เมิ่งหย่งชวนเดินออกมาจากในห้องส่งสัญญาณให้องครักษ์ลับไปทำงาน หลังจากสั่งงานแล้วจึงเดินไปหาภรรยากับน้องชายในครัว เขาสวนกับบิดา เมิ่งหย่งชุนพยักหน้า ท่านพ่อตัดใจจากสตรีแพศยาได้แล้ว ถึงเวลาลงมือแล้วสิ ลู่ซินเจ้าเลือกเองนะ ข้าเมิ่งหย่งชวนจะตอบสนองอย่างดีเลยล่ะ"*************อีกด้านหนึ่งของเบื้องบน ทหารสวรรค์รายงานความคืบหน้าแก่เทพสงครามอยู่ พวกเขาตามรอยปราณพิภพฟ้าดินมาสักพักแล้ว เหมือนจะได้กลิ่นก็จางหาย พอจะได้เบาะแสก็ขาดหายอีก"เทพสงครามอีกไม่นานเราคงตามเจอพ่ะย่ะค่ะ""ข้าได้กลิ่นของปราณพิภพฟ้าดิน แต่เหตุใดช่างเบาบางเหลือเกิน แปลว่ามีบางอย่างคุ้มครองเขาอยู่ตามหามันให้เจอ""แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าแดนของโลกมนุษย์นะพ่ะย่ะค่ะ""ขอเพียงเจอตัวเจ้านั่นข้าจะไปรับโทษกับเง็กเซียนเอง หึเมิ่งชวน เสี่ยวฟางเซียนหากข้าเจอพวกเจ้าข้าจะทำลายดวงจิตพวกเจ้าเสีย ต่อให้อีกสามแสนภพข้าก็จะทำให้พวกเจ้าก็หากันไม่เจอ"บุรุษในเกราะสีทองยืนอยู่เหนือก้อนเมฆ เขาตามหามาสองหมื่นปีของสวรรค์ ในที่สุดก็ได้กลิ่นเจ้าตัวแสบนั้นสักที แม้จะเบาบางแต่ก็คือเบาะแสต้องหาต่อไปเท่านั้น ส่วนรองแม่ทัพสวรรค์กับธ
หมู่บ้านสี่สิบลี้เสิ่นเยี่ยนฟางกำลังเตรียมเสบียงให้กับสองพี่น้องเพื่อเดินทาง เมิ่งหย่งชวนที่เพิ่งรักเมียจนถึงฟ้าสางกลับไปนอนต่อยังคงนอนหมดแรง เสิ่นเยี่ยนฟางที่บอกับน้องสามีเรื่องสอบแล้วก็ยกข้าวต้มไปให้เมิ่งซุน เมิ่งหย่งชุนไปบ้านใหญ่เขาได้ยินว่ามารดาตกเขาจึงได้มาหาเมิ่งจื่อนั่งน้ำลายไหล พี่สะใภ้เขากลับมาเมื่อวานหลังจากี่หนีไปเพราะทนมารดาของเขาไม่ไหว ท่านแม่ร้ายกาจเกินไป ยิ่งวันนี้เขาต้องคุยกับนางให้รู้เรื่อง เมิ่งหย่งชุนเดินเข้าไปในห้องที่แม่เฒ่าเมิ่งนอนอยู่ เมื่อเห็นบุตรชายนางก็ทำตาขวางก่อนจะเอ่ยปากด่า"มาทำไม่ หรือเห็นว่าข้าสุขสบายดีเลยจะมาทำให้ตายไวขึ้น""ท่านแม่ข้าไม่กล้าอกตัญญูเพียงนั้นหรอก ถึงอยากทำก็เถอะ""เจ้าๆๆ...ไอ้สารเลวคิดจะฆ่าแม่แก่ๆอย่างข้า บุตรชายเจ้าไปสอบคงไม่ได้ตำแหน่งอันใดหรอกเพราะพ่อมันอกตัญญู เวรกรรมต้องส่งผลถึงลูกชายเลวๆของมัน""ท่านแม่ ข้าจะไม่กล่าวอีกซ้ำสอง หากท่านกล้าสมคบคิดลู่หานทำร้ายทำลายบุตรชายของข้า เช่นนั้นหมู่บ้านสี่สิบลี้แห่งนี้ก็ไม่ควรให้ท่านได้ใช้ชีวิต ที่เหมืองชายแดนยังขาดทาสสตรี ข้าส่งท่านได้นะ ข้าเมิ่งหย่งชุน มีเพียงบิดาไร้ซึ่
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย ขบวนของเมิ่งหย่งชวนและโจวหยวนก็ออกเดินทางไปยังอำเภอจิ่วเพื่อส่งน้องชายและบุตรชายสกุลจางไปร่วมทำการสอบ ไม่นานก็กลับมาหากผ่านการสอบครั้งนี้ก็จะเข้าร่วมการสอบที่เมืองหลวง ทั้งสามคนยังต้องผ่านอีกหลายสนาม ที่จริงแล้วเสิ่นเยี่ยนฟางไม่หวังให้เมิ่งลู่เจินได้ที่หนึ่งอย่างที่นางบอกเขาไป แค่อยากกระตุ้นไฟในตัวเขาเท่านั้น หากน้องสามีคนนี้มีใจอยากปกป้องบิดา กับพี่ชายและนางอย่างที่เขาตั้งใจแล้วนั้น เขาต้องยืนอยู่เหนือผู้คนเหล่านั้นให้ได้เมิ่งหย่งซินที่ตอนนี้รับอาสาพี่ชายมาดูแลบิดาเอง หลังจากเมิ่งซุนหลับสองคนพี่น้องจึงได้พูดคุยกัน"พี่รอง..ท่านขับไล่นางไปแล้วหรือ""อืม...นางไม่มีความเมตตาสักนิด ยังคงรักใคร่ผูกพันแต่กับสามีเก่า ข้าทำงานเหนื่อยยากเสี่ยงตายกว่าจะได้เงินตำลึงส่งเงินกลับมาแต่นางกลับอุ้มชูเพียงลูกชู้ มารดาเช่นนี้ไม่มีก็ไม่ทำให้ชีวิตของข้ามีผลอันใด""แต่เรื่องการสอบอาเจิน ไม่กระทบแน่นะข้าเกรงว่า""อย่ากังวลเลย หากมีผลกระทบย่อมไม่ใช่นางเป็นคนก่อ ลู่ซินถึงเวลาที่เจ้าต้องชดใช้ให้กับอาชวนกับอาเจินแล้ว"เมิ่งหย่งชุนกำมือแน่น น้องสาวเห็นพี่ชาย
เมื่อเสร็จสิ้นมื้อค่ำทั้งหมดก็พูดคุยกันเกี่ยวกับหัวข้อการสอบที่ผ่านมา มีเพียงจางลี่ที่ไม่สนใจใคร อยู่ในสนามสอบนั้นยิ่งกว่าอดอยาก เขาคิดถึงของกินที่อาจารย์หญิงทำให้เขามากที่สุด กระทั่งทุกคนเอ่ยลาเพื่อเข้านอน เมิ่งหย่งชวนมองหน้าน้องชายก่อนจะดีดตัวเองไปยังป่าด้านหลังของที่พักเมิ่งลู่เจินดีดตัวตามเขามาเพียงแค่พริบตาก็ตามทัน เมิ่งหย่งชวนเดาเรื่องราวออกได้ทันที เมื่อมาหยุดกลางป่าก็นั่งลงบนโขดหินก่อนจะเอ่ยถามไม่อ้อมค้อมแต่อย่างใด"ฆ่าไปกี่คน ศพหายไปไหนหมด""สองร้อยยี่สิบสามคน ศพใช้เลี้ยงหมาป่าบนเขาขอรับ ถึงฤดูกาลล่าจะได้ตัวใหญ่ขนสวยๆหน่อย เช่นเสื้อขนสัตว์กันอากาศหนาวเย็นที่พี่สะใภ้เย็บให้ท่าน หมาป่าเหล่านั้นนางก็เป็นคนล่ามันกับมือขอรับ""พี่สะใภ้เจ้าเล่า นางรู้อะไรบ้าง""พี่สะใภ้ไม่อยากให้ข้าเดินเส้นทางสายนี้ แต่พี่ใหญ่ข้าจะมัวนั่งรอให้ท่านกับนางปกป้องตลอดชีวิตไม่ได้นะขอรับ ข้าควรต้องแข็งแกร่งเพื่อปกป้องท่านพ่อกับนางและหลานๆอีกด้วย""อืม..เสี่ยวฟางนางเป็นห่วงเจ้า กลัวว่าจะถูกความแค้นบังตาจนไม่รู้ถูกผิด อาเจินจากนี้ไปหยุดเพียงเท่านี้ คนที่เจ้าสังหารนั่นเป็นเพียงแค่มดปลว
ขบวนของเทพสวรรค์ยังคงเคลื่อนที่มาเรื่อยๆ อย่าไม่กลัวเกรง บัดนี้กำลังจะข้ามเขตแดนแล้ว ท่านตาเจ้าที่ยืนมองบนท้องฟ้าก่อนจะกระหยิ่มในใจจากนั้นจึงไปหาแม่ลูกดกเสิ่นเยี่ยนฟาง"เว่ยๆๆ ..นี่นางหนูทหารสวรรค์กำลังมาเจ้าไม่ทุกร้อนเลยหรืออย่างไร""ท่านตาเจ้าที่ ข้าไม่สนใจหรอก ว่าแต่ท่านพอใจศาลเจ้าที่ๆ ข้าสร้างให้หรือไม่เจ้าคะ""อืม..พอใจสิข้าพอใจมากใหญ่โตโอ่อ่า นี่ให้พวกเทพเซียนที่เป็นสหายของข้ามานอนเล่นยังเหลือพื้นที่เลย แหม่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเจ้าว่าข้าหาเซียนสาวๆ มาสักคนดีไหม""ท่านตา...เสี่ยวเย่าบอกว่าท่านแก่มากแล้ว มิทราบว่าจะเสาะหาสตรีไปเพื่อการใดเจ้าคะ""แก่หรือ...หน็อยๆๆ เจ้าว่าใครแก่กันนางหนูข้าเพิ่งจะอายุเก้าแสนปีเมื่อวาน ตรงไหนที่เจ้าว่าแก่ อย่างน้อยข้าก็เกิดหลังพิภพมนุษย์นี้ก่อกำเนิด" เสิ่นเยี่ยนฟางตาโตทันที ก่อนจะอุทานออกมา"อ๋า..เก้าแสนปี ท่านตาทวดๆๆๆๆๆๆ โอ๊ยลูกหลายท่านจะนับญาติอย่างไรกันเล่า""ช่างเถอะๆ ...ว่าแต่หากเทพสงครามมาแย่งชิงตัวเสี่ยวเย่าเจ้าจะทำอย่างไร""ข้าไม่มีคาถาอาคมหรืออิทธิฤทธิ์อะไรไปสู้หรอก มีแต่สองมือสองเท้าข้าที่ยังว่าง ต่อให้เป็นเทพเซียนหากรังแกกันมากๆ แม่จะเตะใ
ทางด้านพ่อสามีกับอาหญิงเล็กของเมิ่งหย่งชวนไปที่ศาลเจ้าได้นานพอควรแล้วถึงเวลาต้องกลับมาแล้ว เสิ่นเยี่ยนฟางที่เตรียมมื้อเช้าให้พวกเขาก็เห็นอาหญิงของสามีวิ่งกระหืดกระหอบมาหานาง"หลานสะใภ้ๆ แย่แล้วๆมีคนกำลังมาหาเจ้าเพื่อทวงลูกคืน พวกเขาบอกว่าเจ้าขโมยบุตรชายของเขามาน่ะ""หืม...ข้าขโมยบุตรของพวกเขามาเช่นนั้นหรือเจ้าคะอาหญิง ใครกันมากล่าวหาข้า"เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยถามเมิ่งหย่งซิน หยางซิงเหยียนกับเจียงเสี่ยวฮวาที่ช่วยกันเลี้ยงเด็กๆทั้งหกคนตกใจทันที ฮูหยินเมิ่งขโมยบุตรผู้อื่นนี่เป็นไปได้อย่างไรกัน ยังไม่ทันสอบถามให้รู้ความก็มีบุรุษห้าคนมาถึงหน้ารั้ว ทั้งห้าเดินเข้ามาในบ้านโดยไม่ขออนุญาตแต่อย่างใด เสิ่นเยี่ยนฟางหันไปหาบุตรชายทันที"เสี่ยวเย่าใช่พวกที่จะมาก่อกวนหรือไม่" เสี่ยวเย่ามองไปที่เทพสงครามฮ่าวเฉินกับรองแม่ทัพฮ่าวหลางจึงพยักหน้ากับมารดา เสิ่นเยี่ยนฟางเดินขึ้นหน้ากางแขนปกป้องบุตรทันทีเช่นกัน "มาทางไหนไสหัวกลับไปทางนั้น บุตรชายของข้ามิใช่ใครจะมาแอบอ้างได้""เสี่ยวฟางเซียน อย่าว่าแต่ปราณพิภพเลยแม้แต่เจ้าข้าก็ไม่ละเว้น พวกเจ้าไปจับมันมา รวมถึงนางเซียนทรยศนี่ด้วย"ทั้งสี่ค
ชาวบ้านเข้าใจว่าพวกที่มาหาเรื่องเป็นคนบ้าก็พยายามจะผลักดันช่วยกันต่อต้านเต็มที่ จนกระทั่งมีรถม้าวิ้งเข้ามา ทันทีที่เมิ่งหย่งชวนลงจากรถ เสิ่นเยี่ยนฟางก็หยุดมือทันที น้ำตาไหลออกมาสะอื้นจนเมิ่งหย่งชวนรีบตรงมาหานาง เทพสงครามเห็นหน้าก็ยิ่งโมโห ไอ้เทพชั้นต่ำทรยศมาอีกตนหนึ่งแล้ว เมิ่งหย่งชวนไม่สนใจสิ่งใดรีบมาเช็ดน้ำตาให้เมียรักทันที"เสี่ยวฟางของพี่ร้องไห้ทำไม ใครรังแกเจ้ากัน""ฮึกๆๆ ฮือๆๆพวกเขาเจ้าค่ะ ท่านพี่พวกเขาจะพรากเสี่ยวเย่าไปจากข้ารวมถึงเด็กๆอีกห้าคน เขาตีข้าๆสู้ไม่ได้ ท่านพี่ข้าเพิ่งตรวจมาเมื่อวาน ข้ากำลังตั้งครรภ์แต่พวกเขาก็ไม่ยั้งมือ ทุบตีข้าเพื่อแย่งลูกของเราฮือๆๆๆ"ทั้งห้ายืนอ้าปากค้าง เป็นนางที่ทุบตีพวกเขานะ เหตุใดนางซบอกสามีร้องไห้ว่าพวกเขาทุบตีนางกัน ธิดาบุปผาเจ้ามันสตรีมากเล่ห์ แต่เมิ่งหย่งชวนไม่สนใจถามความจริง เขาโกรธทันทีที่รู้ว่ามีคนมาหาเรื่องเมีย หันกลับไปช้าๆก่อนจะเอ่ยกับฮ่าวเฉิน"อะไรนะเจ้าตั้งครรภ์หรือ เสี่ยวฟางอย่าร้องๆเดี๋ยวลูกจะมีอันตราย พี่จัดการให้เองใครกล้าทำร้ายเจ้าพี่ไม่เอาไว้เด็ดขาด ดูท่าเจ้าคงเป็นหัวหน้าสินะ กล้ารังแกเมียข้า คิด
หลังจากที่จัดการคนที่มาแอบอ้างเป็นบิดาเสี่ยวเย่าแล้วเมิ่งหย่งชวนก็หันมาหาเมียรักทันที เมื่อกี้นางบอกเขาว่ากำลังตั้งครรภ์หรือ นี่เป็นข่าวดีเชียวนะ เขารอเวลานี้มานานมากแล้วที่ผ่านมานางฝังเข็มเอาไว้เขาเห็นว่านางไม่พร้อมจึงไม่ได้เซ้าซี้แต่ตอนนี้นางตั้งครรภ์แล้ว"เสี่ยวฟางจ๋า..ไปพักเถอะหน้าซีดเชียว""ท่านพี่..ข้ายังไหวอยู่นะเจ้าคะ อุ๊บ อื้อ แหวะ"พูดจบก็เอามือป้องปากวิ่งไปอาเจียนทันที เสี่ยวเย่ามองตามมารดา เขาเป็นห่วงนางกับท่านพ่อและน้องๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องเข้าไปอยู่ในครรภ์มารดาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เวลาถือกำเนิดของเขามาถึงแล้ว เมิ่งหย่งชวนที่ตอนนี้ลูบหลับให้ภรรยา เมิ่งลู่เจินวิ่งไปเอาน้ำมาให้พี่สะใภ้ หยางซิงเหยียนเองเรื่องเมื่อกี้ทำให้นางตกใจไม่น้อย ตอนนี้หวงหย่งเหนียนกำลังเฝ้าดูแลนางอยู่ในห้อง เมิ่งหย่งซินเอ่ยกับสามีว่าขออยู่ดูแลหลานสะใภ้ก่อน"ท่านพี่...หลานสะใภ้นางตั้งครรภ์ บ้านก็ไร้สตรีข้าอยากอยู่ดูแลนางก่อน อาหารการกินและยาของท่านพ่อต้องมีคนดูแลน่ะเจ้าค่ะ""อืม..พี่เข้าใจเสี่ยวซินอยู่ดูแลพวกเขาเถอะ พี่เองก็จะไปๆมาระหว่างตำบลกับหมู่บ้านสี่สิบลี้"โจวหยางเดินม
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ