“ความจริงง่ายมาก ท่านแค่พาคนไปโจมตีก็พอ”จางหมาจื่อยิ้มน้อย ๆ “ในตอนที่พวกท่านเริ่มโจมตี ข้ากับแม่ทัพหลัวจะแอบหนี อย่างนี้ฉินอวิ๋นฟานจะนึกว่าพวกเรากลัวหน่วยลึกลับของเขาแล้วจริง ๆ จึงตั้งใจจะหนีเอาตัวรอด”“ดังนั้นพอถึงเวลาฉินอวิ๋นฟานต้องไล่ตามมาแน่ แค่เขากล้าตามมา การป้องกันของพวกเขาก็จะยุ่งเหยิง โอกาสสังหารของพวกท่านมิมากขึ้นหรือ?”“ส่วนพวกเราก็ล่อฉินอวิ๋นฟานไปที่ทางแยกได้พอดี ยอดฝีมือตระกูลฮั่วจะฉวยโอกาสที่พวกมันไม่ทันระวังโจมตีกะทันหัน ถึงฉินอวิ๋นฟานจะดวงแข็งแค่ไหนก็ต้องตาย!”“ดี!”เพื่อให้แผนการของหลัวเทียนเป้าสำเร็จโดยเร็ว รองเจ้าสำนักหม่าจึงได้แต่พยักหน้ารับปาก อย่างไรเสีย ตระกูลหลัวก็เป็นที่พึ่งพิงของพวกเขา และฉินอวิ๋นฟานก็จัดเป็นแคว้นศัตรู เรื่องนี้มีความสำคัญใหญ่หลวง!“พี่น้องทั้งหลาย ความจริงพวกมันใกล้จะสิ้นลายแล้ว พวกเราลุย!”“ลุย ฆ่ามัน!!!!”หลังจากรองเจ้าสำนักหม่าวิ่งออกไปคนแรก คนอื่น ๆ สบตากัน ความฮึกเหิมเด็ดขาดบังเกิด วิ่งกรูตามออกไปทั้งหมดเมื่อเห็นภาพนี้ ฉินอวิ๋นฟานสั่งการออกไปทันที “ยิงพวกมัน ยิงให้หนัก จัดการไอ้บัดซบพวกนี้ให้สิ้นซาก อย่าเหลือรอดไม้แต่คนเดียว!
“บัดซบ! รุมมันเลย!”ถูกเซี่ยงเส้าเหยียนหยามหน้า รองเจ้าสำนักหม่าอายจนโกรธ กอปรกับพลังที่เซี่ยงเส้าเหยียนแสดงออกมาในตอนส่งหมัดเมื่อครู่ เขาไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย นำคนที่อยู่ข้างหลังสามคนรุมโจมตีเซี่ยงเส้าเหยียนทันทีเซี่ยงเส้าเหยียนสงบดังสุนัขเฒ่า[1] นิ่งไม่กริ่งเกรง ต่อสู้กับยอดฝีมือเขตปรมาจารย์สี่คนด้วยตัวคนเดียวกลับไม่ตกเป็นรองแม้แต่น้อย อีกฝ่ายเปิดโหลดโจมตีคลั่งแล้วพลังของเอเคสี่สิบแปดยังคงน่ากลัวดังเดิม ยิงจนเหล่ายอดฝีมือในยุทธภพหนังเปิดเนื้อเละ ชั่วครู่เดียวก็คว่ำคนอีกเป็นโขยง โหยหวนดังระงม“ฉิบหาย! แม่งเอ๊ย! ไอ้บัดซบหลัวเทียนเป้าฉวยโอกาสหนีไปแล้ว?!”เห็นเงาร่างของหลัวเทียนเป้าและจางหมาจื่อหายวับไป ฉินอวิ๋นฟานโมโหโกรธาพลังดุเดือดของเอเคสี่สิบแปดสะกดยอดฝีมือในยุทธภพเหล่านี้ได้โดยสมบูรณ์ ทำให้ฉินอวิ๋นฟานมั่นใจมากขึ้น ไม่นึกว่าในเวลาสำคัญเช่นนี้ พวกหลัวเทียนเป้ากลับฉวยโอกาสหนี?ที่ขึ้นเขาก็เพราะปราบโจร เพื่อทำลายแผนชั่วของหลัวเทียนเป้า ผลกลับดีเลย ดันให้ตัวบัดซบสองตัวซึ่งเป็นตัวการหลักหนีไปในช่วงสำคัญได้? นี่ยังจะทนได้ยังไงอีก! จะให้ตัวบัดซบสองตัวนี้หนีไปง่าย ๆ ไม่ได้เด็ด
“แม่จ๋า นี่มันเป็นอาวุธลับอะไรเนี่ย? น่ากลัวเกินไปแล้ว นี่มันนานแค่ไหนกันเชียว คนขอเราก็ตายไปสี่สิบคนแล้ว?!”“พวกเรายอดฝีมือเขตปรมาจารย์กลับตายอนาถไปห้าคน? ช่างน่ากลัวนัก ข้าว่าข้าเอาตัวรอดก่อนดีกว่า เอาชีวิตไปแลกกับเงินแค่นี้ ไม่คุ้มเอาซะเลย”“ข้าก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน การโจมตีสองชุดทำให้พวกเขาเพลี่ยงพล้ำหนักนัก นอกจากนี้ ขนาดจะเข้าใกล้ยังเข้าใกล้ไม่ได้เลย ขนาดแม่ทัพหลัวก็ยังเผ่น ข้าว่าแล้วไปเถอะ ข้าไปก่อนละ!”“สหาย พวกเจ้ารักษาตัวนะ ข้าไปก่อนแล้ว!”......เหล่ายอดฝีมือในยุทธภพตาแหลมเพียงไร เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ถูกต้องก็เลือกถอยทันที กลัวว่าช้าไปอีกนิดชีวิตจะหาไม่ ชั่วประเดี๋ยวเดียวยอดฝีมือในยุทธภพหายไปหมด เหลือเพียงรองเจ้าสำนักหม่าสี่คนเท่านั้น“อาจารย์หม่า ทำยังไงดี? ไม่อย่างนั้นเราก็ถอยกันเถอะ!”“นั่นสิอาจารย์หม่า ฝีมือของยอดฝีมือตระกูลเซี่ยงคนนี้แข็งแกร่งนัก ต่อให้เราสี่คนร่วมมือกันก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ขืนลากยาวต่อไปจะไม่เป็นผมดีกับเรานะ!””ก็ขณะที่รองเจ้าสำนักหม่ากำลังลังเลตัดสินใจไม่ได้ ยอดฝีมือเขตปรมาจารย์อีกสองคนรีบโน้มน้าว และถือเป็นการทอดบันไดให้เขาลงด้วย“ถ้า
เห็นฉินอวิ๋นฟานโอหังเช่นนี้ หลัวเทียนเป้าโกรธขบฟันจนฟันแทบจะแหลก เขาหนีไปพลางก็พูดด้วยหน้าตาดุร้ายไปพลาง “ฉินอวิ๋นฟาน เจ้ากำแหงไปเถอะ อีกเดี๋ยวไม่เอาเจ้าให้ตาย ข้าจะใช้แซ่ตามเจ้า!” “ฉินอวิ๋นฟาน คือคนของตระกูลวิธียุทธ์อันดับหนึ่งของต้าเยียน ท่านลุงหลัวยิ่งเป็นแม่ทัพใหญ่พิทักษ์ชาติแห่งราชวงศ์ต้าเยียน เสาหลังของต้าเยียน เจ้ากลัวฆ่าคุณชายสี่ของตระกูลหลัวหรือ? ข้าขอเตือนให้เจ้าคิดให้ดีนะ อย่าได้บีบจนถึงทางตัน!”เพื่อยั่วยุฉินอวิ๋นฟาน เพื่อลดความสงสัยของฉินอวิ๋นฟาน จางหมาจื่อทำตัวอ่อนด้อยต่อ เติมเชื้อเพลิงไม่หยุด“ฉินอวิ๋นฟาน เจ้าอย่าทำได้เกินไปนัก ถ้าไม่ใช่เพราะอาวุธลับอะไรพวกนั้นของเจ้ามีพลังทำลายล้างมากเกินไป ข้าจะแพ้เจ้าหรือ?!”หลัวเทียนเป้าหนีพลางตะคอก “ถ้าวันนี้เจ้ากล้าแตะต้องข้าแม้แต่นิดเดียว พ่อของข้าต้องพาพันนักรับหมื่นอาชามาเยียบราชวงศ์ต้าเฉียนของเจ้าให้ราบแน่ ข้าขอเตือน รีบกลับใจเสียเถอะ อย่าตามอีกเลย”“เสี่ยวฟาน ดูท่าหลัวเทียนเป้าจะกลัวจริง ๆ นะ”เห็นจางหมาจื่อและหลัวเทียนเป้าตะลีตะลานเช่นนี้ อู่จ้านปลดการเฝ้าระวังโดยสิ้นเชิงแล้ว ความกังวลเมื่อก่อนหน้านี้หายไปสิ้น ไล่กวดตา
“อื่ม!”เดิมทีฉินอวิ๋นฟานคือสุดยอดทหารหน่วยรบพิเศษในยุคปัจจุบัน กับการต่อสู้ในป่า คำว่า ‘ระวัง’ สลักอยู่ในกระดูกของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ที่มียอดฝีมือเช่นนี้ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ทางแยก หน้าผาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคน“ฉินอวิ๋นฟาน เจ้าบัดซบ มาสิ มาฆ่าข้าสิ!”ในจุดไม่ไกล หลัวเทียนเป้าและจางหมาจื่อหยุดฝีเท้าลงแล้ว ตอนนี้จู่ ๆ หลัวเทียนเป้าก็ท้าทายฉินอวิ๋นฟานยกใหญ่ ลางสังหรณ์ร้ายทวีความรุนแรง!ตอนนี้เอง อู่จ้านก็รู้สึกถึงความผิดแผกแล้วเหมือนกัน เขาขมวดคิ้วมุ่นพูด “เสี่ยวฟาน ที่นี่คงไม่มีกับดักหรอกนะ?”ทันทีที่อู่จ้านพูดจบ พลังขย่มขวัญถึงจิตวิญญาณของทั้งสองก็ปะทุขึ้นมา ไม่ให้ใครรู้ตัวทั้งนั้น บุคคลหนึ่งโจมตีไปทางหน่วยเอเคสี่สิบแปดตามด้วยโจมตีฉินอวิ๋นฟานมาโดยตรง“แย่แล้ว! มีการดักซุ่มจริง ๆ ด้วย!”เมื่อเห็นสถานการณ์ผิดปกติ อู่จ้านตะโกนขึ้น เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีขวางอยู่ตรงหน้าฉินอวิ๋นฟาน ฉินอวิ๋นฟานในเวลานี้สมองดังวิ้ง ไม่มีโอกาสตอนสนองสักนิด!ปัง!!!“หึ! ไม่ประมาณตน!”ชายชุดดำผู้นั้นแค่นเสียงออกจากจมูก หนึ่งหมัดซัดอู่จ้านกระเด็นกระแทกต้นไม้หลายต้นในจุดที่ไม่ไกลหัก ความเ
“ท่านพี่...”ในตอนที่วิญญาณใกล้จะออกจากร่าง ในดวงตาคือความเคียดแค้นและสิ้นหวัง หากทุกอย่างมันสายไปแล้ว“พวกเจ้ารนหาที่ตายแล้ว!”เริ่นอู่ไม่ได้ตระหนักถึงพลังขย่มขวัญของเอเคสี่สิบแปด เมื่อออกแรงใต้เท้า เขาพุ่งตัวไปทางเหล่าชายหนุ่มที่ถือเอเคสี่สิบแปดอยู่ในมือชั่วพริบตากลับไม่รู้ ชายหนุ่มพวกนี้ก็ฆ่าขึ้นหัวแล้วเหมือนกัน พวกเขาร่วมแรงร่วมใจกัน ยกเอเคสี่สิบแปดยิงไปทางเริ่นอู่ เริ่นอู่นึกว่าตัวเองสามารถหลบอาวุธลับเหล่านี้ได้ แต่สุดท้ายก็ประเมินอานุภาพของเอเคสี่สิบแปดต่ำเกินไปในระยะใกล้ อานุภาพของเอเคสี่สิบแปดยิ่งน่ากลัวจนชวนขนหัวลุก ไวกว่าชนิดที่ไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย ทั้งในสถานการณ์ที่กระหน่ำยิงมา คิดจะหลบหลีกคือเป็นไปไม่ได้ปัง ๆ ๆ...ลูกกระสุนยิ่งไปทางเริ่นอู่ต่อ แค่หนึ่งวินาที แม้เขาจะใช้พลังของตัวเองหลบให้วุ่น แต่ร่างกายของเขาก็ยังถูกเจาะทะลุ นาทีนี้ เริ่นอู่เบิกตาโพลง ไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองก็ถูกอาวุธลับด้วยเหมือนกันพู่ ๆ ๆ...“จะเป็น จะเป็นไปได้ยังไง?!”จ้องรูที่มีเลือดพุ่งออกมาตรงทรวงอก ในดวงตาของเริ่นอู่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ แต่ทั้งหมดมันสายไปแล้ว ชีวิตที่กำลังหายไปทีละน้อย
“เทียนเวิ่น เจ้าให้องครักษ์อู่กินยาให้อาการนิ่งก่อน พวกเราจะพาพี่น้องไปจัดการหลัวเทียนเป้าก่อนแล้วค่อยว่ากัน ไม่ว่ายังไงก็ต้องแก้แค้นให้รัชทายาทให้ได้!”เซี่ยงเส้าเหยียนพูดทั้งสีหน้าขมึงทึง“ได้!”......ถูกเริ่นอู่ซัดบาดเจ็บสาหัส ฉินอวิ๋นฟานจวนจะหมดสติ ปล่อยให้ร่างทิ้งตัวตกลงหน้าผาด้วยความเร็ว ตามความเร็วที่มากขึ้น ไอเย็นจากก้นเหวกระตุ้นร่างกายของเขา ทำให้เขาเริ่มได้สติจากการกระตุ้นอย่างรุนแรงนี้“เฮ้ย! นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?! ”ฉินอวิ๋นฟานที่ได้สติขึ้นมาตกตะลึงพรึงเพริด หน้าตาซีดเซียว ปราศจากสีเลือด เจ็บทั่วสรรพางค์กาย ทั้งกำลังดิ่งพสุธาด้วยความเร็วสูง ความตายอยู่อีกชั่วพริบตาเดียว!“ไม่ได้การ แผนการยิ่งใหญ่ฉันเพิ่งจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เพิ่งจะสร้างอาณาจักรธุรกิจและกองทัพล้ำสมัยของตัวเอง ยังไม่ทันได้เดินแผนเลย จะตายอย่างนี้ได้ยังไง?!”ฉินอวิ๋นฟานพึมพำแล้วพูดขึ้นมาอย่างแค้นใจที่สุด “ยังมีสาวสวยเช้งตั้งเยอะแยะ ยังไม่ได้จับมือเลยด้วยซ้ำ จะตายได้ยังไง?! เพิ่งจะได้เปิดประสบการณ์ออกกำลังกายครั้งละสามคนไปทีเดียวเอง ยังไม่หนำใจเลย แล้วฉันจะตายได้ยังไง?!” เมื่อมองสภาพแวดล้
“อ๊า ๆ ๆ ๆ...”ตามเสียงที่ดังและใกล้เข้ามาทุกที นางยิ่งตกใจลนลาน รีบว่ายน้ำขึ้นฝั่ง และในตอนนี้เอง ชายผู้หนึ่งก็ตกลงมาจากฟากฟ้า ดิ่งลงมาตรงศีรษะของนางแบบเหมาะเหม็ง“โอ๊ย! ทำไมถึงมีผู้ชายตัวเหม็นตกลงมาจากฟ้าได้นะ?”เมื่อเห็นดังนั้น โฉมสะคราญหน้าถอดสี ตกใจสุดขีด ไม่เปิดโอกาสให้นางหลบหลีกใด ๆ บังเกิดปัญญาในยามคับขัน นางรีบดำน้ำลงไปทันที หนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างเปลือยเปล่าเผยในที่สาธารณะ สองเพื่อเอาตัวรอด มิเช่นนั้นได้ถูกทับตายแน่!ตูม...แม้ฉินอวิ๋นฟานจะทำชุดบินวิงสูทฉบับเรียบง่าย แต่ก็ยังตกลงมาเร็วอยู่ดี จังหวะที่เขารู้สึกถึงไออุ่นของก้นเหวส่งมาถึง พลันรู้ว่าตัวเองรอดแล้ว หากความทุกข์ทางเนื้อหนังมิอาจหลีกเลี่ยงให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ใต้บึงกลับมีเรื่องน่ายินดีแบบเหนือคาด?“หือ? อะไรกัน นี่ฉันไม่ตายเหรอ?!”จังหวะที่ฉินอวิ๋นฟานตกลงไปในน้ำ ที่ทำให้เขาประหลาดใจ คือเหมือนว่าเขาจะกระแทกกับอะไรบางอย่างข้างใต้ ดังนั้นจึงไม่ได้จมดิ่งลงไปต่อ เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉินอวิ๋นฟานพลันขมิบดอกเบญจมาศ ลางร้ายผุดขึ้นมาในใจ “ใต้บึง... คงไม่... ไม่มีจระเข้หรอกนะ?”คิดเช่นนี้แล้ว ฉินอวิ๋นฟานสะดุ
“เอ่อ... แต่เพียงแต่ข้าที่กังวลเช่นนี้ เกรงว่าทุกคนก็คงมีความกังวลนี้เหมือนกันกระมัง? อย่างไรเสีย ของอย่างบัญชีก็สามารถปลอมแปลงได้”เห็นฉินอวิ๋นฟานพูดตามตรง ฉินอวิ๋นฮุยจึงไม่อ้ำอึ้งอีก การยกเรื่องไม่ดีมาพูดแต่แรกมิใช่เรื่องน่าอายอันใด เพราะมันเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของพวกเขา เขาไม่อยากถูกฉินอวิ๋นฟานหลอก!“ฮ่า ๆ ๆ...”ฉินอวิ๋นฟานลั่นเสียงหัวเราะทันที “พี่รองทำงานรอบคอบดังคาด น้องเจ็ดเลื่อมใส แต่ท่านคิดมากไปแล้ว ถ้าต้องดูแลเมืองการค้าสามเมือง คนของข้าไม่มีทางพอ ถ้าพวกท่านไม่ส่งคนมาช่วยงาน ข้าคงทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ”“อ้อ? น้องเจ็ดพูดจริงรึ?!”เมื่อนั้นหัวใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ของฉินอวิ๋นฮุยจึงสงบลง หากเขาสามารถให้คนเข้าร่วมอยู่ในเมืองการค้าทั้งสามเมืองได้ เช่นนั้นเขาจะวางใจได้แล้ว เพราะจะรับประกันผลประโยชน์ของเขาได้ทั้งหมด!“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านวางใจได้เลย ระหว่างพวกเราพี่น้องแม้เป็นคู่ต่อสู้กัน แต่ต่อหน้าผลประโยชน์ของบ้านเมือง พวกเราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง มีเพียงเช่นนี้ต้าเฉียนเราจึงจะเฟื่องฟูได้นิรันดร์”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นในเรื่องการค้า เครือเหิงไท่จะรับผิดชอบกิจการหลักท
ฉินอวิ๋นฟานกล่าวอย่างจริงจัง “ต่อให้ใครกล้ามีความคิดส่วนตัวก็เปล่าประโยชน์ เพราะพวกเราต้องร่วมกันทำงาน หากไม่อยากเสียเมืองไป ไม่อยากตาย ทหารทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือ เป็นหนึ่งเดียวสู้กับภายนอก”“ดี ดีมาก ความคิดนี้ไม่เลว!”เมื่อฉินอวิ๋นฟานกล่าวออกมา ไท่ซั่งหวงรู้อยู่แล้วว่าฉินอวิ๋นฟานต้องทุ่มเทเพื่อแผนการนี้ มิเช่นนั้นจะไม่มีทางคิดแผนการสมบูรณ์แบบเช่นนี้ออกมาได้“อื่ม ไม่เลว!”ฉินอวิ๋นฮุยไม่ได้ดีใจกับแผนการสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของฉินอวิ๋นฟาน เพราะแม้เช่นนี้จะเป็นเรื่องดีต่อบ้านเมืองจริง หากไร้ประโยชน์อันใดต่อพวกเขา ในทางกลับกัน พวกเขายังจะกลายเป็นคนที่ถูกฉินอวิ๋นฟานใช้งานอีกด้วยพวกเขาส่งทหารรักษาเมือง ฉินอวิ๋นฟานกอบโกยกำไรอย่างบ้าคลั่ง คิดแล้วฉินอวิ๋นฮุยก็อยากตบหน้าตัวเองสักฉาด ลักไก่ไม่สำเร็จเสียข้าวอีกหนึ่งกำมือโดยแท้!ทว่าไท่ซั่งหวงแสดงท่าทีชัดเจนแล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?ฉินอวิ๋นฟานรู้ความคิดของพวกเขาดี อีกอย่าง ถ้าครองผลงานเองในเวลานี้จะเป็นการเลือกที่ไม่ฉลาดเอามาก ๆ ฉินอวิ๋นฟานไม่ทำเรื่องเบาปัญญาเช่นนี้หรอก!โบราณกล่าว ตบหน้าฉาดหนึ่งต้องให้พุทราหวานหนึ่งลูก อีกฝ่ายส่งทหารม
ขณะนี้ ทั่วทั้งท้องพระโรงเงียบกริบ ถ้อยคำชวนให้คนมีจิตใจฮึกเหิมของฉินอวิ๋นฟานวนเวียนอยู่ในหัวของ แม้ไท่ซั่งหวงเองก็ยังตกตะลึงพรึงเพริดกับคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟาน!รัชทายาทวัยสิบแปดสิบเก้าคนหนึ่ง ช่างเป็นชายชาตินักรบเลือดร้อนไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน หากคนเช่นนี้เป็นจักรพรรดิ ไยต้องกลัวอนาคตต้าเฉียนจะไม่ศิวิไลซ์?“เกี่ยวกับการสร้างเมืองการค้าสี่แห่งในสี่ทิศของต้าเฉียน ทุกคนคัดค้านอย่างหนัก ข้าเข้าใจความรู้สึกของทุกคนมาก แต่ในเมื่อจะทำเรื่องนี้ ข้าก็ต้องยอมรับเสียงและความเห็นที่แตกต่าง ทุกคนว่ามาเถอะ”ฉินอวิ๋นฟานไม่รีบร้อน มีแต่ต้องทำให้ทำคนยอมรับเรื่องนี้จากใจจริง เขาจึงจะยึดสิทธิ์ความเป็นผู้นำได้ มิเช่นนั้นต่อให้ใช้กำลังผลักดันเรื่องนี้ คนเหล่านี้ต้องเล่นตุกติกลับหลังเขาแน่ เช่นนี้มีแต่จะทำให้รำคาญดังนั้นฉินอวิ๋นฟานเตรียมตัวกับการคัดค้านและความคิดของทุกคนแต่แรกแล้ว ต้องการแค่โอกาสประจวบเหมาะหนึ่ง เพราะคนที่ป่วยเป็นโรคอิจฉาตาร้อนมีมากเหลือเกิน มีแต่ต้องคิดหาทางหยดยาดวงตาให้พวกเขาสักหน่อย จึงจะขจัดต้นตอของปัญหาได้ “นี่...”ผู้คนมากมายแน่นขนัดพูดไม่ออกสักคำ เพราะต่างมีความกังวลอยู่ในใจ ฉ
นาทีนี้ถังเจิ้นไห่ถูกโจมตีทำร้ายทางจิตใจอย่างหนัก ฉินอวิ๋นฟานปากคอเราะรายน่ากลัวจริง ๆ การโจมตีของเขารวดเร็วนัก เขาต้านทานไม่ไหวเลยเขาจนปัญญากับการโจมตีของฉินอวิ๋นฟานแล้ว ได้แต่ใช้สถานะข่มขู่ฉินอวิ๋นฟาน หวังว่าฉินอวิ๋นฟานจะหยุดโจมตีเขาน่าเสียดาย แต่ไหนมาฉินอวิ๋นฟานก็ไม่ใช่คนใจบุญสุนทานอะไร และไม่เคยเป็นพวกยอมเสียเปรียบ หากมีคนโจมตีเขา ฉินอวิ๋นฟานจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!ต้องถล่มอีกฝ่ายจนแพ้ราบคาบ นี่สิจึงจะเป็นเป้าหมายความเป็นคนของเขา และถังเจิ้นไห่ก็แตะเขตต้องห้ามของเขาพอดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานย่อมไม่ไว้หน้าเขา!ครั้นพวกฉินอวิ๋นฮุยเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ก็พากันมอบสายตาเห็นใจให้ถังเจิ้นไห่ พวกเขาเคยได้รับการสั่งสอนด้วยหมัดหนักจากฉินอวิ๋นฟานมานานแล้ว ในสถานการณ์ที่ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย หากหาเรื่องฉินอวิ๋นฟานก็เท่ากับรนหาที่ตาย!ไท่ซั่งหวงและจางเต้าหลินฉายรอยยิ้มพึงพอใจ แม้ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานจะหยาบคายไม่รื่นหูไปบ้าง แต่สะใจยิ่งนัก! นักวางแผนร้ายเฒ่าเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง ถูกฉินอวิ๋นฟานฟาดกลับจนต้องสงสัยในชีวิต เด็ดสะระตี่แท้!“เกินไป? ตอนนี้ท่านรู้ว่าเกินไป? ตอนที่ท่านสาดน้ำคลำใส่
“ท่าน...”ถูกฉินอวิ๋นฟานด่าว่าหน้าด้าน ถังเจิ้นไห่โกรธจนหน้าเขียว แทบอยากสับฉินอวิ๋นฟานเป็นหมื่น ๆ ชิ้น เขาจำต้องยอมรับว่าฉินอวิ๋นฟานร้ายจริง ๆ! ในสภาวการณ์เช่นนี้ เขากลับไม่กลัวแม้แต่น้อย?“ท่านเทิ่นอะไร ท่านมันหน้าด้านเหม็นโฉ่ อายุอานามห้าสิบกว่าแล้ว มีแต่ความชั่วร้ายอยู่เต็มอก น่ารังเกียจโดยแท้!”ฉินอวิ๋นฟานไม่ไว้หน้าถังเจิ้นไห่สักนิด เอ่ยต่อ “เมื่อวานข้าเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอู่โจว ท่านรู้ได้ยังไงว่าข้าไม่คิดกระจายการเพาะปลูกทั่วแคว้น? ท่านให้โอกาสข้าพูดแล้วหรือยัง?!”“อีกอย่าง ปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ข้ามอบให้ทุกแคว้นมีจำกัด ใครกล้าไม่เคารพต้าเฉียน? ข้าคือบิดรมารดาปากท้องของพวกเขา ใครกล้าหือ?!”“แม้นมีแคว้นใดไม่เป็นเด็กดี ข้าจะระงับการส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้พวกเขาทันที ข้าจะดูสิว่าไอ้ไม่ดูตาม้าตาเรือหน้าไหนกล้าท้าทายขอบเขตต่ำสุดของข้า?!”ครั้นกล่าวออกมา ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่มีผู้ใดกล้าพูด หากเทียบกับการเคลือบแคลงสงสัยเมื่อครู่ การพูดเช่นนี้ของฉินอวิ๋นฟานยิ่งสามารถทำให้เขายืนอย่างมั่นคงมากขึ้นฉินอวิ๋นฟานคลี่คลายประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการได้แล้ว ถังเจิ้นไห่หน้าตึงจนน
“ได้!”ถังเจิ้นไห่พูดหน้าขรึม “ประการที่สองของความผิดร้ายแรงสามประการ รัชทายาทร่วมกันสร้างถนนกับแคว้นต่าง ๆ เรื่องนี้อึกทึกครึกโครมไปทั่ว ทันทีที่สร้างถนนที่กว้างยิ่งขึ้น การคมนาคมจะสะดวก คืออยากให้แคว้นรอบข้างรุกรานต้าเฉียนเราสะดวกยิ่งขึ้นหรือ? การกระทำเช่นนี้มิใช่แผนการล่มชาติแล้วมันคืออะไร?!”ซี้ด...เมื่อทุกคนได้ฟังต่างสูดลมเย็นเข้าปาก เกิดความสงสัยอย่างหนักกับจุดประสงค์ของฉินอวิ๋นฟาน ด้านหนึ่งมอบธัญพืช ด้านหนึ่งสร้างถนนกับทุกแคว้น จุดประสงค์จะชัดเจนเกินไปแล้วกระมัง?“ต่อ ประการที่สามเล่า!”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มเรียบ เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะไปไกลขนาดไหน ช่างเป็นคนที่มีขอบเขตความรู้ความเข้าใจและวิสัยทัศน์โดยแท้ การกำหนดอนาคตของบ้านเมือง เป็นเช่นนี้ดังคาดหากให้พวกเฮ่อชินอ๋องเรืองอำนาจจริง ต้าเฉียนมิต้องจบเห่หรือ? ให้สวะพวกนี้ดูแลบ้านเมือง บ้านเมืองนั้นยังจะมีความหวังอะไร?พวกเขานอกจากจะมีความชั่วร้ายอยู่เต็มอก มีความคิดดำมืดอยู่เต็มสมอง ยังจะทำอันใดได้อีก?“หึ!”ถังเจิ้นไห่แค่นเสียงแล้วจึงเอ่ย “ประการที่สาม รัชทายาทร่วมมือกับแคว้นต่าง ๆ กีดกันต้าเยียน สังหารบุตรชายคนที่สี่ข
“อ้อ? ความผิดร้ายแรงสามประการของฟานเอ๋อร์? ไหนลองว่ามาดูสิ!”ไท่ซั่งหวงตั้งสมาธิ นึกสนใจขึ้นมาทันที อย่างลับ ๆ เขาให้ความสนใจกับพฤติกรรมของฟานเอ๋อร์มาก ไม่เคยได้ยินความผิดร้ายแรงสามประการอันใด เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะพูดอะไรความผิดร้ายแรงสามประการเสมือนระเบิดลูกใหญ่ ทำให้สีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกขึ้นมา ยามนี้สายตาของทุกคนในที่นั้นต่างรวมศูนย์อยู่ที่ตัวของถังเจิ้นไห่“ประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการ ได้ยินว่ารัชทายาททำเมล็ดพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ขึ้นมา สามารถให้ผลผลิตสูงมาก เดิมนี่คือโอกาสดีที่สุดที่ต้าเฉียนเราจะแจ้งเกิด คิดไม่ถึงว่ารัชทายาทกลับมอบเมล็ดพันธุ์ผลผลิตสูงให้กับแคว้นต่าง ๆ รอบข้าง ช่วยให้พวกเขามั่งคั่งมากขึ้น”ถังเจิ้นไห่กล่าวเสียงหนัก “ขอถามทุกท่านในที่นี้ พฤติกรรมเช่นนี้ของรัชทายาทคือกำลังช่วยเหลือศัตรูน่ากลัวของเราหรือไม่? พฤติกรรมเช่นนี้ของเขา คือการขายชาติหรือไม่?!”ตูม...ครั้นถังเจิ้นไห่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา บรรดาขุนนางต่างอึกทึกครึกโครม คนทั้งโลกต่างรู้เรื่องที่เมืองจัวเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์แทบทุกคน และเรื่องที่ฉินอวิ๋นฟานลงนามสัญญากับแคว้นต่าง ๆ ก็รู
“อื่ม! ดี!”ไท่ซั่งหวงเอ่ยเสียงหนัก “เช่นนั้นข้าขอประกาศอย่างเป็นทางการ แต่งตั้งหวังอันสือเป็นหัวหน้าสำนักศึกษาหลวง เจี่ยงฝานฝานเป็นรองหัวหน้า การรับตำแหน่งนี้มีผลอย่างเป็นทางการ หัวหน้าขันทีเฉา ร่างราชโองการเดี๋ยวนี้ ประกาศต่อใต้หล้า!”เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง ใจที่กระวนกระวายของฉินอวิ๋นฟานก็สงบ เขามองจางเต้าหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง!ทว่าคนอื่น ๆ กลับมีความรู้สึกที่แปลกออกไป หลังจากหวังอันสือได้ขึ้นตำแหน่ง ทำให้พวกเขาตระหนักว่าสถานการณ์ในราชสำนักกำลังหลุดจากการควบคุมอย่างช้า ๆ ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะครองราชสำนัก“เอาละ เรื่องสำนักศึกษาหลวงก็สิ้นสุดแล้ว แต่จะละเลยผลงานการไปเมืองอู่โจวของฟานเอ๋อร์ครั้งนี้ไม่ได้”ไท่ซั่งหวงกล่าวเสียงเข้ม “ฟานเอ๋อร์ไม่เพียงแต่ทำคำสัญญาเมื่อครึ่งปีก่อนสำเร็จ ยิ่งทำให้เศรษฐกิจต้าเฉียนเราพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ท้องพระคลังเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ พสกนิกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างช้า ๆ ทุกคนต่างเห็นความยอดเยี่ยมของฟานเอ๋อร์”“ฟานเอ๋อร์ ว่ามาเถอะ เจ้าอยากได้อะไรเป็นรางวัล? ขอเพียงสมเหตุสมผล ข้าจะให้เจ้าดังปรารถนา!”ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกดีใจมากที่
“...”‘ไม่ว่าจะเป็นใคร คนผู้นั้นก็รู้อยู่แก่ใจดี’ ประโยคเดียวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ถังเจิ้นไห่สยบ แม่งเอ๊ย เขาก็ต้องรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว หากเขามีความจำเป็นพูดออกมาไม่ได้!การเล่นเกมเลี่ยงบาลีของฉินอวิ๋นฟานทำให้แนวป้องกันของถังเจิ้นไห่พังทลายลงโดยสิ้นเชิง เหล่าขุนนางต่างกัดฟันกรอด กลับทำอะไรไม่ได้ ฉินอวิ๋นฟานเฉกเช่นปลาหนีชิวลื่นไหลตัวหนึ่ง ทำอะไรเขาไม่ได้เลย!จางเต้าหลินที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงกับการกระทำนี้ของฉินอวิ๋นฟาน เขาเคยเห็นคนหน้าด้าน กลับไม่เคยเห็นผู้ใดหน้าหนาไร้ยางอายเช่นฉินอวิ๋นฟานมาก่อน หน้าไม่อายที่สุด!คนคนหนึ่งปั่นหัวเหล่าขุนนางใหญ่เป็นว่าเล่น โมโหโทโสจนร่ำไห้หาพ่อร้องหาแม่ กลับจนปัญญา ดูสีหน้าเขียวปัดของถังเจิ้นไห่ จางเต้าหลินกลั้นหัวเราะอย่างหนัก กลั้นจนภายในจะบอบช้ำแล้ว“เอาละ ๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย พอแค่นี้เถอะ!”ไท่ซั่งหวงเห็นว่าพอประมาณแล้ว จึงตัดสินเรื่องนี้ในที่สุด ได้แต่บอกว่าฟานเอ๋อร์ใช้ไหวพริบและผลลัพธ์ก็คือว่าเป็นที่น่าพอใจ“จางไท่เว่ย ในเมื่อมีสามตัวเลือก และทุกคนก็แสดงจุดยืนของตัวเองแล้ว ท่านมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร?”ไท่ซั่งหวงไม่ได้ยอมรับคว