โคลอยากจะหัวเราะ ผู้หญิงคนนี้น่ทำให้เเขาเป็นคนที่พ่ายแพ้ง่าย ๆ ไปเสียอย่างนั้น“ผมเป็นสามีในอนาคตของคุณนะ ไม่ใช่คนภายนอก ผมมีหน้าที่ต้องปกป้องคุณอยู่แล้ว” โคลกล่าวแองเจลีนกลอกตามองเขา ถ้าโคลพูดเรื่องไร้สาระอีกครั้ง แองเจลีนคงจะโกรธและปฏิเสธเขาถึงกระนั้น โคลรู้ว่าเขาทำผิดแต่ยังไม่ต้องการแก้ไขและเมื่อเวลาผ่านไป แองเจลีนก็รู้สึกมึนงง เธอขี้เกียจเกินกว่าจะแก้ไขถ้อยคำของเขาอีกแล้วท้ายที่สุด ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิมไม่ว่าเธอจะแก้ไขเขากี่ครั้งก็ตามเธอหวังเพียงให้เขาจากไปโดยเร็วที่สุดเธอจำได้ว่าโคลเคยพูดว่าเขามาที่เมืองอิมพีเรียลเพื่อดำเนินการบางอย่างและหลังจากที่เขาทำธุระเสร็จ เขาจะจากไป“ว่าแต่ คุณทำธุระเสร็จแล้วเหรอ?” แองเจลีนถามในขณะที่มีเจตนาร้ายโคลหรี่ตาลง โดยที่ไม่ค่อยเห็นเขาแสดงท่าทางเคร่งขรึมเช่นนี้“แองเจลีน ธุระของผมผ่านไปได้ไม่ค่อยดีเลย ผมก็เลยพาคุณไปอย่างที่สัญญากันไว้ก่อนหน้านี้ไม่ได้ แต่ผมสัญญากับคุณว่าผมจะรีบจัดการ จากนั้น ผมจะพาคุณออกไปให้เร็วที่สุด” เขากล่าวด้วยท่าทางจริงจังอย่างผิดปกติแองเจลีนอ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อไหร่กันที่เธอไปสัญญากับเขาว่าเธอจะไปกับเขา
เกรย์สันรู้สึกได้ว่าท้องฟ้าของเมืองอิมพีเรียลกำลังจะแปลเปลี่ยนไปวัยรุ่นที่ยืนอยู่ในที่ที่มีลมและคลื่นรุนแรงที่สุด… วัยรุ่นผู้อยู่ยงคงกระพันที่เอาชนะอุปสรรคทั้งหมดได้กลับมาแล้วเมื่อเกรย์สันกำลังจะหันหลังและจากไป เจย์ก็หยุดเขาไว้ทันใด “รอเดี๋ยว”เกรย์สันหันกลับมามองเขาเจย์กล่าวว่า “ส่งข้อมูลที่เรารวบรวมได้ไปให้แองเจลีน ปล่อยให้เธอทำหน้าที่ลงโทษครอบครัวไททัสเอง”เขาหยุดเล็กน้อยแล้วพูดอย่างชั่วร้ายว่า “เธอต้องมีความสุขที่ได้แก้แค้นในนามของครอบครัวเซเวียร์แน่ ๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม่เลี้ยงและพ่อของเธอก็จะไม่กล้าดูถูกเธอได้อีกต่อไป”เกรย์สันตกใจเล็กน้อย ท่านประธานอาเรสใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาใจคุณโรส เขาไม่เพียงต้องการให้เธอยิ้ม แต่ยังต้องการให้เธอต่อสู้เพื่อได้ตำแหน่งของเธอด้วยเกรย์สันกล่าวว่า “ได้ครับ ท่านประธานอาเรส”ในเมืองนางแอ่น ณ คฤหาสน์ไททัสชายสองคนแบก ฟอร์เรสท์ไททัสที่ได้รับบาดเจ็บและรีบพาเข้าไปในคฤหาสน์ของไททัสด้วยความตื่นตระหนก“คุณลุง!” ฟอร์เรสท์ร้องเรียกอย่างน่าเศร้าโยเซมิตี ไททัสกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เพลิดเพลินกับการดื่มกาแฟของเขาอยู่ เมื่อได้ยินเส
แองเจลีนเอียงศีรษะเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงที่มีแต่เธอและโคลเท่านั้นที่ได้ยินว่า “นี่คือแม่เลี้ยงที่ชั่วร้ายของฉัน คุณช่วยฉันลดความเย่อหยิ่งของเธอลงหน่อยได้ไหม?”โคลยิ้มราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ “ยินดีให้บริการครับ”แอนมองพินิจพิเคราะห์โคลอยู่ชั่วขณะ และแสดงความสงสัยผ่านดวงตาของเธอ “นี่ คุณหนู สุภาพบุรุษคนนี้เป็นใครกัน?”แองเจลีนมองไปที่โคล น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา “คุณพูดไปเองเลยดีกว่า”นี่เป็นเพราะว่าแองเจลีนเชื่อว่าคำพูดที่เย่อหยิ่งของโคลจะสามารถทำให้แอนกลับมาเป็นผู้ไร้ประโยชน์ได้แน่นอนว่าโคลเดินไปหาแอนอย่างสุภาพและแนะนำตัวเองว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อโคล ยอร์ก ผมเป็นแฟนใหม่ของแองเจลีน แล้วคุณล่ะเป็นใคร?”ใบหน้าของแอนดูไม่น่าดูเล็กน้อย ด้วยตัวตนของเธอ ไม่ว่าภายนอกของเธอจะน่าประทับใจแค่ไหน เธอไม่สามารถเชิดหน้าขึ้นได้ในบ้านหลังนี้เธอเป็นนายหญิงที่น่าอับอาย“แอน คอนเนอร์” เธอละเว้นสถานะตัวเองและระบุชื่อของเธอเท่านั้นดวงตาของโคลเปล่งประกายด้วยความสุข แม้ว่าจะดูเหมือนรอยยิ้มที่ไม่เป็นอันตรายอย่างชัดเจน แต่แอนรู้สึกว่ารอยยิ้มของชายผู้นี้ซ่อนพิษเอาไว้“แล้วจะให้ผมเรียกชื่ออะไรดีล่ะ?” โ
ถึงอย่างนั้น โคลได้ให้เงิน 1 แสนล้านดอลลาร์อย่างง่ายดาย นี่คือหัวหน้าใหญ่ระดับเทพที่เทียบได้กับเจย์ อาเรสเลย!แน่นอนว่า คุณนายเซเวียร์ปฏิเสธรับเงิน “คุณยอร์ก ฉันมีลูกสาวเพียงคนเดียว ดังนั้นการแต่งงานของเธอจึงเป็นเรื่องสำคัญ ฉันจะเคารพการตัดสินใจของเธอเท่านั้น หากคุณต้องการแต่งงานกับลูกสาวของฉัน จนกว่าลูกสาวของฉันจะชอบคุณและตกลงที่จะแต่งงานกับคุณ ฉันก็จะยอมรับ ฉันไม่ต้องการเงินนี้หรอกนะ”ความชื่นชอบของโคลที่มีต่อคุณนายเซเวียร์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในสังคมแห่งชื่อเสียงและความมั่งคั่งอย่างลำพองตน ผู้หญิงที่ไม่แยแสต่อชื่อเสียงและความมั่งคั่งอย่างคุณนายเซเวียร์นั้นหาได้ยาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่แองเจลีนถูกเธอเลี้ยงดูมาเป็นผู้หญิงที่น่ารักซึ่งถือว่าเงินเป็นสิ่งสกปรกแองเจลีนคิดว่านี่จะเป็นเพียงแค่การแสดง เธอจึงเดินไปหยิบบัตรนั้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณแม่ ยอมรับมันไปเถอะ นี่คือสัญลักษณ์การขอบคุณของเขาเลยนะ”คุณนายเซเวียร์ส่ายหัวและผลักบัตรนั้นออกไปให้แองเจลีน “เธอเอาไปจัดการเองก็แล้วกัน”แองเจลีนรับบัตรใบนี้และจูบมันเบา ๆ ด้วยริมฝีปากของเธอ เธอจงใจพูดด้วยเสียงเกลี้ยกล่อมกับโคลว่า “ขอบคุณนะโ
โคลกล่าวว่า “มันง่ายมากที่จะทำให้พ่อของคุณกลับมา โดยที่แม่เลี้ยงของคุณจะหายไปจากโลกนี้”แองเจลีนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฉันอยากจะแงะเปิดกะโหลกของคุณแล้วดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในจริง ๆ นอกจากอยากให้คนอื่น ๆ หายไปจากโลกนี้ได้แล้ว คุณมีทางแก้ไขอื่นอีกไหม?”โคลลูบจมูกอย่างเขิน ๆ และยิ้มโดยไม่พูดอะไรคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเป็นคนควบคุมชีวิตและความตายของผู้อื่น แต่เธอไม่เชื่อ!เชอร์ลี่ย์มองไปที่แองเจลีนและโคล เธอแอบยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเชอร์ลี่ย์เข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับโคล แองเจลีนจึงใช้ท่าทางยกคางขึ้นแล้วใช้มันชี้ไปที่ประตู “คุณออกไปได้แล้ว”โคลเม้มริมฝีปากบาง ๆ ของเขา สีหน้าที่เจ็บปวดปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา “คุณตัดขาดกันเลยนะ ทุกครั้งที่คุณใช้คนอื่นเสร็จแล้ว คุณจะเริ่มกลายเป็นศัตรูและปฏิเสธที่จะจดจำพวกเขาไปเลย”แองเจลีนรู้สึกผิดเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น คุณก็ออกไปหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วกัน”โคลตอบไม่รั้งรอเช่นกัน “ตกลง”แองเจลีนตกตะลึง เธอแค่พูดอย่างไม่ใส่ใจ แต่เขาจริงจังกับมันมากแองเจลีนพาเชอร์ลี่ย์ที่กำลังหัวเราะคิกคักเข้าไปในครัวขณะพ
แองเจลีนถอนหายใจ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เซย์นไม่ยอมเสียเธอไปแองเจลีนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ฉันเข้าใจแล้ว”สำหรับมื้อกลางวัน โต๊ะเต็มไปด้วยอาหารมากมายโดยที่แองเจลีนเป็นคนทำและเชอร์ลี่ย์เป็นผู้ช่วยหลังจากที่แองเจลีนเชิญคุณปู่ คุณแม่ และโคลให้มานั่ง เธอกับเชอร์ลี่ย์ก็นั่งลงทานอาหารด้วยโคลหยิบตะเกียบขึ้นมาและถามอย่างเอาใจว่า “แองเจลีน คุณทำอาหารจานไหนเหรอ?”แองเจลีนแกล้งเขาและให้เนื้อหมูตุ๋นมันเยิ้มชิ้นหนึ่งแก่เขา “อันนี้ กินสิ”ตอนแรกเธอคิดว่าผู้ชายที่มีสัดส่วนร่างกายเทียบได้กับนายแบบคนนี้ให้ความสำคัญกับการจัดการรูปร่างเป็นอย่างมาก ดังนั้นโคลต้องต่อต้านการกินของจำพวกที่มีไขมันที่มันเยิ้มแน่นอนใครจะรู้ว่าโคลจะเริ่มกินมันโดยไม่ใส่ใจ “มันละลายในปากและทำให้ปากเต็มไปด้วยความนุ่มละมุน แองเจลีน ผมไม่คิดว่าทักษะการทำอาหารของคุณจะดีขนาดนี้ แม่ของผมชอบผู้หญิงที่มีทักษะการทำอาหารที่ดีมาเป็นลูกสะใภ้นะ เธอจะต้องชอบคุณอย่างแน่นอน”แองเจลีนรู้สึกปวดหัวทันทีและเธอใช้มือข้างหนึ่งพยุงหน้าผากของเธอเธอยังคงตักอาหารให้เขามากมายโดยหวังว่าจะยัดปากของเขาด้วยอาหารอร่อยโคลกินอย่างเอร็ดอร่อยและไม่ลืมที่จะย
แองเจลีนมองโคลอย่างเห็นอกเห็นใจ “อย่าบอกนะว่าคุณตกหลุมรักฉันจริง ๆ”จากนั้นโคลก็จับข้อมือของเธออย่างตื่นเต้น “ถ้าอย่างนั้น ผมไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยคุณไปอีกแล้ว แองเจลีน เซเวียร์ ผมอยากให้คุณแต่งงานกับผม”แองเจลีนเอามือออกจากมือของเขาและมองเขาด้วยความหงุดหงิด “คุณชอบฉัน แต่ฉันก็ต้องรู้สึกชอบคุณเหมือนกันสิ”โคลเป็นคนที่เอาแต่ใจอย่างมาก “ไม่สำคัญว่าคุณจะชอบผมหรือเปล่า ตราบใดที่ผมชอบคุณ ผมไม่อยากทนกับวันที่ไม่มีคุณอยู่ข้าง ๆ อีกแล้ว คุณต้องอยู่กับผมนะ”แองเจลีนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “นั่นเรียกว่าอาการป่วยทางใจแล้วนะ คุณต้องได้รับการรักษา”จากนั้น เขาก็ปล่อยมือเธอ “ผมจะรักษามันได้ยังไง?”เธอสัมผัสข้อมือที่บวมและแดงของเธอ เธอพูดอย่างโกรธเคืองว่า “มันง่ายมาก ฉันจะพาคุณไปยังสถานที่หนึ่ง”จากนั้น แองเจลีนก็พาโคลไปที่คลับหญิงสาวที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนางแอ่นเมื่อเธอไปที่แผนกต้อนรับ แองเจลีนเข้าไปสมัครบัตรและเติมบัตรสมาชิกสามัญให้ เธอยัดบัตรสมาชิกให้ในมือของโคลและพูดว่า “ไปที่ห้อง 404 บนชั้นสองและรอฉันที่นั่น”โคลมองดูใบหน้าของแองเจลีนที่สวยงามยิ่งขึ้นภายใต้แสงไฟแก้วหลากสีสันและรอ
เขาอาเจียนออกมาอย่างเจ็บปวดจนแทบจะอาเจียนออกมาเป็นน้ำดีในตอนท้ายแองเจลีนรู้สึกผิดเล็กน้อยที่เห็นเขาทรมานอย่างเจ็บปวด“ขอโทษ ฉันคิดว่าวิธีนี้จะได้ผลสำหรับคุณ”โคลมองเธอโดยไม่พูดอะไร “คุณคิดว่าสถานที่ประเภทนี้มีไว้สำหรับการค้าขายสิ่งสกปรก ๆ จะมีผลการรักษาต่อผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องความสะอาดได้หรือไง?”แองเจลีนกล่าวว่า “กลยุทธ์นี้คือการต่อสู้ด้วยการใช้หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง”โคลพูดไม่ออกในที่สุดแองเจลีนต้องพาโคลกลับบ้านไปอีกครั้ง เธอเข้าไปชงชาขิงให้เขาและนวดกดจุดเพื่อหยุดอาการอาเจียนให้เขาโคลถูกทรมานจนรู้สึกร่างกายอ่อนแอ เขาพิงโซฟาและมองไปที่แองเจลีน “ดูเหมือนคุณจะมีประสบการณ์มากในการบรรเทาอาการอาเจียนนะ”แองเจลีนอึ้งไปครู่หนึ่ง ทั้งหมดเป็นเพราะเจย์เคยอาเจียนบ่อย ๆ และนี่ทำให้เธอได้รับประสบการณ์ในการจัดการกับอาการอาเจียนแบบนี้จากนั้น ปากของโคลก็เริ่มพูดเรื่องไร้สาระอีกครั้ง “คุณเหมาะที่จะเป็นภรรยาของผมจริง ๆ นะ”แองเจลีนจ้องมองเขาอย่างดุเดือด “เชื่อไหมว่า ตอนนี้ฉันอยากจะโยนคุณกลับไปที่คลับนั้นอีก”โคลเงียบไปในตอนบ่าย ขณะที่แองเจลีนกำลังจะไปรับเด็ก ๆ ที่โรงเรียน โคลก็ลุกขึ้น
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ