“ตรงนี้คือที่นั่งของวีไอพีระดับสูง ต้องมีทรัพย์สินมูลค่าสุทธิมากกว่าหนึ่งพันล้านจึงจะนั่งที่นี่ได้ พวกเขาไม่เคยเจอเรามาก่อน ย่อมต้องแปลกใจเป็นธรรมดาครับ” หานซานเฉียนอธิบายด้วยรอยยิ้ม ทรัพย์สินหนึ่งพันล้านถึงมีสิทธินั่งที่นี่! แววตาของซูหยิงเซี่ยเปลี่ยนไปเหมือนกับคนอื่น ๆ เพราะเห็นได้ชัดว่ามูลค่าทรัพย์สินของเธอนั้นไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งหมายความว่าที่เธอสามารถนั่งที่นี่ได้ไม่ได้เกี่ยวกับเธอ แต่เป็นเพราะหานซานเฉียน พันล้าน ต่อให้เป็นตระกูลซูก็ไม่สามารถสัมผัสกับตัวเลขนี้ได้ แต่เขา...ซูหยิงเซี่ยสูดหายใจเข้าลึก เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง“ที่จริงแล้ว ผมรวยมากเลย” หานซานเฉียนหัวเราะ ซูหยิงเซี่ยพยักหน้า หลังจากที่หานซานเฉียนซื้อคฤหาสน์ใจกลางภูเขา เธอก็เดาออกแล้วว่าหานซานเฉียนนั้นร่ำรวย แต่เธอไม่นึกว่าเขาจะร่ำรวยขนาดนี้ หลังจากการประมูลเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ของประมูลจำนวนมากล้วนแต่กระตุ้นการเสนอราคาที่ดุเดือด แต่หานซานเฉียนไม่สนใจในสิ่งเหล่านี้ เนื่องจากพวกเขามาเพื่อสร้อยคอนิจนิรันดร์ เขาจะไม่ลงมือจนกว่าสร้อยคอนั้นจะขึ้นเวทีประมูลในเวลานี้หม่าเยี่ยนลำบากมากที่จะต้องจ่ายเงินมัดจำหนึ
“ไม่รู้ว่าผู้หญิงแบบไหนถึงจะมีโอกาสแต่งงานกับคุณได้ เธอคงมีความสุขมากจริง ๆ ค่ะ ”ตอนที่หญิงสาวเซ็กซี่พูดแบบนี้นั้น เธอจับมือลู่ซุนไปด้วย แม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าลู่ซุนนั้นไม่ได้จริงใจต่อเธอ แต่เธอยังคงเต็มใจที่จะอยู่ข้างกายของเขา“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ผู้หญิงของฉันจะต้องมีความสุขที่สุดในโลกอย่างแน่นอน” ลู่ซุนเอ่ยอย่างภูมิใจ เมื่อเจ้าหน้าที่นำทั้งสองคนขึ้นสู่ตำแหน่งที่นั่งวีไอพีระดับสูง ลู่ซุนไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนสองคนนั่งอยู่ที่นี่อยู่ก่อนแล้ว แถมยังเป็นคนที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เขาเลือกที่จะเพิกเฉยต่อหานซานเฉียน และมุ่งความสนใจไปที่ซูหยิงเซี่ย ทั้งกิริยาและท่าทางลักษณะของซูหยิงเซี่ยนั้น ล้วนดีกว่าผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขา นี่จึงทำให้ลู่ซุนยิ้มออกมาตราบใดที่เธออยู่บนเกาะจีเหยียน ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขาต้องการแต่ไม่สามารถคว้ามาได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีแฟนแล้ว หรือกระทั่งมีสามี เขาก็ไม่สนใจ ลู่ซุนสะบัดมือของสาวเซ็กซี่ออก และเดินไปหาซูหยิงเซี่ย เขาพูดด้วยรอยยิ้มแบบสุภาพบุรุษว่า “คนสวย ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน คุณมาพักผ่อนที่เกาะจีเหยียนอย่างนั้นหรือครับ?” ซูหยิงเซี่ยสังเกตว่าสายตาของ
ตรงที่นั่งวีไอพีมีคนอยู่สี่คน สองคู่ชายหญิง หรือพูดได้ว่าเป็นการแข่งขันระหว่างผู้ที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูงสุดอย่างหานซานเฉียนและลู่ซุน อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่รู้จักลู่ซุน และยิ่งรู้ซึ้งถึงภูมิหลังของลู่ซุนเป็นอย่างดี ดังนั้นในความคิดของพวกเขา จึงคิดว่าลู่ซุนมีโอกาสถึง 99 เปอร์เซ็นต์ที่จะชนะการประมูลสร้อยคอนิจนิรันดร์ “80 ล้าน” ในตอนนี้เองลู่ซุนก็เริ่มประมูลดั่งที่พวกเขาคาดเอาไว้ และยังทำให้ราคาพุ่งสูงถึง 80 ล้านในคราเดียว มีเสียงปรบมือดังสนั่น สำหรับการเสนอราคาของลู่ซุน “สมกับที่เป็นนายน้อยลู่ ช่างประมูลได้อย่างหรูหราฟุ่มเฟือยเสียจริง”“ดูเหมือนว่าวันนี้คงไม่มีใครสามารถแข่งขันประมูลชิงสร้อยคอนิจนิรันดร์กับนายน้อยลู่ได้แล้ว” “ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่จะทำให้นายน้อยลู่นั้นสวมสร้อยคอเส้นนี้ให้เองกับมือ ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ” คนในโลกธุรกิจเหล่านั้นต่างคว้าโอกาสประจบประแจงลู่ซุน พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้พูด และอยากสร้างความประทับใจอันดีให้แก่ลู่ซุน หากว่าพวกเขาสามารถทำธุรกิจกับลู่ซุนได้เพราะเรื่องนี้ พวกเขาก็ถือว่าคุ้มค่ามาก ลู่ซุนเหลือบมองหานซานเฉียนอย่างลำพองใจ และกล่าวว่า
“ฉันหวังว่าเขาจะเลิกต่อกรกับลู่ซุน ถ้าเขาประมูลสร้อยคอเส้นนี้ไปได้ เขาอาจจะตายได้” หยางเฉินกล่าว อีกด้านหนึ่ง หม่าเยี่ยนและพานหยุนหยุนตกตะลึงจนพูดไม่ออก ราคา 200 ล้านหยวน ทำให้หม่าเยี่ยนตกใจจนแทบแย่ “เขาเป็นผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินจริง ๆ เหรอ?” พานหยุนหยุนกล่าวอย่างสงสัย ถ้าเป็นแค่พวกที่ชอบเกาะผู้หญิงกิน ทำไมถึงได้ใช้เงินจำนวนมากในการประมูลสร้อยคอ และท่าทางที่เชื่อฟังของซูหยิงเซี่ยนั่นอีก ลำดับความสำคัญแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่า เธอเชื่อฟังหานซานเฉียนหม่าเยี่ยนกัดฟันด้วยความโมโห เขาทำใจยอมรับได้เพียงแค่ว่าหานซานเฉียนเป็นแค่แมงดา เพราะเขาแสดงความมั่นใจต่อหน้าหานซานเฉียนไปอย่างอวดดี และพูดดูถูกหานซานเฉียนไปตั้งเยอะ หากว่าเขายอมรับว่าหานซานเฉียนมีอำนาจ นั่นไม่เท่ากับว่าเขาหน้าแตกอย่างนั้นเหรอ?“แม้ว่าเขาจะสามารถประมูลสร้อยคอไปได้ แต่คุณไม่ได้ยินหรือไงว่าคนพวกนี้พูดว่าอะไร ผู้ชายคนนี้ชื่อลู่ซุน เป็นชายหนุ่มที่ร่ำรวยที่สุดในเกาะจีเหยียน ถ้าหานซานเฉียนนั้นโง่เง่าจนไปทำให้เขาขุ่นเคืองจะมีจุดจบที่ดีได้อย่างไร?หม่าเยี่ยนกล่าวพานหยุนหยุนพยักหน้า ดั่งคำพังเพยที่กล่าวไว้ว่า มังกรที่
เมื่อลู่ซุนมีท่าทีสงสัยในเรื่องนี้ คนอื่นๆ ในห้องประมูลนั้นก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน “ผู้ชายคนนี้คงจะไม่มาพูดเล่น ๆ หรอกนะ” “ก็เป็นไปได้ เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ของเขาแล้ว เขาดูไม่เหมือนเศรษฐีเลย เขาจะเสนอราคาสร้อยคอสูงถึง 300 ล้าน ได้อย่างไร” “น่าสนใจนะ ชายหนุ่มคนนี้คงไม่โง่ขนาดนั้นหรอก คิดว่าที่นี่เป็นที่ที่เขาสามารถพูดสุ่มสี่สุ่มห้าได้เช่นนั้นเหรอ?” “บ้าเอ้ย ถ้าเขานั้นไร้ศักยภาพจริง ๆ ฉันนี่ขายหน้าแทนเขาเลย”สภาพจิตใจของกลุ่มคนมีความคิดที่จะรอดูการแสดงดี ๆ รวมถึงหม่าเยี่ยน และพานหยุนหยุนนั้นก็มีความสุขมากขึ้น ถ้าหานซานเฉียนแค่ขี้โม้จริง เขาจะมีความสุขมาก ที่เขาถูกเปิดโปงเรื่องขี้โม้ต่อหน้าคนจำนวนมากขนาดนี้ และเขาก็จะมีโอกาสหัวเราเยาะหานซานเฉียน แต่โอกาสแบบนี้มันถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะไม่ตกไปอยู่ในมือของหม่าเยี่ยน ทรัพย์สินของหานซานเฉียนได้รับการตรวจสอบมาก่อน และได้รับการยืนยันโดยผู้รับผิดชอบอย่างหลิวจาง สิ่งนี้จะเป็นเรื่องโกหกได้อย่างไร? “หลิวจางล่ะ ให้หลิวจางมาพบฉัน” ลู่ซุนโวยวาย หลิวจางออกมาจากหลังเวที เขาเป็นคนเดียวบนเกาะจีเหยียนที่ไม่กลัวลู่ซุน เพราะนายใหญ่ที่อยู่เบื้
“หานซานเฉียน ลู่ซุนเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น คุณควรออกจากเกาะจีเหยียนโดยเร็วที่สุด ถ้าไม่อย่างนั้นเขาต้องมาก่อความวุ่นวายให้คุณแน่นอน” เถ้าแก่เนี้ยแทบจะรอไม่ไหวที่จะบอกหานซานเฉียน หยางเฉินพยักหน้า และกล่าวว่า “คุณอาจไม่รู้จักชื่อเสียงของลู่ซุนบนเกาะจีเหยียน เขาเป็นคนหยิ่งผยอง หลังจากที่คุณไปทำให้เขาอาฆาตแล้ว เขาต้องหาวิธีมาจัดการคุณอย่างแน่นอน” หานซานเฉียนยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ผมมีทางออก ถ้าพวกคุณกลัวที่จะเข้ามาเกี่ยวพันด้วย พวกคุณไปก่อนก็ได้” หยางเฉินขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาจะไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลย หรือพูดได้ว่า ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่บนเกาะจีเหยียน แต่เขาไม่สนใจลู่ซุนเลยแม้แต่น้อย?บุคคลนี้มีสถานะแบบไหนกันแน่ และเหตุใดความเงียบสงบของเขานั้น ถึงได้ทำให้คนรู้สึกถึงความแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ “ตกลง” หยางเฉินพยักหน้าและพูดว่า “ผมจะพาซูหยิงเซี่ยกลับไปที่โรงแรมก่อน คุณเองก็ระวังตัวด้วย” ในสำนักงานของประธาน เมื่อหลิวจางพาหานซานเฉียนมาถึงตรงประตู หลิวจางก็เปิดประตูให้หานซานเฉียนและพูดว่า “คุณหาน เจ้านายรออยู่ด้านในครับ”หานซานเฉียนพยักหน้า และมุ่งตรงเข้าไปในห้อง สำนักงานมีขนา
“คุณหาน ถ้าคุณมีอะไรจะมอบหมายงานให้ผม ก็สั่งมาได้เลยครับ” คำเรียกของเหวินเหลียงที่เรียกหานซานเฉียนเปลี่ยนจากน้องชายเป็นคุณ นี่เป็นการแสดงถึงความเคารพและให้เกียรติของเขา บริษัทของเหวินเหลียงมีสาขาอยู่ในเมืองชั้นนำที่สำคัญทั้งหมดในประเทศจีน แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังอยู่ห่างจากชนชั้นสูงที่แท้จริงอยู่พอสมควร และการดำรงอยู่ของตระกูลหานนั้นอยู่เหนือความคาดหมายของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่หานซานเฉียนใช้ชื่อเสียงของตระกูลหานเพื่อแอบอ้างบารมีมาใช้ อย่างไรเสีย เรื่องในเมืองหลงชื่อก็ให้ฉือจิงช่วยจัดการได้ แต่คราวนี้มันแตกต่างออกไป เขาไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก เพราะคราวนี้แค่ใช้บารมีของตระกูลหานมาข่มขู่อย่างเดียวไม่ได้ ถ้าหากว่าเขาอยู่ที่เกาะจีเหยียนเพียงลำพัง เขายังสามารถไปเผชิญหน้ากับตระกูลลู่เองได้ แต่เขายังมีซูหยิงเซี่ยอยู่ด้วย เขาจึงต้องคิดหาวิธีอื่นที่รอบคอบมากกว่านี้ “เรื่องของตระกูลลู่ คุณช่วยจัดการให้ผมหน่อยนะ แต่อย่าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของผม ผมไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายมากเกินไปครับ” หานซานเฉียนกล่าว “ได้ครับ” เหวินเหลียงกล่าว “สำหรับเรื่องนี้ รอหลังจากผมกลับไปแล้ว ผมจะหาวิธีขอบคุณคุณ
แม้ว่าลู่เฟิงจะเคยเตือนลู่ซุนเอาไว้ว่าห้ามหาเรื่องคนในบริษัทประมูล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลู่เฟิงกลัวเหวินเหลียง และสถานะของตระกูลลู่บนเกาะจีเหยียนจะไม่มีใครดูหมินได้ แต่หากว่าเหวินเหลียงเอนเอียงไปทางคนอื่นจริง ๆ นี่ก็เท่ากับว่าไม่ไว้หน้าตระกูลลู่ ความหมายของเรื่องทั้งหมดก็จะแปรเปลี่ยนไป“เหวินเหลียงก็อยู่ที่เกาะจีเหยียน?” ลู่เฟิงถาม “ผมได้ยินหลิวจางว่าอย่างนั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องโกหก คุณปู่ ทำไมปู่ถึงกลัวเหวินเหลียงล่ะครับ?” ลู่ซุนถามอย่างสงสัย “กลัว?” ลู่เฟิงยิ้มอย่างเหยียดหยาม และพูดว่า “ฉันจะไปกลัวหมอนั่นได้ยังไง ฉันกับเขาก็แค่ต่างคนต่างอยู่เท่านั้นเอง ในเกาะจีเหยียนนี้ไม่ไม่ใครคู่ควรที่จะมาทำให้ตระกูลลู่ของเรากลัวทั้งนั้น” “คุณปู่ ปุ่ไม่กลัวที่จะไว้หน้าเขามากเกินไป จนเขาไม่สนใจเราเหรอ?” ลู่ซุนกล่าวยุยง ลู่เฟิงกัดฟันอย่างโมโห ความตั้งใจเดิมของเขาคือเขาไม่ได้จะยุ่งเรื่องนี้ เพื่อให้ลู่ซุนได้รู้สึกเสียเปรียบและได้รับบทเรียนเสียบ้าง เพื่อที่ในอนาคตเขาจะสามารถทำงานได้อย่างสงบมากขึ้น แต่ตอนนี้เหวินเหลียงมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และเขาก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้เกาะจีเหยียนเป็นของ