เมื่อว่าสมควรแก่เวลาแล้ว ฉินอวิ๋นฟานจึงพูดออกไปอย่างหัวไว “อาจารย์ ท่านก็อย่าให้อวี่ม่อลำบากใจเลย พันผิดหมื่นผิดล้วนเป็นข้าที่ผิด เป็นข้าที่ทำให้ชื่อเสียงความบริสุทธิ์ของแม่นางอวี่ม่อมัวหมอง ถ้าท่านจะลงโทษก็ลงโทษข้าคนเดียวเถอะ”ตึง!!!!เมื่อฉินอวิ๋นฟานพูดคำนี้ออกมา ยายกู่เบิกตาโพลงราวกับถูกอสนีบาตห้าสายฟาดใส่กระหม่อม นางออกไปแค่วันเดียว ไม่นึกว่าชื่อเสียงความบริสุทธิ์ของอวี่ม่อจะสูญสิ้นแล้ว?!“เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าพูดมาให้ละเอียดอีกทีสิ?!”ยายกู่ถามอีกครั้งด้วยความสับสนฉงนฉงาย“คือเช่นนี้...”ฉินอวิ๋นฟานไม่ปกปิดอีก เล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างละเอียดยิบรอบหนึ่ง ยายกู่ฟังแล้วหน้าดำเป็นหมิ่นหม้อ แทบอยากซัดฉินอวิ๋นฟานให้ตายในหนึ่งฝ่ามือแต่ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว ถึงจะฆ่าฉินอวิ๋นฟานก็ไม่ทันแล้ว“ขออภัยด้วย อาจารย์ เรื่องเกิดขึ้นฉุกละหุก ข้า...”จางอวี่ม่อมองไปทางยายกู่แบบไม่ได้รับความเป็นธรรม กลัวว่าจะทำให้นางโกรธ แต่เรื่องก็เหมือนละครเช่นนี้ คือความบังเอิญทั้งนั้น“เฮ้อ!”ยายกู่ถอนหายใจหนัก ๆ ทีหนึ่ง “ที่แท้เขาก็คือรัชทายาทต้าเฉียนฉินอวิ๋นฟาน! หรือว่านี่จะเป็นชะตาของท
เรื่องนี้สำหรับจางอวี่ม่อแล้วราวกับฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ เมล็ดแห่งความรักในใจนางเพิ่งจะงอก หรือว่าต้องถูกถอดรากทั้งอย่างนี้แล้ว?ความเศร้าไม่มีสิ้นสุดผุดขึ้นกลางใจนาง ความรู้สึกแบบนี้ทำให้นางอึดอัดมาก กระทั่งรู้สึกหายใจไม่ออก“นี่เกี่ยวกับความรักที่บิดาคนหนึ่งจะมีต่อบุตรสาว ต่อไปเจ้าจะเข้าใจเอง!”ยายกู่ส่ายหน้าพูด “ฉินอวิ๋นฟานคือรัชทายาทที่โดดเด่นมากจริง ๆ เอาไว้เขาอาการดีขึ้นแล้ว ข้าจะให้เขาออกไป สำหรับเรื่องแต่งงานของพวกเจ้าในท้ายที่สุด ข้าไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ”ยายกู่วางยารักษาแผลขวดหนึ่งแล้วจึงออกไปนางสัมผัสคลื่นอารมณ์ของฉินอวิ๋นฟานและจางอวี่ม่อได้อย่างชัดเจน นางยืนอยู่หน้าประตูและพูดพึมพำว่า “เฮ้อ! ในเมื่อเป็นเคราะห์รัก แล้วจะผ่านไปได้ง่าย ๆ ได้ยังไง?”หลังจากยายกู่ออกไป จางอวี่ม่อจมอยู่กับความทุกข์ไม่รู้จบอีกครั้ง นางรู้ว่าบิดายอมรับความสามารถและนิสัยของฉินอวิ๋นฟาน แต่บิดาไม่อยากให้พวกนางอยู่ด้วยกันจริง ๆก่อนหน้านี้นางไม่รู้จักฉินอวิ๋นฟานมากนัก และไม่ได้สนใจสักเท่าไร แต่หลังจากเรื่องนี้ นางเกิดความรู้สึกที่แปลกออกไปกับฉินอวิ๋นฟาน ความรู้สึกใจเต้นแรงแบบนั้นทำให้นางรู้สึกวิเศษน
ยามราตรี หวงต้าหยวนในชุดสีดำปลอดปรากฏอยู่ที่ก้นหุบตรงจุดที่ฉินอวิ๋นฟานตกลงมาอย่างเงียบเชียบ ภายใต้การส่องแสงของดวงจันทร์ นางพบว่าจุดนี้มีร่องรอยมีคนมาเป็นประจำจากสัญชาตญาณฉับไวของผู้หญิง ก้นเหวคือบ่อน้ำร้อน น่าจะมีผู้หญิงผ่านมาประจำ ในเมื่อไม่มีเงาร่างของฉินอวิ๋นฟาน เช่นนั้นก็เป็นไปได้ว่าจะถูกคนช่วยไปแล้วหวงต้าหยวนหัวเราะร้ายทีหนึ่ง “เฮอะ เจ้าบัดซบนี่ดวงแข็งจริง ๆ บุญหนักทีเดียว ตกหน้าผามาแล้วยังได้เจอหญิงงามอีก หรือว่านี่ก็คือโอรสแห่งสวรรค์?”หลังจากรู้ว่าฉินอวิ๋นฟานยังไม่ตาย จิตใจที่กระวนกระวายของหวงต้าหยวนก็สงบลงได้ การที่ฉินอวิ๋นฟานได้เจอกับหญิงงามอีกครั้ง แม้ว่ามันจะทำให้นางขื่นขมเล็กน้อย หากนางสนใจความเป็นความของฉินอวิ๋นฟานมากกว่า เมื่อได้รับคำตอบที่ต้องการแล้วจึงหายตัวไปท่ามกลางความมืดมิดหนึ่งชั่วยามให้หลัง ก้นหุบเหวมีเงาร่างชุดดำปรากฏขึ้นสายหนึ่งอีกครั้ง หลังจากเขาสำรวจบ่อน้ำร้อนอย่างละเอียดแล้วก็หายตัวไปอย่างเงียบ ๆ เกรงว่าแม้ยามหลับฝันฉินอวิ๋นฟานก็คงคิดไม่ถึง เขาเพิ่งเกิดเรื่องได้ไม่นานกลับยังมีคนลึกลับกลุ่มหนึ่งให้ความสำคัญกับความเป็นความตายของเขากระทั่งยามสี่ ดวง
เมื่อได้ฟังการวิเคราะห์จากเซี่ยงเส้าเหยียน หานซิ่นตื้นตันใจจนน้ำตานองหน้า หากการวิเคราะห์ของเซี่ยงเส้าเหยียนถูกต้องไม่มีผิดพลาด รัชทายาทยังมีโอกาสรอดสูงเขาเปล่งเสียงทันที “พี่น้องทั้งหลาย ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร ก็ต้องปูพรมค้นหา แม้ต้องขุดดินลึกสามฉื่อ ก็ต้องหารัชทายาทให้เจอ!”“รับทราบ!”เมื่อทุกคนรู้ว่าฉินอวิ๋นฟานยังไม่ตาย น้ำตาร้อนรื้นดวงตาด้วยความดีใจ ร่างกายที่อ่อนล้าฮึกเหิมขึ้นมาราวกับฉีดเลือดไก่ ฉินอวิ๋นฟานคือเสาค้ำยันจิตวิญญาณของพวกเขา ยิ่งเป็นบุรุษปานเทพในใจของพวกเขา......เช้าตรู่ จางอวี่ม่อยกโจ๊กซิ่งเหริน[1]มาถึงที่พักของฉินอวิ๋นฟาน ฉินอวิ๋นฟานถูกหญิงในดวงใจป้อนให้แต่เช้า อย่าให้บอกเลยว่าในใจสุขสันต์แค่ไหน“รัชทายาท ท่านรู้สึกว่าร่างกายเป็นยังไงบ้างแล้ว? ดีขึ้นหรือไม่?”จางอวี่ม่อถามด้วยความห่วงใยและขวยเขิน“แหะ ๆ น้องอวี่ม่อ เจ้ากำลังเป็นห่วงข้าหรือ?”ได้รับความห่วงใยจากจางอวี่ม่อ ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกหวานชื่นเสียไม่มี เขาเอาแต่จ้องจางอวี่ม่อตลอด ยิ่งมองยิ่งชอบ ยิ่งมองยิ่งหวั่นไหว ถึงจางอวี่ม่อจะตัวไม่สูง แต่สรีระน่าภูมิใจนั้นแทบเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เป็นสาวน้อยน่ารักที
“อวี่ม่อ ไม่ต้องหรอก เจ้าทำแบบนี้มีแต่จะทำให้อาจารย์เจ้าลำบากใจกว่าเดิม”ฉินอวิ๋นฟานพูดปรามทันที “สุขภาพข้าค่อนข้างแข็งแรง อีกไม่นานก็หายแล้ว ยาครึ่งขวดนี้น่าจะมีประโยชน์กับอาจ้านของข้า เขาต้องการยานี้มากกว่าข้า”“รัชทายาท...”เห็นฉินอวิ๋นฟานหวังดีต่อนาง ไม่อยากให้นางลำบากใจ จางอวี่ม่อรู้สึกซาบซึ้งใจนัก ความรู้สึกของหญิงสาว แม้จะเป็นการกระทำเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือคำพูดประโยคเดียวก็สามารถทำให้พวกนางประทับใจอย่างสุดซึ้งได้แล้ว โดยเฉพาะในสายตาของคนที่ชอบ เรื่องพรรค์นี้จะถูกเพิ่มระดับไม่รู้จบ การเปิดเผยและความรับผิดชอบของฉินอวิ๋นฟานทำให้จางอวี่ม่อชอบมากกว่าเดิม!“อวี่ม่อ ต่อไปห้ามเรียกข้าว่ารัชทายาทนะ”ฉินอวิ๋นฟานพูดจริงจัง “ต่อไปเจ้าเรียกข้าว่าพี่อวิ๋นฟานเหมือนกับจิ่นเอ๋อร์เถอะ ในใจของข้าพวกเจ้าสำคัญเท่ากัน พวกเจ้าคือผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของข้า”“ข้า ข้า...”ได้รับความสำคัญจากฉินอวิ๋นฟานเช่นนี้ จางอวี่ม่อหัวใจปั่นป่วนฉับพลัน ตื้นตันใจจนพูดไม่ออก นางจึงพูดขึ้นมาแบบกล้า ๆ กลัว ๆ “เช่น เช่น เช่นนั้นต่อไปก็เรียกท่านว่าพี่อวิ๋นฟาน?”“เฮ้อ ทำไมเจ้าต้องสนใจฐานะของข้าด้วยนะ? รัชท
“ขอบคุณอาจารย์ ท่านใจดีจริง ๆ เมื่อครู่ข้ายังบอกว่าจะไปขอกับท่านอีกสักขวด แต่พี่อวิ๋นฟานไม่ให้ข้ารบกวนท่าน ดังนั้น...”จางอวี่ม่อกอดแขนของยายกู่ พูดด้วยความดีใจ “ไม่นึกว่าอาจารย์ท่านจะมาส่งยาสองขวด แต่... ขวดนี้ดูเหมือนจะเป็นยาที่ใช้ฝึกพลังนี่เจ้าคะ...”“เอาละ ให้เขาเถอะ! เขาสมควรไปได้แล้ว”ยายกู่ไม่ได้อธิบายอะไรมาก ออกคำสั่งไล่แขกเลย ที่นี่คือที่ถือสันโดษของนาง นางไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามา แต่การปรากฏตัวของฉินอวิ๋นฟานทำให้นางแหกกฎแล้ว“หา บาดแผลของพี่อวิ๋นฟานยังไม่หายดีเลย นี่ท่านจะไล่เขาไปแล้วหรือ?”เห็นอาจารย์จะไล่ฉินอวิ๋นฟานออกไป จางอวี่ม่ออาลัยอาวรณ์นัก เพราะที่นี่คือหุบเขาผีเสื้อ อยู่ในป่าลึก คนธรรมดาเดินเท้าออกไปต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันตอนนี้อาการบาดเจ็บของฉินอวิ๋นฟานเพิ่งจะดีขึ้น แต่ไม่สามารถเดินทางระยะไกลได้ นางไม่อยากให้ฉินอวิ๋นฟานไปเร็วอย่างนี้ยายกู่พูด “พวกพ้องของเขามาตามหาแล้ว ที่นี่ไม่จำเป็นต้องเก็บเขาไว้อีก”“พวกพ้องของข้า? พวกหานซิ่นมาแล้วหรือ?!”ครั้นรู้ว่าพวกพ้องมาตามหา ฉินอวิ๋นฟานตื้นตันใจนัก ไม่เสียทีที่เป็นพี่น้องที่เขาฉินอวิ๋นฟานเลือก ถึงเขาจะถูกซัดตกผาลึ
“เฮ้อ! ถ้าไม่ใช่เพราะอาจ้านบังฝ่ามืออันตรายถึงชีวิตนั้นให้ช้า ตอนนี้ข้าจะเป็นหรือตายน่ากลัวว่าจะพูดยาก”ฉินอวิ๋นฟานส่ายหน้าอย่างจนใจ จากนั้นจึงรีบถาม “จริงสิ อาการของอาจ้านเป็นยังไงบ้าง? เขายังดีอยู่ไหม?”“องครักษ์อู่บาดเจ็บสาหัส หมดสติจนถึงตอนนี้ รัชทายาทไม่ต้องเป็นห่วงหรอก องครักษ์อู่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต อีกไม่นานก็น่าจะฟื้นแล้ว”เซี่ยงเส้าเหยียนรีบบอก “แต่ข้าแปลกใจนัก องครักษ์อู่รับฝ่ามือหนักขนาดนั้น แต่ทำไมเขาถึงไม่มีอันตรายถึงชีวิต? ตามหลักมันไม่น่านี่?!”จากประสบการณ์หลายปีของเซี่ยงเส้าเหยียน คนทั่วใจมิอาจรับกำลังฝ่ามือของยอดฝีมือเขตปรมาจารย์ได้ ต่อให้ที่รับคือฝ่ามือยอดฝีมือเขตยุทธ์แท้ก็ยังมีสิบตายแปดเก้าแต่ที่ทำให้เขารู้สึกมหัศจรรย์อย่างยิ่งคือ ถึงฉินอวิ๋นฟานกับอู่จ้านจะบาดเจ็บ กลับไม่ถึงตาย ไม่สอดคล้องกับเหตุผลเลย“อาจารย์เซี่ยง นี่มิใช่เรื่องดีหรือ? มีอย่างท่านที่ไหนกันที่แช่งรัชทายาท”จางเฟยพูดหน้าตึง“เอ่อ เปล่านะ ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ข้าย่อมหวังให้รัชทายาทปลอดภัย ความหมายของข้าคือปรากฏการณ์นี้ไม่สอดคล้องกับหลักเหตุผลเท่านั้นเอง”เซี่ยงเส้าเหยียนรีบอธิบาย“ฮ
หลิวเป้ยพูดขึ้นอย่างชื่นชมมาก “แต่... ข้าสงสัยนัก ทำไมมันจึงเรียกว่าเสื้อกันกระสุนล่ะ?”“เอ่อ... เรื่องนี้... พูดแล้วมันยาว ถึงเวลาข้าค่อยอธิบายให้เจ้าฟังแล้วกัน!”ฉินอวิ๋นฟานเกาศีรษะ ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี เพราะนี่คือการเรียกของคนในยุคปัจจุบัน เพื่อป้องกันการโจมตีถึงชีวิต ฉินอวิ๋นฟานจึงมีความคิดแหวกแนวขึ้นมาและลองทำดูสองตัว“รัชทายาท การทลายรังโจรหนนี้ประสบความสำเร็จสูง บรรดาคนที่หลัวเทียนเป้าพามาและกองโจรทั้งหมดถูกพวกเราฆ่าล้างหมดแล้ว มิหนำซ้ำอาจารย์เซี่ยงยังตัดหัวของหลัวเทียนเป้าและจางหมาจื่อมาแล้วด้วย ตอนนี้รอแต่ท่านกลับเมืองอู่โจวเท่านั้น”หานซิ่นรายงานอย่างตั้งใจ“อ้อ? ไม่เลวนี่ พวกเจ้าทำได้ยอดเยี่ยม ครั้งนี้ได้ผลงานใหญ่ ข้าพอใจมาก!”หลังจากชมเชยจบ ฉินอวิ๋นฟานก็เปลี่ยนประเด็น “แล้วความเสียหายทางพวกเราเป็นยังไงบ้าง? ต่างจากที่คำนวณเอาไว้มากหรือไม่?”“อยู่ในการประมาณการขอรับ เสียมือหน้าไม้และทหารไปทั้งหมดสามสิบกว่าคน เสียหน่วยเอเคสี่สิบแปดไปสี่คน บาดเจ็บหนักสองคน บาดเจ็บเล็กน้อยสองคน”หานซิ่นตอบ“เลวเอ๊ย! พวกเราเตรียมงานพร้อมขนาดนี้ ยังเสียพี่น้องไปมากอย่างนั้นอีก?
“เอ่อ... แต่เพียงแต่ข้าที่กังวลเช่นนี้ เกรงว่าทุกคนก็คงมีความกังวลนี้เหมือนกันกระมัง? อย่างไรเสีย ของอย่างบัญชีก็สามารถปลอมแปลงได้”เห็นฉินอวิ๋นฟานพูดตามตรง ฉินอวิ๋นฮุยจึงไม่อ้ำอึ้งอีก การยกเรื่องไม่ดีมาพูดแต่แรกมิใช่เรื่องน่าอายอันใด เพราะมันเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของพวกเขา เขาไม่อยากถูกฉินอวิ๋นฟานหลอก!“ฮ่า ๆ ๆ...”ฉินอวิ๋นฟานลั่นเสียงหัวเราะทันที “พี่รองทำงานรอบคอบดังคาด น้องเจ็ดเลื่อมใส แต่ท่านคิดมากไปแล้ว ถ้าต้องดูแลเมืองการค้าสามเมือง คนของข้าไม่มีทางพอ ถ้าพวกท่านไม่ส่งคนมาช่วยงาน ข้าคงทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ”“อ้อ? น้องเจ็ดพูดจริงรึ?!”เมื่อนั้นหัวใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ของฉินอวิ๋นฮุยจึงสงบลง หากเขาสามารถให้คนเข้าร่วมอยู่ในเมืองการค้าทั้งสามเมืองได้ เช่นนั้นเขาจะวางใจได้แล้ว เพราะจะรับประกันผลประโยชน์ของเขาได้ทั้งหมด!“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านวางใจได้เลย ระหว่างพวกเราพี่น้องแม้เป็นคู่ต่อสู้กัน แต่ต่อหน้าผลประโยชน์ของบ้านเมือง พวกเราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง มีเพียงเช่นนี้ต้าเฉียนเราจึงจะเฟื่องฟูได้นิรันดร์”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นในเรื่องการค้า เครือเหิงไท่จะรับผิดชอบกิจการหลักท
ฉินอวิ๋นฟานกล่าวอย่างจริงจัง “ต่อให้ใครกล้ามีความคิดส่วนตัวก็เปล่าประโยชน์ เพราะพวกเราต้องร่วมกันทำงาน หากไม่อยากเสียเมืองไป ไม่อยากตาย ทหารทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือ เป็นหนึ่งเดียวสู้กับภายนอก”“ดี ดีมาก ความคิดนี้ไม่เลว!”เมื่อฉินอวิ๋นฟานกล่าวออกมา ไท่ซั่งหวงรู้อยู่แล้วว่าฉินอวิ๋นฟานต้องทุ่มเทเพื่อแผนการนี้ มิเช่นนั้นจะไม่มีทางคิดแผนการสมบูรณ์แบบเช่นนี้ออกมาได้“อื่ม ไม่เลว!”ฉินอวิ๋นฮุยไม่ได้ดีใจกับแผนการสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของฉินอวิ๋นฟาน เพราะแม้เช่นนี้จะเป็นเรื่องดีต่อบ้านเมืองจริง หากไร้ประโยชน์อันใดต่อพวกเขา ในทางกลับกัน พวกเขายังจะกลายเป็นคนที่ถูกฉินอวิ๋นฟานใช้งานอีกด้วยพวกเขาส่งทหารรักษาเมือง ฉินอวิ๋นฟานกอบโกยกำไรอย่างบ้าคลั่ง คิดแล้วฉินอวิ๋นฮุยก็อยากตบหน้าตัวเองสักฉาด ลักไก่ไม่สำเร็จเสียข้าวอีกหนึ่งกำมือโดยแท้!ทว่าไท่ซั่งหวงแสดงท่าทีชัดเจนแล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?ฉินอวิ๋นฟานรู้ความคิดของพวกเขาดี อีกอย่าง ถ้าครองผลงานเองในเวลานี้จะเป็นการเลือกที่ไม่ฉลาดเอามาก ๆ ฉินอวิ๋นฟานไม่ทำเรื่องเบาปัญญาเช่นนี้หรอก!โบราณกล่าว ตบหน้าฉาดหนึ่งต้องให้พุทราหวานหนึ่งลูก อีกฝ่ายส่งทหารม
ขณะนี้ ทั่วทั้งท้องพระโรงเงียบกริบ ถ้อยคำชวนให้คนมีจิตใจฮึกเหิมของฉินอวิ๋นฟานวนเวียนอยู่ในหัวของ แม้ไท่ซั่งหวงเองก็ยังตกตะลึงพรึงเพริดกับคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟาน!รัชทายาทวัยสิบแปดสิบเก้าคนหนึ่ง ช่างเป็นชายชาตินักรบเลือดร้อนไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน หากคนเช่นนี้เป็นจักรพรรดิ ไยต้องกลัวอนาคตต้าเฉียนจะไม่ศิวิไลซ์?“เกี่ยวกับการสร้างเมืองการค้าสี่แห่งในสี่ทิศของต้าเฉียน ทุกคนคัดค้านอย่างหนัก ข้าเข้าใจความรู้สึกของทุกคนมาก แต่ในเมื่อจะทำเรื่องนี้ ข้าก็ต้องยอมรับเสียงและความเห็นที่แตกต่าง ทุกคนว่ามาเถอะ”ฉินอวิ๋นฟานไม่รีบร้อน มีแต่ต้องทำให้ทำคนยอมรับเรื่องนี้จากใจจริง เขาจึงจะยึดสิทธิ์ความเป็นผู้นำได้ มิเช่นนั้นต่อให้ใช้กำลังผลักดันเรื่องนี้ คนเหล่านี้ต้องเล่นตุกติกลับหลังเขาแน่ เช่นนี้มีแต่จะทำให้รำคาญดังนั้นฉินอวิ๋นฟานเตรียมตัวกับการคัดค้านและความคิดของทุกคนแต่แรกแล้ว ต้องการแค่โอกาสประจวบเหมาะหนึ่ง เพราะคนที่ป่วยเป็นโรคอิจฉาตาร้อนมีมากเหลือเกิน มีแต่ต้องคิดหาทางหยดยาดวงตาให้พวกเขาสักหน่อย จึงจะขจัดต้นตอของปัญหาได้ “นี่...”ผู้คนมากมายแน่นขนัดพูดไม่ออกสักคำ เพราะต่างมีความกังวลอยู่ในใจ ฉ
นาทีนี้ถังเจิ้นไห่ถูกโจมตีทำร้ายทางจิตใจอย่างหนัก ฉินอวิ๋นฟานปากคอเราะรายน่ากลัวจริง ๆ การโจมตีของเขารวดเร็วนัก เขาต้านทานไม่ไหวเลยเขาจนปัญญากับการโจมตีของฉินอวิ๋นฟานแล้ว ได้แต่ใช้สถานะข่มขู่ฉินอวิ๋นฟาน หวังว่าฉินอวิ๋นฟานจะหยุดโจมตีเขาน่าเสียดาย แต่ไหนมาฉินอวิ๋นฟานก็ไม่ใช่คนใจบุญสุนทานอะไร และไม่เคยเป็นพวกยอมเสียเปรียบ หากมีคนโจมตีเขา ฉินอวิ๋นฟานจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!ต้องถล่มอีกฝ่ายจนแพ้ราบคาบ นี่สิจึงจะเป็นเป้าหมายความเป็นคนของเขา และถังเจิ้นไห่ก็แตะเขตต้องห้ามของเขาพอดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานย่อมไม่ไว้หน้าเขา!ครั้นพวกฉินอวิ๋นฮุยเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ก็พากันมอบสายตาเห็นใจให้ถังเจิ้นไห่ พวกเขาเคยได้รับการสั่งสอนด้วยหมัดหนักจากฉินอวิ๋นฟานมานานแล้ว ในสถานการณ์ที่ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย หากหาเรื่องฉินอวิ๋นฟานก็เท่ากับรนหาที่ตาย!ไท่ซั่งหวงและจางเต้าหลินฉายรอยยิ้มพึงพอใจ แม้ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานจะหยาบคายไม่รื่นหูไปบ้าง แต่สะใจยิ่งนัก! นักวางแผนร้ายเฒ่าเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง ถูกฉินอวิ๋นฟานฟาดกลับจนต้องสงสัยในชีวิต เด็ดสะระตี่แท้!“เกินไป? ตอนนี้ท่านรู้ว่าเกินไป? ตอนที่ท่านสาดน้ำคลำใส่
“ท่าน...”ถูกฉินอวิ๋นฟานด่าว่าหน้าด้าน ถังเจิ้นไห่โกรธจนหน้าเขียว แทบอยากสับฉินอวิ๋นฟานเป็นหมื่น ๆ ชิ้น เขาจำต้องยอมรับว่าฉินอวิ๋นฟานร้ายจริง ๆ! ในสภาวการณ์เช่นนี้ เขากลับไม่กลัวแม้แต่น้อย?“ท่านเทิ่นอะไร ท่านมันหน้าด้านเหม็นโฉ่ อายุอานามห้าสิบกว่าแล้ว มีแต่ความชั่วร้ายอยู่เต็มอก น่ารังเกียจโดยแท้!”ฉินอวิ๋นฟานไม่ไว้หน้าถังเจิ้นไห่สักนิด เอ่ยต่อ “เมื่อวานข้าเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอู่โจว ท่านรู้ได้ยังไงว่าข้าไม่คิดกระจายการเพาะปลูกทั่วแคว้น? ท่านให้โอกาสข้าพูดแล้วหรือยัง?!”“อีกอย่าง ปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ข้ามอบให้ทุกแคว้นมีจำกัด ใครกล้าไม่เคารพต้าเฉียน? ข้าคือบิดรมารดาปากท้องของพวกเขา ใครกล้าหือ?!”“แม้นมีแคว้นใดไม่เป็นเด็กดี ข้าจะระงับการส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้พวกเขาทันที ข้าจะดูสิว่าไอ้ไม่ดูตาม้าตาเรือหน้าไหนกล้าท้าทายขอบเขตต่ำสุดของข้า?!”ครั้นกล่าวออกมา ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่มีผู้ใดกล้าพูด หากเทียบกับการเคลือบแคลงสงสัยเมื่อครู่ การพูดเช่นนี้ของฉินอวิ๋นฟานยิ่งสามารถทำให้เขายืนอย่างมั่นคงมากขึ้นฉินอวิ๋นฟานคลี่คลายประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการได้แล้ว ถังเจิ้นไห่หน้าตึงจนน
“ได้!”ถังเจิ้นไห่พูดหน้าขรึม “ประการที่สองของความผิดร้ายแรงสามประการ รัชทายาทร่วมกันสร้างถนนกับแคว้นต่าง ๆ เรื่องนี้อึกทึกครึกโครมไปทั่ว ทันทีที่สร้างถนนที่กว้างยิ่งขึ้น การคมนาคมจะสะดวก คืออยากให้แคว้นรอบข้างรุกรานต้าเฉียนเราสะดวกยิ่งขึ้นหรือ? การกระทำเช่นนี้มิใช่แผนการล่มชาติแล้วมันคืออะไร?!”ซี้ด...เมื่อทุกคนได้ฟังต่างสูดลมเย็นเข้าปาก เกิดความสงสัยอย่างหนักกับจุดประสงค์ของฉินอวิ๋นฟาน ด้านหนึ่งมอบธัญพืช ด้านหนึ่งสร้างถนนกับทุกแคว้น จุดประสงค์จะชัดเจนเกินไปแล้วกระมัง?“ต่อ ประการที่สามเล่า!”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มเรียบ เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะไปไกลขนาดไหน ช่างเป็นคนที่มีขอบเขตความรู้ความเข้าใจและวิสัยทัศน์โดยแท้ การกำหนดอนาคตของบ้านเมือง เป็นเช่นนี้ดังคาดหากให้พวกเฮ่อชินอ๋องเรืองอำนาจจริง ต้าเฉียนมิต้องจบเห่หรือ? ให้สวะพวกนี้ดูแลบ้านเมือง บ้านเมืองนั้นยังจะมีความหวังอะไร?พวกเขานอกจากจะมีความชั่วร้ายอยู่เต็มอก มีความคิดดำมืดอยู่เต็มสมอง ยังจะทำอันใดได้อีก?“หึ!”ถังเจิ้นไห่แค่นเสียงแล้วจึงเอ่ย “ประการที่สาม รัชทายาทร่วมมือกับแคว้นต่าง ๆ กีดกันต้าเยียน สังหารบุตรชายคนที่สี่ข
“อ้อ? ความผิดร้ายแรงสามประการของฟานเอ๋อร์? ไหนลองว่ามาดูสิ!”ไท่ซั่งหวงตั้งสมาธิ นึกสนใจขึ้นมาทันที อย่างลับ ๆ เขาให้ความสนใจกับพฤติกรรมของฟานเอ๋อร์มาก ไม่เคยได้ยินความผิดร้ายแรงสามประการอันใด เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะพูดอะไรความผิดร้ายแรงสามประการเสมือนระเบิดลูกใหญ่ ทำให้สีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกขึ้นมา ยามนี้สายตาของทุกคนในที่นั้นต่างรวมศูนย์อยู่ที่ตัวของถังเจิ้นไห่“ประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการ ได้ยินว่ารัชทายาททำเมล็ดพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ขึ้นมา สามารถให้ผลผลิตสูงมาก เดิมนี่คือโอกาสดีที่สุดที่ต้าเฉียนเราจะแจ้งเกิด คิดไม่ถึงว่ารัชทายาทกลับมอบเมล็ดพันธุ์ผลผลิตสูงให้กับแคว้นต่าง ๆ รอบข้าง ช่วยให้พวกเขามั่งคั่งมากขึ้น”ถังเจิ้นไห่กล่าวเสียงหนัก “ขอถามทุกท่านในที่นี้ พฤติกรรมเช่นนี้ของรัชทายาทคือกำลังช่วยเหลือศัตรูน่ากลัวของเราหรือไม่? พฤติกรรมเช่นนี้ของเขา คือการขายชาติหรือไม่?!”ตูม...ครั้นถังเจิ้นไห่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา บรรดาขุนนางต่างอึกทึกครึกโครม คนทั้งโลกต่างรู้เรื่องที่เมืองจัวเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์แทบทุกคน และเรื่องที่ฉินอวิ๋นฟานลงนามสัญญากับแคว้นต่าง ๆ ก็รู
“อื่ม! ดี!”ไท่ซั่งหวงเอ่ยเสียงหนัก “เช่นนั้นข้าขอประกาศอย่างเป็นทางการ แต่งตั้งหวังอันสือเป็นหัวหน้าสำนักศึกษาหลวง เจี่ยงฝานฝานเป็นรองหัวหน้า การรับตำแหน่งนี้มีผลอย่างเป็นทางการ หัวหน้าขันทีเฉา ร่างราชโองการเดี๋ยวนี้ ประกาศต่อใต้หล้า!”เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง ใจที่กระวนกระวายของฉินอวิ๋นฟานก็สงบ เขามองจางเต้าหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง!ทว่าคนอื่น ๆ กลับมีความรู้สึกที่แปลกออกไป หลังจากหวังอันสือได้ขึ้นตำแหน่ง ทำให้พวกเขาตระหนักว่าสถานการณ์ในราชสำนักกำลังหลุดจากการควบคุมอย่างช้า ๆ ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะครองราชสำนัก“เอาละ เรื่องสำนักศึกษาหลวงก็สิ้นสุดแล้ว แต่จะละเลยผลงานการไปเมืองอู่โจวของฟานเอ๋อร์ครั้งนี้ไม่ได้”ไท่ซั่งหวงกล่าวเสียงเข้ม “ฟานเอ๋อร์ไม่เพียงแต่ทำคำสัญญาเมื่อครึ่งปีก่อนสำเร็จ ยิ่งทำให้เศรษฐกิจต้าเฉียนเราพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ท้องพระคลังเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ พสกนิกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างช้า ๆ ทุกคนต่างเห็นความยอดเยี่ยมของฟานเอ๋อร์”“ฟานเอ๋อร์ ว่ามาเถอะ เจ้าอยากได้อะไรเป็นรางวัล? ขอเพียงสมเหตุสมผล ข้าจะให้เจ้าดังปรารถนา!”ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกดีใจมากที่
“...”‘ไม่ว่าจะเป็นใคร คนผู้นั้นก็รู้อยู่แก่ใจดี’ ประโยคเดียวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ถังเจิ้นไห่สยบ แม่งเอ๊ย เขาก็ต้องรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว หากเขามีความจำเป็นพูดออกมาไม่ได้!การเล่นเกมเลี่ยงบาลีของฉินอวิ๋นฟานทำให้แนวป้องกันของถังเจิ้นไห่พังทลายลงโดยสิ้นเชิง เหล่าขุนนางต่างกัดฟันกรอด กลับทำอะไรไม่ได้ ฉินอวิ๋นฟานเฉกเช่นปลาหนีชิวลื่นไหลตัวหนึ่ง ทำอะไรเขาไม่ได้เลย!จางเต้าหลินที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงกับการกระทำนี้ของฉินอวิ๋นฟาน เขาเคยเห็นคนหน้าด้าน กลับไม่เคยเห็นผู้ใดหน้าหนาไร้ยางอายเช่นฉินอวิ๋นฟานมาก่อน หน้าไม่อายที่สุด!คนคนหนึ่งปั่นหัวเหล่าขุนนางใหญ่เป็นว่าเล่น โมโหโทโสจนร่ำไห้หาพ่อร้องหาแม่ กลับจนปัญญา ดูสีหน้าเขียวปัดของถังเจิ้นไห่ จางเต้าหลินกลั้นหัวเราะอย่างหนัก กลั้นจนภายในจะบอบช้ำแล้ว“เอาละ ๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย พอแค่นี้เถอะ!”ไท่ซั่งหวงเห็นว่าพอประมาณแล้ว จึงตัดสินเรื่องนี้ในที่สุด ได้แต่บอกว่าฟานเอ๋อร์ใช้ไหวพริบและผลลัพธ์ก็คือว่าเป็นที่น่าพอใจ“จางไท่เว่ย ในเมื่อมีสามตัวเลือก และทุกคนก็แสดงจุดยืนของตัวเองแล้ว ท่านมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร?”ไท่ซั่งหวงไม่ได้ยอมรับคว