ในการแข่งขันชิงเงินรางวัล ผู้ใดที่มีความแข็งแกร่งก็สามารถขึ้นเวทีได้ แต่ที่ยังทำให้เตาสือเอ้อร์ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้ แสดงว่าอีกฝ่ายมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่เตาสือเอ้อร์ไม่สามารถรับมือได้ จุดนี้หานซานเฉียนสามารถเดาได้โดยไม่ต้องถามสำหรับคนทั่วไป พลังของเตาสือเอ้อร์นั้นถือว่าทรงพลังมากแล้ว หากอีกฝ่ายสามารถหาคนทรงพลังมากกว่าเตาสือเอ้อร์มาได้ แสดงว่ามีต้องมีแบล็คที่ไม่ธรรมดา"ไปสนามมวยชิงหลงกัน" หานซานเฉียนพูด เดิมทีที่เขามาสนามมวยวันนี้เพราะอยากประลองกับเตาสือเอ้อร์เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งอีกครั้ง ตอนนี้เขามีคู่ต่อสู้ที่ดีกว่า ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เตาสือเอ้อร์เป็นเป้าแล้ว"พี่ซานเฉียน อีกฝ่ายแข็งแกร่งมากจริง ๆ นะครับ ถึงเราจะไปที่นั่นก็ไม่ช่วยอะไร" เตาสือเอ้อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ยังไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง"เตาสือเอ้อร์ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เข้าใจผิดคิดว่าหานซานเฉียนต้องการให้เขาไปกู้หน้าคืน ดังนั้นเขาจึงต้องกัดฟันพูดว่า "พี่ซานเฉียน ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด"หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร เขากำลังมองหาโอกาสที่จะทดสอบตัวเอง แล้วจะปล่อยให้โอกาสนี้ไปตกที่เตาสือเอ้อ
หลังจากที่การแข่งขันจบลง จู่ ๆ สปอตไลต์ก็ส่องไปที่เตาสือเอ้อร์ ขณะที่ผู้ชมและเตาสือเอ้อร์ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากลำโพง"สนามมวยชิงหลง ยินดีต้อนรับเตาสือเอ้อร์อย่างอบอุ่น ทุกคนปรบมือ"สำหรับผู้คนที่คุ้นเคยกับสนามมวยใต้ดินแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเตาสือเอ้อร์ เพราะเขาเคยเป็นแชมป์มวยใต้ดินของหยุนเฉิงที่มีแนวทางชนะที่น่าทึ่ง และผู้ชมส่วนใหญ่เป็นขาประจำของสนามมวยใต้ดินจึงพุ่งความสนใจไปที่เตาสือเอ้อร์ในทันทีขณะนั้นเอง เสียงของโจวหยางฝูก็ดังออกมาจากลำโพงอีกครั้ง "หัวหน้าเตา วันนี้คุณมาที่นี่คงไม่ใช่เพื่อชมความสนุกหรอกใช่มั้ย ถ้าคุณอยากเข้าร่วมการแข่งขันชิงรางวัล ผมสามารถให้รางวัลคุณได้ เลื่อนแมตชิงแชมป์ให้เร็วขึ้น เพื่อสร้างความสนุกสนานกับผู้ชม คุณคิดว่ายังไง?”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ผู้ชมทั้งหมดก็เริ่มโห่ร้องตะโกนเรียกชื่อเตาสือเอ้อร์ ขอให้เขาขึ้นสังเวียน เห็นได้ชัดว่าโจวหยางฝูจงใจต้อนเป็ดเข้าคอกเมื่อเห็นว่าเตาสือเอ้อร์ยังคงไม่แยแส โจวหยางฝูก็พูดต่อ "หัวหน้าเตา คุณเคยเป็นแชมป์มวยใต้ดินที่มีสถิติการชนะสูงสุด ตอนนี้คุณคงไม่ได้กำลังกลัวอยู่หรอกนะ?""ก็ใช่แหละ คุณ
“พี่เตา พี่ซานเฉียนคิดจะทำอะไรน่ะ?” โจวป๋อถามเตาสือเออร์หลังจากที่เห็นหานซานเฉียนออกไปเตาสือเออร์ส่ายหัว เขาไม่เข้าใจว่าหานซานเฉียนต้องการทำอะไร ด้วยสถานะของเขา ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงไปชีวิตเลย ถึงจะไม่มีสนามมวยใต้ดินแล้ว มันก็ไม่มีผลกระทบอะไรกับเขาด้วยซ้ำ แต่ทำไมเขาถึงต้องขึ้นสังเวียนแทนตัวเองด้วย ?“หรือว่าพี่ซานเฉียนมีโอกาสเอาชนะตันฉิงได้?” โจวป๋อเดาเตาสือเออร์ปฏิเสธความเป็นไปได้นี้อย่างไม่ลังเล และพูดว่า "ฉันเพิ่งจะประลองฝีมือกับพี่ซานเฉียนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน แม้ว่าเขาจะพัฒนาขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้พัฒนาจนน่าตกใจอะไร ฉันเคยเห็นการเคลื่อนไหวของตันฉิง ความแข็งแกร่งของพี่ซานเฉียนเทียบกับเขาไม่ได้เลย"ตอนนั้นเอง หานซานเฉียนก็ก้าวขึ้นไปบนสังเวียนแล้ว และทุกคนต่างก็รู้สึกงุนงงกับการปรากฏตัวของเขาโจวหยางฝูประกาศสงครามกับเตาสือเออร์ แล้วเขาขึ้นมาบนสังเวียนทำไม?“หมอนี่กำลังจะทำอะไร? คงไม่ได้อยากจะท้าทายตันฉิงหรอกนะ?”"จะเล่นตลกหรือไง ร่างเล็ก ๆ แบบนั้นจะกล้าท้าทายตันฉิงได้ยังไง?"“ในความคิดของฉัน คงเป็นเพราะว่าเตาสือเออร์ไม่กล้าขึ้นสังเวียน ถึงได้ส่งเขาขึ้นมาตายแทนน่ะสิ”ผู้ชมจากทั่ว
นายอยากตายยังไง!ห้าคำง่าย ๆ แต่ทำให้อุณหภูมิของบรรยากาศสูงขึ้นอีกครั้งผู้ชมทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกันมากแต่เมื่อตันฉิงยกมือขึ้นมา ทั้งสนามมวยก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เห็นได้เลยว่าการควบคุมของตันฉิงนั้นแข็งแกร่งเพียงใด"ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเชียร์นายเลยนะ ขึ้นชกแทนสือเออร์ นายคิดถึงผลที่ตามมาดีแล้วหรือยัง?" หลังจากตันฉิงพูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่เตาสือเออร์บนอัฒจันทร์ และพูดต่อว่า "นายมีตำแหน่งเป็นถึงแชมป์มวยใต้ดิน แต่กลับทำตัวเป็นเต่าหดหัวในกระดอง ทำไม กลัวตายหรือไง?”“ฉันออกหน้าก็พอแล้ว” หานซานเฉียนกล่าวตันฉิงหัวเราะเสียงดัง และผู้ชมบนอัฒจันทร์ก็หัวเราะราวกับว่าพวกเขาได้ยินเรื่องตลก "ผู้ชายคนนี้บ้ามากจริง ๆ เขาไม่สนใจตันฉิงเลยสักนิด"“กล้าพูดกับตันฉิงแบบนั้น ตันฉิงไม่ปล่อยเขาไปแน่ ยังไงผู้ชายคนนี้ก็ต้องตาย”“ไม่รู้ว่าเขาจะตายด้วยน้ำมือของตันฉิงยังไง ด้วยวิธีการของตันฉิง เขาจะถูกทรมานจนตายแน่ ๆ”หลังจากที่ตันฉิงหัวเราะจนพอใจแล้ว เขาก็พูดกับหานซานเฉียนว่า "เศษขยะอย่างนาย ถึงฉันจะยอมให้นายต่อยฉันสักสิบที นายก็เอาชนะฉันไม่ได้อยู่ดี"หานซานเฉียนยกยิ้มมุมปาก เขาอาจไม่สามา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา และหลายคนก็ยังคงตกอยู่ในภวังค์เห็นเพียงตันฉิงที่ถูกต่อยลอยออกไปค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างไม่มั่นคง ก่อนจะกระอักเลือดออกมาราวกับน้ำพุ และล้มลงกับพื้นอีกครั้งอย่างไร้เรี่ยวแรงมีเพียงเสียงหายใจในสนามมวยอันเงียบสงบบนอัฒจันทร์ส่วนตัว โจวหยางฝูที่เพิ่งตื่นจากภวังค์กระโดดขึ้นจากโซฟา เดินไปที่กระจกกั้น และมองไปที่เวทีอย่างไม่เชื่อสายตาผู้ชายคนนี้…เขาสามารถน็อกตันฉิงด้วยหมัดเดียวได้อย่างไร!ความแข็งแกร่งอย่างตันฉิง เขาจะโดนน็อกได้อย่างไรไอ้หมอนั่นมันก็แค่ไก่อ่อนไม่ใช่หรือไงโจวหยางฝูเกาหัวล้านของตัวเองด้วยความตื่นตระหนก สนามมวยชิงหลงเฟื่องฟูได้เพราะตันฉิง แต่ตอนนี้ตันฉิงได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างเห็นได้ชัด หากไม่มีตันฉิง ชื่อเสียงของสนามมวยชิงหลงก็จะถูกทำลายลง!หลังจากความเงียบก็เกิดโกลาหลขึ้นบนเวทีมวย ทุกคนมองไปที่หานซานเฉียนด้วยสายตาไม่เชื่อ ทุกคนต่างก็สงสัยว่าตัวเองกำลังเห็นภาพหลอน ตันฉิงจะบินออกมาจากสังเวียนได้อย่างไร?คนที่ตายน่าจะเป็นเขาไม่ใช่เหรอ?"เกิดอะไรขึ้น! เขาน็อกตันฉิงได้ด้วยหมัดเดียวจริง ๆ เหรอ""พระเจ้า ฉันคงไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม ผู้ชายคน
ความดุเดือดของผู้ชมบนอัฒจันทร์นั้นสูงกว่าตอนที่ตันฉิงปรากฏตัวบนเวทีเสียอีก แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักชื่อของหานซานเฉียน แต่ทุกคนต่างก็ตะโกนว่า "แชมป์มวย" และดูเหมือนว่าหานซานเฉียนได้รับการยกย่องให้เป็นแชมป์มวยใต้ดินคนใหม่นี่คือโลกที่เคารพความแข็งแกร่ง สำหรับนักมวยดำใต้ดิน ผู้ชนะคือราชา พวกเขาจะไม่บูชาชื่อใครง่าย ๆ และถ้ามีผู้ที่แข็งแกร่งกว่า พวกเขาจะละทิ้งอดีตอย่างไม่ลังเลนี่ไม่ใช่การเปลี่ยนจุดยืนไปตามกระแส แต่เป็นเพียงการยอมรับและการแสวงหาผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้นบนอัฒจันทร์ส่วนตัว โจวหยางฝูตัวสั่นด้วยความโกรธ ในสายตาของเขา เตาสือเออร์ไม่มีทางกลับมาครองแชมป์มวยดำใต้ดินได้อีกในหยุนเฉิงอีกอย่าง การมีนักมวยที่แข็งแกร่งอย่างตันฉิง ทำให้เขาสามารถนั่งในตำแหน่งหัวหน้าสนามมวยอันดับหนึ่งได้อย่างมั่นคงแต่โจวหยางฝูไม่เคยคิดมาก่อนว่าตันฉิงจะถูกน็อกด้วยหมัดแบบนี้ เพิ่งจะได้รับเกียรตินี้ได้เแค่ไม่กี่วัน เขากลับถูกเด็กที่ไม่ได้ดูโดดเด่นอะไรน็อกได้ในหมัดเดียว ประกาศสงครามกับสนามมวยชิงหลงทั้งหมด หากหาคนมาสู้ไม่ได้ ชื่อเสียงของสนามมวยชิงหลงจะถูกทำลายแต่แม้แต่ตันฉิงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา โ
“รีบกลับไปเถอะ ฉันก็จะรีบกลับไปพักแล้วเหมือนกัน” หลังจากพูดจบ หานซานเฉียนก็ปลีกตัวเดินจากไปโจวป๋อถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะเดาผลลัพธ์เอาไว้อยู่แล้ว แต่ก็ยังอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้อยู่ดี"พี่เตา ผมว่าพี่ซานเฉียนทำให้คนเดาความคิดของเขาไม่ออกมากขึ้นเลย ๆ เลย ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมพี่ถึงยังติดตามเขาอยู่แบบนี้" โจวป๋อกล่าว“เขามีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เดี๋ยวนายก็จะค่อย ๆ ได้เห็นเอง ฉันไม่อาจรับประกันได้ว่าเขาจะให้อนาคตที่สดใสกับนาย แต่ฉันแน่ใจว่านายจะไม่เสียใจที่ติดตามเขา” เตาสือเออร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเมื่อหานซานเฉียนกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นฉี๋อีหยุนซึ่งอยู่ในชุดนอนผ้าไหมกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น นั่นทำให้เขาประหลาดใจ เพราะก่อนที่เขาจะออกไปข้างนอก เขารอให้ฉี๋อีหยุนกลับห้องไปนอนแล้วแท้ ๆ“คุณนอนไม่หลับเหรอ?” หานซานเฉียนถามฉี๋อีหยุนอย่างงงงวยฉี๋อีหยุนหลับไปแล้ว แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงหานซานเฉียนปิดประตูและออกไปข้างนอก เธอก็พลิกตัวไปมาบนเตียง ในเมื่อนอนไม่หลับ เธอจึงมานั่งรอหานซานเฉียนที่ห้องนั่งเล่นแทน“ฉันกลัวว่าคุณจะถูกทำร้ายอีกน่ะสิ และเผื่อต้องการให้ฉันออกไปช่วย” ฉี๋อีห
หานซานเฉียนพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อเขาออกมาจากห้อง ฉี๋อีหยุนก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสีหน้าของเขาไม่ปกติ“คุณเป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่า?” ฉี๋อีหยุนเดินไปด้านข้างและถามอย่างเป็นห่วงหานซานเฉียนส่ายหัว หลังจากอาการปวดหัวหายไป สภาพร่างกายของเขาก็ไม่มีความผิดปกติอื่น แต่แค่รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยเท่านั้น เขาจึงตอบไปว่า "ไม่ได้เป็นอะไร เมื่อคืนผมหลับไม่ค่อยสนิทน่ะ"“ฉันรู้ว่าคุณอยู่ภายใต้ความกดดัน แต่คุณก็ควรดูแลร่างกายตัวเองด้วย ถ้าคุณเป็นอะไร ก็จบเห่กันพอดี" ฉี๋อีหยุนเตือน“งั้นต่อไปคุณก็อย่าเผลอวางชุดชั้นในไว้ในห้องน้ำอีกล่ะ ไม่อย่างงั้นร่างกายของผมจะพังก่อนเวลาอันควร” หานซานเฉียนพูดติดตลกด้วยรอยยิ้มฉี๋อีหยุนไม่ได้แสดงความเขินอายใด ๆ เพราะเธอทำไปโดยตั้งใจ ดังนั้นเธอจึงคิดไว้อยู่แล้วว่าจะถูกหานซานเฉียนจะดูออก "สวยไหมล่ะ? ทุกครั้งที่คุณเข้าห้องน้ำ คุณคงไม่จ้องชุดชั้นในของฉันจนไม่กระพริบตาหรอกนะ”หานซานเฉียนไม่คิดมาก่อนว่าฉี๋อีหยุนจะมีปฎิกิริยาแบบนี้ ยิ่งเธอทำตัวเหมือนไม่แคร์มากเท่าไหร่ หานซานเฉียนก็ยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนมากขึ้นเท่านั้น เขาพูดขึ้นว่า "ไม่... ไม่หนิ มันก็แค่ชิ้นผ้า