เมื่อร่ำลาซ่งอวิ๋นห่าวเรียบร้อยทั้งสี่คนก็จับมือกันเดินตามแสงสว่างเบื้องหน้าไปยังทางเดินเล็กๆ เดินอยู่อึดใจนึงทั้งสี่ก็มาโผล่ที่กระท่อมดินมุงด้วยหญ้าคาหลังหนึ่งสภาพกระท่อมผุพัง หลังคาทะลุ กำแพงดินมีหญ้าขึ้นแซม
ยามลมพัดปลิวต้นหญ้าก็แกว่งไกวตามสายลม บริเวณกระท่อมมีรั้วไม้ไผ่ทำแบบง่ายๆ แทบจะใช้กันสิ่งใดไม่ได้เลย มีเถาวัลย์ขึ้นเลื้อยพันเต็มไปหมด บริเวณในรั้วก็มีไม้เลื้อยสลับกับต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นรก
กระท่อมหลังนี้อยู่ติดบริเวณตีนเขามีลำธารกว้างประมาณ10เมตรลึกประมาณ60-80เซน กั้นกลางระหว่างบ้านกับภูเขาอีกลูก ด้านหน้าประตูรั้วมีบึงบัวขนาดเกือบ600-700ไร่สุดลูกหูลูกตา บริเวณบ้านทั้งหมดน่าจะประมาณ300ตารางวา ซ่งเหลียนฮวาทำสีหน้างงๆ เหตุใดจึงมาโผล่ที่นี่กัน
"หลานรัก หนูลองไปสำรวจบริเวณภูเขากับบึงบัวที่นี่สักหน่อยเถอะ สิ่งใดอยู่ตรงไหน ใช้ประโยชน์อย่างไรจงอย่าลืม พยายามจดจำรายละเอียดทุกจุดที่ผ่านตา เส้นทางไหนไปทางใดจงตั้งใจสำรวจให้ถี่ถ้วน มันจะดีต่อหลานในอนาคต"
ซ่งฮั่นเหลียงเอ่ยกับหลานสาว
แม้ว่าจะไม่เข้าใจที่คุณปู่สื่อสารมากนัก แต่เธอก็ยอมทำตาม เนื่องจากเป็นเพียงร่างวิญญาณการเคลื่อนที่จึงไม่เหน็ดเหนื่อย บนภูเขาทั้งสองล้วนมีแต่ของดี
ภูเขาที่ติดกับกระท่อมมีความสมบูรณ์มากมาย ถ้าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็คงจะมีความสุข เขาสวยน้ำใส ธรรมชาติจริงๆ สำรวจอยู่นานนึกขึ้นได้ว่าพ่อแม่และคุณปู่รออยู่จึงรีบกลับมา
"เหลียนฮวา...จากนี้ไปลูกช่วยทำหน้าที่แทนแม่กับพ่อได้หรือไม่" ซ่งเหวินเอ่ยกับบุตรสาว
"หน้าที่อะไรคะ?" ซ่งเหลียนฮวาไม่เข้าใจคำพูดคุณพ่อของเธอ
ซ่งเหวินไม่ตอบคำถาม อยู่ๆพวกเธอก็เข้ามาอยู่ด้านในกระท่อมแล้ว ภาพตรงหน้าบนเตียงปูด้วยหญ้าฟาง มีเด็กสาวคนนึงนอนสลบอยู่ ข้างๆมีเด็กผู้ชายอายุประมาณสามขวบและเด็กผู้หญิงอายุประมาณห้าขวบคอยดูแล ทั้งสามใส่ชุดโบราณรอยปะชุนและสีเสื้อที่ซีดจนไม่อาจเห็นสีเดิม บ่งบอกถึงสภาพความเป็นอยู่ได้อย่างดี
เด็กผู้หญิงกำลังเช็ดหน้าและเช็ดตัวให้เด็กสาวที่นอนหลับไหลไม่ได้สติอยู่ ไหล่น้อยๆ สั่นไหวดูเหมือนคนกำลังสะอื้น ซ่งเหลียนฮวายืนมองภาพนั้นก่อนจะหันมามองหน้าพ่อแม่และคุณปู่ของเธออย่างตั้งคำถาม เด็กสองคนนี้ทำไมถึงเหมือนกันขนาดนี้ จึงเอ่ยถามพวกเขา
"แม่คะพ่อคะ ปู่คะ นี่มันเรื่องอะไรกันคะ"
ซ่งเหวินจับไหล่ลูกสาวหันมาหาก่อนจะใช้มือลูบหัว
"เด็กดีของพ่อ..จากนี้ไปลูกช่วยทำหน้าที่แทนพ่อกับแม่ด้วยนะ"ซ่งเหวินลูบหัวบุตรสาว
"พวกเราต้องไปแล้ว แม่ก็รักลูกนะเหลียนฮวาของแม่ ฝากพวกเขาด้วย ฝากดูแลพวกเขาด้วย"
"เสี่ยวฮวาของปู่ ยังมีบางอย่างที่ปู่ไม่สามารถทำให้สำเร็จลุล่วงได้ ฝากภาระนั้นไว้ที่หลานด้วย จงจำไว้ อย่าไว้ใจใครง่ายๆ หากเกินกำลังที่มีหลานก็จงถอยออกมา พวกเราต้องไปแล้ว"
ซ่งฮั่นเหลียงลูบศรีษะของเธอก่อนจะโอบกอดแล้วบอกลา
ทั้งสามร่ำลาไม่ปล่อยให้ซ่งเหลียนฮวาได้เข้าใจอะไร ซ่งเหวินกอดบุตรสาวก่อนจะผลักไหล่เธออย่างแรง ซ่งเหลียนฮวาผงะหงายหลัง เธอตกใจไม่ทันตั้งตัว จึงพยายามไขว่คว้าแต่คว้าได้เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น เหมือนวิญญาณของเธอถูกแรงดูดมหาศาลกำลังกระชากไป ภาพที่คนทั้งสามโบกมือพร้อมกับยิ้มให้เธอซ่งเหลียนฮวารู้สึกถึงความมืด ก่อนจะหลับตาลงปล่อยตัวตามแรงดึงดูดนั้น
ภายในกระท่อม
"พี่รอง..พี่ใหญ่จะตื่นเมื่อไหร่หรือขอรับ?"ซ่งจื่อห่าวเอ่ยถามพี่สาวคนรองที่กำลังเช็ดหน้าให้พี่ใหญ่ของเขาอยู่
"จื่อห่าวอย่ากังวลเลยพี่ใหญ่เป็นคนดี สวรรค์ย่อมคุ้มครองแน่นอน"
ซ่งจื่อเย่วปลอบใจน้องชาย เด็กน้อยเช็ดตัวให้พี่สาวที่นอบหลับไหลอยู่พร้อมขอบตาที่เริ่มร้อนผ่าว ร่างผอมบางที่สลบอยู่นั้นคือซ่งจื่อหรูพี่สาวของเด็กทั้งสอง นางถูกแม่เฒ่าหลี่ซึ่งเป็นย่าของพวกเขาทุบตี และผลักจนนางจนล้มลงศรีษะกระแทกกับก้อนหินและสลบไป เพียงเพราะต้องการไข่ไก่ป่าแค่สองฟอง
ร่างบางที่หลับไหลฟื้นมาสักพักแล้วเพราะแรงถูกดูดมหาศาลนั่นทำให้ซ่งเหลียนฮวามึนงง จึงไม่อาจลุกขึ้นในทันทีที่ตื่นขึ้นมา บวกกับความทรงจำของอีกคนหลอมรวมกับวิญญาณของเธอจึงกินเวลาไปร่วมยี่สิบนาที เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นเด็กสองคนสภาพผอมแห้งผมหยาบกร้าน ตัวเหลืองเหมือนขาดสารอาหาร เด็กผู้ชายหน้าตาเหมือนซ่งอวิ๋นห่าวน้องชายเธอตอนเด็กมากๆ แต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่อาจกลั้นน้ำตาได้ก็คือเด็กผู้หญิง ใบหน้าที่คล้ายซ่งอวิ๋นเย่วน้องสาวฝาแฝดของเธอ แต่น้องสาวเธอโชคร้ายอายุแค่เจ็ดขวบก็ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวและจากไปในวัยเพียงแปดขวบ
หรือนี่คือชะตาชีวิตใหม่ของเธอ เธอตายไปแล้วและได้เกิดใหม่ เพียงแต่เป็นคนละยุคสมัยที่เธอจากมา จากความทรงจำของร่างนี้เธอคือซ่งจื่อหรูเด็กสาวตรงหน้าคือซ่งจื่อเย่วและเด็กผู้ชายคือซ่งจื่อห่าว
พ่อแม่ของเด็กทั้งสามเสียชีวิตแล้ว เพราะท่านพ่อไปล่าสัตว์จนถูกสัตว์ป่าทำร้ายท่านย่าไม่ยอมเสียเงินรักษาแต่กลับบังคับให้พวกเขาแยกบ้าน
หลังจากนั้นไม่นานท่านพ่อก็เสียชีวิตลงขณะที่นางซ่งคลอดบุตรชายได้เพียงสองเดือน ย่าของร่างเดิมจึงขับไล่นางซ่งออกจากตระกูลโดยกล่าวหาว่าซ่งจื่อห่าวเป็นตัวอัปมงคล ทำให้บิดาของตนต้องตาย อีกทั้งยังห้ามใช้แซ่หลี่อีกด้วย เพราะเหตุนี้นางซ่งจึงพาลูกๆ กลับมาอาศัยบ้านเดิมที่เชิงเขาเทียนซาน และกลับมาใช้แซ่ซ่งของท่านตาเช่นเดิม
ท่านตาเป็นเพียงช่างไม้คนนึง ท่านตาของร่างเดิมจากไปก่อนบิดาของนางเพียงครึ่งปี นางซ่งยากจนตอนแต่งงานกับหลี่ต้าซานสินเดิมนั้นมีเพียงเครื่องเรือนกับเครื่องครัว ไม่มีเงินหรือที่ดินเช่นสะใภ้บ้านอื่น จึงถูกแม่เฒ่าหลี่รังเกียจถูกสะใภ้ใหญ่และน้องสามีรังแกเสมอมา
เมื่อวานก่อนเกิดเรื่องซ่งจื่อหรูไปหาของป่าบนเขา ได้ไข่ป่ามาสองฟอง แต่ระหว่างทางเจอกับหลี่อ้ายเสิ่นซึ่งเป็นอาหญิงของนาง หลี่อ้ายเสิ่นต้องการแย่งไข่ป่า แต่ซ่งจื่อหรูไม่ยอมเพราะน้องๆ ของนางยังไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว
หลี่อ้ายเสิ่นกลับบ้านมาฟ้องมารดา แม่เฒ่าหลี่จึงตามมายื้อแย่ง แต่ซ่งจื่อหรูต้มไข่สองฟองให้น้องไปกินไปแล้ว แม่เฒ่าหลี่โมโหจึงด่าทอตบตี สุดท้ายก็ผลักเด็กสาวจนล้มหัวฟาดพื้นศรีษะกระแทกเข้ากับก้อนหิน และในที่สุดนางก็จากไปจนวิญญานซ่งเหลียนฮวาเข้ามาแทนที่
ซ่งเหลียนฮวายอมรับการเกิดใหม่ครั้งนี้ อย่างน้อยครั้งนึงในอดีตก็คงเคยเป็นครอบครัวเดียวกันมาก่อน แม้จะไม่สมเหตุสมผลในบางเรื่อง แต่โบราณว่าไว้วาสนาจะนำพาให้คนเราได้พบเจอแต่หากสิ้นวาสนาก็ต้องพรากจากกันวาสนาของเธอกับคุณพ่อคุณแม่และคุณปู่รวมถึงอวิ่นห่าวทั้งสองภพต่างสิ้นสุดลงแล้ว ส่วนเด็กทั้งสองคนก็คือวาสนาในชาตินี้"พ่อคะ แม่คะ คุณปู่ จากนี้ไปหนูจะดูแลพวกเขาให้ดี จะทำหน้าที่ๆคุณพ่อคุณแม่และคุณปู่มอบหมายอย่างดีที่สุด ขอบคุณมากนะคะที่คืนน้องๆให้หนู พวกเขาจะต้องโตไปอย่างดีคะ หนูให้สัญญาค่ะ"สายลมอุ่นๆ พัดอยู่รอบตัวเธอเห็นวิญญาณซ่งจื่อหรูเจ้าของร่างเดิมกำลังจับมือกับพ่อแม่และปู่ของเธอพวกเขายิ้ม ซ่งเหลียนฮวายิ้มตอบ พวกเขาค่อยๆ เลือนหายไปในแสงสีขาวที่เคยพาเธอมาก่อนหน้า ซ่งจื่อเย่วเห็นพี่สาวลืมตาขึ้นก็ดีใจรีบจับมือนางพร้อมถามไถ่"พี่ใหญ่ท่านตื่นแล้ว ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ็บตรงไหนไหมเจ้าคะ"ซ่งจื่อเย่วเป็นห่วงพี่สาว ซ่งเหลียนฮวาลูกขึ้นนั่งตอนนี้เธอยอมรับแล้วว่าเธอคือซ่งจื่อหรู และเด็กสองคนนี้คือน้องของเธอ"จื่อเย่ว จื่อห่าว น้องพี่พวกเจ้าอยู่นี่ตรงหน้าพี่จริงๆด้วย"ซ่งจื่อหรูโอบกอดเด็กทั้งสองแน่น น
ซ่งจื่อหรูเดินไปเด็ดใบบัว เห็นฝักบัวมากมาย จากความทรงจำเด็กคนนี้ไม่เคยกิน ไม่รู้ว่าคนที่นี่รู้หรือไม่ว่ามันกินได้ บึงบัวที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ นับว่าอาหารอุดมสมบูรณ์ยายแก่นั่นยึดจานชามยังไม่พอ แต่ยังทุบทำลาย จะไปทวงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ เพราะร่างกายนี้ยังอ่อนแอแต่ก็จดใส่บัญชีหนังหมาเรียบร้อยแล้ว ซ่งจื่อหรูจึงใช้ใบบัวชั่วคราว รอให้จัดการรั้วและประตูบ้านก่อน ค่อยเอาของที่ท่านตาเก็บไว้มาใช้สอย ซ่งจื่อหรูหอบใบบัวกับฝักบัวหอบใหญ่กลับมา"เด็กๆ ดูสิพี่ได้อะไรมา เห็นไหมฝักบัวแก่กำลังกินเลย"ซ่งจื่อหรูเอ่ยปาก"สิ่งนี้กินได้หรือเจ้าคะพี่ใหญ่ ข้าไม่เคยเห็นใครกินมาก่อน" ซ่งจื่อเย่วเห็นสิ่งที่พี่สาวนำมาก็สงสัย ซ่งจื่อห่าวเองก็อดถามไม่ได้เช่นกัน"อร่อยไหมขอรับพี่ใหญ่""กินได้สิ อร่อยมากด้วยเดี๋ยวพี่แกะให้นะ"ซ่งจื่อหรูตอบน้องๆก่อนจะนั่งลงวางฝักบัวข้างๆ และใช้ไม้ค่อยๆ เขี่ยมันเทศออกจากกองถ่านที่เป็นขี้เถ้าจนหมดแล้ว ปัดเศษขี้เถ้าออกและนำวางบนใบบัว"จื่อเย่ว..พี่สี่ฟื้นหรือยัง"เสียงเรียกจากประตูรั้วดังมา ซ่งจื่อหรูหันไปตามเสียงก็เห็นเด็กสาวคนนึงอายุประมาณ9ขวบ ใส่เสื้อผ้าทีมีรอยปะชุนเต็มไปหมด รองเท้าฟางที
หลี่ถิงถิงเมื่อมาถึงที่นาก็ตะโกนเรียกบิดากับมารดาทันที"ท่านแม่ ท่านพ่อ""ถิงถิง ตัดหญ้าเสร็จแล้วหรือ ลูกมาทำอะไรที่นี่ รีบกลับบ้านเถอะเดี๋ยวจะถูกท่านย่าตำหนิได้อีก"หวงซื่อเอ่ยตอบบุตรสาวหลี่ถิงถิงมองบน"ใครสนใจนางกัน ต่อให้รีบกลับไปก็ถูกด่าอยู่ดี คนในบ้านนอกจากท่านกับท่านแม่ยังมีใครทำงานบ้าน นั่งๆ นอนๆ จนข้านึกว่าพวกเขาแขนขาพิการเสียอีก อย่าพูดถึงเลยเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านดูสิเจ้าคะข้ามีอะไรมาฝากพวกท่านด้วย"หลี่ถิงถิงค่อยๆ เอามันเทศที่ห่อใบบัวมาให้หลี่ต้าจูและนางหวง ทั้งสองมองหน้ากันงงๆ ว่าบุตรสาวนำสิ่งใดมาให้"นี่คือมันเทศเจ้าค่ะ อร่อยมากพวกท่านลองกินสิเจ้าคะ มีฝักบัวด้วยเจ้าค่ะ""ถิงถิง..อะไรคือมันเทศนี่มันคือสิ่งใดกัน"หวงซื่อสงสัยสิ่งที่บุตรสาวนำมา"มันคือสิ่งที่เติบโตใต้ดินเจ้าค่ะ มีฝักบัวด้วยนะเจ้าคะหวานอร่อยมากเจ้าค่ะท่านแม่""อาซู่..สิ่งที่ลูกนำมาล้วนเพราะกตัญญูจะถามให้มากความทำไมกัน"หลี่ต้าจูเอ็นดูบุตรสาวจึงบอกแก่ภรรยาว่าอย่าไปคาดคั้นนาง"ท่านพ่อท่านแม่ นี้เป็นสิ่งที่พี่สี่หาเจอ และก็รู้ว่ามันกินได้เจ้าค่ะ อย่าบอกใครนะเจ้าคะ โดยเฉพาะท่านย่า""วางใจเถอะแม่กับพ่อรู้ดี ทุกวันนี้ก็ได
ซ่งจื่อหรูพยายามค้นหาความทรงจำของร่างเดิมไม่ให้ตกหล่น ในเมื่อนางต้องมาดูแลน้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่และคุณปู่แล้วนางจะต้องทำให้ดี ใจจริงนางอยากขึ้นเขามากกว่าแต่ตอนนี้เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว (15.00 - 16.59 น.)จากที่สำรวจตอนที่วิญญาณมาถึงนางเห็นของดีมากมาย แต่ใกล้ค่ำไม่อาจทิ้งน้องไว้ลำพังได้ ไม่รู้ว่าคนบ้านใหญ่รู้ว่านางฟื้นแล้วจะมาหาเรื่องอะไรอีกซ่งจื่อหรูมองรอบบริเวณบ้านรั้วนั่นต้องเร่งทำอย่างน้อยก็ป้องกันคนจากบ้านใหญ่มารังแกเด็กๆ และคนอื่นๆ ที่ไม่หวังดีอีก เถาวัลย์หลายขนาดเลื้อยพันไปมาที่นี่คือแคว้นต้าเหลียง หมู่บ้านที่นางอาศัยอยู่คือหมู่บ้านหลี่ซาน หมู่บ้านข้างๆ คือหมู่บ้านไป๋ซานและหมู่บ้านเถาซานตั้งอยู่ในตำบลซานสุยเมืองเสียนหยาง เมื่อสี่ปีก่อนท่านพ่อบาดเจ็บจากการล่าสัตว์ แม่เฒ่าหลี่ไม่อยากจ่ายค่ารักษาจึงถูกบังคับให้ต้องแยกบ้านและไม่ให้อะไรเลย แต่เพราะเกรงกลัวอำนาจของหลี่ฝูเหยาหลี่เจิ้งของหมู่บ้านอีกทั้งยังเป็นพี่สามีคนโตของนางเขาข่มขู่นางว่าจะส่งจดหมายหาหลี่ไหลฝูน้องชายให้หย่ากับนางซะหากนางไม่ยินยอม แม่เฒ่าหลี่จึงยอมให้หลี่ต้าซานได้กระท่อมหลัเก่าของบ้านหลี่ไปแต่หลังจากนั้นไม่นานเพ
ซ่งจื่อหรูใช้เทียนส่องดู เห็นมีตะเกียงอยู่ตรงมุมห้อง จึงเดินไปจุดตะเกียงที่อยู่ตามมุม จากนั้นในห้องก็สว่าง พบว่าภายในห้องใต้ดินนางพบเจอหีบเรียงราย ในนั้นมีเครื่องมือช่างมากมาย มีชั้นหนังสือและมีหนังสือหลายเล่ม ในยุคสมัยนี้เหล็กและหนังสือล้วนแต่มีราคาแพง มีผ้าหลายพัยอยู่ในหีบ แต่ไม่มีอาหารใดๆนอกจากเมล็ดพันธุ์บางชนิดไม่เห็นว่าบ้านนี้จะปลูกอะไรสักต้นแล้วจะมีเมล็ดพันธุ์ไว้ทำไมกัน เฮ้อ!!ซ่งจื่อหรูถอนหายใจ ไม่มีอะไรแลกเป็นเงินได้สักอย่างมีแค่ของเหล่านี้แต่ถึงกระนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่างไม้ธรรมดาคนนึงไม่น่าจะมีไว้ครอบครองได้ แต่เหตุใดท่านตาจึงทำตัวเหมือนคนยากจน จากนั้นก็สำรวจต่อค้นเจอสุราเหลืออยู่สองไห ซ่งจื่อหรูหยิบสุรามาหนึ่งไหเพื่อจะใช้เช็ดบริเวณบาดแผลที่ศรีษะ นางใช้ชามที่วางอยู่เอาสุรามาเช็ดทำความสะอาดจากนั้นก็รินสุราลงไปก่อนจะใช้ผ้าค่อยๆจุ่มสุรามาเช็ดแผลบริเวณศรีษะ ซ่งจื่อหรูเช็ดเลือดที่เกอะกรังออก ทำให้ปากแผลเปิดเลือดจึงซึมๆ ออกมา อย่างน้อยก็ฆ่าเชื้อ พรุ่งนี้หาทางขึ้นเขาสักครั้งเผื่อเจอสมุนไพรมารักษาได้บ้างหลังจากจัดการบาดแผลเสร็จก็ดับตะเกียงก่อนจะขึ้นมาจากห้องใต้ดิน ความรู้ส
ซ่งจื่อหรูหาไม้ง่ามมาได้สองอันก็ปักลงด้านบนปากหลุมทั้งสองฝั่งๆ ล่ะหนึ่งอัน เขี่ยกองฟืนให้เป็นถ่านแดงนำมันเทศวางลงไปพร้อมกลบถ่านจากนั้นนำปลามาวางบนไม้ง่ามค่อยๆ พลิกไปมา จนปลาย่างเริ่มส่งกลิ่น เกือบจะปลายยามเหมาแล้วเด็กสองคนถูกกลิ่นหอมของปลาย่างปลุกให้ตื่น ซ่งจื่อหรูนำมันเทศที่สุกแล้วกับปลาย่างวางบนใบบัวที่ตัดมาเมื่อวาน จากนั้นก็นำหม้อแตกครึ่งใบมาต้มน้ำซ่งจื่อเย่วได้กลิ่นจึงวิ่งมาหาพี่สาว"พี่ใหญ่..ท่านทำอะไรหอมจังเลยเจ้าค่ะ""พี่ย่างปลาน่ะ จื่อเย่วกับจื่อห่าวพับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วมาล้างหน้าพี่ต้มนำอุ่นให้แล้ว"แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแต่เนื่องจากอยู่ติดเชิงเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าที่อื่น เด็กๆพากันเก็บที่นอนพับผ้าห่มเก่าที่ถูกปะชุนจนหาสีเดิมไม่ได้ เอ๋มีผ้าห่มผืนใหม่ด้วย พี่ใหญ่คงเอามาจากใต้เตียงท่านตาแน่ๆ มิน่าเมื่อคืนนี้พวกเขาอุ่นมากแถมพี่ใหญ่ยังกอดพวกเขาอีกด้วยมือน้อยๆ ช่วยกันพับผ้า จากนั้นก็มาล้างหน้า ซ่งจื่อหรูนำหมั่นโถวสามลูกห่อใบบัววางอุ่นในหม้อแตก หม้ออีกใบถูกใช้ต้มน้ำดื่ม ซ่งจื่อหรูค่อยๆบิมันเทศและหมั่นโถวให้ซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็แกะเนื้อปลาให้น้องทั้งสอง เมื่ออิ่มแล้วจึงดับ
ทั้งคู่เดินมาเพียงครึ่งถ้วยชาก็ถึงตีนเขา มีรอยเท้าชาวบ้านที่มาหาของป่าเต็มไปหมด ซ่งจื่อหรูจึงหันมาพูดกับฮั่วเฟยหรง"ท่านพี่ฮั่ว พวกเราไปอีกด้านเถอะทางนี้คงไม่มีอะไรเหลือให้หาแล้ว"ซ่งจื่อหรูชักชวน"อืม"ฮั่วเฟยหรงเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินนำซ่งจื่อหรูไปอีกด้าน ซ่งจื่อหรูตัวเตี้ยกว่าจึงส่งมีดให้เขา เมื่อฮั่วเฟยหรงรับมีดมาฮั่วเฟยหรงก็ใช้มันฟันกิ่งไม้ที่ระเกะระกะพร้อมกับมองหาอาหารหรือผักป่าที่กินได้ เดินมาเกือบครึ่งชั่วยามก็ถึงบริเวณที่มีต้นไม้สูงสลับเตี้ย มีลูกหล่นอยู่บนพื้นลักษณะมีหนามแหลมหล่นอยู่ใต้ต้นและบนต้นอีกมากมาย มันคือต้นเกาลัดแม้ว่าล่วงหน้าจะรู้ว่าตรงนี้มีอะไร แต่ซ่งจื่อหรูก็เหนื่อยพอประมาณตอนที่สำรวจนั้นเป็นเพียงร่างวิญญาณ แต่พอตอนนี้ต้องเดินเท้าเข้ามากลับรู้สึกเหนื่อยยิ่งนัก ที่บ้านไม่มีข้าวสาร แต่เกาลัดสามารถต้มเป็นโจ๊กได้ ดูเหมือนพายุฤดูร้อนน่าจะอยู่อีกสองสามวัน หาเจอเห็ดให้มากหน่อยตากแห้งเอาไว้คงพอมีอาหารให้กิน ข้างบ้านมีลำธาร ปลามีไม่น้อยคนยุคนี้ไม่นิยมกินปลาเพราะมีกลิ่นคาว แต่นางกินได้แถมยังสามารถทำให้อร่อยด้วย"ท่านพี่ฮั่ว เรามาเก็บเกาลัดกันเถอะ""หนามแหลมเพียงนี้เจ้าจะเ
ทั้งสองคนเดินมาถึงกลางทางระหว่างท้ายหมู่บ้านก็เจอกับอาหญิงของนางหลี่อ้ายเสิ่นและบุตรสสวของลุงใหญ่หลี่ม่านอวี้ ทันทีที่เห็นซ่งจื่อหรู หลี่อ้ายเสิ่นก็เปิดปากด่าทอ แต่ละคำล้วนไม่น่าฟัง"นังเด็กเหลือขอไหนว่าใกล้ตายแล้วไง ทำไมยังออกมาลอยหน้าข้างนอกได้อีก"หลี่อ้ายเสิ่นเปิดปากก็ด่าทอซ่งจื่อหรู"น้องสี่ เจอกับท่านอาเล็กเจอกับข้าเหตุใดเจ้าจึงไม่ทำความเคารพ อีกทั้งยังเมินเฉย" หลี่ม่านอวี้ที่คอยเป็นลูกไล่ของหลี่อ้านเสิ่นต่อว่าซ่งจื่อหรูเช่นกันสองดรุณีน้องแต่งกายด้วยกระโปรงผ้าฝ้ายลายดอกสีชมพูคือหลี่อ้ายเสิ่น ส่วนชุดกระโปรงสีฟ้าคือหลี่ม่านอวี้ บนศรีษะปักด้วยดอกไม้เข้ากันกับชุด แม้ว่าหน้าตาไม่ถือว่าโดดเด่นแต่สำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นไม้งามซ่งจื่อหรูคร้านจะสนใจคนทั้งสองจึงเดินผ่านหน้าไป หลี่อ้ายเสิ่นเห็นคนที่เดินตามหลังซ่งจื่อหรู ก็ทนไม่ได้เห็นแล้วก็แทบจะเข้าไปฉีกอกซ่งจื่อหรูให้ขาดเป็นชิ้นๆ ฮั่วเฟยหรงนั้นเป็นหนุ่มรูปงาม สตรีในหมู่บ้านใครบ้างเห็นแล้วจะไม่หวั่นไหว บางคนถึงกับละเมอใฝ่ฝันหนึ่งในนั้นก็มีหลี่อ้ายเสิ่นอยู่ด้วย หลี่อ้ายเสิ่นอายุสิบสามอีกไม่กี่วันก็จะอายุสิบสี่ปีสามรถพูดคุ
เซี่ยหนานอินถูกเจ้าอาวาสลากไปเด็กสามคนจึงเป็นอิสระ ซ่งจื่อเย่ว ซ่งจื่อห่าวและจ้าวเฟยเซียนอยู่กับจางอวี้เซียน มีองครักษ์ของจวนเจ้าเมืองดูแล จิงอี้ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้หลี่อ้ายเสิ่น จนกว่าจะแต่งงานนางถูกหลี่ไหลฝูพาไปฟังธรรมด้านในด้วยเดินมาถึงหลังวัดส่วยเอี๊ยหลี่ม่านอวี้ก็นั่งลงบนก้อนหินกลางป่าท้อ"นั่งก่อนเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว"หลี่ม่านอวี้ถอนหายใจ"พี่สาม ท่านคิดอะไรอยู่ทำไมดูท่านทำหน้าสงสัยตลอดเวลา"ซ่งจื่อหรูเห็นสีหน้าพี่สามเหมือนท้อใจตอนที่จิงอี้เดินมาหาหลี่อ้ายเสิ่น"เมื่อคืนอาเขยไปหาอาเล็ก ตอนที่ท่านปู่ไปคุยเรื่องแต่งงานของนางที่บ้านปู่ใหญ่" หลี่ม่านอวี้พูดไปถอนหายใจไป"อาเขย เจ้าหมายถึงจิงอี้หรือ"จิงเสวียนถาม"เจ้าค่ะพี่จิงเสวียน เขาบอกให้ข้าเรียกเขาอย่างนั้น อาเขยนำปิ่นปักผมไปให้อาเล็ก ข้าบอกว่าเข้าไม่ได้ท่านปู่สั่งไว้ เขาก็อ้อนวอน ข้าจึงให้แค่แป๊บเดียว""จากนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้น ท่านปู่พี่จับได้หรือ" หูเจียวเจียวหูผึ่งก่อนมานั่งจะดักหน้าหลี่ม่านอวี้แล้วถามนาง" เปล่าหรอกเจียวเจียว ข้าให้เวลาอาเขยแค่ครึ่งเข่อ พอเห็นท่านปู่มาก็จะไปตามเขา แต่พอเปิดประตู ก็เห็นเขากัดปากอาเล็กอยู่ ริมฝีป
ถึงเวลาอาหาร วันนี้ทุกคนกินข้าวที่บ้านของซ่งจื่อหรู ฮั่วเฟยหย่งเอ่ยกับพวกเขา"เรื่องที่จิงอี้ทำนับว่าร้ายแรง แม้กฎเกณฑ์ต้าเหลียงไม่เข้มงวดตีกรอบเกินไป แต่นั่นคือทั้งชีวิตของสตรี พวกนางต้องเสียสละร่างกายคลอดบุตรให้เจ้า ต้องคอยดูแลบ้านช่อง หากต่อไปใครชิงสุกก่อนห่ามไม่เข้าออกตามธรรมเนียมข้าไม่เอาไว้แน่ จะรักใคร่นอกกายข้าไม่ว่า แต่ห้ามเลยเถิดจนกว่าจะเข้าหอ"ประโยคสุดท้ายเว้นไว้ให้เจ้าเด็กบ้าเฟยหรงนี่ หากไม่ให้ได้ชิมน้ำหวานเลยคงอกแตกตาย"พะย่ะค่ะ "ทุกคนรับคำพร้อมเพรียงจากนั้นก็กินข้าวต่อ หลังมื้อเย็นทุกคนรีบนอน เช้าต้องไปแต่เช้า ซ่งจื่อหรูอยากเข้าไปในมิตินึกถึงกรอบรูปที่อยู่ๆก็มาวางบนเตียง แต่พรุ่งนี้ต้องเดินทางเลยเว้นไปก่อนหลี่เหิงถือเสื่อเข้ามา แต่จ้าวเทียนเฟยบอกว่าพื้นนั้นเย็นเกินไป ให้ขึ้นมานอนด้วยกัน เขาลังเลอยู่พักใหญ่เกรงว่าจะไม่สมควร จ้าวเทียนเฟยบอกว่า ให้หลี่เหิงนอนด้านใน เวลาเขาทำธุระจะได้ปลุกง่ายหลี่เหิงได้นอนที่บ้านก็สบายใจหลับไม่รู้เรื่อง แม้กระทั่งถูกคนตัวโตเอาเปรียบเขาเกือบค่อนคืน ตื่นมาได้แต่งงคิดว่าตนเองถูกยุงหรือมดกัด แต่ทำไมพี่เทียนเฟยถึงไม่มีรอยอะไรเลยยามเหมาทุกคนตื
ลานบ้านหลี่ หลี่ไหลฝูยืนอยู่กำลังจะซัดฝ่ามืออกไป หลี่อ้ายเสิ่นวิ่งไปขวางเขาปกป้องจิงอี้ที่นอนกระอักเลือดอยู่ หลี่ต้าโจวกับหลี่ต้าจูถูกบิดาโยนไปคนละทิศละทาง"ท่านลุงหลี่ค่อยพูดเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกัน จิงอี้เจ้าว่ามาสิ"จ้าวเฟยหย่งไกล่เกลี่ย จิงอี้พยุงตัวเองขึ้นหลี่ไหลฝูวรยุทธไม่เลวเลย เทียบกับท่านอ๋องเขาสูสีทีเดียว ใครจะรู้ช่างไม้หมู่บ้านกันดารจะมีฝีมือขนาดนี้"นายท่าน ข้าต้องการแต่งงานกับอ้ายเสิ่น แต่ผู้เฒ่าหลี่ไม่ยอมขอรับ""นางยังไม่ถึงวัยปักปิ่นด้วยซ้ำ อีกตั้งครึ่งเดือน เจ้ารอวันนั้นค่อยพูดคุยไม่ได้หรือไง" จิงเสวียนดุน้องชาย"พี่ใหญ่ข้ารอไม่ได้หรอก อ้ายเสิ่นนางก็รอไม่ได้ด้วยหากจิงอี้น้อยรอไม่ไหวจะทำไง ข้ากับนางเอ่อ ป่านนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยในท้องนางเกิดหรือยังอาจเกิดแล้วมั้ง"หลี่ไหลฝูซัดฝ่ามือใส่จิงอี้ด้วยความโมโห จ้าวเทียนหยางที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตอนไหนสกัดฝ่ามือเขาจนไปปะทะต้นไม้ในบ้านหักโค่นลงมาจิวเสวียนหอบหายใจด้วยความโมโหที่นี่ไม่มีคนอื่นเขาจึงเค้นฟันพูดกับน้องชาย"หานจิงอี้ ไอ้เด็กสารเลวหากเป็นชาวบ้านจะไปอะไรลับล่อๆก็ยังพอทน แต่เจ้าเป็นใคร ท่านลุงรู้เรื่องนี้จะว่าอย่างไรหรือต
ห้องรับรองตำบลซานสุ่ย มีเซี่ยหนานอินนั่งอยู่ด้านบน เซี่ยอวิ๋นนั่งอยู่ซ้ายมือด้านข้าง ถัดไปคือมีกังฉินนายอำเภอ เจ้ากรมโยธา หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา ด้านขวามีซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหย่ง จ้าวเฟยเหรงนั่งอยู่ แผนที่เมืองของมณฑลกว่างผิงถูกกางออกบนโต๊ะ เผยให้เห็นเส้นทางน้ำขนาดใหญ่น้อย ซ่งจื่อหรูใช้พู่กันกากบาทจุดที่เรือควรจอดแวะ จึงได้ทั้งหมด ห้าท่าเรือ“หากสร้างท่าเรือตามนี้จะใช้เวลานานเท่าใด” เซี่ยหนานอินถามขึ้น“ใต้เท้างบประมาณคือเงินส่วนตัวของท่านเพียงแค่แปดหมื่นตำลึงจะสร้างพร้อมกันไม่ได้เจ้าค่ะ มีท่าเรือก็ต้องมีที่พักท่านลองออกประกาศหานายทุนเชื่อข้าสิว่าต้องมีคนร่วมลงทุนแน่ๆ”“นายทุนคือสิ่งใดอาหรู แล้วพวกเขาจะยอมให้เงินแก่เราหรือ”จ้าวเฟยหย่งไม่เข้าใจสิ่งที่นาพูดซ่งจื่อหรูจึงอธิบาย“ท่านอาฮั่ว นายทุนคือคนที่ออกเงินให้เรา ก่อน ท่านเจ้ากรมท่านคำนวนที่ดินจากริมฝั่งออกมา ปล่อยเช่าที่ดินให้คนที่ต้องการทำโรงเตี๊ยมและร้านค้าต่างๆเช่าค้าขาย ทำสัญญาระยะยาวสิบปีต่อสัญญาทุกๆสามปี จ่ายค่าเช่ารายเดือน เก็บมัดจำครึ่งหนึ่ง สร้างใกล้เสร็จเก็บส่วนที่เหลือ หากไม่จ่ายภายในเวลาที่กำหนดถือว่าผิดสัญญา จากนั้นให้ปล่อย
อาหารเสร็จแล้ว เด็กๆถูกองค์ชายห้าพาไปเล่นบนเขาแต่เช้าแล้ว ลูกเสือขาวนอนหลับลุงใหญ่ถามนางว่าเจ้าของแพะถามว่านางรับซื้อหรือไม่ เขาต้องการเงินเป็นค่าสินสอดให้บุตรชาย นางมีเงินจากการขายหมูคราวก่อนหากจะใช้ก็ไม่แปลก จึงตกลงซื้อแพะสองตัวและวัวสามตัวจากบ้านท่านป้าคนนั้น หลังเตรียมอาหารเสร็จเด็กๆกลับมาแล้ว เซียวอวี้หรานกำลังจับล้างหน้าล้างตาเพื่อมานั่งกินข้าว หลี่ไหลฝูเดินมาหา ซ่งจื่อหรูจัดโต๊ะนอกบ้าน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านปู่ เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ" ซ่งจื่อหรูเดินไปคล้องแขนชายชรามานั่ง"อรุณสวัสดิ์ท่านปู่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเจ้าค่ะ/ขอบรับ"ซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวก็ลุกขึ้นคำนับเช่นกันจ้าวเทียนเฟยเอ่ยทักทาย หลี่ไหลฝูมองออกว่าครอบครัวฮั่วเฟยหย่งไม่ใช่คนธรรมดา จึงไม่คิดถือสาเรื่องมารยาท"วันนี้ปู่จะเรียกชาวบ้านมาคุย เรื่องว่าต้องขึ้นเขาใช้ไม้ชนิดใดสร้างสะพาน ช่วงบ่ายจะไปตำบล วาดโครงสร้างท่าเรือ เจ้าเองก็สามารถวางค่ายกลทำงานช่างได้ ก็ไปด้วยกันหลายคนจะได้ช่วยกันคิด"หลี่ไหลฝูบอกหลานสาว"ก็ดีเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นช่วงเช้าก็แบ่งงานในหมู่บ้านก่อน ช่วงบ่ายค่อยเข้าตำบล อ้อท่านอาฮั่วมาพอดี"ซ่งจื่อห
ทุกคนกินอาหารพูดคุยกันหลี่อ้ายเสิ่นที่ตนเองไม่มีผู้ใดสนทนาด้วยจึงลุกออกจากลานต้นไหวเดินกลับบ้าน เผอิญสวนกับจ้าวเฟยหรงจึงทักทายเขาจ้าวเฟยหรงแค่เพียงพยักหน้า เท้าของหลี่อ้ายเสิ่นหนักอึ้งนางผิดหรือที่เกิดเป็นบุตรสาวของหญิงผู้นั้นทุกคนไม่สนใจนางแล้วนางจะหน้าด้านอยู่ทำไม อยู่ๆก็มีมือแข็งแกร่งมากระชากนางลากไป รู้อีกที่นางก็ติดอยู่กับกำแพงในบ้าน จิงอี้มองหน้านาง"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าห้ามยุ่งกับคุณชายข้าหรือที่ข้าเตือนเจ้าไม่คิดฟัง"จิงอี้กดหลี่อ้ายเสิ่นกับกำแพง"ข้าแค่บังเอิญเจอเขา แล้วอย่างไรหากข้าอยากคุยแล้วทำไม หากเขาชอบข้าแล้วอย่างไรท่านมีสิทธ์อะไร"หลี่อ้ายเสิ่นโมโหคนตรงหน้า"เจ้าไม่คู่ควรกับเขา เจ้าอย่าใฝ่สูงเกินไปนัก"เพี๊ยะหลี่อ้ายเสิ่นสะบัดหลุดออดมาก่อนจะตบหน้าจิงอี้จนหันทันที"ข้าคู่ควรหรือไม่ก็ให้เขาตัดสินใจ ไม่ใช่เจ้ามาข่มขู่ข้า อื้อๆๆๆๆ"จิงอี้ไม่ปล่อยให้นางพูดจบเขาก้มลงประกบปปากนาง หลี่อ้ายเสิ่นใช้มือสองข้าทุบตีผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล จิงอี้ปล่อยนางก่อนจะมองจ้องหน้า"วันหลังจำให้ดี ข้าไม่ได้ขู่เจ้า"" จิงอี้ ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า คนสารเลวเจ้าว่าข้าเป็นลูกหญิงแพศยาแล้วเจ้าเล่า เอา
ภรรยาของคนเหล่านั้นไม่เต็มใจที่จะมาหมู่บ้านกันดารแต่เพราะขัดสามีตนเองไม่ได้ ทุกคนนั่งลงหลี่ฝูเหยากล่าวเริ่มงานเลี้ยง อาหารตรงหน้าทำให้สตรีทั้งหลายไม่กล้ากินแม้แต่บรรดาอาจารย์ในสำนักศึกษาก็ลังเล ยกเว้นกัวฉิน เซี่ยหนานอิน และอู๋จี๋ พวกเขาเคยได้ทานพวกมันแล้วจึงรู้ว่าอร่อยไม่นานนักก็มีรถม้ามาเพิ่มอีกสามคัน จางอวี้เซียนก้าวลงมา ตามด้วยจินเหนียงและบุตรสาว คันที่สองคือจางต้าหู่ คันสุดท้ายเถ้าแก่เหลียง ซ่งจื่อหรูเข้าไปทักทายพวกเขา"สวัสดีเจ้าค่ะท่านอาจาง ท่านลุงเหลียง พี่จินเหนียง พี่อวี้เซียน ข้าเตรียมโต๊ะไว้ให้พวกท่านแล้ว"เซี่ยหนานอินเห็นสตรีที่เดินตามซ่งจื่อหรูมาก็จำได้นางคือคนที่เขียนจดหมายร้องเรียนขอหย่าบิดาแทนมารดา เพื่อทวงสินเดิมที่ถูกยึดไปกลับคืน เนื่องจากบิดาแต่งอนุโดยที่ภรรยาเอกไม่เห็นชอบ" นี่คือผู้นำทั้งสามหมู่บ้านที่เราจะร่วมมือกันเจ้าค่ะ ส่วนนี่คือท่านปู่ของข้าหลี่ไหลฝู ทุกท่านพวกเขาคือเถ้าแก่ที่ข้าต้องการให้เป็นคนกระจายสินค้าของพวกกเราในอนาคต เถ้าแก่ร้านท่านนี้คือจินเหนียงแห่งร้านจินปู่เตี้ยน นี่คือเถ้าแก่จางแห่งร้านหนึ่งในใต้หล้าจางอวี้เซียน เถ้าเแก่เหลียงเว่ยแห่งร้านธัญพืช
หลี่เหิงกลับมาแล้ว หลี่ม่านอวี้หลี่อ้ายเสิ่นและบรรดาท่านป้าในหมู่บ้านมาช่วยงานที่บ้านของซ่งจื่อหรู เหล่าบุรุษทั้งหลายถูกสั่งให้ไปนำหญ้าเหมันต์ลงปลูก เกาฟ่านกับเกาหม่ารับคำสั่งให้ไปติดต่อกับเกาหยวนเพื่อซื้อข่าวจากหอฮวาเซียงจ้าวเทียนเฟยออกมานั่ง เขาอมยิ้มทันทีที่มองเห็นหนุ่มน้อยคนเมื่อเช้ากำลังช่วยน้องสาวและเหล่าบรรดาสตรีทั้งหลายที่วุ่นวายอยู่หน้าเห็นตาคอยฟังคำสั่งซ่งจื่อหรู ว่าอาหารชนิดไหนทำเช่นไร มีหน่อไม้เส้น มีหน่อไม้ดอง รากบัว กุ้งมังกรน้อย มีหอยขม ที่เด็กๆช่วยกันจับแต่เช้าเห็ดสนที่ให้เด็กๆขึ้นเขาชิงลั่วไปหามา นางทำปลาเปรี้ยวหวาน สามชั้นต้มหน่อไม้แห้ง หอยขมผัดพริกหมาล่า กุ้งมังกรอบน้ำมันพริก รากบัวต้มกระดูกหมู หน่อไม้ดองต้มปลา หน่อไม้ดองผัดเครื่องในไก่ ไก่ขอทาน เครื่องในหมูพะโล้ และสามชั้นตุ๋นผักกาดอง ของหวานคือผลบัวหิมะ และผูเถาที่นางเอาออกมาจากมิติ แต่ทำทีว่าเก็บมาจากต้นที่ปลูก เนื่องจากติดลูกดกมากจึงไม่มีใครสงสัยกุหลาบนางแอบเอาไปตากในมิติตอนนี้สามารถชงชาได้แล้ว มีเกษรดอกบัว ชาดีบัว ของเหล่านี้ต้องให้พวกเขาลิ้มลอง หากต้องการเปิดตลาดในต้าเหลียงต้องอาศัยปากต่อปาก ยุคนี้ไม่มีโซลเ
บ้านเชิงเขาซ่งจื่อหรูทำอาหารเสร็จแล้ววันนี้มีอาหารไม่มากเพราะต้องจัดงานเลี้ยง เห็นจิงเสวียนเดินมารับสำรับจึงหาจังหวะเอ่ยถามสิ่งที่ต้องการ"พี่จิงเสวียน ตอนที่ข้าไม่อยู่นอกจากจางอวิ๋นคนนั้นยังมีใครมาที่นี่บ้าง"" นอกจากจางอวิ่นยังมีอีกสามคนที่เหลือน่าจะเป็นคนติดตาม มีอะไรหรือเปล่า" จิงเสวียนถามนางกลับซ่งจื่อหรูส่ายหน้า"ไม่มีอะไร ี่จิงเสวียนข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วยแต่เรื่องนี้แม้แต่พี่หรงก็ห้ามรู้ ท่านรับปากข้าได้หรือไม่"จิงเสวียนพยักหน้าเขารับสำรับอาหารไป จ้าวเทียนหยางโดดเข้ามา พร้อมมองหาน้องๆตัวน้อย เขาจะพาเด็กพวกนี้ไปเล่นบนเขา จ้าวเทียนหยางมาถึงก็เรียกหาเด็กทั้งสอง"แม่นางน้อย เซียนเอ๋อร์กับจื่อเย่วตื่นหรือยัง""คงกำลังพับพ้าห่มอยู่กระมัง ท่านมีอะไร"ซ่งจื่อหรูยังเอ่ยไม่จบจ้าวเทียนหยางก็หายไปในห้องครู่เดียวก็อุ้มเด็กน้อยสองคนออกมามีซ่งจื่อห่าวขี่หลังอีกคน ใช้วิชาตัวเบาพาเหินไปบนเขาซ่งจื่อหรูร้องห้ามแต่ไม่ทัน ฉินลู่ที่เพิ่งกลับมาต้องรีบตามไป องค์ชายนะองค์ชายก็รู้ว่านางหวงน้องๆเพียงใด โรคเก่าของท่านกำเริบหรือไงนะ" อาหรู หยางเอ๋อร์กัยเฟยเอ๋อร์มักชอบเล่นกับเด็กๆลูกของบ่าวในจวนเสมอ