เฉินเหยียนหรันไม่ได้รับคำตอบที่เธอต้องการ เธอโกรธมากจนอยากจะถลกหนังของหานซานเฉียน สาวใช้เดินตามอย่างระมัดระวังและพูดกับเฉินเหยียนหรันว่า "คุณหนู คุณท่านจะกลับบ้านพรุ่งนี้แล้ว ท่านอย่าอารมณ์เสียกับเรื่องพวกนี้เลยนะเจ้าคะ"เฉินเหยียนหรันต้องการสงบสติอารมณ์ แต่หัวใจที่ปั่นป่วนของเธอไม่สามารถสงบลงได้เลยหานซานเฉียนอาศัยอยู่ในจวนของตระกูลเฉิน และในฐานะคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฉิน เธอกลับไม่สามารถจัดการคนไร้ค่านี่ได้ เธอจะสงบความโกรธในใจได้อย่างไร“คุณหนู หรือว่ารอให้คุณชายใหญ่กลับมาแล้วให้ท่านทดสอบหานซานเฉียนดูไหมเจ้าคะ” สาวใช้แนะนำเฉินเหยียนหรันมีพี่ชายชื่อเฉินเถี่ยซิน ซึ่งตอนนี้อยู่ระดับโคมสอง แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่โดดเด่น แต่ความรักและความห่วงใยที่เขามีต่อเฉินเหยียนหรันก็ไม่มีใครเทียบได้ เหตุผลที่ฮวงเซียวหย่งทำอะไรเธอไม่ได้ในช่วงที่ผ่านมาส่วนหนึ่งก็มาจากการปกป้องของเฉินเถี่ยซินเฉินเถี่ยซินต่อต้านการแต่งงานของเฉินเหยียนหรันอย่างมากในตอนนั้น แต่เมื่อเขาคิดได้ว่าการใช้คนไร้ค่านี่สามารถหยุดฮวงเซียวหย่งได้ เขาก็ทำได้เพียงยอมรับความจริงเท่านั้นในใจของเฉินเถี่ยซิน หานซานเฉียนเป็นตัว
เช้าวันรุ่งขึ้นจวนเจ้าเมืองขณะที่ฮวงเซียวหย่งลืมตาขึ้น สีหน้าของเขาก็ดูตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อมีวัตถุแห่งชีวิตของตนเองที่กำลังลุกไหม้ด้วยประกายโคมไฟสี่ดวง ซึ่งหมายถึงว่าตอนนี้เขาอยู่ในระดับโคมสี่ในโลกเชวียนหยวน ทุกคนมีวัตถุแห่งชีวิตของตนเอง และระดับความแข็งแกร่งของแต่ละคนก็จะปรากฏเหนือวัตถุแห่งชีวิตเช่นนี้วัตถุแห่งชีวิตของฮวงเซียวหย่งคือดาบม่อเตา ดาบม่อเตานี้อยู่กับเขามาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าระดับของเขาจะไม่สูงนัก แต่ใครคือผู้ใช้ดาบม่อเตานี้ก็เป็นที่รู้จักกันมานานแล้ว “เลื่อนสองระดับภายในคืนเดียว” ฮวงเซียวหย่งพึมพำกับตัวเองอย่างเหลือเชื่อกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าสามปีที่แล้วฮวงเซียวหย่งเลื่อนมาถึงระดับโคมสอง และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีความก้าวหน้าใด ๆ และนี่ก็เป็นขั้นที่หลายคนไม่สามารถเอาชนะได้ในจวนเจ้าเมืองมีปรมาจารย์โคมสองหลายสิบคน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ไม่มีความหวังที่จะได้เลื่อนระดับ ฮวงเซียวหย่งคิดว่าตัวเองจะอยู่ในระดับโคมสองนี้ไปตลอดชีวิตแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งอัศจรรย์เช่นการเลื่อนสองระดับภายในคืนเดียวนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเขาทันใดนั้นฮวงเซียวหย่งก็คุกเข่าลง“ท่านอาจารย์
ฮวงเซียวหย่งตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า "ท่านอาจารย์ ท่านล้อเล่นหรือ? ผู้ฝึกฝนจะไม่มีวัตถุแห่งชีวิตได้อย่างไร"“มันเป็นไปไม่ได้หรือ?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัย เนื่องจากตัวเขาไม่มีวัตถุแห่งชีวิต แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนของโลกเชวียนหยวน บางทีการฝึกฝนของเขาอาจแตกต่างจากของพวกเขาด้วยก็ได้“ท่านอาจารย์” จู่ ๆ ฮวงเซียวหย่งก็หายใจถี่ขึ้นแล้วพูดว่า “ท่านไม่มีวัตถุแห่งชีวิตหรือ? ข้าได้ยินมาว่า เมื่อไปถึงจุดยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมีวัตถุแห่งชีวิตอีกต่อไป”ดวงตาของฮวงเซียวหย่งเริ่มหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ หากอาจารย์ไม่มีวัตถุแห่งชีวิตจริง ๆ ก็หมายความว่าเขาคือยอดปรมาจารย์ไม่ใช่หรือ?นี่คือระดับสูงสุด ในโลกเชวียนหยวนมียอดปรมาจารย์ทั้งหมดเพียงสามคนในตำนานสำหรับฮวงเซียวหย่งเขาเคยโชคดีที่ได้พบกับปรมาจารย์โคมเจ็ด ซึ่งเป็นปรมาจารย์ระดับสูงอยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้พบกับยอดปรมาจารย์!หานซานเฉียนไม่รู้ว่าเขาอยู่ในระดับใด เพราะเขาไม่มีวัตถุแห่งชีวิตที่จะสะท้อนให้เห็น แต่สถานะยอดปรมาจารย์อาจไม่ใช่ระดับความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา“ช่วยข้าหา
การขอความช่วยเหลือจากผู้คนแล้วฆ่าทิ้งเป็นสิ่งที่หานซานเฉียนทำไม่ได้“ท่านผู้เฒ่า โปรดเก็บเรื่องของวันนี้ไว้เป็นความลับด้วย” หานซานเฉียนพูดกับชายชราชายชราพยักหน้าและกล่าวว่า "แน่นอนขอรับ ข้าไม่มองท่านเลยตั้งแต่แรก ก็เพราะว่าข้ายังอยากมีชีวิตรอด ขอบพระคุณท่านมากที่ไม่ฆ่าข้า"“ท่านไปเถอะ รางวัลสำหรับวันนี้ ข้าจะให้ฮวงเซียวหย่งส่งไปให้ที่เรือน” หานซานเฉียนนกล่าวชายชรากำหมัดแน่นพร้อมกับโค้งคำนับ แล้วหันหลังเดินจากไปเนื่องจากหานซานเฉียนไม่ต้องการฆ่า ฮวงเซียวหย่งก็จะไม่ออกความเห็นใดในเรื่องนี้ เมื่อมองไปที่ภาพวาดในมือของหานซานเฉียน ฮวงเซียวหย่งก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า "ท่านอาจารย์ หญิงงามในภาพนี้ คือคนรักในฝันของท่านหรือขอรับ?หานซานเฉียนจ้องไปที่ฮวงเซียวหย่งแล้วพูดว่า "นี่คือน้องสาวที่หายไปของข้า เจ้านำภาพเสมือนนี้ไป แล้วสั่งให้ลูกน้องของเจ้าช่วยข้าออกตามหานาง"“ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของท่านอาจารย์นี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่นางดูมีพรสวรรค์มากเช่นนี้ ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยท่านตามหานางเองขอรับ” ฮวงเซียวหย่งกล่าวผู้ชายคนนี้มีทักษะการประจบคนอื่นที่ค่อนข้างดีจริง ๆ แต่มันไม่มีประโยชน์กับหานซ
ผู้คุ้มกัน?ผู้ตาย!สีหน้าเฉินเหยียนหรันเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินสิ่งนี้ และเธอก็พูดขึ้นว่า "ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าหมายถึงอะไร"มุมปากของหานซานเฉียนโค้งงอในลักษณะแปลก ๆ และเขาก็ยิ้มโดยไม่พูดอะไรการแสดงออกเช่นนี้ทำให้เฉินเหยียนหรันรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น และเธอก็หันหลังจากไปอย่างรวดเร็วสายตาของหานซานเฉียนดูเหมือนจะมองทะลุเธอ ความรู้สึกนี้ทำให้เฉินเหยียนหรันรู้สึกไม่สบายใจ ในความเห็นของเฉินเหยียนหรัน เธอควรจะเป็นฝ่ายเล่นงานหานซานเฉียน แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าหานซานเฉียนดูเหมือนจะมองเรื่องทุกอย่างออกหมดมานานแล้ว แต่แค่ไม่ขัดขืนเท่านั้นเพราะเหตุใดกัน?หรือว่าเขาจะเดาไว้แล้วว่าเขาต้องตายในงานล่าอสูรอย่างนั้นหรือ?แต่ในเมื่อเดาได้แล้ว เหตุใดถึงไม่หนีไปล่ะ?“เหยียนหรัน เป็นอะไรไป?” เฉินเถี่ยซินถามขึ้น เมื่อเขาเห็นว่าสีหน้าของเฉินเหยียนหรันผิดปกติไปเฉินเหยียนหรันส่ายหัว เธอไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของเธอเมื่อกี้นี้ถูกต้องหรือไม่ ในใจมีมีลางสังหรณ์แปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้ แต่คนไร้ค่าอย่างหานซานเฉียนจะทำให้เธอรู้สึกอันตรายได้อย่างไร“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ ท่านพี่ พวกเรารีบเตรียมตัวสำหรับงานล่าอสูรกั
“ท่านพ่ออย่าเพิ่งรีบร้อน ข้ากำลังบอกท่านว่า จริง ๆ แล้วสาเหตุที่ข้าสามารถเลื่อนระดับได้ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้เป็นเพราะท่านอาจารย์ของข้าเอง” เมื่อพูดถึงหานซานเฉียน ฮวงเซียวหย่งรู้สึกภาคภูมิใจจากก้นบึ้งของหัวใจอย่างเห็นได้ชัด และความภักดีที่เขามีต่อหานซานเฉียนก็เหนือคำบรรยาย“ท่านอาจารย์?” ฮวงโหวอี้มองฮวงเซียวหย่งด้วยความสับสน เขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะเจ้าเมือง เขารู้ดีว่าใครอยู่ในเมืองหลงหยุนมีคนประเภทไหน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีปรมาจารย์ระดับสูงเช่นนี้ ผู้ที่สามารถทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนระดับไปถึงโคมสี่ได้เช่นนี้ ในความเห็นของฮวงโหวอี้อย่างจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งเหนือโคมหกขึ้นไป แต่จะมีประมาจารย์เช่นนี้อยู่ในสถานที่เล็ก ๆ อย่างเมืองหลงหยุนได้อย่างไร?“อาจารย์ของเจ้าคือไคร เขาอยู่ในเมืองหลงหยุนรึ?” ฮวงโหวอี้ถามสำหรับหัวข้อนี้ฮวงเซียวหย่งสามารถบอกได้แค่ว่าเขามีปรมาจารย์ และการเลื่อนระดับของเขาก็เป็นเพราะปรมาจารย์ แต่เขาจะเปิดเผยตัวตนของปรมาจารย์ไม่ได้ นี่คือคำเตือนที่หานซานเฉียน แม้ว่าจะมอบความกล้าให้กับฮวงโหวอี้ แต่เขาก็ไม่กล้าบอกตัวตนของหานซานเฉียน“ท่
"อะไรนะ!"ในลานบ้านของตระกูลหวัง เสียงคำรามที่น่าตกใจดังขึ้นจากผู้นำตระกูลหวังผู้นำตระกูลหวังเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อฮวงเซียวหย่งเลื่อนระดับถึงโคมสี่ มันเป็นความเสียหายร้ายแรงต่อผู้นำตระกูลหวังในช่วงเวลาวิกฤติที่ต้องการโค่นล้มสถานะเจ้าเมืองของฮวงโหวอี้ ข่าวนี้เกือบทำให้เขาสิ้นหวัง“ตรวจสอบดีแล้วหรือยัง ฮวงเซียวหย่งจะเลื่อนไปถึงระดับโคมสี่ได้อย่างไร!”ในเวลาเดียวกัน สถานการณ์เดียวกันก็เกิดขึ้นในลานบ้านของตระกูลเซี่ยผู้นำตระกูลเซี่ยหายใจถี่เมื่อได้ทราบข่าวกะทันหันนี้ เขาไม่เต็มใจที่จะเชื่อ แต่การที่ฮวงโหวอี้เปิดเผยข่าวดังกล่าวมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอย่างแน่นอน“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ฮวงเซียวหย่งอยู่ในระดับโคมสองเท่านั้น จะเลื่อนไปถึงโคมสี่อย่างรวดเร็วได้อย่างไร!” ผู้นำตระกูลเซี่ยถามคนรับใช้ของเขา“ท่านผู้นำ บ่าวได้ยินจากผู้แจ้งข่าวของจวนเจ้าเมืองว่า ดาบม่อเตาวัตถุแห่งชีวิตของฮวงเซียวหย่งปรากฏโคมสี่ดวงจริง ๆ ขอรับ มันไม่ใช่เรื่องเท็จอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องที่เขาเลื่อนระดับได้อย่างไรนั้น ไม่ทราบขอรับ” คนรับใช้ตอบผู้นำตระกูลเซี่ยหายใจเข้าลึก หากฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งเช
เฉินเหยียนหรันไม่ได้สนใจหานซานเฉียน และหานซานเฉียนก็ไม่เคยสนใจเฉินเหยียนหรันแม้ว่าในเมืองหลงหยุนจะมีคนที่ตามจีบเฉินเหยียนหรันมากมาย แต่สิ่งที่ดึงดูดใจผู้อื่นก็คือความงามของเธอเท่านั้น สำหรับหานซานเฉียน เธอเป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลยหานซานเฉียนยักไหล่ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ไม่มีอะไร แล้วท่านมาหาข้ามีธุระอะไร”เฉินเหยียนหรันมองหานซานเฉียนด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ เธอเคยพบกับผู้ชายมากมาย และเมื่อพวกเขาเห็นเธอ พวกเขาต่างก็อยากครอบครองความงามของเธอ แต่ดวงตาของหานซานเฉียนนั้นดูเหมือนไม่มีความปรารถนาที่จะครอบครองเธออย่างชัดเจนสิ่งนี้ทำให้เฉินเหยียนหรันสับสนมาก หรือว่าชายตรงหน้าเธอจะไม่สะทกสะท้านเมื่อเผชิญกับความงาม?หรือว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย หรือไม่ก็มีบางอย่างผิดปกติ?เมื่อเดินไปหาหานซานเฉียน เฉินเหยียนหรันก็จงใจแอ่นหน้าอกของเธอ“หานซานเฉียนอย่าแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าข้า พวกผู้ชายต่างก็เหมือนกันหมด เจ้าจะไม่ถูกล่อลวงด้วยความงามได้อย่างไร?” เฉินเหยียนหรันกล่าวด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์"นี่ท่านกำลังยั่วยวนข้า?" หานซานเฉียนเลิกคิ้วมองที่เฉินเหยียนหรันแล้วพูดต่อ