณทำสวนแล้ว ก็ไม่ได้อะไรเลย" หานซานเฉียนผายมือที่เปื้อนโคลนด้วยสีหน้าหมดหนทางเหยียนจุนตบหน้าผากหานซานเฉียนแล้วพูดว่า "พักพอแล้ว รีบไปทำงานต่อได้แล้ว"แม้ว่าหานซานเฉียนจะแสร้งทำเป็นไม่เต็มใจ แต่เขาก็ไม่ได้หย่อนยานแม้แต่น้อยเมื่อทำงาน ทั้งสองคนไม่กินข้าวกลางวัน จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน หานซานเฉียนเข้าไปที่ครัวเพื่อทำอาหารเย็นเหยียนจุนไม่มีพฤติกรรมที่ไม่ดีใด ๆ เขาไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า หรือเล่นกาม เรียกได้ว่าเขาเป็นนักพรตตัวจริง ก่อนที่เขาจะตาย สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือความปลอดภัยของตระกูลหาน แต่ตอนนี้เขามีความปรารถนามากขึ้น และนั่นก็คือหานซานเฉียนดูเหมือนว่าหานซานเฉียนจะค่อย ๆ ช่วยเขาไขชั้นลึกลับของระดับที่เหยียนจุนสงสัยมาตลอด แต่ไม่มีทางเข้าถึงได้"ดู
หานซานเฉียนเคยคุยเรื่องนี้กับหานลี่แล้ว ดังนั้นเมื่อเหยียนจุนสงสัยเรื่องนี้ หานซานเฉียนจึงเล่าความกังวลของหานลี่ให้เขาฟังเหยียนจุนหัวเราะอย่างตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งนี้ เหตุผลที่หานลี่ไม่ฆ่าหานซานเฉียนเพียงเพราะเขากลัวกรรมตามสนอง?“คุณนี่โง่จริง ๆ เขาสามารถเป็นตระกูลแรกในเขตจีนของอเมริกาได้ คุณคิดว่าเขาจะทำกรรมไว้น้อยอย่างงั้นเหรอ?” เหยียนจุนกล่าวหานซานเฉียนขมวดคิ้วและถามว่า "คุณปู่เหยียน คุณหมายความว่า ที่เขายังไม่ฆ่าผม ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้อย่างงั้นเหรอครับ?"เหยียนจุนยิ้มและพูดว่า "เด็กโง่ ถ้าจำเป็น เขาก็สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งคนในครอบครัวตัวเอง แล้วทำไมเขาถึงไม่ฆ่าคุณเพราะเหตุผลแค่นี้ล่ะ"แม้ว่าก่อนหน้านี้หานซานเฉียนจะรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกวันนี้ คนรวยจำนวนมากมีความคิดแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเข้าใจได้ว่าหานลี่อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นที่ถืออะไรพวกนี้แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เหยียนจุนพูด หานซานเฉียนก็จะไม่คิดอะไรโง่ ๆ อีกต่อไป“หรือว่าผมจะมีค่าอะไรสำหรับเขา?" หานซานเฉียนถามอย่างสงสัย"ผมรู้จักหานลี่แค่ผิวเผินเท่านั้น หากเขาอยากได้อะไร
หานซานเฉียนหันไปและเห็นว่ามี่เฟยเอ๋อร์จงใจลดคอเสื้อลงมาลึกมาก สำหรับผู้ชายนี่เป็นวิธีการยั่วยวนที่ตรงที่สุด น่าเสียดายที่เฟยเอ๋อร์ได้พบกับบุรุษเหล็ก ผู้สามารถเมินความงามอันน่าทึ่งของฉี๋อีหยุนได้ได้"เหอะ เหอะ" หานซานเฉียนทิ้งไว้คำสองคำก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนมี่เฟยเอ๋อร์ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่างเปล่าราวกับถูกฟ้าผ่า เธอไม่เพียงแต่ละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่เธอยังขายร่างกายของเธอด้วย แต่หานซานเฉียนกลับตอบมาแค่ เหอะ เหอะ สองคำนี้เท่านั้น!คำสองคำนี้เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและดูถูก ซึ่งทำให้มี่เฟยเอ๋อร์รู้สึกอับอายอย่างมาก"ฉันขอความช่วยเหลือจากคุณขนาดนี้แล้ว แต่คุณยังกล้าปฏิเสธฉัน คุณมีสิทธิ์อะไรถึงทำแบบนี้!" มี่เฟยเอ๋อร์พูดพร้อมกัดฟัน ราวกับมั่นใจว่า ขอแค่เธอเอ่ยขอ หานซานเฉียนจะต้องยอมช่วยเธออย่างแน่นอน เมื่อกลับมาบ้าน ฉี๋อีหยุนกำลังดูทีวีบนโซฟาในห้องนั่งเล่น ขาของเธอม้วนงอ และเธอไม่ได้แสดงด้านที่เซ็กซี่ของเธอมากนัก ตอนนี้เธอติดนิสัยชอบรอเสียงเปิดประตูไปแล้ว ต้องรอให้หานซานเฉียนกลับมาบ้านก่อน เธอถึงจะยอมเข้าห้องไปพักผ่อนบางครั้งฉี๋อีหยุนก็กลัวมากว่าเรื่องนี้จะจบลงกะทันหัน เพราะเธอติด
มี่เฟยเอ๋อร์รับไม่ได้ที่ถูกหานซานเฉียนเมินใส่ และไม่สนใจการยั่วยวนของเธอ จึงมาหาหานซานเฉียนเพื่อถามหาเหตุผล แต่เธอไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับฉี๋อีหยุนที่พลังรุนแรงกว่าในชีวิตของฉี๋อีหยุน เธอเป็นคนอ่อนน้อมเกือบตลอดเวลา อย่างน้อยเธอก็รู้สึกแบบนั้นกับคนนอก แต่นิสัยที่แท้จริงมีอารมณ์ที่รุนแรงเช่นกัน เพราะอย่างไรเธอก็เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย แล้วเธอจะไม่อารมณ์ร้ายเลยสักนิดได้อย่างไร?ที่เธอไม่ได้ระเบิดอารมณ์ เป็นเพราะยังอยู่ในขีดจำกัดที่เธอทนไหวแต่ตอนนี้สำหรับฉี๋อีหยุน ขีดจำกัดของเธอก็คือหานซานเฉียน มี่เฟยเอ๋อร์กล้ารบกวนเวลาที่เธอได้อยู่กับหานซานเฉียน นั่นจึงทำให้เธอโกรธมาก“เอะอะโวยวายอะไรนักหนา?” ฉี๋อีหยุนถามมี่เฟยเอ๋อร์เสียงแข็งมี่เฟยเอ๋อร์ปิดหน้าด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย เพราะเธอสัมผัสความเป็นลูกผู้ดีได้ผ่านสายตาฉี๋อีหยุน ความหยิ่งผยองนั้นทำให้มี่เฟยเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวเธอสามารถแสดงความเหนือกว่าต่อหน้าผู้คนในระดับเดียวกันได้ แต่เมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนที่ร่ำรวยกว่าเธอ มี่เฟยเอ๋อร์ก็จะรู้สึกด้อยกว่าไปโดยปริยาย นี่คือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมีนิสัยชอบเอาเปรียบ เธอไม่ต้องการแสดงปมด้อยของเธอต่อ
ฉี๋อีหยุนทำอาหารหลากหลาย และแตกต่างกันไปทุกวันให้หานซานเฉียน ดังนั้นการไปตลาดซื้อผักทุกเช้าจึงเป็นกิจวัตรประจำวันสำหรับเธอ ทางจากบ้านไปตลาด จะต้องเดินผ่านตรอกเล็ก ๆ ในวันคี่จะมีคนเยอะแยะมากมาย บางวันก็มีแม่ค้ามาตั้งแพงลอยขายของ แต่ในวันคู่นั้นแทบไม่มีคนเลยฉี๋อีหยุนไปตลาดซื้อผักตามปกติ และไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรเมื่อเดินผ่านตรอกซอกซอยที่เงียบสงัด จนกระทั่งเมื่อมีผู้ชายหลายคนเดินเข้ามาขวางทางเธอ ฉี๋อีหยุนถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ“พวกนายจะทำอะไร?” ฉี๋อีหยุนถามนิ่ง ๆหัวโจกเป็นชายหัวเกรียน และเขาคือเฉิงเผิงคนที่ตามจีบมี่เฟยเอ๋อร์“สาวแว่น เธอไม่มีตาจริง ๆ รึไง ถึงได้กล้ารุกรานผู้หญิงของฉัน” เฉิงเผิงพูดพร้อมกับเยาะเย้ย“มี่เฟยเอ๋อร์คือผู้หญิงของนายเหรอ?” ฉี๋อีหยุนยิ้มเบา ๆสีหน้าของเฉิงเผิงมีความตื่นตระหนก มี่เฟยเอ๋อร์เตือนเขาแล้วว่าอย่าเปิดเผย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับเดาได้ทันที“ในเมื่อกล้าทำแล้วจะต้องกลัวอะไร?” ฉี๋อีหยุนพูดนิ่ง ๆเฉิงเผิงเลิกคิ้วและพูดว่า "ฉันน่ะเหรอกลัวผู้หญิง อย่ามาล้อเล่น ใช่ ผู้หญิงของฉันคือมี่เฟยเอ๋อร์ แล้วไงล่ะ เธอขอให้ฉันสั่งสอนบทเรียน และทำให้เธอคุกเข่าข
เฉิงเผิงไม่เข้าใจความหมายที่ฉี๋อีหยุนพูด แต่เมื่อตงฮ้าวเดินเข้าไปหาฉี๋อีหยุนเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที“คนสวย คุณมีแฟนแล้วเหรอ?” เฉิงเผิงถามอย่างไม่ค่อยพอใจตงฮ้าวหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ฉี๋อีหยุน เขาก้มตัวลงและพูดว่า "คุณหนู คุณอยากจัดการกับขยะพวกนี้ยังไงดีครับ?"“สอนบทเรียนให้สักหน่อยก็พอ” ฉี๋อีหยุนพูดนิ่ง ๆคุณหนู ?สอนบทเรียนให้สักหน่อยก็พอ?เฉิงเผิงชำเลืองมองมี่เฟยเอ๋อร์อย่างไม่รู้ตัว นี่เธอกำลังมีเรื่องกับใครอยู่กัน ดูแล้วไม่เหมือนคนธรรมดาเลยสักนิด ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มีบอดี้การ์ดแบบนี้มี่เฟยเอ๋อร์รู้สึกสับสนเล็กน้อย ในความคิดของเธอ ฉี๋อีหยุนเป็นเพียงหญิงสาวที่โง่เขลาที่ถูกหานซานเฉียนหลอกเท่านั้น ทำไมจู่ ๆ เธอถึงกลายเป็นคุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวยได้อย่างไร แถมยังมีบอดี้การ์ดอีกด้วย“คนสวย คุณประเมินพวกเราต่ำไปหรือเปล่า คนเพียงคนเดียว คิดจะกล้าสู้กับพวกเรางั้นเหรอ?” ถึงแม้ว่าเฉิงเผิงตระหนักว่าตัวตนของฉี๋อีหยุนนั้นไม่ธรรมดา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจตงฮ้าว ในความคิดของเขา ยิ่งมีคนเยอะก็ยิ่งแข็งแกร่ง เขาไม่เชื่อว่าคนตั้งเยอะแยะจะเอาชนะตงฮ้าวไม่ได้ตงฮ้าวยิ้มเยาะ ขยะเหล่านี้ไม่คุ้มค่ากับการที
หยางเหมิงมองไปที่มี่เฟยเอ๋อร์ที่เหงื่อออกเต็มตัวและหน้าตาตื่นตระหนก ก่อนจะถามเธอว่า "พี่เฟยเออร์ พี่เป็นอะไรไป หรือว่าพี่จงไม่ยอมเหรอคะ?"มี่เฟยเอ๋อร์หอบหนัก พูดไม่ออกเห็นแบบนั้นหยางเหมิงจึงพูดต่อ “พี่เฟยเอ๋อร์ ฉัน... ฉันจะลองหาทางช่วยพี่ดู"ถ้าไม่ถึงที่สุด หยางเหมิงก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ เพราะเธอรู้ว่ามี่เฟยเอ๋อร์ทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้า เพราะไม่อยากขอความช่วยเหลือจากใคร แต่เธอไม่อยากให้มี่เฟยเอ๋อร์ถูกไล่ออก และตอนนี้คนที่สามารถช่วยเธอได้ มีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้น "หยางเหมิง บอกฉันมาสิว่าเธอกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่" มี่เฟยเอ๋อร์ถามหยางเหมิงหลังหายใจคล่องขึ้นหยางเหมิงตกใจ เรื่องที่เธอปิดบังมี่เฟยเอ๋อร์มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นก็คือตัวตนของหานซานเฉียน อีกอย่างหานซานเฉียนขอร้องเธอไว้ว่าห้ามบอกใครเป็นอันขาด เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหยางเหมิง มี่เฟยเอ๋อร์ที่รู้จักนิสัยของเธอดี ก็รู้ทันทีว่าหยางเหมิงปกบิดบางอย่างกับเธออยู่ “ถ้าเธอไม่บอกฉันอีก ความเป็นพี่น้องของเราก็จบลงวันนี้” มี่เฟยเอ๋อร์ขู่หยางเหมิงลนลานทันที เธอเป็นพี่น้องกับมี่เฟยเอ๋อร์มาหลายปีแล้ว และเธอไม่ต้องการให้ค
หยางเหมิงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่างเปล่า ตั้งแต่วันแรกที่พวกเธอได้รู้จักหานซานเฉียน ทัศนคติของมี่เฟยเอ๋อร์ที่มีต่อหานซานเฉียนนั้นแย่มาก เธอไม่ได้มองเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ และสิ่งนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าเธอรู้จักตัวตนของหานซานเฉียนเลยด้วยซ้ำแต่ตอนนี้มี่เฟยเอ๋อร์กลับโทษว่าเป็นความผิดเธอที่ปิดบังเรื่องนี้แม้ว่าเธอจะไม่ได้ปกปิดเรื่องนี้ แล้วมันจะเปลี่ยนแปลงความจริงที่มี่เฟยเอ๋อร์ดูถูกเหยียดหยามหานซานเฉียนได้เหรอ?“พี่เฟยเอ๋อร์ ฉันไม่รู้จักตัวตนของพี่หานตั้งแต่วันแรก แต่พี่ดูถูกถากถางเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ” หยางเหมิงพูดนิ่ง ๆ"แต่ถ้าเธอบอกฉันเร็วกว่านี้ ฉันก็มีโอกาสที่จะได้ไถ่บาป และเรื่องมันก็คงจะไม่ได้เลยเถิดมาถึงขนาดนี้" มี่เฟยเอ๋อร์มองไปที่หยางเหมิงอย่างดุร้าย ไม่รู้สึกได้คิดว่าเป็นความผิดของตัวเองเลยสักนิด แต่เป็นเพราะหยางเหมิงจงใจปิดบังตัวตนของหานซานเฉียน และทำให้เธอจมอยู่กับการเข้าใจผิดหยางเหมิงยิ้มเบา ๆ เธอปฏิบัติต่อมี่เฟยเอ๋อร์เหมือนพี่สาวแท้ ๆ ของเธอเสมอ ดังนั้นบางครั้งที่ต้องเผชิญกับความเอาแต่ใจของมี่เฟยเอ๋อร์ เธอก็เลือกที่จะอดทน แต่ในเรื่องนี้หยางเหมิงทนไม่ไหวแล้ว เธอไม่