ยามอิ๋นองครักษ์ของเขาส่งสัญญาณเมิ่งหย่งชวนจึงได้ออกไป เขาพบกับบุคคลที่ตั้งใจมาหาเขาเมื่อพบหน้าก็คุกเข่าลงก่อนจะคำนับ"ถวายพระพรรัชทายาท ขอจงทรงพระเจริญพ่ะย่ะค่ะ""ตามสบาย แม่ทัพเมิ่งเรื่องที่ข้าให้ท่านกับใต้เท้าโจวมาจัดการเป็นเช่นไรบ้าง""ทูลรัชทายาท พวกเขาเป็นกองกำลังของสกุลจาง และเป็นฐานกำลังขององชายรองจ้าวหยุนจริงๆพ่ะย่ะค่ะ""ท่านคิดอ่านเช่นไรแม่ทัพเมิ่ง""เรื่องนี้ความผิดสำเร็จทั้งหลักฐานและพยาน เพียงแต่เรามีศึกนอกหากปะทะตอนนี้แม้ว่าจะจัดการสกุลจางและสกุลลู่ได้แต่สงครามมิอาจรอได้พ่ะย่ะค่ะ""ท่านจะปล่อยให้โอกาสเล่นงานลู่หานกับจางฮั่นหลุดมือหรือท่านแม่ทัพ""กระหม่อมมีวิธีเล่นงานพวกเขา บ้านเมืองสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัวนักพ่ะย่ะค่ะ""ฮ่าๆๆๆ ดีๆๆเมิ่งหย่งชวนข้างกายข้ามีเจ้ายังต้องหวาดกลัวผู้ใดกัน เอาล่ะพวกท่านไปจัดการเรื่องตนเองให้เรียบร้อย ข้าจะให้โจวหยางรักษาการเจ้าเมืองไว้ก่อน ใต้เท้าโจวต้องคิดตามข้ากับท่าไปชายแดน""เรียนถามไท่จื่อ เรื่องนี้ฝ่าบาททรงทราบหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ""ทูลเสด็จพ่อไปว่าข้าต้องการนำทัพเอง แต่ทางเสด็จพ่อประกาศเช่นใดข้ามิอาจเดาพระทัย ครั้งที่แล้วข้าแอบมา
เมิ่งซุนอาการดีขึ้นทันทีที่ได้เจอกับบุตรชายและรู้ว่าเขายังไม่ตาย เมิ่งลู่เจินไปบ้านท่านปู่ใหญ่เพื่อแจ้งข่าว ไม่นานเสิ่นเยี่ยนางก็รับแขกจนไม่หวาดไม่ไหว มีแต่ชาวบ้านมาร่วมยินดีกับครอบครัวนาง"ฮ่าๆๆยินดีด้วยๆเมิ่งซิ่วไฉในที่สุดคนดีสวรรค์ก็คุ้มครอง""ใช่ๆ หย่งชุนอ่า หมดทุกข์หมดโศกสักที บุตร็ได้ดี สะใภ้ก็ดีหลานๆก็น่ารัก อิจฉาเจ้าจริงๆ""ใช่ๆ เอ่อท่านหลี่เจิ้ง ท่านไปดูซินแสที่ไหนหรือ""ทำไม่หรือลุงแปดอยากรู้เรื่องอะไรกัน ดวงท่านก็ดีอยู่แล้วนี่นาไม่ต้องแก้ไขอะไรหรอก""เอ่อ ข้ามีหลานชายน่ะท่านช่วยผูกดวงเขาสักหน่อยนะ ข้าไม่ได้อยากได้งามและเก่งเช่นอาซ้อเมิ่งหรอก แค่ครึ่งนึงก็ยังดีนะขอรับท่านหลี่เจิ้ง"ฮ่าๆๆๆๆชาวบช้านพากันหัวเราก่อนจะเอ่ยกับลุงแปด"อั๊ยย่ะลุงแปดอ่า เถี่ยหนิวของท่านเพิ่งจะแปดเดือนจะรีบผูกดวงไปไหนกัน""ฮ่าๆๆ"เมิ่งหย่งชวนเดินมาหาภรรยาในครัวนางกำลังขนมเลี้ยงแขกที่มาวันนี้ เขารั้งนางมากอดก่อนจะจับปอยผมทัดหูให้"เสี่ยวฟางคนดี เจ้าคงเป็นวาสนาของพี่จริงๆ ตั้งแต่มีเจ้าเข้ามาชีวิตที่มืดมนของพี่ก็มีแค่แสงสว่าง""เจ้าค่ะ" นางกอดตอบเขา ก่อนจะช่วยกันยกขนมออกไปให้บรรดาผู้
เมิ่งหย่งชวนหันมาหาภรรยาก่อนจะลูบใบหน้างามแล้วรั้งเข้ามากอด เขาเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“อย่าคิดมากนะเสี่ยวฟาง ต่อไปนี้หากใครใส่ร้ายเจ้าอีกพี่จะตัดลิ้นคนผู้นั้นทันที”เสิ่นเยี่ยนฟางกอดเขาตอบ มือเรียวโอบเอวหนาของเมิ่งหย่งชวน ใบหน้างามซบกับอกของเขาก่อนจะเอ่ยกับสามี“ข้าไม่สนคนอื่นข้าสนใจแค่เพียงท่าน ขอเพียงท่านพี่เชื่อใจข้าคำครหาอื่นๆ ข้าหาได้ใส่ใจเจ้าค่ะ”เมิ่งหย่งชวนดันร่างบางออกจากตัว เขามิได้สนใจชาวบ้านที่นั่งอยู่แต่อย่างใด เขาต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเขารักเมียมากเพียงใด มือหน้าที่กำดาบกำทวนมานานหลายปีประคองใบหน้างามอย่างถนอมก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป"คำพูดที่คนอื่นใส่ร้ายเจ้าไม่อาจทำให้พี่หมดรักเจ้าหรือแคลงใจในตัวเจ้าสักนิด ไปเถอะพักผ่อนดีกว่าวันนี้ไม่ต้องทำงานแล้วพรุ่งนี้พี่จะพาอาเจินไปสอบ อาหารเย็นเดี๋ยวให้ท่านอาหวังไปซื้อที่ตำบลก็ได้"เสิ่นเยี่ยนฟางยิ้มให้เมิ่งหย่งชวน นางจึงรับปากเขาเข้าไปพักผ่อน พอเข้ามาในบ้านจากสตรีอ่อนหวานที่สามีต้องคอยประคองเดินเพราะเปราะบางเกินไปก็แปลงร่างทันที นางชกผนังอิฐจนเกิดรอยร้าว เสี่ยวเย่ากับเสี่ยวอิงลอยมานั่งตักท่านแม่คนละข้าง เสี่
เสิ่นเยี่ยนฟางเข้าไปในห้องครัวนางต้องการทำอาหารเป็นเสบียงให้สามีกับน้องสามีไปกินระหว่างทางในวันพรุ่งนี้ เมิ่งหย่งชวนบอกนางว่าจะไปบนเขา ไท่จื่อมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าต้องการสั่งงานเขาบางอย่าง เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าก่อนจะบอกให้เขาระวังตัว จนกระทั่งสามีไปแล้วเสี่ยวเย่าจึงไปตามท่านอามาหาท่านแม่เมื่อเมิ่งลู่เจินมาถึงเสิ่นเยี่ยนฟางก็ให้เสี่ยวเย่าดูต้นทาง นางไม่ต้องการให้พ่อสามีรู้เรื่องนี้ เมิ่งลู่เจินนั่งลงข้างๆพี่สะใภ้ เสิ่นเยี่ยนฟางนวดแป้งไปด้วยเอ่ยกับเขาไปด้วย"อาเจิน พรุ่งนี้เดินทางไปสอบแล้วตื่นเต้นหรือไม่""นิดหน่อยขอรับ...พี่สะใภ้ท่านอยู่ที่บ้านต้องระวังตัวสักหน่อย ท่านมีฝีมือก็จริงแต่ไม่มีวรยุทธบางอย่างท่านอาจเสียเปรียบได้""เจ้าหมายถึงผู้ใดจะทำร้ายพี่หรือ... อาเจินอย่าห่วงเลยที่เรียกเจ้ามาเพราะว่าเรื่องที่ย่าของเจ้ามาหาเรื่องพวกเราวันนี้มิใช่เรื่องบังเอิญหรือว่านางนั่นต้องการอาหารแต่อย่างใด แต่มีคนจ้างวานนางมา""พี่สะใภ้หมายถึงมีคนจ้างท่านย่าให้มาก่อกวนหรือขอรับ""พรุ่งนี้เจ้าต้องไปสอบแล้ว มีคนไม่ต้องการให้เจ้าสอบผ่านจึงอยากทำลายชื่อเสียงเจ้ากับพี่ชายของเจ้า อาเจินที่เร
เสี่ยวเย่านอนกอดท่านแม่หลับไปแล้ว เสิ่นเยี่ยนฟางรับรู้ถึงคนข้างๆที่ตอนนี้กำลังกอดนางแนบแน่น เขากำลังต้องการนางๆจึงหันหน้าไปหาสามี"ท่านพี่.....พรุ่งนี้เดินทางไกลไม่กลัวเหนื่อยหรือเจ้าคะ""พี่อยากรักเมียได้ไหมเสี่ยวฟาง ต้องไปถึงสิบวันลงแดงตายพอดี" เมิ่งหย่งชวนออดอ้อนเมียรัก เสิ่นเยี่ยนฟางบ่นเขาแต่ไม่จริงจังนัก"คนบ้านี่....แค่สิบวันท่านยังจะลงแดงตาย แล้วไปชายแดนนานนับเดือนท่านจะทำเช่นไร มิใช่ไปหาสตรีโคมเขียวมาจากที่ใดระบายอารมณ์หรอกนะเจ้าคะ""มีแค่เจ้าก็พอแล้วสตรีอื่นพี่ล้วนรังเกียจ นอกจากเจ้าคนเดียวมาเถอะพี่พาไปอีกห้อง คิดถึงจะตายแล้วคนดี"เสิ่นเยี่ยนฟางยิ้มให้เขา เมิ่งหย่งชวนอุ้มเมียรักขึ้น จากนั้นก็พาเดินออกไปจากห้องนอน เสิ่นเยี่ยนฟางกอดคอเขาเอาไว้ ห้องที่ต่อเติมใหม่นั้นแยกออกไปจากเรือนหลักเสิ่นเยี่ยนฟางเคยถามเขาว่าทำไมต่อเติมห่างเรือนหลักนักตอนนี้นางรู้คำตอบแล้ว นางงับจมูกเขาเบาก่อนจะเอ่ยปากบ่น เมิ่งหย่งชวนหัวเราะในลำคอ"ท่านพี่ท่านมันคนหื่นกาม""พี่รักเมียนี่ เสี่ยวฟางจ๋าคิดถึงจังเลย"ทันทีที่วางร่างบางบนเตียงเมิ่งหย่งชวนก็ไม่เสียเวลาสักนิด กอดจูบคลุกเคล้าจนค
เมิ่งหย่งชวนเดินออกมาจากในห้องส่งสัญญาณให้องครักษ์ลับไปทำงาน หลังจากสั่งงานแล้วจึงเดินไปหาภรรยากับน้องชายในครัว เขาสวนกับบิดา เมิ่งหย่งชุนพยักหน้า ท่านพ่อตัดใจจากสตรีแพศยาได้แล้ว ถึงเวลาลงมือแล้วสิ ลู่ซินเจ้าเลือกเองนะ ข้าเมิ่งหย่งชวนจะตอบสนองอย่างดีเลยล่ะ"*************อีกด้านหนึ่งของเบื้องบน ทหารสวรรค์รายงานความคืบหน้าแก่เทพสงครามอยู่ พวกเขาตามรอยปราณพิภพฟ้าดินมาสักพักแล้ว เหมือนจะได้กลิ่นก็จางหาย พอจะได้เบาะแสก็ขาดหายอีก"เทพสงครามอีกไม่นานเราคงตามเจอพ่ะย่ะค่ะ""ข้าได้กลิ่นของปราณพิภพฟ้าดิน แต่เหตุใดช่างเบาบางเหลือเกิน แปลว่ามีบางอย่างคุ้มครองเขาอยู่ตามหามันให้เจอ""แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าแดนของโลกมนุษย์นะพ่ะย่ะค่ะ""ขอเพียงเจอตัวเจ้านั่นข้าจะไปรับโทษกับเง็กเซียนเอง หึเมิ่งชวน เสี่ยวฟางเซียนหากข้าเจอพวกเจ้าข้าจะทำลายดวงจิตพวกเจ้าเสีย ต่อให้อีกสามแสนภพข้าก็จะทำให้พวกเจ้าก็หากันไม่เจอ"บุรุษในเกราะสีทองยืนอยู่เหนือก้อนเมฆ เขาตามหามาสองหมื่นปีของสวรรค์ ในที่สุดก็ได้กลิ่นเจ้าตัวแสบนั้นสักที แม้จะเบาบางแต่ก็คือเบาะแสต้องหาต่อไปเท่านั้น ส่วนรองแม่ทัพสวรรค์กับธ
หมู่บ้านสี่สิบลี้เสิ่นเยี่ยนฟางกำลังเตรียมเสบียงให้กับสองพี่น้องเพื่อเดินทาง เมิ่งหย่งชวนที่เพิ่งรักเมียจนถึงฟ้าสางกลับไปนอนต่อยังคงนอนหมดแรง เสิ่นเยี่ยนฟางที่บอกับน้องสามีเรื่องสอบแล้วก็ยกข้าวต้มไปให้เมิ่งซุน เมิ่งหย่งชุนไปบ้านใหญ่เขาได้ยินว่ามารดาตกเขาจึงได้มาหาเมิ่งจื่อนั่งน้ำลายไหล พี่สะใภ้เขากลับมาเมื่อวานหลังจากี่หนีไปเพราะทนมารดาของเขาไม่ไหว ท่านแม่ร้ายกาจเกินไป ยิ่งวันนี้เขาต้องคุยกับนางให้รู้เรื่อง เมิ่งหย่งชุนเดินเข้าไปในห้องที่แม่เฒ่าเมิ่งนอนอยู่ เมื่อเห็นบุตรชายนางก็ทำตาขวางก่อนจะเอ่ยปากด่า"มาทำไม่ หรือเห็นว่าข้าสุขสบายดีเลยจะมาทำให้ตายไวขึ้น""ท่านแม่ข้าไม่กล้าอกตัญญูเพียงนั้นหรอก ถึงอยากทำก็เถอะ""เจ้าๆๆ...ไอ้สารเลวคิดจะฆ่าแม่แก่ๆอย่างข้า บุตรชายเจ้าไปสอบคงไม่ได้ตำแหน่งอันใดหรอกเพราะพ่อมันอกตัญญู เวรกรรมต้องส่งผลถึงลูกชายเลวๆของมัน""ท่านแม่ ข้าจะไม่กล่าวอีกซ้ำสอง หากท่านกล้าสมคบคิดลู่หานทำร้ายทำลายบุตรชายของข้า เช่นนั้นหมู่บ้านสี่สิบลี้แห่งนี้ก็ไม่ควรให้ท่านได้ใช้ชีวิต ที่เหมืองชายแดนยังขาดทาสสตรี ข้าส่งท่านได้นะ ข้าเมิ่งหย่งชุน มีเพียงบิดาไร้ซึ่
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย ขบวนของเมิ่งหย่งชวนและโจวหยวนก็ออกเดินทางไปยังอำเภอจิ่วเพื่อส่งน้องชายและบุตรชายสกุลจางไปร่วมทำการสอบ ไม่นานก็กลับมาหากผ่านการสอบครั้งนี้ก็จะเข้าร่วมการสอบที่เมืองหลวง ทั้งสามคนยังต้องผ่านอีกหลายสนาม ที่จริงแล้วเสิ่นเยี่ยนฟางไม่หวังให้เมิ่งลู่เจินได้ที่หนึ่งอย่างที่นางบอกเขาไป แค่อยากกระตุ้นไฟในตัวเขาเท่านั้น หากน้องสามีคนนี้มีใจอยากปกป้องบิดา กับพี่ชายและนางอย่างที่เขาตั้งใจแล้วนั้น เขาต้องยืนอยู่เหนือผู้คนเหล่านั้นให้ได้เมิ่งหย่งซินที่ตอนนี้รับอาสาพี่ชายมาดูแลบิดาเอง หลังจากเมิ่งซุนหลับสองคนพี่น้องจึงได้พูดคุยกัน"พี่รอง..ท่านขับไล่นางไปแล้วหรือ""อืม...นางไม่มีความเมตตาสักนิด ยังคงรักใคร่ผูกพันแต่กับสามีเก่า ข้าทำงานเหนื่อยยากเสี่ยงตายกว่าจะได้เงินตำลึงส่งเงินกลับมาแต่นางกลับอุ้มชูเพียงลูกชู้ มารดาเช่นนี้ไม่มีก็ไม่ทำให้ชีวิตของข้ามีผลอันใด""แต่เรื่องการสอบอาเจิน ไม่กระทบแน่นะข้าเกรงว่า""อย่ากังวลเลย หากมีผลกระทบย่อมไม่ใช่นางเป็นคนก่อ ลู่ซินถึงเวลาที่เจ้าต้องชดใช้ให้กับอาชวนกับอาเจินแล้ว"เมิ่งหย่งชุนกำมือแน่น น้องสาวเห็นพี่ชาย
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ