ซู่หยางจ้องมองไปที่มือของหานซานเฉียนอย่างงุนงง คำว่า ‘เพื่อน’ ทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนกอย่างอธิบายถูก ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาถูกเพื่อนสนิทแทงข้างหลัง ถึงขั้นร่วมมือกันกับผู้หญิงของเขา โจมตีเขาถึงแก่ชีวิต ไม่เช่นนั้นวันนี้เขาคงไม่มีจุดจบที่น่าอนาถถึงขนาดนี้ หานซานเฉียนเห็นว่าซู่หยางมีสีหน้าแปลก ๆ และเขาก็ส่ายหัวเล็กน้อย พอจะเดาได้ว่าเขาหวาดกลัวอะไร หลังจากเก็บมือกลับคืนมาแล้ว หานซานเฉียนก็พูดว่า "ถ้าคำว่าเพื่อนมันหนักเกินไปสำหรับคุณ งั้นคุณก็ถือซะว่าผมเป็นหุ้นส่วนก็ได้"ซู่หยางยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาตกอับมาจนถึงตอนนี้ และคิดว่าตัวเองจะปล่อยวางเหตุการณ์นี้ และยอมรับชะตากรรมของตัวเองแล้ว ไม่คิดเลยว่าพอมีคนพูดคำนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เขาจะยังคงเจ็บปวดอยู่ปล่อยวาง มันเป็นแค่เรื่องไร้สาระเท่านั้นแหละ“ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อน วันนี้ผมจะลงเอยแบบนี้ได้ยังไง” ซู่หยางพูดนิ่ง ๆ“คุณอยากแก้แค้นไหมล่ะ? โอกาสอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว ตราบใดที่คุณเต็มใจที่จะคว้ามันไว้” หานซานเฉียนกล่าวซู่หยางเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปในดวงตาของหานซานเฉียน พวกเขาเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้ากัน และเขาก็ไม่คิดว่าจู่ ๆ พระเจ้าจะส่งความเมต
หานซานเฉียนที่ผ่านการล้างบาปจากเรือนจำตี้ซินมาแล้ว วิธีการเหล่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คนธรรมดาหวาดกลัวเมื่อเขาขยี้แขนหนึ่งในนั้นจนหัก ในที่สุดก็ได้ที่อยู่ของสำนักงานใหญ่มาเมื่อเห็นฉากนี้ ซู่หยางก็ขนลุกเกรียว ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้น เขาในฐานะลูกชายจากตระกูลที่ร่ำรวย เขาเคยเห็นด้านมืดของสังคมมามากมาย และเขาก็รู้จักกับคนที่โหดเหี้ยมมาบ้างแต่เมื่อเทียบกับวิธีการของหานซานเฉียน วิธีการของคนเหล่านั้นอยู่ห่างออกไปเกือบหนึ่งกาแล็กซี มันไม่สามารถเทียบกันได้เลยอาการของซู่หยางนั้นยังถือว่าดี แต่ใบหน้าของเพื่อนของเขาตอนนี้นั้นซีดเผือดไปด้วยความหวาดกลัว และร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านอย่างหยุดไม่ได้เมื่อขึ้นรถอีกครั้ง หานซานเฉียนก็ขับรถไปที่สำนักงานใหญ่ของพวกอันธพาลเหล่านั้นทันทีในรถ สุดท้ายซู่หยางก็อดไม่ได้ที่จะถามหานซานเฉียน "คุณเป็นใครกันแน่?"“มันไม่สำคัญว่าผมเป็นใคร ตราบใดที่ไม่เป็นอันตรายต่อคุณก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?” หานซานเฉียนกล่าว อันที่จริงเขาเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับพฤติกรรมรุนแรงของเขาเมื่อกี้นี้ ดูเหมือนจะมีความโกรธแค้นเกิดขึ้นในใจจนเขาไม่สามารถควบคุมได้ บางทีอาจเป็นเพราะกา
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหัวโล้น ซู่หยางก็ตาแดงก่ำ และตัวสั่นด้วยความโกรธ แม้แต่เพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ยังรู้สึกเคียดแค้นแทนเขา เขากัดฟันแล้วพูดว่า "คิดไม่ถึงเลยว่าหม่าเฟยห่าวจะโหดร้ายได้ขนาดนี้ แย่งผู้หญิงของนายไปไม่พอ ยังทำลายชื่อเสียงของนายด้วย แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ปล่อยนายไปอีก”ซู่หยางกำหมัดแน่น ความเคียดแค้นเกือบจะทำให้เขาเสียสติซู่หยางอดทนต่อความแค้นนี้มานานหลายปีแล้ว แต่ตอนนี้เขาทนไม่ได้อีกต่อไป!ทันใดนั้น ซู่หยางก็คุกเข่าลงต่อหน้าหานซานเฉียน“ซู่หยาง นายจะทำอะไร!” เพื่อนของเขายื่นมือออกไปดึงซู่หยางขึ้น แต่ซู่หยางปฏิเสธซู่หยางก็ก้มศีรษะให้หานซานเฉียนแล้วพูดว่า "ตราบใดที่คุณสามารถล้างแค้นผมได้ ชีวิตของซู่หยางก็จะเป็นของคุณ คุณจะให้ผมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น"“ชีวิตคุณไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผม แค่มีชีวิตต่อไปแล้วช่วยผมใช้เงินก็พอแล้ว ส่วนจะแก้แค้นได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณ จัดตั้งทีมขึ้นมาก่อน หากมีปัญหาอะไรก็ติดต่อหาผม" หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆ ว่าเขาไม่มีแรงพอที่จะพาซู่หยางไปตามล่าทุกคนหรอกนะ“ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” ซู่หยางกล่าวอย่างมาดมั่นหานซานเ
ซุนอี้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ขาของเขาชาจนไม่มีความรู้สึกไปนานแล้ว แต่เขาไม่กล้ามีความคิดที่จะลุกขึ้นเลยแม้แต่น้อย จะรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องรอง เพราะได้รู้จักตัวตนของหานซานเฉียนจากปากของฉี๋อีหยุนแล้วนั้น ซุนอี้ก็กังวลว่าเขารักษาชีวิตตัวเองไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำหานเหยียนผู้สูงส่งยังป็นได้เพียงสุนัขของหน้าหานซานเฉียนเท่านั้น แล้วบุคคลตัวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีตัวตนแบบเขาจะเทียบได้กับอะไรกัน?ดังนั้นการคุกเข่าของเขานอกจากการยอมรับผิดแล้ว ยังเป็นการอ้อนวอนขอไว้ชีวิตตัวเองอีกด้วย เมื่อซุนอี้เห็นหานซานเฉียน เขาก็คลานไปตรงหน้าหานซานเฉียนทันที“คุณหาน ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วครับ” ซุนอี้ก้มหัวลงและร้องขอความเมตตาจากหานซานเฉียน“ผิดไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?” หานซานเฉียนยิ้มอย่างดูถูกและพูดว่า “ซุนอี้ คุณจะผิดไปแล้วได้ยังไง คุณก็แค่โลภเกินไปเท่านั้น”“ใช่ครับ คุณหานพูดถูกทุกอย่าง ผมหวังว่าคุณหานจะปล่อยผมไป” ซุนอี้พยักหน้า ไม่ว่าหานซานเฉียนจะพูดอะไร เขาก็ทำได้เพียงยอมรับมันเท่านั้น“ซุนอี้ คุณต้องการที่จะหุบบริษัทนี้ ถ้าผมปล่อยคุณไป แล้วผมจะอธิบายกับตระกูลหนานกงยังไงล่ะ?”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ ฉี๋อีหยุนก็รู้สึกแปลก ๆ ทำไมจู่ ๆ หานซานเฉียนถึงได้เปลี่ยนใจกะทันหันล่ะ?แต่เธอก็เข้าใจในไม่ช้า ว่ากุญแจที่สำคัญมันอยู่ที่คำถามของหานซานเฉียน ที่ว่าพ่อแม่ของเธอรู้ว่าเขาแต่งงานแล้วหรือยัง ผู้ชายคนนี้คงกำลังวางแผนใช้พ่อแม่ของเธอเพื่อตัดความคิดของเธอสินะสิ่งนี้ทำให้ฉี๋อีหยุนกัดฟันแน่น“สักวันหนึ่ง คุณจะต้องนอนบนเตียงของฉันอย่างเชื่อฟัง โดยไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ทั้งนั้น” ฉี๋อีหยุนพูดผ่านไรฟันไม่นานหานซานเฉียนก็มาถึงบ้านของตระกูลฉี๋ ฉี๋อีหยุนมาต้อนรับหานซานเฉียนที่หน้าประตู เธอพูดกับเขาว่า "ระวังตัวด้วยล่ะ ฉันจะจับคุณกินในสักวัน"หานซานเฉียนดูไม่เกรงกลัวและตอบว่า "ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ให้โอกาสคุณได้ทำแบบนั้นหรอก คนดี ๆ แบบผมจะตกอับได้ยังไง"ในสถานการณ์ปกติหานซานเฉียนจะไม่ทำอะไรที่ไม่เหมาะสม และเรื่องนี้ฉี๋อีหยุนก็รู้ดี ดังนั้นเธอจึงเตรียมยาสีน้ำเงินไว้บนโต๊ะข้างเตียงของเธอไว้ในกรณีฉุกเฉิน เธอไม่เชื่อว่าหากถูกกระตุ้นด้วยยาแล้วหานซานเฉียนจะยังคงรักษาสติเอาไว้ได้"แล้วมารอดูกัน"เมื่อมาถึงบ้านของตระกูลฉี๋ การตกแต่งนั้นอลังการมาก ให้ความรู้สึกหรูหรามาก แต่ก
ฉี๋ตงหลินและภรรยาของเขาทำอาหารเย็นสุดหรู เมื่อเขารู้ว่าหานซานเฉียนสามารถดื่มกับเขาได้ ฉี๋ตงหลินก็มีความสุขมากที่บ้าน ฉี๋ตงหลินไม่มีโอกาสดื่มมากนัก โอวหยางเฟยเข้มงวดมาก เขาสามารถจิบได้แค่วันละสองสามจิบเท่านั้น มันไม่สนุกเอาซะเลย ถ้าหานซานเฉียนสามารถดื่มกับเขา วันนี้ก็คงจะได้ดื่มด่ำเสียทีเมื่อฉี๋ตงหลินกำลังจะไปเอาไวน์ เขาก็ตัวแข็งทื่อและมองตรงไปที่โอวหยางเฟย เห็นได้ชัดว่ากำลังรอคำสั่งจากเธอเมื่อเห็นฉากนี้ หานซานเฉียนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แต่มันไม่ใช่การเยาะเย้ย แต่เป็นรอยยิ้มที่กำลังอิจฉาอายุปูนนี้แล้ว แต่ยังคงความสัมพันธ์แบบนี้เอาไว้ได้ สำหรับหานซานเฉียนแล้วนี่เป็นสิ่งที่น่าอิจฉา เขาเองก็หวังว่าเมื่อเขาและซูหยิงเซี่ยมาถึงวัยนี้ พวกเขาจะมีชีวิตธรรมดที่ไร้กังวลแบบนี้เหมือนกันแต่น่าเสียดายที่คำว่าธรรมดา ดูเหมือนจะห่างไกลจากหานซานเฉียนมากขึ้นเรื่อย ๆหานซานเฉียนไม่รู้เลยว่าชีวิตในเทียนฉีเป็นอย่างไร และคนที่นั่นพวกเขาทำอะไรกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจมากก็คือ เมื่อเขาได้สัมผัสกับแวดวงนี้ โลกใหม่ทั้งโลกก็จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และชีวิตของเขาก็ไม่สามารถเป็นชีวิตธรรมดาได้อี
สำหรับผู้ชายคนอื่น ๆ การได้ค้างคืนกับเทพธิดาอย่างฉี๋อีหยุนเป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับหานซานเฉียนมันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดมาก เพราะถ้าเขาทำแบบนั้นจริง มันก็หมายถึงเขาทรยศซูหยิงเซี่ย และไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันก็ทำให้เขารู้สึกผิดอย่างมากต่อซูหยิงเซี่ยอยู่ดีหานซานเฉียนใช้สองมือถูขมับตัวเอง เขาก้มศีรษะลง ไม่กล้ามองไปที่ฉี๋อีหยุนฉี๋อีหยุนสัมผัสได้ถึงความเสียใจของหานซานเฉียน แต่เธอไม่คิดที่จะบอกความจริงกับเขา แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องเท็จ แต่เธอก็ยินดีที่จะทำให้เขาเข้าใจผิดแบบนี้ต่อไปหานซานเฉียนไม่มีทางรักเธอ แต่การที่เขามีความรู้สึกผิดต่อเธอ ก็ถือว่าเธอได้ตำแหน่งบางอย่างในหัวใจของเขาแล้ว“คุณอยากให้ผมชดใช้ยังไง?” หานซานเฉียนถามฉี๋อีหยุนฉี๋อีหยุนยืนขึ้นเดินเข้าห้องน้ำโดยไม่มีการปกปิดใด ๆ และพูดว่า "ไม่จำเป็น"เมื่อฉี๋อีหยุนปิดประตูห้องน้ำ หานซานเฉียนก็เงยหน้าขึ้น แม้ว่าเขาจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้ แต่ฉี๋อีหยุนก็นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาในสภาพนั้น เขาจึงไม่นึกสงสัยอะไรในเรื่องนี้ เขาไม่สามารถใช้คำพูดทำให้ฉี๋อีหยุนอับอายได้อีกต่อไปทั้งหมดเป็นเพราะการดื่มเหล้าจนเมา ถ้าไม่ใช
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หยวนหลิงพยายามใช้วิธีที่เธอเรียนมาเพื่อช่วยหานซานเฉียน มันมีผลไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เห็นได้ชัดว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะฟื้นตัวเต็มที่ จากนั้นเธอก็ไปช่วยถังจงหาบ้านเธอสนใจเรื่องที่เกี่ยวกับถังจงมาก และไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาดอะไรไปแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าจะมีบ้านประกาศขาย เธอก็จะสำรวจสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยจากมุมมองของเธอเองก่อนว่าดีไหมการตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นนั้นเดิมทีเป็นไปไม่ได้เลยในความคิดของหยวนหลิง แต่ความเป็นไปไม่ได้นี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นทีละน้อยน่าเสียดายที่บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจ สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรี ถังจงไม่ได้มีความคิดแบบเดียวกันกับเธอ ความคิดของเขาทั้งหมดอยู่ที่หานซานเฉียน“พี่ซานเชียน ก่อนที่ผมจะมาได้ตรวจสอบบริษัทที่พี่เคยพูดถึงแล้วครับ พี่อยากจะให้ผมทำอะไรครับ?” ถังจงถามหานซานเฉียน“จำเป็นต้องเปลี่ยนผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงทั้งหมดของบริษัท นายต้องก่อตั้งและปลูกฝังกลุ่มคนสนิทของตัวเองในอเมริกา” หานซานเฉียนกล่าว หากเขาต้องการตั้งหลักในสหรัฐอเมริกา เขาก็ต้องมีพลังอำนาจของตัวเอง ตอนนี้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อผลักดันให้ถังจงพ