เฉินหลิงเหยาส่ายหัวซ้ำ ๆ เธอไม่ได้ต้องการชายกล้ามโตที่เกินจริงขนาดนั้น หากเธอคบกับฉีฮู่ และหากมีการทะเลาะกันในอนาคต เธอจะไม่โดนเขาตบจนตายเลยหรือไง“เขาไม่ใช่ชายกล้ามโต แต่เขาเหมือนชายนิสัยเสียมากกว่า” เฉินหลิงเหยาพูดเสียงเบาซูหยิงเซี่ยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อต้องเจอกับฉีฮู่ที่จะดึงดูดความสนใจไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนแบบนี้ เธอก็นึกปวดหัวอยู่บ้าง แต่เนื่องจากหานซานเฉียนส่งเขามาเพื่อปกป้องเธอ เธอจึงไม่สามารถหาเหตุผลที่จะปฏิเสธได้ตอนนี้หานซานเฉียนกำลังเผชิญกับปัญหามากมาย และเธอไม่ต้องการเพิ่มปัญหาให้กับเขาณ โรงแรมเพนนินซูล่า ตอนนี้หานเหยียนเหมือนมดที่อยู่บนหม้อไฟ เธอกังวลอย่างมาก การตายของหานเฟิงกลายเป็นความจริงแล้ว แค่เธอโยนความผิดไปที่หานซานเฉียนได้ ตำแหน่งผู้นำตระกูลหานก็จะจ้องตกอยู่ในมือเธออย่างแน่นอน และเธอยังเหตุผลที่จะสามารถฆ่าหานซานเฉียนได้อีกด้วยแต่ตอนนี้แผนที่จะโยนความผิดให้หานซานเฉียนยังไม่สมบูรณ์แบบ"ตี้หยาง คุณฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน คุณช่วยฉันคิดวิธีแก้ปัญหานี้ไม่ได้เลยเหรอ?" หานเหยียนถามตี้หยางตี้หยางมีวิธีการฆ่าหลายร้อยวิธี และได้ฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน นอกจากนี้เขายัง
เหยียนจิง!สองคำนี้ทำให้หานเหยียนแทบล้มทั้งยืนราวกับถูกฟ้าผ่าทำไมจู่ ๆ พ่อถึงกลับมาที่เมืองจีนโดยไม่บอกอะไรเธอเลยล่ะ หานเฟิงตายแล้ว หานเหยียนยังหาเหตุผลที่จะโยนความผิดนี้ให้หานซานเฉียนไม่ได้ และการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหานลี่จะเพิ่มโอกาสในการเปิดเผยเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย!"พ่อคะ...ทำไมจู่ ๆ พ่อถึงได้มาที่เหยียนจิงล่ะคะ?" หานเหยียนพยายามควบคุมอารมณ์ของเธออย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นน้ำเสียงของเธอก็ยังสั่นเล็กน้อย"พ่อมีธุระที่ต้องทำที่เหยียนจิงน่ะ บางชื่อที่ไม่ควรหลงเหลือไว้ในโลกนี้ต้องหายไปตลอดกาล อีกอย่างพวกลูกก็เสียเวลาอยู่ที่จีนมากเกินไปแล้ว เรื่องของหานซานเฉียน พ่อก็ต้องมาจัดการ" หานลี่กล่าวหานเหยียนรู้สึกตกใจ หานลี่ต้องการจัดการหานซานเฉียนด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาจะมาหยุนเฉิง นี่เป็นข่าวร้ายสำหรับหานเหยียน"พ่อคะ ให้เวลาลูกอีกหน่อย ลูกจะแก้ปัญหานี้ให้ได้" หานเหยียนกล่าว“เรื่องนี้มอบให้น้องชายลูกไปจัดการแล้วไม่ใช่เหรอ?” หานลี่ถามหานเหยียนเกือบจะล้มลงเพราะคำถามนี้ หานเฟิงตายแล้ว ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเรื่องนี้ยังอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของเธออยู่"ใช่... ใ
"หานลี่ ผู้นำตระกูลหานในอเมริกาคนปัจจุบัน" หานลี่รู้สึกถึงความเหนือกว่าโดยธรรมชาติฉือจิงตกใจ ทำไมผู้นำตระกูลหานในสหรัฐอเมริกาถึงได้มาปรากฏตัวในเหยียนจิงแบบนี้ล่ะ! เขากลับมาที่ประเทศจีนทำไมกัน?"คุณ... คุณมาทำอะไรที่นี่" ฉือจิงถาม"ไม่ต้องกลัว ผมแค่กลับมาหาบรรพบุรุษของเท่านั้น" หานลี่ยิ้มอย่างดูถูก ตระกูลหานในเหยียนจิงในปัจจุบันอยู่ในมือของผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะสิ้นหวัง“แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยรู้จักพวกคุณเท่าไหร่นัก แต่ฉันก็รู้ว่าพวกคุณไม่เคยให้ความสนใจประเทศจีนมาก่อน ดังนั้นบรรพบุรุษจะมีความหมายอะไรกับคุณ?” ฉือจิงพูดนิ่ง ๆ“ผมต้องอธิบายให้คุณฟังด้วยรึไงว่าจะทำอะไร?” หานลี่พูดอย่างเย็นชาตอนนั้นเอง บอดี้การ์ดก้าวไปข้างหน้าผลักฉือจิงออกไป และขู่ว่า "อย่ามาขวางทาง ไม่งั้นผมจะฆ่าคุณซะ"อากาศที่เย็นยะเยือกพุ่งเข้าหาใส่หน้าเธอ ฉือจิงรู้ดีว่าคน ๆ นี้ไม่ได้ล้อเล่นกับเธออย่างแน่นอน และไม่รู้ว่ามือของเขาเปื้อนเลือดไปกี่คนแล้ว"หอบรรพบุรุษอยู่ในสวนหลังบ้าน" ฉือจิงกล่าวหานลี่เดินไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษในสวนหลังบ้าน ฉือจิงเดินตามไปด้วยสีหน้างุนงงในเมื่อพวกเขาด
หลังจากที่หานลี่จากไป ฉือจิงมองภายในหอบรรพบุรุษที่กระจัดกระจายด้วยน้ำตานองหน้า สิ่งหนึ่งที่เธอต้องทำทุกวันคือไปที่หอบรรพบุรุษเพื่อถวายเครื่องหอมในทุกเช้าเย็น นี่คือปัจจัยยังชีพที่ใหญ่ที่สุดของเธอในตระกูลหาน และทำให้ฉือจิงไม่ยอมจากไปง่าย ๆ แต่เธอไม่คิดเลยว่าหานลี่จะทำลายห้องโถงบรรพบุรุษถึงขนาดนี้ไม่มีแผ่นจารึกแผ่นไหนเลยที่ไม่แตกหักแม้ว่าแผ่นจารึกจะสามารถทำใหม่ได้ แต่ความอัปยศอดสูที่หานลี่นำมาสู่ตระกูลหานนั้นไม่สามารถลบล้างได้เธอหยิบชิ้นส่วนแผ่นจารึกของหานเฉิงขึ้นมา และกอดมันไว้ในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง เขาเป็นคนเดียวที่เธอรักอย่างสุดหัวใจ แม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว แต่ความรักของเธอมีต่อหานเฉิงก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อยฉือจิงไม่เคยคิดที่จะแต่งงานใหม่ แม้ว่าตอนนี้เธอจะมีทุนมากมาย และยังมีคนอื่นที่คอยตามจีบ เธอก็ไม่เคยคิดที่จะทรยศต่อตระกูลหานเลยสักครั้งสำหรับเธอแล้ว ตระกูลหานกลายเป็นแรงจูงใจเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เธออยากมีชีวิตอยู่ต่อ และเธอต้องได้เห็นตระกูลหานกลับมารุ่งโรจน์เหมือนเดิมก่อนถึงจะพอใจ"ซานเฉียน ความอัปยศของวันนี้ แม่หวังว่าลูกจะตอบแทนพวกเขาเป็นสองเท่า" ฉือจิงพูดพร้อมกัดฟัน
หานลี่ส่ายหัวและพูดว่า "ไปดูหลุมฝังศพของหานเทียนหยาง ก่อนที่ฉันจะมา พ่อของฉันกำชับว่าให้ไปดูหลุมฝังศพของหานเทียนหยาง เขาบอกว่าหานเทียนหยางไม่สามารถตายได้ง่าย ๆ ดังนั้นเขาจึงอยากให้ฉันไปตรวจสอบ"บอดี้การ์ดขมวดคิ้ว หานเทียนหยางมีแผ่นจารึกแล้ว เขาจะยังไม่ตายได้อย่างไร? ความสงสัยดังกล่าวดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลยสำหรับเขาแต่ในเมื่อชายชรามีข้อสงสัย เขาจึงต้องทำตามคำสั่งแม้ว่าหานลี่จะเป็นผู้นำตระกูล แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของชายชราสุสานแห่งหนึ่งในเหยียนจิง นอกจากวันเช็งเม้งและเทศกาลอื่น ๆ ที่นี่ก็แทบไม่มีคน ยกเว้นผู้ดูแลสุสาน ดังนั้นเมื่อหานลี่ปรากฏตัว ผู้ดูแลสุสานจึงรู้สึกแปลกใจ“พวกคุณสองคนมาทำอะไรกัน?” ผู้ดูแลสุสานถามขึ้น“สุสานของหานเทียนหยางอยู่ที่ไหน?” หานลี่ถามหานเทียนหยางเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเหยียนจิง แถมยังมีความโกลาหลมากมายเกิดขึ้นในวันฝังศพของเขาและมีคนใหญ่คนโตหลายคนในเหยียนจิงเข้าร่วม ดังนั้นผู้ดูแลจึงรู้ดีว่าสุสานของหานเทียนหยางอยู่ที่ไหน แต่ถ้าสองคนนี้มาเยี่ยมหลุมศพ แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่รู้จักที่ตั้งของสุสานล่ะ?"พวกคุณมาจากตระกูลหาน แต่ทำไมในวันเช็งเม้งผมถึงไม่เคยเห
ผู้ดูสุสานตัวสั่นด้วยความตกใจ แม้ว่าเขาจะไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับบุคคลภายนอก แต่หลังจากที่หานลี่และบอดี้การ์ดจากไป เขาก็รีบแจ้งให้ฉือจิงทราบทันทีหลังจากที่ฉือจิงรู้ว่าสุสานของหานเทียนหยางถูกหานลี่ขุดขึ้นมา เธอก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนมากนัก เพราะแผ่นจารึกในหอบรรพบุรุษทั้งหมดถูกทำลายโดยหานลี่ไปแล้ว คงไม่มีเรื่องไหนทำร้ายเธอได้มากกว่าเรื่องนี้อีกแล้ว นับประสาอะไรกับสุสานที่ไม่มีเถ้าถ่าน?ฉือจิงเพียงแค่ขอให้ผู้ดูสุสานช่วยกลบหลุมฝังศพกลับคืน ก่อนจะวางสายไปฉือจิงลังเลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรหาหานซานเฉียน สำหรับฉือจิง เป็นเรื่องยากสำหรับหานซานเฉียนที่จะปฏิบัติต่อเธอด้วยท่าทางที่ดี แม้ว่าหานซานเฉียนจะรู้ว่าเมื่อก่อนที่เธอทำไปก็เพราะว่าเธออยู่ภายใต้แรงกดดันของหนานกงเชียนชิว แต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้หานซานเฉียนยอมรับสายตาเย็นชาของฉือจิงที่มีต่อเขาได้“โทรหาผมทำไม?” หานซานเฉียนถามอย่างเฉยเมยจากน้ำเสียงเย็นชาของหานซานเฉียน ฉือจิงไม่รู้สึกถึงความใกล้ชิดใด ๆ ที่ลูกชายผู้ที่เธอให้กำเนิดออกมาคนนี้ ดูเหมือนจะกีดกันเธอออกไปหลายพันไมล์แต่ฉือจิงรู้ดีว่าเธอไม่มีเหตุผลที่จะโท
แต่ตอนนี้ตี้หยางก็ตกอยู่ในความระส่ำระสายเช่นกัน เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าหานลี่จะปรากฏตัวอย่างกะทันหันแบบนี้ แล้วเขาจะยังสงบสติอารมณ์อยู่ได้อย่างไร?"คุณหนู คุณอย่าเพิ่งรีบร้อน พวกเราจะต้องคิดหาทางออกได้แน่นอน" ตี้หยางกล่าว"อย่าเพิ่งรีบร้อนอย่างงั้นเหรอ?" หานเหยียนมองไปที่ตี้หยางด้วยสีหน้าดุร้ายและพูดว่า "ฉันจะไม่รีบร้อนยังไง พ่อมาที่นี่แล้ว และคงจะมาถึงหยุนเฉิงในไม่ช้า ถ้าเขาถามเกี่ยวกับหานเฟิง แล้วฉันจะอธิบายยังไง หรือจะต้องบอกเขาว่าหานเฟิงตายเพราะฝีมือฉันอย่างนั้นเหรอ?"ร่องรอยของความไม่พอใจปรากฏขึ้นในดวงตาของตี้หยาง ถ้าไม่ใช่เพราะความคิดของหานเหยียน หานเฟิงจะตายได้อย่างไร และพวกเขาก็ไม่ต้องมากังวลว่าจะอธิบายกับหานลี่อย่างไรอยู่แบบนี้ทั้งหมดนี้เกิดจากความคิดของหานเหยียนทั้งนั้น แต่ตอนนี้เธอกลับมาโยนความผิดใส่เขา!"ตี้หยาง ฉันขอเตือนคุณ แม้ว่าคุณจะตาย แต่ฉันจะตายไม่ได้" หานเหยียนเดินไปด้านหน้าของตี้หยาง และพูดด้วยใบหน้าขรึมตี้หยางยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า "คุณหนูหมายความว่า จะให้ผมเป็นแพะรับบาปแทนอย่างงั้นเหรอ? คุณคิดว่าท่านผู้นำจะเชื่อว่าการตายของหานเฟิงเกี่ยวข้องกับผมเพียงคนเด
หานเฟิงตายแล้ว สายนี้จึงไม่สามารถติดต่อได้ ดังนั้นเมื่อหานเหยียนขมวดคิ้ว นั่นคือการแสดงของเธอได้เริ่มขึ้นแล้ว“พ่อคะ ปิดเครื่องค่ะ” หานเหยียนพูดในขณะที่หานลี่กำลังจะโมโห หานเหยียนก็พูดแทนหานเฟิงว่า "พ่อคะ อย่าโกรธไปเลยนะคะ กลับไปที่โรงแรมกันก่อน เดี๋ยวลูกจะส่งคนไปสืบที่อยู่ของเขาให้ทันทีเลยค่ะ""ลูกนี่นะ ช่วยพูดแทนน้องตั้งแต่เขายังเด็ก ถ้าไม่ใช่เพราะลูกตามใจเขามากไป เขาจะกล้าหยิ่งผยองขนาดนี้ไหม?" หานลี่พูดอย่างช่วยไม่ได้หานเหยียนยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ก็เขาเป็นน้องชายคนเดียวของลูกนี่คะ ถ้าลูกไม่ตามใจเขา แล้วลูกจะไปตามใจใคร"หลังจากกลับถึงโรงแรม หานเหยียนก็แสร้งทำเป็นสั่งให้คนออกไปตามหาหานเฟิง และหานลี่ก็ถามหานเหยียนเกี่ยวกับหานซานเชียนหานลี่ไม่ได้สนใจกับตัวละครเล็ก ๆ แบบนี้มากนัก เพราะหานซานเฉียนก็แค่มดตัวเล็ก ๆ ที่เขาสามารถขยี้ให้ตายได้ทุกเมื่อ “พ่อคะ ในเมื่อพ่อไม่ให้หนูฆ่าเขา หนูจึงต้องจัดการเขาด้วยวิธีอื่น แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้หนูควบคุมโลกธุรกิจในหยุนเฉิงไปกว่าครึ่งแล้ว หานซานเฉียนไม่มีทางให้เดินแล้ว เพียงแค่ให้เวลาหนูอีกหน่อย เขาจะต้องมาคุกเข่าอ้อนวอนหนูอย่างแน่นอน” หา