"ไม่ทราบว่าคุณต้องการที่นั่งริมหน้าต่าง หรือที่ที่มีความเป็นส่วนตัวดีคะ" พนักงานถาม"ขอแบบเป็นส่วนตัวครับ" หานซานเฉียนกล่าว การพบกันระหว่างเขากับหานเหยียนไม่ควรให้หานลี่รู้ ไม่อย่างนั้นหานเหยียนอาจลำบากหานซานเฉียนคิดว่า การร่วมมือระหว่างเขากับหานเหยียนจะลึกซึ้งยิ่งขึ้นหลังจากการพบกันในวันนี้ ดังนั้นเขาจึงคิดเรื่องนี้แทนเธอ“ตามมาทางนี้ได้เลยค่ะ” พนักงานพาหานซานเฉียนไปยังที่นั่งด้านในหานซานเฉียนสั่งกาแฟอเมริกาโน่หนึ่งแก้วและมองดูเวลา เขาและหานเหยียนนัดกันตอนสิบเอ็ดโมง ด้วยนิสัยหยิ่งยโสของผู้หญิงคนนี้ เธอน่าจะมาตรงเวลาพอดี ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่รีบร้อนอะไรเขาเพลิดเพลินกับกาแฟ แม้ว่านี่จะไม่ใช่งานอดิเรกของหานซานเฉียน แต่ก็ดีที่ได้ลิ้มรสขมนี้บ้างหลังจากนั้นไม่นาน หานซานเฉียนก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายจากด้านนอก ราวกับว่าลูกค้าไม่พอใจกับบริการ และกำลังโต้เถียงกับพนักงานเพราะมันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าไปยุ่ง แต่สถานการณ์กลับแย่ลงเรื่อย ๆ แถมยังมีเสียงผู้หญิงร้องไห้ตามมา ทำให้หานซานเฉียนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหานซานเฉียนลุกข
พนักงานมองไปที่หานซานเฉียนด้วยความตกตะลึง ตอนแรกนึกว่าเขาจะถูกทุบตี แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคนตั้งมายมายขนาดนี้แต่กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยสักคน!สุดยอด!สุดยอดมากจริง ๆ!"นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าเก่งของพวกนาย?ฉันเห็นแล้ว แล้วยังไงล่ะ?" หานซานเฉียนยิ้มจาง ๆ อุ้งเท้าอ่อนแบบนี้น่าเบื่อจริง ๆ แต่เมื่อลองคิดดู เขาก็เก่งได้แค่กับพวกเด็กน้อยเหล่านี้เท่านั้น เพราะหากคู่ต่อสู้คือบอดี้การ์ดของหานลี่ล่ะก็ คนที่อยู่บนพื้นอาจต้องเป็นเขาเสียเอง"แก..." ชายหัวเหลืองกัดฟันมองไปที่หานซานเฉียนแล้วพูดว่า "แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้ามาตีฉัน เชื่อไหมว่าฉันสามารถทำให้แกหายไปจากโลกนี้ได้”"เป็นเด็กเป็นเล็ก ริอาจจะทำให้คนหายไปจากโลก ใครกันที่ให้ความกล้านี้กับนาย?" หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้า และยกตัวชายหัวเหลืองขึ้นกลางอากาศแม้ว่าชายหัวเหลืองจะถูกทุบตี แต่ก็ไม่มีร่องรอยความกลัวในดวงตา ราวกับว่าเขามีแบล็คที่แข็งแกร่งมาก และมั่นใจว่าจะมีโอกาสแก้แค้นหานซานเฉียนอย่างแน่นอน“ไอ้โง่ ลองแตะฉันอีกทีดูสิ?” ชายหัวเหลืองเย้ยหยันหานซานเฉียนชกหน้าชายหัวเหลืองอย่างไม่ลังเล ทำให้ชายหัวเหลืองกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ไม่รู้ว่าหานเหยียนมายืนอยู่ที่ประตูร้านกาแฟตั้งแต่เมื่อไหร่ หลังจากเห็นฉากทั้งหมดนี้ รอยยิ้มดูถูกก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอหานเหยียนเดินไปหาหานซานเฉียนแล้วพูดนิ่ง ๆ "นายมีความสามารถแข่งกับขยะเหล่านี้ได้เท่านั้นแหละ สิ่งนี้มันทำให้นายรู้สึกเหนือกว่าใช่ไหมล่ะ?""มันไม่ใช่ความรู้สึกที่เหนือกว่า แต่เป็นเรื่องดีที่ได้สอนบทเรียนให้พวกสวะ" หานซานเฉียนกล่าวหานเหยียนส่ายหัว เธอดูถูกพฤติกรรมของหานซานเฉียนเอามาก ๆ อาศัยความแข็งแกร่งรังแกผู้อ่อนแอกว่า มีแต่เศษสวะเท่านั้นที่จะทำเรื่องแบบนี้“นายไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ สวะยังไงก็คือสวะ”เมื่อหานซานเฉียนเห็นว่าพนักงานลบวิดีโอแล้ว ก็โยนโทรศัพท์กลับไปที่ชายหัวเหลืองก่อนจะพูดว่า "ไสหัวไปซะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก"คนพวกนั้นตะเกียกตะกายออกจากร้านกาแฟไปทันทีพนักงานขอบคุณหานซานเฉียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หานซานเฉียนเพียงแค่ยิ้มตอบเบา ๆ เมื่อกลับมานั่ง หานซานเฉียนก็ถามหานเหยียนว่า "จะดื่มอะไรไหม?""มีอะไรก็รีบพูดมา เวลาของฉันมีค่า และฉันไม่อยากเสียมันไปโดยเปล่าประโยชน์กับขยะอย่างนาย" หานเหยียนพูดเสียงเย็น เธอไม่ได้อยากออกมาพบหานซานเฉียน เพราะมันทำให้
“แค่การตายของหานเฟิง มันยังไม่มั่นคงพอที่เธอจะได้นั่งในตำแหน่งผู้นำตระกูลหานหรอกนะ” หานซานเฉียนกล่าว“หานเฟิงตายแล้ว ในบรรดาสมาชิกในครอบครัวสายตรงของตระกูลหานยังจะมีใครอีกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะแข่งขันกับฉัน? แกกล้าดียังไงมาบอกว่าฉันไม่สามารถนั่งบนตำแหน่งผู้นำตระกูลได้” หานเหยียนกล่าวอย่างเหยียดหยาม“ลูกชายของหานลี่ตายแล้ว หากเขาไม่ได้ตรวจสอบจนพบความจริง เขาจะยอมไหมล่ะ?” หานซานเฉียนหัวเราะ"ดังนั้นในความคิดของฉัน การตายของหานเฟิงมันเลยยังไม่เพียงพอ จะต้องให้หานลี่ตายด้วย"หานเหยียนขนลุกซู่ทันที หานลี่ตายอย่างงั้นเหรอ!เธอไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรกับหานลี่มาก่อนการฆ่าหานเฟิงเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดที่หานเหยียนสามารถทำได้แล้ว และทุกวันนี้เธอฝันร้ายเกือบทุกคืน เธอฝันว่าหานเฟิงจับขาของเธอ และร้องขอความเมตตาพอเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก หานเหยียนก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองมาที่เธอในความมืด ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่กล้าแม้แต่จะปิดไฟนอนในตอนกลางคืนหากเธอฆ่าหานลี่ เธอจะต้องถูกสิ่งนี้ทรมานจิตใจมากขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน"เป็นไปไม่ได้!" หานเหยียนส่ายหัวโดยไม่ลังเล และพูดว่า "นายจะให้
หลังจากหาเหยียนออกจากร้านกาแฟ หานซานเฉียนก็นั่งต่ออยู่พักหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ต้องตัดสินใจแล้ว แต่สำหรับหานซานเฉียนมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียหากหานเหยียนกล้าจัดการหานลี่ ก็หมายความว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมที่สุด และหานซานเฉียนจะไม่สามารถควบคุมคนแบบนี้ได้ในอนาคต เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกให้หานเหยียนเป็นหุ่นเชิด เมื่อไหร่ที่หานเหยียนมีอำนาจในมือ หานซานเฉียนจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่อันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย เธอควบคุมตระกูลหานในอเมริกา และการโจมตีที่เธอจะนำมาสู่หานซานเฉียนก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตเช่นกันสำหรับหานซานเฉียน หลังจากแก้ไขปัญหาที่เกิดจากหานลี่แล้ว แต่ปัญหาสำคัญยังไม่หมดไป เพราะผู้หญิงบ้าคนนี้ หลังจากที่เธอได้ครอบครองอำนาจของตระกูลหาน นั่นก็เป็นสิ่งที่หานซานเฉียนจะต้องหวาดกลัวเช่นกัน"บางทีเธออาจจะน่ากลัวกว่าหานลี่ด้วยซ้ำ" หานซานเฉียนส่ายหัวพูดกับตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ทันทีที่เขายืนขึ้น ชายหัวเหลืองก็เดินมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งท่าทางคุกคาม“พี่หลัว คนนี้แหละ” ชายหัวเหลืองชี้ไปที่หานซานเฉียนและพูดด้วยความโกรธหานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ ผู้ชายคนนี้ไม่รู้จักความตายสินะ ต
หลังจากได้ยินพนักงานถาม ผู้จัดการร้านก็ส่ายหัวทันที ในฐานะผู้จัดการร้าน สิ่งที่เธอให้ความสำคัญไม่ใช่ความปลอดภัยของหานซานเฉียน แต่คือจะสร้างปัญหาให้กับร้านกาแฟหรือไม่เมื่อครู่หานซานเฉียนช่วยพนักงานจัดการปัญหา แน่นอนว่าเธอรู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่อยากจะมีปัญหากับคนเหล่านี้การทำธุรกิจ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการพบเจอกับพวกนอกกฎหมายแบบนี้ เมื่อคุณขัดแย้งกับพวกเขา ก็อย่าได้คิดที่จะได้ทำธุรกิจในอนาคต หากมีอันธพาลสองสามคนนั่งอยู่ที่ประตู ใครจะกล้าเข้ามาบริโภคกันล่ะ?“ไม่เกี่ยวกับเรา อย่าเข้าไปยุ่งเชียว” ผู้จัดการร้านกล่าวพนักงานรู้สึกร้อนใจ จะไม่เกี่ยวกับเธอได้อย่างไร เรื่องทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากเธอต่างหาก"แต่เป็นเพราะฉัน เขาถึงได้มีปัญหากับคนพวกนี้" พนักงานกล่าว“นั่นเป็นเพราะเขาอยากอวดเก่งเอง เธอคิดว่าคนพวกนี้เป็นคนที่จะมีเรื่องด้วยได้งั้นเหรอ? ถ้าเธอทำให้พวกมันไม่พอใจ ทั้งคาเฟ่จะต้องเดือดร้อนแน่” ผู้จัดการร้านต่อว่าพนักงานกังวลมากจนน้ำตาคลอเบ้า เพราะตอนนี้หานซานเฉียนถูกต้อนจนมุมแล้วเดิมทีหานซานเฉียนคิดว่าเหล่าหลัวเป็นเพียงผู้ชายที่ใช้กล้ามเนื้อข่มขู่ผู้คนเท่านั้น แต่ยิ
“นี่...โดนคนตีจนร้าวจริง ๆ เหรอ?”“แรงมากจริง ๆ แค่หมัดเดียวก็ร้าวไปทั้งกำแพง”“คน ๆ นั้นเค้าเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้หรือเปล่า!”หลังจากที่พวกของเหล่าหลัวจากไป หานซานเฉียนก็ออกจากร้านไป พนักงานหลายคนยืนอยู่หน้ากำแพงที่หานซานเฉียนต่อยด้วยสีหน้าเหลือเชื่อผู้จัดการร้านสูดหายใจลึก ๆ เธอนึกว่าหานซานเฉียนจะถูกหักขาเสียอีก แต่หลังจากเห็นกำแพงนี้ เธอก็รู้ทันทีว่าเธอประเมินหานซานเฉียนต่ำไปมากแค่ไหน“ผู้จัดการ เขาคือมนุษย์หรือเปล่าคะ?” พนักงานถามผู้จัดการร้านอย่างตกตะลึงผู้จัดการร้านยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "เป็นมนุษย์หรือเปล่าฉันไม่รู้ แต่เขาแข็งแกร่งมากจริง ๆ อีกอย่างเขาคงมีสถานะในหยุนเฉิงไม่น้อย เธอนี่โชคดีจริง ๆ ที่ได้คนใหญ่คนโตแบบนี้ช่วยเอาไว้"หลังจากออกจากร้านกาแฟหานซานเฉียนก็ดูงุ่นง่าน หมัดเมื่อครู่นี้เกินขีดจำกัดกำลังของเขา และตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำมันได้อย่างไรคำถามผุดขึ้นในใจอย่างช่วยไม่ได้ หรืออาจไม่ใช่เพราะแรงของเขา แต่เป็นเพราะวิศวะกรทีก่อสร้างร้านกาแฟห่วยเกินไป ถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น?ก่อนที่เขาจะเดินออกจากถนนจื่อถง หานซานเฉียนก็หยุดอยู่ที่ทางเข้าโรงยิมเ
"ผมขอลองหน่อยได้ไหม?" หานซานเฉียนพูด เนื่องจากเขาต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเอง จึงต้องเลือกอันที่หนักที่สุดโค้ชอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แม้แต่เด็กฝึกและโค้ชผู้ควบคุมก็หัวเราะเมื่อได้ยินประโยคนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครอยากลองของ แต่ผลที่ตามมาก็คือ เขาเตะจนขาตัวเองหักและต้องไปนอนในโรงพยาบาลอยู่เป็นหลายเดือน"ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้ก็อยากไปนอนในโรงพยาบาลอีกคน"“ทำเป็นอวดเก่ง โดยไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นหรือตาย”"จะได้ดูอะไรสนุก ๆ อีกแล้ว พวกนายคิดว่ารถพยาบาลจะมาถึงภายในกี่นาที?"“ฉันพนันว่าอีกสิบนาที เขาจะเรียกรถพยาบาลทันที”“ฉันพนันว่าเขาจะกระโดดหนีไปด้วยเท้าเดียว พอไปถึงประตูถึงอดไม่ได้ที่จะเรียกรถพยาบาล”คนกลุ่มนั้นไม่สนใจว่าหานซานเฉียนจะได้ยินหรือไม่ พวกเค้าเริ่มพูดล้อกันทันทีหานซานเฉียนเดินไปที่ถุงทรายเหล็กและใช้มือขยับ มันหนักมาก และไม่สั่นเลย แต่นี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการ“ผมใช้ได้ไหม?” หานซานเฉียนหันไปถามโค้ชโค้ชแสดงท่าทีดูถูกอย่างรุนแรง ในเมื่อชายคนนี้ต้องการทำให้ตัวเองอับอาย งั้นก็ตามใจเขา“ได้สิ แต่หากได้รับบาดเจ็บอะไร โรงยิมของเราไม่รับผิดชอบนะครับ คุณคิดดูให้ดีก็แล้