หานซานเฉียนพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อเขาออกมาจากห้อง ฉี๋อีหยุนก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสีหน้าของเขาไม่ปกติ“คุณเป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่า?” ฉี๋อีหยุนเดินไปด้านข้างและถามอย่างเป็นห่วงหานซานเฉียนส่ายหัว หลังจากอาการปวดหัวหายไป สภาพร่างกายของเขาก็ไม่มีความผิดปกติอื่น แต่แค่รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยเท่านั้น เขาจึงตอบไปว่า "ไม่ได้เป็นอะไร เมื่อคืนผมหลับไม่ค่อยสนิทน่ะ"“ฉันรู้ว่าคุณอยู่ภายใต้ความกดดัน แต่คุณก็ควรดูแลร่างกายตัวเองด้วย ถ้าคุณเป็นอะไร ก็จบเห่กันพอดี" ฉี๋อีหยุนเตือน“งั้นต่อไปคุณก็อย่าเผลอวางชุดชั้นในไว้ในห้องน้ำอีกล่ะ ไม่อย่างงั้นร่างกายของผมจะพังก่อนเวลาอันควร” หานซานเฉียนพูดติดตลกด้วยรอยยิ้มฉี๋อีหยุนไม่ได้แสดงความเขินอายใด ๆ เพราะเธอทำไปโดยตั้งใจ ดังนั้นเธอจึงคิดไว้อยู่แล้วว่าจะถูกหานซานเฉียนจะดูออก "สวยไหมล่ะ? ทุกครั้งที่คุณเข้าห้องน้ำ คุณคงไม่จ้องชุดชั้นในของฉันจนไม่กระพริบตาหรอกนะ”หานซานเฉียนไม่คิดมาก่อนว่าฉี๋อีหยุนจะมีปฎิกิริยาแบบนี้ ยิ่งเธอทำตัวเหมือนไม่แคร์มากเท่าไหร่ หานซานเฉียนก็ยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนมากขึ้นเท่านั้น เขาพูดขึ้นว่า "ไม่... ไม่หนิ มันก็แค่ชิ้นผ้า
แต่ตอนนี้ตงฮ้าวต้องเปลี่ยนใจ และเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะฆ่าหานซานเฉียน เพราะกลัวว่าจะตัวเองจะตายด้วยน้ำมือของหานซานเฉียนซะเองหลังจากที่ฉี๋อีหยุนตกตะลึงอยู่สักพัก รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ เป็นเรื่องดีที่หานซานเฉียนแข็งแกร่งขึ้น ข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่สามารถหยิบออกมาพูดได้นั่นก็คือ ยิ่งหานซานเฉียนแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งหลงใหลเขามากขึ้นเท่านั้น"ไม่มีอะไรแล้ว นายกลับไปได้" ฉี๋อีหยุนกล่าวตงฮ้าวเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อฉี๋อีหยุน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหานซานเฉียนที่ไม่อาจควบคุมได้แบบนี้ ตงฮ้าวจึงต้องเตือนฉี๋อีหยุน "คุณหนูครับ การที่หานซานเฉียนแข็งแกร่งขึ้นมันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเรา หากเขาได้รับประโยชน์แล้วถีบหัวส่งพวกเราจะทำยังไง คุณหนูต้องคิดหาวิธีควบคุมหานซานเฉียนด้วยนะครับ”“ถึงแม้ว่าชาตินี้ฉันจะไม่ใช่ผู้หญิงของเขา แต่เขาก็มีวันที่จะใจร้ายกับฉัน ทำไมฉันต้องกลับมากันนะ?”ฉี๋อีหยุนถามด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยตงฮ้าวส่ายหัวด้วยความสับสน เขาไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมฉี๋อีหยุนที่จากไปแล้ว ถึงได้กลับมาหาหานซานเฉียนอีกครั้ง"ฉันต้องการให้เขารู้สึกผิดต่อฉัน แม้เพียงเล็กน้อยก็เพี
ในเวลาเที่ยงวัน แสดงแดดแผดเผา คนแก่และคนหนุ่มนั่งหลบแดดที่ประตู มือของพวกเขาเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก และไม่ได้ล้างออกดูเหมือนชาวบ้านทั่วไป"ผมได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้ว" เหยียนจุนยิ้มให้หานซานเฉียนด้วยใบหน้าที่ใจดีใบหน้านี้เคยเป็นวีรบุรุษ แม้ว่าตอนนี้จะเต็มไปด้วยริ้วรอย แต่สำหรับหานซานเฉียนแล้วมันก็ยังคงเป็นใบหน้าเดียวในโลกที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจ"คุณปู่เหยียน คุณไม่คิดว่ามันแปลกเหรอครับที่ผมสามารถน็อกตันฉิงได้ด้วยหมัดเดียว" หานซานเฉียนกล่าวเหยียนจุนพยักหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้และกล่าวว่า "ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของตันฉิง ดังนั้นเมื่อผมได้ยินข่าวนี้ ผมจึงรู้สึกประหลาดใจมาก""คุณปู่เหยียน ถ้าผมบอกว่าจู่ ๆ ผมก็มีพลังมหาศาลคุณจะเชื่อไหม" หานซานเฉียนกล่าวสีหน้าของเหยียนจุนกลายเป็นเคร่งเครียดในทันที ก่อนจะพูดว่า "ช่วงนี้มีเรื่องแปลก ๆ อะไรเกิดขึ้นกับคุณหรือเปล่า?"หากถามถึงเรื่องแปลก ๆ จะมีก็แต่อาการปวดหัวทุกคืนอย่างไม่มีเหตุผล แต่เมื่อหานซานเฉียนบอกเหยียนจุนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความสงสัยบนใบหน้าของเหยียนจุนก็รุนแรงขึ้น“ปวดหัวเหรอ?” เหยียนจุนส่าย
“คุณปู่เหยียน ผมสงสัยจริง ๆ ว่าคุณกำลังโม้กับผมหรือเปล่า หรือว่าพวกเขาจะเป็นเทพเจ้ากัน” หานซานเฉียนพูดพร้อมกับเบะปาก“พวกเขาไม่ใช่เทพ ไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายภูเขาและทะเลเหมือนในตำนาน แต่พวกเขาก็แตกต่างจากคนทั่วไป ประโยคนี้ถ้าคุณอยากรู้ความจริงก็ต้องลองตรวจสอบดูด้วยตัวเอง" เหยียนจุนกล่าว"ก็ได้ครับ วันนี้ที่มานอกจากช่วยคุณทำสวนแล้ว ก็ไม่ได้อะไรเลย" หานซานเฉียนผายมือที่เปื้อนโคลนด้วยสีหน้าหมดหนทางเหยียนจุนตบหน้าผากหานซานเฉียนแล้วพูดว่า "พักพอแล้ว รีบไปทำงานต่อได้แล้ว"แม้ว่าหานซานเฉียนจะแสร้งทำเป็นไม่เต็มใจ แต่เขาก็ไม่ได้หย่อนยานแม้แต่น้อยเมื่อทำงาน ทั้งสองคนไม่กินข้าวกลางวัน จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน หานซานเฉียนเข้าไปที่ครัวเพื่อทำอาหารเย็นเหยียนจุนไม่มีพฤติกรรมที่ไม่ดีใด ๆ เขาไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า หรือเล่นกาม เรียกได้ว่าเขาเป็นนักพรตตัวจริง ก่อนที่เขาจะตาย สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือความปลอดภัยของตระกูลหาน แต่ตอนนี้เขามีความปรารถนามากขึ้น และนั่นก็คือหานซานเฉียนดูเหมือนว่าหานซานเฉียนจะค่อย ๆ ช่วยเขาไขชั้นลึกลับของระดับที่เหยียนจุนสงสัยมาตลอด แต่ไม่มีทางเข้าถึงได้"ดู
หานซานเฉียนเคยคุยเรื่องนี้กับหานลี่แล้ว ดังนั้นเมื่อเหยียนจุนสงสัยเรื่องนี้ หานซานเฉียนจึงเล่าความกังวลของหานลี่ให้เขาฟังเหยียนจุนหัวเราะอย่างตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งนี้ เหตุผลที่หานลี่ไม่ฆ่าหานซานเฉียนเพียงเพราะเขากลัวกรรมตามสนอง?“คุณนี่โง่จริง ๆ เขาสามารถเป็นตระกูลแรกในเขตจีนของอเมริกาได้ คุณคิดว่าเขาจะทำกรรมไว้น้อยอย่างงั้นเหรอ?” เหยียนจุนกล่าวหานซานเฉียนขมวดคิ้วและถามว่า "คุณปู่เหยียน คุณหมายความว่า ที่เขายังไม่ฆ่าผม ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้อย่างงั้นเหรอครับ?"เหยียนจุนยิ้มและพูดว่า "เด็กโง่ ถ้าจำเป็น เขาก็สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งคนในครอบครัวตัวเอง แล้วทำไมเขาถึงไม่ฆ่าคุณเพราะเหตุผลแค่นี้ล่ะ"แม้ว่าก่อนหน้านี้หานซานเฉียนจะรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกวันนี้ คนรวยจำนวนมากมีความคิดแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเข้าใจได้ว่าหานลี่อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นที่ถืออะไรพวกนี้แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เหยียนจุนพูด หานซานเฉียนก็จะไม่คิดอะไรโง่ ๆ อีกต่อไป“หรือว่าผมจะมีค่าอะไรสำหรับเขา?" หานซานเฉียนถามอย่างสงสัย"ผมรู้จักหานลี่แค่ผิวเผินเท่านั้น หากเขาอยากได้อะไร
หานซานเฉียนหันไปและเห็นว่ามี่เฟยเอ๋อร์จงใจลดคอเสื้อลงมาลึกมาก สำหรับผู้ชายนี่เป็นวิธีการยั่วยวนที่ตรงที่สุด น่าเสียดายที่เฟยเอ๋อร์ได้พบกับบุรุษเหล็ก ผู้สามารถเมินความงามอันน่าทึ่งของฉี๋อีหยุนได้ได้"เหอะ เหอะ" หานซานเฉียนทิ้งไว้คำสองคำก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนมี่เฟยเอ๋อร์ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่างเปล่าราวกับถูกฟ้าผ่า เธอไม่เพียงแต่ละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่เธอยังขายร่างกายของเธอด้วย แต่หานซานเฉียนกลับตอบมาแค่ เหอะ เหอะ สองคำนี้เท่านั้น!คำสองคำนี้เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและดูถูก ซึ่งทำให้มี่เฟยเอ๋อร์รู้สึกอับอายอย่างมาก"ฉันขอความช่วยเหลือจากคุณขนาดนี้แล้ว แต่คุณยังกล้าปฏิเสธฉัน คุณมีสิทธิ์อะไรถึงทำแบบนี้!" มี่เฟยเอ๋อร์พูดพร้อมกัดฟัน ราวกับมั่นใจว่า ขอแค่เธอเอ่ยขอ หานซานเฉียนจะต้องยอมช่วยเธออย่างแน่นอน เมื่อกลับมาบ้าน ฉี๋อีหยุนกำลังดูทีวีบนโซฟาในห้องนั่งเล่น ขาของเธอม้วนงอ และเธอไม่ได้แสดงด้านที่เซ็กซี่ของเธอมากนัก ตอนนี้เธอติดนิสัยชอบรอเสียงเปิดประตูไปแล้ว ต้องรอให้หานซานเฉียนกลับมาบ้านก่อน เธอถึงจะยอมเข้าห้องไปพักผ่อนบางครั้งฉี๋อีหยุนก็กลัวมากว่าเรื่องนี้จะจบลงกะทันหัน เพราะเธอติด
มี่เฟยเอ๋อร์รับไม่ได้ที่ถูกหานซานเฉียนเมินใส่ และไม่สนใจการยั่วยวนของเธอ จึงมาหาหานซานเฉียนเพื่อถามหาเหตุผล แต่เธอไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับฉี๋อีหยุนที่พลังรุนแรงกว่าในชีวิตของฉี๋อีหยุน เธอเป็นคนอ่อนน้อมเกือบตลอดเวลา อย่างน้อยเธอก็รู้สึกแบบนั้นกับคนนอก แต่นิสัยที่แท้จริงมีอารมณ์ที่รุนแรงเช่นกัน เพราะอย่างไรเธอก็เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย แล้วเธอจะไม่อารมณ์ร้ายเลยสักนิดได้อย่างไร?ที่เธอไม่ได้ระเบิดอารมณ์ เป็นเพราะยังอยู่ในขีดจำกัดที่เธอทนไหวแต่ตอนนี้สำหรับฉี๋อีหยุน ขีดจำกัดของเธอก็คือหานซานเฉียน มี่เฟยเอ๋อร์กล้ารบกวนเวลาที่เธอได้อยู่กับหานซานเฉียน นั่นจึงทำให้เธอโกรธมาก“เอะอะโวยวายอะไรนักหนา?” ฉี๋อีหยุนถามมี่เฟยเอ๋อร์เสียงแข็งมี่เฟยเอ๋อร์ปิดหน้าด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย เพราะเธอสัมผัสความเป็นลูกผู้ดีได้ผ่านสายตาฉี๋อีหยุน ความหยิ่งผยองนั้นทำให้มี่เฟยเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวเธอสามารถแสดงความเหนือกว่าต่อหน้าผู้คนในระดับเดียวกันได้ แต่เมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนที่ร่ำรวยกว่าเธอ มี่เฟยเอ๋อร์ก็จะรู้สึกด้อยกว่าไปโดยปริยาย นี่คือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมีนิสัยชอบเอาเปรียบ เธอไม่ต้องการแสดงปมด้อยของเธอต่อ
ฉี๋อีหยุนทำอาหารหลากหลาย และแตกต่างกันไปทุกวันให้หานซานเฉียน ดังนั้นการไปตลาดซื้อผักทุกเช้าจึงเป็นกิจวัตรประจำวันสำหรับเธอ ทางจากบ้านไปตลาด จะต้องเดินผ่านตรอกเล็ก ๆ ในวันคี่จะมีคนเยอะแยะมากมาย บางวันก็มีแม่ค้ามาตั้งแพงลอยขายของ แต่ในวันคู่นั้นแทบไม่มีคนเลยฉี๋อีหยุนไปตลาดซื้อผักตามปกติ และไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรเมื่อเดินผ่านตรอกซอกซอยที่เงียบสงัด จนกระทั่งเมื่อมีผู้ชายหลายคนเดินเข้ามาขวางทางเธอ ฉี๋อีหยุนถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ“พวกนายจะทำอะไร?” ฉี๋อีหยุนถามนิ่ง ๆหัวโจกเป็นชายหัวเกรียน และเขาคือเฉิงเผิงคนที่ตามจีบมี่เฟยเอ๋อร์“สาวแว่น เธอไม่มีตาจริง ๆ รึไง ถึงได้กล้ารุกรานผู้หญิงของฉัน” เฉิงเผิงพูดพร้อมกับเยาะเย้ย“มี่เฟยเอ๋อร์คือผู้หญิงของนายเหรอ?” ฉี๋อีหยุนยิ้มเบา ๆสีหน้าของเฉิงเผิงมีความตื่นตระหนก มี่เฟยเอ๋อร์เตือนเขาแล้วว่าอย่าเปิดเผย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับเดาได้ทันที“ในเมื่อกล้าทำแล้วจะต้องกลัวอะไร?” ฉี๋อีหยุนพูดนิ่ง ๆเฉิงเผิงเลิกคิ้วและพูดว่า "ฉันน่ะเหรอกลัวผู้หญิง อย่ามาล้อเล่น ใช่ ผู้หญิงของฉันคือมี่เฟยเอ๋อร์ แล้วไงล่ะ เธอขอให้ฉันสั่งสอนบทเรียน และทำให้เธอคุกเข่าข