เจย์อึ้งไปเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นด้วยความหมายแฝงลึกซึ้ง “โอ้จริงเหรอ? คุณคิดถึงอดีตเหรอ?”ในอดีตเธอไม่ใช่ประธานของแกรนด์ เอเซียที่มีอำนาจบงการชีวิตคนอื่นรวมถึงทรัพย์สินมากมายได้ตามใจแบบนี้ แต่เธอก็ชอบเหรอ?แองเจลีนเอนตัวพิงไหล่ของเขาก่อนพูดอย่างโศกเศร้า “ฉันคิดถึงวันเก่า ๆ ที่เราไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องกังวลแล้วสายตาฉันก็มีไว้มองคุณเท่านั้น ตอนนี้มันมีหลายสิ่งที่ช่วยไม่ได้…”เจย์ฟังเธอและโอบกอดเธอแน่นขึ้นอย่างไม่ตั้งใจเขาภาวนาเหลือเกินให้เรื่องที่ซิดนีย์เล่ามานั้นไม่เป็นความจริงเขาอยากจะเชื่อว่าทั้งเขาและแองเจลีนต่างก็รักและโอบกอดกันไว้ เชื่อว่าความรักของเขาทั้งคู่นั้นไม่ซับซ้อนและใสบริสุทธิ์หลังมื้อค่ำเจย์ล้างจานขณะที่แองเจลีนและเซ็ตตี้น้อยออกไปดูดอกไม้ในสวนทันใดนั้นมือถือของเจย์ก็สั่น เขาหยิบมือถือออกมาและเห็นข้อความจากแม่ของเขาปรากฏอยู่บนหน้าจอ เขารู้สึกงุนงงเล็กน้อยก่อนที่จะเลื่อนปลดล็อกมือถือคุณนายอาเรส [แองเจลีนวางกับดักแม่ ลูกมาช่วยแม่ที]หน้าเจย์เปลี่ยนสี เขารู้สึกได้ว่าทั้งกายกำลังเย็นเยียบเป็นน้ำแข็งทำไมแองเจลีนต้องทำแบบนี้กับแม่ของเขาด้วย?เจย์วางจานลงแล้วเดินออ
”แม่ครับ” เจย์ร้องเรียกอย่างกระวนกระวายคุณนายอาเรสคลานเข้ามาหาเขาอย่างอ่อนแรงและคร่ำครวญให้เขาฟังเรื่องทุกข์ระทมและเสื่อมเสียเกียรดิที่เธอเจอมา “แม่ขอโทษนะลูก แม่ของลูกนำความอับอายมาให้ตระกูลอาเรสแล้ว”คุณนายอาเรสพยายามจะเรียกร้องความเห็นใจจากเจย์ด้วยการสารภาพความผิดของเธอให้เขาได้รู้ก่อนจากนั้นเธอก็โอดครวญทั้งน้ำตา “แต่แม่เองก็เสียใจเหมือนกันนะลูก สตีเฟนกับแม่เป็นคนรักกันมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของเราทั้งสองฝ่ายเองก็สนับสนุน พอพวกเขาส่งเสริมแม่เองก็ทุ่มเทใจรักเขาเต็มที่ ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายตระกูลของแม่จะล้มละลาย? ตระกูลเบลก็เป็นพวกหัวสูงแล้วก็บังคับให้แม่ยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย สตีเฟนกับแม่พยายามจะหนีตามกันแต่แผนเราก็พังเพราะว่าเราโดนจับได้แล้วก็พากลับมาที่นี่ พวกเขาหักขาสตีเฟนข้างหนึ่ง เพื่อช่วยชีวิตเขาแม่ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรับปากตระกูลเบลว่าจะแต่งเข้าตระกูลอาเรส”“แม่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งงานกับพ่อของลูก พ่อของลูกปฏิบัติกับแม่เป็นอย่างดีแต่ในหัวใจแม่ก็เหมือนมีหนามแหลมทิ่มแทง แม่ไม่สามารถทำใจให้รักเขาได้ทั้งใจเพราะว่าแม่โดนบังคับให้ต้องแต่งงาน”พอพูดมาถึงตอนนี้โทสะก็พา
เจย์ไม่รู้ว่าตัวเขากลับมาที่สวนบันทึกรักได้อย่างไร แม้ว่าเขาปรารถนาที่จะหนีไปจากสถานที่แสนอึดอัดนี้ แต่เขาก็ยังกลับมาที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่างไม่ว่าภรรยาของเขาจะแย่อย่างไร แต่เขาก็รู้ดีในจิตใต้สำนึกที่ว่า เขานั้นยังห่วงและรักเธออยู่ เขาไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอความรักก็เหมือนเสียงเพรียกที่พาเขากลับมาหาแองเจลีน ถึงอย่างนั้นสีหน้าเขาก็ดูพร้อมเผชิญหน้าอีกหนเมื่อเขาเปิดประตูวิลล่าเข้าไป เจย์ก็เห็นแองเจลีนนั่งอยู่บนโซฟาเงียบ ๆ เมื่อสายตาพวกเขาประสานกัน ดวงตาเขาก็เต็มไปด้วยโทสะ ส่วนแววตาของเธอก็มีความรู้สึกผิดเขาเดินเข้าไปหาเธอ ถือเสื้อสีขาวของตนซึ่งตอนนี้มีเลือดสีแดงสดติดอยู่ไว้ในมือ เขาก้มหน้าลงมองเธอแองเจลีนจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาลสีหน้าของแองเจลีนหม่นลงเมื่อเธอถาม “คุณไปที่ตระกูลอาเรสมาใช่ไหม?”เจย์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่รอยยิ้มหยันจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าทรงเสน่ห์ เขาก็เป็นเหมือนคนโง่ที่เอาแต่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ เขามักจะหวังไว้เกินจริงว่าเธอจะไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรกับแผนและเล่ห์กลต่าง ๆแต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงว่าเธอรับรู้เรื่องพวกน
เขาโมโหจัด ก่อนปล่อยเธอแล้วเดินโซเซจากไปเขาไม่ทันได้เห็นตอนที่แองเจลีนล้มลงนอนตัวแข็งกับพื้นและไม่เห็นสายตาหมดหนทางของเธอที่มองตามแผ่นหลังเหยียดตรงของร่างสูงของเขาคำพูดของเจย์ทิ่มแทงเธอเสมือนมีดกรีดใจ“แองเจลีน ผมเกลียดที่ต้องอยู่เหมือนเป็นตัวตลก เหมือนตัวประกันที่ใครจะใช้งานหรือลากจูงไปทางไหนก็ได้ ผมจะไปแล้ว ส่วนคุณก็อยู่ของคุณไป”แองเจลีนพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะคว้าเขาไว้และบอกความจริงทั้งหมดกับเขา แต่เธอไม่สามารถที่จะตะโกนหรือขยับตัวได้สายตาเธอจับจ้องค้างอยู่ที่เพดานขณะที่รอให้อาการแพนิคบ้านี่หายไปสักทีตอนที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเธอเพิ่งจะส่งเซ็ตตี้น้อยออกไปข้างนอกไม่นานคืนนี้เธอวางแผนว่าจะต้องพูดคุยกับเจย์อย่างยาวนานเธออยากที่จะสลายความสับสนทั้งหมดที่เขามีแต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะกลับมาบ้านด้วยท่าทางที่เป็นศัตรูเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของเธอก็ยังทรยศ ทำให้เธอมีอาการแพนิคเพราะคำพูดเสียดแทงของเขาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก การที่เห็นเขาโกรธก็เป็นสิ่งที่เธอกลัวที่สุดนี่แสดงให้เห็นว่าเธอไร้ค่าแค่ไหนความมืดค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาแองเจลีนหลับตาลงอย่างสิ้นหวังในค่ำคืนที่มืดสงัด
เมื่อได้ยินที่เธอพูด สตีเฟนก็คลายมือที่กำจนแน่นออกใบหน้าเย็นชาของสตีเฟนปรากฏร่องรอยความเสแสร้ง “ไหน ๆ คุณก็บาดเจ็บมา พักอยู่ที่นี่แล้วก็รักษาตัวให้หายเถอะ ผมจะดูให้แน่ใจว่าคุณได้รับการดูแลอย่างดี”คุณนายอาเรสยินดีอย่างมากที่ได้ยินเช่นนั้นหลังจากที่สาวใช้พาคุณนายอาเรสไปแล้ว แววตาดำมืดแฝงเล่ห์ร้ายของสตีเฟนก็เผยความระแวงสงสัย เขาหันไปสั่งผู้ช่วยส่วนตัว “ออกไปหาข่าวมาซิว่า ตอนนี้แองเจลีนกำลังวางแผนทำอะไร”“ครับ”สายฝนแผ่วเบาโปรยปรายตลอดทั้งคืนจวบจนรุ่งสาง ยามแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดแสงที่ขอบฟ้าแสงสีทองทาบทับแกรนด์ เอเซีย ก่อให้เกิดเงาทอดอยู่เบื้องหลังเมื่อเสียงกริ่งดัง เป็นสัญญาณของการเริ่มทำงาน ประตูหนาหนักของห้องประชุมผู้บริหารแกรนด์ เอเซียก็ถูกดันเปิดออก บรรดาผู้เข้าร่วมประชุมต่างก็พากันเข้าไปนั่งแต่ว่าแองเจลีนผู้เป็นประธานการประชุมกลับไม่มาเมื่อเกรย์สันเจอเซย์น เขาก็ถามอย่างร้อนใจ “ทำไมประธานเซเวียร์ถึงยังไม่มา? วันนี้เรามีประชุมผู้ถือหุ้นด้วย ถ้าเธอไม่มาต้องเป็นเรื่องวุ่นวายแน่ ๆ”เซย์นหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาแองเจลีนทันที หลังจากที่พยายามหลายครั้ง เธอก็ยังคงไม่รับสายเซย์น
”ตกลง”เซย์นส่งข้อความที่จริงจังแล้วไม่เยิ่นเย้อให้เกรย์สันเซย์น: [แองเจลีนดูแลและควบคุมแกรนด์ เอเซียต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ลองคิดหาทางออกเอาเองแล้วกัน]เมื่อเกรย์สันได้เห็นข้อความ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมีบางอย่างที่ผิดปกติรุนแรงเกี่ยวกับสุขภาพของแองเจลีนเกรย์สันยืนอยู่ตรงหน้าต่างกระจกโค้งขณะที่มองพระอาทิตย์ขึ้นด้วยดวงตามืดครึ้มและสีหน้าเศร้าหมอง “พระเจ้าจะให้แกรนด์ เอเซียต้องมาถึงจุดจบคราวนี้แล้วจริง ๆ เหรอ? นี่คงไม่ใช่สิ่งทึ่คุณอยากเห็นใช่ไหมครับพ่อ? ตอนที่คุณก่อตั้งแกรนด์ เอเซียสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น คุณบอกว่าคุณจะมีค่าพอที่จะได้อยู่เคียงข้างเธอก็ต่อเมื่อคุณสามารถก่อร่างสร้างความมั่งคั่งและก้าวไปสู่จุดที่สูงสุดของสังคมนี้ได้ แกรนด์ เอเซียเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความรักระหว่างคุณและคุณเซเวียร์ เธอยังรักคุณอยู่นะ แล้วแกรนด์ เอเซียจะล้มไปแบบนี้ได้ยังไง?”“บอกผมหน่อยครับพ่อ ว่าผมควรทำยังไง?”หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เกรย์สันก็เดินกลับมาที่ห้องประชุมใหญ่ในอดีต เขาจะยืนอยู่ข้างกายเจย์หรือไม่ก็แองเจลีน ล้อมรอบด้วยทะเลของหมู่ดาวที่พร่างพราย เกรย์สันภูมิใจกับความสามารถของตนที่เขาสา
ถึงอย่างไรสตีเฟนก็เป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยมปลิ้นปล้อน เขาเตือนเซร่าด้วยท่าทีระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าแผนที่วางไว้จะไม่มีช่องโหว่ “หาโอกาสเข้าใกล้แองเจลีนด้วยเซร่า พยายามหาดูว่าอาการป่วยของหล่อนนั้นร้ายแรงแค่ไหนกันแน่ ถ้าหากว่าฉันเดาไม่ผิด รอบนี้แองเจลีนน่าจะเป็นอัมพาตแล้ว ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เราก็จะร่วมมือกับไททัส เอนเตอร์ไพรส์ในการประชุมผู้ถือหุ้นอีกห้าวันข้างหน้าแล้วก็บังคับให้หล่อนลงจากตำแหน่ง”เซร่าชำเลืองมองแนนซี่อย่างเย้ยหยัน ราวกับว่าการที่สตีเฟนเอ่ยชื่อเธอออกมานั้นเทียบเท่ากับการได้รับเกียรติสูงสุดเลยทีเดียว “ได้ค่ะ คุณพ่อ”วันต่อมา เซร่าก็ปลอมตัวเป็นญาติของคนไข้แล้วแอบเข้าไปในโรงพยาบาลแกรนด์ เอเซีย เมื่อเธอไปถึงห้องพักผู้ป่วยวีไอพี เซร่าก็รอจนกระทั่งเซย์นออกไปเยี่ยมเชอร์ลีย์ ก่อนที่เธอจะแอบเข้าไปในห้องพักของแองเจลีนแองเจลีนนอนอยู่บนเตียงขยับเขยื้อนไม่ได้ เมื่อเธอมองเห็นเซร่า โทสะก็ฉายในดวงตาของเธอ“เธอมาทำอะไรที่นี่?”เซร่าถอดแว่นกันแดดออกแล้วเดินเข้าไปหาแองเจลีนเธอเองนั้นเคยอยู่ที่ตระกูลเซเวียร์มาหลายปีและเป็นคนดูแลคุณท่านเซเวียร์ที่เป็นอัมพาตด้วยตัวของเธอเอง ดังนั้น
เชอร์ลีย์ยิ้มอย่างแจ่มใส “แอปเปิลดีเลยค่ะ แองเจลีนน้อยบอกว่าแอปเปิลหมายถึงความปลอดภัยตลอดปีเชียวนะ!”เซย์นพึมพำขณะที่ปอกแอปเปิล “อย่าเชื่อที่แองเจลีนพูดซะหมดเลย แม่นั่นก็คิดแต่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แค่นั้นแหละ ผมไม่คิดว่าเธอจะฉลาดกว่าคุณหรอกนะ”เขาพูดต่อ “อีกอย่างนะ คุณก็เป็นพี่สาวส่วนเธอเป็นน้อง ผมควบคุมอะไรเธอไม่ได้เพราะงั้นคุณก็ต้องช่วยผม ใช้ความเป็นพี่สาวของคุณสั่งสอนเธอหน่อยเวลาที่เธอทำอะไรไม่ถูก เธอน่ะจะฟังคุณแต่ไม่ยอมฟังอะไรผมเลย”เชอร์ลีย์ตอบ “ทำไมแองเจลีนน้อยถึงทำผิดได้ล่ะคะ? เธอน่ะทั้งใจดี ขนาดคนไม่ดีเธอก็ยังมีไมตรีให้ แถมเธอยังอุทิศทุกอย่างให้คนรอบตัว ฉันจะไปดุเธอได้ยังไงกัน?”เซย์นประหลาดใจมาก เขาถ่มแอปเปิลออกจากปากและครวญ “นี่คุณแต่งงานกับผมหรือแต่งกับเธอกันแน่? ผมอยู่กับคุณมาตั้งนานแต่ไม่เห็นคุณจะเคยเยินยอผมขนาดนี้เลย”เชอร์ลีย์ยิ้ม “เซย์น แองเจลีนน้อยอยากให้เราหย่ากัน เธอได้บอกเรื่องนี้กับคุณไหมคะ?”เซย์นผุดลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ พอเขาได้เห็นเชอร์ลีย์ยิ้มกว้างมาให้เขาก็ถึงรู้ตัวว่าตื่นตระหนกมากไปแต่เขาก็ได้ยินไม่ผิด แองเจลีนอยากบังคับให้เขาหย่ากับเชอร์ลีย์ดังนั้นนี่น่า