Share

ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ
ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ
Author: กว๋อกว่อ

บทที่ 1

Author: กว๋อกว่อ
ยามสติค่อยๆฟื้นคืนมา ฉันพบว่าพ่อกำลังมุ่งตรงมาหาฉัน

ฉันตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมในชั่วพริบตา ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร

ทว่าตอนเขาเดินผ่านร่างฉัน ฉันถึงตระหนักได้ว่าเขามองไม่เห็นฉันตั้งแต่แรกแล้ว

“เสี่ยวฉิง สุขสันต์วันเกิด!”

ฉันมองเขาลูบหัว พี่อันฉิง ลูกพี่ลูกน้องของฉันด้วยรอยยิ้ม จากนั้นส่งกล่องของขวัญที่บรรจงห่อให้เธออย่างตั้งใจ

“ขอบคุณค่ะลุงหลิน!”

วันเกิดของอันฉิงอยู่หลังวันเกิดฉันเจ็ดวัน

เมื่อนั้นฉันถึงตระหนักได้ทันใดว่า ที่แท้ตัวเองก็ตายมาแล้วเจ็ดวัน

พวกเขานั่งล้อมวงเบื้องหน้าเค้กสุดอลังการ ที่ทำเพื่อฉลองวันเกิดให้อันฉิง

พูดคุยหัวเราะเฮฮา ครื้นเครงเสียไม่มี!

ราวกับตรงนี้ไม่มีฉันอยู่อย่างไรอย่างนั้น!

ตั้งแต่เด็กจนโต วันเกิดของอันฉิงมักครึกครื้นที่สุด

แต่วันเกิดของฉัน กลับไม่มีใครยินยอมเอ่ยถึง และไร้ซึ่งคนสนใจ

อันฉิงกำลังจะอธิษฐาน คุณน้าที่อยู่ด้านข้างพลันถามขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก

“น้องเขย เหยาเหยาล่ะ? ทำไมไม่เห็นเธอออกมาเลย?”

ครั้นได้ยินชื่อฉัน พ่อก็ขมวดคิ้วท่าทางรังเกียจ ก่อนตอบเสียงเย็นเยียบ

“เธอทำร้ายเสี่ยวฉิง ผมเลยสั่งสอนเธอไปหน่อย ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปตายอยู่ที่ไหนแล้ว!”

คุณน้าได้ยินพลันเผยสีหน้ากังวลใจทันใด

“นายลงโทษเธอเกินควรไปแล้วใช่ไหม? เหยาเหยาเป็นเด็กดีเชื่อฟังมาโดยตลอด ไม่มีทางวิ่งหนีไปเรื่อยเปื่อยแน่!”

ทว่าพ่อกลับเต็มไปด้วยท่าทีไม่แยแส

“ผมขังมันไว้วันสองวัน ให้คนไปปล่อยตั้งนานแล้ว ผมว่าผมยังลงโทษน้อยไปด้วยซ้ำ!”

การสั่งสอนนิดหน่อยในสายตาของพ่อ กลับทำให้ฉันไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

คืนนั้น เขาถือไม้กระบองด้ามหนาไว้พลางจดจ้องเค้นถามฉันด้วยสายตาเยือกเย็น

“ทำไมแกถึงคิดผลักพี่สาวแกตกบันได?”

ฉันตัวสั่นระริกด้วยคววามผวากลัว แต่กลับยังกัดฟันตอบกลับไป

“พ่อคะ หนูไม่ได้ผลัก พี่ตกลงไปเอง!”

แต่เขากลับตีขาฉันฉันเต็มแรง

“อ้าก—”

ความเจ็บปวดสาหัสฉับพลันทำเอาฉันล้มลงพื้น แผดเสียงร้องอย่างกลั้นไม่อยู่

ทว่าพ่อกลับอยู่ข้างๆพูดเหน็บแนมฉันอย่างไม่ทนอีกต่อไป

“แกรู้จักเจ็บแล้วเหรอ? ตอนแกผลักพี่สาวแกตกบันได ทำไมไม่รู้ว่าเขาก็เจ็บเหมือนกัน?”

ไม้กระบองกระหน่ำฟาดตามตัวฉันราวกับห่าฝนอีกครั้ง

ฉันกัดปากไว้แน่น แต่กลับยังไม่ยอมรับ

เขายิ่งปะทุโทสะ ตีฉันแรงยิ่งขึ้น

คอยกระทั่งเขายั้งมือ ฉันก็รู้สึกว่าอวัยวะแขนขาต่างเจ็บจนชาไปแล้ว

ฉันพูดไม่อะไรไม่ออก แต่ในสายตาพ่อ กลายเป็นว่าฉันกำลังต่อต้านเขาเสียอย่างนั้น

ดังนั้นเขาจึงจับฉันที่หายใจรวยรินโยนเข้าห้องใต้ดิน

ในนั้นทั้งมืดทั้งแคบ ฉันถูกเขาโยนทิ้งขว้างลงพื้นราวกับขยะ

ฉันที่เป็นโรคกลัวที่แคบตัวสั่นเทาอย่างกลั้นไม่อยู่

“พ่อ......พ่อ อย่า......ขังหนูไว้ที่นี่!”

แต่สายตาเขากลับไร้ซึ่งแววสงสาร มีเพียงความเย็นชาและชิงชังอยู่เท่านั้น

เขาปลดมือฉันลง ปราดตามองลงมาคุยกับฉัน

“หลินเหยาเหยา แกตัดความคิดสกปรกของแกทิ้งได้เมื่อไหร่ ฉันก็ปล่อยแกออกมาเมื่อนั้น!”

จากนั้นเขาจึงหันกลับไปโดยไม่เหลือแม้แต่ความเห็นใจ ปิดประตูบานน้อยนั้นลง

รอบด้านตกอยู่ในความมืดมิด ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเจ็บปวดของฉันค่อยๆปิดลง

ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายไปยังไง

ทว่านับตั้งแต่ตอนนั้น สติของฉันมักจะเลือนรางอยู่เสมอ

ฉันนึกว่าชีวิตนี้จะอยู่ได้ถึงแค่อายุ18ปี

แต่ไม่คิดฝันว่า คนเราตายแล้ว ดวงวิญญาณจะยังคงอยู่ที่นี่

พอเห็นความเกรี้ยวโกรธฉายชัดบนหน้าพ่อ น้าก็พูดอะไรมากไม่ได้อีก

ในฐานะกระดูดสันหลังหลักของตระกูลหลิน แค่พ่อโกรธ ก็ไม่มีใครกล้าหือแล้ว

มีเพียงอันฉิง ที่มองตาใสจับมือเขาไว้ส่ายไปมาพลางเอ่ยอย่างออดอ้อน

“ลุงหลิน อย่าโกรธไปเลยค่ะ! โกรธไปก็ทำร้ายสุขภาพลุงนะคะ!”

พ่อที่เพิ่งทำหน้าตาเยือกเย็นเมื่อครู่ พลันท่าทีอ่อนโยนลงทันใด

“เป็นเพราะเสี่ยวฉิงของเรารู้ความ! ถ้าหลินเหยาเหยานังสวะนั่นเชื่อฟังได้เหมือนเธอก็คงดี!”

คำพูดนี้ ตั้งแต่อันฉิงมาอยู่บ้านหลังนี้ ก็ได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

อันฉิงที่มักแสดงแสร้งทำเหมือนจิตใจดีมากนั้น

นี่เหรอการเชื่อถ้อยฟังคำที่พ่อต้องการ?

แต่ไหนเลยเขาจะรู้ว่าความเลวร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังความอ่อนโยนเชื่อถ้อยฟังคำนี้จะน่าสะพรึงกลัวเพียงใด

Related chapters

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 2

    ตอนอายุได้เจ็ดขวบ พ่อพาอันฉิงกลับมาแค่เพราะอันฉิงบอกว่าชอบห้องของฉัน ฉันก็ถูกโยนทิ้งที่ห้องรับแขกแล้วทุกวันที่เธอเข้าเรียนเลิกเรียน พ่อต่างไปรับเธอด้วยตัวเองทั้งนั้นกระทั่งว่าแม้แต่ประชุมผู้ปกครอง เขาก็เลือกไปชั้นเรียนของอันฉิงและฉันกลายเป็นเด็กป่าเถื่อนไม่มีพ่อแม่ให้หมู่นักเรียนเล่ากันสนุกปากคุณน้าโกรธแทนฉัน บอกว่าเขาไม่ควรลำเอียงขนาดนี้แต่พ่อกลับพูดอย่างแน่วแน่มั่นใจ“เสี่ยวฉิงอายุน้อยขนาดนี้ก็ไม่มีพ่อแม่แล้ว เด็กน่าสงสารแบบนี้ ฉันไม่ควรดูแลเธอสักหน่อยเลยหรือไง?”ทว่าเขาแทบลืมไปแล้ว ว่าฉันไม่มีแม่มาตั้งแต่เด็กเล็กแล้วส่วนอันฉิง เด็กดีที่เขาบอกว่าเชื่อฟังรู้ความนั้นตอนวันเกิดฉัน กลับเข้าห้องฉันขโมยสร้อยที่แม่ทิ้งไว้ให้ฉันไปฉันตามจับเธอที่ชั้นสอง แต่กลับเห็นเธอถือสร้อยไว้ข้างหน้าด้วยเจตนาชั่วร้าย“หลินเหยาเหยา เธออยากได้สร้อยคอนี้หรือเปล่า?”ฉันกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์โกรธเกรี้ยวก่อนตอบกลับไป“เธอคิดจะทำอะไรกันแน่?”ทว่าเธอกลับหยักยิ้มมุมปาก ก่อนกระชากดึงสร้อยคอขาดในทันใด“อย่า!”ฉันพุ่งตัวเข้าไปราวกับบ้าคลั่ง แต่ไม่ได้แตะต้องถึงตัวเธอแม้แต่น้อยแต่เธอกล

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 3

    อันฉิงดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปมาฉันเดินตามเธอเข้าไปในห้องเก่าที่เคยเป็นของฉันห้องที่เดิมทีแม่ตกแต่งให้ฉัน ตอนนี้กลับมีสภาพไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีกต่อไปอันฉิงเอนกายนอนบนเตียง แทบทนรอต่อสายหาโทรใครบางคนไม่ไหว“ฉันจะบอกอะไรให้ ไอ้แก่หลินเย่เฉิงนั่นตอบตกลงแล้ว!”จากนั้นไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไร อันฉิงแสยะปากเอ่ยต่อ“แต่ เธอไม่ปล่อยหลินเหยาเหยานังชั่วนั่นไปจริงเหรอ?”เมื่อได้ยินคำพูดของอันฉิง ฉันรู้สึกเพียงเย็นเยียบสะท้านไปทั้งตัวเท่านั้นวันรุ่งขึ้น พวกเขาขับรถมุ่งไปยังสถานที่จัดการแข่งขันระหว่างทาง พ่อดูเหมือนจะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตาเอาแต่จ้องโทรศัพท์ตลอด ทว่าเนิ่นนานก็ไม่ทำอะไรอยู่ดีฉันขยับเข้าไปใกล้ถึงได้พบว่า บนหน้าจอมีชื่อฉันเด่นหราอยู่หรือพ่อคิดจะโทรหาฉันกัน?วินาทีต่อมา เขาต่อสายหาฉันดังที่คิดไว้จริงๆ “ขอโทษค่ะ ไม่มีเสียงสัญญาณตอบรับจากหมายเลข…”ทว่าเสียงพูดยังไม่ทันจบ พ่อก็ตัดสายทิ้งไป สีหน้าของเขาย่ำแย่สุดขีด ระหว่างคิ้วขมวดกันเป็นปมด้วยความโมโหบางทีอาจเป็นเพราะฉันไม่เคยไม่รับสายเขามาก่อนแต่ฉันตายไปแล้วไม่มีทางรับโทรศัพท์เขาได้อีกตลอดไปกระนั้นสิ่งนี้ก

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 4

    แสงแดดส่องกระทบไปยังร่างนั้นในอากาศก็ปกคลุมไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าที่ยากจะอธิบาย รุนแรงจนทำให้คนหายใจไม่ออกและผิวหนังของฉันได้ปรากฏสีเทาเขียวผิดปกติออกมาแล้ว บวมเป่งจนแทบจำสภาพเดิมไม่ได้เนื้อที่เปื่อยบริเวณบาดแผลปริออกจนกลายเป็นหนองในเวลานั้น คล้ายกับเวลาหยุดเดินสายตาของพ่อจับจ้องไปยังร่างไร้วิญญาณแทบจะไม่เหมือนคนที่อยู่ด้านข้างคุณน้ารูม่านตาเขาหดลงฉับพลัน ราวกับถูกค้อนเหล็กเย็นเฉียบกระแทกอย่างแรง และตกอยู่ในอาการสั่นเทาไปทั้งร่าง“เป็นไปไม่ได้…”พ่อพึมพำออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อเขาย่ำเท้าก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมายจะยื่นมือออกไปสัมผัส ทว่ากลับหดมือกลับอย่างรวดเร็ว“เป็นไปไม่ได้…นี่มัน…นี่มันไม่ใช่เรื่องจริง…”คุณน้าหยัดกายลุกขึ้น เดินมาอยู่ข้างหน้าพ่อ พลาวคว้าแขนเขาและถามอย่างไร้เรี่ยวแรง“ไม่ว่ายังไง เหยาเหยาก็เป็นลูกแท้ๆ ของคุณ เป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของพี่! ทำไมคุณถึงได้ใจเหี้ยมขนาดนี้?”แต่พ่อกลับสะบัดมือของน้าออกอย่างแรง และตอบกลับเสียงดัง“อู่เยี่ยนบอกว่าปล่อยเธอไปแล้ว และเธอก็วิ่งออกไปแล้ว นี่ไม่ใช่เธอแน่นอน!”“อีกอย่าง เธอสนใจแค่ชีวิตของตัวเองมาตั้งแต่เ

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 5

    วันนั้น พอพ่อกลับมาถึง ก็ตะคอกเสียงดังใส่ฉันด้วยดวงตาดุดันแดงก่ำ“ทำไมแกถึงพูดโกหก?”แต่ฉันกลับไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดอะไร ได้แค่ร้องไห้โฮด้วยความกลัวขึ้นมาจู่ๆ มือข้างหนึ่งของเขาก็บีบคอของฉันไว้แน่นฉันหายใจไม่ออก อยากจะผลักเขาออกแต่แรงของเขามีเยอะมากจนน่าตกใจ ฉันใช้แรงทั้งหมดก็ยังผลักไม่ออกฉันพึมพำออกมาอย่างไม่รู้สึกตัว“คุณพะ…พ่อ!”ในตอนที่ฉันคิดว่าตัวเองจะถูกเขาบีบคอตายทั้งเป็นนั้น คุณน้ามาถึงพอดีถึงได้ช่วยฉันไว้ได้“พี่เขย นี่พี่จะทำอะไร?”คุณน้ากอดฉันไว้ในอ้อมแขน พลางถามพ่อแต่พ่อกลับชี้หน้าว่าฉันด้วยความโกรธ“ถ้าไม่ใช่เพราะมันโกหก อวิ๋นชูก็คงไม่ตาย! เป็นมันที่โกหกฉัน!”“เหยาเหยาเพิ่งจะห้าขวบ เธอจะไปรู้อะไร พี่จะมาพาลโมโหใส่เด็กได้ยังไง?”“ทั้งๆ ที่มันรู้ว่าอวิ๋นชูอยู่ริมทะเล แต่จงใจพูดโกหก ถ้าตอนนั้นฉันไป อวิ๋นชูก็จะไม่ตาย!”ฉันฟังพวกเขาทะเลาะกัน แต่กลับไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไรรู้แค่ว่าตัวเองหวาดกลัวมากต่อมา คุณน้าก็พาฉันไปที่หน้าโลงศพแม่คนมากมายต่างคุกเข่าร่ำไห้อยู่หน้ารูปแม่ฉันฉันถามคุณน้าว่า ทำไมพวกเขาต้องร้องไห้อยู่หน้ารูปสีดำนั้นคุณน้าเช็ดน้ำต

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 6

    พ่อรีบวางกล่องและวิ่งออกไปอู๋เยี่ยนเป็นผู้ช่วยของพ่อ แต่อายุห่างกันกับพ่อเพียงไม่กี่ปีพ่อเดินมาหาเขาและถาม“เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวฉิง?”เมื่อเห็นท่าทางที่กระวนกระวายใจของพ่อที่มีต่ออันฉิง ฉันอิจฉามาก อิจฉาเธอที่ได้รับความรักจากพ่ออย่างง่ายดายเธอดูเหมือนจะไม่ต้องทําอะไรเลย หัวใจของพ่อก็ตกอยู่ที่เธอรักใคร่เอ็นดูเธอ ลูกสาวแท้ ๆ ก็แค่นี้เองแต่ฉันไม่โทษพ่ออู๋เยี่ยนก้มหน้าบอกพ่อว่า“คุณอันถูกลักพาตัวไป โจรลักพาตัวบอกว่าให้คุณไปคุยกับเขาด้วยตัวเอง”ได้ยินดังนั้น พ่อก็เดินออกไปนอกประตูอย่างลุกลี้ลุกลน แต่เมื่อกําลังจะออกไปก็หันมาถามเสียงเข้ม“อู๋เหยียน นายปล่อยเหยาเหยาจริงๆเหรอ?”ดวงตาของอู๋เยี่ยนฉายแววตื่นตระหนก แต่ก็ถูกเขาปกปิดไว้อย่างรวดเร็ว“ประธานหลิน ผมแน่ใจครับ”พ่อมองเขาอีกครั้งก่อนที่จะออกไปผมงนอกจริง ๆ แล้วเขาแค่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็จะพบว่าฉันไม่เคยออกจากห้องใต้ดินหรือถ้าเขาไปดูศพฉันอย่างละเอียดก็จะจําได้ว่านั่นคือฉันแน่ ๆแต่ในจิตใต้สํานึกของเขา ฉันเป็นคนโกหกเขารังเกียจฉัน ดังนั้นเขาไม่ยอมไปพิสูจน์ทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองพ่อเกือบจะถึงสถานที่ที่โจรลักพาตัวต้

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 7

    อันฉิงอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็ยังแกล้งทําเป็นไม่รู้เรื่อง“ลุงหลิน ลุงพูดอะไรน่ะ ทําไมหนูฟังไม่รู้เรื่องเลย”แต่พ่อกลับบอกเธอโดยตรง“ที่เรียกว่าโจรลักพาตัวก็คืออู๋เยี่ยน ส่วนเธอกับเขาก็เป็นพวกเดียวกัน”แต่อันฉิงยังแกล้งโง่อยู่“ลุงหลิน หนูไม่รู้ว่าลุงกําลังพูดอะไรอยู่”แต่พ่อกลับจ้องมองเธอและหัวเราะเยาะออกมาสายตาของเขาเฉียบคมราวกับเหยี่ยว จ้องเขม็งไปที่อันฉิง ไม่เหลือที่ให้เธอหลบซ่อนแม้แต่น้อย“เธอไม่รู้ งั้นฉันก็จะเล่าให้เธอฟัง”“วันนั้นเธอให้ฉันไปเข้าร่วมการแข่งขันเต้นรําของเธอ เพราะอยากจะฉวยโอกาสมัดฉันไว้ระหว่างทาง แต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้น หลังจากนั้นเธอกับอู๋เยี่ยนก็คิดออกว่าเธอถูกลักพาตัวไป ให้ฉันเอาหุ้นของบริษัทมาแลกกับวิธีนี้”“แต่พวกเธอไม่มีใครคาดคิดเลยว่าในวิดีโอวันนั้น ฉันพบสิ่งหนึ่งที่แปลกมาก นั่นก็คือไฝบนนิ้วของโจรลักพาตัวคนนั้นเหมือนกับอู๋เยี่ยนทุกประการ”แม้ว่าเสียงของพ่อจะไม่สูง แต่ก็มีความสง่างามที่ไม่สามารถละเลยได้ ราวกับว่าสามารถมองทะลุถึงก้นบึ้งของหัวใจมนุษย์ได้ทุกประโยคของเขา ล้วนเป็นการโจมตีที่แม่นยําต่อคำโกหกของอันฉิงก่อนหน้านี้สีหน้าของอัน

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 8

    “ทําไมกัน”พ่อกัดฟันถามเขาว่าแต่ทันใดนั้นอู๋เยี่ยนก็ตะโกนใส่เขาเหมือนคนบ้า“เดิมทีตระกูลหลินเป็นของฉันต่างหาก! แกขโมยมันและฆ่าแม่ของฉัน! ฉันแฝงตัวอยู่ข้างกายแกสิบกว่าปี ก็เพื่อให้มีโอกาสแก้แค้น”ฉันคิดว่าพ่อจะตีเขาให้ตายทั้งเป็น แต่ไม่เคยคิดว่าเขาแค่พูดกับเขาว่า“แกเป็นแค่ลูกนอกคอก สมควรได้รับตระกูลหลินด้วยหรือ?”พูดจบก็เปิดประตูโดยไม่สนคําสาปแช่งของอู๋เยี่ยนที่อยู่ข้างหลังนอกประตูมีตํารวจกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทําให้ฉันยังคงงุนงงเล็กน้อยฉันแค่มองดวงจันทร์ในคืนนั้นอย่างตกตะลึงไปพักหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าพ่อจะทําเรื่องแบบนี้แต่ฉันลืมไปว่า จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนสุขุมและพิถีพิถันมากเพียงแต่เรื่องเกี่ยวกับฉัน เขาแค่ไม่อยากคิดให้ละเอียด ไม่อยากยอมรับว่าฉันบริสุทธิ์ฉันตามเขากลับไปที่บ้านเก่าของตระกูลหลินเห็นเขาเดินโซเซมาที่ห้องฉัน หยิบกล่องนั้นขึ้นมาแล้วกระแทกพื้นอย่างแรงเมื่อกล่องแตก ไดอารี่ข้างในก็ถูกพ่อหยิบขึ้นมาตั้งแต่ประโยคแรกก็เป็นกระบวนการทั้งหมดของการเสียชีวิตของแม่ตอนนั้นฉันคิดมาตลอดว่าคนที่คุยโทรศัพท์กับแม่คือใครแต่วันนี้เมื่อฉันไ

Latest chapter

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 8

    “ทําไมกัน”พ่อกัดฟันถามเขาว่าแต่ทันใดนั้นอู๋เยี่ยนก็ตะโกนใส่เขาเหมือนคนบ้า“เดิมทีตระกูลหลินเป็นของฉันต่างหาก! แกขโมยมันและฆ่าแม่ของฉัน! ฉันแฝงตัวอยู่ข้างกายแกสิบกว่าปี ก็เพื่อให้มีโอกาสแก้แค้น”ฉันคิดว่าพ่อจะตีเขาให้ตายทั้งเป็น แต่ไม่เคยคิดว่าเขาแค่พูดกับเขาว่า“แกเป็นแค่ลูกนอกคอก สมควรได้รับตระกูลหลินด้วยหรือ?”พูดจบก็เปิดประตูโดยไม่สนคําสาปแช่งของอู๋เยี่ยนที่อยู่ข้างหลังนอกประตูมีตํารวจกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทําให้ฉันยังคงงุนงงเล็กน้อยฉันแค่มองดวงจันทร์ในคืนนั้นอย่างตกตะลึงไปพักหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าพ่อจะทําเรื่องแบบนี้แต่ฉันลืมไปว่า จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนสุขุมและพิถีพิถันมากเพียงแต่เรื่องเกี่ยวกับฉัน เขาแค่ไม่อยากคิดให้ละเอียด ไม่อยากยอมรับว่าฉันบริสุทธิ์ฉันตามเขากลับไปที่บ้านเก่าของตระกูลหลินเห็นเขาเดินโซเซมาที่ห้องฉัน หยิบกล่องนั้นขึ้นมาแล้วกระแทกพื้นอย่างแรงเมื่อกล่องแตก ไดอารี่ข้างในก็ถูกพ่อหยิบขึ้นมาตั้งแต่ประโยคแรกก็เป็นกระบวนการทั้งหมดของการเสียชีวิตของแม่ตอนนั้นฉันคิดมาตลอดว่าคนที่คุยโทรศัพท์กับแม่คือใครแต่วันนี้เมื่อฉันไ

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 7

    อันฉิงอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็ยังแกล้งทําเป็นไม่รู้เรื่อง“ลุงหลิน ลุงพูดอะไรน่ะ ทําไมหนูฟังไม่รู้เรื่องเลย”แต่พ่อกลับบอกเธอโดยตรง“ที่เรียกว่าโจรลักพาตัวก็คืออู๋เยี่ยน ส่วนเธอกับเขาก็เป็นพวกเดียวกัน”แต่อันฉิงยังแกล้งโง่อยู่“ลุงหลิน หนูไม่รู้ว่าลุงกําลังพูดอะไรอยู่”แต่พ่อกลับจ้องมองเธอและหัวเราะเยาะออกมาสายตาของเขาเฉียบคมราวกับเหยี่ยว จ้องเขม็งไปที่อันฉิง ไม่เหลือที่ให้เธอหลบซ่อนแม้แต่น้อย“เธอไม่รู้ งั้นฉันก็จะเล่าให้เธอฟัง”“วันนั้นเธอให้ฉันไปเข้าร่วมการแข่งขันเต้นรําของเธอ เพราะอยากจะฉวยโอกาสมัดฉันไว้ระหว่างทาง แต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้น หลังจากนั้นเธอกับอู๋เยี่ยนก็คิดออกว่าเธอถูกลักพาตัวไป ให้ฉันเอาหุ้นของบริษัทมาแลกกับวิธีนี้”“แต่พวกเธอไม่มีใครคาดคิดเลยว่าในวิดีโอวันนั้น ฉันพบสิ่งหนึ่งที่แปลกมาก นั่นก็คือไฝบนนิ้วของโจรลักพาตัวคนนั้นเหมือนกับอู๋เยี่ยนทุกประการ”แม้ว่าเสียงของพ่อจะไม่สูง แต่ก็มีความสง่างามที่ไม่สามารถละเลยได้ ราวกับว่าสามารถมองทะลุถึงก้นบึ้งของหัวใจมนุษย์ได้ทุกประโยคของเขา ล้วนเป็นการโจมตีที่แม่นยําต่อคำโกหกของอันฉิงก่อนหน้านี้สีหน้าของอัน

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 6

    พ่อรีบวางกล่องและวิ่งออกไปอู๋เยี่ยนเป็นผู้ช่วยของพ่อ แต่อายุห่างกันกับพ่อเพียงไม่กี่ปีพ่อเดินมาหาเขาและถาม“เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวฉิง?”เมื่อเห็นท่าทางที่กระวนกระวายใจของพ่อที่มีต่ออันฉิง ฉันอิจฉามาก อิจฉาเธอที่ได้รับความรักจากพ่ออย่างง่ายดายเธอดูเหมือนจะไม่ต้องทําอะไรเลย หัวใจของพ่อก็ตกอยู่ที่เธอรักใคร่เอ็นดูเธอ ลูกสาวแท้ ๆ ก็แค่นี้เองแต่ฉันไม่โทษพ่ออู๋เยี่ยนก้มหน้าบอกพ่อว่า“คุณอันถูกลักพาตัวไป โจรลักพาตัวบอกว่าให้คุณไปคุยกับเขาด้วยตัวเอง”ได้ยินดังนั้น พ่อก็เดินออกไปนอกประตูอย่างลุกลี้ลุกลน แต่เมื่อกําลังจะออกไปก็หันมาถามเสียงเข้ม“อู๋เหยียน นายปล่อยเหยาเหยาจริงๆเหรอ?”ดวงตาของอู๋เยี่ยนฉายแววตื่นตระหนก แต่ก็ถูกเขาปกปิดไว้อย่างรวดเร็ว“ประธานหลิน ผมแน่ใจครับ”พ่อมองเขาอีกครั้งก่อนที่จะออกไปผมงนอกจริง ๆ แล้วเขาแค่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็จะพบว่าฉันไม่เคยออกจากห้องใต้ดินหรือถ้าเขาไปดูศพฉันอย่างละเอียดก็จะจําได้ว่านั่นคือฉันแน่ ๆแต่ในจิตใต้สํานึกของเขา ฉันเป็นคนโกหกเขารังเกียจฉัน ดังนั้นเขาไม่ยอมไปพิสูจน์ทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองพ่อเกือบจะถึงสถานที่ที่โจรลักพาตัวต้

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 5

    วันนั้น พอพ่อกลับมาถึง ก็ตะคอกเสียงดังใส่ฉันด้วยดวงตาดุดันแดงก่ำ“ทำไมแกถึงพูดโกหก?”แต่ฉันกลับไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดอะไร ได้แค่ร้องไห้โฮด้วยความกลัวขึ้นมาจู่ๆ มือข้างหนึ่งของเขาก็บีบคอของฉันไว้แน่นฉันหายใจไม่ออก อยากจะผลักเขาออกแต่แรงของเขามีเยอะมากจนน่าตกใจ ฉันใช้แรงทั้งหมดก็ยังผลักไม่ออกฉันพึมพำออกมาอย่างไม่รู้สึกตัว“คุณพะ…พ่อ!”ในตอนที่ฉันคิดว่าตัวเองจะถูกเขาบีบคอตายทั้งเป็นนั้น คุณน้ามาถึงพอดีถึงได้ช่วยฉันไว้ได้“พี่เขย นี่พี่จะทำอะไร?”คุณน้ากอดฉันไว้ในอ้อมแขน พลางถามพ่อแต่พ่อกลับชี้หน้าว่าฉันด้วยความโกรธ“ถ้าไม่ใช่เพราะมันโกหก อวิ๋นชูก็คงไม่ตาย! เป็นมันที่โกหกฉัน!”“เหยาเหยาเพิ่งจะห้าขวบ เธอจะไปรู้อะไร พี่จะมาพาลโมโหใส่เด็กได้ยังไง?”“ทั้งๆ ที่มันรู้ว่าอวิ๋นชูอยู่ริมทะเล แต่จงใจพูดโกหก ถ้าตอนนั้นฉันไป อวิ๋นชูก็จะไม่ตาย!”ฉันฟังพวกเขาทะเลาะกัน แต่กลับไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไรรู้แค่ว่าตัวเองหวาดกลัวมากต่อมา คุณน้าก็พาฉันไปที่หน้าโลงศพแม่คนมากมายต่างคุกเข่าร่ำไห้อยู่หน้ารูปแม่ฉันฉันถามคุณน้าว่า ทำไมพวกเขาต้องร้องไห้อยู่หน้ารูปสีดำนั้นคุณน้าเช็ดน้ำต

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 4

    แสงแดดส่องกระทบไปยังร่างนั้นในอากาศก็ปกคลุมไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าที่ยากจะอธิบาย รุนแรงจนทำให้คนหายใจไม่ออกและผิวหนังของฉันได้ปรากฏสีเทาเขียวผิดปกติออกมาแล้ว บวมเป่งจนแทบจำสภาพเดิมไม่ได้เนื้อที่เปื่อยบริเวณบาดแผลปริออกจนกลายเป็นหนองในเวลานั้น คล้ายกับเวลาหยุดเดินสายตาของพ่อจับจ้องไปยังร่างไร้วิญญาณแทบจะไม่เหมือนคนที่อยู่ด้านข้างคุณน้ารูม่านตาเขาหดลงฉับพลัน ราวกับถูกค้อนเหล็กเย็นเฉียบกระแทกอย่างแรง และตกอยู่ในอาการสั่นเทาไปทั้งร่าง“เป็นไปไม่ได้…”พ่อพึมพำออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อเขาย่ำเท้าก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมายจะยื่นมือออกไปสัมผัส ทว่ากลับหดมือกลับอย่างรวดเร็ว“เป็นไปไม่ได้…นี่มัน…นี่มันไม่ใช่เรื่องจริง…”คุณน้าหยัดกายลุกขึ้น เดินมาอยู่ข้างหน้าพ่อ พลาวคว้าแขนเขาและถามอย่างไร้เรี่ยวแรง“ไม่ว่ายังไง เหยาเหยาก็เป็นลูกแท้ๆ ของคุณ เป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของพี่! ทำไมคุณถึงได้ใจเหี้ยมขนาดนี้?”แต่พ่อกลับสะบัดมือของน้าออกอย่างแรง และตอบกลับเสียงดัง“อู่เยี่ยนบอกว่าปล่อยเธอไปแล้ว และเธอก็วิ่งออกไปแล้ว นี่ไม่ใช่เธอแน่นอน!”“อีกอย่าง เธอสนใจแค่ชีวิตของตัวเองมาตั้งแต่เ

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 3

    อันฉิงดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปมาฉันเดินตามเธอเข้าไปในห้องเก่าที่เคยเป็นของฉันห้องที่เดิมทีแม่ตกแต่งให้ฉัน ตอนนี้กลับมีสภาพไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีกต่อไปอันฉิงเอนกายนอนบนเตียง แทบทนรอต่อสายหาโทรใครบางคนไม่ไหว“ฉันจะบอกอะไรให้ ไอ้แก่หลินเย่เฉิงนั่นตอบตกลงแล้ว!”จากนั้นไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไร อันฉิงแสยะปากเอ่ยต่อ“แต่ เธอไม่ปล่อยหลินเหยาเหยานังชั่วนั่นไปจริงเหรอ?”เมื่อได้ยินคำพูดของอันฉิง ฉันรู้สึกเพียงเย็นเยียบสะท้านไปทั้งตัวเท่านั้นวันรุ่งขึ้น พวกเขาขับรถมุ่งไปยังสถานที่จัดการแข่งขันระหว่างทาง พ่อดูเหมือนจะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตาเอาแต่จ้องโทรศัพท์ตลอด ทว่าเนิ่นนานก็ไม่ทำอะไรอยู่ดีฉันขยับเข้าไปใกล้ถึงได้พบว่า บนหน้าจอมีชื่อฉันเด่นหราอยู่หรือพ่อคิดจะโทรหาฉันกัน?วินาทีต่อมา เขาต่อสายหาฉันดังที่คิดไว้จริงๆ “ขอโทษค่ะ ไม่มีเสียงสัญญาณตอบรับจากหมายเลข…”ทว่าเสียงพูดยังไม่ทันจบ พ่อก็ตัดสายทิ้งไป สีหน้าของเขาย่ำแย่สุดขีด ระหว่างคิ้วขมวดกันเป็นปมด้วยความโมโหบางทีอาจเป็นเพราะฉันไม่เคยไม่รับสายเขามาก่อนแต่ฉันตายไปแล้วไม่มีทางรับโทรศัพท์เขาได้อีกตลอดไปกระนั้นสิ่งนี้ก

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 2

    ตอนอายุได้เจ็ดขวบ พ่อพาอันฉิงกลับมาแค่เพราะอันฉิงบอกว่าชอบห้องของฉัน ฉันก็ถูกโยนทิ้งที่ห้องรับแขกแล้วทุกวันที่เธอเข้าเรียนเลิกเรียน พ่อต่างไปรับเธอด้วยตัวเองทั้งนั้นกระทั่งว่าแม้แต่ประชุมผู้ปกครอง เขาก็เลือกไปชั้นเรียนของอันฉิงและฉันกลายเป็นเด็กป่าเถื่อนไม่มีพ่อแม่ให้หมู่นักเรียนเล่ากันสนุกปากคุณน้าโกรธแทนฉัน บอกว่าเขาไม่ควรลำเอียงขนาดนี้แต่พ่อกลับพูดอย่างแน่วแน่มั่นใจ“เสี่ยวฉิงอายุน้อยขนาดนี้ก็ไม่มีพ่อแม่แล้ว เด็กน่าสงสารแบบนี้ ฉันไม่ควรดูแลเธอสักหน่อยเลยหรือไง?”ทว่าเขาแทบลืมไปแล้ว ว่าฉันไม่มีแม่มาตั้งแต่เด็กเล็กแล้วส่วนอันฉิง เด็กดีที่เขาบอกว่าเชื่อฟังรู้ความนั้นตอนวันเกิดฉัน กลับเข้าห้องฉันขโมยสร้อยที่แม่ทิ้งไว้ให้ฉันไปฉันตามจับเธอที่ชั้นสอง แต่กลับเห็นเธอถือสร้อยไว้ข้างหน้าด้วยเจตนาชั่วร้าย“หลินเหยาเหยา เธออยากได้สร้อยคอนี้หรือเปล่า?”ฉันกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์โกรธเกรี้ยวก่อนตอบกลับไป“เธอคิดจะทำอะไรกันแน่?”ทว่าเธอกลับหยักยิ้มมุมปาก ก่อนกระชากดึงสร้อยคอขาดในทันใด“อย่า!”ฉันพุ่งตัวเข้าไปราวกับบ้าคลั่ง แต่ไม่ได้แตะต้องถึงตัวเธอแม้แต่น้อยแต่เธอกล

  • ลูกรักจากไปไม่หวนกลับ   บทที่ 1

    ยามสติค่อยๆฟื้นคืนมา ฉันพบว่าพ่อกำลังมุ่งตรงมาหาฉันฉันตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมในชั่วพริบตา ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรทว่าตอนเขาเดินผ่านร่างฉัน ฉันถึงตระหนักได้ว่าเขามองไม่เห็นฉันตั้งแต่แรกแล้ว“เสี่ยวฉิง สุขสันต์วันเกิด!”ฉันมองเขาลูบหัว พี่อันฉิง ลูกพี่ลูกน้องของฉันด้วยรอยยิ้ม จากนั้นส่งกล่องของขวัญที่บรรจงห่อให้เธออย่างตั้งใจ“ขอบคุณค่ะลุงหลิน!”วันเกิดของอันฉิงอยู่หลังวันเกิดฉันเจ็ดวันเมื่อนั้นฉันถึงตระหนักได้ทันใดว่า ที่แท้ตัวเองก็ตายมาแล้วเจ็ดวันพวกเขานั่งล้อมวงเบื้องหน้าเค้กสุดอลังการ ที่ทำเพื่อฉลองวันเกิดให้อันฉิงพูดคุยหัวเราะเฮฮา ครื้นเครงเสียไม่มี!ราวกับตรงนี้ไม่มีฉันอยู่อย่างไรอย่างนั้น!ตั้งแต่เด็กจนโต วันเกิดของอันฉิงมักครึกครื้นที่สุดแต่วันเกิดของฉัน กลับไม่มีใครยินยอมเอ่ยถึง และไร้ซึ่งคนสนใจอันฉิงกำลังจะอธิษฐาน คุณน้าที่อยู่ด้านข้างพลันถามขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก“น้องเขย เหยาเหยาล่ะ? ทำไมไม่เห็นเธอออกมาเลย?”ครั้นได้ยินชื่อฉัน พ่อก็ขมวดคิ้วท่าทางรังเกียจ ก่อนตอบเสียงเย็นเยียบ“เธอทำร้ายเสี่ยวฉิง ผมเลยสั่งสอนเธอไปหน่อย ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปตายอยู่ที่ไหนแล้ว!”คุณ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status