ในเวลานี้ ชายหญิงคู่หนึ่งเพิ่งมาถึงร้านขายชุดแต่งงาน เมื่อเห็นชุดแต่งงานที่ตู้โชว์หายไป อารมณ์ของฝ่ายหญิงก็ดำดิ่งลงทันที ความจริงบอกเธอว่า ชุดเจ้าสาวที่เธอเห็นเมื่อครู่เป็นความจริง ที่บอกว่าเป็นของปลอมก็เพียงเพื่อปลอบใจตัวเองเท่านั้น “เถ้าแก่เนี้ย ชุดแต่งงานมีคนซื้อไปแล้วจริง ๆ เหรอครับ?” ฝ่ายชายถามเถ้าแก่เนี้ยอย่างไม่เต็มใจยอมรับ“ใช่แล้ว พวกคุณเห็นด้วยเหรอคะ?” เถ้าแก่เนี้ยกล่าวชายหนุ่มก้มหน้าให้กับความจริงตรงหน้า เมื่อนึกถึงคำเย้ยหยันที่ตนเองพูดกับหานซานเฉียน ก็เหมือนตัวเองโดนตบหน้า “ไม่รู้ว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงชอบเขาไปได้ ได้ยินว่าฝ่ายหญิงคือประธาน และผู้ชายคนนั้นก็แค่แมงดาคนหนึ่ง” เถ้าแก่เนี้ยพูดอย่างเหยียดหยาม “แมงดา?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายหนุ่มก็ฟื้นคืนความมั่นใจ แม้ว่าชุดแต่งงานที่เขาซื้อจะไม่แพง แต่ก็เป็นเงินของเขาเอง ถ้าหานซานเฉียนเป็นแมงดาจริง จะเอาอะไรมาเทียบกับเขา? “เถ้าแก่เนี้ย คุณหมายถึงผู้หญิงเป็นคนจ่ายเงินค่าชุดแต่งงานเหรอครับ?” “แม้ว่าเขาจะใช้บัตร แต่เงินก็น่าจะเป็นของฝ่ายหญิง” เถ้าแก่เนี้ยกล่าว “ที่รัก ผมพูดถูกไหม? เจ้าหมอนั่นเป็นพวกกระจอก แล้วจะเป็
บริษัทประมูลหางหยางมีอิทธิพลอย่างมากในหวาเซี่ย อาจกล่าวได้ว่าเป็นบริษัทประมูลรายใหญ่ที่สุดในหวาเซี่ย มีสาขาและสถานที่ประมูลอยู่ในเมืองใหญ่หลายแห่ง ทุกปีมีสินค้าประมูลต่อเนื่องอย่างไม่ขาดสายมูลค่าสูงนับหมื่นล้าน มีโบราณวัตถุและของเก่าจำนวนมากไหลออกจากบริษัทประมูลหางหยาง ติดอันดับสูงในวงการประมูล ไม่เพียงเท่านี้ แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากในระดับนานาประเทศ ว่ากันว่าเจ้าของบริษัทประมูลหวาหยางได้ซื้อประเทศเล็ก ๆ จากกำลังทรัพย์ที่น่าตื่นตะลึงของเขา แน่นอน คำเล่าลือแบบนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน“ผมมาหาผู้รับผิดชอบของบริษัทของพวกคุณ” หานซานเฉียนยืนพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูบริษัทเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทได้รับการอบรมอย่างเข้มงวด ปฏิบัติกับทุกคนอย่างให้เกียรติ ไม่เคยใช้สายตาดูถูกคนอื่น เพราะวัตถุประสงค์ของบริษัทประมูลหวาหยางคือ ทุกคนมีโอกาสเป็นลูกค้า จะล่วงเกินใครไม่ได้ ยิ่งบุคคลนั้นร่ำรวยมากเท่าใด ก็ยิ่งต้องสงบเสงี่ยมมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาไม่อยากเสี่ยงที่จะล่วงเกินเศรษฐีท่านไหนเลย“คุณผู้ชาย ท่านได้นัดไว้หรือเปล่าครับ?” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถามหานซานเฉียน“เปล่าค
“บริษัทของเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการแขกทุกคนเป็นอย่างดี นี่คือสิ่งที่เราควรทำ หากท่านยังมีความต้องการใดเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งได้เลยครับ ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อตอบสนองความพึงพอใจครับ” หลิวจางกล่าว“ไม่มีแล้วครับ ผมได้ที่นั่งวีไอพีชั้นสูงสุดแล้ว ยังจะมีอะไรที่จะทำให้พอใจได้อีกล่ะครับ” หานซานเฉียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่คือสิ่งที่สมควรแล้วครับ” หลิวจางกล่าว เขาชื่นชมคนรวยที่ไม่หยิ่งผยองเหมือนหานซานเฉียน ไม่เหมือนพวกรวยชั่วข้ามคืน มีเงินไม่เท่าไหร่ก็ทำจองหอง “ผมขอตัวก่อนครับ” หลิวจางและผู้ช่วยของเขาไปส่งหานซานเฉียนที่ประตูของบริษัท เขามองตามหานซานเฉียนออกไป“ประธานหลิวคะ ชายหนุ่มคนนี้ตอนเดินอยู่บนถนน มองยังไงก็ไม่เหมือนเศรษฐีเลย” ผู้ช่วยพูดกับหลิวจาง“ยิ่งรวยก็ยิ่งทำตัวเงียบ แต่เขารวยเกินไป แถมอายุยังน้อย ผมไม่รู้ว่าเขามาจากตระกูลไหน” หลิวจางกล่าว ผู้ช่วยถอนหายใจแล้วพูดว่า “น่าเสียดาย ดูท่าทางเหมือนเขาจะมีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้ว”หลิวจางมองไปที่ผู้ช่วยของเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ว่าผมดูถูกคุณนะ แต่การที่คุณสามารถหาผู้ชายที่มีทรัพย์สินเป็นสิบล้านได้ก็นับว่าดีแล้ว คนอย่างคุณ
หลิวจางรู้สึกจนปัญญากับคนประเภทนี้ที่ต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี เงินยี่สิบล้านก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาใช้เงินจำนวนมากในการประมูล อะไรคือการใช้ศักดิ์ศรีที่ไร้ความหมายนี้? “ถ้าคุณยืนยัน คุณต้องจ่ายเงินมัดจำหนึ่งล้านหยวนก่อน หากคุณไม่ประมูล เงินมัดจำจะไม่สามารถคืนได้ครับ” หลิวจางกล่าวเตือน “เลิกพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว คุณดูถูกผมเหรอ?” หม่าเยี่ยนกล่าวอย่างไม่พอใจ หลิวจางส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ กรุณาตามผมมาเถอะครับ” ในเวลานี้ แม้แต่ผู้ช่วยก็อดไม่ได้ที่จะแอบส่ายหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของหานซานเฉียน เธอคงมองเห็นเป็นเรื่องตลก แต่หลังจากเปรียบเทียบแล้ว ช่องว่างระหว่างพวกเขาช่างน่าขัน ชายคนหนึ่งที่มีเป็นหมื่นล้านทำตัวเงียบ ๆ และได้รับการอบรมมาดี แต่ชายที่มีแค่ยี่สิบล้านยังคงหยิ่งผยองเหลือทน เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่โรงแรม ซูหยิงเซี่ยก็ผล็อยหลับไป กรนราวกับฟ้าลั่น ดูเหมือนว่าเธอจะเหนื่อยจริง ๆ นี่คืออีกด้านหนึ่งของเทพธิดาที่ไม่มีใครรู้จัก ใครจะคิดว่าผู้หญิงสวยอย่างซูหยิงเซี่ยจะนอนกรนตอนเธอหลับล่ะ? ในอีกห้องหนึ่ง หลังจากที่หยางเฉินได้มีสัมพันธ์กับเถ้าแก่เนี้ย ทั้
“น่าสนุกดีนะ ฉันสงสัยว่าเขาจะสร้างความประทับใจให้ฉันในงานประมูลวันมะรืนนี้ได้ไหม ถ้าเขาสามารถซื้อสร้อยคอนิจนิรันดร์ได้จริง มันก็จะน่าสนุกมาก” เถ้าแก่เนี้ยกล่าวอย่างมีความหวัง “ทรัพย์สินของตระกูลซูไม่สามารถใช้เกินห้าร้อยล้านได้ ถ้าเขาสามารถซื้อสร้อยคอนิจนิรันดร์ได้จริง ๆ เงินจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลซู” หยางเฉินยังสงสัยว่าหานซานเฉียนจะทำสิ่งนี้ได้หรือไม่ “ถ้าฉันคบกับคนแบบนี้ ฉันคงไม่ต้องทำงานร้านชุดแต่งงานหนักขนาดนี้?” เถ้าแก่เนี้ยยิ้ม หยางเฉินไม่ได้ปฏิบัติต่อเธอในฐานะผู้หญิงของเขา และเขาก็ไม่สนใจเรื่องชีวิตส่วนตัวของเธอด้วย แต่เรื่องนี้เขาต้องเตือนเธอว่า “ผมแนะนำให้คุณเลิกคิดเรื่องนี้ซะ จะได้ไม่ต้องถูกปฏิเสธ” “ฉันมีเสน่ห์ไม่พอเหรอคะ?” เถ้าแก่เนี้ยยืนขึ้น และจงใจทำท่าทางเย้ายวน “ถ้าเขาเป็นคนใหญ่คนโตจริง ๆ และเต็มใจที่จะอยู่ในตระกูลซูด้วยความอัปยศ นอกจากเห็นแก่ซูหยิงเซี่ยแล้ว จะยังมีอะไรอีกไหมที่คุ้มกับความพยายามของเขาในตระกูลซู?” หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “เพราะความรักเหรอคะ?” เถ้าแก่เนี้ยถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แม้ว่าเธอจะมั่นใจในรูปร่างและหน้าตาของเธอมาก แต่เธอก็
“แมงดามาแล้ว” รอเพียงไม่นานพานหยุนหยุนก็เห็นหานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยทั้งสองคน จึงเอ่ยเตือนหม่าเยี่ยนด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบหม่าเยี่ยนจัดคอปกเสื้อด้วยท่าทางอวดดี เมื่อเขาเห็นซูหยิงเซี่ย เขาก็รู้สึกอิจฉาริษยาหานซานเฉียนอีกครั้ง เพราะความสวยของซูหยิงเซี่ย ทำไมใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของเธอถึงได้สวยขนาดนี้ และตัวเขาเป็นคนร่ำรวยมีเงินทอง แต่ทำไมถึงได้ภรรยาที่หน้าตาธรรมดากันนะ? ต่อหน้าซูหยิงเซี่ย พานหยุนหยุนรู้สึกต่ำต้อยเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นมอง เพราะเธอไม่เพียงแต่พ่ายแพ้ต่อซูหยิงเซี่ยในเรื่องรูปลักษณ์เท่านั้น แต่สถานะของเธอเองก็เช่นกัน เมื่อทราบจากเถ้าแก่เนี้ยว่าซูหยิงเซี่ยเป็นประธานของบริษัท พานหยุนหยุนก็หมดความกระตือรือร้นที่จะแข่งขันกับเธอ แต่เธอยังมีสิ่งหนึ่งที่สามารถเทียบกับซูหยิงเซี่ยได้ นั่นก็คือ สามีของเธอ แม้ว่าหม่าเยี่ยนจะไม่ใช่เศรษฐีชั้นแนวหน้า แต่ก็รวยมากพอถ้าเทียบกับผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินอย่างหานซานเฉียน“บังเอิญจัง ฉันไม่นึกว่าพวกนายเองก็จะเข้าร่วมการประมูลด้วย” หม่าเยี่ยนพูดกับหานซานเฉียนด้วยรอยยิ้ม“มันบังเอิญมากที่นายจงใจรอฉันที่นี่ มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ นี่ฉัน
แววตาอย่างนั้นเหรอ? แววตาของผู้คนหลายคนที่กำลังมองพวกเขาอยู่นั้นมีความสงสัย และผู้ชายบางคนถึงกับแสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจน แต่ในมุมมองของซูหยิงเซี่ยนั้น ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ที่น่าสงสัยก็คือพวกเขาไม่รู้จักกัน สำหรับเรื่องสีหน้าท่าทางนั้นซูหยิงเซี่ยนั้นเคยชินมานานแล้ว เพราะเธอเป็นที่รู้จักในฐานะสาวงามอันดับหนึ่งในหยุนเฉิง “พวกเราจะไปไหนกันคะ?” ซูหยิงเซี่ยถาม “เดี๋ยวคุณก็รู้แล้วครับ” พานหยุนหยุนซึ่งมองดูไล่หลังของหานซานเฉียน และซูหยิงเซี่ยอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “พวกเขาจะไปไหนกันคะ?” หม่าเยี่ยนขมวดคิ้ว เขาเองก็อยากรู้เรื่องนี้เช่นกัน บรรดาแขกวีไอพีในโซนที่ 4 ไม่มีใครต้อนรับเขาเลยสักคน แต่กลับมีใครบางคนต้อนรับหานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ย แสดงให้เห็นว่าที่นั่งของพวกเขานั้นสูงกว่าโซนที่ 4 เสียอีก! “เจ้าแมงดานี่ช่างโชคดีเสียจริง ฉันนี่เสียเงินล้านไปเปล่า ๆ เลย" หม่าเยี่ยนพูดอย่างโมโห สายตาทั้งคู่ของหยางเฉินและเถ้าแก่เนี้ยที่นั่งอยู่ในโซนที่ 5 ได้มองตามหานซานเฉียนไป พวกเขารู้ว่าสองคนนี้จะไม่ได้นั่งอยู่ในโซนที่ 5 และตำแหน่งที่นั่งของพวกเขา ก็กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนประ
“ตรงนี้คือที่นั่งของวีไอพีระดับสูง ต้องมีทรัพย์สินมูลค่าสุทธิมากกว่าหนึ่งพันล้านจึงจะนั่งที่นี่ได้ พวกเขาไม่เคยเจอเรามาก่อน ย่อมต้องแปลกใจเป็นธรรมดาครับ” หานซานเฉียนอธิบายด้วยรอยยิ้ม ทรัพย์สินหนึ่งพันล้านถึงมีสิทธินั่งที่นี่! แววตาของซูหยิงเซี่ยเปลี่ยนไปเหมือนกับคนอื่น ๆ เพราะเห็นได้ชัดว่ามูลค่าทรัพย์สินของเธอนั้นไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งหมายความว่าที่เธอสามารถนั่งที่นี่ได้ไม่ได้เกี่ยวกับเธอ แต่เป็นเพราะหานซานเฉียน พันล้าน ต่อให้เป็นตระกูลซูก็ไม่สามารถสัมผัสกับตัวเลขนี้ได้ แต่เขา...ซูหยิงเซี่ยสูดหายใจเข้าลึก เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง“ที่จริงแล้ว ผมรวยมากเลย” หานซานเฉียนหัวเราะ ซูหยิงเซี่ยพยักหน้า หลังจากที่หานซานเฉียนซื้อคฤหาสน์ใจกลางภูเขา เธอก็เดาออกแล้วว่าหานซานเฉียนนั้นร่ำรวย แต่เธอไม่นึกว่าเขาจะร่ำรวยขนาดนี้ หลังจากการประมูลเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ของประมูลจำนวนมากล้วนแต่กระตุ้นการเสนอราคาที่ดุเดือด แต่หานซานเฉียนไม่สนใจในสิ่งเหล่านี้ เนื่องจากพวกเขามาเพื่อสร้อยคอนิจนิรันดร์ เขาจะไม่ลงมือจนกว่าสร้อยคอนั้นจะขึ้นเวทีประมูลในเวลานี้หม่าเยี่ยนลำบากมากที่จะต้องจ่ายเงินมัดจำหนึ
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ