“อย่างไร? เจ้าเป็นคนตั้งกติกา เจ้าว่าไงก็คืออย่างนั้น?”ยามนี้องค์ชายใหญ่ก้าวออกมาเสริมอีกดอก นึกถึงเมื่อครู่ที่ถูกเจ้ารองหลอกจนกระอักเลือด ในใจคับแค้นเหลือประมาณ บวกกับเห็นท่าทีเจ้าเจ็ดโต้แย้งเจ้ารอง อย่าให้พูดเลยว่าสะใจแค่ไหนเห็นท่าทางเจ้ารองพูดไม่ออก มันช่างปลอดโปร่งโล่งสบายแท้ ๆ“เจ้า...”ถูกฉินอวิ๋นฟานโต้แย้ง เปิดโปงอุบายของเขาต่อหน้าทุกคน ฉินอวิ๋นฮุยโกรธจนหน้าเขียวปัด ทีแรกคิดจะข่มฉินอวิ๋นฟาน ไม่นึกว่าไม่เพียงแต่ไม่ได้ประโยชน์ ซ้ำยังถูกทำให้อับอายขายหน้าอีก“ฝ่าบาท หม่อมฉันอยากทูลถาม การประลองด้านบู๊มีกติกาไม่อนุญาตให้ใช้อาวุธลับหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ฉินอวิ๋นฟานมองทางเหมียวชิงอีและถามเหมียวชิงอีย่อมเข้าใจความหมายของฉินอวิ๋นฟาน โบราณว่าไว้ ใช้ความชั่วจัดการกับความชั่วจึงจะได้ผลดีที่สุดพูดเหตุผลกับอีกฝ่าย อีกฝ่ายยังจะเล่นหน้าด้วย พูดตัวบทกฎหมายกับอีกฝ่าย อีกฝ่ายยังจะอ้างสถานการณ์บ้านเมือง กลับกันจะพูดอย่างไรล้วนเป็นอีกฝ่ายมีเหตุผล ดังนั้นใช้วิธีการของเขาโต้กลับจึงจะได้ผลดีที่สุด“การประลองมิได้จำกัด และไม่ได้บอกว่าห้ามใช้อาวุธลับ เห็นชัดว่าจ้าวหมิงหมิงตายเพราะพูดมาก ตายเพร
นาทีที่หยางจ่านล้มลง ทุกคนในที่นั้นต่างตะลึงงัน โดยเฉพาะองค์ชายรอง ลูกตาแทบจะถลนออกมาแล้ว ไม่กล้าเชื่อโดยสิ้นเชิง จ้าวหมิงหมิงและหยางจ่านยอดฝีมือสองคนกลับล้มลงตามกันภายใต้อาวุธลับของฉินอวิ๋นฟาน“รัชทายาท รัชทายาทเก่งจังเลย”ยามนี้มู่หรงจิ่นมือรำเท้าย่ำ หลังจากหลายวันนี้ได้อยู่ร่วมกับฉินอวิ๋นฟาน นางได้รับความสะใจที่ไม่เคยมีมาก่อนจากอีกฝ่ายแม้จะแค้นใจเป็นอย่างมาก ทว่าฉินอวิ๋นฟานในเวลานี้คือวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในใจนาง กอปรกับความพินาศของเหลียงคังจวิ้นได้ทำลายภาพลักษณ์อันสมบูรณ์แบบในใจนางจนสิ้นแล้ว กลับเป็นฉินอวิ๋นฟานในตอนนี้ ปรากฏตัวออกมาด้วยท่วงทำนองสมบูรณ์แบบ เติมเต็มมโนภาพที่หญิงสาวคนหนึ่งจะมีต่อบุรุษหัวใจของนางถูกฉินอวิ๋นฟานครอบครองโดยสิ้นเชิง“ฟานเอ๋อร์ทำได้ดีจริง ๆ”เวลานี้อู่จ้านรื้นน้ำตา เขายืนหยัดมาหลายปีขนาดนั้น ในที่สุดก็ได้เห็นรัชทายาทองอาจห้าวหาญ มีท่วงทำนองของผู้เป็นราชัน!“บ้าเอ๊ย บัดซบ!!!”องค์ชายรองเดือดดาลจนร้องคำรามเดี๋ยวนั้น เดิมนึกว่าคว้าชัยการประลองด้านบู๊ได้แล้วเขาจะสามารถตีเสมอฉินอวิ๋นฟาน คิดไม่ถึงว่าทุกอย่างจะกลายเป็นความฝันฟองสบู่ จบสิ้นทั้งหมดสุดท้า
เวลานี้ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่ที่ตัวฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียว รอนางประกาศผลท้ายที่สุด พร้อมกันนั้นมันยังชี้ชะตาและอนาคตของต้าเฉียนกับแคว้นเหมียวทางชายแดนตะวันตกด้วยเหมียวชิงอีลุกขึ้นยืนเอ่ย “การมาต้าเฉียนในครั้งนี้ ข้าได้รับประโยชน์มากมาย การประลองบุ๋นบู๊วิเศษมาก แสดงท่วงทำนองของแคว้นใหญ่ออกมาให้เห็นจนสิ้น นี่คืองานเลี้ยงใหญ่ของการมองเห็นและได้ยิน...”“ในการประลองครั้งนี้ การแสดงของรัชทายาทโดดเด่นที่สุด ในหนามีบาง ชวนให้คนหวนรสไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมหรือฝีมือ ล้วนเป็นผู้ที่แสดงออกได้ยอดเยี่ยมที่สุด แต่...”พอพูดมาถึงตรงนี้ ทั้งงานเกิดเสียงอื้ออึงขึ้น“เกิดอะไรขึ้น? ฮ่องเต้หญิงตรัสชมเชยก่อน แล้วจู่ ๆ ก็หันเห คงไม่ใช่ว่าพระนางไม่พอพระทัยรัชทายาทกระมัง?”“นี่ นี่ใครจะรู้เล่า หากเป็นเช่นนั้น เช่นนั้นทรงมิต้องเลือกระหว่างองค์ชายใหญ่กับองค์ชายรองหรือ? เพราะในศึกชิงบัลลังก์ครั้งนี้ หลัก ๆ ก็อยู่ที่พวกเขาสามคนนั่นแหละ”“เฮ้อ รัชทายาทไร้ซึ่งอิทธิพล ต่อสู้เพียงลำพัง แม้จะคว้าชัยไปได้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่เข้าสายพระเนตรของฮ่องเต้หญิงอยู่ดี อย่างไรการเกี่ยวดองของสองแคว้น อิทธิพลคือสิ่งสำ
การประกาศรับงานใหญ่แบบกะทันหันของฉินอวิ๋นฟาน ทำเอาคนทั้งงานอึ้งจังงังไปเลยเนื่องจากเกิดความไม่สงบภายในเมื่อสามสิบปีก่อน ทำให้เศรษฐกิจต้าเฉียนที่อยู่รั้งท้ายอยู่แล้วต้องสาหัสสากรรจ์กว่าเดิม แม้ยี่สิบปีนี้จะพยายามไล่ตามอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ยังรั้งท้ายอยู่ดี การจะแซงหน้าแคว้นอื่นเดิมก็เป็นภารกิจที่บรรลุไม่ได้อยู่แล้ว“รัชทายาท ท่านแน่ใจหรือว่าไม่ได้กำลังล้อเล่นกับข้าน่ะ?”เหมียวชิงอีในเวลานี้สับสนงงงวยไปหมดแล้ว จ้องฉินอวิ๋นฟานอยู่นาน พบว่าท่าทีของอีกฝ่ายเหมือนไม่ได้กำลังล้อเล่น ในราชสำนัก ทุกคำมั่นล้วนมีผลตามกฎหมาย มิใช่เรื่องล้อเล่นในหนึ่งปี การจะพัฒนาระดับเศรษฐกิจให้อยู่ห้าอันดับต้นของเก้าแคว้นเป็นความยากระดับนรก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสามอันดับต้นต้าเยียน ต้าเซี่ย รวมถึงแคว้นฉู่สามแคว้น เรียกได้ว่าเป็นเสาค้ำยันฟ้าสามต้นยักษ์ของโลกใบนี้ พวกเขาครอบครองผืนดินอุดมสมบูรณ์และพื้นราบส่วนใหญ่ของโลก การคมนาคมเจริญ เศรษฐกิจพัฒนารวดเร็ว มิใช่แคว้นอื่นอยากล้ำหน้าก็จะล้ำหน้าได้ต้าเฉียนมีปริมาณน้ำที่ค่อนข้างอุดม มีเนินเขาเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การเพาะปลูกลำบากมาก เศรษฐกิจพัฒนาช้า เทียบกับเศรษฐกิจเ
“แม้ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวจะไม่ตั้งเงื่อนไขเช่นนี้ หม่อมฉันก็ยังจะใช้มันเป็นปณิธานเหมือนเดิมพ่ะย่ะค่ะ ต้องมุมานะทำให้ชาวต้าเฉียนได้แจ้งเกิด และเป็นชะตาในชีวิตนี้ของหม่อมฉัน ไม่โทษไม่เสียใจพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอวิ๋นฟานถ่ายทอดจิตวิญญาณความฮึกเหิมออกไป สะเทือนใจทุกคนทันที เลือดร้อนพลุ่งพล่าน ถูกพลังแรงกล้าของเขาส่งมาถึง ในใจบังเกิดความเคารพยำเกรง!“ดี ต้องมุมานะทำให้ชาวต้าเฉียนได้แจ้งเกิด ดี ชะตาไม่โทษไม่เสียใจ!”ยามนี้เหมียวชิงอีกยากจะปกปิดความตื่นเต้นในใจ ยังไม่พูดถึงว่าฉินอวิ๋นฟานจะทำได้หรือไม่ แต่แค่จิตใจที่มีต่อบ้านเมืองดวงนี้ ท่าทีที่เห็นไพร่ฟ้าชาวประชาเป็นหน้าที่ของตนก็คู่ควรให้นางเหมียวชิงอีกยกย่องแล้ว“ราชสำนักต้าเฉียนไม่มั่นคง แคว้นเพื่อนบ้านคิดแผนการ หนึ่งปีก่อน ห้าเมืองที่ติดกับเมืองจัวถูกแคว้นเยียนยึดครอง บัดนี้เมืองจัวอยู่ในภาวะขอบขันล่มสลาย อาจถูกแคว้นเยียนกลืนกินได้ทุกเมื่อ”“ดังนั้นเงื่อนไขที่สองก็คือ หวังว่าในหนึ่งปีนี้ รัชทายาทจะสามารถคุ้มครองเมืองจัว รักษาเส้นทางชีวิตระหว่างแคว้นเหมียวกับต้าเฉียนเอาไว้ได้”“อ้อ? มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานขมวดคิ้ว หันไปมององค
“เจ้า เจ้า...”“โมโหชะมัด มันน่าโมโหชะมัด!!!”ถูกฉินอวิ๋นฟานตำหนิต่อหน้าธารกำนัล องค์ชายใหญ่โกรธจนหน้าแดงหูแดง หนวดจิ๋มสั่นระริกเขาเคยต้องรับกับความอัปยศเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร? แม้เสด็จพ่อยังอยู่พลานามัยแข็งแรง ก็ไม่เคยตำหนิเขาด้วยเรื่องนี้มาก่อนความปราชัยเมื่อหนึ่งปีก่อนเท่านั้น กลับถูกฉินอวิ๋นฟานยกมาหยามหน้า ในใจคับแค้นอย่างหาที่เปรียบมิได้“รัชทายาท ท่านเกินไปแล้วนะ!”ตอนนี้เอง ฮั่วเจิ้นหลงที่รักษาท่าทางชราภาพเดินเหินไม่สะดวกตลอดก้าวออกมาอีกครั้งเขาเอ่ยเสียงหนัก “สองแคว้นเปิดศึก เกี่ยวพันถึงส่วนรวม จะปฏิเสธเพราะคำพูดเดียวของรัชทายาทได้หรือ? นี่มิใช่แค่มีเลือดร้อนก็พอ หากเผอเรอนิดเดียว เกรงจะมีภัยล่มแคว้น ขอถามรัชทายาท ท่านจะรับผิดชอบไหวหรือ?”“ในฐานะที่เป็นชายชาติทหารคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่การมุ่งมั่นรักษาดินแดน ยิ่งต้องปกป้องบ้านพิทักษ์เมือง หากใช้อารมณ์ทำงาน ทำให้กองทัพเราถูกตีพ่าย นี่มิต้องเสียดินแดนมากขึ้นกว่าเดิมหรือ?”“อย่างไรท่านก็ยังเด็กเกินไป การมองเรื่องราวจะมองแค่ผิวเผินไม่ได้ ต้องยึดส่วนรวมเป็นหลัก!”ฮั่วเจิ้นหลงมั่นใจเต็มเปี่ยม น้ำเสียงหนาหนักประดุจราชสีห์เพศผู้ เนื
ในเมื่อเจ้าฉินอวิ๋นฟานหาเรื่องกับทางองค์ชายใหญ่ก่อน เขาย่อมยินดีราดน้ำมันลงบนกองไฟ“เหลวไหลทั้งเพ นี่คือการใส่ร้ายอย่างเห็นได้ชัด ท่านพ่อตาข้าจงรักภักดีต่อราชวงศ์ต้าเฉียนทุกยุคทุกสมัย ทำศึกเหนือใต้ เพื่อต้าเฉียนเรียกได้ว่าทุ่มเทสุดกำลัง จะมีใจคิดกบฏได้อย่างไร? พวกเจ้าก็คือแบบฉบับของการใส่ร้ายผู้อื่น”องค์ชายใหญ่ราวกับถูกเหยียบหาง วาวโรจน์ปานอสนีพิฆาต โกรธเกรี้ยวสิบส่วนฉินอวิ๋นฟานเห็นสายตาร้อนรนขององค์ชายใหญ่จึงเอ่ยเสียงเย็น “ข้าคือรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินของต้าเฉียน ให้ความสนใจกับเรื่องกองทัพคือหน้าที่ในความรับผิดชอบของข้า แม่ทัพผู้เฒ่าฮั่วกลับไม่ไว้หน้าข้าสักนิด นี่มิใช่มีชนักติดหลังแล้วคืออะไร?”ฉินอวิ๋นฟานฉวยความเป็นต่อไล่โจมตี หาเรื่องต่อ เขากลับอยากดูสิว่าตาแก่นี่คิดจะทำอะไร ขนาดรัชทายาทก็ยังไม่ไว้หน้า ไร้กฎหมายไร้ฟ้าจริง ๆ วันนี้ต้องสั่งสอนเสียหน่อยแล้ว“ใครบอกว่ามีชนักติดหลัง...”องค์ชายใหญ่อธิบายต่อ แต่ถูกฮั่วเจิ้นหลงห้ามเอาไว้ เขายังคงพูดด้วยสีหน้าดังเดิม “รัชทายาทปากคอเราะรายดังคาด ไอ้แก่อย่างข้าเกือบจะหลงกลแล้ว”“รัชทายาท ไม่ว่าเรื่องใดล้วนให้ความสำคัญกับหลักฐาน ใ
ไม่มีใครรู้ซึ้งถึงน้ำหนักในคำพูดของฉินอวิ๋นฟานไปมากกว่าฮั่วเจิ้นหลงอีกแล้ว ในฐานะที่เป็นแม่ทัพคนหนึ่ง คือที่พึ่งพิงที่สุดของจักรพรรดิ และเป็นส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของจักรพรรดิทันทีที่ถูกจักรพรรดิสงสัย ฆ่าล้างตระกูลอยู่ที่เวลาเท่านั้น ยามนี้เป็นช่วงสำคัญของการชิงบัลลังก์ จักรพรรดิองค์ใหม่จะขึ้นครองราชย์ในอีกไม่ช้า และท่าทีของเขาที่มีต่อฉินอวิ๋นฟาน จะทำให้องค์ชายองค์อื่น ๆ ระแวงเหมือนกัน ฮั่วเจิ้นหลงจึงเลือกประนีประนอมต่อหน้าธารกำนัลอย่างไม่ลังเลสักนิดเวลานี้ ทุกคนในที่นั้นต่างตกใจสุดขีด นี่คืออดีตเทพสงครามแห่งยุคของต้าเฉียนเชียวนะ ยกทัพจับศึก ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา สมัยที่อดีตฮ่องเต้ยังมีพระชนม์อยู่ เคยขนานนามฮั่วเจิ้นหลงว่าเทพนักรบอันดับหนึ่งแห่งต้าเฉียนกลับถูกรัชทายาทที่เป็นเด็กน้อยสยบ คุกเข่าลงต่อหน้าธารกำนัล“ท่านพ่อตา ท่าน ท่านคุกเข่าให้เจ้าโง่นี่ได้ยังไง?”ตอนนี้องค์ชายใหญ่หัวเสียอย่างยิ่ง ท่านพ่อตาเป็นใคร? ต่อให้เสด็จพ่อยังอยู่ก็ยังต้องไว้หน้าเขาบางส่วน จะก้มหัวให้ไอ้ขยะนี่ได้ยังไง?ในสายตาของเขา ฉินอวิ๋นฟานไม่ใช่อะไรทั้งนั้น ถึงจะเก่งหน่อยแล้วยังไง? สถานการณ์ของต้าเฉียนใ