ในช่วงเวลาพักของวันถัดมา เมื่อตี้สู่ไม่เห็นกวานหยง เขาก็รู้ว่ากวานหยงถูกเรือนจำตี้ซินประหารชีวิตอย่างลับ ๆ ไปแล้วแม้ว่าจะมีการกล่าวว่าการฆ่าคนเป็นสิ่งต้องห้ามในเรือนจำตี้ซิน แต่พวกเขาจะไม่มีทางทนกับภัยคุกคามนี้ที่อาจเปิดเผยตำแหน่งของเรือนจำตี้ซินอย่างแน่นอนเหตุผลที่เรือนจำตี้ซินสามารถมีสถานะสูงได้แบบนี้ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นสถานที่คุมขังที่ทรงพลังที่สุดในโลกความลึกลับของมันคือจุดที่สำคัญที่สุด และจุดนี้ก็เป็นจุดที่ไม่สามารถละเมิดได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดอยากจะเปิดเผยสถานที่ตั้งของที่นี่ เรือนจำตี้ซินจะไม่ออมมือกับคน ๆ นั้น“กวานหยงตายแล้ว”ตี้สู่พูดกับเตาสือเอ้อร์เตาสือเอ้อร์ไม่ได้สนใจ ไม่ว่าฟ้าจะถล่มดินทลายก็ไม่เกี่ยวกับเขา ฟ้าถล่มอย่างมากก็แค่ตายเท่านั้นสำหรับเขา สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการหาวิธีหาข่าวของหานซานเฉียนเวลาคลอดของซูหยิงเซี่ยใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าหานซานเฉียนจะไม่สามารถกลับไปที่หยุนเฉิงและคอยอยู่เคียงข้างซูหยิงเซี่ยก่อนเวลานั้นได้ แต่เตาสือเอ้อร์ก็ยังคงหวังว่ามันจะมีโอกาสการคลอดลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของผู้หญิง ในเวลานี้เธอต้องการให้หานซ
หานซานเฉียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ถ้าอยู่ใจกลางโลกจริง ๆ อาจเป็นข่าวดีก็ได้"ประโยคนี้ทำให้เตาสือเอ้อร์และตี้สู่แสดงสีหน้างงงวยพร้อมกัน พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจว่าข่าวดีที่ว่าหมายถึงอะไรถ้ามันอยู่ใจกลางโลกจริง ๆ สภาพแวดล้อมโดยรอบต้องปิดสนิท ในกรณีนี้ ถึงจะติดปีกก็บินหนีไปไม่รอด แล้วจะเป็นข่าวดีได้อย่างไร?“พี่ซานเฉียน พี่หมายถึงอะไร?” ตี้สู่ถามอย่างงงงวยหานซานเฉียนส่ายหัวและพูดว่า "หวังว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่ฉันคิด ไม่อย่างนั้นสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่จะรุนแรงยิ่งกว่านี้"เมื่อเห็นว่าหานซานเฉียนไม่ยอมพูด ทั้งสองจึงไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อ เพราะหมดเวลาพักแล้ว และพวกเขาต้องรีบกลับไปที่ห้องขังโดยเร็วแต่วันนี้แปลกไปจากทุกวัน ทุกคนถูกพาตัวไป และดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ“เกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่ให้กลับห้องขังหรอกเหรอ ยังมีเรื่องอะไรอีก?” ตี้สู่พูดอย่างงุนงง"พวกนายวางใจได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันก็พุ่งเป้ามาที่ฉัน" หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆ ไม่ใช่ว่าเขาหยิ่งผยอง แต่เป็นเพราะช่วงนี้เรือนจำตี้ซินพุ่งเป้ามาที่เขาอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ถ้าไม่ได้พุ่งเป
ในห้องใหญ่ห้องนั้นคนของเรือนจำทำความสะอาดกันอย่างยากลำบากกว่าจะกลับคืนสู่สภาพเดิม กลิ่นคาวของเลือดยังคงอบอวลอยู่ในอากาศ ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้หากเป็นคนธรรมดาคงอกสั่นขวัญหายกันไปหมดแล้วแต่หานซานเฉียนกลับมีสีหน้าเฉยเมยตรงหน้าเขามีชายคนหนึ่งคุกเข่าตัวสั่นอยู่มือของชายคนนี้เคยย้อมเลือดของผู้คนมาแล้วร้อยกว่าชีวิต และก่อนที่เขาจะถูกจับมาที่เรือนจำตี้ซิน เขายังเป็นที่รู้จักในฐานะคนคลั่งไคล้การฆาตกรรมอีกด้วยเขาอ้างว่าเคยเดินอยู่ในนรกบนโลก และได้เห็นความโหดร้ายมาแล้วทุกรูปแบบ แถมยังรู้สึกภูมิใจที่เรือนจำตี้ซินขังเขาไว้ในพื้นที่เขต A แต่ในขณะนี้ เขาหวาดกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมาสักคำเดียวกระทั่งได้มาพบกับหานซานเฉียน เขาถึงได้รู้ว่าภาพปีศาจของตัวเองเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้นปีศาจคืออะไร?คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ต่างหากที่สามารถเรียกได้ว่าปีศาจตัวจริงนอกจากเขาแล้ว คนที่เหลือต่างเสียชีวิตในท่าทางที่บิดเบี้ยวเขาเห็นด้วยตาตัวเองว่าศีรษะของชายคนหนึ่งถูกต่อยจนระเบิด และเลือดสดก็พุ่งออกมาราวกับน้ำพุเขาเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีคนที่ท้องถูกควักไส้ออกมา เขาถืออวัยวะของตัวเองไว้ในม
"เกิดอะไรขึ้นกับพี่ซานเฉียน!" ตี้สู่ที่เห็นฉากนี้ตกใจมากและอดไม่ได้ที่จะถามเตาสือเอ้อร์ เมื่อก่อนหานซานเฉียนสามารถจัดการกับคนยอดฝีมือได้อย่างง่ายดาย อีกอย่างชายคนนี้เป็นแค่ชายชราเท่านั้น ทำไมเขาต้องคุกเข่าลงด้วยล่ะ?“ตี้สู่ ดูเหมือนว่าสมองของนายยังทำงานไม่ดีสินะ ทำไมพี่ซานเฉียนถึงต้องมาที่เรือนจำตี้ซินนายลืมไปแล้วเหรอ?” เตาสือเอ้อร์พูดนิ่ง ๆ"เพราะปู่ของเขา..." ตี้สู่ตกตะลึงก่อนจะกลืนประโยคที่เหลือลงคอ และมองไปที่หานเทียนหยางด้วยแววตากึ่งตกใจกึ่งมีความสุข"นี่คือคุณปู่ของพี่ซานเฉียนอย่างงั้นเหรอ?" ตี้สู่พูดเตาสือเอ้อร์พยักหน้า แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นหานเทียนหยางมาก่อน แต่เขาก็มั่นใจว่าคนนั้นคือหานเทียนหยางได้ เพราะนอกจากสิ่งนี้ หานซานเฉียนก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องคุกเข่าลงแบบนั้นตี้สู่สูดหายใจลึกและพูดต่อ "เขายังมีชีวิตอยู่ หมายความว่าการเดินทางของพี่ซานเฉียนไม่ได้สูญเปล่า ตอนนี้เราแค่ต้องหาวิธีออกไปจากที่นี่เท่านั้น"หานซานเฉียนซึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้น เขาโขกหัวลงอย่างหนักและพูดว่า "คุณปู่ ผมขอโทษ ผมมาช้าเกินไปเลยทำให้ปู่ต้องลำบาก"หานเทียนหยางดูซีดเซียวและแก่ลงมาก แต่สีหน้าของเขามีควา
โรงพยาบาลเมืองหยุนเฉิงนอกห้องคลอด ตรงทางเดินแน่นขนัดจนไม่มีที่ว่างผู้คนเหล่านี้ไม่ใช่บุคคลธรรมดา แต่พวกเขาคือหัวหน้าของบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็กทั้งหมดในหยุนเฉิง ในหมู่พวกเขาคือคนที่มีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน และยังมีคนที่มีทรัพย์สินนับสิบล้านอีกด้วยแต่ในเวลานี้ ไม่ว่าทรัพย์สินของพวกเขาจะมากมายเพียงใด พวกเขาก็หวังว่าจะได้เข้าใกล้ห้องคลอดมากที่สุด เพราะคนที่ยืนอยู่นอกห้องคลอดนั้นคือม่อหยางและสมาชิกของตระกูลเทียน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ต่างเป็นแกนหลักของเมืองหยุนเฉิงแน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือซูหยิงเซี่ยที่อยู่ในห้องคลอดพวกเขารู้ว่าหากพวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้กระชับความสัมพันธ์กับซูหยิงเซี่ยได้ ในอนาคตการพัฒนาของพวกเขาในหยุนเฉิงก็จะไปสู่ระดับที่สูงขึ้นอย่างแน่นอนทุกคนที่มาโรงพยาบาลต่างนำของขวัญราคาแพงมามอบให้ โดยหวังว่าจะได้มอบให้กับลูกชายที่น่าภาคภูมิใจซึ่งกำลังจะได้ลืมตาดูโลกเร็ว ๆ นี้ตรงทางเดินมีเสียงเอะอะดังมากเนื่องจากมีผู้คนพลุกพล่าน ม่อหยางทนเสียงนั้นไม่ไหวจึงตะโกนไปด้วยความโกรธ "ถ้าใครกล้าส่งเสียงดังอีก ต่อไปก็อย่าคิดที่จะได้อยู่ในหยุนเฉิง"สิ้นสุดเสียงนั้น เสียงตรงทางเดิ
เกิดอะไรขึ้นกับคนที่อยู่ในเรือนจำตี้ซิน?หานซานเฉียนและคนอื่น ๆ ไม่รู้ แต่ในขณะนี้ เรือนจำตี้ซินได้กลายเป็นนรกบนดินไปแล้วไม่ว่าจะเป็นหานซานเฉียน เตาสือเอ้อร์ หรือตี้สู่ พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยเลือด นักโทษคลั่งที่โจมตีพวกเขาตายไปแล้วมากกว่าครึ่ง ในขณะนี้ เนื่องจากการใช้กำลังออกมากเกินไป หานซานเฉียนและคนอื่น ๆ จึงซ่อนตัวอยู่ในห้อง ๆ หนึ่งเพื่อฟื้นกำลังหานซานเฉียนไม่คิดมาก่อนว่าเรื่องนี้มันจะดำเนินมาถึงขั้นนี้ ขณะเดียวกัน เตาสือเอ้อร์และตี้สู่ก็รู้สึกงงงวยเช่นกันเรือนจำตี้ซินนอกจากสามารถทำให้คนที่เข้ามาที่นี่ไม่สามารถกลับออกไปได้แล้ว พวกเขายังรับประกันความปลอดภัยของนักโทษด้วยเช่นกัน แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าตายไปแล้วกี่คน นี่เป็นการฝ่าฝืนกฎของเรือนจำตี้ซินอย่างสิ้นเชิง และดูเหมือนว่าเรือนจำตี้ซินจะค่อย ๆ เดินไปสู่เส้นทางการล่มสลายแล้ว"พี่ซานเฉียน ถ้าเรือนจำตี้ซินยังเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะต้องพังทลายลงอย่างไม่ต้องสงสัย เรื่องนี้จะต้องมีคนคอยบงการอยู่เบื้อหลังแน่ ๆ แต่ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ?" ตี้สู่ถามหานซานเฉียนด้วยความสับสนเรือนจำตี้ซินก่อตั้งขึ้นมาหลายร้อยปี ก่อนที่จะมีชื่อเสียงและ
ห้องนอนใหญ่บนชั้นสองของคฤหาสน์ใจกลางภูเขาเมื่อประตูปิดลง เจี่ยงหลานก็โทรศัพท์หาใครบางคนอย่างระมัดระวัง"ตอนนี้ม่อหยางจัดคนจำนวนมากมาเฝ้าคฤหาสน์ มีสายตาหลายร้อยคู่กำลังจับจ้องอยู่ มันยากมากที่จะพาเธอออกจากคฤหาสน์ คุณจะให้ฉันทำยังไงดีคะ?” เจี่ยงหลานกล่าวอย่างไม่พอใจ“ไม่ต้องห่วง ฉันจะหาทางให้ ให้เวลาฉันอีกสองสามวัน”"ฉันรู้ว่าคุณจะฆ่าฉัน แต่ถ้าฉันถูกจับได้ ในอนาคตจะไม่มีใครทำงานนี้ได้อีก คุณขู่ฉันแล้วจะมีประโยชน์อะไร?"“ได้ สามวัน ภายในสามวัน ฉันจะหาวิธีให้ได้อย่างแน่นอน”หลังจากวางสาย เจี่ยงหลานก็หายใจเข้าลึก เดิมทีเธอคิดว่าเธอจะมีโอกาสประสบความสำเร็จเมื่อกลับบ้าน แต่ไม่คาดคิดว่าม่อหยางคนชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านคนนี้ จะสั่งให้คนหลายร้อยคนมาคอยคุ้มกันคฤหาสน์แบบนี้ ห้ามคนแปลกหน้าเข้ามา และแม้ว่าจะออกไปก็ยังต้องถูกสอบสวนเจี่ยงหลานระบายความโกรธใส่ซูกั๋วเย่าโดยการเตะต่อยเขา หลังจากระบายอารมณ์จนพอใจแล้ว เจี่ยงหลานก็หันหลังกลับและออกจากห้องไปในเวลานี้ คิ้วของซูกั๋วเย่าสั่นไหว และดูเหมือนว่าเขาจะได้สติกลับคืนมาเล็กน้อยจากอาการโคม่าเจี่ยงหลานมาที่ห้องนั่งเล่น และเมื่อเธอเห็นม่อหยาง
ซูหยิงเซี่ยอุ้มหานเนี่ยนและเดินออกจากห้องโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอจะไม่ไปได้อย่างไร?หากไม่ได้เฝ้าดูหานเนี่ยน เธอก็จะรู้สึกไม่สบายใจเจี่ยงหลานไม่ยอมให้ซูหยิงเซี่ยออกไปแน่นอน ไม่อย่างนั้นแผนของเธอก็จะล้มเหลว นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะพาหานเนี่ยนออกไปได้“ลูกอย่าดื้อสิ อยู่บ้านนี่แหละ ให้แม่ไปก็พอ ตอนนี้ลูกออกจากบ้านไม่ได้ การพักฟื้นเป็นเรื่องสำคัญของผู้หญิง” เจี่ยงหลานเกลี้ยกล่อมเธออย่างกระตือรือร้น"ไม่ค่ะ" ซูหยิงเซี่ยพูดอย่างหนักแน่น "หนูจะไป ป้าเหอ ให้คนข้างนอกเตรียมรถด้วยค่ะ"ทันทีที่เหอถิงได้ยินการเคลื่อนไหว เธอก็รีบวิ่งไปที่ด้านข้างของซูหยิงเซียแล้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้นคะ?""หานเนี่ยนป่วย ต้องไปโรงพยาบาลค่ะ" ซูหยิงเซี่ยกล่าวเหอถิงตกตะลึง เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลย จู่ ๆ ป่วยได้อย่างไร และเมื่อมองไปดูสภาพของหานเนี่ยน ดูเหมือนว่าเธอยังป่วยหนักไม่น้อยเลยด้วยตอนนั้นเอง เจี่ยงหลานก็รู้สึกกระวนกระวาย เพราะกว่าเธอจะหาวิธีพาหานเนี่ยนออกไปได้ ถ้าซูหยิงเซี่ยตามออกไป ความพยายามทั้งหมดของเธอจะสูญเปล่า"เหอถิง เราไปกันสองคนเถอะ ให้หยิงเซี่ยพักอยู่ที่บ้าน ข้างนอกมี