เมื่องานเลี้ยงเลิกราแขกเหรื่อกลับไปหมดแล้วก็ถึงเวลเข้าหอสักที โจวหยวนอยากรักเจ้าสาวของตนที่เขารอมานานเกือบสองเดือนจนมีวันนี้เจียงเสี่ยวฮวานั่งรอในห้อง เสียงเปิดประตูห้องเข้ามาทำให้คนที่นั่งรออยู่บนเตียงบีบมือตนเองที่วางประสานกันบนตักแน่น แม้ว่าจะถึงเนื้อถึงตัวกันมาแล้ว อีกทั้งนอนกอดกับเข้าทุกคืน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางกับเขาจะทำมากกว่านอนกอดกันโจวหยวนหยิบไม้สำหรับเปิดผ้าคลุมหน้า จากนั้นก็เดินมาหยุดตรงหน้าเจียงเสี่ยวฮวา โจวหยวนใช้ไม้เปิดผ้าคลุมเจ้าสาวออก เจียงเสี่ยวฮวาเงยหน้ามองดูเขา โจวหยวนอุ้มร่างบางขึ้นก่อนจะพามานั่งที่เก้าอี้“เสี่ยวฮวาวันนี้วันแต่งงานของเราอาดีใจมากรู้หรือไม่”“เจ้าค่ะ เอ่อท่านอาหยวนข้าหนักเครื่องหัว ท่านช่วยเสี่ยวฮวาถอดมันออกได้ไหมเจ้าคะ”“เด็กดีมาเถอะเดี๋ยวอาช่วย”โจวหยวนช่วยภรรยาหมาดๆ ปลดเครื่องประดับออกจนหมด จากนั้นก็คลายมวยผมให้นาง เรือนผมพริ้วสยายออกดุจม่านน้ำตกทำให้ดวงหน้าของนางยิ่งหวานละมุน โจวหยวนมองอย่างหลงใหลก่อนจะหยิบจอกสุรามงคลมาแล้วแลกเปลี่ยนกับนาง ทั้งคู่คล้องแขนดื่มสุรามลคลทันทีที่วางจอกโจวหยวนก็ไม่เสียเวลา เขาอุ้มนางกลับมานั่งที่เตียง ค่อยปลดชุ
หลังจากกลับมาจากงานแต่งงานของโจวหยวน เมิ่งหย่งชวนก็เอาบุตรชายบุตรสาวเข้านอน จากนั้นตัวเองก็แอบอุ้มเมียมานอนอีกห้อง เสิ่นเยี่นฟางปวดหัวกับเขาจริงๆ แต่นางก็ยอมเพราะนางอยากตั้งครรภ์เพื่อให้เสี่ยวเย่าได้มาเกิดสักที นางเกรงว่าหากพวกเซียนอะไรนั่นมาเจอก่อนลูกๆของนางจะถูกจับไป รวมถึงตัวนางด้วยอย่างที่ท่านตาเจ้าที่บอกเมิ่งหย่งชวนยังคงตักตวงความหวานจากร่างงามไม่หยุดหย่อน สองร่างสอดประสานขยับขับเคลื่อนไปพร้อมกัน เสียงรัญจวนสลับกับเสียงคำรามของบุรุษวัยฉกรรจ์ยังคงขัวขานราวกับท่วงทำนองของราตรีกาล หลังจากสุขสมไปหลายครั้งเมิ่งหย่งชวนจึงถอนกายออกมาแล้วพลิกลงข้างๆนอนกอดเสิ่นเยี่ยนฟางเอาไว้ เสิ่นเยียนฟางรู้ดีว่าเขามีความในใจนางหยิบเสื้อคลุมมาสวมก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ช้อนศีรษะสามีให้มานอนหนุนตักก่อนจะลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของเขา มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ดังออกมา ทั้งห้องมีเพียงความเงียบเท่านั้น จนกระทั่งเมิ่งหย่งชวนลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมมาสวมแล้วรั้งร่างบางมานั่งตักเขาแทน เสิ่นเยี่ยนฟางแนบแก้มกับหน้าอกข้างซ้ายได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้น ฟังจากอัตราการเต้นของมีเรื่องอึดอัดกังวลใ
ยามอิ๋นองครักษ์ของเขาส่งสัญญาณเมิ่งหย่งชวนจึงได้ออกไป เขาพบกับบุคคลที่ตั้งใจมาหาเขาเมื่อพบหน้าก็คุกเข่าลงก่อนจะคำนับ"ถวายพระพรรัชทายาท ขอจงทรงพระเจริญพ่ะย่ะค่ะ""ตามสบาย แม่ทัพเมิ่งเรื่องที่ข้าให้ท่านกับใต้เท้าโจวมาจัดการเป็นเช่นไรบ้าง""ทูลรัชทายาท พวกเขาเป็นกองกำลังของสกุลจาง และเป็นฐานกำลังขององชายรองจ้าวหยุนจริงๆพ่ะย่ะค่ะ""ท่านคิดอ่านเช่นไรแม่ทัพเมิ่ง""เรื่องนี้ความผิดสำเร็จทั้งหลักฐานและพยาน เพียงแต่เรามีศึกนอกหากปะทะตอนนี้แม้ว่าจะจัดการสกุลจางและสกุลลู่ได้แต่สงครามมิอาจรอได้พ่ะย่ะค่ะ""ท่านจะปล่อยให้โอกาสเล่นงานลู่หานกับจางฮั่นหลุดมือหรือท่านแม่ทัพ""กระหม่อมมีวิธีเล่นงานพวกเขา บ้านเมืองสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัวนักพ่ะย่ะค่ะ""ฮ่าๆๆๆ ดีๆๆเมิ่งหย่งชวนข้างกายข้ามีเจ้ายังต้องหวาดกลัวผู้ใดกัน เอาล่ะพวกท่านไปจัดการเรื่องตนเองให้เรียบร้อย ข้าจะให้โจวหยางรักษาการเจ้าเมืองไว้ก่อน ใต้เท้าโจวต้องคิดตามข้ากับท่าไปชายแดน""เรียนถามไท่จื่อ เรื่องนี้ฝ่าบาททรงทราบหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ""ทูลเสด็จพ่อไปว่าข้าต้องการนำทัพเอง แต่ทางเสด็จพ่อประกาศเช่นใดข้ามิอาจเดาพระทัย ครั้งที่แล้วข้าแอบมา
เมิ่งซุนอาการดีขึ้นทันทีที่ได้เจอกับบุตรชายและรู้ว่าเขายังไม่ตาย เมิ่งลู่เจินไปบ้านท่านปู่ใหญ่เพื่อแจ้งข่าว ไม่นานเสิ่นเยี่ยนางก็รับแขกจนไม่หวาดไม่ไหว มีแต่ชาวบ้านมาร่วมยินดีกับครอบครัวนาง"ฮ่าๆๆยินดีด้วยๆเมิ่งซิ่วไฉในที่สุดคนดีสวรรค์ก็คุ้มครอง""ใช่ๆ หย่งชุนอ่า หมดทุกข์หมดโศกสักที บุตร็ได้ดี สะใภ้ก็ดีหลานๆก็น่ารัก อิจฉาเจ้าจริงๆ""ใช่ๆ เอ่อท่านหลี่เจิ้ง ท่านไปดูซินแสที่ไหนหรือ""ทำไม่หรือลุงแปดอยากรู้เรื่องอะไรกัน ดวงท่านก็ดีอยู่แล้วนี่นาไม่ต้องแก้ไขอะไรหรอก""เอ่อ ข้ามีหลานชายน่ะท่านช่วยผูกดวงเขาสักหน่อยนะ ข้าไม่ได้อยากได้งามและเก่งเช่นอาซ้อเมิ่งหรอก แค่ครึ่งนึงก็ยังดีนะขอรับท่านหลี่เจิ้ง"ฮ่าๆๆๆๆชาวบช้านพากันหัวเราก่อนจะเอ่ยกับลุงแปด"อั๊ยย่ะลุงแปดอ่า เถี่ยหนิวของท่านเพิ่งจะแปดเดือนจะรีบผูกดวงไปไหนกัน""ฮ่าๆๆ"เมิ่งหย่งชวนเดินมาหาภรรยาในครัวนางกำลังขนมเลี้ยงแขกที่มาวันนี้ เขารั้งนางมากอดก่อนจะจับปอยผมทัดหูให้"เสี่ยวฟางคนดี เจ้าคงเป็นวาสนาของพี่จริงๆ ตั้งแต่มีเจ้าเข้ามาชีวิตที่มืดมนของพี่ก็มีแค่แสงสว่าง""เจ้าค่ะ" นางกอดตอบเขา ก่อนจะช่วยกันยกขนมออกไปให้บรรดาผู้
เมิ่งหย่งชวนหันมาหาภรรยาก่อนจะลูบใบหน้างามแล้วรั้งเข้ามากอด เขาเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“อย่าคิดมากนะเสี่ยวฟาง ต่อไปนี้หากใครใส่ร้ายเจ้าอีกพี่จะตัดลิ้นคนผู้นั้นทันที”เสิ่นเยี่ยนฟางกอดเขาตอบ มือเรียวโอบเอวหนาของเมิ่งหย่งชวน ใบหน้างามซบกับอกของเขาก่อนจะเอ่ยกับสามี“ข้าไม่สนคนอื่นข้าสนใจแค่เพียงท่าน ขอเพียงท่านพี่เชื่อใจข้าคำครหาอื่นๆ ข้าหาได้ใส่ใจเจ้าค่ะ”เมิ่งหย่งชวนดันร่างบางออกจากตัว เขามิได้สนใจชาวบ้านที่นั่งอยู่แต่อย่างใด เขาต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเขารักเมียมากเพียงใด มือหน้าที่กำดาบกำทวนมานานหลายปีประคองใบหน้างามอย่างถนอมก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป"คำพูดที่คนอื่นใส่ร้ายเจ้าไม่อาจทำให้พี่หมดรักเจ้าหรือแคลงใจในตัวเจ้าสักนิด ไปเถอะพักผ่อนดีกว่าวันนี้ไม่ต้องทำงานแล้วพรุ่งนี้พี่จะพาอาเจินไปสอบ อาหารเย็นเดี๋ยวให้ท่านอาหวังไปซื้อที่ตำบลก็ได้"เสิ่นเยี่ยนฟางยิ้มให้เมิ่งหย่งชวน นางจึงรับปากเขาเข้าไปพักผ่อน พอเข้ามาในบ้านจากสตรีอ่อนหวานที่สามีต้องคอยประคองเดินเพราะเปราะบางเกินไปก็แปลงร่างทันที นางชกผนังอิฐจนเกิดรอยร้าว เสี่ยวเย่ากับเสี่ยวอิงลอยมานั่งตักท่านแม่คนละข้าง เสี่
เสิ่นเยี่ยนฟางเข้าไปในห้องครัวนางต้องการทำอาหารเป็นเสบียงให้สามีกับน้องสามีไปกินระหว่างทางในวันพรุ่งนี้ เมิ่งหย่งชวนบอกนางว่าจะไปบนเขา ไท่จื่อมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าต้องการสั่งงานเขาบางอย่าง เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าก่อนจะบอกให้เขาระวังตัว จนกระทั่งสามีไปแล้วเสี่ยวเย่าจึงไปตามท่านอามาหาท่านแม่เมื่อเมิ่งลู่เจินมาถึงเสิ่นเยี่ยนฟางก็ให้เสี่ยวเย่าดูต้นทาง นางไม่ต้องการให้พ่อสามีรู้เรื่องนี้ เมิ่งลู่เจินนั่งลงข้างๆพี่สะใภ้ เสิ่นเยี่ยนฟางนวดแป้งไปด้วยเอ่ยกับเขาไปด้วย"อาเจิน พรุ่งนี้เดินทางไปสอบแล้วตื่นเต้นหรือไม่""นิดหน่อยขอรับ...พี่สะใภ้ท่านอยู่ที่บ้านต้องระวังตัวสักหน่อย ท่านมีฝีมือก็จริงแต่ไม่มีวรยุทธบางอย่างท่านอาจเสียเปรียบได้""เจ้าหมายถึงผู้ใดจะทำร้ายพี่หรือ... อาเจินอย่าห่วงเลยที่เรียกเจ้ามาเพราะว่าเรื่องที่ย่าของเจ้ามาหาเรื่องพวกเราวันนี้มิใช่เรื่องบังเอิญหรือว่านางนั่นต้องการอาหารแต่อย่างใด แต่มีคนจ้างวานนางมา""พี่สะใภ้หมายถึงมีคนจ้างท่านย่าให้มาก่อกวนหรือขอรับ""พรุ่งนี้เจ้าต้องไปสอบแล้ว มีคนไม่ต้องการให้เจ้าสอบผ่านจึงอยากทำลายชื่อเสียงเจ้ากับพี่ชายของเจ้า อาเจินที่เร
เสี่ยวเย่านอนกอดท่านแม่หลับไปแล้ว เสิ่นเยี่ยนฟางรับรู้ถึงคนข้างๆที่ตอนนี้กำลังกอดนางแนบแน่น เขากำลังต้องการนางๆจึงหันหน้าไปหาสามี"ท่านพี่.....พรุ่งนี้เดินทางไกลไม่กลัวเหนื่อยหรือเจ้าคะ""พี่อยากรักเมียได้ไหมเสี่ยวฟาง ต้องไปถึงสิบวันลงแดงตายพอดี" เมิ่งหย่งชวนออดอ้อนเมียรัก เสิ่นเยี่ยนฟางบ่นเขาแต่ไม่จริงจังนัก"คนบ้านี่....แค่สิบวันท่านยังจะลงแดงตาย แล้วไปชายแดนนานนับเดือนท่านจะทำเช่นไร มิใช่ไปหาสตรีโคมเขียวมาจากที่ใดระบายอารมณ์หรอกนะเจ้าคะ""มีแค่เจ้าก็พอแล้วสตรีอื่นพี่ล้วนรังเกียจ นอกจากเจ้าคนเดียวมาเถอะพี่พาไปอีกห้อง คิดถึงจะตายแล้วคนดี"เสิ่นเยี่ยนฟางยิ้มให้เขา เมิ่งหย่งชวนอุ้มเมียรักขึ้น จากนั้นก็พาเดินออกไปจากห้องนอน เสิ่นเยี่ยนฟางกอดคอเขาเอาไว้ ห้องที่ต่อเติมใหม่นั้นแยกออกไปจากเรือนหลักเสิ่นเยี่ยนฟางเคยถามเขาว่าทำไมต่อเติมห่างเรือนหลักนักตอนนี้นางรู้คำตอบแล้ว นางงับจมูกเขาเบาก่อนจะเอ่ยปากบ่น เมิ่งหย่งชวนหัวเราะในลำคอ"ท่านพี่ท่านมันคนหื่นกาม""พี่รักเมียนี่ เสี่ยวฟางจ๋าคิดถึงจังเลย"ทันทีที่วางร่างบางบนเตียงเมิ่งหย่งชวนก็ไม่เสียเวลาสักนิด กอดจูบคลุกเคล้าจนค
เมิ่งหย่งชวนเดินออกมาจากในห้องส่งสัญญาณให้องครักษ์ลับไปทำงาน หลังจากสั่งงานแล้วจึงเดินไปหาภรรยากับน้องชายในครัว เขาสวนกับบิดา เมิ่งหย่งชุนพยักหน้า ท่านพ่อตัดใจจากสตรีแพศยาได้แล้ว ถึงเวลาลงมือแล้วสิ ลู่ซินเจ้าเลือกเองนะ ข้าเมิ่งหย่งชวนจะตอบสนองอย่างดีเลยล่ะ"*************อีกด้านหนึ่งของเบื้องบน ทหารสวรรค์รายงานความคืบหน้าแก่เทพสงครามอยู่ พวกเขาตามรอยปราณพิภพฟ้าดินมาสักพักแล้ว เหมือนจะได้กลิ่นก็จางหาย พอจะได้เบาะแสก็ขาดหายอีก"เทพสงครามอีกไม่นานเราคงตามเจอพ่ะย่ะค่ะ""ข้าได้กลิ่นของปราณพิภพฟ้าดิน แต่เหตุใดช่างเบาบางเหลือเกิน แปลว่ามีบางอย่างคุ้มครองเขาอยู่ตามหามันให้เจอ""แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าแดนของโลกมนุษย์นะพ่ะย่ะค่ะ""ขอเพียงเจอตัวเจ้านั่นข้าจะไปรับโทษกับเง็กเซียนเอง หึเมิ่งชวน เสี่ยวฟางเซียนหากข้าเจอพวกเจ้าข้าจะทำลายดวงจิตพวกเจ้าเสีย ต่อให้อีกสามแสนภพข้าก็จะทำให้พวกเจ้าก็หากันไม่เจอ"บุรุษในเกราะสีทองยืนอยู่เหนือก้อนเมฆ เขาตามหามาสองหมื่นปีของสวรรค์ ในที่สุดก็ได้กลิ่นเจ้าตัวแสบนั้นสักที แม้จะเบาบางแต่ก็คือเบาะแสต้องหาต่อไปเท่านั้น ส่วนรองแม่ทัพสวรรค์กับธ
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ