“คุณแม่คะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” ซูหยิงเซี่ยถาม“รถคันนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปให้พ่อขับนะ” เจี่ยงหลานพูด“ทำไมคะแม่? แต่ว่านี่…”ซูหยิงเซี่ยยังไม่ทันพูดจบ เจี่ยงหลานก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาทันที “ยังจะมีอะไรอีก ตอนนี้ลูกมีอนาคต มีชีวิตที่ดี ลูกจะปล่อยให้คนแก่สองคนมีความสุขบ้างไม่ได้เหรอ ถ้าให้หานซานเฉียนขับรถดี ๆ แบบนี้ เขาดูแลรถไม่ดีจะทำอย่างไร ถ้าหากรถพังจะต้องใช้เงินในการซ่อมรถเท่าไร”“แม่คะ รถคันนี้คือ หานซานเฉียน…”“พอแล้ว พอแล้ว ลูกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” เจี่ยงหลานโบกมืออย่างหมดความอดทนและพูดว่า “แม่รู้ว่าเขารับส่งลูกจากที่ทำงาน แต่ลูกก็ไม่ได้ดูเขาตลอดเวลา ปล่อยให้เขาขับรถดี ๆ แบบนี้ ถ้าเกิดเขาคิดไม่ดีขึ้นมาเอารถคันนี้ไปหลอกผู้หญิงคนอื่นจะทำยังไง เอาแบบนี้แล้วกัน เอารถโตโยต้าอีกคันให้เขาขับนะ”ซูหยิงเซี่ย พูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง รถคันนี้หานซานเฉียนเป็นคนซื้อมา ไม่มีเงินของเธออยู่ในนั้นแม้แต่หยวนเดียว เธอจะพูดได้อย่างไรว่าให้เอารถคันนี้ไปใช้ได้“อ๋อใช่ ลูกเปลี่ยนรถคันใหม่ในไม่กี่วันหลังจากเป็นหัวหน้าโครงการ คุณย่าของลูกจะตรวจสอบมันไหม เวลาลูกทำบัญชีจะต้องระมัดระวังด้วยนะ” เจี่
เมื่อได้ยินที่เถ้าแก่ร้านขายของชำถาม หานซานเฉียนก็รู้สึกละอายใจ เขาไม่มีเซอร์ไพรส์ แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือ เขาจะอธิบายปัญหาอันใหญ่หลวงนี้ให้ซูหยิงเซี่ย เข้าใจได้อย่างไร“เถ้าแก่เคยมีประสบการณ์ในการซ่อนเงินส่วนตัวไหม ถ้าหากถูกค้นเจอจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง?” หานซานเฉียนถามเถ้าแก่เถ้าแก่หัวเราะออกมาเบาๆ และพูดว่า “คุณถามถูกคนแล้ว การซ่อนเงินเป็นเรื่องของทักษะ ผมไม่มีประสบการณ์ด้านนี้หรอกนะ”หานซานเฉียนกลอกตาไปมาเพราะเขากำลังตั้งใจฟังมาก เขาคิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่จะล้อเล่นกับเขาเถ้าแก่แสดงสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกและพูดต่อว่า “ผู้ชายอย่างเราหาเงินไปเพื่ออะไร เพื่อให้ภรรยาของเราเองยังไงละ คุณจะทำเรื่องดื้อรั้นอย่างเช่นการซ่อนเงินส่วนตัวได้ยังไง อย่างผมเองก็ไม่เคยมีความคิดที่จะทำแบบนี้”“ฉันทำงานหนักมาทั้งชีวิตเพื่อให้ผู้หญิงมีความสุขใช่ไหม? ในสมัยก่อนมีกษัตริย์โจวโหย่ว พระองค์ต้องการทำให้แม่นางเปาสีที่เป็นคนรักของพระองค์ยิ้มออกมา ทรงมีพระราชดำริให้มีการจุดไฟสัญญาณเรียกทัพแบบหลอก ๆ อู๋ซานกุ้ยเพื่อเฉินหยวนหยวนอนุภรรยาที่เขารัก ซึ่งถูกจับเป็นตัวประกัน เขาจำยอมเปิดประตูด่านให้ทหารแมนจ
การจองทั้งร้านอาหารคริสตัลเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เมื่อสองปีที่แล้วมีเศรษฐีหนุ่มขอหญิงสาวแต่งงานที่ร้านอาหารคริสตัล ในช่วงนั้นเป็นกระแสฮือฮากันใหญ่โต ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงต่างพากันอิจฉามากน้อยแค่ไหน แต่เหตุการณ์นี้กลับตรงกันข้ามกับหานซานเฉียน ที่แต่งงานเข้าตระกูลซู ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยที่นำสองเหตุการณ์มาเปรียบเทียบกัน“ไม่มีปัญหาครับ คุณต้องการอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?” ผู้จัดการตอบตกลงอย่างมีความสุข เปิดร้านอาหารก็เพื่อสร้างรายได้ แล้วชายคนนี้ก็เป็นคนบอกกับเขาเองว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ดังนั้นสำหรับเขาแล้วย่อมไม่มีปัญหาเช่นกัน“คุณช่วยจัดหาเปียโนให้ผมตรงกลางร้านอาหารได้ไหม?” หานซานเฉียนถาม“ไม่มีปัญหาครับ ไม่ว่าคุณต้องการอะไร ตราบใดที่คุณยังมีเงินเพียงพอ ทางเราจะพยายามช่วยคุณอย่างดีที่สุดครับ” ผู้จัดการพูดเขาอยู่ที่ร้านอาหารเพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดบางอย่าง หลังจากจ่ายเงินมัดจำแล้ว หานซานเฉียนก็กลับไปบริกรในร้านอาหารอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องน่าตื่นเต้นของเมืองหยุนเฉิงเมื่อสองปีที่แล้วและมีผู้หญิงบางคนแสดงอาการท่าทางบ้าผู้ชายออกมา“ฉันหวังว่าฉันจะได้พบกับเศรษฐีเช่นกัน ถ้าเขาส
เมื่อเห็นซูอี้หานหัวเราะเยาะเย้ย เฉินหลิงเหยาก็โกรธจนควัญแทบออกหู“วันที่ 22 แล้วยังไง ถึงจะเป็นวันเดียวกันแล้วมันจะมีความหมายอะไร” เฉินหลิงเหยาถามซูอี้หานจงใจหยิบเรื่องนี้มาเยาะเย้ยซูหยิงเซี่ย ในเมื่อเฉินหลิงเหยาต่อคำ ซูอี้หานจึงใช้โอกาสนี้เพื่อกลั่นแกล้งซูหยิงเซี่ยต่อ“มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก มันก็เป็นแค่ความแตกต่างของชนชั้นก็เท่านั้น ถึงแม้ฉันจะไม่พูดอะไร แต่มันก็เกิดขึ้นในวันเดียวกัน เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่สามารถหยุดความคิดของคนอื่นเกี่ยวกับวันที่ 22 เมื่อสามปีที่แล้วได้หรอก” ซูอี้หานกล่าว“มีตั้งหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในวันเดียวกัน แล้วทำไมเธอต้องเจาะจงมาที่เรื่องนี้ มันเกี่ยวอะไรกับเธองั้นเหรอ?” เฉินหลิงเหยาโต้กลับซูอี้หานพ่นลมหายใจออกมาและพูดอย่างเย็นชาว่า “มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันหรอก แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้อยู่กับผู้ชายที่ไร้ค่าแบบนั้น และคนที่ฉันจะแต่งงานด้วยในอนาคต พวกเธอคงจินตนาการไม่ถึงหรอกว่าครอบครัวของเขาจะรวยขนาดไหน”เฉินหลิงเหยาเคยได้ยินซูหยิงเซี่ยพูดถึงสินสอดนั้น ทอง หยก เงินสด ซึ่งเป็นสินสอดที่น่าทึ่งมาก บ่งบอกได้ว่าภูมิหลังทางครอบครัวของอีกฝ่ายว่าไม่ใช่
สิบวันต่อมา เรื่องร้านอาหารคริสตัลเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เพราะผู้ที่จองร้านอาหารไม่ได้เปิดเผยตัวตน จึงทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนเริ่มสงสัยในเรื่องนี้มากขึ้น พวกเขาต่างคาดเดาว่าอาจเป็นลูกของเศรษฐีในเมืองหยุนเฉิง แต่ลูกชายของเศรษฐีต่างพากันออกมาปฏิเสธข่าวลือไปทีละคน เรื่องนี้จึงยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกสำหรับตระกูลซู มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่จะถูกกล่าวถึงอีกครั้ง และกลายเป็นเรื่องตลกของหลาย ๆ คน เพราะเวลาที่เหมาะเจาะ จึงยากที่คนจะไม่คิดถึงมันญาติ ๆ ของตระกูลซูต่างรู้สึกโกรธจัด ถ้าไม่ใช่เพราะหานซานเฉียน พวกเขาคงไม่ต้องกลายเป็นตัวตลกของคนอื่น ทุกคนในตระกูลต่างก็ปฏิเสธการพบปะในช่วงนี้ แม้แต่คุณย่าของตระกูลซูก็ไม่ยอมออกมา เธอตั้งใจที่จะรอให้เรื่องนี้ซาก่อนแล้วค่อยออกมา“น่ารำคาญจริง ๆ ไอ้เศษขยะหานซานเฉียนมันเกี่ยวอะไรกับเรา คนพวกนั้นถึงได้เหมารวมตระกูลซู จนทำให้พวกเราอับอายขายขี้หน้าไปด้วยแบบนี้”“ทำไมหานซานเฉียนถึงไม่ตาย ๆ ไปซะ ต่อให้คนแบบเขาตายไปสักร้อยหน เราก็คงไม่เสียหน้า”“ซูหยิงเซี่ยก็เป็นตัวซวยเหมือนกัน ถ้าไม่มีเธอก็คงไม่มีเรื่องแย่ ๆ แบบนี้เกิดขึ้น”เหล่าวัยเยาว์จากตระกูลซูมารวมตัว
เฉินหลิงเหยาถามขึ้นอย่างสงสัย “ใครน่ะ?”“หานซานเฉียน”เมื่อเฉินหลิงเหยาได้ยินชื่อนี้ เธอก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะแสดงท่าทีเยาะเย้ย เมื่อก่อนเธอพยายามทดสอบหานซานเฉียน และรู้สึกว่าเขาตาบอด เพราะเธอคิดว่าเขาไม่สนใจความงามของเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะโทรมาหาเป็นการส่วนตัวแบบนี้ผู้ชายเป็นแบบนี้ทุกคนจริง ๆ ด้วยสินะ“จิ้งจอกมักยังไงก็ต้องโชว์หางออกมา ในที่สุดนายก็ทนไม่ได้แล้วสินะ” เฉินหลิงเหยาพูดอย่างเย็นชา“ผมต้องการขอให้คุณช่วยอะไรหน่อย” หานซานเฉียนกล่าว เขาเดาไว้อยู่แล้วว่าเฉินหลิงเหยาจะเข้าใจผิดกับการโทรครั้งนี้ แต่หลังจากอธิบายความตั้งใจของเขาแล้ว เขาเชื่อว่าจะแก้ไขความเข้าใจผิดของเธอได้“หานซานเฉียน หยิงเซี่ยต้องอับอายมากพออยู่แล้วที่อยู่กับนาย ถ้าตอนนี้นายหลอกลวงเธอ คนอย่างนายจะถูกต้องฟันเป็นพันครั้ง” เฉินหลิงเหยาไม่เชื่อว่าหานซานเฉียนต้องการให้เธอช่วย มันต้องเป็นกลอุบายเพื่ออยากชวนเธอออกไปข้างนอกแน่ ๆ“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ได้สนใจความสวยของคุณเลยสักนิด ที่ผมโทรหาคุณมันเกี่ยวกับหยิงเซี่ย” หานซานเฉียนพูด“มันเกี่ยวอะไรกับหยิงเซี่ย?” เฉินหลิงเหยาสงสัยว่าเธอคงเข้าใจผิดไปเองจึงพูดต่อว่า “เรื
อย่าบอกนะ...อย่าบอกนะว่าหานซานเฉียนคือบุคคลลึกลับที่จองร้านอาหารคริสตัลคนนั้น? ตอนนี้ซูหยิงเซี่ยรู้สึกมึนงง ชั้นบนสุดของร้านอาหารคริสตัลถูกคนอื่นจองไปแล้วเมื่อครึ่งเดือนก่อน แม้ว่าเฉินหลิงเหยาจะมีหน้ามีตาในสังคม แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะมาจัดปาร์ตี้ในร้านอาหารคริสตัลนี้นี่นา“เหยาเหยา เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับหานซานเฉียนหรือเปล่า?” ซูหยิงเซี่ยลองคิดถึงความเป็นไปได้ และเธอก็เริ่มหายใจถี่ขึ้นอย่างไม่มีเหตุผลสมองของเฉินหลิงเหยาว่างเปล่า แม้ว่าเธอจะคิดว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่นอกเหนือจากสิ่งนี้จะมีความเป็นไปได้อื่นที่ไหนอีก?“หยิงเซี่ย หานซานเฉียนเป็นคนขอให้ฉันพาเธอมาที่นี่จริง ๆ” เฉินหลิงเหยายอมรับ ความรู้สึกอิจฉาอย่างอธิบายไม่ถูกมันเกิดขึ้นในใจของเธอ หากหานซานเฉียนเป็นคนที่เตรียมเซอร์ไพรส์อันยิ่งใหญ่นี้ไว้ให้ซูหยิงเซี่ยจริง ซูหยิงเซี่ยคงเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในหยุนเฉิงสินะณ เวลานี้ ลิฟต์ขึ้นไปถึงชั้นบนสุด ทั้งสองถูกพาเข้าไปในร้านอาหารหน้าโต๊ะเปียโนที่อยู่กลางร้านอาหาร มีชายสวมชุดสีดำนั่งอยู่ และมองเห็นเพียงแค่แผ่นหลังของเขาเท่านั้นแต่สำหรับเฉินหลิงเหยา แผ่นหลังนี้ดูค
“คุณรู้ไหม คนพวกนั้นเรียกคุณว่าไอ้คนไร้ค่า”“คุณรู้ไหมว่าฉันอึดอัดแค่ไหนเวลาที่ได้ยินคำพูดพวกนั้น”หานซานเฉียนกอดซูหยิงเซี่ยไว้ในอ้อมแขนของเขาและพูดอย่างแผ่วเบาว่า “ผมรู้”เฉินหลิงเหยาที่ยืนอยู่ด้านข้างก็น้ำตาซึมตาม ในตอนนี้เธอรู้สึกว่าความทุกข์ใจที่เพื่อนสาวได้รับนั้นช่างคุ้มค่า ไม่ว่าหานซานเฉียนจะทำเรื่องนี้ได้อย่างไร แต่อย่างน้อยตอนนี้ซูหยิงเซี่ยก็มีความสุขมาก และหญิงสาวในเมืองหยุนเฉิงต่างก็ต้องอิจฉาเธอแต่ว่าทำไม ทำไมนายต้องเป็นเจ้าชายเปียโนด้วย?เฉินหลิงเหยารู้ว่าความฝันของเธอได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ในคืนนี้กลีบกุหลาบของร้านอาหารคริสตัลพัดปลิวตลอดทั้งคืน เมื่อเทียบกับเมื่อสองปีที่แล้ว สิ่งเดียวที่บกพร่องคือ ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครรู้ว่าใครคือพระเอกคนนั้นคืนนั้นหานซานเฉียนนอนอยู่บนพื้น ซูหยิงเซี่ยที่อยู่บนเตียงก็ถามขึ้นว่า “หนาวไหม?”ช่วงนี้เป็นช่วงต้นฤดูร้อน ผู้หญิงเริ่มโชว์ขาขาวข้างถนนก็เหมือนหน่อไม้หลังฝนตกนั่นเอง จะหนาวได้อย่างไรหานซานเฉียนตอบออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า “ไม่หนาว”หลังจากพูดสองคำนี้หานซานเฉียนก็ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็รู้สึกเสียดายจนอยากจะต่อยตัวเองสัก