หลังจากที่ล้มตรงขั้นบันไดเป็นครั้งที่เก้า แองเจลีนก็เหนื่อยมากจนหอบหายใจแรงเจย์เดินเข้ามาหาและกอดเธอไว้แน่นโดยไม่พูดอะไรสักคำแองเจลีนรู้สึกได้ว่าร่างกายของเจย์สั่นเทา เธอลูบผมสีดำหนาของเขาอย่างอ่อนโยน แองเจลีนยิ้มและปลอบเขาว่า “ไม่ต้องสงสารฉันหรอกนะเจย์บี้ ทุกอย่างตอนแรกก็ยากทั้งนั้นแหละ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวฉัน ตกลงไหม?”เจย์พยักหน้าแต่ก็เอ่ยอะไรออกมาไม่ได้ เขาเสียใจมากจนไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้สักคำแองเจลีนตกใจเล็กน้อย เธอถอนใจออกมาเบา ๆ “คุณอุ้มฉันไปที่โซฟาดีกว่าค่ะเจย์บี้”เจย์อุ้มเธอขึ้นและค่อย ๆ วางเธอลงบนโซฟา เขากลั้นสะอื้นเมื่อถามเธอว่า “เธอเหนื่อยไหมแองเจลีน?”แองเจลีนยิ้มและตอบ “ไม่เลยค่ะ”เจย์วางคางเขาไว้บนศีรษะของเธอ มือใหญ่ของเขาลูบหลังเธออย่างนุ่มนวล ลมหายใจของเธอไม่สม่ำเสมอเหมือนกับว่าเธอรู้สึกหายใจลำบาก เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน“ที่จริงฉันคิดว่าฉันโชคดีนะเจย์บี้ ลองคิดดูสิ โรคของฉันไม่ใช่อาการป่วยอะไรแล้วความรู้สึกเจ็บปวดทั้งหมดที่มีก็แค่เกิดขึ้นในหัวฉัน”“มันจะอยู่แค่ในหัวเธอได้ยังไง? อาการเจ็บปวดทางกายที่เกิดจากระบบประสาทผิดปกติก็มีอยู่จริง เธอไม่ได้แค่มี
ตอนนี้เหลือความหวังเลือนลางแค่อย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือความหวังที่ว่าพวกแก๊งในท้องถิ่นจะสามารถหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาให้ได้สามวันต่อมา ลูกสาวของหัวหน้าแก๊งในท้องถิ่นคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหาเจนสันในโรงแรมอย่างดุดันพร้อมทั้งกลุ่มของบอดี้การ์ด“ใครกันที่อยากเจอพ่อฉัน?” เด็กสาวคนนี้ดูอายุยังน้อยแต่เธอสวมแว่นกันแดดและริมฝีปากสีแดงสดก็คาบบุหรี่เอาไว้ แม้รูปร่างหน้าตาของเธอจะดูสวยแต่มีท่าทางที่ดูนักเลงไม่เบามีกลุ่มบอดี้การ์ดเดินตามเธอมาด้านหลังเจนสันนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา เขามองแขกที่ไม่ได้รับเชิญนิ่ง ๆเซย์นนั้นปฏิบัติกับทุกคนที่มาเป็นแขก ดังนั้นเขาจึงถามอย่างกระตือรือร้น “ไม่ทราบว่าพ่อของคุณคือใครครับ?”“รอย คอมเรด”ตอนนั้นสตอร์มก็กระซิบกับเจนสัน “นายน้อย รอย คอมเรดคือหัวหน้าแก๊งในท้องถิ่นของประเทศเอส เขาเข้าไปอยู่ในกระทรวงพาณิชย์แต่จริง ๆ เขาแอบทำธุรกิจกับพวกนักเลงและพวกค้าของเถื่อน”สตอร์มอาศัยในประเทศเอสมาสามปี และเพื่อที่จะหาตัวร็อบบี้น้อยเขาก็ปลอมแปลงเป็นหลากหลายตัวตนรวมถึงการติดต่อกับพวกใหญ่ ๆ ในประเทศนี้มากมาย เขาจึงรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของผู้มีอิทธิพลที่นี่เป็นอย่างดี
ร่างหล่อเหลาของเจนสันแข็งแกร่งขึ้นมาทันใดชื่อของปีศาจนั้นเป็นที่รู้จักกันดีครูคอร์นีเลียสจากสถาบันเยาวชนแห่งตำนานเคยบอกเขาก่อนหน้านี้ว่ามีเพียงสองคนที่มีความสามารถสูงส่งเอาชนะเขาได้ในประวัติศาสตร์ของสถาบัน… ซึ่งก็คือตัวเขาเองและปีศาจแต่ว่าปีศาจนั้นจบการศึกษาไปหลายปีก่อนหน้าตั้งแต่ตอนที่เจนสันยังเป็นแค่เด็กน้อย ระดับของปีศาจเองก็อาจจะสูงส่งกว่าเขามากสิ่งที่ยิ่งทำให้เจนสันไม่สบายใจน่าจะเป็นก่อนที่เขาจะจากมา ผู้อำนวยการมีความปรารถนาเดียวมอบให้เขา นั้นก็คือขออย่าให้เขาต้องพบเจอกับปีศาจดูเหมือนว่าเส้นทางของปีศาจต้องมาปะทะกับเจนสันอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นเลยเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้อำนวยการถึงพูดออกมาแบบนั้นเจนสันเปิดคอมพิวเตอร์โดยไม่รอช้าและพยายามแฮ็กเข้าระบบของสถาบันเยาวชนแห่งตำนานสถาบันนั้นมีเอกสารที่มีข้อมูลลับสุดยอดของนักเรียนที่จบไปแล้วทุกคนเจนสันคิดที่จะดึงข้อมูลของปีศาจออกมา แต่เขาไม่คาดคิดว่าเมื่อเขาคลิกที่ชื่อของปีศาจข้อมูลทั้งหมดก็ถูกทำลายไปทุกอย่างหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอยเจนสันอึ้งจนพูดไม่ออก แม้ว่าทักษะในการแฮ็กข้อมูลของเขาจะเหนือชั้น แต่ทักษะการป้องกันที่สูงล้ำของ
จากนั้นเป็นต้นมา เจนสันหนุ่มน้อยก็ตั้งเป้าหมายสู่ชัยชนะไม่กี่วันต่อมา เชอร์ลีย์ก็หายจากอาการป่วยและเตรียมพร้อมที่จะออกจากโรงพยาบาลแองเจลีนรู้สึกตื่นเต้นจนคืนก่อนหน้านั้นเธอนอนไม่หลับ เธออ้อนวอนขอร้องเจย์ “พรุ่งนี้คุณจะให้ฉันไปรับพี่เชอร์ลีย์ไหมคะ? ได้ไหมคะ?”เจย์ดึงแองเจลีนเข้ามาให้อ้อมแขน “ถ้าคืนนี้เธอเข้านอนตรงเวลา ฉันจะพิจารณายอมให้เธอไปโรงพยาบาลพรุ่งนี้”แองเจลีนรีบหลับตาและหยุดพูดคุยทันทีแต่เธอก็ตื่นเต้นเสียจนแม้ว่าเธอจะแสร้งทำเป็นเข้านอน ขนตาของเธอยังคงกะพริบสั่นไหวไปมาเหมือนกระต่ายน้อยเจย์เอื้อมมือมาลูบแพขนตาหนาของเธอราวกับว่ากำลังลูบพู่กันอยู่ เขาปัดลูบขนตาไปมาก่อนที่จะขยับมาลูบคิ้ว ดวงตา สันจมูก และสุดท้ายก็ริมฝีปากของเธอ…การกระทำของเขาทำให้แองเจลีนจั๊กจี้จนเธออดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะคิกคักจู่ ๆ เธอก็อ้าปากขึ้นงับนิ้วมือของเขาเบา ๆ“แองเจลีนอย่ายั่วฉันนะ” เจย์พูดเสียงแหบพร่าคงมีแค่พระเจ้าที่รู้ว่าเขาต้องอดทนอดกลั้นมากแค่ไหนแองเจลีนเสียดสีร่างกายเข้ากับตัวเขาขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอด และมือไม้เธอทั้งสองข้างก็เริ่มอยู่ไม่สุข“แองเจลีน…” น้ำเสียงเจย์เริ่มเข้ม “นี่
เจย์ยิ้มกริ่มเมื่อเขาเห็นใบหูแดงก่ำของเธอ“เธอเก่งกล้ามากไม่ใช่เหรอ ตอนที่ยั่วยวนฉันเมื่อคืนน่ะ ฉันไม่เห็นเธอจะอายเลย ฉันแค่แหย่เรื่องเธอกับเซย์นนิดหน่อยเท่านี้ก็อายแล้วเหรอ?”แองเจลีนบอก “ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณเหมือนเซย์นนี่ คุณเป็นคู่ชีวิตฉันส่วนเขาเป็นพี่ชาย คุณควรต้องเป็นคนเดียวที่ได้ยินคำรักที่ฉันบอก”เจย์ดูเหมือนว่าเขาได้เรียนรู้เรื่องใหม่ “ก็มีเหตุผล”แองเจลีนถอนใจอย่างโล่งอกบางทีกิจกรรมเมื่อคืนอาจจะเหนื่อยเกินไปสำหรับเธอ แองเจลีนรู้สึกไร้เรี่ยวแรงกว่าเมื่อก่อน เธอเอื้อมแขนออกมาแล้วทำท่าออดอ้อน “ขอกอดหน่อยค่ะ”เจย์ยิ้มและอุ้มเธอขึ้น เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ ล้างหน้าล้างตาและแปรงฟันให้เมื่อเขาพาแองเจลีนลงมาด้านล่าง เธอก็กลับเป็นตัวเองที่ดูงดงามอีกครั้งโจเซฟินและเซย์นต่างก็มองคู่สามีภรรยานี้อย่างหมดคำพูด “เรารอพวกเธอมาตั้งชั่วโมง”เจย์ตอบเธออย่างเจ็บแสบ “ตระกูลอาเรสก็สายกันเป็นปกติ”โจเซฟินได้ยินคำตอบของเขาก็โมโหมากเจย์และแองเจลีนกินอาหารเช้าเสร็จก็เป็นเวลา 11 โมงแล้ว พอตกบ่ายพวกเขาจึงเริ่งรีบไปโรงพยาบาลโรงพยาบาลเตรียมขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาลของเชอร์ลีย์เร
จากนั้นเซร่าก็ได้ยินเสียงหงุดหงิดใจดังขึ้น “แล้วเธอล่ะเป็นใครกันเซร่า? เธอคิดว่าจะมารังแกคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซเวียร์ได้เหรอ?”เชอร์ลีย์ลืมตาขึ้นมีน้ำตาเอ่อปริ่มกลายเป็นว่าคนที่มาขวางตบนั้นไว้ให้เธอก็คือเซย์นคนที่ด่าเซร่าให้เธอก็คือ แองเจลีนน้อย“ฉันขอโทษที่มาสายนะคะพี่ วันนี้ฉันตื่นสายไปหน่อยทำให้พี่ต้องเสียใจแล้ว” แองเจลีนอธิบายอย่างละอายเจย์นั่งย่อตัวลงตรงหน้าแองเจลีนและเห็นว่าเธอโมโหแค่ไหน ซึ่งยิ่งทำให้เขาเสียใจและกระวนกระวาย“แองเจลีนอย่าโมโหเลย มันจะกระทบร่างกายของเธอแล้วฉันก็จะเสียใจมาก”แองเจลีนมองเจย์ซึ่งกำลังมองเธออย่างสงสารด้วยดวงตางดงาม ดูเหมือนลูกหมาตัวน้อยแองเจลีนยิ้มขึ้นมาทันทีและลูบหัวเขาเบา ๆ “เอาล่ะ ฉันไม่โมโหแล้ว”เจย์จับมือที่สั่นเทาของเธอแล้วกุมไว้แน่นในอุ้งมือโจเซฟินเดินเข้าไปหาคุณนายอาเรสทันใดแล้วยื่นมือออกมา ดวงตาของเธอแดงก่ำ “คือบัตรมาให้ฉัน”หล่อนจะยินยอมคืนบัตรให้โจเซฟินได้อย่างไรกัน? บัตรนี่ไม่ใช่แค่ให้หล่อนไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าอาหารอีกต่อไป แต่ที่สำคัญทั้งหล่อนและเซร่าต่างก็อยู่ดีมีสุขได้ภายใต้ชื่อของโจเซฟีนคุณนายอาเรสอ้อนวอน “แม่เป็นแ
แองเจลีนพูดกับเจย์ “ฉันอยากคุยกับเธอลำพังค่ะ เจย์บี้” แม้เจย์ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้เธออยู่ตามลำพังกับผู้หญิงชั่วร้ายอย่างเซร่า แต่เขาก็ไม่อยากให้เรื่องวุ่นวายใหญ่โตรบกวนเธอ ดังนั้นเขาจึงเชื่อฟังเธอและจากไปแต่ก่อนที่จะออกไปเขาส่งสายตาสื่อความหมายให้กับเจนสันเมื่อเห็นแบบนั้นคนอื่น ๆ ก็เริ่มที่จะเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วยทีละคนเจนสันยืนอยู่ที่มุมหนึ่งเงียบ ๆ เขาจะต้องอยู่ที่นี่คอยปกป้องแม่เมื่อแองเจลีนได้ยินเสียงประตูของห้องพักผู้ป่วยปิดลง เธอก็พูดอย่างจริงจัง “ธรรมชาติของมนุษย์เรานั้นเกิดมาเป็นคนดี ฉันรู้ว่าความรักและความลุ่มหลงที่เธอมีต่อเจย์เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอกลายเป็นอย่างทุกวันนี้”แองเจลีนเลือกที่จะตัดสัมพันธ์กับเซร่าในฐานะน้องสาวอย่างราบรื่น ไหน ๆ พวกเธอก็เคยเป็นพี่น้องกันมา“แต่เธอต้องเข้าใจเรื่องหนึ่งว่า เจย์บี้และฉันเป็นคนประเภทที่ว่า เมื่อเราตัดสินใจว่าจะอยู่ด้วยกันแล้ว เราก็จะซื่อสัตย์ต่อกันไปจนตาย เราไม่มีทางตัดใจจากกันเพราะว่าเราเจออุปสรรคหรอก และเราก็ไม่มีทางดูถูกกันหากว่าอีกฝ่ายกำลังรุ่งโรจน์ด้วย ไม่มีใคร ฉันหมายถึงว่าไม่มีใครจะมาแทรกกลางระหว่างเราได้”“เลิกเสี
เมื่อเซย์นขับเข้ามาถึงซีคามอร์ แอนเน็กซ์ บรรดาฝูงชนก็ส่งเสียงเชียร์พร้อมจุดพลุกระดาษต้อนรับ เสียงโห่ร้องของเด็ก ๆ และเสียงหัวเราะเต็มไปทั่วสนาม“ขอต้อนรับกลับบ้าน คุณหนูเซเวียร์”เชอร์ลีย์เดินพรมแดงโดยมีโจเซฟินจับจูงเธอ คุณท่านเซเวียร์ก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมา เสียงทุ้มก้องของเขาดังชัดเจน“เพื่อน ๆ ญาติพี่น้องและนักข่าวทุกท่านจากหลายสำนัก ขอบคุณที่มาเยือนบ้านเล็ก ๆ ของเรา วันนี้ตระกูลเซเวียร์มีสองเรื่องอยากประกาศให้ทราบ เรื่องแรกเราอยากบอกข่าวดีว่า เซย์นและเชอร์ลีย์ได้หย่าร้างกันแล้ว…”บรรดาแขกพากันเงียบกริบทุกคนต่างก็คิดว่า ‘นี่มันข่าวดีตรงไหนกัน? คุณท่านเซเวียร์สมองเลอะเลือนไปแล้วเหรอไง?’คุณท่านเซเวียร์ยิ้มกว้าง “ให้ผมพูดจบก่อน แม้ว่าเชอร์ลีย์จะไม่ใช่ลูกสะใภ้ตระกูลเซเวียร์แล้ว แต่เธอจะมาเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเซเวียร์แทน จากนี้ไปจะไม่มีเชอร์ลีย์ โทมัสที่โดดเดี่ยวน่าสงสารอีกแล้ว ตอนนี้มีแต่เชอร์ลีย์ เซเวียร์ผู้ไม่เพียงแต่มีพ่อแม่สุขภาพแข็งแรงสองคน แต่ยังมีน้องชายและน้องสาวด้วย”คุณท่านเซเวียร์ยังเล่าถึงการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของเชอร์ลีย์ด้วย ทำให้แขกทุกคนต่างก็พากันปรบมือเชอร์ลีย์