"ให้ตายเถอะ ใจฉันมันคันยิบ ๆ ถึงรู้ว่าจะต้องเจ็บปวดแต่ก็ยังอยากจะถามอยู่ดี แกรีบห้ามฉันดิ ทำไงก็ได้ให้ฉันสงบลง" ม่อหยางพูดกับหลินหย่งด้วยท่าทางกระวนกระวายใจหลินหย่งหลุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ม่อหยางก็เป็นคนแปลกแบบนี้แหละ บางครั้งเขาก็ดูเหมือนเด็ก ซึ่งไม่เข้ากับอายุที่แท้จริงของเขา และไม่หลงเหลือความเป็นพี่ใหญ่เอาซะเลย"ช่างเถอะ แกไม่ต้องห้ามฉันแล้ว วันนี้ไม่ว่าใครก็ขวางฉันไม่ได้" ก่อนที่หลินหย่งจะได้พูดอะไร ม่อหยางก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาหานซานเฉียนม่อหยางเดินไปนั่งบนที่วางแขนของโซฟาที่หานซานเฉียนนั่งอยู่ ก่อนจะวางมือข้างหนึ่งไว้บนไหล่ของหานซานเฉียนแล้วถามว่า "มีข่าวดีอะไร แบ่งปันกับพี่ชายบ้างสิ?"หานซานเฉียนเหล่ตามองม่อหยางแล้วพูดว่า "เกี่ยวอะไรกับนาย"“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ นี่ฉันกำลังเป็นห่วงนายนะ” ม่อหยางพูดพลางหยิบซองบุหรี่ออกมาแล้วยื่นให้หานซานเฉียนหานซานเฉียนมองม่อหยางอย่างประหลาดใจ ชายปี่เซียะคนนี้ที่เป็นฝ่ายรับเท่านั้น รู้จักกันมาหลายปีให้บุหรี่เขาน้อยจนนับครั้งได้ “อยากรู้จนยอมจ่ายเลยนะนายน่ะ” หานซานเฉียนพูดติดตลกม่อหยางไม่ได้รู้สึกอายอะไร เขาคุ้นเคยกับวิธีนี้มานาน
หลังจากได้ยินคำถามของม่อหยาง หลินหย่งก็ทำได้แค่ยิ้มเจื่อน พี่ใหญ่ทั้งสองกำลังล้อเล่น เขาไม่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมสงครามนี้ และเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นหลินหย่งทำได้เพียงก้มหน้าลง และทำราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น "ม่อหยาง ฉันว่าพักนี้นายไร้ยางอายมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ" หานซานเฉียนพูด"ซานเฉียน นายไม่รู้จักฉันดีพอ ฉันไม่ได้เพิ่งจะเป็น แต่เป็นแบบนี้มานานแล้วต่างหาก เพราะงั้นไม่ว่าฉันจะยืมเงินนายหรือไม่ก็ตาม ลืม ๆ มันไปซะ" ม่อหยางกล่าว เมื่อเจอความหน้าด้านของม่อหยาง หานซานเฉียนก็ไม่รู้จะไปต่ออย่างไรแล้ว และเขาก็ไม่เคยคิดที่จะขอให้ม่อหยางคืนเงิน แม้ว่าสองร้อยล้านจะไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ แต่เงินแค่สองร้อยล้านก็ไม่พอใช้จัดการหานกรุ๊ปได้อยู่ดี เขาดูเวลา ตอนนี้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว หานซานเฉียนพูดขึ้น "ถ้าไม่คืนเงิน ก็เลี้ยงข้าวเที่ยงฉัน คงไม่มีปัญหาใช่ไหม?""ได้สิ อาหารพนักงาน นายอยากกินเท่าไหร่ก็ได้ตามต้องการ เดี๋ยวฉันจะขอให้ป้าในครัวเตรียมข้าวเปล่าเพิ่มให้นายอีกสักสองชาม" ม่อหยางพูดอย่างใจกว้าง“นายนี่มันขี้เหนียวจริง ๆ” หานซานเฉียนกัดฟันพูดณ โรงแรมเพนนินซูล่า
"เท่าที่ผมรู้มา ตงฮ้าวเป็นบอดี้การ์ดของลูกสาวของฉี๋ตงหลิน ในเมื่อตงฮ้าวอยู่ในหยุนเฉิง งั้นก็แสดงว่าฉี๋อีหยุนก็ต้องอยู่ในหยุนเฉิงเช่นกัน ตอนนี้คุณหนูมีโอกาสยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว คุณหนูสามารถจัดการกับหานซานเฉียนและฉี๋อีหยุนไปพร้อมกันได้ หากเกิดเรื่องอะไรกับฉี๋อีหยุนในหยุนเฉิง ฉี๋ตงหลินจะต้องกระวนกระวายใจแน่นอน” อู๋เฟิงกล่าว"ฉี๋อีหยุน?" หานเหยียนขมวดคิ้วแน่น เธอจำผู้หญิงคนนี้ได้ดี เธอปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิดของพ่อเธอ และขโมยความโดดเด่นของเธอไป หานเฟิงเองก็เคยหลงใหลเธออย่างบ้าคลั่งอยู่พักหนึ่ง ถึงขั้นไม่กินไม่ดื่ม แต่หลังจากนั้นฉี๋อีหยุนก็กลับประเทศจีนไป หานเฟิงจึงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเธอ และหานเหยียนก็ยังไม่มีโอกาสสั่งสอนฉี๋อีหยุนเช่นกัน"อ้อใช่!" จู่ ๆ หานเหยียนก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอเงยหน้าขึ้นและพูดว่า "ผู้หญิงที่เข็นรถเข็นครั้งก่อน ฉันก็ว่าทำไมถึงได้คุนหน้าเธอนัก แต่เธอเอาแต่ก้มหน้าฉันเลยเห็นไม่ชัดว่าหน้าตาเป็นยังไง ดูเหมือนว่าเธอจะคือฉี๋อีหยุน หึ กลัวจนหัวหด ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะแสดงหน้าต่อหน้าฉัน"“คุณหนูพูดถูก ผมตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรมแล้ว ผู้หญิงคนนั้นคื
ตงฮ้าวชะงักฝีเท้า รู้สึกสับสนขึ้นมาในใจเขารู้ดีกว่าใครว่าผลของการฆ่าหานซานเฉียนนั้นเป็นอย่างไร ฉี๋อีหยุนต้องไม่ให้อภัยเขา และไม่ปล่อยเขาไปแน่ การฆ่าหานซานเฉียนเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉี๋อีหยุนนั้นเป็นเรื่องตลกแต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่อู๋เฟิงพูด เขาก็ไม่สามารถควบคุมความอยากฆ่าหานซานเฉียนได้ถ้ามีโอกาส เขาก็จะไม่มีวันปล่อยเขาไปอู๋เฟิงยิ้มและพูดต่อ "ฉันรับรองได้ว่าหลังจากฆ่าเขาแล้ว ฉี๋อีหยุนจะไม่โทษนาย และมีคนรับโทษนี้แทนนายแน่นอน""ใคร?" ตงฮ้าวถาม“เจี่ยงหลาน” อู๋เฟิงกล่าวตงฮ้าวขมวดคิ้วและพูดว่า "เจี่ยงหลานคือแม่ยายของหานซานเฉียนไม่ใช่เหรอ เธอจะรับผิดแทนฉันได้ยังไง?"อู๋เฟิงถอนหายใจและพูดว่า "ทุกวันนี้แม่ยายนั้นน่ากลัวที่สุดแล้ว ความที่อยากฆ่าหานซานเฉียนไม่ได้น้อยไปกว่านายเลย"ตงฮ้าวไม่รู้ความสัมพันธ์ภายในของตระกูลซู แต่จากที่ฟัง ๆ มา เขารู้ว่าคนในตระกูลซูไม่ได้ต้อนรับเขานัก แต่ช่วงนี้หานซานเฉียนทำอะไรเพื่อตระกูลซูมากมาย นั่นยังไม่ทำให้เจี่ยงหลานเปลี่ยนใจอีกเหรอ?"ตระกูลซูมีทุกวันนี้ได้เพราะหานซานเฉียน หากเจี่ยงหลานฆ่าหานซานเฉียน เธอไม่กลัวที่จะสูญเสียทุกอย่างไ
คนในเมืองโบราณมีตั้งมากมาย แต่กลับเดินตรงเข้ามาหาเขา เห็นได้ชัดว่าต้องรู้จักเขามาก่อนแล้วหานซานเฉียนขบคิดล็กน้อย และในไม่ช้าชายหัวโล้นก็เดินเข้าไปในลานบ้านที่อยู่ห่างไกลออกไป สถานที่แห่งนี้แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคน“ถ้าคุณไม่รีบตามมา ผมก็ไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของคุณ” ชายหัวโล้นหันไปหาหานซานเฉียนที่ประตูหานซานเฉียนกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าชายหัวโล้นต้องการจะทำอะไร แต่สิ่งที่เขารู้คือซูหยิงเซี่ยไม่ได้อยู่ที่นี่แต่ถ้าต้องการรู้จุดประสงค์ของเขา ก็ต้องเข้าไปด้านในเท่านั้นถึงจะรู้ได้ หานซานเฉียนเดินตามไป เมื่อพวกเขาเข้าไปในลาน ประตูก็ปิดลง มีสองคนยืนขวางอยู่ทางประตู และอีกหลายคนเริ่มทะยอยออกจากห้องทั้งหมดมีเจ็ดคน สีหน้าดุร้ายของทุกคนบ่งบอกได้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนดี"ใครกันที่จ้างขยะอย่างพวกแกให้มาจัดการฉัน?" หานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ แม้ว่าคนเหล่านี้จะดูแข็งแกร่ง แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ ดังนั้นทักษะของพวกเขาจึงดูไม่เท่าไหร่นัก ในหยุนเฉิงน่าจะมีคนไม่น้อยที่ต้องการจัดการเขา แต่การจ้างขยะพวกนี้มา แสดงว่าไม่รู้จักเขาดีพอ
ลานเล็ก ๆ เงียบลงอีกครั้ง มีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ ชายหัวโล้นและคนอื่น ๆ ล้วนนอนอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดว่าถึงจะถูกล้อมด้วยคนจำนวนมากแต่หานซานเฉียนก็เอาชนะได้ง่ายดายชายหัวโล้นอยู่กับการนองเลือดมานานหลายปี และเขาไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง ในความคิดของเขางานวันนี้ก็เป็นเพียงงานง่าย ๆ คิดไม่ถึงว่ามันจะพังไม่เป็นท่าแบบนี้ สิ่งนี้ทำให้เขามองหานซานเฉียนด้วยความสยดสยองผู้ชายคนนี้คือใครกันแน่ ทำไมถึงได้เก่งกาจขนาดนี้“พวกแกจะฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ แต่ดูจากตอนนี้ ฉันควรฆ่าพวกแกเพื่อตัดปัญหาซะเลยดีไหม?” หานซานเฉียนพูดกับชายหัวโล้นชายหัวโล้นตื่นตระหนก แม้ว่าเขาจะเคยฆ่าคน แต่เขาก็ยังคงกลัวความตาย มีแต่คนที่ไม่เคยสัมผัสถึงความตายเท่านั้นที่จะกล้าพูดว่าตัวเองไม่กลัวความตายแต่พอความตายใกล้เข้ามาจริง ๆ จะมีสักกี่คนที่ไม่กลัว"พวกเราแค่รับเงินจากนายจ้างเพื่อช่วยเค้ากำจัดปัญหาเท่านั้น คุณไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าพวกเรา" ชายหัวโล้นกล่าวหานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ เดินไปหาเขาแล้วพูดว่า "นายรับเงินมาจากใคร?"เมื่อได้ยินประโยคนี้ เจี่ยงหลานที่อยู่ในห้องก็หัวใจเต้นรัว หากคนเหล่านี้ทรยศเธอเพื่อช่วยชีวิต
"รีบฆ่าเร็ว ๆ เข้าสิ ฆ่าไอ้ขยะนี่ทิ้งซะ" เจี่ยงหลานพูดกับตัวเองอย่างกระวนกระวาย ตอนนั้นเอง จู่ ๆ หานซานเฉียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และชูใส่ตงฮ้าว “นายฆ่าฉันเร็วกว่า หรือว่าฉันกดโทรศัพท์เร็วกว่ากันนะ?ฉันแค่กดคลิกเดียว รูปของนายก็จะส่งไปให้ฉี๋อีหยุนทันที ถ้าเธอรู้ว่านายเป็นคนฆ่าฉัน เดาสิว่าเธอจะทำยังไง?” หานซานเฉียนกล่าวตงฮ้าวผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็โกรธจัดและกัดฟันพูด "หานซานเฉียน นายยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า ถึงได้ใช้วิธีที่ไร้ยางอายแบบนี้""ไร้ยางอาย? ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาย และนี่เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยชีวิตฉันได้" หานซานเฉียนกล่าว นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายควรทำ แต่เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตงฮ้าว แล้วทำไมจะต้องพาตัวเองไปตายด้วยล่ะ?ตงฮ้าวอยากจะฉีกหานซานเฉียนเป็นชิ้น ๆ แต่ไม่ว่าเขาจะเคลื่อนไหวเร็วแค่ไหน มันก็ไม่เร็วไปกว่าที่หานซานเฉียนจะกดโทรศัพท์อยู่ดี เหตุผลใหญ่ที่สุดที่ทำให้เขาไม่กล้าฆ่าหานซานเฉียน เพราะเขากลัวว่าฉี๋อีหยุนจะรู้และหากภาพถ่ายถูกส่งจากโทรศัพท์มือถือของหานซานเฉียนไปยังโทรศัพท์ของฉี๋อีหยุน การตายของหานซานเฉียนก็จะถูกเ
เจี่ยงหลานหน้าซีดและขาอ่อนอยู่บนพื้นชายหัวโล้นถูกเหยียบคอจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตทั้งเป็น และหานซานเฉียนบอกว่านี่คือบทเรียนสำหรับเธอ!เจี่ยงหลานรู้ดีว่าประโยคนี้หมายถึงอะไรนี่ไม่ใช่เพียงคำพูดข่มขู่อย่างแน่นอน เพราะเจี่ยงหลานเคยเห็นหนานกงเชียนชิวแขวนคอต่อหน้าต่อตาเธอมาแล้ว ทั้งหมดนี้เพราะถูกหานซานเฉียนบังคับภายใต้หน้ากากที่ดูเป็นคนกระจอกของเขา มีหัวใจที่เย็นชาซ่อนอยู่เจี่ยงหลานรู้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะซูหยิงเซี่ย เธอคงตายไปนานแล้วแต่... แต่เธอไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้นี้ ภายใต้ความกลัว เธอยังมีความคิดที่อยากจะฆ่าหานซานเฉียนอยู่หากยอมให้หานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยกลับมาแต่งงานกันใหม่ ตระกูลซูก็จะต้องเชื่อฟังคำพูดของเขา?เจี่ยงหลานเป็นหัวหน้าครอบครัวมานานหลายปี และเธอไม่เต็มใจที่จะยอมจำนนต่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอ้ขยะนี่ เจี่ยงหลานยืนขึ้นด้วยความยากลำบาก เธอเดินออกจากห้องหลังจากที่หานซานเฉียนจากไปชายหัวโล้นตายไปแล้วด้วยฝีมือของหานซานเฉียน และมีพยานอยู่ในที่เกิดเหตุ ความคิดที่จะแก้แค้นหานซานเฉียนถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง“เขาฆ่าเพื่อนของนาย ทำไมถึงยังไม่แจ้งตำรวจอีกล่ะ?” เจี่ย