เจย์ไม่ได้พูดเร่งเร้าเธอต่อ ดวงตาที่แหลมคมของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอแทนแองเจลีนดูซูบผอมลงและรูปร่างหน้าตาของเธอดูยากที่จะเข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะดวงตาของเธอ พวกมันดูโตและสว่างกว่าเมื่อก่อนเมื่อเขาคิดว่าคนที่มีเสน่ห์อย่างเธอสามารถอยู่กับชายอื่นได้ ออร่าเย็นเยียบก็เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขาและล้อมรอบตัวเขาไว้“แองเจลีน เซเวียร์ เธอต้องเข้าใจนะว่านี่ไม่สำคัญว่าเธอจะลงนามในข้อตกลงหรือไม่ แต่มันอยู่ที่ฉันจะตัดสินใจลงนามด้วยหรือเปล่า”แองเจลีนก็ตระหนักได้ในทันใด ตอนนี้เซร่าอยู่ในภาวะคลอดบุตรและอยู่ในภาวะฉุกเฉิน จากนั้นเธอก็เพิกเฉยต่อความสงสัยและความคิดทั้งหมดที่อยู่ในหัวของเธอ และลงนามในเอกสารทันทีจากนั้นเธอก็ยื่นข้อตกลงให้กับเจย์ ด้วยความประหลาดใจของเธอ เขาแค่จ้องเธอด้วยดวงตาที่เปล่งประกายของเขา เขาดูไม่ได้ตั้งใจจะเซ็นเอกสารพวกนั้นเลย“นายต้องการอะไรก็ขอให้ปล่อยเธอไปได้ไหม?” แองเจลีนถามด้วยสีหน้าผิดหวังเจย์ถามกลับอย่างเย็นชาว่า “ฉันได้ยินมาว่าวันนี้เธอได้พบกับโคล ยอร์กเหรอ?”แองเจลีนเงียบ เธออยู่กับ โคล ยอร์ก จริง ๆ ในระหว่างวันเจย์สังเกตเห็นว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึ
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเจย์เป็นการแสดงออกที่ไร้ชีวิตชีวา “เลิกกับเขาซะ” เขาขู่เธอแองเจลีนต้องการตัดสัมพันธ์กับโคลอยู่แล้ว ทว่า คนโหดร้ายนั่นเหนียวกว่าเทปกาวที่ดี ๆ เสียอีก“ฉันทำไม่ได้” เธอพูดอย่างใจเย็นเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน โคลเป็นคนตัดสินใจไปเองก่อนเสมอเมื่อคำพูดเหล่านั้นเข้ามาถึงหูของเจย์ ฟังดูเหมือนว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะดึงตัวเองออกจากโคล“การเลิกกับเขามันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?” เจย์กัดฟัน ออร่าแห่งการสังหารดูซึมซาบจากภายในตัวเขาแองเจลีนไม่มีคำพูดเจย์ยิ่งโกรธเพราะความเงียบของเธอ และฟันของเขาก็กัดแน่นประสานกัน “แองเจลีน เซเวียร์ อย่าลืมว่าเรายังไม่ได้หย่ากัน นี่มันคือการนอกใจ ในเมื่อเธอกล้าหักหลังฉัน เธอควรเชื่อว่าฉันจะ-”แองเจลีนทำใจให้แข็ง ดวงตามืดมิดของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาในขณะที่เธอมองเขาด้วยความไม่พอใจคำพูดของเจย์ถูกทิ้งไว้กลางอากาศแม้ว่าเธอจะทรยศเขา เขาจะทำอะไรได้อีก?“นายทำให้ฉันนึกถึงบางอย่าง ฉันไม่แน่ใจว่านายจะว่างเมื่อไหร่ ท่านอาเรส เรามายุติความสัมพันธ์ที่ชั่วร้ายของเรากันเถอะ” แองเจลีนกล่าวโดยไม่แสดงอารมณ์เจย์จ้องมองเธอ เธอกล้าพูดถึงการหย่าร้างออกมาไ
ใบหน้าของเจย์แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา “ฉันแค่ให้สิ่งที่เธอสมควรจะได้รับ ฉันแค่เตือนเธอให้นึกถึงคำพูดและสิ่งที่เธอทำก็เท่านั้น”เขาหยุดไปครู่หนึ่งและดวงตาของเขาก็เย็นลง “ในกรณีทำเช่นนี้อีกครั้ง มันจะไม่ใช่แค่การเตือนความจำง่าย ๆ ในครั้งหน้าอีก”แองเจลีนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “นายต้องการทำอะไรกับฉันกันแน่?”เจย์มองเข้าไปในดวงตาของเธอ เขาจะทำอะไรกับเธอได้บ้าง? เขาจะทำอะไรได้อีก?“ฉันจะทำให้เขาหายไปจากโลกนี้เลย” เจย์รู้สึกสัมผัสเธอไม่ได้เลย เขาจึงทำได้เพียงกำจัดโคล ยอร์กออกไปเท่านั้นแองเจลีนหัวเราะออกมาทันที เธอหัวเราะเยาะความคล้ายคลึงกันของชายทั้งสองคน แค่ยั่วยุเล็กน้อยก็ทำให้ใครบางคนหายวับไปจากโลกได้เลย ราวกับว่าพวกเขาเป็นผู้คุมโลกใบนี้หากพวกเขาขู่โจมตีกันจริง ๆ เธอคงจะมีความสุขมากกว่า ที่ได้เห็นการต่อสู้ที่โหดร้าย“ทำในสิ่งที่นายต้องการเลย” แองเจลีนหันหน้าหนีและทิ้งเขาไว้กับคำพูดเหล่านั้นเจย์โกรธมากกับทัศนคติของเธอจนกำหมัดของเขาไว้แน่นนอกห้องผ่าตัดแจ็คกับคุณนายเดินไปมาอย่างกังวล พวกเขามองที่ประตูห้องผ่าตัดเป็นครั้งคราวแองเจลีนเดินมาถึงหน้าห้องผ่าตัดและถามคุณนายไปว่า “เซร
เจย์รู้สึกเกลียดแจ็คทั้งหมดในจิตวิญญาณของเขาเขารับเอาความทุกข์ทรมานทั้งหมดของแองเจลีนและปลดปล่อยมันออกไปกับแจ็คในช่วงเวลานี้เองที่แสงแฟลชจากกล้องถ่ายภาพทำให้มีฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจขึ้นมา สื่อมวลชนแห่กันขึ้นมาทางบันใดและมุงกันรอบตัวแจ็ค พวกเขาสัมภาษณ์แจ็คว่า “คุณท่านอาเรส เซร่ากำลังอุ้มท้องลูกของคุณอยู่จริงหรือไม่คะ?”“คุณท่านอาเรส สำหรับเมืองอิมพีเรียลได้บัญญัติกฎหมายไว้ ห้ามการมีภรรยาหลายคน ดังนั้นคุณจะหย่ากับภรรยาคนแรกของคุณและแต่งงานกับเซร่า เซเวียร์ที่อายุน้อยและสวยงามใช่หรือไม่?“คุณท่านอาเรส คุณเพิ่งได้เป็นคนควบคุมบริษัท อาเรส หากมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับคุณ คุณไม่กลัวงานประชาสัมพันธ์บริษัทของคุณจะลดน้อยลงและจะส่งผลเสียต่อบริษัทของคุณหรือคะ?”คำถามที่นักข่าวตั้งขึ้นมาทำให้เขารู้สึกอึดอัดและพวกเขาทำให้แจ็ครู้สึกยืนอยู่ในสถานการณ์ที่ตัดสินใจยาก ไม่ว่าตัดสินใจเลือกทางไหนก็มีแต่ผลเสีย เขาพบว่ามันยากที่จะตอบสนองในที่สุด แจ็คก็ตระหนักได้ว่า เจย์เป็นคนทำให้เขาติดกับดักนี้ จากเหตุที่เกิดขึ้นกับเซร่าที่จู่ ๆ มาคลอดกะทันหัน ไปจนถึงเรื่องไม่มีสูติแพทย์ในอสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีน แล
รอยยิ้มที่เย็นชาก่อตัวขึ้นบนใบหน้าของเจย์ “ผมจะใช้วิธีการของตัวเองเพื่อให้ได้สิ่งที่ผมต้องการ ระหว่างคุณกับผม จะไม่มีการแลกเปลี่ยนอะไรกันทั้งนั้น”แจ็คตอบว่า “แล้วถ้าเป็นพวกแผงวงจรรวมล่ะ? นายไม่ต้องการมันแล้วอย่างนั้นเหรอ?”เจย์กล่าวว่า “ข้อเสนอของคุณน่าดึงดูดดี แต่ผมยังคงขอยืนยัน ระหว่างคุณกับผม จะไม่มีการแลกเปลี่ยนอะไรกันทั้งสิ้น”แองเจลีนมองไปที่เจย์ อาเรสผู้ยืนกราน และหัวใจของเธอก็ปวดร้าวราวกับถูกแมวป่าทารุณหัวใจของเธอเจ็บปวดเพื่อเขาเจย์เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์เป็นอันดับแรกเสมอ ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เย็นชาราวกับน้ำแข็ง เขาละทิ้งความสัมพันธ์ของเขากับครอบครัวได้อย่างโหดร้าย ดังนั้น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้เขาทำสิ่งนั้นมันคงจะต้องเป็นความรู้สึกที่ถูกบดขยี้และเจ็บปวดอย่างโหดร้ายแน่นอนเมื่อฟินน์เข็นเจย์ผ่านหน้าแองเจลีน จู่ ๆ ฟินน์ก็เอามือแนบไปที่ท้องและโน้มตัวลงนั่งยอง ๆ ...“มีอะไรผิดปกติกับนายเหรอ?”“ท่านประธาน จู่ ๆ ผมก็ปวดท้องขึ้นมา” ใบหน้าของฟินน์ซีดและมีหยดเหงื่อไหลลงมาบนใบหน้าของเขาเจย์เหลือบมองดวงตาของฟินน์ ตาคู่นั้นดูมีชีวิตชีวา เขารู้ทันทีว่าฟินน์กำ
มันเป็นบรรยากาศที่หนาวเย็นระหว่างแองเจลีนและเจย์เจย์กลัวว่าเขาจะเผลอทำให้เธอรู้ความรู้สึกของเขาถ้าเขาพูดมากเกินไปแองเจลีนไม่กล้าพูด เพราะกลัวว่าจะทำให้นายท่านคนนี้ไม่พอใจในท้ายที่สุด แองเจลีนก็ทำลายความเงียบระหว่างพวกเขา เธอพูดด้วยความเศร้า “ฉันขอโทษนะ เมื่อสองปีที่ฉันจากไป นายต้องผ่านอะไรมามากมาย แต่ฉันกลับไม่สามารถอยู่เคียงข้างนายได้ในฐานะภรรยาของนาย”เจย์จ้องมองลึกลงไปบนใบหน้าที่เสียใจของแองเจลีน จริง ๆ แล้วเขาควรจะเป็นคนที่พูดคำขอโทษ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเขาที่ทำให้เธอไม่พอใจ ตระกูลอาเรสจะเผยแพร่เและบิดเบือนรื่องอื้อฉาวสกปรก ๆ ของเธอได้อย่างไร?เธอควรจะเป็นนายหญิงของตระกูลเซเวียร์ผู้ซึ่งอยู่บนแท่นอย่างภาคภูมิใจเธอไม่ควรจะเป็นเด็กสาวผู้น่าสงสารที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผู้ที่ถูกทำให้เสียโฉม ถูกบังคับให้กระโดดตึกและยังต้องมาถูกสามีทอดทิ้งอีกเสียงจากลำคอที่เซ็กซี่ของเขาดังก้อง คำว่า ‘แองเจลีน’ ติดอยู่ในลำคอของเขา มันเป็นชื่อที่เขาร้องออกมานับครั้งไม่ถ้วนในความฝัน แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าพูดต่อหน้าเธอ“เธอไม่ได้ทำผิดอะไรกับฉันเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เสียงที่ออก
ทันใดนั้น กลุ่มคนก็เข้ามารุมล้อมรถฮัมเมอร์ และเข้ามารุกรานแองเจลีนหัวใจของเจย์เหมือนกระโจนขึ้นมาถึงลำคอของเขาแองเจลีนรีบปิดประตูเพื่อปกป้องเจย์ จากนั้น เธอก็เดินไปข้างหน้าและเผชิญหน้ากับกลุ่มคนด้วยมือเปล่าฟินน์รีบวิ่งไปข้างหน้าและช่วยแองเจลีนเพื่อต่อสู้กับพวกอันธพาลที่ไม่รู้จักเหล่านี้พวกเขาเป็นนักสู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาและทักษะของพวกเขาก็ไม่มีอะไรจะเย้ยหยันได้แองเจลีนรู้สึกสับสน คนพวกนี้มาตามเธอหรือเจย์กันแน่?“ฟินน์ คนพวกนี้เป็นใคร?”“ผมไม่รู้”เจย์จ้องไปที่แองเจลีน เขาไม่ได้คาดหวังว่าทักษะของแองเจลีนจะใช้ได้อย่างรวดเร็วในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม แองเจลีนยังคงเป็นเด็กสาวที่เปราะบางอยู่ในใจของเขาเสมอเขากลัวว่าเธออาจตกอยู่ในอันตราย เขาจึงลดกระจกหน้าต่างลงและเอาลูกดอกสองสามอันออกจากช่องที่ซ่อนอยู่ในรถเข็น เขาจับมันไว้ระหว่างนิ้วของเขาผู้โจมตีที่เข้ามาใกล้ตัวแองเจลีนถูกทำร้ายจนเสียชีวิตด้วยลูกดอกแองเจลีนตัวสั่นเมื่อมองดูนักฆ่าล้มลงกับพื้น เธอหันกลับมามองเจย์เจย์ตกใจเล็กน้อย เขารู้ว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ ใบหน้าของเขาอาจถูกเปิดเผยต่อแองเจลีนโดยสิ้นเชิง ทว่า เขาไม่สามารถมองดูเ
แองเจลีนพลันลืมตาขึ้นและเห็นเจย์จ้องมาที่เธอ มีรังสีอันเย็นเยียบเล็ดลอดออกมาจากรูม่านตาของเขา“เธอคิดจะทำอะไร?” เขาดุเธอด้วยน้ำเสียงมืดมนแองเจลีนตกใจและมองไปที่เขาด้วยสายตาเหมือนลูกหมา เธอทำหน้าน่าสงสารเจย์ไม่อยากมองเธออีกแล้วแม้แต่วินาทีเดียว เพราะกลัวว่าเขาจะติดอยู่ในสายตาที่อ่อนโยนของเธอเขาเปิดประตูทันที “ฟินน์”ฟินน์ลากชายคนนั้นพาไปเตะท้องและสั่ง “คุกเข่าซะ”เจย์สอบปากคำชายคนนั้นด้วยสีหน้าซีดเผือก “ใครส่งแกมาที่นี่”ชายคนนั้นนิ่งเฉย เขามองไปที่ชายที่นั่งรถเข็น เขาคิดว่าเจย์ไม่มีอะไรมากไปกว่าคนพิการคนหนึ่ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจย์จะมีรัศมีของคนสูงศักดิ์และไม่เหมือนผู้ชายทั่วไปไม่ต้องพูดถึง สำหรับผู้ช่วยของเขาดูเหมือนแค่หนอนหนังสือ เขาประหลาดใจที่ผู้ช่วยกลับมีทักษะศิลปะการต่อสู้บางทีวันนี้พวกเขาได้เข้าไปยุ่งผิดคนเสียแล้ว“พวกแกเป็นใคร?” เขาถามฟินน์“เจ้าชายทายาทแห่งเมืองอิมพีเรียลไงล่ะ นายเคยได้ยินเกี่ยวกับเขาไหม?” ฟินน์ ได้ตอบกลับใบหน้าของชายผู้นั้นซีดไปทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น เขาเริ่มสะอื้นและอ้อนวอน “ผมขอโทษครับ เราไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ดังนั้นเราจึงทำผิดต่อท่านประ