รอพวกเขาสองคนถ่ายจนเสร็จ และตอนที่เดินสวนกันกับหานซานเฉียนที่ยืนรออยู่นั้น หญิงสาวก็พูดด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ ว่า : “ไม่มีเงินเลยต้องใส่เพื่อให้ดูหน้าใหญ่ใจโต ไม่ได้กลัวถูกคนหัวเราะเยาะเอาซะเลย” “พี่ชายครับ ของก๊อบตัวนี้ของพี่ราคาเท่าไหร่ครับ ทำจากไหน ฝีมือเฉย ๆ มากเลยนะครับ ชุ่ยขนาดนี้ ดูแว็บเดียวก็รู้เลยว่าของก๊อบ” ชายหนุ่มพูดกับหานซานเฉียนอย่างเยาะเย้ย “ในเมื่อคุณรู้ว่าชุดเจ้าสาวชุดนี้ที่ภรรยาของผมใส่อยู่ น่าจะเป็นร้านเดียวกับร้านชุดแต่งงานที่เช่ามา เดี๋ยวตอนที่คุณไปคืนชุดก็ลองไปถามดูก็รู้แล้วนี่ครับ” หานซานเฉียนหัวเราะ “ผมไปแน่นอนครับ แต่ชุดเจ้าสาวที่ภรรยาผมใส่อยู่ไม่ได้เช่ามา แต่จ่ายเงินไปแสนกว่า ถ้าเทียบกับคุณแล้วน่าจะแพงกว่ามากนะครับ” ชายหนุ่มพูดแล้วหัวเราะอย่างได้ใจ หานซานเฉียนส่ายหัวอย่างเอือมระอา ขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับคนแบบนี้ พวกตัวตลก หานซานเฉียนไม่อยากที่จะต่อกรกับเขาแม้แต่น้อย ในระหว่างการถ่ายรูป ทั้งสองคนเหมือนคู่รักที่หวานชื่นคู่หนึ่ง ความเหมาะสมของท่าทางทุกอย่างเต็มไปด้วยบรรยากาศที่หวานชื่น ทำให้ผู้หญิงด้วยกันอย่างสวีถงอิจฉาไม่หยุด เธอไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งงาน
ในเวลานี้ ชายหญิงคู่หนึ่งเพิ่งมาถึงร้านขายชุดแต่งงาน เมื่อเห็นชุดแต่งงานที่ตู้โชว์หายไป อารมณ์ของฝ่ายหญิงก็ดำดิ่งลงทันที ความจริงบอกเธอว่า ชุดเจ้าสาวที่เธอเห็นเมื่อครู่เป็นความจริง ที่บอกว่าเป็นของปลอมก็เพียงเพื่อปลอบใจตัวเองเท่านั้น “เถ้าแก่เนี้ย ชุดแต่งงานมีคนซื้อไปแล้วจริง ๆ เหรอครับ?” ฝ่ายชายถามเถ้าแก่เนี้ยอย่างไม่เต็มใจยอมรับ“ใช่แล้ว พวกคุณเห็นด้วยเหรอคะ?” เถ้าแก่เนี้ยกล่าวชายหนุ่มก้มหน้าให้กับความจริงตรงหน้า เมื่อนึกถึงคำเย้ยหยันที่ตนเองพูดกับหานซานเฉียน ก็เหมือนตัวเองโดนตบหน้า “ไม่รู้ว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงชอบเขาไปได้ ได้ยินว่าฝ่ายหญิงคือประธาน และผู้ชายคนนั้นก็แค่แมงดาคนหนึ่ง” เถ้าแก่เนี้ยพูดอย่างเหยียดหยาม “แมงดา?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายหนุ่มก็ฟื้นคืนความมั่นใจ แม้ว่าชุดแต่งงานที่เขาซื้อจะไม่แพง แต่ก็เป็นเงินของเขาเอง ถ้าหานซานเฉียนเป็นแมงดาจริง จะเอาอะไรมาเทียบกับเขา? “เถ้าแก่เนี้ย คุณหมายถึงผู้หญิงเป็นคนจ่ายเงินค่าชุดแต่งงานเหรอครับ?” “แม้ว่าเขาจะใช้บัตร แต่เงินก็น่าจะเป็นของฝ่ายหญิง” เถ้าแก่เนี้ยกล่าว “ที่รัก ผมพูดถูกไหม? เจ้าหมอนั่นเป็นพวกกระจอก แล้วจะเป็
บริษัทประมูลหางหยางมีอิทธิพลอย่างมากในหวาเซี่ย อาจกล่าวได้ว่าเป็นบริษัทประมูลรายใหญ่ที่สุดในหวาเซี่ย มีสาขาและสถานที่ประมูลอยู่ในเมืองใหญ่หลายแห่ง ทุกปีมีสินค้าประมูลต่อเนื่องอย่างไม่ขาดสายมูลค่าสูงนับหมื่นล้าน มีโบราณวัตถุและของเก่าจำนวนมากไหลออกจากบริษัทประมูลหางหยาง ติดอันดับสูงในวงการประมูล ไม่เพียงเท่านี้ แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากในระดับนานาประเทศ ว่ากันว่าเจ้าของบริษัทประมูลหวาหยางได้ซื้อประเทศเล็ก ๆ จากกำลังทรัพย์ที่น่าตื่นตะลึงของเขา แน่นอน คำเล่าลือแบบนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน“ผมมาหาผู้รับผิดชอบของบริษัทของพวกคุณ” หานซานเฉียนยืนพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูบริษัทเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทได้รับการอบรมอย่างเข้มงวด ปฏิบัติกับทุกคนอย่างให้เกียรติ ไม่เคยใช้สายตาดูถูกคนอื่น เพราะวัตถุประสงค์ของบริษัทประมูลหวาหยางคือ ทุกคนมีโอกาสเป็นลูกค้า จะล่วงเกินใครไม่ได้ ยิ่งบุคคลนั้นร่ำรวยมากเท่าใด ก็ยิ่งต้องสงบเสงี่ยมมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาไม่อยากเสี่ยงที่จะล่วงเกินเศรษฐีท่านไหนเลย“คุณผู้ชาย ท่านได้นัดไว้หรือเปล่าครับ?” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถามหานซานเฉียน“เปล่าค
“บริษัทของเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการแขกทุกคนเป็นอย่างดี นี่คือสิ่งที่เราควรทำ หากท่านยังมีความต้องการใดเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งได้เลยครับ ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อตอบสนองความพึงพอใจครับ” หลิวจางกล่าว“ไม่มีแล้วครับ ผมได้ที่นั่งวีไอพีชั้นสูงสุดแล้ว ยังจะมีอะไรที่จะทำให้พอใจได้อีกล่ะครับ” หานซานเฉียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่คือสิ่งที่สมควรแล้วครับ” หลิวจางกล่าว เขาชื่นชมคนรวยที่ไม่หยิ่งผยองเหมือนหานซานเฉียน ไม่เหมือนพวกรวยชั่วข้ามคืน มีเงินไม่เท่าไหร่ก็ทำจองหอง “ผมขอตัวก่อนครับ” หลิวจางและผู้ช่วยของเขาไปส่งหานซานเฉียนที่ประตูของบริษัท เขามองตามหานซานเฉียนออกไป“ประธานหลิวคะ ชายหนุ่มคนนี้ตอนเดินอยู่บนถนน มองยังไงก็ไม่เหมือนเศรษฐีเลย” ผู้ช่วยพูดกับหลิวจาง“ยิ่งรวยก็ยิ่งทำตัวเงียบ แต่เขารวยเกินไป แถมอายุยังน้อย ผมไม่รู้ว่าเขามาจากตระกูลไหน” หลิวจางกล่าว ผู้ช่วยถอนหายใจแล้วพูดว่า “น่าเสียดาย ดูท่าทางเหมือนเขาจะมีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้ว”หลิวจางมองไปที่ผู้ช่วยของเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ว่าผมดูถูกคุณนะ แต่การที่คุณสามารถหาผู้ชายที่มีทรัพย์สินเป็นสิบล้านได้ก็นับว่าดีแล้ว คนอย่างคุณ
หลิวจางรู้สึกจนปัญญากับคนประเภทนี้ที่ต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี เงินยี่สิบล้านก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาใช้เงินจำนวนมากในการประมูล อะไรคือการใช้ศักดิ์ศรีที่ไร้ความหมายนี้? “ถ้าคุณยืนยัน คุณต้องจ่ายเงินมัดจำหนึ่งล้านหยวนก่อน หากคุณไม่ประมูล เงินมัดจำจะไม่สามารถคืนได้ครับ” หลิวจางกล่าวเตือน “เลิกพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว คุณดูถูกผมเหรอ?” หม่าเยี่ยนกล่าวอย่างไม่พอใจ หลิวจางส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ กรุณาตามผมมาเถอะครับ” ในเวลานี้ แม้แต่ผู้ช่วยก็อดไม่ได้ที่จะแอบส่ายหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของหานซานเฉียน เธอคงมองเห็นเป็นเรื่องตลก แต่หลังจากเปรียบเทียบแล้ว ช่องว่างระหว่างพวกเขาช่างน่าขัน ชายคนหนึ่งที่มีเป็นหมื่นล้านทำตัวเงียบ ๆ และได้รับการอบรมมาดี แต่ชายที่มีแค่ยี่สิบล้านยังคงหยิ่งผยองเหลือทน เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่โรงแรม ซูหยิงเซี่ยก็ผล็อยหลับไป กรนราวกับฟ้าลั่น ดูเหมือนว่าเธอจะเหนื่อยจริง ๆ นี่คืออีกด้านหนึ่งของเทพธิดาที่ไม่มีใครรู้จัก ใครจะคิดว่าผู้หญิงสวยอย่างซูหยิงเซี่ยจะนอนกรนตอนเธอหลับล่ะ? ในอีกห้องหนึ่ง หลังจากที่หยางเฉินได้มีสัมพันธ์กับเถ้าแก่เนี้ย ทั้
“น่าสนุกดีนะ ฉันสงสัยว่าเขาจะสร้างความประทับใจให้ฉันในงานประมูลวันมะรืนนี้ได้ไหม ถ้าเขาสามารถซื้อสร้อยคอนิจนิรันดร์ได้จริง มันก็จะน่าสนุกมาก” เถ้าแก่เนี้ยกล่าวอย่างมีความหวัง “ทรัพย์สินของตระกูลซูไม่สามารถใช้เกินห้าร้อยล้านได้ ถ้าเขาสามารถซื้อสร้อยคอนิจนิรันดร์ได้จริง ๆ เงินจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลซู” หยางเฉินยังสงสัยว่าหานซานเฉียนจะทำสิ่งนี้ได้หรือไม่ “ถ้าฉันคบกับคนแบบนี้ ฉันคงไม่ต้องทำงานร้านชุดแต่งงานหนักขนาดนี้?” เถ้าแก่เนี้ยยิ้ม หยางเฉินไม่ได้ปฏิบัติต่อเธอในฐานะผู้หญิงของเขา และเขาก็ไม่สนใจเรื่องชีวิตส่วนตัวของเธอด้วย แต่เรื่องนี้เขาต้องเตือนเธอว่า “ผมแนะนำให้คุณเลิกคิดเรื่องนี้ซะ จะได้ไม่ต้องถูกปฏิเสธ” “ฉันมีเสน่ห์ไม่พอเหรอคะ?” เถ้าแก่เนี้ยยืนขึ้น และจงใจทำท่าทางเย้ายวน “ถ้าเขาเป็นคนใหญ่คนโตจริง ๆ และเต็มใจที่จะอยู่ในตระกูลซูด้วยความอัปยศ นอกจากเห็นแก่ซูหยิงเซี่ยแล้ว จะยังมีอะไรอีกไหมที่คุ้มกับความพยายามของเขาในตระกูลซู?” หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “เพราะความรักเหรอคะ?” เถ้าแก่เนี้ยถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แม้ว่าเธอจะมั่นใจในรูปร่างและหน้าตาของเธอมาก แต่เธอก็
“แมงดามาแล้ว” รอเพียงไม่นานพานหยุนหยุนก็เห็นหานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยทั้งสองคน จึงเอ่ยเตือนหม่าเยี่ยนด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบหม่าเยี่ยนจัดคอปกเสื้อด้วยท่าทางอวดดี เมื่อเขาเห็นซูหยิงเซี่ย เขาก็รู้สึกอิจฉาริษยาหานซานเฉียนอีกครั้ง เพราะความสวยของซูหยิงเซี่ย ทำไมใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของเธอถึงได้สวยขนาดนี้ และตัวเขาเป็นคนร่ำรวยมีเงินทอง แต่ทำไมถึงได้ภรรยาที่หน้าตาธรรมดากันนะ? ต่อหน้าซูหยิงเซี่ย พานหยุนหยุนรู้สึกต่ำต้อยเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นมอง เพราะเธอไม่เพียงแต่พ่ายแพ้ต่อซูหยิงเซี่ยในเรื่องรูปลักษณ์เท่านั้น แต่สถานะของเธอเองก็เช่นกัน เมื่อทราบจากเถ้าแก่เนี้ยว่าซูหยิงเซี่ยเป็นประธานของบริษัท พานหยุนหยุนก็หมดความกระตือรือร้นที่จะแข่งขันกับเธอ แต่เธอยังมีสิ่งหนึ่งที่สามารถเทียบกับซูหยิงเซี่ยได้ นั่นก็คือ สามีของเธอ แม้ว่าหม่าเยี่ยนจะไม่ใช่เศรษฐีชั้นแนวหน้า แต่ก็รวยมากพอถ้าเทียบกับผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินอย่างหานซานเฉียน“บังเอิญจัง ฉันไม่นึกว่าพวกนายเองก็จะเข้าร่วมการประมูลด้วย” หม่าเยี่ยนพูดกับหานซานเฉียนด้วยรอยยิ้ม“มันบังเอิญมากที่นายจงใจรอฉันที่นี่ มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ นี่ฉัน
แววตาอย่างนั้นเหรอ? แววตาของผู้คนหลายคนที่กำลังมองพวกเขาอยู่นั้นมีความสงสัย และผู้ชายบางคนถึงกับแสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจน แต่ในมุมมองของซูหยิงเซี่ยนั้น ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ที่น่าสงสัยก็คือพวกเขาไม่รู้จักกัน สำหรับเรื่องสีหน้าท่าทางนั้นซูหยิงเซี่ยนั้นเคยชินมานานแล้ว เพราะเธอเป็นที่รู้จักในฐานะสาวงามอันดับหนึ่งในหยุนเฉิง “พวกเราจะไปไหนกันคะ?” ซูหยิงเซี่ยถาม “เดี๋ยวคุณก็รู้แล้วครับ” พานหยุนหยุนซึ่งมองดูไล่หลังของหานซานเฉียน และซูหยิงเซี่ยอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “พวกเขาจะไปไหนกันคะ?” หม่าเยี่ยนขมวดคิ้ว เขาเองก็อยากรู้เรื่องนี้เช่นกัน บรรดาแขกวีไอพีในโซนที่ 4 ไม่มีใครต้อนรับเขาเลยสักคน แต่กลับมีใครบางคนต้อนรับหานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ย แสดงให้เห็นว่าที่นั่งของพวกเขานั้นสูงกว่าโซนที่ 4 เสียอีก! “เจ้าแมงดานี่ช่างโชคดีเสียจริง ฉันนี่เสียเงินล้านไปเปล่า ๆ เลย" หม่าเยี่ยนพูดอย่างโมโห สายตาทั้งคู่ของหยางเฉินและเถ้าแก่เนี้ยที่นั่งอยู่ในโซนที่ 5 ได้มองตามหานซานเฉียนไป พวกเขารู้ว่าสองคนนี้จะไม่ได้นั่งอยู่ในโซนที่ 5 และตำแหน่งที่นั่งของพวกเขา ก็กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนประ