แชร์

บทที่ 168 ดีใจอะไรนักหรือ?

ผู้แต่ง: โม่เชียนซาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-09 17:01:02
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกัน เย่เทียนซูก็ฟื้นขึ้นมา

คำพูดแรกที่เขาพูดคือ “ศิษย์พี่ใหญ่ หมิงตาว… เป็นหมิงตาวที่ทำร้ายข้า”

ซ่างกวนซีรีบเดินไปที่เตียง อวี๋เฟยเหยียนก็ช่วยพยุงเย่เทียนซูขึ้น

ส่วนเยี่ยนเว่ยฉือก็ยกชามยาเข้ามา

ซ่างกวนซีกล่าวปลอบประโลม “อย่าใจร้อน ดื่มยาก่อนเถอะ”

เย่เทียนซูพยักหน้า รับชามยาจากมือของเยี่ยนเว่ยฉือ ดื่มยาสีดำสนิทลงไป

หลังจากดื่มเสร็จแล้ว เย่เทียนซูรู้สึกว่าหายใจคล่องขึ้น ในปากรู้สึกขมก่อนแล้วก็หวาน ยังรู้สึกเย็น ๆ อีกด้วย

เขามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยสีหน้าประหลาดใจ

เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “อร่อยใช่หรือไม่? ข้าใส่ชะเอมและใบสะระแหน่ลงไปด้วย”

เย่เทียนซูกะพริบตา “มิน่าเล่าถึงได้มีรสหวาน แต่… ข้าก็ไม่ได้กลัวยาขมอยู่”

เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซี กล่าวว่า “ฝ่าบาทต่างหากที่กลัวยาขม ดังนั้นข้าจึงปรับเปลี่ยนตำรับยาหลายอย่าง เช่นนี้ เมื่อดื่มเสร็จแล้วก็จะไม่รู้สึกขมปร่า”

เย่เทียนซูและอวี๋เฟยเหยียนต่างมองซ่างกวนซี ทันใดนั้นต่างก็ประหลาดใจ “ศิษย์พี่ใหญ่กลัวยาขมด้วยหรือ?”

ซ่างกวนซีกระตุกมุมปากอย่างขัดเขิน แล้วเปลี่ยนเรื่อง “เอาล่ะ อย่าพูดเรื่องอื่น เจ้าเพิ่งบอกว่าคนที่ทำร้ายเจ้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 169 ไปเยี่ยมซ่างกวนหลี

    เยี่ยนเว่ยฉือเลิกคิ้ว “สำเร็จหรือไม่ ไปดูก็รู้แล้ว จางมามา...”“มาแล้ว มาแล้วเพคะ!” จางมามาเดินเข้ามาจากนอกห้อง มือถือของขวัญบางอย่างเยี่ยนเว่ยฉือรับของมา มองซ่างกวนซีแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท ไปกันเถิด ไปเยี่ยมจวนองค์ชายรองกัน”ซ่างกวนซีเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆแต่กลับเป็นอวี๋เฟยเหยียนที่ปฏิเสธทันที “ไม่ได้ ๆ ไปไม่ได้ ศิษย์พี่ใหญ่เป็นพี่ ทั้งยังเป็นองค์รัชทายาท ก่อนหน้านี้ไม่เคยไปเยี่ยมเขาเลย ให้ศิษย์พี่ใหญ่ถือของขวัญไปเยี่ยมเขา มิเป็นการลดฐานะของเขาหรอกหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือส่ายหน้า “ท่านไม่เข้าใจ ซ่างกวนหลียิ่งเย่อหยิ่ง เราก็ยิ่งต้องถ่อมตน ควรรู้ว่าในเมืองหลวงแแห่งนี้ บางครั้งชื่อเสียงก็สำคัญกว่าอำนาจ”ซ่างกวนซีมองเยี่ยนเว่ยฉือ ครู่หนึ่งก็พยักหน้า “เฟยเหยียน เตรียมรถม้า!”เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับเยี่ยนเว่ยฉือ…… จวนองค์ชายรองขณะนั้น ซ่างกวนเจวี๋ยก็อยู่ที่จวนองค์ชายรองเช่นกันเขามองซ่างกวนหลีด้วยความสงสัย ขมวดคิ้วถาม “เสด็จพี่รอง ท่านเป็นอะไรไป ดูอิดโรย ใต้ตาคล้ำ ริมฝีปากแห้งแตก แก้มตอบ ท่าน… ท่านดูเหมือนคนใกล้ตายเลย หรือว่าช่วงนี้จวนรับนางกำนัลเข้ามาใหม่?”“ไป

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 170 ไม่ตีหน้าคนยิ้มแย้ม

    อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้าเบา ๆ รู้สึกว่าแปลกไป แต่ก็บอกไม่ได้ว่าแปลกตรงไหนส่วนเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวด้วยความชื่นชม “โอ้ ช่างฝีมือของกรมโยธาทำงานประณีตนัก ดูสิ สวนนี้สร้างได้งดงามยิ่ง!”พ่อบ้านจวนวังองค์ชายรองยิ้ม “พระชายาชมเกินไป การซ่อมแซมนี้ มีกฎเกณฑ์ตามธรรมเนียมแต่โบราณกำหนดไว้ เราไม่สามารถฝ่าฝืน แต่ก็มิอาจทำให้องค์ชายรองเสียหน้าได้”กล่าวคือ พวกเขาทำตามกฎระเบียบ เยี่ยนเว่ยฉืออย่าคิดจะเล่นงานกับคำว่า ‘งดงาม’เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม ถามต่อ “นั่นสินะ องค์ชายรองมีชื่อเสียงเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ทั่วโลกย่อมรู้เห็น เอ๊ะ หลังจากที่เรือนหลังนี้สร้างเสร็จ องค์ชายรองก็ย้ายเข้ามาอยู่ทันทีเลยใช่หรือไม่?”พ่อบ้านจวนองค์ชายรองตกใจเล็กน้อย รีบกล่าว “แน่นอน คงไม่ไปรบกวนที่จวนองค์ชายสี่ตลอดไป”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้า “อ๋อ… ที่แท้ก็อย่างนี้เอง”การสนทนาของทั้งสอง ทำให้ซ่างกวนซีและอวี๋เฟยเหยียนรู้สึกงงงวยแต่ซ่างกวนซีรู้ว่าคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือทุกคำมีความหมายแฝงอยู่ ไม่ใช่ถามไปเรื่อยเปื่อยแต่ความหมายนั้นคืออะไร? ซ่างกวนซีก็ยังคิดไม่ออกครู่หนึ่ง ทุกคนก็มาถึงห้องนอนของซ่างกวนหลี ซ่างกวนหลีและซ่างกวน

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 171 องค์ชายรองไตวาย ใกล้จะสิ้นชีพแล้ว

    เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซ่างกวนหลีก็โมโหเขายิ้มแห้ง ๆ กล่าวว่า “ขอบพระคุณพระชายาที่ห่วงใย ข้าแข็งแรงดี ไม่ได้เจ็บป่วย”“ไม่เจ็บป่วยหรือ? แล้วเหตุใดใต้ตาจึงคล้ำเช่นนี้ เมื่อคืนไปย่องลักขโมยมาหรือ?” อวี๋เฟยเหยียนถามต่อซ่างกวนหลีโมโหจนกัดฟันกรอด เค้นเสียงลอดไรฟันว่า “รัฐทายาทอวี๋ห่วงใยข้าเช่นนี้ ช่างทำให้ใจชุ่มชื่นนัก”อวี๋เฟยเหยียนหัวเราะเยาะ “ข้าไม่มีเวลามานั่งห่วงใยคนไม่สำคัญ แต่เจ้าดูอิดโรยจริง ๆ ดูเหมือนจะสิ้นชีพในไม่ช้า โธ่… ข้ายังพอมีหน้ามีตาสำหรับฝ่าบาทอยู่บ้าง ข้าจะไปเลือกหมอหลวงฝีมือดีมาให้เจ้าเอง อย่างน้อยก่อนสิ้นชีพ ก็ให้เจ้าไปอย่างสบาย!”“อวี๋เฟยเหยียน! บังอาจ!” อะไรคือก่อนสิ้นชีพ ชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังสาปแช่งเขาให้ตาย!หากซ่างกวนหลีไม่โกรธก็ยังดี พอโกรธก็รู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมาทันใด“องค์ชาย! องค์ชาย!”“เสด็จพี่รอง! เสด็จพี่รอง! เป็นอะไรไป?”ซ่างกวนหลีล้มลงไปข้างหลัง องครักษ์จี้อู๋และซ่างกวนเจวี๋ยรีบเข้าไปประคองอวี๋เฟยเหยียนอึ้งเขาชี้ไปที่ปากของตนเอง กล่าวว่า “เทพเซียนช่วย นี่ข้าเก่งกาจเช่นนี้เลยหรือ? สามารถใช้คำพูดทำให้คนเลวคนหนึ่งตายได้? ต่อจากนี้จะฝึกวิทยายุทธไป

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 172 นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่

    เมื่อได้ยินคำว่า ‘มีรางวัลใหญ่’ หมอทุกคนก็พากันเข้าไป ดูเหมือนจะกลืนซ่างกวนหลีเข้าไปให้ได้องครักษ์จี้อู๋กล่าวด้วยความกังวล “หยุด! หยุด! อย่ารุมกันเข้ามา เข้ามาทีละคน ๆ”แต่จี้อู๋มีเพียงคนเดียว รวมกับพ่อบ้านจวนองค์ชายรองก็มีเพียงสองคน ไม่อาจหยุดชายยี่สิบสามสิบคนได้โชคดีที่พวกเขาเหล่านั้นไม่มีเจตนาทำร้าย มีแต่เจตนาช่วยเหลือคนหนึ่งจับมือซ้าย คนหนึ่งจับมือขวา แม้แต่เท้าซ้ายและเท้าขวาก็ไม่ว่างทุกคนต่างใช้ความสามารถของตนในการรักษาซ่างกวนหลีซ่างกวนซีและคณะยืนอยู่ด้านนอก รอผลอย่างเงียบ ๆได้ยินหมอคนแรกกล่าวว่า “ชีพจรผิดปกติ นี่เป็นอาการของโรคนอนไม่หลับ”หมอคนที่สองส่ายหน้า “ไม่ใช่ ชีพจรอ่อนแอ ใต้ตาคล้ำ ชัดเจนว่าเป็นโรคไตเสื่อม”หมอคนที่สามก็ปฏิเสธ “ไม่ใช่ ชีพจรเบา ลื่นไหลไม่มั่นคง นี่คือการหยางพร่อง หักโหมเรื่องอย่างว่าบ่อยเกินไป!”…… ทุกคนต่างคนต่างพูด ทำให้ดูเหมือนซ่างกวนหลีกำลังจะตายซ่างกวนซีและอวี๋เฟยเหยียนอดมองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความสงสัยไม่ได้อวี๋เฟยเหยียนกระซิบถาม “พี่สะใภ้ นี่คือพลังของปลวกหรือ? วิเศษมาก!”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มมุมปาก “หากปลวกมีพลังเช่นนี้ ฝ่าบาทจะต้องเห

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 173 คมดาบเหนือศีรษะ

    ทรมาน?เรื่องราวเปลี่ยนแปลงไปมาเร็วเกินไปแล้วอวี๋เฟยเหยียนเกาหัว “ห้าม้าฉีกร่าง? ประหารอย่างช้า ๆ? เทเหล็กหลอม หรือปักไม้ไผ่?”เยี่ยนเว่ยฉือส่ายหน้า “ไม่ใช่ นานมาแล้ว มีคนผู้หนึ่งสอบสวนบุรุษผู้หนึ่ง เขาผู้นี้มีจิตใจเข้มแข็ง ใช้การทรมานทุกอย่างก็มิอาจทำให้เขาพูดสักคำ สุดท้ายขุนนางผู้หนึ่งออกมาสอบสวน เขาเชิญหมอมาดูแลบุรุษผู้นั้นอย่างดี ไม่ถึงครึ่งเดือน บุรุษผู้นั้นถึงยอมพูด จากที่ไม่ยอมพูด กลายเป็นกลัวว่าจะพูดอะไรผิดพลาดไป”อวี๋เฟยเหยียนถามด้วยความสงสัย “เขาใช้วิธีใด?”เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “คมดาบเหนือศีรษะ ไม่สามารถนอนหลับได้ เขาไม่ได้ใช้ทรมานใด ๆ เพียงแต่ไม่ให้บุรุษผู้นั้นนอน มีคำกล่าวว่ามนุษย์เราอายุเจ็ดสิบปี หนึ่งในสามเป็นเวลาหลับ คนเราหากนอนไม่เพียงพอ นานวันเข้าร่างกายจะเสื่อมโทรม สิ่งแรกที่เสื่อมโทรมคือจิตใจ”อวี๋เฟยเหยียนเข้าใจแล้ว ขุนนางผู้นั้นไม่ให้บุรุษที่ว่านอน จึงทำให้เขายอมแพ้แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับซ่างกวนหลีอย่างไร?อวี๋เฟยเหยียนนึกถึงสภาพของซ่างกวนหลี แล้วถาม “หรือว่าสภาพของซ่างกวนหลี เป็นเพราะนอนไม่หลับ?”เยี่ยนเว่ยฉือเลิกคิ้ว “ใช่แล้ว จวนองค์ชายรองสร้างเสร็จ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 174 ยิงนกได้สามตัว

    “อ๋อ!!! ที่แท้ก็อย่างนี้เอง!” อวี๋เฟยเหยียนมองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจ พูดด้วยความชื่นชม “นี่แผนล่อลวงศรเดียวปักษาสองตัวเลยนะ ทั้งลองใจซูเค่อ ทั้งทำให้ซ่างกวนหลีนอนไม่หลับ ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม!”“ผิดแล้ว!” เยี่ยนเว่ยฉือขัดจังหวะอวี๋เฟยเหยียน “นี่ไม่ใช่ศรเดียวล่อลวงปักษาสองตัว แต่เป็นศรเดียวล่อลวงปักษาสามตัวเลยต่างหาก!”“ศรเดียวล่อลวงปักษาสามตัว? ตัวที่สามอยู่ที่ไหนล่ะ?” อวี๋เฟยเหยียนถามด้วยความอยากรู้ซ่างกวนซีทนฟังไม่ไหวแล้ว กล่าวด้วยความเหนื่อยหน่าย “เมื่อครู่ นางไม่ได้บอกให้เจ้าไปตะโกนเรียกหมอหรอกหรือ? ภายในวันนี้ ทั่วเมืองหลวงก็จะรู้แล้วว่าซ่างกวนหลีไตวาย ล้มป่วย ใกล้จะสิ้นชีพในไม่ช้า”เยี่ยนเว่ยฉือโอบแขนซ่างกวนซี ยิ้มแย้มกล่าว “ฝ่าบาทเดาได้จริง ๆ ด้วย ท่านฉลาดนัก!!”ปากหวานนัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเหลือทน แต่กลับไม่ดึงแขนออกเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “ในบรรดาคนฉลาด ฝ่าบาทเป็นผู้ที่งดงามที่สุด ในบรรดาคนงดงาม ฝ่าบาทเป็นผู้ที่ฉลาดที่สุด ดังนั้นองค์ชายรัชทายาทของข้า เป็นคนฉลาดและงดงามที่สุดในโลก!”ครั้งนี้ ซ่างกวนซีอดหัวเราะไม่ได้“ช่างซุกซนนัก!” เขาใช้มือแตะหน้าผากของเยี่ยน

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 175 เข้าเฝ้าเพื่อหารือราชการ

    เยี่ยนเว่ยฉือคาดไม่ถึงว่าแผนศรเดียวล่อลวงปักษาสามตัวของนาง กลับกลายเป็นล่อลวงปักษาได้สี่ตัวในสายตาซ่างกวนซีนี่ช่างเป็นความโชคดีอย่างไม่คาดฝัน!ดังนั้น รุ่งเช้าวันต่อมา ซ่างกวนซีจึงสวมชุดองค์รัชทายาท เข้าเฝ้าในราชสำนักต้าหลี่องค์ชายรัชทายาทไม่เคยเข้าเฝ้าในราชสำนักมาก่อน วันนี้มาด้วยตนเอง ย่อมทำให้เหล่าขุนนางแตกตื่นเหล่าขุนนางต่างมององค์ชายรัชทายาท อันกั๋วกงและอ๋องจ่างซิ่นยิ่งแสดงสีหน้าระมัดระวัง มีเพียงฮ่องเต้คังอู่บนบัลลังก์ และหยางอวิ๋นเฟิงในหมู่ขุนนางที่แสดงสีหน้ายินดีซ่างกวนซีเข้าไปใกล้ กล่าวว่า “กระหม่อมขอถวายพระพรฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”ฮ่องเต้คังอู่หัวเราะ “ชูจิ่งเอ๋อร์ ร่างกายเจ้าหายดีแล้วหรือ?”ซ่างกวนซีพยักหน้า “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมหายดีแล้ว ไม่กล้าพักผ่อนอยู่แต่ในจวน ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กระหม่อมจะเดินทางมาเข้าเฝ้าเพื่อหารือราชการ อนึ่งเพื่อถวายความช่วยเหลือแด่ฝ่าบาท และเพื่อประโยชน์อันผาสุกของราษฎร”เข้าเฝ้าเพื่อหารือราชการ?อันกั๋วกงและอ๋องจ่างซิ่นหันมองหน้ากัน ต่างรู้สึกว่าไม่เหมาะสมอ๋องจ่างซิ่นเป็นคนใจร้อน อดทนไม่ได้ ถามว่า “องค์ชายรัช

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 176 หน่วยจัดการงานขั้นห้า

    “จริงหรือ? เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลย” ซ่างกวนซียิ้มและกล่าวว่า “ข้าหวังว่าน้องรองจะแข็งแรงและกลับไปยังกรมกลาโหมโดยเร็ววันเพื่อจัดการกับค่าจ้างทหารในไตรมาสที่สอง[footnoteRef:0] ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้ล่าช้ามาเกือบเดือนแล้ว เหล่าทหารที่ปกป้องชายแดนและต่อสู้กับศัตรูยอมสละชีวิตและเลือดเนื้อเพียงเพื่อเงินไม่กี่ตำลึงกับอาหารสามมื้อต่อวัน หากทางราชสำนักจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี นั่นจะไม่ทำให้ขวัญกำลังใจของทหารสูญเสียไปอย่างใหญ่หลวงเอาหรือ?” [0: ช่วงไตรมาสที่สองของปี ซึ่งหมายถึงช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน] “อะไรนะ? ยังไม่ได้จ่ายค่าจ้างทหารในไตรมาสที่สองหรือพ่ะย่ะค่ะ?” อ๋องจ่างซิ่นอดไม่ได้ที่จะถามในฐานะที่เป็นแม่ทัพ เขาจึงกังวลกับเรื่องค่าจ้างของเหล่าทหารเป็นอย่างมากซ่างกวนซีพยักหน้าและกล่าวว่า “เป็นเรื่องจริงที่ยังไม่ได้มีการแจกจ่าย”อ๋องจ่างซิ่นขมวดคิ้วและพูดว่า “เจ้ากรมกรมกลาโหมอยู่ที่ใด? ออกมาเดี๋ยวนี้!”เจ้ากรมกลาโหมเจี่ยงกวงจี้เดินออกมาอย่างเร่งรีบและพูดด้วยสีหน้าขมขื่นว่า “กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”อ๋องจ่างซิ่นถามว่า “เจ้าทำงานอย่างไรของเจ้า? ค่าทหารในไตรมาสที่สองนี้ควรจะจ่ายไปตั้งแต่เดื

บทล่าสุด

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 229 หวังให้ผลสุกงอมและให้ผลผลิตอีกมากมาย

    เยี่ยนเว่ยฉือหันไปมองฉินเซียงหรูที่อยู่ไม่ไกลนัก เห็นฉินเซียงหรูกำลังยิ้มเยาะเบา ๆ อยู่เขาชักแขนเสื้อขึ้น ถือสมุนไพร กล่าวอย่างมีนัยสำคัญว่า “องค์รัชทายาท แท้จริงแล้วเป็นบุคคลที่เปิดเผยที่สุดในโลก!”“แค่กแค่กแค่ก...” เยี่ยนเว่ยฉือแทบจะสำลักน้ำลายตนเองนางทำท่าเขินอาย เดินเข้าไปหาเด็กหญิงทั้งสอง กล่าวว่า “เอาล่ะ อย่ามัวคุกเข่าอยู่เลย ลุกขึ้นมาพูดคุยกันเถอะ”ทั้งสองสบตากัน แล้วก็ลุกขึ้นยืนเยี่ยนเว่ยฉือถามต่อว่า “พวกเจ้าอายุเท่าไร?”ไคจือตอบว่า “หม่อมฉันอายุสิบห้าปีเพคะ บ้านอยู่ที่หมู่บ้านหลี่เจีย เมื่อก่อนท่านแม่ป่วย ท่านพ่อจึงขายหม่อมฉันให้กับตลาดค้าทาส บัดนี้ท่านแม่จากไปแล้ว ท่านพ่อจึงแต่งงานใหม่ ไปใช้ชีวิตอยู่ทางใต้”กล่าวอีกนัยหนึ่ง นางไม่มีญาติพี่น้องในเมืองหลวงอีกแล้วเยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าเบา ๆ แล้วหันไปมองซ่านเย่ซ่านเย่ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่า กล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวว่า “หม่อมฉัน… หม่อมฉันอายุสิบสี่ปีเพคะ เป็นเด็กกำพร้า มาจากทางใต้ ตามพ่อค้าตลาดค้าทาสมายังเมืองหลวง ไร้ญาติขาดมิตร”จางมามาเข้ามาใกล้เยี่ยนเว่ยฉือ กระซิบว่า “พระชายาวางใจเถิดเพคะ เด็กหญิงทั้งสอง หม่อมฉันไ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 228 แตกหน่อแผ่กิ่งก้าน

    ซ่างกวนซีพยักหน้า “ถูกต้อง ส่วนเหตุผลที่พวกเขาปิดบังข่าวสาร ย่อมได้รับคำสั่งจากเบื้องบนแน่ เรื่องที่สองที่ข้าให้เจ้าไปสืบหา คือการสืบหาว่าพวกเขาได้รับคำสั่งจากผู้ใด อ๋องจ่างซิ่นหรืออันกั๋วกง”อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้ารับ “ไม่มีปัญหา แล้วเรื่องที่สามเล่า?”เมื่อเอ่ยถึงเรื่องที่สาม ซ่างกวนซีลังเลอยู่ครู่หนึ่งพระองค์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “มือสังหารสวมหน้ากากจากเป่ยอิ้นเป็นภัยคุกคามต่อเว่ยฉือ เขาเคยเห็นใบหน้าของเว่ยฉือ” ซ่างกวนซีหมายถึงเฉี่ยงหวู่อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้ว “ศิษย์พี่ใหญ่กลัวว่าเขาจะจำเยี่ยนเว่ยฉือได้?”ซ่างกวนซีพยักหน้า “ถูกต้อง เขาเป็นทหารองครักษ์แห่งกองราชองครักษ์ของเป่ยอิ้น มาพร้อมกับอวี้ฉีอวิ๋นจ้าว หากเขารู้จักเว่ยฉือจริง อวี้ฉีอวิ๋นจ้าวและอวี้ฉีอวิ๋นจิ่นย่อมมารบกวนเว่ยฉือในภายหลัง การมีความเกี่ยวข้องกับคนเป่ยอิ้น จะทำให้ตกเป็นเป้าหมาย ให้โอกาสอันกั๋วกงและอ๋องจ่างซิ่นใส่ร้ายป้ายสี”อวี๋เฟยเหยียนเข้าใจ ซ่างกวนซียังคงกังวลเรื่องปิ่นปักผมทองคำประดับหางหงส์นี่เองอวี๋เฟยเหยียนกล่าวว่า “ข้าจะหาทางฆ่าเขาเสีย!”ซ่างกวนซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วก็ส่ายหน้า “ไม่ไ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 227 ไม่อาจครุ่นคิดฟุ้งซ่านได้อีกต่อไป

    “ข้า...ข้าขอตัวก่อน!” เยี่ยนเว่ยฉือรีบวิ่งไปยังเรือนพักของตน ท่าทางนั้นดูราวกับว่ากำลังตกใจกลัวอวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ศิษย์พี่ใหญ่ นางเป็นอะไรรึ?”ซ่างกวนซีก็ไม่รู้จะอธิบายเช่นไรเขาจะกล่าวได้อย่างไรว่า เมื่อครู่ทั้งสองได้เห็นชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังทำเรื่องแนบชิดสนิทสนมกันไม่ได้ ไม่อาจระลึกถึงได้อีกต่อไปปรากฏว่าตำราลับห้องหอวสันตฤดูนั้นราบเรียบเกินไป ไม่อาจเทียบได้กับความจริง ซึ่งน่าตกตะลึงยิ่งนัก“เอ่อ… ข้าเหนื่อยแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน!”ซ่างกวนซีว่าแล้วก็จากไป มุ่งหน้าไปยังเรือนพักของตนอวี๋เฟยเหยียนมองไปยังทิศทางที่ซ่างกวนซีเสด็จไป แล้วมองไปยังทิศทางที่เยี่ยนเว่ยฉือจากไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง คิดในใจว่า “คืนนี้ทำไมถึงไม่นอนด้วยกันเล่า?”…… ไม่เพียงแต่ไม่นอนด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะนอนกันคนละที่ ทั้งสองก็ไม่อาจข่มตาหลับได้เยี่ยนเว่ยฉือนอนอยู่บนเตียง ครู่หนึ่งก็คิดถึงมือสังหารชุดดำที่ต้องการสังหารนาง ครู่หนึ่งก็คิดถึงปิ่นปักผมทองคำที่ซ่อนเร้นแผนการอยู่ ครู่หนึ่งก็อดคิดถึงพี่น้องตระกูลอวี้ฉือไม่ได้ว่าทำไมจึงประพฤติตนเช่นนั้น?เมื่อนึกถึงพี่น้องตระกูลอวี้ฉือ ก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 226 หน้าแดง

    เมื่อเห็นว่าสถานการณ์คับขัน ซ่างกวนซีครุ่นคิดว่า ควรจะผลักเยี่ยนเว่ยฉือออกไป แล้วตัวเองถ่วงเวลาไว้ดีหรือไม่แต่ก่อนที่เขาจะคิดได้ เยี่ยนเว่ยฉือก็โยนสิ่งของบางอย่างไปทางด้านหลังเกิดเสียงดังปัง ขวดเล็กตกแตก ควันขาวหนาทึบพวยพุ่งออกมา ทำให้ทหารองครักษ์ที่ตามมาน้ำหูน้ำตาไหล สำลักควัน ไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้อีกซ่างกวนซีเห็นดังนั้นจึงพาเยี่ยนเว่ยฉือหลบเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ รอดพ้นจากการไล่ล่าของคนเป่ยอิ้นไปได้อย่างหวุดหวิดเมื่อพั่วจวินออกมาอีกครั้งก็ไม่พบร่องรอยของทั้งสองแล้วพั่วจวินขมวดคิ้วกล่าว “วิทยายุทธ์เยี่ยมยอดเช่นนี้ เป็นผู้ใดกัน?”…… เมื่อพั่วจวินกลับมารายงาน อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวและอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นก็แต่งกายเรียบร้อยแล้วอวี้ฉืออวิ๋นจ้าวถามด้วยความกังวลว่า “คนล่ะ? ฆ่าตายหรือไม่?”พั่วจวินพยักหน้ากล่าวว่า “กระหม่อมไร้ความสามารถ ปล่อยให้พวกเขารอดไปได้ ดูจากรูปร่างแล้วเป็นชายหญิงคู่หนึ่ง ชายผู้นั้นวิทยายุทธ์ล้ำเลิศ ส่วนสตรีมีอาวุธลับ อาวุธลับนั้นสามารถแปรเป็นควัน ทำให้มองไม่เห็น”อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวก็ยังคงสุภาพกับพั่วจวิน ไม่ได้โกรธเคืองที่จับตัวไม่ได้ แต่เพียงคาดเดาว่า “ชายหญิง หรือว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 225 ถูกพบเข้าแล้ว

    ซ่างกวนซีโอบกอดเอวของเยี่ยนเว่ยฉือไว้แน่น นิ่งอยู่กับที่ราวกับรูปปั้นพั่วจวินไม่ใช่ทหารองครักษ์ธรรมดา แต่เป็นมือสังหารที่มีรายชื่ออันดับสองในบัญชีอู๋ซินไม่ต้องกล่าวถึงว่าเขาจะมีโอกาสชนะหรือไม่ แม้แต่การพาเยี่ยนเว่ยฉือหนีไปก็ยากยิ่งนักดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในเวลานี้ คือการรอคอยให้เหตุการณ์คลี่คลายไปตามธรรมชาติรอให้คนเป่ยอิ้นจากไปก่อน แล้วจึงหาทางจากไปเยี่ยนเว่ยฉือก็เข้าใจเหตุผลนี้เช่นกัน จึงนิ่งอยู่กับที่ แม้แต่ลมหายใจก็เบาบางยิ่งนักเดิมทีคิดว่าพี่น้องตระกูลอวี้ฉือจะต้องปรึกษาหารือแผนการบางอย่างแต่กลับเห็นเหตุการณ์ที่น่าอับอายปรากฏว่าอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นทรุดตัวลง เข้าไปในอ้อมอกของอวี้ฉืออวิ๋นจ้าว กล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “เสด็จพี่สาม ท่านได้ยินหรือไม่ เขากล่าวว่าต้าหลี่มีหญิงงามล่มเมือง เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? จิ่นเอ๋อร์ไม่ยอม!”อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวเชยคางของอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นขึ้น ยิ้มเยาะว่า “แล้วเจ้าต้องการอะไร? เพียงได้กลิ่นเลือดก็อดใจไม่ไหว แม้แต่โรงเตี๊ยมก็รอไม่ไหว? ต้องทำกันกลางที่โล่งแจ้งเช่นนี้หรือ?”อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นจับมือของอวี้ฉืออวิ๋นจ้าวไว้ ดึงมือของเขาออกจากคาง ออด

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 224 ลงมืออย่างโหดเหี้ยม

    เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของซ่างกวนซีก็เปลี่ยนสีทันที เยี่ยนเว่ยฉือก็อดวิตกกังวลไม่ได้เช่นกันสตรีที่พวกเขาพูดถึง เห็นได้ชัดว่าคือเยี่ยนเว่ยฉือทั้งสองยังคงเงียบ มองดูเหตุการณ์เบื้องล่างต่อไปอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นขมวดคิ้วถามว่า “เบาะแส? เบาะแสอะไร?”เฉี่ยงหวู่รีบกล่าวว่า “ทูลองค์หญิง สตรีนางนั้นได้ทำปิ่นทองคำชิ้นหนึ่งตกไว้ ปิ่นทองคำนั้นถูกเจ้าหน้าที่เมืองหลวงเก็บไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ของแคว้นต้าหลี่ ดูเหมือนจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเราและสตรีนางนั้น พวกเขาคิดว่าสตรีนางนั้นเป็นคนทรยศที่ร่วมมือกับพวกเรา ดังนั้น เวลานี้ทั้งเมืองหลวงจึงกำลังตามหาสตรีนางนั้น พวกเราเพียงแค่รอ ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ เมื่อเจ้าหน้าที่ต้าหลี่จับตัวสตรีนางนั้นได้ พวกเราก็สามารถจับตัวนางไปหาฮวาอวี๋ได้”อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นหันไปมองอวี้ฉืออวิ๋นจ้าว เพื่อฟังความคิดเห็นของเขาอวี้ฉืออวิ๋นจ้าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “ที่นี่เป็นเมืองหลวงของต้าหลี่ ปล่อยให้พวกเขาจัดการเอง ย่อมราบรื่นกว่าพวกเราลงมือทำ ก็ดี ให้พวกเขาตามหา พวกเราเพียงรออยู่ก็แล้วกัน”เฉี่ยงหวู่และพวกพ้องต่างก็โล่งใจเมื่อครู่ พว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 223 องค์หญิงแห่งเป่ยอิ้น

    เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง กระซิบเตือนเบา ๆ ว่า “ฝ่าบาท เป็นเขา ชาวคนเป่ยอิ้นคนนั้น”ซ่างกวนซีคว้าเอวของเยี่ยนเว่ยฉือไว้ กระโดดไปยังหลังคาอย่างเงียบเชียบครู่ต่อมา มือสังหารสวมหน้ากากแห่งเป่ยอิ้นพร้อมกับพวกพ้อง เดินผ่านตรอกเล็ก ๆ ใต้ต้นไม้ที่ทั้งสองซ่อนตัวอยู่ มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของเมืองทั้งสองรีบร้อน ดูเหมือนจะร้อนใจอย่างยิ่งซ่างกวนซีรัดเอวของเยี่ยนเว่ยฉือไว้แน่น กล่าวเบา ๆ ว่า “เราไปดูกันเถอะ!”เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้ปฏิเสธ…… ทิศเหนือของเมือง ณ เรือนร้างซ่างกวนซีตามไปพร้อมกับเยี่ยนเว่ยฉือ ตามรอยบุรุษชุดดำ จนมาถึงเรือนร้างแห่งหนึ่งทางทิศเหนือของเมืองทั้งสองซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ มองลงไปในลานบ้าน เห็นกลุ่มคนที่ยืนอยู่หัวหน้าเป็นชายหญิงคู่หนึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นองครักษ์มือสังหารสวมหน้ากากแห่งเป่ยอิ้นเดินเข้าไปในลานบ้าน เมื่อเห็นชายหญิงคู่นั้น จึงคุกเข่าข้างหนึ่ง รายงานว่า “กระหม่อมเฉี่ยงหวู่ ขอคารวะองค์ชายสาม คารวะองค์หญิงอวิ๋นจิ่น” ปรากฏว่ามือสังหารผู้นี้มีนามว่าเฉี่ยงหวู่ส่วนองค์หญิงอวิ๋นจิ่นที่เขาเอ่ยถึง ทำให้ซ่างกวนซีตกใจจนดวงตาเบิกกว้างเขารู้แล้วว่าชายหญิงคู่นั้นเป็น

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 222 จักจั่นทองลอกคราบ

    นี่เป็นครั้งแรกที่เยี่ยนเว่ยฉือได้สัมผัสถึงฝีมือวิทยายุทธของซ่างกวนซี นางอดที่จะเปรียบเทียบซ่างกวนซีกับฮวาอวี๋ไม่ได้ฮวาอวี๋บินได้เร็ว แต่ซ่างกวนซีบินได้อย่างมั่นคงแม้ว่าเท้าจะลอยอยู่บนอากาศ เยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกปลอดภัย“ศพอยู่ข้างในสามศพ ถูกไฟไหม้จนเสียโฉม เจ้าแน่ใจหรือว่า… เจ้าจะทำได้?” ซ่างกวนซียังคงกังวลว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะรับมือไม่ไหวเยี่ยนเว่ยฉือกลับมาตั้งสติ พยักหน้ากล่าวว่า “ฝ่าบาทวางใจเถิด ข้าเคยเห็นศพที่น่าสยดสยองกว่านี้มาแล้ว”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วด้วยความสงสัย มองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างพิจารณานางอายุยังน้อย อยู่แต่กับหมู จะเคยเห็นศพที่น่าสยดสยองกว่านี้ได้อย่างไร?ก่อนที่ซ่างกวนซีจะคิดได้ เยี่ยนเว่ยฉือก็เดินไปหาศพแล้วนางเปิดผ้าขาวที่คลุมศพออก เห็นศพที่ถูกไฟไหม้จนเสียโฉมซ่างกวนซีสังเกตสีหน้าของเยี่ยนเว่ยฉืออย่างละเอียด พบว่านางมีสีหน้าสงบ ไม่มีความหวาดกลัวหรือรังเกียจแม้แต่น้อยซ่างกวนซีขมวดคิ้วเล็กน้อย ยิ่งรู้สึกว่าเยี่ยนเว่ยฉือไม่ธรรมดาแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก แต่รอผลการชันสูตรศพของเยี่ยนเว่ยฉืออย่างเงียบ ๆเยี่ยนเว่ยฉือตรวจสอบศพไปพลาง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 221 ชันสูตรศพ

    ซ่างกวนซีพยักหน้าเบา ๆ มองไปยังเบื้องหน้าพลางกล่าวกับตนเองเบา ๆ ว่า “จะเป็นผู้ใดกันเล่า? อันกั๋วกง? อ๋องจ่างซิ่น? หรือว่า... ผิงอี้โหว?”อวี๋เฟยเหยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “คงไม่ใช่อ๋องจ่างซิ่นหรอก เขาไม่มีสติปัญญาเฉือยบแหลมเช่นนั้น!”ซ่างกวนซีพยักหน้ารับ “และก็ไม่ใช่อันกั๋วกงเช่นกัน หากอันกั๋วกงเป็นผู้วางแผน อันกั๋วกงกับซ่างกวนหลีก็ย่อมรู้ทั้งคู่ว่าผู้ซื้อปิ่นทองคำนั้นคือเยี่ยนเว่ยฉือ บ่อนพนันก็ไม่จำเป็นต้องนำภาพวาดไปเสาะหาผู้ใด เพียงแต่สอบถามจากซ่างกวนหลีก็จะรู้ได้แล้วว่าผู้ซื้อปิ่นทองคำคือเยี่ยนเว่ยฉือ”อวี๋เฟยเหยียนกระตุกมุมปากเล็กน้อย กล่าวว่า “คงไม่ใช่ผิงอี้โหว เยี่ยนหานซานหรอกใช่หรือไม่? เขาก็ดูไม่ใช่คนมีสติปัญญาเช่นกัน!”ซ่างกวนซีถอนใจอย่างช่วยไม่ได้ กล่าวว่า “ข้าเป็นองค์รัชทายาท มีศัตรูมากมาย นอกจากที่ปรากฏแก่สายตาแล้ว ยังมีผู้ลอบคิดร้ายอีกมากมาย เหอะ!”อวี๋เฟยเหยียนรีบปลอบประโลมว่า “ศิษย์พี่ก็อย่ากังวลมากนักเลย อย่างไรเสีย เวลานี้ก็มีเพียงผู้ที่คิดร้ายต่อพวกเราเท่านั้นที่รู้ว่าปิ่นทองคำอยู่กับเยี่ยนเว่ยฉือ ตราบใดที่พวกเราไม่ยอมรับ พวกเขาก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าพวกเ

DMCA.com Protection Status