แต่พอเด็กหนุ่มเห็นทั้งสองคนเถึยงกันไปมา เขาก็รู้สึกประหม่าจนเหงื่อตก และคิดขึ้นในใจว่าทำไมพี่ใหญ่สองคนนี้ถึงได้เถียงกันเป็นเด็ก ๆ ไปได้“ไปให้พ้น อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลา ถ้านายยังพูดมากไม่เลิก ฉันจะโยนนายออกไปแน่” หานซานเฉียนขู่ม่อหยางม่อหยางในฐานะเถ้าแก่ของคลับเมจิกซิตี้ เขาต่างหากที่เป็นเจ้าของที่นี่ แต่เขากลับโต้แย้งคำพูดของหานซานเฉียนไม่ได้ ได้แต่เดินไปนั่งข้าง ๆ อย่างเชื่อฟัง เพราะยังไงเขาก็ยังเป็นหนี้หานซานเฉียนอยู่ถึงสองร้อยล้านหยวน หานซานเฉียนบอกชายหนุ่มเกี่ยวกับเวลาที่ต้องการตัดต่อ และชายหนุ่มก็แก้ไขเนื้อหาตามที่หานซานเฉียนต้องการอย่างรวดเร็ว วิดีโอนี้คือเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของหานซานเฉียน ดังนั้นเนื้อหาวิดีโอนี้จึงห้ามเล็ดลอดออกไปสู่โลกภายนอกเด็ดขาดหลังจากที่หานซานเฉียนเหลือบมองม่อหยาง เขาก็ตบไหล่ชายหนุ่มและพูดว่า "ช่วงนี้คงต้องลำบากนายหน่อยนะ แต่ไม่ต้องห่วง ในอนาคตฉันจะตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ของนายอย่างแน่นอน"ม่อหยางรู้ว่าหานซานเฉียนหมายถึงอะไร จึงเหลือบมองไปที่หลินหย่ง หลินหย่งก็พาชายหนุ่มลงไปในห้องใต้ดินของคลับเมจิกซิตี้ และยึดโทรศัพท์มือถือของเขา ตัดการสื่อสารทุกอย่างข
"คุณ คุณเป็นใคร?" ซูหยิงเซี่ยมองไปที่ฉีฮู่ด้วยความงุนงง"ประธานซู ผู้ชายคนนี้บุกเข้ามาในบริษัท แถมยังตีพวกเราด้วย คุณระวังตัวด้วยนะครับ" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งพูดกับซูหยิงเซี่ยแม้ว่าฉีฮู่จะบุกเข้ามาในบริษัท แต่เขาก็ไม่ได้จัดการกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างโหดเหี้ยมขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นคนเหล่านี้ไม่มียืนอยู่แบบนี้ได้"ผมมาที่นี่เพื่อปกป้องคุณ" ฉีฮู่กล่าวกับซูหยิงเซี่ยซูหยิงเซี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย มีใครก็ไม่รู้โผล่มาทุบตีพนักงานของบริษัทของเธอ และบอกว่ามาเพื่อปกป้องเธอ ซูหยิงเซี่ยจะเชื่อได้อย่างไร“คุณเป็นใคร?” ซูหยิงเซี่ยถาม"ผมเป็นคนของพี่ซานเฉียนครับ" ฉีฮู่กล่าวหานซานเฉียน!หัวใจของซูหยิงเซี่ยเต้นไม่เป็นจังหวะ หานซานเฉียนขอให้เขามาปกป้องเธออย่างนั้นเหรอ?“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงได้ส่งคุณปกป้องฉันล่ะคะ?” ซูหยิงเซี่ยถามฉีฮู่ส่ายหัวและไม่พูดอะไร ภารกิจของเขาคือปกป้องซูหยิงเซี่ยจากอันตราย สำหรับเรื่องของหานซานเฉียนนั้น เขาไม่กล้าที่จะเล่าให้ซูหยิงเซียฟังโดยพละการ“ไม่มีอะไรแล้ว พวกคุณออกไปก่อนเถอะ” ซูหยิงเซี่ยบอกกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนเจ้าหน้
เฉินหลิงเหยาส่ายหัวซ้ำ ๆ เธอไม่ได้ต้องการชายกล้ามโตที่เกินจริงขนาดนั้น หากเธอคบกับฉีฮู่ และหากมีการทะเลาะกันในอนาคต เธอจะไม่โดนเขาตบจนตายเลยหรือไง“เขาไม่ใช่ชายกล้ามโต แต่เขาเหมือนชายนิสัยเสียมากกว่า” เฉินหลิงเหยาพูดเสียงเบาซูหยิงเซี่ยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อต้องเจอกับฉีฮู่ที่จะดึงดูดความสนใจไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนแบบนี้ เธอก็นึกปวดหัวอยู่บ้าง แต่เนื่องจากหานซานเฉียนส่งเขามาเพื่อปกป้องเธอ เธอจึงไม่สามารถหาเหตุผลที่จะปฏิเสธได้ตอนนี้หานซานเฉียนกำลังเผชิญกับปัญหามากมาย และเธอไม่ต้องการเพิ่มปัญหาให้กับเขาณ โรงแรมเพนนินซูล่า ตอนนี้หานเหยียนเหมือนมดที่อยู่บนหม้อไฟ เธอกังวลอย่างมาก การตายของหานเฟิงกลายเป็นความจริงแล้ว แค่เธอโยนความผิดไปที่หานซานเฉียนได้ ตำแหน่งผู้นำตระกูลหานก็จะจ้องตกอยู่ในมือเธออย่างแน่นอน และเธอยังเหตุผลที่จะสามารถฆ่าหานซานเฉียนได้อีกด้วยแต่ตอนนี้แผนที่จะโยนความผิดให้หานซานเฉียนยังไม่สมบูรณ์แบบ"ตี้หยาง คุณฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน คุณช่วยฉันคิดวิธีแก้ปัญหานี้ไม่ได้เลยเหรอ?" หานเหยียนถามตี้หยางตี้หยางมีวิธีการฆ่าหลายร้อยวิธี และได้ฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน นอกจากนี้เขายัง
เหยียนจิง!สองคำนี้ทำให้หานเหยียนแทบล้มทั้งยืนราวกับถูกฟ้าผ่าทำไมจู่ ๆ พ่อถึงกลับมาที่เมืองจีนโดยไม่บอกอะไรเธอเลยล่ะ หานเฟิงตายแล้ว หานเหยียนยังหาเหตุผลที่จะโยนความผิดนี้ให้หานซานเฉียนไม่ได้ และการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหานลี่จะเพิ่มโอกาสในการเปิดเผยเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย!"พ่อคะ...ทำไมจู่ ๆ พ่อถึงได้มาที่เหยียนจิงล่ะคะ?" หานเหยียนพยายามควบคุมอารมณ์ของเธออย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นน้ำเสียงของเธอก็ยังสั่นเล็กน้อย"พ่อมีธุระที่ต้องทำที่เหยียนจิงน่ะ บางชื่อที่ไม่ควรหลงเหลือไว้ในโลกนี้ต้องหายไปตลอดกาล อีกอย่างพวกลูกก็เสียเวลาอยู่ที่จีนมากเกินไปแล้ว เรื่องของหานซานเฉียน พ่อก็ต้องมาจัดการ" หานลี่กล่าวหานเหยียนรู้สึกตกใจ หานลี่ต้องการจัดการหานซานเฉียนด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาจะมาหยุนเฉิง นี่เป็นข่าวร้ายสำหรับหานเหยียน"พ่อคะ ให้เวลาลูกอีกหน่อย ลูกจะแก้ปัญหานี้ให้ได้" หานเหยียนกล่าว“เรื่องนี้มอบให้น้องชายลูกไปจัดการแล้วไม่ใช่เหรอ?” หานลี่ถามหานเหยียนเกือบจะล้มลงเพราะคำถามนี้ หานเฟิงตายแล้ว ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเรื่องนี้ยังอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของเธออยู่"ใช่... ใ
"หานลี่ ผู้นำตระกูลหานในอเมริกาคนปัจจุบัน" หานลี่รู้สึกถึงความเหนือกว่าโดยธรรมชาติฉือจิงตกใจ ทำไมผู้นำตระกูลหานในสหรัฐอเมริกาถึงได้มาปรากฏตัวในเหยียนจิงแบบนี้ล่ะ! เขากลับมาที่ประเทศจีนทำไมกัน?"คุณ... คุณมาทำอะไรที่นี่" ฉือจิงถาม"ไม่ต้องกลัว ผมแค่กลับมาหาบรรพบุรุษของเท่านั้น" หานลี่ยิ้มอย่างดูถูก ตระกูลหานในเหยียนจิงในปัจจุบันอยู่ในมือของผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะสิ้นหวัง“แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยรู้จักพวกคุณเท่าไหร่นัก แต่ฉันก็รู้ว่าพวกคุณไม่เคยให้ความสนใจประเทศจีนมาก่อน ดังนั้นบรรพบุรุษจะมีความหมายอะไรกับคุณ?” ฉือจิงพูดนิ่ง ๆ“ผมต้องอธิบายให้คุณฟังด้วยรึไงว่าจะทำอะไร?” หานลี่พูดอย่างเย็นชาตอนนั้นเอง บอดี้การ์ดก้าวไปข้างหน้าผลักฉือจิงออกไป และขู่ว่า "อย่ามาขวางทาง ไม่งั้นผมจะฆ่าคุณซะ"อากาศที่เย็นยะเยือกพุ่งเข้าหาใส่หน้าเธอ ฉือจิงรู้ดีว่าคน ๆ นี้ไม่ได้ล้อเล่นกับเธออย่างแน่นอน และไม่รู้ว่ามือของเขาเปื้อนเลือดไปกี่คนแล้ว"หอบรรพบุรุษอยู่ในสวนหลังบ้าน" ฉือจิงกล่าวหานลี่เดินไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษในสวนหลังบ้าน ฉือจิงเดินตามไปด้วยสีหน้างุนงงในเมื่อพวกเขาด
หลังจากที่หานลี่จากไป ฉือจิงมองภายในหอบรรพบุรุษที่กระจัดกระจายด้วยน้ำตานองหน้า สิ่งหนึ่งที่เธอต้องทำทุกวันคือไปที่หอบรรพบุรุษเพื่อถวายเครื่องหอมในทุกเช้าเย็น นี่คือปัจจัยยังชีพที่ใหญ่ที่สุดของเธอในตระกูลหาน และทำให้ฉือจิงไม่ยอมจากไปง่าย ๆ แต่เธอไม่คิดเลยว่าหานลี่จะทำลายห้องโถงบรรพบุรุษถึงขนาดนี้ไม่มีแผ่นจารึกแผ่นไหนเลยที่ไม่แตกหักแม้ว่าแผ่นจารึกจะสามารถทำใหม่ได้ แต่ความอัปยศอดสูที่หานลี่นำมาสู่ตระกูลหานนั้นไม่สามารถลบล้างได้เธอหยิบชิ้นส่วนแผ่นจารึกของหานเฉิงขึ้นมา และกอดมันไว้ในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง เขาเป็นคนเดียวที่เธอรักอย่างสุดหัวใจ แม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว แต่ความรักของเธอมีต่อหานเฉิงก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อยฉือจิงไม่เคยคิดที่จะแต่งงานใหม่ แม้ว่าตอนนี้เธอจะมีทุนมากมาย และยังมีคนอื่นที่คอยตามจีบ เธอก็ไม่เคยคิดที่จะทรยศต่อตระกูลหานเลยสักครั้งสำหรับเธอแล้ว ตระกูลหานกลายเป็นแรงจูงใจเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เธออยากมีชีวิตอยู่ต่อ และเธอต้องได้เห็นตระกูลหานกลับมารุ่งโรจน์เหมือนเดิมก่อนถึงจะพอใจ"ซานเฉียน ความอัปยศของวันนี้ แม่หวังว่าลูกจะตอบแทนพวกเขาเป็นสองเท่า" ฉือจิงพูดพร้อมกัดฟัน
หานลี่ส่ายหัวและพูดว่า "ไปดูหลุมฝังศพของหานเทียนหยาง ก่อนที่ฉันจะมา พ่อของฉันกำชับว่าให้ไปดูหลุมฝังศพของหานเทียนหยาง เขาบอกว่าหานเทียนหยางไม่สามารถตายได้ง่าย ๆ ดังนั้นเขาจึงอยากให้ฉันไปตรวจสอบ"บอดี้การ์ดขมวดคิ้ว หานเทียนหยางมีแผ่นจารึกแล้ว เขาจะยังไม่ตายได้อย่างไร? ความสงสัยดังกล่าวดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลยสำหรับเขาแต่ในเมื่อชายชรามีข้อสงสัย เขาจึงต้องทำตามคำสั่งแม้ว่าหานลี่จะเป็นผู้นำตระกูล แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของชายชราสุสานแห่งหนึ่งในเหยียนจิง นอกจากวันเช็งเม้งและเทศกาลอื่น ๆ ที่นี่ก็แทบไม่มีคน ยกเว้นผู้ดูแลสุสาน ดังนั้นเมื่อหานลี่ปรากฏตัว ผู้ดูแลสุสานจึงรู้สึกแปลกใจ“พวกคุณสองคนมาทำอะไรกัน?” ผู้ดูแลสุสานถามขึ้น“สุสานของหานเทียนหยางอยู่ที่ไหน?” หานลี่ถามหานเทียนหยางเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเหยียนจิง แถมยังมีความโกลาหลมากมายเกิดขึ้นในวันฝังศพของเขาและมีคนใหญ่คนโตหลายคนในเหยียนจิงเข้าร่วม ดังนั้นผู้ดูแลจึงรู้ดีว่าสุสานของหานเทียนหยางอยู่ที่ไหน แต่ถ้าสองคนนี้มาเยี่ยมหลุมศพ แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่รู้จักที่ตั้งของสุสานล่ะ?"พวกคุณมาจากตระกูลหาน แต่ทำไมในวันเช็งเม้งผมถึงไม่เคยเห
ผู้ดูสุสานตัวสั่นด้วยความตกใจ แม้ว่าเขาจะไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับบุคคลภายนอก แต่หลังจากที่หานลี่และบอดี้การ์ดจากไป เขาก็รีบแจ้งให้ฉือจิงทราบทันทีหลังจากที่ฉือจิงรู้ว่าสุสานของหานเทียนหยางถูกหานลี่ขุดขึ้นมา เธอก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนมากนัก เพราะแผ่นจารึกในหอบรรพบุรุษทั้งหมดถูกทำลายโดยหานลี่ไปแล้ว คงไม่มีเรื่องไหนทำร้ายเธอได้มากกว่าเรื่องนี้อีกแล้ว นับประสาอะไรกับสุสานที่ไม่มีเถ้าถ่าน?ฉือจิงเพียงแค่ขอให้ผู้ดูสุสานช่วยกลบหลุมฝังศพกลับคืน ก่อนจะวางสายไปฉือจิงลังเลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรหาหานซานเฉียน สำหรับฉือจิง เป็นเรื่องยากสำหรับหานซานเฉียนที่จะปฏิบัติต่อเธอด้วยท่าทางที่ดี แม้ว่าหานซานเฉียนจะรู้ว่าเมื่อก่อนที่เธอทำไปก็เพราะว่าเธออยู่ภายใต้แรงกดดันของหนานกงเชียนชิว แต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้หานซานเฉียนยอมรับสายตาเย็นชาของฉือจิงที่มีต่อเขาได้“โทรหาผมทำไม?” หานซานเฉียนถามอย่างเฉยเมยจากน้ำเสียงเย็นชาของหานซานเฉียน ฉือจิงไม่รู้สึกถึงความใกล้ชิดใด ๆ ที่ลูกชายผู้ที่เธอให้กำเนิดออกมาคนนี้ ดูเหมือนจะกีดกันเธอออกไปหลายพันไมล์แต่ฉือจิงรู้ดีว่าเธอไม่มีเหตุผลที่จะโท
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ