หลังจากจัดเตรียมเรื่องงานและที่อยู่อาศัยของจางหลิงฮวาแล้ว โทรศัพท์ของหานซานเฉียนก็ดังขึ้นมาพอดี เป็นสายโทรศัพท์จากระเบิดไร้เทียมทานที่น่ารัก บนหน้าผากของหานซานเฉียนปรากฎเส้นสีดำสามเส้นเหมือนในการ์ตูนที่แสดงถึงอาการกลัดกลุ้มใจ เมื่อรู้ที่อยู่ทางโทรศัพท์แล้ว หานซานเฉียนก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันเล็กไปตามสถานที่นัดหมายลิฟต์คอนโดระดับดีเยี่ยมแห่งหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าตระกูลเทียนทุกคนจะอาศัยอยู่ที่นี่เทียนหลิงเอ๋อร์มีเพื่อนสนิทมากมาย สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับเวลาเพื่อนสนิทจัดงานปาร์ตี้กันถึงจะได้นำมาใช้ประโยชน์ อีกทั้งที่แห่งนี้ยังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเคยมาก่อนเลย และหานซานเฉียนก็คือคนแรกหลังจากรอจนกระทั่งเทียนหลิงเอ๋อร์มาถึงประตูใหญ่ เธอไม่รังเกียจที่จะขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันเล็กทันทีเพื่อบอกทางกับหานซานเฉียนคุณหนูแบบนี้สามารถนั่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้โดยไม่รังเกียจ ทำให้หานซานเฉียนรู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อยเพราะหานซานเฉียนเคยเห็นผู้หญิงหน้าเงินมากมายมาก่อน อีกทั้งคุณหนูที่ร่ำรวยนั้นโดยปกติแล้วมักจะมีวิสัยทัศน์ค่อนข้างสูง อย่าว่าแต่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเลย แม้จะขับรถมื
ครึ่งชั่วโมงต่อมา อาหารสี่จานกับซูปหนึ่งถ้วยวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว กลิ่นของอาหารหอมมากจริง ๆ แสดงให้เห็นว่าฝีมือการปรุงอาหารของเธอยอดเยี่ยมมาก หานซานเฉียนทานอาหารโดยหยุดวางตะเกียบไม่ได้เลย แต่เทียนหลิงเอ๋อร์กลับจับจ้องมองไปที่เขาอย่างไม่ละสายตาเลย ในขณะที่ไม่ขยับตะเกียบแม้แต่นิดเดียว“เธอทำอะไรน่ะ ทำไมถึงไม่ทานด้วยกัน? เธอคงไม่ได้วางยาพิษฉันหรอกใช่ไหม?” หานซานเฉียนถามเทียนหลิงเอ๋อร์ด้วยความตกตะลึง“คุณลืมเรื่องอะไรไปอย่างหนึ่งหรือเปล่า?” เทียนหลิงเอ๋อร์พูดอย่างโกรธเคือง“ล้าง… ล้างมือใช่ไหม?”เทียนหลิงเอ๋อร์ทำปากยื่นเหมือนกบและพูดอย่างไม่พอใจว่า “คุณจะล้างมือหรือไม่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน”“ถ้าอย่างนั้นฉันลืมอะไรเหรอ?” หานซานเฉียนถามอย่างไม่เข้าใจ“คุณนี่ไม่ฉลาดเอาซะเลย ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลคุณบอกว่า ถ้าฉันทำอาหารอร่อยคุณจะชมฉันไง” เทียนหลิงเอ๋อร์พูดพร้อมกับกลอกสายตามองขึ้นไปข้างบนหานซานเฉียนแทบจะฝืนทานอาหารต่อไปไม่ได้ เหตุที่สาวน้อยคนนี้ไม่ยอมทานอาหารเป็นเพราะรอให้เขาชมเธออยู่เหรอเนี่ย?“ได้ ๆ ๆ เธออยากให้ฉันชมเธอยังไงล่ะ?”“แน่นอนว่าคุณต้องชมว่าฉันสวย แล้วก็ยังน่ารัก แถมย
เซอร์ไพรส์อย่างนั้นเหรอ?หานซานเฉียนกำลังอธิษฐานขอให้อย่าเป็นอะไรที่มันน่าสยดสยองขวัญเลยถึงจะดีกว่า ความจริงแล้วเทียนหลิงเอ๋อร์นั้นเป็นเหมือนปีศาจตัวร้าย ใครจะรู้ว่าเธอคิดทำเรื่องอะไรบ้างเมื่อกลับมาถึงบ้าน นอกจากเหอถิงที่ยังคงทำความสะอาดบ้านอยู่ คนอื่น ๆ ต่างกลับห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อนกันแล้ว หานซานเฉียนพูดคุยเรื่อยเปื่อยกับเหอถิงไม่กี่คำก่อนกลับห้องของตัวเองเช่นกันเช้าวันรุ่งขึ้น หานซานเฉียนยังคงตื่นตอนหกโมงเช้า แต่ซูหยิงเซี่ยไม่ต้องการให้เขาไปวิ่งเป็นเพื่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงยังไม่ลุกจากเตียงนอนและนอนอยู่บนเตียงจนถึงเวลาเก้าโมงเช้า เขาได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากด้านนอกคฤหาสน์ จึงรีบแต่งตัวเพื่อออกไปดูด้านนอกคฤหาสน์มีรถแลมโบกินีสีแดงจอดอยู่ โดยมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้าง ๆ รถวันนี้เป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ดังนั้นซูหยิงเซี่ยจึงไม่ได้ไปทำงานเช่นกัน คนในคฤหาสน์ทั้งสามคนต่างพากันมองดูรถแลมโบกินีด้วยความรู้สึกงุนงงเล็กน้อย โดยเฉพาะเจี่ยงหลานนั้นมองดูด้วยสายตาอันร้อนแรง บ่งบอกว่าเธอแทบอยากจะให้รถแลมโบกินีคันนี้เป็นของเธอถ้าสามารถขับรถคันนี้ไปพบปะพี่น้องของเธอได้ ใครบ้างที่
ลูกเขยอย่างนั้นเหรอ?คำพูดเหล่านี้เป็นแค่คำพูดประชดประชันที่สุดยอดจริง ๆ“ผู้หญิงที่ชอบมั่วผู้ชายอย่างคุณว่า เธอคือเทียนหลิงเอ๋อร์ คุณหนูตระกูลเทียน สำหรับเรื่องนี้ผมคงต้องรายงานให้คุณหนูทราบ ตระกูลเทียนจะไม่ยอมให้คุณหนูถูกคนดูถูกแบบนี้แน่” ผู้ชายคนนั้นกล่าวอย่างเย็นชาเทียน… คุณหนูตระกูลเทียน!เจี่ยงหลานรู้สึกตกตะลึงทันที คนที่ให้รถกับหานซานเฉียน นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคุณหนูเทียนหลิงเอ๋อร์แห่งตระกูลเทียนไม่คิดเลยว่าตัวเองจะพูดว่าคุณหนูตระกูลเทียนเป็นผู้หญิงไม่ได้เรื่อง!เจี่ยงหลานกลืนน้ำลาย และความเย่อหยิ่งของเธอเมื่อครู่นี้หายไปจนหมดสิ้นการล่วงเกินตระกูลเทียนในเมืองหยุนเฉิง เท่ากับการล่วงเกินยมบาลไม่มีผิดซูกั๋วเย่ารีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ เธอไม่รู้ว่าคุณหนูของคุณคือ คุณหนูเทียนหลิงเอ๋อร์ เพราะแบบนี้เธอถึงได้พูดจาแบบนั้นออกไป”แม้แต่ซูหยิงเซี่ยเองก็ไม่สามารถใจเย็นได้ ตอนนี้การเติบโตทางธุรกิจของตระกูลซูกำลังเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลานี้ถ้าไปล่วงเกินตระกูลเทียน แล้วทำให้ตระกูลเทียนพุ่งเป้ามาที่ตระกูลซู นี่จะเป็นหายนะร้ายแรงสำหรับตระกูลซู“ฉันต้องขอ
”รถคันนี้ผมจะรับไว้ ยังไงก็ขอบคุณคุณหนูแทนผมด้วยนะครับ” หานซานเฉียนรู้ว่าถ้าไม่รับรถคันนี้ไว้ เทียนหลิงเอ๋อร์อาจมาที่นี่ด้วยตัวเอง เมื่อถึงเวลานั้นเขายิ่งไม่รู้ว่าจะอธิบายกับทุกคนยังไงท่าทีของชายคนนั้นมีความเคารพต่อหานซานเฉียนมากเป็นพิเศษ เพราะว่านี่เป็นคำสั่งของเทียนหลิงเอ๋อร์ เขาถูกสั่งห้ามให้ไม่แสดงท่าทีไม่ให้เกียรติหานซานเฉียนแม้แต่นิดเดียว แม้เจี่ยงหลานจะด่าทอเทียนหลิงเอ๋อร์ เขาก็ต้องไม่เอาความเกลียดชังที่มีส่งต่อไปยังหานซานเฉียน“คุณหานครับ คุณหนูบอกเอาไว้ว่ารถคันนี้มีแค่คุณเท่านั้นที่ขับได้ครับ” ชายคนนั้นพูดย้ำเตือนอีกครั้งหานซานเฉียนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมกับยิ้มเจื่อน และพูดว่า “ผมเข้าใจแล้วครับ ฝากทักทายคุณปู่แทนผมด้วย”“ได้ครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อน”หลังจากชายคนนั้นจากไป เจี่ยงหลานพูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ทำไมคนไร้ค่าอย่างแกถึงมีความสัมพันธ์กับคุณหนูตระกูลเทียนได้ล่ะ? แกมีสิทธิ์อะไรถึงได้รู้จักคนยิ่งใหญ่แบบนี้?”ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงจากคฤหาสน์จินเฉียว เจี่ยงหลานคงดูถูกหานซานเฉียนว่าเป็นคนไร้ค่าอย่างแน่นอน แต่อีกฝ่ายคือคุณหนูตระกูลเทียน สถานะของเธอเมื่อเทียบกับซู
ซูกั๋วเย่าถอนหายใจอยู่ภายในใจ หานซานเฉียนซื้อทั้งรถทั้งคฤหาสน์ ศักยภาพทางสังคมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เจี่ยงหลานไม่มีทางมองไม่เห็น เพียงแต่ในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา เธอจริงจังกับภาพลักษณ์คนไร้ประโยชน์ของหานซานเฉียนมากเกินไป จึงเป็นเหตุผลที่เธอตาบอดไม่เห็นความจริงอะไรในความคิดของซูกั๋วเย่า เป็นไปได้ว่าหานซานเฉียนไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งกาจมากคนหนึ่งก็ได้ เพียงแต่เขาไม่แสดงออกมาเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นเทียนหลิงเอ๋อร์จะให้รถแลมโบกินี่แก่เขาทำไม?“แม่คะ ไม่ว่ายังไงหนูก็จะไม่เอาเงินของหานซานเฉียนมา” ซูหยิงเซี่ยกล่าว“ลูกมันเป็นเด็กโง่ ลูกจะต้องเสียใจภายหลังแน่ ตอนนั้นก็อย่ามาร้องไห้ต่อหน้าแม่ก็แล้วกัน” เจี่ยงหลานมองไปที่ซูหยิงเซี่ยด้วยความโกรธและเสียใจขณะเดียวกันนั้น เทียนหลิงเอ๋อร์โทรศัพท์มาหาหานซานเฉียนพอดี ชื่อสายเรียกเข้าระเบิดไร้เทียมทานที่น่ารัก หานซานเฉียนได้เปลี่ยนชื่อแล้วโดยบันทึกเป็นชื่อของเทียนหลิงเอ๋อร์โดยตรง“คุณปู่ของฉันได้ยินมาว่าคุณต้องการเชิญท่านไปทานอาหารด้วยกัน ท่านรีบตอบตกลงทันทีเลยล่ะ วันนี้ท่านยังพอมีเวลาว่าง คุณคิดว่ายังไงบ้าง?” เทียนหล
ทั้งคู่ไปซูปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของมาทำอาหาร เทียนหลิงเอ๋อร์กระโดดโลดเต้นไปมาราวกับหมัด ดูเหมือนไม่สามารถสงบสติลงได้ชั่วครู่ แม้จะรู้สึกน่ารำคาญเล็กน้อย แต่หานซานเฉียนก็รู้สึกมหัศจรรย์ และเข้ากับเทียนหลิงเอ๋อร์ได้อย่างสบาย เขาไม่ต้องกังวลกับความรู้สึกของเทียนหลิงเอ๋อร์ในทุกด้าน และสามารถทำเรื่องทุกอย่างได้ด้วยอารมณ์ที่ไม่ต้องสนใจอะไรหลังจากซื้อของทำอาหารเสร็จแล้ว ก็กลับมายังฐานทัพลับของเทียนหลิงเอ๋อร์ เพียงไม่นาน เทียนฉางเฉิงก็มาถึง ซึ่งทำให้หานซานเฉียนรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที ถ้าเทียนฉางเฉิงไม่มาคงได้เจอกับการออดอ้อนของเทียนหลิงเอ๋อร์อีกแน่เมื่อเหลือเวลาอีกเยอะจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการทำอาหาร เทียนฉางเฉิงจึงดึงตัวหานซานเฉียนมาเล่นหมากรุกสำหรับหานซานเฉียนแล้ว เขาไม่เก่งหมากรุกจีน เขาชอบเล่นหมากล้อมมากกว่า แต่ชายชราชอบเล่นหมากรุกจีน แต่จะให้เล่นหมากรุกสักรอบสองรอบก็คงไม่ได้เป็นปัญหาอะไรหานซานเฉียนอาศัยช่วงที่กำลังจัดกระดานไปเข้าห้องน้ำ แล้วแอบดาวน์โหลดโปรแกรมหมากรุกจีนต่อไปนี้คือฝันร้ายของเทียนฉางเฉิงแล้วเด็กคนนี้พูดอย่างชัดเจนว่าเขาเล่นหมากรุกไม่ได้ เทียนฉางเฉิงคิดว่านี่เป็
เมื่อถึงเวลาห้าโมงเย็น หานซานเฉียนเริ่มทำอาหารในครัวอย่างรวดเร็วทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เทียนฉางเฉิงดูละครไอดอลกับเทียนหลิงเอ๋อร์ และฟังเทียนหลิงเอ๋อร์อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ทั้งยังแปลกประหลาดของตัวละครพร้อมกับเอามือแตะไปที่ริมฝีปากด้วยความประหลาดใจ“รักกันมาตั้งหลายปี นึกไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายจะกลายเป็นพี่ชายกับน้องสาว”“คนรักของเขาไม่นึกว่าจะเป็นลูกสาวนอกสมรสของพ่อ!”เทียนฉางเฉิงรู้สึกอึ้งจนพูดไม่ออก สำหรับเขาแล้วเนื้อเรื่องของละครไอดอลสามมุมมองนั้นล้มเหลว ทั้งหมด เรื่องเหล่านี้มันคืออะไรกัน?เทียนหลิงเอ๋อร์ดูละครอย่างออกรสชาติ แต่ความคิดอีกครึ่งหนึ่งของเธออยู่แต่ในห้องครัว เธอกระซิบกับปู่ของเธอว่า “คุณปู่คะ คุณปู่บอกว่าเขาอยู่ในตระกูลซู เขาทำงานซักผ้าและล้างจานเป็นเวลาสามปีจริง ๆ เหรอคะ?”“รออีกสักครู่ เดี๋ยวก็รู้แล้วว่าเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ แต่ดมกลิ่นแล้วก็ยังดีอยู่” เทียนฉางเฉิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อดมกลิ่นอาหารที่ลอยออกมาจากห้องครัว ฝีมือไม่ได้แย่ไปกว่าเทียนหลิงเอ๋อร์แน่นอน“คุณปู่คะ ถ้าพวกเราสองคนเป็นดาบสองเล่มที่รวมเข้าด้วยกัน ภายหลั