Share

บทที่ 71

Author: เมิ่งซานเชียน
“รัชทายาท โปรดระวังภาพพจน์ของตัวเองด้วย ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวยังประทับอยู่ เรื่องนี้อดีตฮ่องเต้ทรงจัดการด้วยองค์เอง องค์ชายห้ามีความผิดจริง แต่ท่านก็ไม่มีสิทธิ์ชี้นิ้วกระมัง?”

หูหมิงชิงเป็นเจ้ากรมอาญาเป็นสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ขององค์ชายรอง เห็นองค์ชายรองถูกลบหลู่เหยียดหยามอนาถขนาดนี้ เขาทนดูไม่ได้จริง ๆ ได้แต่ทำหน้าขึงขังก้าวออกมาปรามไม่ให้ฉินอวิ๋นฟานด่าต่อ

“ข้ามีภาพพจน์อะไรเกี่ยวอันใดกับลมผายเจ้า? จะสั่งสอนข้า เจ้าก็คู่ควรรึ? ไม่ดูสารรูปตัวเองเสียบ้าง เป็นถึงเจ้ากรมอาญา ทำตัวเยี่ยงสุนัขรับใช้ เห็นแล้วยังทำให้คนขยะแขยง”

เผชิญหน้ากับหูหมิงชิง ฉินอวิ๋นฟานยังคงแข็งกร้าวเหลือประมาณ ไม่ไว้หน้าเขาสักนิด ชี้จมูกด่าเขาต่อ

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตาค้างไปเลย รัชทายาทน่ากลัวเหลือเกิน ปากคมเช่นกรรไกร สามารถด่าให้คนตายทั้งเป็นได้ คนอื่นเขาทำสงครามลิ้นโต้คารมกับบรรดาปราชญ์ขงจื้อ เขากลับดี ปากด่าองค์ชายผู้สูงส่ง

“ท่าน ไม่มีขอบเขตสักนิด!”

หูหมิงชิงเดือดจนจมูกบูดเบี้ยว บัณฑิตเจอทหาร มีหลักการพูดไม่ชัดโดยแท้ ไม่อาจปรับความเข้าใจกันได้ คนผู้นี้กำลังหน้ามืด อ้าปากก็ด่าคน รับไม่ได้จริง ๆ

ภาพนี้ทำเอาเหมีย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Amnuay Kamporn
ลงให้ยาวๆกว่านี้ได้ไหมครับ
goodnovel comment avatar
สุวัธน์ อุ้มปรีชา
แต่ละตอนสั้นเกินไป
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 72

    สำหรับผู้ที่สามารถได้รับอำนาจจริงเหล่านั้น พวกเขากลับหวังว่าภัยพิบัติจะมาถึง เพราะมีเพียงเช่นนี้ พวกเขาจึงสามารถได้ผลประโยชน์อย่างโจ่งแจ้ง สำหรับความเป็นความตายของประชาชน พวกเขากลับไม่สนใจก็เหมือนกับเรื่องหนึ่งที่ฉินอวิ๋นฟานเคยประสบในยุคปัจจุบัน ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต จู่ ๆ กลับมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ข้าวสาลีงอกและขึ้นรา หลังจากผู้เชี่ยวชาญยี่สิบกว่าคนวิจัยหลายวันหลายคืน สุดท้ายได้ข้อสรุปว่าต้องอบข้าวสาลีให้ความชื้นน้อยลง สุดท้ายจึงได้เงินสองร้อยล้านสำหรับเรื่องการอบก็คือโยนหินลงแม่น้ำ กระทั่งว่าไม่มีชาวบ้านรู้ว่าการอบมันคืออะไร และไม่เคยมีชาวบ้านเคยเห็นว่าต้องอบด้วยวิธีการไหน จบไปทั้งอย่างนั้นดังนั้นฉินอวิ๋นฟานต้องการให้ฉินอวิ๋นผู่เปิดเผยความผิดอันชั่วร้ายของตัวเองต่อหน้าทุกคน เขาต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู ให้ทุกคนได้เห็นจิตใจที่พยายามปกครอง มิใช่แค่การพูดปากเปล่า“น้อง น้องเจ็ด พวกเรามีอะไรคุยกันดี ๆ ได้หรือไม่? เจ้าปล่อยข้าก่อนนะ ข้าต้องบอกเจ้าแบบไม่มีตกหล่นแน่นอน ได้หรือไม่?”ฉินอวิ๋นผู่ลนลานแล้ว เขาลนลานโดยสิ้นเชิง พี่รองออกหน้า ไม่เพียงแต่ช่วยเขาไม่ได้ กลับกัน ยังถูกฉินอว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 73

    ห่าวเจี้ยนที่ขอร้องเนื้อตัวสั่นเทา ในฐานะที่เป็นขุนนางใหญ่ของต้าเฉียน กินเสียจนหัวหมูหูกาง คงยักยอกเงินไปไม่น้อยสินะ? เจ้าหัวหมูที่กินเลือดของคนจนอ้วนตุ๊ต๊ะ ไม่เชือดมันยากจะสลายความแค้นในใจฉินอวิ๋นฟานได้“คาดว่าเจ้าน่าจะรู้ว่าเมื่อสามวันก่อนหยางอี๋กับหยางกุ้ยเฟยตายอย่างไร”ฉินอวิ๋นฟานเลิกคิ้วน้อย ๆ พูดด้วยสีหน้าเย็นชา “แต่ไหนมาข้าเด็ดขาดเสมอ ให้โอกาสเจ้า เสียดายเจ้าไม่ถนอม ข้ากำลังต้องการหัวคนปลอบขวัญผู้ลี้ภัยอยู่พอดี เจ้าห่าวเจี้ยนเหมาะสมที่สุด ลำบากเจ้าแล้วนะ”ฉินอวิ๋นฟานจะใช้รูปแบบการบีบคั้นชักจูงทำให้ห่าวเจี้ยนติดกับ คนที่ใกล้จะตาย จำเป็นต้องให้เขาทำคุณูประการให้ต้าเฉียนสักหน่อยขณะเดียวกันก็เพื่อปลูกฝังความคิดในใจทุกคนด้วย ต่อถ้ายังปากแข็งอีก ยามกลัวคนที่อยู่เบื้องหลัง ก็คงดูด้วยว่าตัวเองมีกี่ชีวิต“ไม่ ไม่ รัชทายาท ข้าน้อยคือเจ้ากรมโยธา รับผิดชอบงานก่อสร้างทั้งหมดในแคว้น การบริหารจัดการน้ำ การบรรเทาภัยพิบัติ ความเป็นอยู่ของราษฎรและอื่น ๆ”วิธีการเหี้ยมโหดของฉินอวิ๋นฟานเมื่อสามวันก่อน เขาเป็นขุนนางระดับเพดานของต้าเฉียน จะไม่รู้ได้อย่างไร? แต่เขากลัวอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง เ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 74

    ฉินอวิ๋นฟานตวาดทีหนึ่ง เสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ เวลานี้อู่จ้านตกตะลึง จ้องฉินอวิ๋นฟานที่เด็ดขาด เขาในยามนี้เลือดร้อนพลุ่งพล่าน กระทั่งเห็นความน่าเกรงขามของราชันอยู่ในตัวของฉินอวิ๋นฟาน“รับทราบ!”ในฐานะที่เป็นองครักษ์ผู้จงรักของฉินอวิ๋นฟาน วาจาของเขาคือประกาศิต ไม่ว่าเป็นหรือตาย อู่จ้านอัญเชิญดาบใหญ่ข้างหลังออกมาในพริบตา สาวเท้ามาถึงข้างตัวห่าวเจี้ยนเห็นอู่จ้านมีกลิ่นอายเหี้ยมเกรียมทั้งตัวบนล่าง ห่าวเจี้ยนสะดุ้งปัสสาวะราดทันที รีบคุกเข่าขอร้อง “รัชทายาทไว้ชีวิตด้วย องค์ชายรองช่วยข้าน้อยด้วย ช่วยข้าน้อยด้วย!”“น้องเจ็ด เจ้าจะทำเกินไปแล้วนะ!”เขายอมลดตัวขนาดนี้แล้ว ไม่นึกว่าฉินอวิ๋นฟานกลับไม่ไว้หน้าสักนิด? นาทีนี้ องค์ชายรองเดือดดาลโดยสิ้นเชิงแล้วเขาเอ่ยเสียงเย็น “ใต้หล้านี้ยังใช่ใต้หล้าของต้าเฉียนเราหรือไม่? ก่อนที่เรื่องราวจะกระจ่าง ต่อให้เจ้าเป็นรัชทายาทต้าเฉียนก็ฆ่าขุนนางใหญ่ของต้าเฉียนตามอำเภอใจไม่ได้กระมัง?”“อ้อ? จะตราหน้าข้าหรือ? เจ้าก็คู่ควร?”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยใบหน้าไม่ใส่ใจ “ตามกฎหมายของต้าเฉียน ไม่ว่าขุนนางคนใดของต้าเฉียนที่ทุจริตเงินบรรเทาภัยพิบัติตลอดจนรับผิดชอบเป็

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 75

    “อ้อ? เริ่มกัดกันเองแล้ว?”ฉินอวิ๋นฟานพูดกลั้วหัวเราะเสียงเย็น “ว่ามาดูสิ!”ห่าวเจี้ยนในตอนนี้ไหนเลยจะคิดอะไรมากได้ โพล่งปากออกไปโดยตรง นึกว่าสารภาพความจริงแล้วฉินอวิ๋นฟานจะละเว้นโทษตายกับเขา น่าเสียดาย เขาผิดไป ไม่ว่าเขาจะพูดหรือไม่ วันนี้เขาก็ต้องตายอยู่ดี!“ห่าวเจี้ยน เจ้า ถ้าเจ้ากล้าพูดจาเลื่อนเปื้อนข้าจะไม่ไว้เจ้า!”เห็นห่าวเจี้ยนจะสารภาพออกไป องค์ชายรองเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน เรื่องนี้น้องชายของเขาคือผู้บงการ ทันทีที่ห่าวเจี้ยนสารภาพออกไปหมดเปลือก ด้วยนิสัยของฉินอวิ๋นฟานจะไม่เอาชีวิตน้องชายของเขาหรือ?ทว่าทุกอย่างมันสายไปแล้ว ความเป็นความตายอยู่ตรงหน้า ห่าวเจี้ยนคำนึกอะไรได้มากอย่างนั้นที่ไหน?“ขอโทษแล้วองค์ชายรอง!”ห่าวเจี้ยนกัดฟันพูด “รัชทายาท การบรรเทาภัยพิบัติในครั้งนี้องค์ชายห้ารับผิดชอบทั้งหมด ข้าน้อยแค่ทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น ครั้งนี้ราชสำนักมอบเงินทั้งหมดสิบล้านตำลึงเงิน แต่ยังไม่ทันออกจากเมืองหลวงก็ถูกองค์ชายห้าเอาไปเจ็ดล้านตำลึงแล้ว”“ที่เหลือสามล้านตำลึงถูกขุนนางท้องถิ่นยักยอกไปเป็นขั้น ๆ เหลือถึงบรรเทาภัยพิบัติจริงหนึ่งล้านตำลึงก็ถือว่าดีมากแล้ว ข้าน้อยเอาไปสอง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 76

    “น้องเจ็ด เจ้าว่า...”ฉินอวิ๋นผู่เพิ่งจะเอ่ยปากก็ถูกฉินอวิ๋นฟานถีบเข้าที่หน้าอก พลังหนักหน่วงโจมตี ฉินอวิ๋นผู่จึงถูกฉินอวิ๋นฟานถีบกระเด็น กระอักเลือดสดออกมาเดี๋ยวนั้น สภาพสะบักสะบอมถึงที่สุดฉินอวิ๋นฟานไม่ฟังการอธิบายใด ๆ พิโรธคำราม “อู่จ้าน จัดการมันต่อ!”อู่จ้านสีหน้าขรึม เลือดร้อนพลุ่งพล่าน เกิดมาเพิ่งจะได้ฆ่าองค์ชายเป็นครั้งแรก ทั้งเป็นประกาศิตจากนาย เขาไม่กล้าลังเลใด ๆ แกว่งดาบศึกในมือจะฟันไปทางองค์ชายห้าฉินอวิ๋นผู่ไท่ซั่งหวงขมวดคิ้วแน่น ในใจหลากรสหลากอารมณ์ เรื่องนี้ใหญ่หลวงยิ่งนัก ได้แต่ทำตามกฎหมาย ทั้งเขามีประสงค์ให้ฉินอวิ๋นฟานสร้างความน่าเกรงขามจากเรื่องนี้ด้วยแม้เหมียวชิงอีจะเป็นอิสตรีนางหนึ่ง หากทึ่งกับการกระทำนี้ของฉินอวิ๋นฟานที่สุด เลือดร้อนแล่นพล่าน นี่ก็คือรัชทายาทปัญญาอ่อนตามคำเล่าลือหรือ? ท่าทางโง่งมสักเศษเสี้ยวมันอยู่ที่ไหน?เขาเช่นเทพนักรบ นอกจากจะขจัดผู้ร้ายช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอ ทั้งยังมีความเป็นธรรมเต็มเปี่ยม เห็นใต้หล้าคือหน้าที่ ต่อสู้กับมหาอำนาจ นี่คือลูกผู้ชายอย่างแท้จริง!องค์ชายใหญ่และฮั่วเจิ้นหลงอีกทางด้านหนึ่งร่างขมวดคิ้วมุ่น ในใจเกิดความรู้สึกซับซ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 77

    พริบตาเดียว ขุนนางใหญ่กว่าครึ่งคุกเข่าขอร้องแทนองค์ชายห้า เกิดเป็นภาพสะเทือนขวัญเห็นภาพตรงหน้า ฉินอวิ๋นฟานหน้าครึ้มจนแทบจะกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำ อิทธิพลขององค์ชายรองน่ากลัวดังคาด คิดจะฆ่าองค์ชายองค์หนึ่ง น่ากลัวว่าจะยากปานขึ้นสวรรค์เวลานี้ไท่ซั่งหวงลำบากใจแล้ว เหล่าขุนนางบีบคั้น ทำให้เขารู้สึกไร้กำลังอย่างหนัก ด้านหนึ่งคือกฎหมายและความยุติธรรม ด้านหนึ่งคือสายใยเลือดข้นกว่าน้ำและการขอร้องของพวกขุนนางหากเขายืนอยู่ฝั่งฉินอวิ๋นฟานก็จะหมายถึงเขาไม่คำนึงถึงสายใยครอบครัว เป็นคนอำมหิตไร้หัวใจถ้าเขาเปิดปากมอบทางสะดวกให้เจ้าห้า เช่นนั้นเท่ากับยอมรับอภิสิทธิ์และความเน่าเฟะโดยปริยาย ชีวิตของประชาชนก็คือชีวิตต่ำต้อย อยู่ต่อหน้าอำนาจราชวงศ์ไร้ซึ่งความหมายเห็นเสด็จปู่เงียบอยู่นาน ฉินอวิ๋นฟานรู้ว่าเขากำลังลำบากใจ สมกับที่เป็นเสด็จปู่ ยิ่งยืนอยู่ที่สูงยิ่งมองเห็นไกล การที่เขาไม่แสดงท่าทีเพียงพอกับฉินอวิ๋นฟานแล้ว“พวกเจ้าไม่ต้องขอร้องแล้ว ขอไปก็ไม่มีประโยชน์ ต่อให้เสด็จปู่รับปากพวกเจ้า วันนี้ข้าก็ยังต้องเอาชีวิตฉินอวิ๋นผู่ เง็กเซียนฮ่องเต้มาก็ไร้ความหมาย”สิ้นเสียงฉินอวิ๋นฟาน ทั้งงานตะลึงงัน ส

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 78

    ทุกคนหันไปมองตามเสียง เห็นเพียงสตรีวัยกลางคนในชุดผาวตัวยาวสีแดงเข้ม สวมกวานหงส์ผ้าคลุมไหล่หงส์ อายุอานามประมาณสี่สิบต้น ๆ เยื้องกรายมาพร้อมผู้ติดตามนางมีบรรยากาศรอบตัวน่าเกรงขาม ทุกอากัปกิริยาแผ่พลังที่อยู่สูงส่ง เผชิญกับฉินอวิ๋นฟาน ดวงตานางแฝงเจตนาดูถูก“คารวะเหอกุ้ยเฟย!”เห็นอีกฝ่ายมา ทุกคนโค้งคำนับทันที ส่วนฉินอวิ๋นฟานกลับไม่สะทกสะท้าน รู้สึกว่าอีกฝ่ายมาไม่ดีทันที!นางผยองมองผู้คน คุกเข่ากับไท่ซั่งหวงเดี๋ยวนั้น “ปี้อวี้ถวายบังคมเสด็จพ่อ!”การปรากฏตัวของเหอปี้อวี้ทำให้ไท่ซั่งหวงประหลาดใจ หากมิได้แสดงออกมา เพียงเอ่ยเรียบ “ลุกขึ้น!”“ปากเก่งนักนะ รัชทายาทผู้อวดเบ่งทระนง ยังไม่ทันได้เป็นฮ่องเต้ก็กล้าเข่นฆ่าพี่น้องแล้ว? ช่างทำให้ข้าเปิดหูเปิดตานัก”เหอกุ้ยเฟยหรี่ดวงตาทั้งสองมองมาทางฉินอวิ๋นฟาน ก่อนจะไต่ถามเสียงกร้าว“ท่านเป็นแค่นางสนมวังหลังเท่านั้น? กล้าสอดมือยุ่งเรื่องราชสำนัก? ใครให้สิทธิแก่ท่าน?”ความน่าเกรงขามของฉินอวิ๋นฟานดังเดิม แม้เขาจะรู้ว่าผู้ที่มาก็คือเหอกุ้ยเฟยมารดาขององค์ชายรองและองค์ชายห้า แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเมินเหมือนเดิม การวางก้ามนี้ของฉินอวิ๋นฟานไม่ยี่หระ กล

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 79

    กับการยั่วยุของเหอกุ้ยเฟย ฉินอวิ๋นฟานสีหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นปั้นยาก จากความทรงจำในอดีตชาติ เขารู้อยู่แล้วว่าป้ายอภัยโทษคือของน่ากลัวแค่ไหนพอเห็นมารดาล้วงป้ายอภัยโทษออกมา อารมณ์ตึงเครียดขององค์ชายรองผ่อนคลายลงเล็กน้อย ต่อให้ฉินอวิ๋นฟานใจกล้าอย่างไร ก็ไม่กล้าท้าทายกับป้ายอภัยโทษ การท้าทายป้ายอภัยโทษเท่ากับก่อกบฏ ประหารได้ทันที “คิดไม่ถึงจริง ๆ ฉินอวิ๋นฟานจะบีบถึงขั้นทำให้ตระกูลเหอใช้ป้ายอภัยโทษ วัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือแท้ ๆ เกรงว่าทั้งราชสำนักคงมีแต่เขาแล้ว”ฮั่วเจิ้นหลงจ้องป้ายคำสั่งในมือเหอกุ้ยเฟยแบบไม่อยากจะเชื่อ พร้อมกันนั้นก็นับถือวิธีการของฉินอวิ๋นฟานด้วย เขากระทั่งรู้สึกขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุว่าบนตัวฉินอวิ๋นฟานมีกลิ่นอย่างของจักรพรรดิ“น้องเจ็ดนี่คือรนหาที่ตาย บีบน้องรองกับตระกูลเหอขนาดนี้ ต่อไปได้ลำบากแล้ว”องค์ชายใหญ่พูดเสียดสีอยู่ด้านข้าง“นั่นก็ไม่แน่!”ฮั่วเจิ้นหลงแววตาลุ่มลึก ความหมายลึกซึ้งหลังจากพิจารณาพักหนึ่ง สุดท้ายฉินอวิ๋นฟานเลือกที่จะยอมถอย เขาที่รอบรู้ประวัติศาสตร์ย่อมไม่ทำความผิดระดับต่ำง่าย ๆ เช่นนี้ ถ้าเขายังกล้าดึงดันต่อไป องค์ชายรองต้องกล้าเรียกองครักษ์ฝ่า

Latest chapter

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status