แชร์

บทที่ 30 ไม่รู้จักผู้ใด

ผู้เขียน: ซูเมิ่ง 淑梦
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-12 20:23:45

จวนอ๋องวุ่นวายกับการเตรียมงานฉลองวันเกิดให้กับพระชายารอง เจียฮุ่ยกำชับการจัดแต่งสวนให้โออ่าสมฐานะพระชายาจวนชินอ๋อง ของใช้ภายในงานถูกซื้อเตรียมใหม่ทั้งหมด หยางหมิงจ่ายเงินถึงห้าร้อยตำลึงเพื่อให้เสวี่ยหนิงพอใจกับงานวันเกิด ถือเป็นการไถ่โทษที่เทศกาลหยวนเซียวเขาละเลยนาง

“พระชายาเพค่ะ ตำหนักตะวันออกกำลังเตรียมพิธีร่วมอวยพรวันประสูติชายารอง แล้วตำหนักเราไม่เตรียมบ้างหรือเพคะ” อี้เฉาถามอย่างสงสัย

“ไม่ล่ะ แค่พวกเจ้าร่วมอวยพรก็พอ อยู่นี่เราไม่รู้จักใคร” ลี่อินยังคงนิ่งเฉยอ่านบัญชีร้านเงียบ ๆ

“เช่นนั้นคนเขาจะไม่หัวเราะเยาะเอาหรือ องค์หญิงเป็นถึงชายาเอกแต่ถูกชายารองกดให้จมดิน” อี้เฉาเป็นกังวลแทน

“หากข้ามัวแต่สนใจคำพูดคนอื่น คงสิ้นใจตายไปตั้งแต่แคว้นฉีแล้ว คนอื่นจะว่าอย่าไรก็ปล่อยให้ว่าไปข้ารู้ตัวของข้าเองก็พอแล้ว”

“เพคะ” อี้เฉาได้แต่ถอนหายใจให้กับความเรียบง่ายของเจ้านาย จนทำให้ผู้อื่นใช้เป็นจุดอ่อนคอยกลั่นแกล้ง

“พระชายาเอก หม่อมฉันเจียฮุ่ยขอเข้าเฝ้าเพคะ” เจียฮุ่ยยืนถือเทียบเชิญ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 31 ของขวัญ

    วันนี้ตำหนักเล็กดูวุ่นวายเล็กน้อย แม้ลี่อินบอกจะไม่จัดงานอวยพรวันเกิด หากแต่เหล่านางกำนัลในตำหนักก็ยังอยากมีงานเลี้ยงเล็ก ๆ ให้กับนาง จึงต่างพากันตระเตรียมอาหารในห้องโถงล้วนแต่เป็นอาหารที่นางชอบ เมื่อลี่อินเดินเข้ามายังห้องโถงเหล่านางกำนัลต่างยอบกายกล่าวอวยพร “ขอพระชายาสุขสำราญ พระพลานามัยแข็งแรงเพคะ” นางยิ้มพอใจกับการจัดงานแสนเรียบร่างนี้ อี้หนิงเดินถือตุ๊กตาไม้ของตนเองมาให้นางคล้ายอยากมอบให้เป็นของขวัญ ลี่อินอุ้มเด็กน้อยวัยขวบครึ่งไว้ในอ้อมแขน “อี้เอ๋อร์ก็อยากมอบของขวัญให้น้าหรือ” นางหยอกเย้าเด็กน้อยก่อนจะก้มลงหอมแก้มนุ่มนิ่มของหลานสาว “ขอบใจทุกคนที่อวยพรวันเกิดข้า เช่นนั้นวันนี้เพื่อฉลองวันเกิดมอบเงินสิบตำลึงสำหรับทุกคน” เหล่านางกำนัลต่างยิ้มกว้าง เงินสิบตำลึงหากส่งกลับบ้านสามารถใช้ได้อย่างน้อยก็สองเดือน “ขอบพระทัยพระชายา” “ไปรับเงินที่ปิงเซียงเถิด” สิ้นเสียงพระชายา เหล่านางกำนัลต่างรีบถอยออกจากห้องโถง แม้ว่าอาหารทุกจานล้วนเป็นสิ่งที่นางชอบ หากแต่งานฉลอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 32 คาดคั้น

    ร้านประทินโฉมหมื่นบุปผาบัดนี้เชื่อเสียงโด่งดัง แม้แต่เหล่าคุณหนูต่างเมืองยังดั้นด้นมาเลือกซื้อด้วยตนเอง ดีที่ยังมีบุปผาแห้งของจื้อหาวมาช่วยเติมคลังสินค้า มิเช่นนั้นหากอาศัยแต่ดอกไม้ในเมืองจิงโจวคงมิอาจพอขายแน่ ระหว่างที่ลี่อินกำลังดูบัญชีร้านปิงเซียงที่ควรอยู่ดูแลอี้หนิงกลับวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา “เกิดอะไรขึ้น?” ยังไม่ทันให้ปิงเซียงจะได้กล่าวสิ่งใด ลี่อินก็ถามขึ้นด้วยความกระวนกระวายใจ “ท่านหญิง! ท่านหญิงหายไปเพคะ” ปิงเซียงน้ำตาอาบแก้มเอ่ยเสียงสั่นเครือ ลี่อินคล้ายล่องลอยในความฝัน สิ่งที่นางได้ยินจากปิงเซียงทำให้เกิดเสียงอื้ออึงในหัว “กลับจวน!” ลี่อินบัดนี้สั่นกลัวทั้งร่าง หัวใจนางคล้ายหยุดเต้น กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังรถม้า “นางหายไปได้อย่างไร” ระหว่างรถม้ากำลังวิ่งกำจวนอย่างสุดกำลัง ลี่อินจึงซักไซ้ปิงเซียงในทันที “ท่านหญิงเดินเล่นในสวน จู่ ๆ มีนางกำนัลแจ้งว่าท่านอ๋องต้องการพบ หม่อมฉันจึงอุ้มนางเดินตรงไปตำหนักท่านอ๋อง แต่กลับถูกคนใช้ยาสลบปิดจมูกจนหม่อมฉันสลบไป เมื่อตื่นขึ้นมาท่านหญิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 33 สืบหาความจริง

    ลี่อินอุ้มปลอบอี้หนิงเพียงครู่ เด็กน้อยก็หลับลงเพราะความอ่อนล้าก่อนที่ร่างน้อยจะถูกวางบนเตียงนอนอย่างเบามือ เพียงครู่ที่เสียงทุ้มต่ำด้านหลังก็ดังขึ้น “ข้าตามหมอหลวงมาแล้ว ให้ท่านหมอดูแผลหน่อยเถอะ” หยางหมิงที่ตามนางมาตั้งแต่เกิดเรื่อง ยืนมองอย่างห่วงใย “ไม่จำเป็นหรอกเพคะ แผลเล็กเพียงนี้หม่อมฉันจัดการเองได้” ลี่อินไม่หันมามองบุรุษที่สนทนาด้วย พลางห่มผ้าให้อี้หนิง “เช่นนั้นให้ข้าทำเอง” เขาไม่ยอมให้นางปฏิเสธ “หม่อมฉะ........”ยังไม่ทันที่ลี่อินจะกล่าวจบ สองมือของหยางหมิงก็เข้าเกาะกุมไหล่ของนาง ก่อนบังคับสตรีเบื้องหน้าหันมาจ้องมองตน แววตากังวลมองบาดแผลบนหน้าผากของนาง แม้บาดเลือดจะหยุดไหลแล้วแต่แผลก็ไม่ได้เล็กนัก “ข้าจะทำแผลให้ หากทิ้งไว้จะเป็นแผลเป็นได้” “หม่อมฉันทำเองได้” ลี่อินออกแรงขัดขืนเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา หากแต่มือแกร่งแทบไม่กระดิกด้วยซ้ำ “อย่าดิ้น ข้าช่วยทำแผลแล้วจะรีบออกไปไม่กวนเจ้าอีก”คำพูดของหยางหมิงทำให้ลี่อินหยุดขัดขืน แลนั่งลงให้ทำแผลโดยดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 34 ถูกวางยา

    ปิงเซียงกลับมาจากร้านเหอชุนด้วยสีหน้ารีบร้อน ก่อนจะรีบแจ้งสิ่งที่ได้สอบถามมา “ทูลพระชายา ร้านเหอชุนบอกยาบำรุงผิวของร้านมิได้มีส่วนผสมของตัวยาใดที่จะทำให้ผู้ดื่มยารู้สึกอยากร่วมรักเพคะ” ปิงเซียงยื่นห่อยาให้กับลี่อิน “ดี! หากตรวจห่อยานี้ก็จะรู้ เสียดายที่ผ่านมานานยาที่เสด็จพี่เคยกินก็มิมีให้นำมาเทียบกัน” นางพึมพำเสียดาย “มีเพคะ!”ปิงเซียงที่ครุ่นคิดอยู่นานจำได้ว่าตนเคยแอบนำยาส่วนหนึ่งไปฝัง เพราะมิอยากให้องค์หญิงใหญ่ทรงเสวยอีก ตอนนั้นนางคิดว่ายานี่ไม่ได้ช่วยให้ผิวขององค์หญิงใหญ่ดีขึ้น หากแต่เกรงว่าจะทำให้ท่านหญิงที่ยังอยู่ในครรภ์ได้รับพิษจากยาไปด้วย แต่กระนั้นนางยังให้นางกำนัลไปนำมาให้ใหม่อยู่ดี “เจ้าไปนำมา แล้วเอาไปให้โรงหมอในเมืองตรวจดูว่าตัวยาเหมือนกันหรือไม่” “เพคะ” ปิงเซียงรับคำ “จำไว้ อย่าเปิดเผยตัวตน” นางเกรงว่าหากเป็นการวางยาจะทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังรู้ตัวตลอดทั้งวันลี่อินจดจ่อกับเรื่องที่ให้ปิงเซียงไปจัดการ แม้แต่อาหารที่อี้เฉาขึ้นโต๊ะไว้นางก็มิแตะต้อง ดีที่อี้หนิงเป็นเด็กดีไม่กวนนางเพีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 35 นอนร่วมห้อง

    “เป็นอย่างไรบ้าง” หยางหมิงที่บัดนี้ใบหน้ากลับมาเรียบเฉยอีกครั้ง เอ่ยถามเมื่อเห็นนางเดินกลับมา “มีห้องพักเพียงห้องเดียวเพคะ” ลี่อินทำหน้าเศร้า ต่างจากบุรุษเบื้องหน้าที่แทบกลั้นความพอใจไว้ไม่อยู่ “เช่นนั้นองค์ชายกลับไปพักที่กระโจมในกองทัพดีหรือไม่” นางเสนอทางออกของเรื่องนี้ “กระโจมห่างออกไปตั้งไกล แล้วหากข้าไปใครจะคุ้มกันเจ้า เย่นจินพาเหล่าทหารกลับกองทัพไปแล้วด้วย” หยางหมิงหาข้ออ้างอย่างสมเหตุสมผล “แล้วเช่นนั้นท่านอ๋องจะพักที่ไหน” “ก็ห้องเดียวกับเจ้าไง” หยางหมิงตอบหน้าตาเฉย “ได้อย่างไรกัน มันไม่เหมาะสม” ลี่อินไม่ยินยอม “ข้าเป็นสามีเจ้า มีสิ่งใดไม่เหมาะสม” หยางหมิงเตือนสตินาง “แต่ว่า...” “ไม่ต้องกล่าวแล้ว วางใจได้ข้าไม่ใช้กำลังขืนใจเจ้าแน่” คำพูดของหยางหมิงทำนางหน้าแดงด้วยความกระดากอาย หากแต่ผู้พูดกลับไม่รู้สึกเช่นเดียวกับนาง กลับกันเขาพอใจที่จะเห็นใบหน้าขวยเขินนั้นมากกว่า ห้องพักของโรงเตี๊ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 36 อยุติธรรม

    หลังจากกลับจากจิงโจวลี่อินกลับไม่ได้พบหน้าหยางหมิงอีก เนื่องด้วยชินอ๋องผู้รักมั่นจำต้องอยู่เป็นเพื่อนเสวี่ยหนิงที่เศร้าเสียใจจากการถูกละเลยจากสวามี ด้านตำหนักเล็กคนของสำนักคุ้มกันขอเข้าเฝ้าลี่อินรายงานเรื่องที่ให้ไปสืบ ทว่าคนของสำนักคุ้มภัยเข้าไปในตำหนักเล็กไม่นานเย่จินก็เข้าไปรายงานหยางหมิงเช่นกัน “ทูลพระชายาพบคนวางเพลิงโรงผลิตเครื่องประทินโฉมแล้ว และชายผู้นั้นยังเป็นคนเดียวกับคนที่พาท่านหญิงอี้หนิงมาส่งที่หน้าจวน” สิ่งที่ได้ยินไม่เกินจากสิ่งที่นางคาด เรื่องราวทั้งสองเกิดในเวลาไล่เลี่ยกันเช่นนี้ ย่อมมีคนจงใจทำให้นางลำบากแน่ “รู้ตัวคงบงการหรือไม่” ลี่อินถามเสียงเย็น “คนร้ายไม่รู้จักคนจ้างวาน แต่ภาพที่พระชายาให้ไปชายผู้นั้นชี้มายังสตรีในภาพนี้” คนของสำนักคุ้มภัยยื่นภาพนั้นให้นางดู ลี่อินรับภาพเหมือนนั้น ภาพเหมือนของคนต้องสงสัยทั้งหมดที่นางพอจะคิดได้ถูกนักวาดวาดขึ้นเพื่อใช้ชี้ตัวคนร้าย แม้แต่หยางหมิงเองก็ไม่เว้น หากแต่ภาพที่คนร้ายเลือกกลับเป็นเจียฮุ่ย นางกำนัลของเสวี่ยหนิง “ดีนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-14
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 37 กบฏเผยอี้

    หลังจากเหตุการณ์ครานั้น เสวี่ยหนิงก็ไม่มายุ่งวุ่นวายกับลี่อิงอีกเช่นเดียวกับหยางหมิงที่ไม่ข้องแวะกับตำหนักเล็กนับจากนั้นมา นั้นจึงทำให้ลี่อินรู้สึกสงบใจลงได้บ้างวันเฉลิมพระชนมายุของฮ่องเต้เหว่ยเฉียงใกล้มาถึง ภายในภายนอกวังต่างแต่งแต้มสีสันให้สดใส หากแต่กลับมีแม่ทัพนายกองไม่น้อยแวะเข้าออกจวนอ๋องทั้งกลางวันและยามราตรี ลี่อินรู้สึกแปลกใจการกระทำเช่นนี้มิคล้ายเป็นช่วงเตรียมงานพระราชพิธี แต่คล้ายการเตรียมการรบเสียมากกว่า “พระชายาท่านอ๋องเรียกพบพ่ะย่ะค่ะ” เย่จินมาเยือนตำหนักเล็กยามวิกาล บ่งบอกว่าเรื่องที่เขาต้องการพบสำคัญไม่น้อยในห้องอักษรเพียงไม่กี่วันถูกเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นห้องบัญชาการทัพเสียแล้ว แผนที่วังหลวงถูกกางออกให้เห็นเด่นชัด หมากแทนแต่ละกองกำลังถูกจำลองลงในแผนที่ของซู่โจว เหมือนทั้งเมืองกำลังจะเกิดดั่งเช่นว่าเมืองนี้จะเกิดศึกอีกเพียงไม่กี่วัน “ท่านอ๋องเรียกหาหม่อมฉันมีอะไรจะรับสั่งเพคะ” “คืนพรุ่งนี้งานเฉลิมพระชนมายุฮ่องเต้ จะเกิดศึกขึ้นภายในวัง” หยางหมิงที่กำลังจ้องมองแผนที่อยู่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เกิดศึก! ศึกใดกันเพคะที่จะเกิดขึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-14
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 38 ให้เลือก

    เผยอี้พร้อมทหารติดตามที่เหลือไม่ถึงร้อยนายเร่งรีบออกนอกวัง หากแต่ถูกกองกำลังมังกรดำปิดล้อมประตูวังไว้ จำต้องถอยร่นขึ้นไปยังกำแพงวังแทน “เจ้ายอมแพ้ซะ อย่างไรเสียเจ้าก็ไม่รอดแล้ว” หยางหมิงตามติดไม่เว้นระยะห่าง “ข้าบอกเจ้าแล้วแม้ตายก็จะนำชายาของเจ้าไปด้วย เช่นนั้นเอาอย่างนี้เถิดหยางหมิง ข้าจะให้เจ้าได้หนึ่งคนเจ้าจะเลือกใคร” เผยอี้ที่ไร้หนทางใช้ลี่อินและเสวี่ยหนิงถ่วงเวลา หยางหมิงเมื่อได้ยินเช่นนั้นกลับขมวดคิ้วแน่น ในใจเขาเลือกได้ไม่อยากเลย หากแต่เพื่อให้ทั้งสองปลอดภัยเขาจำเป็นต้องเลือกให้ฉลาด “เจ้าว่าข้าควรเลือกใครดีเล่า สตรีที่ข้ารักหรือพระธิดาคนสุดท้ายของฮองเฮาแคว้นฉี” ชินอ๋องก่อกวนสมาธิของเผยอี้ “หึ! น่าสงสารองค์หญิงลี่อิน รูปโฉมงดงามปานนี้สามีกลับไม่รักใคร่” เผยอี้ยิ้มเยาะ หากแต่สายตาเป็นห่วงของหยางหมิงกลับจ้องมองลี่อินตลอดเวลา “เช่นนั้นก็ปล่อยชายาของข้ามา” หยางหมิงชี้ดาบไปยังเผยอี้ด้วยแววตาอาฆาต “ได้ เช่นนั้นเจ้าก็รับไปเถอะ” เผยอี้ผลักเสวี่ยหนิงออกไป โดยท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-14

บทล่าสุด

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   ตอนพิเศษ ชีวิตเรียบง่าย

    สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดปลิวไหว ม่านรถม้าสะบัดไปมาตามแรงลม เด็กชายวัยสองขวบเล่นซนบนรถม้าโดยไม่เหน็ดเหนื่อย “ถานจุนเฟิง หยุดเล่นได้แล้วตอนนี้จะถึงจวนแล้ว” ลี่อินที่กำลังอ่านบัญชีร้านกล่าวกับโอรสของตน “จุนเฟิงมาหาพ่อ ท่านแม่กำลังคร่ำเคร่ง” หยางหมิงเรียกลูกชายมาหา บัดนี้เขาสิ้นคราบชิงอ๋องผู้บ้าคลั่ง กลายเป็นพ่อค้าธรรมดาเท่านั้น “จื้อหาวบอกว่า ดินแดนทางตอนเหนือของแคว้นหานมีดอกไม้กลิ่นหอมมากมาย แลไข่มุกก็ราคาถูกฮูหยินสนใจหรือไม่” หยางหมิงเอ่ยถึงสหายเก่าที่หลังจากสำนึกตนมาสองปี จึงติดต่อหาเขาอีกครั้ง “สนใจสิเพคะ ท่านพี่แจ้งโหวน้อยด้วยว่าหลังจากงานเฉลิมฉลองการก่อตั้งแคว้นเว่ย เราจะเดินทางไปเจรจาราคาอีกครั้ง” ลี่อินยิ้มกว้างนางดีใจทุกครั้งหากสามารถหาวัตถุดิบราคาถูกและดีได้ “ของขวัญอี้หนิงครบสี่ปีจะให้สิ่งใดนางดีเพคะ” ลี่อินขอความเห็นกับหยางหมิง “เช่นนั้นมอบร้านขายอัญมณีในเมืองเถียนชิง พร้อมกับเงินอีกหมื่นตำลึงให้นางดีหรือไม่ โตขึ้นมานางจะได้เป็นสตรีที่ร่ำรวยที่สุดในแค้นฉี ไม่มีผู

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   ตอนพิเศษ อวดชายา

    ใกล้พิธีอภิเษกสมรสของฉินตงหยาง หยางหมิงพาลี่อิงเข้าวังหลวงเพื่อขอพระราชทานอนุญาตร่วมพิธีอภิเษกสมรส “ทูลเสด็จพ่อ เสด็จแม่ กระหม่อมและพระชายามาขอให้ทั้งสองพระองค์พระราชทานอนุญาตเข้าร่วมงานอภิเษกสมรสของรัชทายาทแคว้นหานพ่ะย่ะค่ะ” “กำลังตั้งครรภ์จะเดินทางไกลได้อย่างไร ให้เพียงหยางหมิงไปก็พอ ส่วนลี่อินพักอยู่ที่จวนเถอะ” ฮองเฮากล่าวแย้งทั้งที่ยังปักผ้าอยู่ “ทูลฮองเฮา รัชทายาทแคว้นหานเป็นสหายของหม่อมฉันจึงจำเป็นต้องไปร่วมยินดีเพคะ” ลี่อินไม่ยินยอมทำตาม “เจ้าไปรังแต่จะเป็นภาระ เดินเหินลำบากอยู่จวนดีแล้ว” “หม่อมฉันยังคล่องแคล่ว ครรภ์ยังอ่อนไม่ได้เป็นภาระแต่อย่างใด” นางโต้แย้งทุกคำห้ามของมารดาสวามี หยางหมิงกับฮ่องเต้ทำได้เพียงนั่งดื่มน้ำชาอย่างเงียบเชียบ ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดกระหว่างที่สตรีทั้งสองกำลังโต้แย้งกัน “นี่ เหตุใดถึงมิยอมเชื่อฟังเอาซะเลยเจ้าเป็นลูกสะใภ้สมควรเชื่อฟังแม่สามีมิใช่หรือ” อวิ๋นซินจ้องมองลี่อินด้วยสายตาตำหนิ หากแต่ลูกสะใภ้ผู้นี้กลับ

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 52 รักแรก

    ม้าศึกคู่กายชินอ๋องหยุดนิ่งหน้าจวนอ๋อง บุรุษบนหลังม้าไม่รีรอมุ่งหน้าไปตำหนักตะวันออกด้วยความร้อนใจ ทว่าภายในตำหนักกลับไม่มีผู้ใดอยู่ทำให้แน่ใจแล้วว่าลี่อินหนีเขาไปจริง ร่างทั้งร่างของหยางหมิงหนักอึ้งจนมิอาจย่างก้าวได้ หัวใจทั้งดวงเต้นช้าลงเรื่อย ๆ น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาที่เจ้าของร่างไม่รู้ตัว ภพของลี่อินในเวลาโกรธ เวลาร้องไห้ หัวเราะ แข็งกร้าว ผุดขึ้นในหัวเขาซ้ำไปซ้ำมา “ไปแค้วนฉี!” คำสั่งเดียวของหยางหมิง ทำทั้งกองทัพต้องเดินทางอีกครั้ง ประชาชนต่างงุนงง กองทัพที่กลับเข้าเมืองเพียงหนึ่งชั่วยาม บัดนี้กลับเดินทัพอีกครั้งมีเหตุใดสำคัญจนมิหยุดพัก การเดินทางโดยไม่หยุดพักทำเหล่าทหารอ่อนล้าไม่น้อย หากแต่มิมีใครกล้าปริปากบ่น กองกำลังเรือนหมื่นเหยียบเข้าใกล้เมืองเถียนชิง “ท่านอ๋อง สายสืบแคว้นหานแจ้งข่าวว่ารัชทายาทตงหยางจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสอีกสิบห้าวันข้างหน้าพ่ะย่ะค่ะ” เย่จินรายงาน ม้าศึกของหยางหมิงหยุดชะงักทันที เขาหวาดกลัวว่าสิ่งที่ตนคาดเดาจะเป็นจริง “ข่าวนี้แคว้นฉีรู้เรื่องหรือไม่” มือหนากำบังเหียนแน่นจนเ

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 51 ผิดสัญญา

    หิมะในเมืองเหออันสงบลง คนเจ็บป่วยเพราะภัยหนาวไม่มีแล้ว หน้าที่ของลี่อินในเมืองเหออันจึงสิ้นสุดลง นางไม่มีความจำเป็นที่จะรั้งอยู่ที่เหออันอีก จึงคิดขอกลับเมืองหลวงเพราะเป็นห่วงร้านประทินโฉมอีกทั้งเรื่องในจวนไม่มีผู้ใดคอยจัดการ “ท่านอ๋อง ข้าจะกลับซู่โจวก่อนได้หรือไม่” ลี่อินยืนอยู่หน้าโต๊ะทรงอักษร สีหน้าจริงจังจ้องบุรุษที่ยังอ่านสาน์สของทัพอยู่ “รอกลับพร้อมข้า” เสียงเอาแต่ใจดังขึ้น “กว่าท่านอ๋องจะเสด็จกลับ ก็อีกครึ่งเดือน หม่อมฉันเป็นกังวลเรื่องร้านหมื่นบุปผา อีกทั้งกิจการของจวนอ๋องก็ไม่ได้ตรวจบัญชีมาแรมเดือน” “แต่หากเจ้าแอบหนีหลับแคว้นฉีเล่า” ครานี้หยางหมิงยอมเงยหน้าจากสาน์สกองทัพ มองมายังนางด้วยแววตาเศร้าสร้อย “หม่อมฉันจะหนีไปทำไมกัน” ลี่อินท้อใจที่จะอธิบาย “ก็เจ้าไม่มีใจให้ข้า หากครบสองเดือนสัญญาระหว่างข้ากับฮ่องเต้แคว้นฉีก็ถือว่าเป็นโมฆะ” น้ำเสียงเศร้าหมองนั้นลี่อินไม่ได้ตอบกลับ ยิ่งทำให้หยางหมิงรู้สึกหวาดหวั่น หากแต่นางกลับเดินไปหยุดเบื้องหน้าเขาพลางยอบก

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 50 เหน็บหนาว

    ตงหยางมิอาจรั้งอยู่ในแคว้นอื่นได้นาน ยิ่งเป็นชายแดนแล้วความอึดอัดยิ่งเพิ่มมากขึ้น ก่อนหิมะจะตกหนักอีกครั้งจึงจำต้องบอกลาลี่อิน “ข้ายังยืนกรานคำเดิม หากเจ้ามิอยากอยู่กับชินอ๋องแล้ว ไปหาข้าที่แคว้นหาน แม้ไม่อาจห่วงใยในฐานะคนรักแต่ข้ายังห่วงใยเจ้าในฐานะสหายเสมอ” ตงหยางยื่นหยกประจำตัวกลับให้นางเช่นเดิม “ขอบพระทัยรัชทายาท” ลี่อินยอบกายกล่าวลา ก่อนรถม้าจะเคลื่อนตัวออกจากประตูเมืองไป หยางหมิงยิ้มพอใจเมื่อเห็นบุรุษอื่นที่นางห่วงใยจากไปเสียที แม้เป็นเพียงสหายแต่เขาก็ยอมรับไม่ได้เช่นเดิม “รัชทายาทยังคงตัดใจจากเจ้าไม่ได้” หยางหมิงมองหยกในมือลี่อิน “สักวันเขาจะเจอสตรีที่ตนรักเพคะ” ลี่อินกล่าวพลางหันกายเข้าเมืองไป “เหมือนข้าที่เจอแล้ว” หยางหมิงเดินตามนาง “ใครกันหรือเพคะ” “เจ้าไง อาอิน” ลี่อินหน้าแดงเมื่อเขาบอกชื่อสตรีในดวงใจ ก่อนก้มหน้ารีบเดินหนีเข้าโรงหมอไป ทำให้ชินอ๋องยิ้มอย่างมีหวังว่าภายในสองเดือนนางต้องยินยอมอยู่ข้างกายเขาเป็นแน่

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 49 เดินทางขึ้นเหนือ

    “เราต้องกลับแคว้นเว่ยพรุ่งนี้” น้ำเสียงเคร่งเครียดเอ่ยขึ้น “มีอะไรหรือไม่เพคะ” “เมืองอันเหอมีพายุหิมะถล่ม ราษฎรขาดแคลนเสบียง กองทัพที่นั่นมิอาจรับมือได้ข้าต้องรีบไปจัดการ “แล้วเหตุใดหม่อมฉันต้องไปด้วย ท่านอ๋องเดินทางลำพังจะไม่เร็วกว่าหรือ หม่อมฉันจะไปรอพระองค์ที่จวนพร้อมอี้หนิง” “ข้าจะไม่ไปไหนหากไม่มีเจ้า” หยางหมิงแววตาจริงจังจ้องนางอยู่เช่นนั้น “หากแต่อี้หนิงยังเด็กหากเผชิญหิมะ...” “นางจะอยู่ที่แคว้นฉี” หยางหมิงกล่าวขัด “ท่านอ๋องตรัสว่าอย่างไรนะเพคะ?”ลี่อินไม่อยากเชื่อว่าหยางหมิงจะยินยอมให้อี้หนิงที่มีสายเลือดของตระกูลถานอยู่ที่แคว้นฉี “นางอยู่ที่นี่จะมีความสุขกว่า ไม่ต้องถูกสายตาดูแคลนของผู้อื่นจ้องมองเช่นที่อยู่ในแคว้นเว่ย ที่นั่นไม่สามารถให้ความรักกับนางได้ต่างจากไทเฮาเสวี่ยฉีที่มอบความรักให้กับเด็กคนนั้นได้ไม่สิ้นสุด”คำพูดของหยางหมิง ทำให้นางรู้ว่าบุรุษผู้นี้ห่วงใยผู้อื่นมากกว่าที่เขาแสดงออก คลื่นความสุขจึงก่อตัวขึ้นภายในใจของนางอ

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 48 ข้อแลกเปลี่ยน

    กบฏยอมจำนน เจ๋อหานเสด็จประทับบนบัลลังก์มังกร ขุนนางประกาศโองการ“ด้วยโองการสวรรค์ ฮ่องเต้เจ๋อหานขึ้นครองบัลลังก์ ราษฎรเป็นสุขไร้ทุกข์นิรันดร์ เริ่มต้นศักราชหย่งฉีนับแต่นี้” สิ้นคำประกาศ เหล่าขุนนางคุกเข่ากราบถวายบังคม “น้อมรับบัญชาฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น หมื่นปี” “ขุนนางทุกท่านลุกขึ้นเถิด ราชโองการแรกของข้า อภัยโทษทหารที่ร่วมก่อกบฏ ส่งไปชายแดนทำดีไถ่โทษ แม่ทัพอู๋ไท่และรองแม่ทัพ ปลดออกจากตำแหน่ง ยึดทรัพย์กึ่งหนึ่ง เนรเทศไปดินแดนรกร้าง ไม่เอาความคนในตระกูล องค์ชายจี้หานให้ไว้ทุกข์ยี่สิบปีเฝ้าสุสานฮ่องเต้หย่งเฮ่า” “น้อมรับราชโองการ” หยางหมิงยืนข้างลี่อิน มองดูเหตุการณ์สำคัญของแคว้นฉีโดยไม่คิดก้าวก่าย ส่วนลี่อินเงยหน้ามอกบุรุษที่ตัวสูงกว่าสายตาเต็มไปด้วยคำถามมากมาย “ชินอ๋องถานหยางหมิง ขอบใจที่ตอบรับสาน์สขอความช่วยเหลือจากเรา” พระราชดำรัสของฮ่องเต้ ทำผู้คนในท้องพระโรงหรือแม้แต่ลี่อินต่างสับสน เหตุเพราะว่าการขอความช่วยเหลือจากแคว้นเว่ยไม่ได้มีการหารือในหมู่ขุนนางหรือแม่ทัพ “แคว้นฉี เป็นบ้านเกิดของพระชายา

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 47 ชิงบัลลังก์

    พิธีราชาภิเษกจัดขึ้นตามกำหนดเดิม ลานหน้าท้องพระโรงถูกตระเตรียมสำหรับราชพิธี เหล่าขุนนางยังคงเข้าร่วมพระราชพิธีโดยมิหวาดหวั่นการชิงบัลลังก์ขององค์ชายสี่จี้หาน รัชทายาทซ่งเจ๋อหานสวมชุดมังกรพิธีการ ก้าวเดินอย่างมั่นคงมุ่งตรงสู่ท้องพระโรง เหล่าข้าราชบริพารค่อมกายเคารพฮ่องเต้พระองค์ใหม่ เครื่องประโคมบรรเลงตามจังหวะการเสด็จของฮ่องเต้ ไทเฮายืนอยู่เหนือบันไดท้องพระโรง พร้อมเหล่าเชื้อพระวงศ์เพื่อรอรับเสด็จฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ฮ่องเต้เจ๋อหานคุกเข่าถวายพระพรพระราชมารดาก่อนจะนำเสด็จเข้าสู่ท้องพระโรง หากแต่ประตูวังกลับมีกองกำลังของอู๋ไท๋บุกเข้ามาล้อมรอบลานพิธี “องค์ชายเจ๋อหานจะเสด็จไปที่ใดพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพหลวงอู๋ไท่ลงจากม้าศึกชี้ดาบตรงมายังว่าที่ฮ่องเต้ของแคว้น “บังอาจ เจ้าเป็นขุนนางของราชสำนัก กล้าดีอย่างไรไม่เรียกฮ่องเต้ตามธรรมเนียม แลยังถือดาบต่อหน้าพระพักตร์อีก” มหาราชครูหลานต่อว่าอย่างมิเกรงกลัว “หึ! ตาเฒ่าหลานซื่อ ใครนับหลานชายเจ้าเป็นกษัตริย์กัน ทั้งอ่อนแอ ขลาดกลัวใช้แต่การเจรจาต่อรองไม่เห็นความสำคัญของการรบ แล้วเช่นนี้จะปก

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 46 ฮ่องเต้แคว้นฉีสิ้นพระชนม์

    เสวี่ยหนิงถูกส่งกลับแคว้นฉี ฮองเฮาเสวี่ยฉีนำเหล่าขุนนางบีบบังคับฝ่าบาทให้สั่งประหารเสวี่ยหนิง จนฮ่องเต้ที่ไร้ทางเลือกสั่งประหารธิดาของตนเองเพื่อความมั่นคงของราชวงศ์ สนมคนโปรดถูกเนรเทศไปชายแดน ส่วนซิ่วหรูถูกสั่งกักบริเวณในตำหนักนานสองปี โหวน้อยหวงจื้อหาวแม้มิได้มีเจตนาทำร้ายเหมยหลิง หากแต่มอบยาสวาทมิรู้จบเพราะสงสารน้องสาว ถูกส่งไปต่างแคว้นทำหน้าที่ทูตเจรจาการค้าเพื่อประโยชน์ของแคว้นเว่ย ลี่อินกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง บัดนี้ทุกอย่างจบสิ้น นางย้ายกลับมาอยู่ตำหนักพระชายาพร้อมอี้หนิง เด็กน้อยที่ได้วิ่งเล่นในตำหนักกว้างยิ้มอย่างพอใจ “ชอบ” อี้หนิงที่พึ่งฝึกพูดเปล่งเสียงบอก “อี้เออร์ชอบก็ดีแล้ว” ลี่อินลูบศีรษะทุยนั้นอย่างรักใคร่ หากแต่ความสุขกลับอยู่ได้ไม่นาน เมื่อม้าเร็วจากแคว้นฉีขอเข้าเฝ้า “ทูลองค์หญิงสาม บัดนี้ฮ่องเต้สิ้นพระชนม์แล้ว ฮองเฮาทูลเสด็จพระองค์กลับไปสักการะพระศพพ่ะย่ะค่ะ” ลี่อินแม้รู้ว่าบิดาป่วยมานาน หากแต่เมื่อได้ยินว่าฝ่าบาทจากไปแล้ว สติของนางขาวโพลนทันที เสียงสุดท้ายที่นางได้ยินกลับเป็นเสี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status