“องค์ชาย”ไป๋อี้ชิงย่อกายลงด้วยท่าทีที่คิดว่าน่ามองที่สุด“อ๋อ เจ้าแวะมาหาข้า”“ไป๋อี้ชิง ขอบคุณองค์ชายที่เมตตาส่งปิ่นงดงามอันนี้มาให้” มวยผมที่ถูกเกล้า เสียบปิ่นปักผมงดงาม"สิ่งนั้นเจ้าควรได้รับ"ใบหน้างดงามเขินอายน่าเอ็นดู"องค์ชายท่านพ่อพูดกับเหล่าขุนนางเพื่อท่าน ต่อไปอนาคตไม่ว่าจะอย่างไรท่านพ่อก็จะส่งเสริมท่านตลอดไป"ฟาหยางประคองกอดไป๋อี้ชิงไว้ในอ้อมแขน"ขอบใจข้าเองก็หวังเพียงว่าสิ่งที่ทำ บิดาเจ้าจะเห็นงามตามไปด้วย”"เจ้าเตรียมตัดเย็บอาภรณ์สำหรับงานแต่งงานหรือยัง ข้าพาเจ้าไปเลือกผ้าที่ตลาด เสียหน่อยจะดีไหม”ไป๋อี้ชิงยิ้ม“องค์ชายอีกตั้งหนึ่งเดือนจึงจะมีพิธีแต่งงาน องค์ชายไม่ใจร้อนไปหน่อยหรือ”ดึงมือไป๋อี้ชิงออกจากตำหนักไป“จนกว่าเจ้าจะพอใจ อาภรณ์ในวันแต่งจะต้องงดงามถูกใจเจ้าที่สุด ข้าเกรงว่าจะไม่มีเวลาให้เจ้าเท่าที่ต้องการเช่นนั้นจะต้องเลือกเฟ้นตั้งแต่เนิ่นๆ ”“ขอบพระทัยองค์ชาย” ดึงมือให้เดินตามเขาไปที่เกี้ยวที่จอดรอหน้าตำหนัก“เคลื่อนเกี้ยว”ตลาดที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ร้านผ้าอยู่กลางตลาดพอดี ผ่านไปอีกหน่อยจึงเป็น เพิงของหวงหลานที่ฟาหยางจำได้ดี เกี้ยวจอดลงที่ร้านผ้า ฟาหยางก้าวลงไปก่อนส่
“ไป๋อี้ชิงขอบพระทัยองค์ชายยิ่งนัก ด้านหน้านั่นมี ผลซานซาเซื่อมรสดีที่สุด ให้ไป๋อี้ชิงได้ เลี้ยงขอบคุณองค์ชาย”ยิ้มสดใส คว้ามือฟาหยางที่ยิ้มบางๆ ลากให้วิ่งตามไปยังร้านขายผลซานซาเซื่อมเสียบไม้ ที่เสียบไว้เรียงราย ไป๋อี้ชิงคว้ามือหยิบเอาผลซานซาเซื่อมมากัดกิน ยิ้มหวานหยดให้กับฟาหยาง“ลองชิมดูค่ะอร่อยที่สุด”“คุณหนูเจ้าขาดูทางนั้น”สาวใช้ชี้ให้ไป๋อี้ชิงดูสินค้าที่น่าตื่นตาตื่นใจฟาหยางคว้ามือหยิบผลซานซานเซื่อมแต่ใจตรงกันกับใครบางคนที่กำลังคว้าผลซานซาเซื่อมเสียบไม้มือสัมผัสเข้ากับมือของหวงหลานเต็มเปาต่างคนต่างหดมือหนี หวงหลานเมื่อรู้ว่าเป็นใคร กลับเดินหนีไปทันทีไม่แม้แต่จะสบตา ฟาหยางดึงผลซานซาเซื่อมมากำไว้วิ่งไปยัดใส่มือของหวงหลานก่อนจะหันหลังกลับไป๋อี้ชิงไม่ทันมองว่า ฟาหยางไปทำเรื่องใดมาเพราะมัวแต่ชื่นชมของขายอยู่ข้างทางเดิน“ไปกันเถอะ” โอบรอบเอวบางพาเดินไม่ยอมให้เห็นว่าหวงหลานอยู่ตรงนั้น“องค์ชายลองชิมหรือยัง”ฟาหยางกัดผลซานซาเซื่อมหันกลับไปมอง หวงหลานที่ยืนนิ่งมองผลซานซาเซื่อมในมือนิ่งงัน ก่อนจะยิ้มเศร้าๆ ก้าวเดินจากไปท่ามกลางผู้คนมากมาย ฟาหยางเองก็เผลอยิ้มเศร้าสร้อยเช่นกัน กัดผลซานซาเชื
“ฝ่าบาทเองก็เคยคิดเช่นนั้นจน ใต้เท้าหลงถานได้อำนาจไว้ในมือกลืนกินทุกคนในราชสำนัก องค์ชายหากองค์ชายไม่อยากเป็นเหมือนฮ่องเต้ที่ไม่มีอำนาจการตัดสินใจเรื่องใดเท่ากับใต้เท้าหลงถาน องค์ชายจะต้องอย่าปล่อยให้โอกาสหลุดมือและอย่าให้ใต้เท้าหลงถานกับแม่นางไป๋อี้ชิงจับได้ว่าองค์ชาย แอบส่งคนคุ้มกันแม่นางหวงหลาน”ฟาหยางถอนหายใจ“ข้ายอมแล้วยอมจำนนแล้ว”ทิ้งตัวลงบนแท่นนอนยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก“แต่ อย่างเดียวที่ข้าขอคือนางจะต้องปลอดภัย ต่อไปข้าไม่พบนางอีกแล้ว แต่เจ้าจะต้องส่งคนอารักขานางอย่างดีที่สุดจะได้ไหม”กงฉานประสานมือ“หากองค์ชายรับปากว่าจะไม่พบนางอีกกงฉานยินดี จะส่งคนอารักขานาง”บ้านป่าหลังใหม่หมิงเหยียนชือเฉินยืนกอดอกมองหวงหลานที่หมุนผลซานซาเชื่อมในมือไปมา“เจ้าคิดออกหรือยัง”“คิดเรื่องใดกัน”“เรื่องที่เจ้าจะช่วย ฟาหยางอย่างไรเล่า”“ยังไม่ทันได้คิด”“เจ้าหยั่งรู้อนาคตอันใกล้ไม่รู้หรือไรว่าองค์ชายใหญ่กับฟาหยางจะต้องบาดหมางกัน จนถึงขั้นไม่อาจร่วมโลก”“หวงหลานรู้ดี แต่กำลังคิดหาทางที่จะบิดเบือนบัญชาสวรรค์”“เพื่อฟาหยาง...ใช่ไหม”“หวงหลานก็แค่ไม่มีทางที่จะตัดเชือกของฟาหยางกับไป๋อี้ชิงเช่นนั้นจึงต้องหา
“องค์ชายขยันแวะเวียนที่บ้านหลงถานเช่นนี้ แม่นางไป๋อี้ชิงคงยิ้มไม่หุบ”“นางมีเรื่องเล่ามากมาย อีกทั้งตอนนี้เราสองคนกำลัง ทำความคุ้นเคยกัน”“องค์ชายรองท่านคิดว่าแม่นางไป๋อี้ชิง เป็นอย่างไรบ้าง”“นางน่าเอ็นดู อุปนิสัยนางก็ไม่ได้แย่อะไร เสียอย่างเดียวนางเอาแต่ใจไปนิด แต่ไม่ใช่กับข้านางมักจะเอาแต่ใจกับ พวกสาวใช้มากกว่า”“นั่นคงเพราะนางเป็นบุตรีคนเดียวของใต้เท้าหลงถานบรรดาสาวใช้จึงตามใจนางยิ่งนัก องค์ชายแต่งกับนางก็ค่อยๆ ขัดเกลาอีกไม่นาน อุปนิสัยสองคนคงจะเข้ากันได้”ฟาหยางยิ้ม บางที่ไป๋อี้ชิงก็คลายเหงาได้ดีอย่างน้อยนางก็ช่างพูดช่างเจรจาไม่วางตัวโตเกินวัยเหมือนหวงหลาน แต่เมื่อเขาคิดถึงแววตาเศร้าๆ ของหวงหลานก็ต้องทอดถอนใจทุกครั้งไปข้างพุ่มไม้ใบหนา ในป่ากว้างนั่นเอง มือสังหารยืนซุ่มคอยโจมตีเกี้ยวของฟาหยาง กงฉานไหวตัวทันชักกระบี่ออกจากฝัก คนทั้งหมดกรูกันเข้ามารุมล้อมเกี้ยว ไม่สนว่ากงฉานจะหันคมกระบี่เข้าใส่ คนหามเกี้ยวต่างวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานถูกคมกระบี่สังหารจนสิ้น อย่างไม่ปรานีปราศรัยฟาหยางขมวดคิ้ว ก้าวลงจากเกี้ยวไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ให้ความตายคืบคลานเข้ามา กงฉานฟาดฟันกระบี่อย่างบ้าคลั่งความม
ลุกขึ้นกอดรวบเอวบางไว้แน่น“คิดถึงเจ้าเหลือเกิน”“คิดถึงทำไมกัน ...เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย”กงฉานทะยานลงมาด้านล่าง“องค์ชาย ปลอดภัยดีหรือไม่”หวงหลานผละออกจากอ้อมกอดรีบ หลบไปเสียด้วยความเขินอาย“มาขัดจังหวะ”ตำหนิกงฉาน“กงฉาน ไม่ทันได้ระวัง”"องค์ชายท่านปลอดภัยหรือไม่"กงฉานทะยานลงจากคาคบไม้ เดินเข้ามาทันทีด้วยความห่วงใยฟาหยาง"ปลอด..ภัยดี มาขัดจังหวะ"ส่งเสียงยานคางว่ากงฉานไม่น่ามาขัดจังหวะในตอนนี้“กงฉานไม่ทันระวังด้วยห่วงใยองค์ชายยิ่งนัก”“ข้าไม่ได้ เป็นอะไรเสียหน่อย”"แต่องค์ชายบาดเจ็บ"ถลาเข้าหาร่างสูงที่มีรอยเลือดเปรอะเปื้อนเต็มแผ่นหลัง"ไม่ถึงตาย"ถอนหายใจ"มือสังหารเหล่านั้นตายไปจนสิ้นข้าน้อยได้สิ่งนี้จากศพ"ล้วงหยิบเหรียญทองจากอกเสื้อวางลงในมือฟาหยาง"เหรียญนี่""สลัก สัญลักษณ์ของตำหนักปงเปียน""ถูกต้องแล้ว"หวงหลานขมวดคิ้วชักช้าไม่ทันกาล ฟาหยางเกือบตายด้วยน้ำมือขององค์ชายใหญ่"กงฉานต้องทูลเสด็จพ่อเรื่องนี้""องค์ชายเหรียญทองนี่ใช้เป็นหลักฐาน"กงฉานพูดขึ้นดังๆ"กลับวังหลวงข้าจะกราบทูลเรื่องนี้ทันทีที่ไปถึงองค์ชายใหญ่ตั้งใจจะฆ่าข้าไม่เห็นแก่ความเป็นพี่น้อง""องค์ชายค่ำคืนมืดมิ
วังหลวง“ฟาหนานเจ้าทำเรื่องชั่วช้ายังมีหน้าพบกับวิญญาณบรรพชนได้อีกหรือ”“เสด็จพ่อ ลูกน้อมรับความผิดที่ก่อขึ้น ไม่เอ่ยปากขอร้องแม้แต่คำเดียว”“เฮอะหลักฐานมัดตัวเพียงนี้จะขอร้องว่าอย่างไร คิดว่าขอร้องแล้วข้าจะยอมใจอ่อนหรือไร ส่งคนสังหารฟาหยางดั่งไม่ใช่พี่น้อง”“เสด็จพ่อเป็นเสด็จพ่อมิใช่หรือที่เคยบอกลูกว่าให้พยายามให้มาก”“บัดซบ ทำผิดไม่ยอมรับผิด แล้วยังโทษว่าเป็นเพราะข้าที่สั่งสอนเจ้าให้ทำผิด”“อย่างไรเสียเสด็จพ่อก็มองว่าลูกผิด แต่หากกลับกันเป็นฟาหยางที่ทำเรื่องแบบนี้เสด็จพ่อจะกล่าวโทษเขาเหมือนข้าหรือไม่”“หากเป็นเจ้า พบว่าพี่คนโตกำลังจะฆ่าน้องเจ้าจะจัดการเช่นไร”ฟาหนานนิ่งงัน“เนรเทศ ถอนบรรดาศักดิ์หรือว่า ปลดให้เป็นสามัญชน ลดเบี้ยหวัด หรือว่าประหารเสีย”“แล้วแต่เสด็จพ่อจะเทรงพระเมตตา”ยิ่งอาการยอมจำนนของฟาหนานส่งผ่านมาทางสีหน้าเท่าไหร่ เหอผิงฉีปิงยิ่งบังเกิดความโมโหด้วยอยากให้เขามีกิริยาแข็งขันว่านี้มิใช่อ่อนปวกเปียกยอมจำนนง่ายดาย“เสด็จพ่อ ได้โปรดทรงไตร่ตรอง”ฟาหยาง ทรุดกายลงข้างๆ ฟาหนานที่จ้องมองเขาด้วยความรู้สึกผิด ในใจฟาหยางบังเกิดความสงสารฟาหนานขึ้นมาจะด้วยการผูกด้ายสายสัมพันธ์พี่
“ท่านพ่อข้าเคยคิดมาตลอดว่าท่านให้ นักเวทหญิงคนนั้นผูกด้ายสัมพันธ์รักใคร่ให้กับเหล่าขุนนาง จึงมีแต่คนเชื่อฟังท่านแต่บัดนี้ ลูกเข้าใจแล้ว”“ไป๋อี้ชิง เจ้ายังอ่อนหัดเรื่องเหล่านี้ ไม่อาจมองข้ามต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อความสำเร็จ”ไป๋อี้ชิงตะลึงงัน ใต้เท้าหลงถานที่หลายคนหรือแม้แต่ไป๋อี้ชิงเห็นคือผู้ที่เป็นที่รักใคร่ กับทุกผู้คนไม่เคยคิดร้ายกับใคร บัดนี้รู้แล้วว่าทุกอย่างล้วนมีที่มา เหล่าขุนนางที่เชื่อฟังล้วนต้องแวะเวียนที่ตระกูลหลงถาน ไม่เคยขาดเพราะต้องการยาถอนพิษนั่นเอง อนิจจาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่แสร้งเห็นใจยอมให้ยาบรรเทาพิษที่แม้แต่หมอหลวงก็ไม่อาจตรวจพบพิษ ผู้คนจึงคิดว่าใต้เท้าหลงถานผู้มีน้ำใจเป็นเทวดามาโปรดและเชื่อฟังบิดาของไป๋อี้ชิงจนวันตาย ไป๋อี้ชิงก็เพิ่งจะรู้ความจริงในวันนี้ ดังคำกล่าวผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก“ลูกรับไว้แล้ว ท่านพ่อวางใจลูกจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”กลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ไป๋อี้ชิงต้องการสิ่งใดกันแน่ต้องการสามีที่รักนางด้วยใจเอาใจด้วยความรักใคร่หรือสามีที่ทำทุกอย่างเพราะกลัวเจ็บกลัวตาย“ดี อย่าลืมว่ายานี่ไม่มีใครตรวจพบพิษของมันได้ หากเจ้าถูกพาดพิงหรือมีใครกล่าวโทษเจ้าจะต้องป
“เราสองคนยามนี้ว่างเว้นจากเรื่องยุ่งๆก่อนหน้านั้น จึงเหมาะที่จะดื่มชาร่วมกัน”ไป๋อี้ชิงโบกมือไล่นางกำนัลที่กำลังชงชา“ไป๋อี้ชิงมีฝีมือด้านการชงชาไม่น้อย วันนี้ขอได้ชงชาให้องค์ชายดื่มอีกหน่อยเราสองคนแต่งกันเสียแล้ว ก็คงไม่อาจลิ้มรสชาหอมหวานเช่นวันวานเพราะต้องพบกันในทุกวันความเบื่อหน่ายจะทวีคูณ”ฟาหยางสบตา ไป๋อี้ชิงหวานหยด“เจ้ากลัวว่าข้าจะเบื่อหน่ายทั้งๆ ที่เรายังไม่ทันร่วมหอ”ยกมือขึ้นเชยคางมนก้มลงบดริมฝีปากกับปากบาง นุ่มนวลอ่อนหวาน นึกถึงใบหน้าของหวงหลาน ในมโนสำนึกถอนริมฝีปากออกช้าๆ ทั้งๆ ที่ไป๋อี้ชิงกำลังเผยอริมฝีปากรับรสจูบ“องค์ชาย”น้ำเสียงแปร่งปร่าด้วยความรู้สึกบางอย่างในใจ“ยังไม่ทันแต่งเจ้าก็ล่วงเกินเจ้าเพียงนี้” กดริมฝีปากกับปากบางอีกครั้ง โน้มกายอีกคนให้นอนลงบนพื้นบดเบียดริมฝีปากไม่ยอมปล่อยไป๋อี้ชิงอมยิ้ม ก่อนจะยกมือขึ้นดันอกกว้างเบาๆ“น้ำชงชาจะย็นไปเสีย”จุมพิตที่แก้มของฟาหยางเบาๆ“จริงด้วยข้าลืมไปเสียสนิท พรุ่งนี้จะเข้าหอ เหตุใดข้าจึงไม่อดใจรอเสียหน่อย”ดึงมือ ไป๋อี้ชิงให้ลุกขึ้นสวมกอดจากด้านหลัง“ข้าจะรอถึงพรุ่งนี้ เจ้าเองก็ต้องรอถึงพรุ่งนี้เช่นกัน กดจมูกโด่งเป็นสันที่แก้ม
หวงหลานสาวเท้าเร็วรี่รู้ดีว่ามีบางอย่างผิดปกติด้ายสัมพันธ์รักใคร่ตัดทิ้งไปเมื่อหลายปีก่อนทำไมถึงได้กลับมาเชื่อมต่อกันได้อีก“หวงหลานเจ้าหนีอะไรมา”หลิวเหยียนสีหน้าตื่นตกใจ“ท่านแม่ คนผู้นั้น”“อืมแม่เข้าใจแล้ว เจ้าหลบไปก่อน”“ท่านแม่ๆๆๆๆๆ ”หวงหลินวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาในบ้าน ถือไก่ตัวใหญ่ติดมือมาด้วยร่างสูงของฟาหยางก้าวขาเข้าในบ้าน หลิวเหยียนขมวดคิ้ว“หวงหลินเข้าไปด้านใน”ฟาหยาง จ้องมองใบหน้าสดใสงดงามด้วยสายตาเอ็นดูยิ่ง“แม่นางน้อยผู้นี้ น่าเอ็นดูยิ่งเจ้ากับแม่นางคนเมื่อครู่มีความสัมพันธ์ใดกัน”“หวงหลินเข้าไปด้านใน”ไม่ยอมตอบคำถาม แต่ตั้งใจ ปรามหวงหลิน“ท่านยาย ทำไมกันคนผู้นี้เป็นอันตรายหรือ”เหลือบตามองฟาหยางแต่สายตากลับสะดุดเข้าที่ด้ายแดงที่โยงใย สายตาไล่ไปตามเส้นด้าย“หวงหลินข้าบอกว่าให้เจ้าเข้าไปด้านใน”หลวงหลินยังคงไล่สายตา ไปยังด้ายความสัมพันธ์ที่หยุดที่นิ้วนางของหวงหลาน อดที่จะเลิกคิ้วสูงไม่ได้“ท่านแม่ ท่านกับเขา”“หวงหลินเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเด็กน้อยเช่นเจ้า”“ท่านแม่หวงหลินโตแล้วเห็นไหม ข้าสามารถมองเห็นด้ายความสัมพันธ์”“แล้วเจ้าแยกแยะด้ายความสัมพันธ์ออกหรือ”“ท่านแม่หวงหลินจะ
“ไอ้หยาต้องบอกเรื่องนี้กับหวงหลานเสียแล้ว”หวงหลานกำลังซักผ้าอยู่ที่ลำธารใส“ท่านเทพมาเสียทำเอาหวงหลานตกใจ”“กะกะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว”หวงหลานก้มหน้าอมยิ้มกับท่าทีร้อนรนของหมิงเหยียนชือเฉินเดาว่าคงไม่พ้นเรื่องของหวงหลิน แต่เล็กจนกระทั่งหวงหลินโตมาเรื่องของหวงหลินมักจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหมิงเหยียนชือเฉินเสมอ“เจ้าไม่ตื่นเต้นเลยหรือ”หวงหลานยิ้มบางๆ ส่ายหน้าไปมา“เรื่องใหญ่ของท่านเทพก็คงเป็นหวงหลินหกล้มขาแพลงหรืออาจเป็นหวงหลินไปทะเลาะกับลูกบ้านไหนอีก”“ครั้งนี้มันใหญ่มากข้าเองรู้สึกใจหายแล้วก็รู้สึกว่า..ไม่รู้ความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไรแต่ข้าไม่ ชอบให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแน่ๆ ”พูดรัวเร็ว“เรื่องใดกัน หวงหลานชักอยากจะรู้เสียแล้ว”“ หวงหลินกับด้ายพันผูก เจ้าเองน่าจะรู้ดี ด้ายเส้นหนึ่งความสัมพันธ์พี่น้องทว่าคนผู้นั้นกลับไม่รู้ว่ามันคือความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง ส่วนด้ายอีกเส้นที่โยงใยกับใครบางคนที่ข้าไม่ชอบขี้หน้านัก”หวงหลานถอนหายใจ“ท่านเทพกำลังจะผิดกฎสวรรค์ท่านเทพๆ ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า”“หวงหลานเจ้าก็ตัดด้ายความสัมพันธ์ให้กับหวงหลินเสียดีไหม”“ไม่ได้ ท่านเ
จวิ้นหวังยืนชะเง้อคอรอคอยฟาหลางที่ประตูด้านหลังของวังหลวง“เกือบแย่เสด็จแม่ให้คนยกเครื่องเสวยข้าต้องแสร้งทำทีว่ากินไปแล้วและกำลังจะออกไปฝึกซ้อมวรยุทธกับท่านฟาหยิน”“ข้าน้อยอีกแล้วหรือไม่แปลกใจเลยหากฮองเฮาจะไม่พอใจจวิ้นหวัง”“เอาน่าเสด็จแม่ปากร้ายใจดีจะตาย ตอนนี้ยอมยอมเสด็จแม่ไปก่อนเดี๋ยวไว้ข้านั่งบนบัลลังก์เมื่อไหร่ข้าจะแต่งตั้งฟาหยินเป็นหัวหน้าขันทีเลยดีไหม”“หัวหน้าขันที ไท่จือท่านล้อข้าเล่นอีกแล้ว”“ก็เห็นได้ชัดว่าฟาหยินพอถอดเกราะบนใบหน้ากับเสื้อเกราะออกไปใบหน้างดงามดังอิสตรี เรื่องรักใคร่ของเหล่าขันที มีมานานหากจะชื่นชมคนที่มีใบหน้างดงามกว่าสตรีเช่นฟาหยินก็ไม่ผิด” ฟาหยินส่ายหน้าก้าวขา นำออกไป“เอ้าพูดแค่นี้ทำโมโหไปได้ ข้ารึอุตส่าห์ชื่นชมว่าฟาหยินจวิ้นหวังใบหน้างดงาม”ก้าวขาตามไปในทันที“ท่านเทพ รอหวงหลินด้วย”พรึ่บ หมิงเหยียนชือเฉินหายตัวไปในทันทีเมื่อตรงหน้าเป็นฟาฟลางกับฟาหยินที่เดินเคียงข้างกันเข้ามา หวงหลินขมวดคิ้ว ท่าเดินองอาจผึ่งผายทว่าใบหน้างดงามอ่อนหวานอีกทั้งอาภรณ์สีฟ้าที่ขับผิวขาวของ ฟาหยิน ทำให้รู้สึกขัดลูกตาเหมือนบุรุษผู้หนึ่งเดินเคียงข้างมากับหญิงงามในแวบแรกที่เห็น“อะพบ
“ไม่ปล่อย หากตะบะแตกเจ้าก็จะไม่ได้พบข้า อีกนานทีเดียวเพราะข้าต้องไปบำเพ็ญเพียร ถึงสามปีมนุษย์”หวงหลินรีบปล่อยอ้อมกอด“ไม่เอา หวงหลินยอมแล้วท่านเทพไม่อยู่หวงหลินจะแกล้งใครเล่า”มือใหญ่รวบเอวบางมาหนีบไว้ที่เอว“หากยังเล็กเหมือนเมื่อก่อนข้าจะตีก้นเสียให้เข็ด”หวงหลินดิ้น“ท่านเทพ หวงหลินโตแล้วนะ”หอบเอาร่างบางขึ้นฟาดบนบ่า“โตแล้วก็ตีได้”“ไม่เอา ปล่อยนะปล่อยเลย”ทุบแผ่นหลังกว้าง หมิงเหยียนชือเฉินวางร่างบางลงกับพื้น ร่างเล็กโงนเงน“โอ๊ะๆๆๆ โอ๊ย”หมิงเหยียนชือเฉินคว้าไว้กลัวว่าอีกคนจะล้มแต่กลับกลายได้ยินเสียงหัวเราะใสใสก่อนที่จะถูกดึงให้ล้มลงไปพร้อมกัน“ใครกันสอนนิสัยเจ้าเล่ห์กับเจ้าหวงหลานไม่ได้มีนิสัยเช่นเจ้าหรือว่าจะเป็น…”จ้องตากลมใสที่อมยิ้มอย่างไม่ทุกร้อนทั้งๆ ที่หมิงเหยียนชือเฉินกับรู้สึกว่าใจทำไมสั่นๆ“ข้าคงได้นิสัยของท่านเทพมาอย่างแน่นอน”ยิ้มมุมปาก“เหอะ หากเป็นของข้าจะต้องอ่อนหวานงดงามปานดอกมู่หลาน มิใช่ปลิ้นปล้อนเช่นนี้ หรือว่าจะเป็นนิสัยของบิดาเจ้า”หวงหลินเลิกคิ้วสูง“ท่านเทพ ใครกันคือบิดาข้า”แววตาจริงจัง หมิงเหยียนชือเฉินถอนหายใจดึงมือบางให้ลุกขึ้น“เจ้าไปถามหวงหลานมารดาจอมปากแข็งใจ
ไป๋อี้ชิงในอาภรณ์บ่งบอกฐานะฮองเฮา กับฟาหยางฮ่องเต้ที่ใบหน้าแต่งแต้มด้วยหนวดบนริมฝีปาก ใบหน้าคมเข้มแต่ทว่าแววตาเศร้าโศก กงฉานยืนยิ้มอยู่ไม่ไกลนัก“ลูกแม่เจ้ามาแล้ว”ไป๋อี้ชิงโอบกอดร่างสูงน้ำตาปริ่มขอบตา“เสด็จแม่ลูกมาแล้ว และจะไม่จากไปไหนอีกต่อจากนี้”“ไท่จือใช้เวลาเพียงไม่นานสำเร็จวิชาด้านการปกครอง ครั้งนี้ควรตั้งใจเรียนรู้ด้านการปกครองกับฝ่าบาท”กงฉานพูดขึ้นยิ้มๆ“จวิ้นหวังเองก็มากความสามารถ กลับมาครั้งนี้จวิ้นหวังขออยู่ต่อ แต่ข้ารั้งให้เขากลับมาด้วย จะได้อย่างไรให้ข้ากลับมาเพียงลำพัง”“ฟาหยินจวิ้นหวัง มีหน้าที่อารักขาไท่จือ เจ้าเช่นไรกล้าเอ่ยปากให้ไท่จือเดินทางเพียงลำพัง”ไป๋อี้ชิงถามเสียงเข้ม“ทูลฮองเฮา ข้าน้อยเดิมตั้งใจจะศึกษาวิชาดาบต่อจากอาจารย์แต่ไท่จือเร่งเดินทางไปนิดหากรออีกไม่เกินสามเดือน จวิ้นหวังคงไม่เอ่ยปากแบบนั้น”“อืมจวิ้นหวัง ใฝ่ดีตั้งใจศึกษาศาสตร์ต่างๆ จะโทษเขาก็ไม่ได้ จะโทษก็โทษเจ้าฮองเฮาที่คิดถึงลูกมากไป เพิ่งสำเร็จการปกครองก็เรียกเขากลับ ธรรมดาบุรุษจะต้องมีวิชาดาบหรือเพลงกระบี่ติดตัว”ไป๋อี้ชิงยิ้มลูบหลังไหล่ให้กับฟาหลาง“กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว หว่างระหว่างทางมีเหตุ
หมิงเหยียนซือเฉินปรากฏกายตรงหน้า“ปิดคนอื่นได้ เบี่ยงเบนลิขิตฟ้าได้แต่หลอกนางหนูนี่ไม่ได้ หวงหลินเจ้าเห็นชัดไหมว่าด้ายชะตารักของมารดาเจ้าผูกติดกับใครกัน คน คนนั้นคือ….”“ท่านเทพหยุดคำพูดของท่านเสีย ข้าไม่อยากให้หวงหลิน ได้ยินมัน”หมิงเหยียนซือเฉินยิ้ม ยียวน“ข้าบอกเจ้าแล้วฝืนบัญชาสวรรค์มักจะพบกับความทุกข์ตรมทวีคูณ”“ท่านเทพข้าขอร้อง”“ท่านแม่กับท่านเทพพูดถึงเรื่องใดกัน หวงหลินไม่เข้าใจ”หวงหลานย่อกายลงข้างๆ หวงหลินน้อย“หวงหลินของแม่ เอาไว้เจ้าโตกว่านี้เรื่องบางทีเจ้าอาจเข้าใจ”หวงหลินดึงมือ หวงหลานยังร้านขายผลซานซาเชื่อม“ท่านแม่กินผลซานซาเชื่อมกัน”ยังคงแวะเวียนที่เดิม ในเมื่อหลายปีมานี่ ด้ายสัมพันธ์รักใคร่ถูกตัดให้ขาดสะบั้นลงไป ฟาหยางเองก็หายไปจากชีวิต แม้จะได้ยินเรื่องที่เขาปกครองแคว้นด้วยความร่มเย็นมีรัชทายาทสืบเชื้อสายมังกร มีฮองเฮาที่เคียงข้างทว่าใจหวงหลินก็ไม่เคยสั่นไหวจนกระทั่ง หวงหลินสามารถมองเห็นด้ายแดงอีกครั้ง“มาสิเจ้าตัวน้อยข้าอุ้มเจ้าหรือจะปีนขึ้นมาบนหลังข้า”หวงหลินกระโดดขึ้นไปบนแผ่นหลังใหญ่ของหมิงเหยียนชือเฉินทันทีหวงหลานส่ายหน้าไปมาสิบสองปีผ่านไป“มาสิเจ้าตัวน้อยจะให้ข้
หวงหลานยิ้มเศร้าๆ กัดผลซานซาเชื่อมเหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องกินและควรจะกินสามปีผ่านไปทุกอย่างล่วงผ่าน กาลเวลาหมุนไป ฤดูกาลหมุนเวียนทุกอย่างกำลังจะเดินหน้าต่อไปตามครรลองของมัน“ท่านแม่ ทำไม ด้ายสีแดงของท่านแม่ถูกได้โยงใยกับท่านลุงคนนั้นเล่า”มือน้อยในอุ้งมือของหวงหลานกระตุกมือหวงหลานเบาๆ หวงหลาน หยุดก้าวเดินในทันที ไล่สายตาไปยังเส้นสด้ายสีแดงบางเบาแทบจะมองไม่เห็นทว่าหวงหลินกลับมองเห็นมัน คำถามเกิดขึ้นในใจทำไมด้ายโยงใยความรักที่หวงหลานตัดมันเองกับมือถึงได้โยงใยได้เหมือนเดิมอีก หรือเป็นเพราะว่าหวงหลานไม่อาจขัดบัญชาสวรรค์ได้จริงๆพลุส่องสว่าง บนท้องฟ้าหันมองข้างๆตาสบตาเมื่อร่างสูงคุ้นตายืนมองแสงไฟจากพลุเช่นกัน หวงหลานรีบดึงมือลูกสาวตัวน้อยออกจากตรงนั้นไปทันทีอีกคนหันมา มองเห็นเพียงแผ่นหลังคุ้นเคยเช่นกัน“หวงหลาน”เปร่งเสียงออกมาเบาๆ ราวกระซิบ วิ่งตามร่างบางที่จูงมือเล็กจากไป แต่กับถูกชนถูกดันจากผู้คนมากมายที่มาชมพุล ในค่ำคืนขึ้นปีใหม่“ท่านแม่ ท่านแม่ยังไม่ตอบคำถามข้าทำไม ด้ายสีแดงของท่านกับท่านลุงผู้นั้น…”อุ้มร่างกระจ้อยไว้ในอ้อมแขนพูดยิ้มๆ“บางทีด้ายที่ผูกก็แค่ให้ผ่านมาพานพบ หาได้ให้ครอ
ปีหนึ่งผ่านไปเขาไม่เพียงแค่ ไม่พูดจาหยอกล้อกับไป๋อี้ชิง แม้จะไม่ละเลยแต่ไม่เคยใส่ใจแม้จะไม่เย็นชาแต่ไม่เคยเอาใจ อยากได้อะไรไม่เคยขัด แต่ไม่เคยบอกว่าจะให้หากไม่ขอ ไป๋อี้ชิงรู้ดีว่าเป็นเพราะเรื่องใด แม้จะส่งคนตามหาตัวหวงหลานอีกกี่ครั้งก็ไม่มีพบพานนางอีกเลย ไป๋อี้ชิงจึงทำได้เพียง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมันก็เท่านั้นงานเฉลิมฉลองเริ่มขึ้นแล้ว ผู้คนต่างตั้งตารอคอยการแต่งตั้งฮ่องเต้ ไม่เว้นแม้แต่หวงหลานที่รอคอยวันนี้เช่นกัน สิ่งที่ฟาหยางหวังไว้สำเร็จลงแล้ว นับว่าหวงหลานลงแรงไปไม่เสียเปล่า มาลาสีทองในตำแหน่งฮ่องเต้ถูกสวมลงบนศีรษะของฟาหยางเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังกึกก้อง ร่างสูงก้าวขึ้นนั่งบนบัลลังก์มังกร ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย“เหอผิงฟาหยางฮ่องเต้ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี”ฟาหนานเป็นคนกล่าวคำถวายพระพร ขุนนางน้อยใหญ่ต่างเปล่งเสียงพร้อมกัน ดังแซ่ซ้อง ไป๋อี้ชิง ยืนเด่นเคียงข้างฟาหยาง รอยยิ้มสุขสมปรากฏที่ใบหน้างาม กงฉานก้มหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลายรู้ดีว่าฟาหยางไม่มีความสุขเท่าที่ควรเสื้อคลุมมังกรถูกสวมลงบนร่างสูง ท่าทีสง่างามอย่างที่สุดไป๋อี้ชิง เขย่งเท้าขึ้นจุมพิตท
“พี่ใหญ่ใบหน้านั้นติดอยู่ในใจข้า”“เสียดายที่ข้าไม่เห็นมันหญิงนางนั้นคงติดตราตรึงใจเจ้ายิ่งนักใช่หรือไม่หรือว่าจะเป็นไท่จือเฟย”“พี่ใหญ่นางมีตัวตนแค่เพียงในใจ หาได้มีอยู่จริงไม่”“หากไท่จือจะทำให้นางมีอยู่จริงล้วนไม่ยาก จะสถาปนาขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้วมีสิ่งใดที่อยากได้ ล้วนต้องได้”ยิ้มเศร้าๆ“พี่ใหญ่ท่านเตรียมงานคงเหนื่อยหนัก”“ไม่เท่าไหร่ ข้าเต็มยิ่งพลุแสงสีปีนี้ล้วนงดงาม ข้าหวังว่าเจ้าจะชื่นชอบมัน”“ข้าชอบทุกอย่างที่พี่ใหญ่ตั้งใจทำ”“ฟาหยาง ปีหนึ่งผ่านไปเจ้า หมดอาลัยตายอยาก ไม่แม้แต่จะร่วมประชุมขุนนางเข้าไปในท้องพระโรงแค่เพียง ต้องเข้าข้าอยากเตือนฟาหยางเรื่องราวในอดีตเก็บงำไว้เสียเดินหน้าต่อไป ทุกเรื่องล้วนมีทางออก ฟาหลางกำลังน่าชังเขาจะรู้สึกอย่างไรหากเจ้าไม่คิดจะยืนหยัดเพื่อเขา“ข้ายังรักษาคำมั่นกับคนผู้หนึ่งว่าจะดูแลปกป้องไป๋อี้ชิงข้าทำตามสัญญาแล้วไม่เคยผิดต่อนาง พี่ใหญ่ในยามนี้จิตใจข้าห่อเหี่ยว”“เอาอย่างนี้พรุ่งนี้รับตำแหน่งฮ่องเต้เรียบร้อย ข้าดูแลเรื่องโปรยเหรียญเงินแทนเจ้าส่วนเจ้าอยากออกไปข้างนอกหาความสำราญ ข้าก็ไม่ขัด”ฟาหยางคิดถึง สะพานไม้อันนั้นเขายังคงยืนนิ่งที่นั่นเมื่อมีโอก