“ทำไมดูมีลับลมคมในขนาดนี้ หรือว่าคุณจะยอมบอกความลับของเทียนฉีให้ผมรู้ล่วงหน้าอย่างนั้นเหรอ?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัย“นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มีเพียงฉันและเหอชิงเฟิงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะรู้เรื่องนี้ได้” อี้เหล่ากล่าวทั้งเทียนฉี มีเพียงอี้เหล่าและเหอชิงเฟิงเท่านั้นที่รู้!สิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนประหลาดใจเล็กน้อยว่าเทียนฉีมีความลับกี่อย่างกันแน่ ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่ปกคลุมไปด้วยความลับ"พูดมาสิ ผมฟังอยู่" หานซานเฉียนเงี่ยหู แม้ว่าภายนอกเขาจะดูเฉยเมย แต่ใจจริงแล้วก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น“นายเคยได้ยินข่าวลือของผู้ทรงพลังในเทียนฉีไหม?” อี้เหล่าถามผู้ทรงพลังในเทียนฉี?หานซานเฉียนเคยได้ยินฟางจ้านพูดถึงเรื่องนี้ และมันก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความลับอะไร เพราะคนในเทียนฉีต่างก็รู้เรื่องนี้ แม้กระทั่งคนในระดับฮวงที่อยู่ระดับต่ำสุดก็ยังเคยได้ยินเรื่องนี้ แล้วมันจะเป็นความลับได้ยังไงกัน “อี้เหล่า คุณว่างมากขนาดนี้เลยเหรอถึงได้เอาเรื่องนี้มาหลอกผม แม้แต่คนในระดับฮวงยังรู้เรื่องนี้เลย” หานซานเฉียนพูดอย่างเหยียดหยาม“สำหรับพวกเขา เรื่องนี้เป็นเพียงตำนาน แต่สิ่งที่ฉันอยากบอก
พวกเขาทั้งสามเดินเคียงข้างกัน และในที่สุดก็มาถึงที่หมายด้านหน้าของหานซานเฉียนเป็นภูเขาที่นอกจากก้อนหินแล้วก็ไม่มีวัชพืชปกคลุมเลยแม้แต่นิดเดียว“นี่คือที่อยู่อาศัยของเขาเหรอครับ อยู่ที่ไหนล่ะ?” หานซานเฉียนถามอี้เหล่าด้วยความสับสน เขาไม่เห็นว่าจะมีที่สำหรับให้ผู้คนอาศัยเลย"ตามฉันมา" อี้เหล่าพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก ทุกครั้งที่เขามาที่นี่ อี้เหล่าจะเคร่งขรึมและไม่กล้ายิ้มเลย เพราะคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเทียนฉีเคยอาศัยอยู่ที่นี่เมื่อมาถึงกำแพงภูเขา หานซานเฉียนก็ค้นพบรายละเอียดบางอย่าง แม้ว่าพื้นผิวของกำแพงภูเขาจะมีความเว้าและนูนไม่เสมอกัน แต่ก็มีรอยต่อของหินที่เรียบร้อยและดูเหมือนประตู“ดูตรงนี้สิ มันเหมือนอะไร?” อี้เหล่าถามหานซานเฉียน และชี้ไปที่จุดหนึ่งบนกำแพงภูเขา“รอยฝ่ามือ” หานซานเฉียนพูดโดยไม่ลังเล เห็นได้ชัดว่ามันเป็นรอยฝ่ามือ แถมยังบางและเล็กมากราวกับเป็นมือของผู้หญิง “ผู้ที่แข็งแกร่งคนนี้เป็นผู้หญิงอย่างนั้นเหรอครับ?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัย“เธอชื่อฝู๋เหยา เธอน่าจะเป็นผู้หญิงไม่ผิดแน่ แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดาของเหอชิงเฟิงกับฉันเท่านั้น” อี้เหล่าอธิบายฝู๋เหยา?ชื่อนี้
การฆ่าคนในเทียนฉีถือเป็นเรื่องต้องห้ามอยู่ล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าคนที่หานซานเฉียนจะฆ่าคือเหอชิงเฟิง ผู้นำแห่งซานเตี้ยน!อี้เหล่ามาอยู่ตรงหน้าหานซานเฉียน เขาวางมือบนไหล่ของหานซานเฉียนและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "หานซานเฉียน อย่าทำอะไรสิ้นคิด"หานซานเฉียนไม่ได้มองอี้เหล่าด้วยซ้ำ เขายังคงมองไปที่เหอชิงเฟิงด้วยเจตนาฆ่าและพูดว่า "การเอาครอบครัวมาข่มขู่ผม ถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่คุณเคยทำ"ในฐานะผู้นำแห่งซานเตี้ยน เหอชิงเฟิงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวมาหลายปีแล้ว ไม่เพียงแต่เขาจะมีสถานะสูงส่งเท่านั้น แต่เขายังทรงพลังมากอีกด้วย ไม่มีใครสามารถคุกคามเขาได้แต่ในขณะนี้ เหอชิงเฟิงรู้สึกหวาดกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาสังเกตเห็นเจตนาฆ่าในดวงตาของหานซานเฉียน เขาก็ขยับถอยไปโดยไม่รู้ตัวชายหนุ่มตรงหน้าทำให้เขาถอยได้อย่างนั้นเหรอ!“ฉันคือผู้นำแห่งซานเตี้ยน นายจะฆ่าฉันได้งั้นเหรอ?” เหอชิงเฟิงกัดฟันแล้วพูดขึ้น“คุณในตอนนี้ ถ้าผมจะฆ่าคุณมันจะไปยากอะไร” หานซานเฉียนถามความประมาทของเหอชิงเฟิงทำให้เขาต้องจ่ายราคามหาศาล สภาพเขาในปัจจุบันนั้นน่ากังวลจริง ๆ และความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนก็ไม่ธ
เมื่อหานซานเฉียนเดินไปข้างหน้าฝู๋เหยา สีหน้าของเขาก็ดูหวาดกลัวอย่างมาก ก่อนจะถอยหลังกลับไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งถึงกำแพงถึงหยุดลงฝู๋เหยา!เธอคือฝู๋เหยา!สมองของหานซานเฉียนรู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิด!เห็นได้ชัดว่านี่คือซูหยิงเซี่ย เธอจะเป็นฝู๋เหยาได้อย่างไร?เธอเหมือนซูหยิงเซี่ยทุกประการ ราวกับแกะสลักออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันเลยทันใดนั้น ใบหน้าของฝู๋เหยาก็แห้งผากด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดูเหมือนว่าบ้านหินนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เนื่องจากการมาของหานซานเฉียน ทำให้ร่างกายที่ได้รับการดูแลอย่างดีของเธอสูญเสียความชุ่มชื้นในขณะนี้"ไม่นะ ไม่นะ" ใบหน้าของหานซานเฉียนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขาต้องการหยุดสิ่งนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ทำได้เพียงลนลานอยู่กับที่เท่านั้นมองดูฝู๋เหยากลายเป็นโครงกระดูกที่เหี่ยวเฉา หานซานเฉียนเหมือนได้เห็นการตายของซูหยิงเซี่ย สิ่งนี้ทำให้เขาเจ็บปวดใจจนหายใจแทบไม่ออก“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้” หานซานเฉียนเดินไปมาเหมือนคนบ้าทำไมฝู๋เหยาถึงได้เหมือนซูหยิงเซี่ยขนาดนี้แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกั
อย่างไรก็ตาม เหอชิงเฟิงยังคงไม่พอใจหลังจากได้หนังสือเล่มเล็กนั้น เขาไม่เชื่อว่าหานซานเฉียนจะนำของเพียงสิ่งเดียวออกมาจากบ้านหินนั้น“หานซานเฉียน วิธีพิสูจน์ว่านายไม่ได้เอาของอย่างอื่นออกมานั้นง่ายมาก ถอดเสื้อผ้าของนายออกซะ แล้วฉันจะเชื่อนาย” เหอชิงเฟิงกล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างเย็นชา ชายชราคนนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดของเขาจริง ๆ เขายังมีไข่มุกอยู่ในมือ แต่สิ่งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับซูหยิงเซี่ย แล้วเขาจะมอบมันให้เหอชิงเฟิงได้ยังไงและเขาก็ไม่มีทางที่จะถอดเสื้อผ้าเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เพราะเขาไม่จำเป็นต้องถอด“เหอชิงเฟิง ผมสามารถเข้าและออกจากประตูหินนี้ได้ ผมยังต้องเอาอะไรออกมาอีกไหม? อีกอย่างของที่มีค่าที่สุดก็อยู่ในมือคุณแล้ว หากยังไม่พอใจ คุณก็ลองเข้าไปดูเอง” หานซานเฉียนพูดด้วยเสียงที่เย็นชาถ้าเหอชิงเฟิงสามารถเข้าไปได้ เขาคงไม่รอมาถึงตอนนี้ คำพูดของหานซานเฉียนจี้จุดเขาอย่างจังด้วยความปรารถนาอันร้อนแรง เหอชิงเฟิงจึงพูดกับหานซานเฉียนว่า "หากนายเอาของข้างในออกมาให้ฉันได้ ฉันก็จะไม่อะไรกับนาย"“หัวใจที่ชั่วร้ายของคุณ แม้ว่าผมจะเอาออกมาหมดทุกอย่างแล้ว คุณจะเชื่อไหม คุณก็ยังจะคิดว่าผมเก็บสิ่งท
หานซานเฉียนเดินตรงไปหาทั้งสองแล้วถามอี้เหล่าขึ้นทันที "เราจะเริ่มได้ไหร่ครับ"อี้เหล่ารู้ว่าหานซานเฉียนจะต้องใจร้อนอย่างแน่นอน แต่การที่มาพบเขาแต่เช้าตรู่แบบนี้ก็ป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดอยู่เล็กน้อย เพราะเขาเคยไปที่บ้านหินแล้ว และในนั้นจะต้องมีมากกว่าแค่หนังสือเล่มเล็กที่เขานำออกมาแน่ จากความคิดของอี้เหล่า เขาน่าจะมองหาโอกาสกลับไปที่นั่นอีกครั้งถึงจะถูก “นายอยากเริ่มเมื่อไหร่ล่ะ” อี้เหล่าถาม“วันนี้” หานซานเฉียนแน่วแน่“ในบ้านหินไม่มีอะไรคุ้มค่ากับเวลาของนายเหรอ?” อี้เหล่าขมวดคิ้วถามขึ้น เขาและเหอชิงเฟิงต่างก็เดาว่ามีในบ้านหินจะต้องมีบางสิ่งที่สามารถเปลี่ยนเทียนฉีได้ แถมยังทำให้ทั้งเทียนฉีแข็งแกร่งขึ้นด้วย และหานซานเฉียนสามารถเข้าไปได้บางทีมันอาจจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นก็ได้ถ้ำราชาปีศาจเป็นสถานที่ที่จะเสียชีวิตหากไม่ระวัง ดังนั้นในสายตาของอี้เหล่า หานซานเฉียนควรไปที่ถ้ำราชาปีศาจหลังจากแข็งแกร่งขึ้นแล้วคือทางเลือกที่ดีที่สุดในบ้านหิน หานซานเฉียนเห็นฝู๋เหยาที่ดูเหมือนซูหยิงเซี่ยทุกประการ เมื่อเผชิญกับเรื่องนี้ ไม่มีสิ่งอื่นใดดึงดูดความสนใจของเขาได้อีก สิ่งที่เขาต้องการคือหาโอกาสค้นหา
เทียนฉีเริ่มการสนทนากันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับหานซานเฉียน และผู้ที่ทุกข์ทรมานมากที่สุดก็คือหลินตงแม้ว่าความสำเร็จของหานซานเฉียนในการเลื่อนระดับสู่ระดับตี้จะเหนือกว่าเขามาก แต่อย่างน้อยในตอนนี้ทั้งสองก็ยังอยู่ในระดับเดียวกัน และถ้ำราชาปีศาจป็นสถานที่ที่ทำให้เขาเต็มไปด้วยความกลัว หลังจากผ่านไปหลายปี หลินตงก็ไม่คิดที่จะเข้าร่วมทดสอบถ้ำราชาปีศาจด้วยซ้ำ แต่หานซานเฉียนกลับตัดสินใจเข้าร่วมบททดสอบอย่างง่ายดายไม่ได้พูดถึงความแข็งแกร่ง แค่ความกล้าหาญหลินตงก็แพ้หานซานเฉียนแล้ว ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของบุตรแห่งสรวงสวรรค์คนนี้เป็นอย่างมากเช่นเดียวกับเหอเซียวเซียว ในสายตาของเธอ หานซานเฉียนเป็นเพียงขยะระดับฮวงเท่านั้น ใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนจากการพบกันครั้งแรก ตั้งแต่เพิ่งเข้าร่วมไปจนถึงการท้าทายถ้ำราชาปีศาจ ดูเหมือนว่าขยะคนนี้จะทะยานขึ้นและประสบความสำเร็จในสิ่งที่ไม่มีใครในเทียนฉีสามารถทำได้“พ่อคะ หานซานเฉียนกำลังไปที่ถ้ำราชาปีศาจจริง ๆ เหรอคะ?” เหอเซียวเซียวมาหาเหอชิงเฟิง เธอคิดว่านี่อาจเป็นข่าวลือ หานซานเฉียนจะไปถ้ำราชาปีศาจเร็วขนาดนี้ได้ยังไงในเวลานี้เหอชิงเฟิงก็สับสนมากเช่นกัน เขา
“บางทีนายอาจใช้วิธีนี้เพื่อทำให้ฉันสับสนก็ได้” เหอชิงเฟิงกล่าว แม้ว่าเขาจะไม่พบข้อบกพร่องในการกระทำของหานซานเฉียน แต่เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อ เพราะที่นั่นคือบ้านของฝู๋เหยา บุคคลที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเทียนฉีเชียวนะ“เอาชีวิตเข้ามาเดิมพันอย่างนั้นเหรอ?” หานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ และเดินผ่านเหอชิงเฟิงไป มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรมากไปกว่านี้ มันไม่สำคัญว่าเหอชิงเฟิงจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ ยังไงซะเขาก็เป็นคนเดียวที่สามารถเข้าไปในบ้านหินได้ คนอื่น ๆ จะมองเรื่องนี้อย่างไรมันก็ไม่มีนัยสำคัญสำหรับเขา “คิดดีจริง ๆ แล้วใช่ไหม? ตอนนี้ยังไม่สายที่จะเปลี่ยนใจ” เมื่อเขาเดินไปข้างหน้า อี้เหล่าก็พูดขึ้นกับหานซานเฉียน“คนมากมายกำลังมองผมอยู่ หากเลือกที่จะถอยตอนนี้ ก็ต้องถูกหัวเราะเยาะน่ะสิครับ” หานซานเฉียนกล่าว“แม้จะถูกหัวเราะเยาะ แต่ก็ยังดีกว่าต้องตายนะ นายยังมีเวลาให้เตรียมตัวเพิ่มเติม” อี้เหล่ากล่าว เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งเทียนฉีต่างก็ตกใจมาก และทุกคนก็จับจ้องไปที่เหตุการณ์นี้ การล่าถอยจะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับการสูญเสียชีวิต สิ่งหลังนั้นส