หลี่ซานเฟิงก็เสียใจมากเช่นกัน เขาไม่คิดเลยว่าสองปีผ่านไปเหยียนหวี่จะหาผู้สนับสนุนแบบนี้ได้ หากหลี่ซานเฟิงได้รับโอกาสให้ย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะมอบเงินให้กับเหยียนหวี่อย่างซื่อสัตย์ และจะไม่กล้าที่จะมีเจตนาร้ายต่อเหยียนหวี่เลยด้วย แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้วหลังจากที่ถูกพ่อของเขาทุบตีอย่างรุนแรง หลี่ซานเฟิงก็คุกเข่าต่อหน้าหานซานเฉียน ชายผู้โหดเหี้ยมที่สามารถบังคับให้หานเทียนเซิงออกจากพื้นที่เขตจีนได้คนนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะมีปัญหาด้วย“พี่ซานเฉียน ผมเลอะเลือนไปชั่วขณะ ถ้าเหยียนหวี่ต้องการสิ่งตอบแทน ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เธอพอใจ” หลี่ซานเฟิงก้มศีรษะลง และพูดด้วยความเคารพเมื่อเห็นฉากนี้ เหยียนหวี่ก็หายใจเข้าลึก ตระกูลหลี่ที่หยิ่งยโสก็มีวันนี้ด้วยเช่นกัน เธอใฝ่ฝันที่จะแก้แค้นมาโดยตลอด แต่เธอไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงในลักษณะนี้ เธอไม่ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เธอได้พบกับหานซานเฉียน เพราะเธอไม่เคยเชื่อเรื่องพระเจ้า ในใจของเธอตอนนี้ หานซานเฉียนก็คือพระเจ้า“นายเคยได้ยินคำพูดนี้ ฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต” หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆสีหน้าของทั้งสามคนในตระกูลหลี่เปลี่ยนไปอย่างมา
แม้ว่าหานซานเฉียนจะทำผลงานได้อย่างเหลือเชื่อในพื้นที่เขตจีน แต่ในมุมมองของหม่าเฟยห่าว เขาสามารถทำทั้งหมดนี้ได้ไม่เพียงเพราะความกล้าหาญของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะโชคของเขาด้วย เพราะถ้าไม่ใช่เพราะหม่าอวี้ลุงของเขามาถึงทันเวลา หานซานเฉียนคงตายด้วยน้ำมือของหานเซี่ยวไปแล้วสำหรับหม่าเฟยห่าว หานซานเฉียนจริง ๆ แล้วเป็นเพียงผู้ชายที่บ้าบิ่น แต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจถึงด้านที่โหดเหี้ยมของหานซานเฉียนแล้ว และในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าการเผชิญหน้ากับหานซานเฉียนนั้นมีความเสี่ยงสูงเพียงใด"ครับ" หม่าเฟยห่าวพยักหน้า จากนั้นก็ทำตามที่หานซานเฉียนบอกหานซานเฉียนพาเหยียนหวี่ไปนั่งบนอัฒจันทร์เหยียนหวี่ในขณะนี้ แม้ว่าเธอกำลังจะได้แก้แค้นแล้ว แต่ในใจเธอกลับรู้สึกหวาดกลัวมาก การที่ต้องการจะแก้แค้น ไม่ได้หมายความว่าเมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะยอมรับมันได้อย่างใจเย็นจริง ๆ เพราะเธอเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็ก ๆ หากเธอต้องเผชิญกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่น่าสลดใจนี้อีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นศัตรูของเธอก็ตาม แต่เธอก็ยังคงหวาดกลัวอยู่ดี“กลัวเหรอ?” หานซานเฉียนถามเหยียนหวี่เหยียนหวี่ก้มศีรษะลงไม่กล้าตอบหานซานเฉียนพูดข
แม้ว่าหลายคนจะได้เห็นเหตุการณ์บนสนามแข่ง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ดำเนินต่อ เพราะมันเกี่ยวข้องกับหานซานเฉียน และไม่มีใครอยากนำไฟนี้มาสู่ตัวเอง ดังนั้นการแพร่กระจายจึงน้อยมาก มีการลือกันในหมู่ตระกูลชนชั้นสูงอันดับต้น ๆ เท่านั้น และไม่มีใครกล้านำข่าวนี้ไปพูดกับคนนอกการเสียชีวิตของพ่อแม่ตระกูลหลี่กลายเป็นรายงานอุบัติเหตุทางรถยนต์ตามปกติ และไม่มีใครกล้าเจาะลึกเบื้องหลังเหตุการณ์นี้เหยียนหวี่ผู้ได้ล้างแค้น จู่ ๆ ก็แต่งตัวเซ็กซี่และมาปรากฏตัวต่อหน้าหานซานเฉียน ไม่มีการแต่งหน้าที่หนาเตอะ และชุดแหวกแนวก็จางหายไป และเธอก็ดูเป็นสาวมากขึ้น“เธอจะทำอะไร?” หานซานเฉียนถามเหยียนหวี่อย่างสงสัย“ฉันต้องการตอบแทนคุณ” เหยียนหวี่ก้มศีรษะลงแล้วพูดด้วยแก้มแดงเล็กน้อยแม้ว่าคำพูดจะไม่ชัดเจน แต่หานซานเฉียนก็เข้าใจได้ว่าเหยียนหวี่ต้องการทำอะไร ในใจของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ นี้ เธอไม่สามารถคิดหาวิธีอื่นได้นอกจากการตอบแทนหานซานเฉียนด้วยวิธีนี้สินะ“ฉันจัดเตรียมงานให้เธอแล้ว หากเธอสามารถทำงานได้อย่างขยันขันแข็ง มันจะเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับฉัน” หานซานเฉียนกล่าวทันใดนั้น เหยียนหวี่ก็ดึงไหล่เสื้อของเธอลง เ
คำพูดของหนานกงซุนล้วนแล้วแต่เป็นเพียการโม้ทั้งสิ้น เขาไม่เพียงแต่ไม่มีความสามารถในการฆ่าหานซานเฉียนถึงได้มาหาหลี่ซานเฟิงเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะว่าเขากลัวว่าตัวเองจะตาย หากเกิดข้อผิดพลาดด้วย สำหรับหนานกงซุน ทุกย่างก้าวเป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะหนานกงป๋อหลิงไม่ได้สนใจชีวิตของเขาอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ระมัดระวังอย่างมาก ถึงจะสามารถฆ่าหานซานเฉียนได้โดยที่ตัวเขาเองยังปลอดภัยแต่น่าเสียดายที่หลี่ซานเฟิงไม่รู้เรื่องนี้ เขาถูกความโกรธครอบงำและต้องการแก้แค้น และการปรากฏตัวของหนานกงซุนก็เหมือนโอกาสที่ตกลงมาจากฟากฟ้า หลี่ซานเฟิงคิดว่าถ้าเขาไม่รีบคว้าโอกาสนี้ไว้ เขาจะไม่มีโอกาสได้แก้แค้นอีก และไม่มีโอกาสพลิกฟื้นกลับคืนมาตลอดกาล “ผมต้องทำยังไง?” หลี่ซานเฟิงถามหนานกงซุนยิ้มเบา ๆ ดูเหมือนว่าหลี่ซานเฟิงจะเชื่อคำพูดของเขา ซึ่งมันดีมาก เพราะการมีหุ่นเชิดใช้ช่วยลดความเสี่ยงของเขาได้อย่างมากเลยทีเดียว“ฉี๋อีหยุน” หนานกงซุนกล่าวหลี่ซานเฟิงขมวดคิ้วและถามว่า "คุณหมายถึงอะไร? เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับฉี๋อีหยุนหรือเปล่า?"“นายไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงคนนี้อาศัยอยู่กับหานซานเฉียน พวกเขามีความสัม
"คุณเปลี่ยนใจแล้วอย่างนั้นเหรอ?" หม่าอวี้ถามหานซานเฉียน ในใจของเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหานซานเฉียนจะไม่เลือกตัวเลือกที่โง่เขลา เพราะเขายังคงต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่งในเทียนฉีอยู่ และสิ่งนี้จำเป็นต้องพึ่งพาหานซานเฉียน หากหานซานเฉียนปฏิเสธข้อเสนอของอี้เหล่า ความฝันของเขาก็คงจะพังทลายหานซานเฉียนส่ายหัวแล้วพูดว่า "ผมอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณ"หม่าอวี้ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ามีอะไรอยู่ในใจของหานซานเฉียน ถึงได้ปฏิเสธข้อเสนอดี ๆ แบบนี้“เรื่องอะไร บอกมาสิ” หม่าอวี้ไม่ได้ปฏิเสธหานซานเฉียน เพราะจุดประสงค์ในการมาอเมริกาคือเพื่อปกป้องหานซานเฉียน และให้เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการจะทำ นี่คือคำสั่งของอี้เหล่า แม้ว่าหานซานเฉียนจะปฏิเสธการเป็นลูกศิษย์ของอี้เหล่าก็ตาม หากอี้เหล่ายังไม่ได้พูดอะไร หม่าอวี้ก็ต้องสนองความต้องการทั้งหมดของหานซานเฉียน“ฉี๋อีหยุนถูกลักพาตัวไป” หานซานเฉียนกล่าว“การลักพาตัวฉี๋อีหยุนต้องเกี่ยวข้องกับคุณสินะ” หม่าอวี้พูดพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นหานซานเฉียนพยักหน้า“หานเทียนเซิงไม่กล้าสร้างปัญหาตอนนี้อย่างแน่นอน ชายชราคนนี้น่าจะรู้ผลที่จะตามมาของการยั่
หนานกงซุนคิดว่านี่คือแผนที่สมบูรณ์แบบมาก เขาภูมิใจกับมันเป็นอย่างมากด้วยซ้ำ และคิดไปเองว่าหานซานเฉียนอยู่ในการควบคุมของเขา ไม่คิดว่าแผนการที่เขาคิดว่าสมบูรณ์แบบจะถูกหานซานเฉียนมองว่าเป็นการกระทำของคนโง่เขลา สิ่งนี้ทำให้หนานกงซุนตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง แต่เขาแสร้งทำเป็นสงบ ไม่กล้าเผยสิ่งผิดสังเกตุใด ๆ ต่อหน้าหานซานเฉียน ไม่อย่างนั้นวันนี้เขาอาจจะตายด้วยน้ำมือของหานซานเฉียนได้“นั่นเป็นเพียงคำพูดของนายฝ่ายเดียว นายมีหลักฐานอะไรไหม? นายจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าฉันเป็นคนยุยงหลี่ซานเฟิง ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำ” หนานกงซุนโต้แย้งอย่างเด็ดเดี่ยว“ฉันต้องการฆ่านาย ยังต้องการหลักฐานด้วยเหรอ?” หานซานเฉียนพูดอย่างไม่แยแส หัวใจของหนานกงซุนเต้นรัว หานซานเฉียนมีเจตนาต้องการฆ่าเขาอย่างชัดเจน และไม่เกี่ยวอะไรกับว่าจะมีหลักฐานหรือไม่ตอนนั้นเองบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างหน้าหนานกงซุนก็พูดอย่างเหยียดหยาม "ถ้าต้องการฆ่าเขา ผ่านฉันให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ดูสิว่านายจะมีความสามารถหรือเปล่า"คำพูดเหล่านี้ทำให้หนานกงซุนสงบลงเล็กน้อย เขากลัวหานซานเฉียนมาก จนลืมไปว่าตัวเองมีนักฆ่าอยู่ข้าง ๆแม
ในมุมมองของหลี่ซานเฟิง การข่มขู่ของเขาจะทำให้ฉี๋อีหยุนกลัวอย่างแน่นอน และเธอจะต้องร้องขอความเมตตาจากเขา ให้โอกาสเขาได้แสดงความสงสารต่อเธอ และเธอจะเริ่มรู้สึกดีกับเขาแต่ความจริงกลับไม่ใช่อย่างที่เขาคิดฉี๋อีหยุนไม่ได้มีสีหน้าแสดงออกถึงความกลัวใด ๆ แต่เธอกลับมองเขาด้วยสายตาเยาะเย้ย“เธอไม่กลัวเหรอ?” หลี่ซานเฟิงพูดพร้อมกับกัดฟันในไม่ช้าลายนิ้วมือสีแดงสดหลายรอยก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉี๋อีหยุน แต่ความกลัวไม่ได้เกิดขึ้นในใจของเธอเลย เพราะในสายตาของเธอ คนไร้ความสามารถอย่างหลี่ซานเฟิง ไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของหานซานเฉียน และเธอก็เชื่อว่าหานซานเฉียนจะต้องมาช่วยเธอยังมีอีกสิ่งหนึ่งคือ ฉี๋อีหยุนรู้สึกขอบคุณหลี่ซานเฟิงที่จับเธอมา เพราะตั้งแต่ที่เธอออกจากบ้านของหานซานเฉียน ฉี๋อีหยุนก็ไม่มีข้ออ้างในการติดต่อกับหานซานเฉียนเลย แต่คราวนี้เธอมีโอกาสที่จะได้พบกับเขาอีกครั้งแม้ว่าโอกาสในการพบกันนี้จะต้องแลกมาด้วยอันตรายของเธอเอง แต่ในมุมมองของฉี๋อีหยุน ขอแค่เธอได้พบกับหานซานเฉียน มันก็คุ้มค่า“ทำไมฉันจะต้องกลัวด้วย?” ฉี๋อีหยุนถามหลี่ซานเฟิงไม่ได้รับการอ้อนวอนขอความเมตตาจากฉี๋อีหยุ
ฉี๋อีหยุนที่กำลังเข็นรถเข็นให้หานซานเฉียนนั้นอารมณ์ดีมาก เธอดูไม่เหมือนคนที่ถูกลักพาตัวเลย แถมยังฮัมเพลงอีกด้วย เพราะถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์นี้ เธอก็จะไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะพบกับหานซานเฉียนอีกหานซานเฉียนค่อนข้างทำอะไรไม่ถูกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะยิ่งฉี๋อีหยุนทำตัวแบบนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเสียใจกับเธอมากขึ้นเท่านั้น เพราะอย่างไรนี่ก็คือผู้หญิงที่อุทิศความรู้สึกทั้งหมดของเธอให้กับเขา และเธอถูกกำหนดไว้ว่าจะไม่ได้รับสิ่งตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราอย่าเจอกันอีกเลยจะดีกว่า” จู่ ๆ หานซานเฉียนก็พูดขึ้นเมื่อฉี๋อีหยุนที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็เหมือนถูกน้ำเย็นราดใส่อย่างแรงแต่เธอก็ยังฝืนยิ้มและแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่หานซานเฉียนพูดหานซานเฉียนกดเบรกรถเข็นแล้วพูดต่อ "คุณไปเถอะ ผมไม่ต้องการให้คุณไปส่ง"ฉี๋อีหยุนยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่มีหยดน้ำใสอยู่ในดวงตาของเธอ และพูดว่า "หานซานเฉียน คุณไม่จำเป็นต้องใจร้ายขนาดนี้ก็ได้ ยังไงฉันก็เป็นถึงคนสวยนะ คุณจะไม่ไว้หน้าฉันหน่อยเลยเหรอ?”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ความเป็นความตายของคุณไม่เกี่ยวข้องอะไร