“นี่ ๆ ๆ องค์รัชทายาท ช้าก่อน ท่านจะรีบไปไหนเนี่ย!” เยี่ยนเว่ยฉือเกือบล้มหน้าคะมำซ่างกวนซีลากนางเข้าไปในห้องนอนโดยปราศจากคำอธิบาย จากนั้นก็เอื้อมมือไปปิดประตูเยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าอากาศรอบตัวเริ่มร้อนระอุและคลุมเครือขณะที่นางกำลังสับสน ซ่างกวนซีก็ชี้ไปที่ตั่งเตี้ย ๆ ข้างเตียงแล้วพูดว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้านอนตรงนี้”เยี่ยนเว่ยฉือมองเตียงใหม่ที่แสนกว้างขวาง จากนั้นก็มองไปที่ตั่งเล็กแคบ ๆ สุดท้ายก็หันไปมองซ่างกวนซี ดวงตากลมโตของนางกะพริบด้วยความสับสนซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า “ฟังไม่รู้เรื่อง?”มุมปากของเยี่ยนเว่ยฉือกระตุก ไม่ใช่ว่านางฟังไม่รู้เรื่อง นางแค่...ไม่เข้าใจนิดหน่อย“องค์รัชทายาทนอนกับข้าแล้วรู้สึก...อึดอัดมากเลยหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉืออดไม่ได้ที่จะถามซ่างกวนซีขมวดคิ้ว ไม่ใช่เพราะเขาอึดอัด แต่เพราะใจเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวต่างหากวิชาสหัสเหมันต์ควรถูกนำมาใช้ช่วยชีวิต ไม่ใช่เพื่อช่วยให้เขาระงับความปรารถนาของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าเยี่ยนเว่ยฉือที่ทำสีหน้าไม่รู้ความและไร้เดียงสา ราวกับไม่รู้ตัวว่าท่าทางที่งดงามนี้น่าหลงใหลเป็นที่สุดเขาไม่ใช่คนตายด้านทั้งยัง
โดยเฉพาะซ่างกวนซีที่ถามอย่างหมดคำจะพูด “พูดอะไรของเจ้า? เหตุใดข้าต้องถอดเสื้อผ้าด้วย!”เยี่ยนเว่ยฉือส่ายขวดยาในมือ กะพริบตาแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาททิ้งสมองไว้ในอ่างตอนที่อาบน้ำรึ? เมื่อครู่ข้าก็เพิ่งบอกว่าข้าไปหยิบยา และนั่นก็เป็นยาที่จะเอามาทาให้ท่าน ซึ่งแน่นอนว่าตอนทายาก็ต้องถอดเสื้อผ้าอย่างไรเล่า!”ซ่างกวนซีพูดไม่ออกชั่วขณะ เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “บังอาจนัก!” กล้าดีอย่างไรถึงมาว่าเขาไม่มีสมอง?เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม ก้าวไปดึงข้อมือของซ่างกวนซีแล้วเดินไปที่โต๊ะนางคุ้นชินกับความปากร้ายแต่ใจดีของซ่างกวนซีแล้ว“เอาล่ะ ๆ นี่ไม่ใช่วันแรกที่ข้าทำตัวอวดดีเสียหน่อย ท่านควรจะชินได้แล้ว มา ถอดเสื้อผ้า!”เยี่ยนเว่ยฉือหยิบขวดยาขึ้นมาและรอให้ซ่างกวนซีเปลื้องผ้าซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า “แผลภายนอกก็หายดีหมดแล้ว เหตุใดข้าต้องยาทาอีก?”เยี่ยนเว่ยฉือกระพริบตาแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ก็เพื่อห้ามเลือดและลดการอักเสบ แต่ตอนนี้ใช้ลบรอยแผลเป็น เพื่อความสวยงามอย่างไรเล่า!”“ลบรอยแผลเป็นรึ?” ซ่างกวนซีพูดอย่างจนใจ “ข้าไม่จำเป็นต้องลบรอยแผลเป็นหรอก”เขาอยู่ในสนามรบมมาตลอดทั้งปีและมีรอยแผลเป็นบนร่างกายนับไม
“แตะ...แตะต้องข้า?” ดวงตากลมโตของเยี่ยนเว่ยฉือกะพริบปริบ ๆ ดูเหมือนนางจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ซ่างกวนซีพูด“ไม่เข้าใจรึ? เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้สัมผัสมันเอง!” ทันทีที่ซ่างกวนซีพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็รู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุนขณะที่นางกำลังจะมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ชัดเจน นางก็ถูกอุ้มขึ้นมาแล้ว“ว้าย! องค์รัชทายาท นี่ท่านทำอะไรเนี่ย?!” ทายาให้อยู่ดี ๆ เหตุใดจู่ ๆ คนผู้นี้ถึงได้อุ้มนางเล่า?ซ่างกวนซีวางนางไว้บนเตียงโดยไร้ซึ่งคำอธิบายใด ๆ จากนั้นเขาก็โน้มตัวทาบทับลงมาอย่างฉับพลันลมหายใจของเยี่ยนเว่ยฉือเริ่มติดขัดในทันที แม้นางจะหัวช้าแค่ไหน แต่นางก็เข้าใจสายตาคุกคามของซ่างกวนซีนี่มันแย่สุด ๆ!นางเพียงแค่ทายาให้ซ่างกวนซีก็เท่านั้น เขาจะเนรคุณนางเช่นนี้ได้อย่างไร?เยี่ยนเว่ยฉือรีบวางมือบนหน้าอกของซ่างกวนซีและพูดตะกุกตะกัก “อะ…องค์รัชทายาท…จะ...ใจเย็นก่อน!”ซ่างกวนซีโต้กลับด้วยความโกรธ “เจ้าจะให้ข้าใจเย็นได้อย่างไรในเมื่อเจ้าลูบ ๆ คลำ ๆ ข้าเช่นนี้? เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าจะยั่วข้าแล้วปฏิเสธอยู่ร่ำไปเยี่ยงนี้จนถึงเมื่อไร?”“องค์รัชทายาท ข้าเปล่านะ ข้า...ข้ามีเจตนาดีหวังจะทายาให้ท่าน ไม่
เยี่ยนเว่ยฉือไม่รู้ว่าซ่างกวนซีจะทำอะไร แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้องตอนนี้นางจิตใจไม่สงบเป็นอย่างมาก แต่การที่คนสองคนแนบชิดกัน อีกทั้งนางก็อยู่ในสภาพที่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเช่นนี้ จะให้นางใจเย็นอย่างไร??นางมองซ่างกวนซีอย่างประหม่า เห็นเขาเหยียดนิ้วเรียวยาวไปแต้มขี้ผึ้งขึ้นมาแล้วค่อย ๆ ถูบนไหล่ของเยี่ยนเว่ยฉือเขาถามเสียงทุ้ม “ตอนนี้...เจ้าเข้าใจแล้วหรือยัง?”“ขะ...เข้าใจอะไร?” เยี่ยนเว่ยฉือสับสนนิ้วของซ่างกวนซีค่อย ๆ เลื่อนลงมาตามไหล่เรียบเนียนของนาง ไล่ไปที่กระดูกไหปลาร้าของนางแล้วลูบเบา ๆ “เช่นนี้เล่า เข้าใจหรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “องค์รัชทายาท ทะ...ท่านโปรดพูดให้ชัดเจนกว่านี้หน่อยสิ วะ...ว่าข้าควรเข้าใจอะไร?”ซ่างกวนซีจนใจ ที่เขาจนใจนั้นไม่ใช่เพียงเพราะความหัวช้าของเยี่ยนเว่ยฉือ แต่ยังเป็นเพราะปฏิกิริยาของตัวเองด้วยหากเยี่ยนเว่ยฉือยังไม่เข้าใจอีก เขาก็จะทนไม่ไหวแล้ว!นิ้วของซ่างกวนซีที่เปื้อนขี้ผึ้งเนื้อเนียน ยังคงเคลื่อนช้า ๆ ไปตามกระดูกไหปลาร้าของเยี่ยนเว่ยฉือ และหลังจากนั้นไม่นาน มันก็เคลื่อนมาถึงขอบกางเกงชั้นในของเยี่ยนเว่ยฉือซ่างกวนซีถามเสียงท
ปึง!ประตูถูกเปิดออกด้วยแรงจากฝ่ามือ กระแทกชวนหงเข้าอย่างแรง“โอ๊ย——” ยังไม่ทันที่นางจะกรีดร้องจนสิ้นเสียง ชวนหงก็ถูกประตูกระแทกจนหมดสติและเลือดกำเดาสีแดงสดไหลลงมาอาบหน้าของนางในทันทีเสียงความวุ่นวายที่ดังอึกทึกทำให้พ่อบ้านจางกับจางมามา รวมไปถึงซูเค่อและหว่านฉิงที่อยู่ตรงเรือนด้านนอกต่างก็ได้ยินกันหมดจางมามาไม่ยอมให้สาวใช้ทั้งสองเข้ามา พาเพียงแค่พ่อบ้านจางเข้าไปตรวจสอบในเรือนคนชราทั้งสองมีสายตาที่หลักแหลม เมื่อพวกเขาเห็นประตูห้องเปิดอยู่และเห็นซ่างกวนซีนั่งอยู่ในห้อง ส่วนชวนหงนอนอยู่ในเรือน พวกเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจางมามาตะโกนไปทางประตู “พวกเจ้าสองคนมัวยืนเหม่ออะไรอยู่ ไม่รีบแบกนางกลับไปอีก?”ซูเค่อและหว่านฉิงมองหน้ากัน จากนั้นก็รีบก้าวไปแบกชวนหงออกไปทั้งสองปฏิบัติตามโดยไม่ได้ถามอะไรแม้แต่คำเดียวหลังจากคนอื่น ๆ ไปกันหมดแล้ว จางมามาก็ก้าวไปปิดประตูโดยไม่พูดอะไรซ่างกวนซีถอนหายใจ แม้เขาจะรำคาญชวนหงจนระบายอารมณ์ออกไป แต่ก็สามารถระงับความว้าวุ่นของเขาได้เขายิ้มเจื่อนด้วยความละอาย “นี่ข้าเป็นอะไรเนี่ย? โตจนป่านนี้แล้วแท้ ๆ หรือว่าข้าอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวมานานเกินไป?”
“ท่านรัฐทายาท ท่านกำลังตามหาองค์รัชทายาทหรือขอรับ ตอนนี้พระองค์ไปที่เรือนด้านหน้าแล้วขอรับ” พ่อบ้านจางกล่าวอวี๋เฟยเหยียนพยักหน้า จากนั้นหันไปมองผ้าห่มแล้วพูดด้วยความสับสน “เกิดอะไรขึ้น? จะซักผ้าห่มรึ? ศิษย์พี่ใหญ่ของข้าคงไม่ได้ฉี่รดที่นอนหรอกนะ ฮ่า ๆ ๆ!”พ่อบ้านจางคุ้นชินกับนิสัยชอบหยอกล้อของอวี๋เฟยเหยียนแล้วเขาจึงทำเพียงแค่หัวเราะและพูดว่า “เฮอะ ๆ ๆ ปกติขอรับ ปกติ!”อวี๋เฟยเหยียนกะพริบตา อีกฝ่ายหมายถึงอะไร เหตุใดเขาถึงฟังไม่เข้าใจ?พ่อบ้านจางไม่มีเวลาอธิบายมากนัก เขาจึงรีบกล่าวขอตัวจากไปอวี๋เฟยเหยียนเกาหัว “หมายถึงอะไรกัน?”อวี๋เฟยเหยียนเงยหน้ามองท้องฟ้า เป็นเวลาชั่วครู่หนึ่งที่เขาจำไม่ได้ว่าวันนี้เป็นวันอะไรแต่จะเป็นวันอะไรก็ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือวันนี้เป็นวันที่ซ่างกวนหลีนัดซื้อโรงงานทำร่มกระดาษน้ำมันของตระกูลเย่……เมื่ออวี๋เฟยเหยียนมาถึงเรือนด้านหน้า ก็เห็นซ่างกวานซีกำลังรับประทานอาหารเช้าเพียงลำพังเขามองไปรอบ ๆ ห้องด้วยความสับสน จากนั้นจึงหันไปมองที่เรือนแล้วถามว่า “เยี่ยนเว่ยฉือเล่า?”ซ่างกวนซีตอบเสียงเรียบ “ยังไม่ตื่น”อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้าและพูดว่า “เช่นนั้
“พรืด!” เยี่ยนเว่ยฉือกลั้นไม่ไหวและพ่นโจ๊กสีขาวในปากออกมาจนทำให้อาหารบนโต๊ะไม่สามารถกินต่อได้แล้วศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองหันมามองนางเยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกอายมากจนไม่รู้ว่าจะปิดหน้าหรือปิดปากดี แต่นางก็กลั้นไม่ไหวแล้ว“ฮ่า ๆ ๆ ! ฮ่า ๆ ๆ !” เสียงหัวเราะราวกับระฆังเงินดังก้องไปทั่วทั้งห้องซ่างกวนซีสูดลมหายใจลึก คิดอยากจะเตะอวี๋เฟยเยียนไปให้พ้น ๆ เสีย!อวี๋เฟยเหยียนเกาหัว “ข้าเดาผิดหรือ?”ซ่างกวนซีเมินอีกฝ่าย และมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือ “น่าขันมากนักรึ?”เยี่ยนเว่ยฉือส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ไม่หรอก ไม่น่าขันเลย แต่ถึงจะน่าขันนางก็ไม่กล้าหัวเราะอวี๋เฟยเหยียนไม่เข้าใจ แต่นางเข้าใจดีเยี่ยนเว่ยฉือเม้มริมฝีปากแน่น ยังคงอยากหัวเราะอยู่เพราะนางรู้ว่าเหตุผลที่ซ่างกวนซีทำเช่นนั้นน่าจะเป็นเพราะนางทายาให้คาดไม่ถึงว่าองค์รัชทายาทแห่งแผ่นดินจะมีความเป็นสุภาพบุรุษ แม้เขาจะอึดอัด แต่เขาก็ไม่บังคับให้นางยินยอมที่สำคัญกว่านั้น เขาไม่ใช่คนที่กินไม่เลือก ไม่เคยคิดเกินเลยกับสาวใช้แสนสวยทั้งสี่คนนั้นเลยช่างรักษากายให้บริสุทธิ์เช่นนี้!เยี่ยนเว่ยฉือเม้มปากยิ้ม รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว……หล
อวี๋เฟยเหยียนพูดด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดถึงเป็นเขาล่ะ?”เยี่ยนเว่ยฉือถามว่า “เขาคือใครหรือ?”อวี้เฟยหยานอธิบายว่า “หยางอวิ๋นเฟิง รองเจ้ากรมพลเรือนที่มีชื่อเสียงในด้านดี เขาเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา แล้วเขามาร่วมมือกับซ่างกวนหลีได้อย่างไร?”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ดูเหมือนขุนนางผู้ซื่อสัตย์ที่ข้าชอบใจ เก้าในสิบคนจะเป็นหนามยอกอกของตระกูลอันกั๋วกง”อวี๋เฟยเหยียนหันไปมองซ่างกวนซี “ศิษย์พี่ใหญ่หมายความว่าซ่างกวนหลีจงใจเลือกเขา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วไป แต่หากเกิดเรื่องก็จะโยนความผิดทุกอย่างไปให้เขาและกำจัดเขาทิ้งใช่หรือไม่ขอรับ?”ซ่างกวนซีพยักหน้าอวี๋เฟยเหยียนพูดต่ออย่างเป็นกังวล “เช่นนั้นพวกเราควรทำอย่างไรกันดี? จะทำตามแผนเดิมหรือไม่? หากยึดตามแผนเดิม วันนี้เขาต้องประสบปัญหาใหญ่แน่”ซ่างกวนซีมองไปที่หยางอวิ๋นเฟิงอย่างเงียบ ๆ หลังจากนั้นไม่นาน เขาและเยี่ยนเว่ยฉือก็พูดพร้อมกัน “ทำตามแผนเดิม!”ซ่างกวนซีเป็นคนพูดนั้นไม่เท่าไร แต่เหตุใดเยี่ยนเว่ยฉือถึงตัดสินใจเช่นเดียวกัน?ซ่างกวนซีและอวี๋เฟยเหยียนต่างมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือโดยไม่รอให้ทั้งสองถาม เยี่ยนเว่ยฉือก็พูดขึ้น
เยี่ยนเว่ยฉือล่วงรู้แต่แรกแล้วว่าเรื่องราวคงไม่ยุ่งยากทว่านางไม่คาดคิดว่าทุกสิ่งจะราบรื่นถึงเพียงนี้ครั้นเห็นท่านหญิงหมิงหยางหยิบเงินหมื่นตำลึงออกจากห้องบัญชีได้อย่างง่ายดายเยี่ยนเว่ยฉือก็ล่วงรู้ว่าบิดาจอมปลอมของนางคงไม่ได้ละเว้นการยักยอกสินบนท่านหญิงหมิงหยางยื่นเงินให้แก่ฝูกวง น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยว่า “ท่าน...ท่านจอมยุทธ์ เรื่องราวค่ำคืนนี้...ล้วน ไม่ใช่...ไม่ใช่ความต้องการของข้า มันล้วน...ล้วน...”“ค่ำคืนนี้มีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือ? ข้าไม่เห็นสิ่งใดเลย!” ฝูกวงเอ่ยรับอย่างรู้ใจท่านหญิงหมิงหยางได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจยาว รีบหันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือที่ปิดบังใบหน้าเยี่ยนเว่ยฉือกอดอก เลิกคิ้วกล่าว “เขาถูกเงินปิดตา ย่อมไม่เห็นสิ่งใด ดวงตาข้านี่ต่างหากที่สว่างไสว”ท่านหญิงหมิงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าน้ำเสียงและคำพูดของคนตรงหน้าคุ้นหูอยู่บ้าง แต่ชั่วขณะนั้นกลับนึกไม่ออกนางปิดบังใบหน้า ท่านหญิงหมิงหยางจึงไม่อาจเห็นโฉมหน้าของนางเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่านหญิงหมิงหยางจ้องมองนาง รีบชี้ไปยังกล่องใบเล็กที่วางอยู่บนหิ้งสูง “ท่านสามารถใช้สิ่งนั้นมาปิดตาข้าได้”ท่านหญิงหมิงหยางเงยหน้ามอง เ
พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือเงี่ยหูฟัง ยืนยันว่าด้านล่างไม่มีเสียงอะไรแล้ว จึงกล่าวต่อ “เอาล่ะ ตอนนี้ไปเอาเงินได้แล้ว!”ฝูกวงเข้าใจแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือจะใช้เรื่อง ‘จับได้คาหนังคาเขา’ บีบบังคับท่านหญิงหมิงหยางให้ยอมจ่ายเงินนี่เองปัง!ห้องมืดมิดถูกจุดเทียนขึ้นมาทันทีชายหญิงบนเตียงที่ยังคงมีความสุขอยู่ต่างก็ตกใจ“นั่นใคร?!” ท่านหญิงหมิงหยางร้องออกมาด้วยความตกใจ มองไปรอบ ๆ ห้องขณะนั้นลู่อู๋ไม่สนใจใครแล้ว รีบใส่กางเกงเยี่ยนเว่ยฉือเบี่ยงหน้าเล็กน้อย นางไม่อยากเห็นภาพอุจาดตานั้นท่านหญิงหมิงหยางเห็นชายหญิงสองคนสวมหน้ากากยืนอยู่ในห้องก็ตั้งท่าจะตะโกนแต่ฝูกวงพูดก่อน “ตะโกนสิ ตะโกนเรียกสามีเจ้าเข้ามา ให้เห็นกับตาว่าเจ้ามีความสัมพันธ์กับชายอื่น ทำให้เขาขายหน้าอย่างไร”“ชายอื่น?” ท่านหญิงหมิงหยางหันไปมองชายที่กำลังใส่กางเกงอยู่ที่ปลายเตียงเมื่อนางเห็นใบหน้าของคนผู้นั้น ก็ร้องออกมาทันที “กรี๊ดดด!!!”ปัง!ลู่อู๋รีบใช้มือสกัดจุดท่านหญิงหมิงหยาง ขัดจังหวะเสียงกรีดร้องของนางเขากล่าวด้วยความโกรธ “ฝูกวง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ฝูกวงหัวเราะเยาะ “เปล่านี่ ข้าไม่ได้มาหาเจ้า แต่มาหานางต่างหาก”ฝ
“จะให้ไปที่ห้องบัญชีโดยตรงหรือ?” ฝูกวงถามซ้ำเยี่ยนเว่ยฉือยังคงส่ายหัว “ข้าไม่ได้กลับจวนผิงอี้โหวมานานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าข้าไม่รู้ว่าห้องบัญชีอยู่ห้องไหน ถึงแม้ข้าจะรู้ ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเก็บตั๋วเงินไว้ที่ไหนอีก”“พูดมาก เจ้าอยากตายหรือไร?” ฝูกวงขู่เยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “โอ๊ย อย่าใจร้อนสิ นี่ เราไปที่เรือนหลังนั้นกัน!”เยี่ยนเว่ยฉือชี้ไปที่เรือนหลังหนึ่งฝูกวงจับเอวของเยี่ยนเว่ยฉือ พานางกระโดดไปที่เรือนหลังนั้นทั้งสองซ่อนตัวอยู่บนหลังคา ฝูกวงกำลังจะถามว่านี่เป็นเรือนพักของใคร แต่ก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้เขาจับหัวเยี่ยนเว่ยฉือกดลง ทั้งสองนอนราบไปกับร่มเงาของหลังคา“อย่าขยับ มีคนมา!”ฝูกวงบอกอย่าขยับ เยี่ยนเว่ยฉือยิ่งอยากขยับเข้าไปใหญ่เพราะนางรู้ว่าคืนนี้ต้องมีคนมาที่นี่แน่เยี่ยนเว่ยฉือพยายามเงยหน้า ฝูกวงก็กดหัวนางลงอย่างแรงเยี่ยนเว่ยฉือพูดอย่างหมดหนทาง “เป็นลู่อู๋!”“ลู่อู๋?” ฝูกวงปล่อยมือ มองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างสงสัยเยี่ยนเว่ยฉือทำท่าบอกให้เงียบครู่ต่อมาทั้งสองเห็นลู่อู๋ลงมาที่หลังคาฝั่งตรงข้ามเขาดูระมัดระวัง ค่อย ๆ เปิดกระเบื้องออก มองลอดเ
ฝูกวงไม่เชื่อนาง พูดเสียงเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? ไม่ต้องพูดถึงว่าซ่างกวนซีจะยอมจ่ายเงินให้เจ้าหรือไม่ แค่ปล่อยเจ้ากลับไป จะจับเจ้าอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว!”“เช่นนั้นเจ้าจะเอาอย่างไร? ข้าบอกแล้วว่าไม่มีเงินจริง ๆ!” เยี่ยนเว่ยฉือเอ่ยอย่างหมดหนทางฝูกวงฮึดฮัด “ง่ายมาก ขายเจ้าไปที่หอลมวสันต์ห่างไปสิบหลี่บนถนนหยางโจว ด้วยรูปร่างหน้าตาของเจ้า หาเงินหนึ่งหมื่นตำลึงก็ไม่ใช่เรื่องยาก”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง กล่าวอย่างไม่เชื่อ “เจ้าก็เป็นมือสังหาร เหตุใดมาทำธุรกิจค้าประเวณีได้!”“บังอาจ!” ฝูกวงดุเสียงเย็นชาเยี่ยนเว่ยฉือเบ้ปาก “งั้น...ข้าเขียนจดหมายถึงองค์รัชทายาทได้หรือไม่?”“ไม่ได้! ซ่างกวนซีฉลาดออกปานนั้น ข้าไม่อยากมีเรื่อง!”เยี่ยนเว่ยฉือถึงกับพูดไม่ออก‘ไอ้บ้านี่ ต้องให้นางควักเงินหมื่นตำลึงออกมาเองสินะ?’นั่นจะเป็นไปได้เช่นไร ต่อให้มีข้าก็ต้องกลับไปหาวิธี ไม่ใช่อยู่ดี ๆ เอาออกมาได้เลยทันทีนางไม่ได้มีพลังวิเศษเสียหน่อยขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังกังวลใจฝูกวงพูดเสียงเย็นชา “ดูเหมือนเจ้าจะคิดหาวิธีที่ดีไม่ได้แล้ว เช่นนั้นก็ไปกับข้าเถอะ ขายเจ้าไป ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ซ่างกวนซีพยักหน้า บอกให้ฉินเซียงหรูไปพักผ่อนได้แล้วหลังจากฉินเซียงหรูจากไป ซ่างกวนซีเงยหน้ามองแสงจันทร์ แต่ในใจอดคิดถึงลู่อู๋ไม่ได้ว่าเขาจะไปหาท่านหญิงหมิงหยางจริงหรือไม่?แท้จริงแล้ว ตอนนี้มีคนอีกคนที่สงสัยมากกว่าซ่างกวนซีนั่นก็คือเยี่ยนเว่ยฉือ ผู้วางแผนการนี้นั่นเองนางอยากเห็นผลลัพธ์ของแผนการตนเองมากกว่าใคร ๆเยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจ มองดวงจันทร์ “เสียดายจริง โลกนี้ไม่มีกล้องถ่ายรูป ไม่เช่นนั้นจะได้ถ่ายภาพท่านหญิงหมิงหยางกับลู่อู๋ต่อสู้กันแปดร้อยยก แล้วพิมพ์ออกมาหนึ่งหมื่นชุดแจกจ่ายออกไป จะสาแก่ใจแค่ไหนนะ! จุ๊ ๆ!”“กล้องถ่ายรูป คืออะไรกัน?” เสียงใสไพเราะดังขึ้นจากด้านหลังอย่างกะทันหันเสียงนี้เหมือนเสียงสะท้อนในภูเขา ทำให้แยกไม่ออกว่ามาจากทิศทางไหนเยี่ยนเว่ยฉือตัวแข็งทื่อ รีบหันไปมองด้านหลัง แต่ก็เห็นเพียงเงาสีขาวที่พุ่งเข้ามาหาปัง!นางถูกสกัดจุดอีกแล้วครั้งนี้ไม่เพียงแต่ขยับไม่ได้ ยังพูดไม่ได้อีกด้วยเยี่ยนเว่ยฉือมองคนที่บุกเข้ามาอย่างตื่นตระหนก พบว่าเป็นฝูกวง มือสังหารชุดขาวทองคำเวรกรรมแท้ ๆ!นางดวงซวยอะไรขนาดนี้ เพิ่งจัดการลู่อู๋ให้พ้นตัวไปหมาด ๆ ก็มาเจอฝูกวงอีกแ
เขารีบถอยหลัง หลบหลีกการเคาะของธนูเขาเห็นปลายธนูที่เปล่งแสงเย็นยะเยือกในมือของเยี่ยนเว่ยฉือ สุดท้ายก็ไม่มีความกล้าที่จะแทงตัวเองแม้เพียงสองรูดังนั้นจึงหันหลังแล้วรีบหนีไป!จนกระทั่งลู่อู๋จากไป อวี๋เฟยเหยียนจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “พี่สะใภ้ เขาถูกพิษจริงหรือ? ยาแก้พิษอยู่ที่ท่านหญิงหมิงหยางจริงหรือ?”ฉินเซียงหรูที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกไม่สมเหตุสมผลเช่นกันต่างคนต่างมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือด้วยความอยากรู้เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะเบา ๆ “ข้าหลอกเขาน่ะสิ ใครจะเอายาแก้พิษไปไว้ที่คนอื่นกัน แล้วข้าก็ไม่ได้ติดต่อกับท่านหญิงหมิงหยางมานานแล้ว”“อะไรกัน?” อวี๋เฟยเหยียนเบิกตากว้าง “เช่นนั้นเขาจะตายหรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือส่ายหน้า “ไม่ตายหรอก ข้าแค่ให้ยาปลุกกำหนัดชนิดเรื้อรังเขาไปนิดหน่อย ของแบบนี้ถ้าโดนแล้วจะอดทนอยู่ได้เจ็ดวันกว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หากเขาหาคนมาร่วมรักได้ทันเวลาก็จะรู้สึกสบายตัวขึ้น!”“เรื้อ...รัง?” อวี๋เฟยเหยียนไม่เคยได้ยินมาก่อนฉินเซียงหรูที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกสนุกมาก รีบถาม “แม่นางเยี่ยนมีฝีมือ แต่เจ็ดวันแรกผ่านไป วันนี้เขาได้ระบายความใคร่แล้ว เจ็ดวันต่อไปจะทำอย่างไร?”เยี่ยนเว่ย
ซ่างกวนซีอุ้มนางไว้ พูดว่ากล่าวด้วยน้ำเสียง “ต่อไปนี้เจ้าอยากทำอะไรก็ทำได้ มีเงื่อนไขเดียวคือห้ามโกหก และห้ามกระทำการโดยพลการ”นั่นหมายความว่า ไม่ว่านางจะทำอะไร ก็ต้องรายงานเขาล่วงหน้าก่อนตอนนี้นางอยู่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ซ้ำยังถูกชายหนุ่มรูปงามกอดอยู่ในอ้อมแขนชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นก็คือสามีของนางเองเยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าหากนางปฏิเสธ ต่อไประยะห่างระหว่างกันอาจจะกลายเป็นติดลบนางไม่ต้องการแบบนั้น! นางแค่...ยังคิดไม่ตกเท่านั้นเอง!เยี่ยนเว่ยฉือพิงอยู่บนอกของซ่างกวนซี พยักหน้าเบา ๆ เหมือนแมวน้อยเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง “ทราบแล้วเจ้าค่ะ ต่อไปนี้ข้าจะไม่โกหกอีกแล้ว”ซ่างกวนซีหัวเราะอย่างเหนื่อยหน่าย จะให้เชื่อนางได้อย่างไรกัน!…… ห้องโถงด้านหน้าเมื่อซ่างกวนซีพาเยี่ยนเว่ยฉือกลับมาที่ห้องโถงด้านหน้าอีกครั้ง ท้องฟ้าก็มืดมนแล้วแต่บรรดาชายหนุ่มทั้งสามคนในห้องโถงหน้ายังไม่จากไปไหนอวี๋เฟยเหยียนมองไปที่ซ่างกวนซีและเยี่ยนเว่ยฉือ พบว่าทั้งสองมีสีหน้าแปลก ๆดูเหมือนว่าซ่างกวนซีจะไม่โกรธแล้ว ใบหน้าสงบเรียบเฉยแต่ทำไมใบหน้าและใบหูของเยี่ยนเว่ยฉือถึงแดงก่ำ หรือถูกซ่างกวนซีทารุณหนัก?“จุ๊
เห็นเยี่ยนเว่ยฉือสายตาเป็นประกายวาววับดุจหยาดน้ำค้าง ซ่างกวนซีก็รู้ได้ทันทีว่านางกำลังโกหกอยู่ในใจเป็นแน่แท้และเช่นนั้นเอง เยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยตอบออกมาว่า “ก็...ก็เก็บไว้กับตัวอย่างไรล่ะ เพียงแต่ว่าข้าชำนาญกว่าคนทั่วไป ท่านเคยได้ยินเรื่อง ‘มือวิเศษ’ หรือไม่? สมัยก่อนข้าเลี้ยงหมู ชีวิตแสนจะน่าเบื่อหน่าย จึงได้ไปเรียนวิชาลักขโมยจากนักเวทมายา รู้ไว้ใช่ว่า… อ๊ะ!”ยังไม่ทันได้พูดจบ ซ่างกวนซีก็ใช้ฝ่ามือหวดไปที่นางทันทีกระแสลมปราณอันทรงพลังพุ่งเข้าใส่ เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว และฉับพลันนั้น ผ้ายาวสีขาวที่นางสวมอยู่ก็กลายเป็นเศษผ้ากระจัดกระจายลงสู่พื้นโอ้ แม่เจ้า!นี่มันฝีมือการถอดเสื้อผ้าอันหาที่เปรียบมิได้ในแผ่นดินบัดนี้ เยี่ยนเว่ยฉือเหลือเพียงผ้าบาง ๆ ที่ปิดบังความงามไว้ได้เพียงน้อยนิดสายลมหนาวพัดโชยมา แม้ร่างกายนางไม่อาจเคลื่อนไหว แต่ก็อดที่จะตัวสั่นไม่ได้การสั่นไหวเล็กน้อยนั้น ทำให้ความงามบางส่วนปรากฏออกมาเมื่อได้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอันงดงาม ซ่างกวนซีก็ร้อนรุ่มในดวงตา รีบเบี่ยงสายตาไปทางอื่นเขาเพียงแต่ไม่ปรารถนาจะฟังเยี่ยนเว่ยฉือพูดโกหก จึงควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู
การกระทำเช่นนี้ทำให้เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่าซ่างกวนซีไม่ได้ขู่เล่น ๆแต่จะลงโทษนางจริง ๆ!ซ่างกวนซีใช้นิ้วเรียวสวยเปิดปกเสื้อของเยี่ยนเว่ยฉือเบา ๆ สีหน้าเรียบเฉย ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เหตุใดลู่อู๋จึงมาหาเจ้า?""เพ... เพราะ... เขา... เขา..." เยี่ยนเว่ยฉืออ้ำอึ้ง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรขณะที่นางลังเลอยู่นั้น เสื้อคลุมตัวนอกก็ถูกดึงออกเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวอย่างร้อนรน "ฝ่าบาท ข้ายังไม่ได้พูดเลย!"ซ่างกวนซีตอบอย่างใจเย็น "ตอบช้า ก็ต้องถอด"สิ้นคำ ซ่างกวนซีก็ปลดเชือกเสื้อตัวในของนางอีกไม่นานก็จะถึงฤดูร้อนแล้ว สวมเสื้อผ้าบางน้อยชิ้น หากถอดต่อไปเช่นนี้ ไม่กี่คำถาม นางก็คงจะเปลือยเปล่าเสื้อตัวในเปิดออก เผยให้เห็นเสื้อตัวในสีขาวในที่สุดเยี่ยนเว่ยฉือก็ทนไม่ไหว "เขามาหาข้าเพื่อขอยาถอนพิษ!"มือที่กำลังจะถอดเสื้อผ้าของซ่างกวนซีหยุดชะงัก มองนาง แล้วถามต่อ "เขาโดนพิษเมื่อใด? โดนพิษอะไร? เจ้าใช้พิษกับเขาอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือมีสีหน้าลำบากใจ "เรื่อง... เรื่องนี้พูดแล้วยาว..."พรึ่บ!ซ่างกวนซีดึงเสื้อตัวในของนางออกโดยไม่ลังเลตอนนี้บนร่างของเยี่ยนเว่ยฉือเหลือเพียงเสื้อตัวในสีขาว และตู้โตวสี