หลังจากเทียนหงฮุยออกจากฟาร์มเสตย์ เขาก็กลับไปคฤหาสน์ตระกูลเทียนทันที เทียนฉางเฉิงและหวางเม่ายังคงเล่นหมากรุกอยู่ พวกเขารู้สึกงง เมื่อจู่ ๆ เห็นเทียนหงฮุยรีบกลับ “ทำไมกลับมาเร็วจัง นายต้องให้เกียรติตระกูลเซี่ยกินข้าวเที่ยงกับเขาหน่อยสิ” เทียนฉางเฉิงตำหนิ แม้ว่าจะมีบางเรื่องเกิดขึ้นในงานแต่งงาน แต่ตระกูลเซี่ยก็ร่วมมือกับตระกูลเทียน และถ้าเซี่ยฮ้าวหรานฉลาดพอ เขาควรจะขอโทษหานซานเฉียนแล้ว หลังจากที่เทียนหงฮุยชำเลืองมองหวางเม่า เขาก็พูดกับเทียนฉางเฉิงด้วยสีหน้าจริงจังว่า “พ่อ ผมมีเรื่องจะบอก ไปที่ห้องหนังสือของพ่อเถอะ” เทียนฉางเฉิงขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น “หลิงเอ๋อร์มาเล่นหมากรุกกับปู่หวางสิ” เทียนฉาเฉิงพูดกับเทียนหลิงเอ๋อร์ เทียนหลิงเอ๋อร์อยากมีส่วนร่วมในการสนทนาระหว่างทั้งสองคนด้วย แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่เย็นชาของเทียนหงฮุย เธอก็ล้มเลิกความคิดนั้นทันที เธอสามารถทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจกับเทียนฉางเฉิงได้ แต่เธอก็ยังกลัวพ่อผู้น่าเกรงขามคนนี้มาก ทั้งสองมาถึงห้องหนังสือ หลังจากที่เทียนหงฮุยปิดประตู เทียนฉางเฉิงพลันถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? หานซานเฉียนให้อภัยตระกูลเซี่
“พ่อยังเชื่อใจเขาเหรอ?” เทียนหงฮุยกล่าว เทียนฉางเฉิงไม่พยักหน้า การแสดงออกของเขาจริงจังและสง่างามมาก เพราะการตัดสินใจครั้งนี้กำหนดอนาคตของตระกูลเทียน ความเป็นหรือความตายในความคิดเดียว เทียนหงฮุยไม่รีบร้อนและรอคำตอบของเทียนฉางเฉิงอย่างเงียบ ๆ เขารู้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวยากมากสำหรับเทียนฉางเฉิง หลังจากนั้นไม่นาน เทียนหงฮุยก็ลุกขึ้นยืนยิ้ม และพูดกับเทียนฉางเฉิงว่า “หานซานเฉียนเป็นพี่ชายของเทียนหลิงเอ๋อร์แล้วไม่ใช่เหรอครับ” เทียนหงฮุยถอนหายใจ แม้ว่าเทียนฉางเฉิงจะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่ความหมายของสิ่งที่เขาพูดนั้นชัดเจนมาก “พ่อ ไม่ว่าพ่อจะตัดสินใจยังไง ผมก็เคารพการตัดสินใจของพ่อนะครับ” เทียนหงฮุยกล่าว “เราแค่ต้องยืนอยู่ข้างหลังหานซานเฉียน และดูการต่อสู้ระหว่างเหล่าเซียน” หลังจากพูดจบ เทียนฉางเฉิงก็ยิ้มและพูดต่อว่า “ในสายตาของคนในหยุนเฉิง มองตระกูลเทียนอยู่ในสถานะสูงสุด ไม่สามารถโค่นล้มได้เป็นคนที่ยืนอยู่บนยอดเขา แต่เราเท่านั้นที่รู้ว่าตำแหน่งนี้เป็นเพียงเชิงเขาที่สูงกว่าภูเขาสูง” “ใครบอกว่าไม่ใช่” เทียนหงฮุยถอนหายใจ หยุนเฉิงเป็นเพียงสถานที่เล็ก ๆ ในประเทศจีนเท่านั้น ไม่
เมื่อซูหยิงเซี่ยได้ยินคำพูดของเจี่ยงหลาน เธอก็โกรธทันที ในเวลาแบบนี้ สิ่งที่เจี่ยงหลานต้องการคือ ทำให้หานซานเฉียนหย่าและหมดตัว ดูเหมือนว่าในสายตาของเธอ เธอสนใจแต่เรื่องเงินเท่านั้น “แม่ ทำไมแม่คิดแบบนั้นล่ะคะ ซานเฉียนกำลังพยายามหาทางแก้ปัญหาอยู่ แต่แม่กลับต้องการให้เขาออกไปจากบ้านเหรอคะ?” ซูหยิงเซี่ยพูดพร้อมกัดฟัน เมื่อเผชิญกับท่าทีโกรธจัดของซูหยิงเซี่ย เจี่ยงหลานก็ไม่สนใจ และยังพูดว่า “ฉันก็แค่เผื่อไว้ ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ในใจ ลูกสาวที่ดีของฉัน อย่าไว้ใจผู้ชายง่ายเกินไป ในโลกนี้มีที่ไหนไม่มีผู้ชายไม่เจ้าชู้บ้าง?” ซูหยิงเวี่ยหายใจเข้าลึก เธอโกรธจนหนังศีรษะชา เธอรู้ดีว่าหานซานเฉียนเป็นคนแบบไหน มีผู้ชายไม่กี่คนในโลกที่ไม่เจ้าชู้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะควบคุมตัวเองได้หรือไม่ ซูหยิงเซี่ยเชื่อว่าแม้หานซานเฉียนจะมีด้านที่เจ้าชู้ แต่เขาก็ยังสามารถควบคุมขอบเขตของตัวเองได้ดี “แม่ หนูขอเตือนนะ ทีหลังอย่าพูดแบบนี้อีก” ซูหยิงเซี่ยพูดน้ำเสียงเย็นชา จู่ ๆ เจี่ยงหลานก็อารมณ์ไม่ดีจึงพูดว่า “ฉันเป็นแม่แกนะ แกพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนี้ แล้วยังมาเตือนฉันอีกเหรอ?” “แม้ว่าแม่จะเ
“ผมออกไปข้างนอกสักพักนะครับ” หานซานเฉียนพูดกับซูหยิงเซี่ย ซูหยิงเซี่ยเดินไปหาหานซานเฉียนอย่างกระวนกระวาย และถามว่า “เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” “เปล่าครับ ผมจะไปหาเพื่อน ไม่ต้องห่วงนะ” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม ซูหยิงเซี่ยรู้ว่าหานซานเฉียนพยายามพูดให้เธอสบายใจ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าเธอสามารถทำให้หานซานเฉียนเครียดได้ แต่ในฐานะผู้หญิง ตอนนี้เธอทำได้เพียงสนับสนุนหานซานเฉียนอย่างเงียบ ๆ อยู่ข้างหลังเขา “ระวังตัวด้วยนะคะ” ซูหยิงเซี่ยกล่าว “รอสักพักนะ เดี๋ยวผมกลับมาทานข้าวด้วย” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม ทันทีที่หานซานเฉียนออกจากประตู เจี่ยงหลานก็พูดว่า “แกระวังให้ดีนะ ดีไม่ดีเขาอาจจะไปประชุมที่โรงแรมเป็นการส่วนตัวกับใครบางคนก็ได้” ซูหยิงเซี่ยมองเจี่ยงหลานด้วยสายตาโกรธเคือง และพูดอย่างไม่พอใจว่า “แม่ แม่จำเป็นต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเราเลยเหรอคะ?” “ฉันแค่อยากจะเตือนแกไว้ ฉันแค่ไม่อยากให้แกเสียทั้งเงินเสียทั้งตัว” เจี่ยงหลานกล่าวอย่างมั่นใจ ซูหยิงเซี่ยถอนหายใจ การโต้เถียงกับเจี่ยงหลานเกี่ยวกับปัญหาแบบนี้ ทำให้เธอปวดหัวจริง ๆ หานซานเฉี
ฉี๋อีหยุนตั้งใจแต่งหน้าอ่อน ๆ และสวมชุดเดรสเดินไปมาอยู่ในห้อง คอยส่องกระจกในห้องน้ำ ปกติเธอเป็นคนที่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองอยู่เสมอ แต่ตอนนี้เธอกลับดูประหม่ามาก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้เจอหานซานเฉียน แต่ทุกครั้งที่เธอเจอ เธอกลับรู้สึกไม่สามารถซ่อนความรู้สึกไว้ได้ ราวกับว่าลูกกวางวิ่งเข้ามาชนหัวใจของเธอ เมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าหยุดตรงที่ประตู เส้นประสาทของเธอก็ตึงขึ้นทันที พลันเสียงกริ่งประตูดังขึ้น ยิ่งทำให้เธอประหม่ามากกว่าเดิม ฉี๋อีหยุนสูดหายใจลึก ก่อนเปิดประตู หานซานเฉียนเดินเข้ามาในห้องด้วยสายตาเย็นชา ไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ ฉี๋อีหยุนหายใจถี่ เธอตั้งใจแต่งหน้าแต่งตัวเพื่อเขา แต่กลับไม่สามารถให้หานซานเฉียนสนใจได้ แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่เธอคิดไว้อยู่แล้ว แต่เมื่อมันก็เกิดขึ้นจริง ก็ยังทำให้เธอรับไม่ได้ “คุณมองมาที่ฉันบ้างไม่ได้เหรอ?” ฉี๋อีหยุนไม่พอใจ หานซานเฉียนไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่อเธอเลย แต่เธอรู้สึกว่า อย่างน้อยการแต่งตัวของเธอก็ควรจะทำให้หานซานเฉียนเหลียวมองบ้าง นี่เท่ากับเป็นการดูถูกเธอ “คุณต้องการหลอกใช้ให้ผมทำอะไรก็พูดมาตรง ๆ เลยดีกว่า” หานซานเฉียนพูดเบา ๆ ฉี๋
จริง ๆ แล้วมีปัญหาหนึ่งที่ฉี๋อีหยุนคิดมานานแล้ว หลังจากที่เธอและหานซานเฉียนมีศัตรูร่วมกัน เธอไม่จำเป็นต้องทำลายความสัมพันธ์ระหว่างหานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ย ตราบใดที่เธอและหานซานเฉียนได้ร่วมมือกัน หานซานเฉียนก็สามารถช่วยแก้ปัญหาของตระกูลฉี๋ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมมาอยู่ต่อหน้าเธอ สำหรับฉี๋อีหยุนผู้มีเกณฑ์การคัดเลือกที่เข้มงวดมากนั้น ในใจของเธอยังคงไม่มีทางยอมแพ้หานซานเฉียน แม้ว่าตอนนี้เธอจะยังไม่ได้รักเขา แต่เธอรู้สึกว่าวันหนึ่งตัวเองจะต้องตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซูหยิงเซี่ยก็จะแตกหักทันที “ตระกูลหานมีความแค้นอะไรกับคุณ” หานซานเฉียนถาม “ตระกูลหานเป็นแค่คนที่ช่วยเหลือศัตรูของตระกูลฉี๋เท่านั้น แต่ถ้าคุณสามารถแก้ปัญหาฝ่ายตรงข้ามของตระกูลหานและตระกูลฉี๋ได้ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมหานเหยียนถึงมาหาคุณ แต่เท่าที่ฉันรู้เกี่ยวกับตระกูลหานในอเมริกานั้น พวกเขาจะต้องเรียกร้องจากคุณมากแน่นอน” ฉี๋อีหยุนกล่าว หานซานเฉียนยิ้มเจื่อน และพูดว่า “ไม่ใช่แค่มาก มันไม่มีเหตุผลเลยจริง ๆ พวกเขาสั่งให้ผมเปลี่ยนนามสกุล ผมจะทำตามคำขอแบบนี้ได้ยังไงล่ะ”
“แล้วคุณต้องการร่วมมือกับฉันไหม?” เมื่อเห็นว่าหานซานเฉียนกำลังครุ่นคิดอยู่เงียบ ๆ ฉี๋อีหยุนจึงถาม หานซานเฉียนพลันยืนขึ้น แล้วเดินไปที่หน้าต่างและพูดเสียงเรียบว่า “ผมไม่อยากทำให้ซูหยิงเซี่ยเสียใจ เนื่องจากตระกูลหานในอเมริกาก็เป็นศัตรูของคุณเหมือนกัน การร่วมมือจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่คุณต้องจำไว้ว่า ไม่ว่าในกรณีใด คุณไม่สามารถทำอะไรที่ทำให้ซูหยิงเซี่ยเสียใจได้ ไม่อย่างนั้นผมจะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด” เมื่อฟังเสียงที่เคร่งขรึมของหานซานเฉียนแล้ว ในใจฉี๋อีหยุนก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เพียงเพื่อซูหยิงเซี่ยเหรอ? “อย่าบอกนะว่าในใจของคุณไม่มีฉันเลย คุณรู้ไหมว่ามีผู้ชายกี่คนที่ชอบฉัน สำหรับพวกเขาแล้ว การได้จูบกับผู้หญิงสวยถือเป็นความโชคดีในชีวิต และตอนนี้โอกาสนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว” ฉี๋อีหยุนพูดอย่างไม่พอใจ หานซานเฉียนยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “คุณสวยจริง ความสวยสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชายส่วนใหญ่ได้ แต่สำหรับผมเป็นข้อยกเว้น ความรักของผมในชีวิตนี้มอบให้ซูหยิงเซี่ยไปหมดแล้ว ผมจะไม่ตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่นอีก” หลังจากพูดจบ หานซานเฉียนก็ออกจากห้องไป ฉี๋อีหยุนนั่งอยู่บนโซฟาด
จงเหลียงกัดฟันด้วยความเคียดแค้นและพูดว่า “กลุ่มตระกูลหานนี้ จงใจมุ่งเป้าหมายมาที่พวกเรา” “การแสดงออกของเธอนั้นมุ่งเป้ามาที่ฉัน และตอนนี้ฉันสามารถก้าวไปอีกขั้นหนึ่งได้” ไม่ใช่ว่าหานซานเฉียนจะไม่คิดหาวิธี และไม่ใช่ว่าเขาอยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่เขาไม่มีทางเลือก เงินเป็นเพียงตัวเลขที่ไม่สำคัญสำหรับเขา แต่ประโยคนี้ใช้ในชีวิตได้เท่านั้น และสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ตอนนี้คือ แรงกดดันอย่างท่วมท้นของโลกธุรกิจ และเงินนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยสำคัญ ตระกูลหานในอเมริกามีมรดกมานับร้อยปี จะไปพลิกกระแสน้ำด้วยเงินเพียงพันล้านในมือได้อย่างไร? จู่ ๆ ประตูสำนักงานก็ถูกผลักออก เลขาสาวสวยเดินเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก และพูดกับจงเหลียงว่า “พี่จง มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อหานเหยียนมาค่ะ” เมื่อได้ยินชื่อนี้ จงเหลียงพลันโกรธขึ้นมาทันที เพิ่งพูดอยู่หยก ๆ หานเหยียนก็มาถึงสำนักงานแล้ว และยังมีหานเฟิงกับหานชิงติดตามมาด้วย หานเฟิงเดินพรวดเข้ามาอย่างรวดเร็ว “นอกจากหานซานเฉียน คนอื่น ๆ ไสหัวออกไป” หานเฟิงพูดอย่างหยิ่งยโส จงเหลียงมองไปที่หานซานเฉียน เขาไม่ฟังที่หานเฟิงพูด เว้นแต่ว่าหานซานเฉียนจะเป็นคน