ทุกคนต่างวิตกกังวล และแพทย์จำนวนมากก็กลับมาที่คฤหาสน์ใจกลางภูเขาอีกครั้ง และทำการตรวจร่างกายให้ซูหยิงเซี่ยอย่างละเอียด แต่ก็ยังไม่พบอะไรเลย แพทย์จำนวนมากส่ายหัวอย่างจนปัญญา ในเรื่องนี้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยหานเทียนหยางโกรธและขับไล่ทุกคนออกจากคฤหาสน์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ชื่อดัง หรือว่าจะมีสถานะสูงแค่ไหนในหยุนเฉิง ก็ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นมาตอบโต้เลย ทุกคนทำได้เพียงก้มหัวและยอมรับมันหนานกงป๋อหลิงก็เร่งให้แพทย์ชื่อดังระดับโลกรีบมาที่หยุนเฉิงโดยเร็วที่สุด ใครก็ตามที่กล้าชักช้าจะต้องมีมีดจ่ออยู่ที่คอ กล่าวได้ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของซูหยิงเซี่ยส่งผลกระทบไปทั่วทั้งวงการแพทย์ของโลก และหนานกงป๋อหลิงก็ไม่ปิดบังพลังของตระกูลหนานกงอีกต่อไป เขาใช้วิธีการขั้นสุด หากใครไม่เชื่อฟังคำสั่งของตระกูลหนานกง ก็ต้องตายสถานเดียว!หานซานเฉียนซึ่งอยู่ในถ้ำราชาปีศาจยังไม่รู้เรื่องนี้ แต่เขาก็พบกับเหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นกัน งูตัวน้อยดูเหมือนจะเกาะติดเขาแน่น ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน งูสีขาวตัวน้อยก็จะติดตามเขาไปด้วย และที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือในถ้ำราชาปีศาจ สถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่ง มีเพียงกอริลลาเท่านั
การปรากฏตัวของเหอเซียวเซียวทำให้ใบหน้าของอี้เหล่ากลายเป็นน้ำแข็ง เหอชิงเฟิงเองก็ดูตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเหอชิงเฟิงรู้ว่าเหอเซียวเซียวต้องการให้หานซานเฉียนตาย แต่เธอไม่ควรมาซ้ำเติมในเวลานี้หานซานเฉียนเป็นลูกศิษย์ของอี้เหล่า และการที่หานซานเฉียนเข้าไปในถ้ำราชาปีศาจในครั้งนี้มันมีความสำคัญต่อทั้งเทียนฉีในช่วงสิบปีที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถผ่านการทดสอบถ้ำราชาปีศาจได้ ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่อยู่ในถ้ำราชาปีศาจ หากหานซานเฉียนสามารถผ่านการทดสอบนี้ได้ เขาจะทำให้คนอื่นกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งอย่างแน่นอนและตอนนี้ แม้แต่หานซานเฉียนก็ตายไปแล้ว ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นคือมันจะทำให้คนอื่น ๆ กลัวถ้ำราชาปีศาจมากขึ้นไปอีก แล้วในอนาคตใครจะกล้าเข้าไปในถ้ำราชาปีศาจกันล่ะ?การทดสอบที่สำคัญนี้อาจถูกยกเลิกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และนี่ยังบ่งชี้อีกว่าจะไม่มีปรมาจารย์ระดับเทียนอีกแล้วในอนาคต สำหรับเทียนฉีนี่เป็นการโจมตีที่เกือบจะทำลายล้าง ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาสำคัญ ความผันผวนในพื้นที่ต้องห้ามแสดงให้เห็นว่าโลกอีกใบกำลังจะเคลื่อนตัว ความแข็งแกร่งของเทียนฉีในปัจจุบันไม่สามารถ
“พ่อตบฉัน แล้วยังมาบอกว่าพ่อกำลังปกป้องฉันงั้นเหรอ ไร้สาระจริง ๆ เหอชิงเฟิง ถ้าแน่จริงก็ส่งฉันไประดับฮวงสิ แม่ของฉันกำลังคอยมองอยู่บนฟ้า” เหอเซียวเซียวพูดอย่างแข็งข้อเหอชิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นอีก เธอผยองมาก กล้าพูดแบบนี้ในที่สาธารณะโดยไม่เหลือเส้นทางไว้ให้หลบหนีเลย ในฐานะผู้นำซานเตี้ยน เหอชิงเฟิงสามารถปล่อยให้เหอเซียวเซียวทำตามใจตัวเองได้ทุกอย่างในซานเตี้ยน แต่ต่อหน้าอี้เหล่า เขาจะต้องอธิบายเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้จะกลายเป็นตราบาปของซานเตี้ยนไปตลอด “เหอชิงเฟิง ในเมื่อเธอร้องขออย่างนั้น คุณก็ควรปฏิบัติตามกฎของเทียนฉี เมื่อก่อนผมหลับหูหลับตาต่อเรื่องนี้ แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ปล่อยไปอีก” หลังจากทิ้งคำพูดเหล่านี้ อี้เหล่าก็จากไปหัวใจของเหอชิงเฟิงจมดิ่ง ดูเหมือนว่าอี้เหล่าจะไม่ประนีประนอมง่าย ๆ ในครั้งนี้ และเขาไม่อาจแตกหักกับอี้เหล่าเพื่อปกป้องเหอเซียวเซียวได้ เขาไม่อยากเป็นคนบาปที่ทำให้ซื่อเหมินและซานเตี้ยนพังทลายลง“อี้เหล่า เหอเซียวเซียวผยองในเทียนฉีมาหลายปีแล้ว เธอควรจะถูกลดระดับไปสู่ระดับฮวงนานแล้ว ตอนนี้เธอทำได้แค่ขอความเมตตาเท่านั้น” ผู้ช่วยกล่าวกับอี้เหล่าอี้เหล่า
เขตซานเตี้ยนเหอเซียวเซียวคุกเข่าต่อหน้าโลงศพคริสตัลของแม่เธอและกำลังระบายความผิดของเหอชิงเฟิง ในความเห็นของเธอ ทุกสิ่งที่เหอชิงเฟิงทำในวันนี้ถือเป็นการละเมิดสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ของเธอ เธอต้องการบอกเรื่องทั้งหมดนี้กับแม่ เพื่อให้เธอได้เฝ้าดูให้ดีจากบนฟ้า ว่าเหอชิงเฟิงปฏิบัติต่อเธออย่างไรขณะนี้เหอชิงเฟิงเองก็กำลังเจ็บปวดใจ เขาก็ไม่อยากเห็นเหอเซียวเซียวอยู่ในระดับฮวงเช่นกัน เพราะคุณหนูอย่างเธอไม่มีทางยอมรับสภาพแวดล้อมที่นั่นได้อย่างแน่นอน แต่อี้เหล่าได้พูดอย่างชัดเจนแล้ว อีกอย่างเหอเซียวเซียวก็ดื้อรั้นมาก หากครั้งนี้เขายังปกป้องเหอเซียวเซียว มันอาจทำให้ซื่อเหมินเกิดความไม่พอใจแน่ ในอดีต เหอชิงเฟิงอาจไม่สนใจความคิดเห็นของซื่อเหมิน ลูกสาวของเขาจะทำอะไรก็ได้ตามใจต้องการ เพราะเธอเป็นลูกสาวของผู้นำซานเตี้ยน แต่ตอนนี้ การผันผวนในโลกอีกใบของพื้นที่ต้องห้ามบังคับให้เหอชิงเฟิงต้องใส่ใจกับความสัมพันธ์ระหว่างซื่อเหมินและซานเตี้ยน “ท่านผู้นำ คุณจะส่งคุณหนูไปที่ระดับฮวงจริง ๆ เหรอครับ?” ลูกน้องของเหอชิงเฟิงถามขึ้นเหอชิงเฟิงถอนหายใจและพูดว่า "ในอดีต คนที่เซียวเซียวยั่วยุเป็นเพียงบุคคลเล็ก ๆ
เมื่อหานซานเฉียนเห็นเจียงหยิงหยิงนอนอยู่ในระยะไกล เขาก็ใช้กำลังทั้งหมดคลานเข้าไปหาเธอ “หยิงหยิง เธอเป็นยังไงบ้าง” หานซานเฉียนขเย่าร่างของเจียงหยิงหยิงเจียงหยิงหยิงไม่ตอบสนองเลย ซึ่งทำให้หานซานเฉียนรู้สึกหมดหวัง แต่เมื่อเขาตรวจสอบลมหายใจเธอ เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเจียงหยิงหยิงแค่หมดสติไป เธอยังไม่ตายหานซานเฉียนนอนหงายบนพื้น พลังงานของเขาหมดแล้ว และตอนนี้เขาจำเป็นต้องพักผ่อนก่อนแต่ในขณะที่หานซานเฉียนกำลังพักผ่อน ความสงสัยบางอย่างก็เกิดขึ้นในใจของเขา เขายังคงจำสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะหมดสติไปได้ในระหว่างการต่อสู้กับกิ้งก่ายักษ์ หานซานเฉียนเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ในเวลานั้นหานซานเฉียนแทบจะหมดหวัง ในความคิดของเขา เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขายังไม่ตาย และกิ้งก่ายักษ์ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เขาควรจะเป็นอาหารของกิ้งก่ายักษ์ แต่ทำไมตอนนี้เขาแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้นล่ะ แล้วทำไมกิ้งก่ายักษ์ถึงหายไป?หานซานเฉียนนึกกอริลล่าที่เขาเจอในถ้ำราชาปีศาจ ดูเหมือนว่ามันจะพบกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจึงวิ่งหนีไป หรือว่ากิ้งก่ายักษ์จะหายไปเพราะเหตุนี้เช่นกั
เพิ่งเริ่มต่อสู้ เจียงหยิงหยิงก็เป็นสลบไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?หานซานเฉียนขมวดคิ้ว สิ่งนี่มันแปลกมาก กิ้งก่ายักษ์กำลังมุ่งเป้ามาที่เขา เจียงหยิงหยิงจะได้รับผลกระทบได้ยังไง?หรือว่าตอนที่กิ้งก่ายักษ์ปรากฏตัวจะสิ่งมีชีวิตอื่นปรากฏตัวขึ้นด้วย แต่พวกเขากำลังมุ่งความสนใจไปที่กิ้งก่ายักษ์ จึงไม่ทันได้สังเกตเห็น และเจียงหยิงหยิงก็ถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตอื่นการคาดเดานี้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่เจียงหยิงหยิงกลับยังไม่ตาย ซึ่งนี่มันค่อนข้างแปลกเพราะกระดูกสีขาวบนพื้นแสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นอย่างดี หากถูกพวกมันโจมตีจะแค่สลบไปได้ยังไง?“พี่ซานเฉียน ที่นี่เป็นสถานที่แบบไหนกันแน่คะ ทำไมถึงได้มีสิ่งแปลก ๆ เหล่านี้” เจียงหยิงหยิงถามหานซานเฉียนด้วยความสับสนหานซานเฉียนคิดเกี่ยวกับปัญหานี้มานานแล้ว นี่อาจเป็นความลับที่เทียนฉีซ่อนไว้ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระดับเทียน และไม่เคยมีประสบการณ์ในการทดสอบจากถ้ำราชาปีศาจ จึงไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้ความลับของเทียนฉี ก่อนหน้านี้ที่อี้เหล่าและฟางจ้านปิดปากเงียบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้หานซานเฉียนพอจะทราบเหตุผลแล้วเพราะถึงบอกเรื่องนี้กับเขา
หลังจากที่หานซานเฉียนเห็นแบบนั้น จิตใจของเขาก็เต็มไปด้วยคำถาม เขาเคยพบกับกอริลล่า ถึงจะอธิบายไม่ได้ว่าทำไมมันถึงวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ไม่ได้เชื่องขนาดนี้ และไม่ต้องพูดถึงกิ้งก่ายักษ์เลย มันอยากจะจับพวกเขากินตั้งแต่เจอกันด้วยซ้ำ แต่ในเวลานี้พวกมันจะมีสีหน้าอ่อนโยนและก้มหัวลงแบบนี้ได้ยังไงกัน“เกิดอะไรขึ้น?” หานซานเฉียนพูดด้วยความตกใจเจียงหยิงหยิงก็มีสีหน้าสับสนเช่นกัน สิ่งมีชีวิตดุร้ายเหล่านี้เป็นสิ่งที่สร้างพื้นดินที่เต็มไปด้วยโครงกระดูก ตอนนี้พวกมันปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขาแล้ว แต่ทำไมพวกมันถึงไม่โจมตีล่ะ?“พี่ซานเฉียน พวกมันมองไม่เห็นเรางั้นเหรอ?” เจียงหยิงหยิงพูดเสียงเบา คำพูดไร้สาระนี้ทำให้หานซานเฉียนหัวเราะ ถึงจะอยากปลอบใจตัวเอง ก็ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องตลกแบบนี้ มองไม่เห็นแต่กลับมาอยู่ตรงหน้า นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระไม่ใช่หรือไง?“หยิงหยิง หลังจากที่ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว พี่ซานเฉียนคนนี้จะหาโรงพยาบาลให้เธอไปตรวจเช็กสมอง” หานซานเฉียนล้อเลียนเจียงหยิงหยิง ในขณะที่กำลังเผชิญกับปัญหาเจียงหยิงหยิงแลบลิ้นด้วยสีหน้าเขินอายในเวลานี้หานซานเฉียนพบว่างูสีขาวตัวน้อยพันอยู่ร
เขตซื่อเหมินหลังจากเกิดเสียงดังขึ้นในถ้ำราชาปีศาจ เกือบทุกคนคิดว่าหานซานเฉียนตายแล้วอี้เหล่าหดหู่และไม่เคยออกจากซื่อเหมินอีกเลยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาสำหรับอี้เหล่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เขาตั้งความหวังกับหานซานเฉียนสูงมาก และฝากความหวังทั้งหมดของเทียนฉีไว้กับเขา โดยหวังว่าเขาจะผ่านการทดสอบจากถ้ำราชาปีศาจเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และความมั่นใจให้กับผู้อื่นต่อไปหวังว่าหลังจากที่หานซานเฉียนมีสถานะเป็นระดับเทียนแล้วเขาจะสามารถเป็นผู้นำซื่อเหมินสามารถแบ่งเบาภาระของเขาได้ และเขาจะได้ไปสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกอีกใบได้อย่างหมดห่วงแต่เนื่องจากการตายของหานซานเฉียน แผนการทั้งหมดของอี้เหล่าจึงสูญเปล่า ไม่เพียงแต่ผู้ที่อยู่ในระดับตี้จะกลัวถ้ำราชาปีศาจมากขึ้นเท่านั้น แต่การหาผู้นำคนใหม่ให้ซื่อเหมินก็ยังเป็นเรื่องเพ้อฝันอีกด้วย“อี้เหล่า คุณอย่ากังวลมากเกินไปเลย บางทีนี่อาจเป็นโชคชะตาที่กำหนดไว้แล้วว่าหานซานเฉียนจะไม่สามารถรับงานสำคัญนี้ได้” ผู้ช่วยพูดกับอี้เหล่าอี้เหล่าอารมณ์ไม่ดี เพราะการตายของหานซานเฉียนไม่ใช่แค่การตายของเขาเท่านั้น แต่มันทำให้เทียนฉีเสื่อมโทรมลงด้วย ขนาดเขายังท้