เมื่อกลับมาถึงบ้าน หานซานเฉียนก็หยิบกล่องออกมาและศึกษามันเป็นเวลานาน แต่ไม่มีกลไกบนพื้นผิวที่สามารถเปิดออกได้ ราวกับว่ามันถูกปิดผนึก และดูเหมือนว่าวิธีเดียวที่จะรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน คือต้องใช้ความรุนแรงในการเปิดมันออกมาแต่วิธีนี้อาจทำให้สิ่งของภายได้รับความเสียหายได้ ทำให้หานซานเฉียนยังไม่กล้าลองใช้วิธีนั้นหานซานเฉียนนั่งบนเตียงด้วยความงุนงง ที่เขาไม่ฆ่าชิงอวิ๋นก็ถือว่าเมตตาแล้ว และการที่เขาอดทนสะกดเจตนาฆ่านี้ไว้ได้ แสดงให้เห็นว่าหานซานเฉียนควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีมากเพราะถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องไร้สาระของนักบวชเต๋าในตอนนั้น ชะตากรรมของเขาคงไม่กลายเป็นแบบนี้แม้ว่าความสำเร็จในปัจจุบันของหานซานเฉียนจะไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหานในเมืองเหยียนจิง แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่ในวัยเด็กที่เจ็บปวด หากเขามีทางเลือก หานซานเฉียนก็หวังว่าเขาจะได้มีความสุขมากกว่านี้ในวัยเด็กเขายกมือขึ้นลูบสร้อยคอ เป็นเพราะการหายตัวไปของปู่ของเขา การเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนโลกถึงได้เกิดขึ้นกับตระกูลหานในใจของหานซานเฉียน หานเทียนหยางเป็นคนเดียวที่นับเขาเป็นญาติในตระกูลหาน หากหานเทียนหยางยังไม่ตาย เขาจะพยายามค้นหาเ
มี่เฟยเอ๋อร์และหยางเหมิงกลับมาจากการทำโอที เมื่อพวกเธอเดินมาถึงชั้นล่างของอพาร์ทเมนต์ พวกเธอก็เห็นพวกของหานลี่สามคน สำหรับพวกเธอทั้งสอง ออร่าของหานลี่นั้นไม่ธรรมดา แค่แวบแรกก็รู้ได้ทันที โดยเฉพาะมี่เฟยเอ๋อร์ที่รู้สึกได้อย่างรุนแรง เนื่องจากเธอเคยเข้าร่วมงานเลี้ยงระดับไฮเอนด์หลายแห่ง และได้พบกับบุคคลระดับสูงมากมาย คนประเภทนี้มักมีออร่าที่แข็งแกร่งและสง่างามจากภายในสู่ภายนอก“พี่เฟยเอ๋อร์ คนเหล่านี้อาศัยที่นี่เหรอ ทำไมฉันไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อนเลย” หยางเหมิงถามอย่างสงสัยมี่เฟยเอ๋อร์ส่ายหัว ออร่าหานลี่นั้นแข็งแกร่งกว่าชายร่างใหญ่ทุกคนที่เธอเคยเห็นมา ซึ่งหมายความว่าตัวตนของคน ๆ นี้ไม่ธรรมดาแน่นอน แล้วเขาจะมาอาศัยอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?“เธอควรไปเช็คสายตาที่โรงพยาบาลได้แล้วนะ คนแบบนี้มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไง แต่พวกเราตามไปดูได้ว่าเขามาทำอะไรที่นี่ รีบไปเร็ว”เมื่อพวกของหานลี่เดินเข้าไปในลิฟต์ ขณะที่มันกำลังจะปิด มี่เฟยเอ๋อร์ก็เอื้อมมือไปกั้นเอาไว้ประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง เมื่อมี่เฟยเอ๋อร์และหยางเหมิงกำลังจะเข้าไปในลิฟต์ ตี้หยางก็ก้าวไปข้างหน้าและขวางทางเข้าประตูลิฟต์ทันที ความหมายนั้น
เมื่อหานเหยียนเห็นท่าทางสงบของหานซานเฉียน เธอก็ได้แต่หัวเราะในใจ ไอ้สารเลวนี่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นหรือตาย ยังกล้านั่งอยู่ได้ แม้แต่เธอก็ต้องยืนขึ้นทำความเคารพเมื่ออยู่ต่อหน้าหานลี่ แล้วนับประสาอะไรกับการเด็กที่ถูกทอดทิ้งจากสาขาย่อย?"ฉี๋อีหยุน ไม่นึกเลยนะว่าเราจะได้พบกันที่นี่" หานลี่พูดกับฉี๋อีหยุนด้วยใบหน้าเย็นชาฉี๋อีหยุนยืนขึ้นด้วยความเคารพต่อผู้อาวุโส ก่อนจะตะโกนทักทายว่า "ลุงหาน"“หานเฟิงมาหาเธอใช่ไหม” หานลี่ถาม"เคยเจอกันครั้งนึงค่ะ" ฉี๋อีหยุนพูดตามจริง ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้ เพราะหานเฟิงซื้อบ้านที่นี่ ถ้าเธอบอกว่าเธอไม่เคยเจอ มันจะดูเกินจริงไป และมันจะทำให้หานลี่สงสัยว่าเธอจงใจปกปิดมัน“แล้วเขาล่ะ?” หานลี่ถามฉี๋อีหยุนส่ายหัวและพูดว่า "หลังจากเจอเขาครั้งนั้น เขาไม่ปรากฏตัวแล้วค่ะ ถ้าลุงหานต้องการพบเขา ทำไมเขาไม่ถามลูกสาวท่านล่ะคะ?""ฉี๋อีหยุน ตั้งแต่หานเฟิงมาหยุนเฉิง ฉันก็ไม่เคยเจอเขาเลย เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?" หานเหยียนผู้กินปูนร้อนท้องโต้กลับทันที ถ้าไม่ใช่เพราะฆ่าหานเฟิงไปแล้ว เธอคงไม่ร้อนตัว และไม่แสดงท่าทีรีบร้อนในการอธิบายแบบนี้หากเป็นคนนอก ปฏิกิร
หานลี่เคร่งครัดในศาสนา ดังนั้นเขาจึงยังไม่ฆ่าหานซานเฉียนแต่นี่ไม่ได้หมายความว่าหานซานเฉียนสามารถทำอะไรก็ได้ต่อหน้าเขาหานลี่เหยียบหัวหานซานเฉียนอย่างแรง "ฉันไม่ฆ่าแก แต่ก็มีเป็นหมื่นวิธีที่จะทำให้แกตายทั้งเป็น อยากลองดูไหม?""ลุงหาน ถ้าลุงมาที่นี่เพื่อหาหานเฟิง ที่นี่ไม่มีคำตอบที่ลุงต้องการค่ะ" ฉี๋อีหยุนพูดขึ้น เธอรู้สึกเจ็บปวดจนยากที่จะหายใจ เมื่อเห็นหานซานเฉียนถูกทุบตี เธอจึงต้องหาทางพาหานซานเฉียนออกจากสถานการณ์ปัจจุบันเหตุผลที่ทำให้หานลี่รำคาญก็คือ การที่หานซานเฉียนดูถูกเขา แต่จุดประสงค์ของเขาที่มาที่นี่ไม่ใช่มาหาเรื่องหานซานเฉียน แต่เพื่อหาหานเฟิง ดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดของฉี๋อีหยุน หานลี่ก็สงบลง“แกรู้ไหมว่าหานเฟิงอยู่ที่ไหน?” หานลี่ถามหานซานเฉียนหานเฟิงตายแล้ว โดยถูกหานเหยียนฆ่าหานซานเฉียนมีหลักฐานในมือ แม้ว่าจะไม่สามารถพิสูจน์ได้โดยตรงว่าหานเหยียนฆ่าหานเฟิง แต่การหายตัวไปของหานเฟิงนั้นเกี่ยวข้องกับหานเหยียนอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม การเอาวิดีโอออกมาใช้เร็วแบบนี้ หานซานเฉียนจะไม่ได้รับประโยชน์อะไร และอาจทำให้หานลี่โกรธจนฆ่าเขาก็ได้ “ผมไม่รู้” หานซานเฉียนกัดฟันและพู
เพื่อไม่ให้หานลี่สงสัย หานเหยียนจึงต้องทำงานบังหน้า เธอใช้เงินจำนวนมากเพื่อจ้างคนให้ออกไปกวาดล้างทั่วหยุนเฉิง ราวกับว่าเธอจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะพบหานเฟิง และแม้แต่คนของม่อหยางเองก็ถูกว่าจ้างเมื่อม่อหยางรู้เรื่องนี้ เขาก็แจ้งกับหานซานเฉียนทันทีและถามหานซานเฉียนว่าจะจัดการอย่างไร ขอเพียงแค่เขาสั่ง การกวาดล้างในหยุนเฉิงก็สามารถหยุดลงทุกเมื่อแต่สิ่งที่ทำให้ม่อหยางประหลาดใจก็คือ หานซานเฉียนไม่ได้สั่งให้หยุดเรื่องนี้ แต่กลับขอให้เขาส่งคนไปเพิ่ม ซึ่งนั่นทำให้ม่อหยางงงมาก"ซานเชียน อย่าบอกนะว่านายกำลังสร้างสันติภาพกับหานเหยียนน่ะ?" ม่อหยางถามอย่างสงสัย"ฉันจะสร้างสันติภาพกับผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง แต่ละครฉากนี้ต้องให้เธอแสดงจนสมใจ" หานซานเฉียนกล่าวแสดง?ม่อหยางไม่รู้ว่าหานซานเฉียนคิดจะทำอะไร แต่ในเมื่อหานซานเฉียนต้องการให้เขาทำเแบบนั้น เขาก็จะทำตามที่หานซานเฉียนต้องการ"เอาล่ะ ฉันไม่สามารถเข้าใจความคิดที่บ้าบิ่นของนายได้ แต่เมื่อจบเรื่อง นายต้องอธิบายเพื่อคลายความสงสัยของฉันด้วย" ม่อหยางกล่าว“อืม หลังจากฝุ่นสงบลง ฉันจะบอกทุกเรื่องที่นายอยากรู้”หลังจากวางสาย รอยยิ้มบนใบหน้าของหานซานเฉีย
การนอนหลับในสองคืนที่ผ่านมาหานซานเฉียนมักจะฝันร้ายแปลก ๆ และมักจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวกลางดึก ปวดเหมือนมีใครมาเคาะหัวของเขาให้เปิดออกยังไรอย่างนั้น แต่หลังจากตื่นขึ้นมา อาการปวดก็ค่อย ๆ หายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช้าวันรุ่งขึ้น ฉี๋อีหยุนตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารให้หานซานเฉียน เพราะเธอพบว่าหานซานเฉียนไม่ได้ออกไปวิ่งจ้อกกิ้งตอนเช้าในช่วงสองวันที่ผ่านมา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเพราะเขาพักผ่อนไม่เพียงพอ“ทำไมสีหน้าคุณแย่ขนาดนี้?” ฉี๋อีหยุนถาม เมื่อหานซานเฉียนออกมาจากห้องหานซานเฉียนส่ายหัวและพูดว่า "ไม่มีอะไรหรอก อาจเป็นเพราะผมกังวลเกี่ยวกับหานลี่มากเกินไป"นี่คือคำอธิบายที่หานซานเฉียนหาให้กับตัวเอง มีเพียงคำอธิบายนี้เท่านั้นที่ทำให้เขาสามารถเข้าใจได้ฉี๋อีหยุนพยักหน้าอย่างเข้าใจและพูดว่า "ทานข้าวต้มเถอะ ถ้าคุณไม่สบายใจจริง ๆ วันนี้ก็ควรพักผ่อนอยู่ที่บ้านนะ"หลังจากที่หานซานเฉียนเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา ยังไม่ทันได้ทานข้าว เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดโทรหาหานเหยียน"หานซานเฉียน นายโทรมาขอความเมตตาจากฉันเหรอ?" หานเหยียนเพิ่งตื่น ก่อนที่หานลี่จะมา เธอนอนจนถึงเที่ยงทุกวัน แต
"ไม่ทราบว่าคุณต้องการที่นั่งริมหน้าต่าง หรือที่ที่มีความเป็นส่วนตัวดีคะ" พนักงานถาม"ขอแบบเป็นส่วนตัวครับ" หานซานเฉียนกล่าว การพบกันระหว่างเขากับหานเหยียนไม่ควรให้หานลี่รู้ ไม่อย่างนั้นหานเหยียนอาจลำบากหานซานเฉียนคิดว่า การร่วมมือระหว่างเขากับหานเหยียนจะลึกซึ้งยิ่งขึ้นหลังจากการพบกันในวันนี้ ดังนั้นเขาจึงคิดเรื่องนี้แทนเธอ“ตามมาทางนี้ได้เลยค่ะ” พนักงานพาหานซานเฉียนไปยังที่นั่งด้านในหานซานเฉียนสั่งกาแฟอเมริกาโน่หนึ่งแก้วและมองดูเวลา เขาและหานเหยียนนัดกันตอนสิบเอ็ดโมง ด้วยนิสัยหยิ่งยโสของผู้หญิงคนนี้ เธอน่าจะมาตรงเวลาพอดี ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่รีบร้อนอะไรเขาเพลิดเพลินกับกาแฟ แม้ว่านี่จะไม่ใช่งานอดิเรกของหานซานเฉียน แต่ก็ดีที่ได้ลิ้มรสขมนี้บ้างหลังจากนั้นไม่นาน หานซานเฉียนก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายจากด้านนอก ราวกับว่าลูกค้าไม่พอใจกับบริการ และกำลังโต้เถียงกับพนักงานเพราะมันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าไปยุ่ง แต่สถานการณ์กลับแย่ลงเรื่อย ๆ แถมยังมีเสียงผู้หญิงร้องไห้ตามมา ทำให้หานซานเฉียนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหานซานเฉียนลุกข
พนักงานมองไปที่หานซานเฉียนด้วยความตกตะลึง ตอนแรกนึกว่าเขาจะถูกทุบตี แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคนตั้งมายมายขนาดนี้แต่กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยสักคน!สุดยอด!สุดยอดมากจริง ๆ!"นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าเก่งของพวกนาย?ฉันเห็นแล้ว แล้วยังไงล่ะ?" หานซานเฉียนยิ้มจาง ๆ อุ้งเท้าอ่อนแบบนี้น่าเบื่อจริง ๆ แต่เมื่อลองคิดดู เขาก็เก่งได้แค่กับพวกเด็กน้อยเหล่านี้เท่านั้น เพราะหากคู่ต่อสู้คือบอดี้การ์ดของหานลี่ล่ะก็ คนที่อยู่บนพื้นอาจต้องเป็นเขาเสียเอง"แก..." ชายหัวเหลืองกัดฟันมองไปที่หานซานเฉียนแล้วพูดว่า "แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้ามาตีฉัน เชื่อไหมว่าฉันสามารถทำให้แกหายไปจากโลกนี้ได้”"เป็นเด็กเป็นเล็ก ริอาจจะทำให้คนหายไปจากโลก ใครกันที่ให้ความกล้านี้กับนาย?" หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้า และยกตัวชายหัวเหลืองขึ้นกลางอากาศแม้ว่าชายหัวเหลืองจะถูกทุบตี แต่ก็ไม่มีร่องรอยความกลัวในดวงตา ราวกับว่าเขามีแบล็คที่แข็งแกร่งมาก และมั่นใจว่าจะมีโอกาสแก้แค้นหานซานเฉียนอย่างแน่นอน“ไอ้โง่ ลองแตะฉันอีกทีดูสิ?” ชายหัวเหลืองเย้ยหยันหานซานเฉียนชกหน้าชายหัวเหลืองอย่างไม่ลังเล ทำให้ชายหัวเหลืองกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด