เห็นหลัวเทียนเป้าทำหน้าขาดความรู้ประหนึ่งคนเบาปัญญา ถงจินเฉิงจึงทนดูต่อไปไม่ไหวจริง ๆ เจ้าสมองหมูนี่ทำไมถึงเข้าข่ายสติปัญญาล้ำเลิศได้นะ? กับอีแค่ขึ้นลิฟต์ยังทำให้เจ้าตกใจปัสสาวะราดได้ มีแต่เจ้านี่แหละ!เขาส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา ย่างเท้าเข้าลิฟต์แล้วพูดด้วยความจนใจ “แม่นางเสี่ยวอวี้กล่าวถูกต้องแล้ว ไม่เชื่อทุกคนเข้ามาก็รู้แล้วนี่”“จะเป็นไปได้ยังไง? หรือว่าห้องนี้จะเคลื่อนไหวได้จริง?”เยียนอวี่เฉินขมวดคิ้วสวยเหมือนกัน ยังคงท่าทีลังเล โรงแรมแห่งนี้พิลึกแท้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เหนือความรู้ความเข้าใจของนางทั้งหมด แปลก มันแปลกมาก ๆ ทำให้นางไม่กล้าย่างเท้าเข้าลิฟต์ง่าย ๆ“เถ้าแก่สาม มันทำได้จริง ๆ นั่นแหละ ไม่เชื่อทุกคนก็เข้ามาลองดูก็รู้แล้วนี่?”ถงจินเฉิงหน้าทุกข์ใจ กับอีแค่ขึ้นลิฟต์ต้องเหน็ดเหนื่อยเพียงนี้ เจ้าคนพวกนี้ต้องหวั่นวิตกขนาดนี้เชียวรึ? เพื่อให้พวกเขาขึ้นลิฟต์มาเร็ว ๆ ถงจินเฉิงจึงได้แต่ใช้ไม้ตายเขาพูดยั่ว “แม่ทัพเป้ากล้าหาญชาญชัยมากมิใช่? แล้วยังจะกลัวอะไรอีก? หรือว่าท่านไม่เชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง?”“เจ้า...!”พอหลัวเทียนเป้าได้ยินสีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นปั้นยาก ในฐานะที่เ
“เอ่อ พี่ชายหล่อท่านนี้ พวกเรามาถึงชั้นแปดแล้ว ท่านดูป้ายบอกชั้นแปดตรงนั้นสิ...”เสี่ยวอวี้ทนดูไม่ได้จริง ๆ ใบหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ ในเมื่อมาจากบ้านนอก เช่นนั้นก็พูดให้น้อยได้หรือไม่? เพื่อให้ตัวเองมีตัวตน จำเป็นต้องลดความฉลาดทางปัญญาของตัวเองลงเชียวหรือ?หลัวเทียนเป้ามองไปตามทิศทางที่เสี่ยวอวี้บอก รูม่านตาพลันหดเล็ก นี่มันยังไงกัน? เมื่อครู่เป็นชั้นหนึ่งชัด ๆ! ทำไมจู่ ๆ จึงกลายเป็นชั้นแปดแล้วเล่า?!แม้ว่าหลัวเทียนเป้าจะมีจิตใจอยากรู้อยากเห็นอย่างรุนแรง หากยังหรี่ดวงตาทั้งสองและเอ่ยถ้อยคำโง่งมที่สุดในวันนี้ออกไป “เมื่อกี้เขียนว่าชั้นหนึ่งชัด ๆ พวกเจ้าถึงกับหาคนสับเปลี่ยนตัวอักษรชั้นมาปั่นหัวพวกเรา คิดว่าเรารังแกได้ง่าย ๆ จริงรึ?!”“ปัดโธ่เอ๋ย คือว่านะ แม่ทัพเป้า ท่านอย่าเพิ่งพูดจะได้หรือไม่? พวกเขาออกไปดูสักหน่อยก่อนได้ไหม?”ถงจินเฉิงยอมหมอบราบคาบแก้วแล้ว ก็แค่ขึ้นลิฟต์เท่านั้น ทำไมท่านถึงมีบทมากเช่นนี้? ท่านมีดวงตาเพื่อปล่อยลมหรือ? สมองมีไว้บรรจุอุจจาระหรือ? อีกฝ่ายเป็นแค่โรงแรมที่ค่อนข้างพิเศษ จะปั่นหัวท่านทำไม? จะใช้สมองหมูของท่านหน่อยได้หรือไม่?!ทว่าถ้อยคำนี้เขาด่าได้แต่ในใ
เสี่ยวอวี้ยิ้มพูด“เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ? ห้องพักสิบห้องใช้เงินหนึ่งล้านตำลึง?!”ทันทีที่เยียนอวี่เฉินได้ยินว่าใช้เงินหนึ่งล้านตำลึงจองห้องพักสิบห้องก็ตกใจจนคางแทบจะหลุด ห้องพักชั้นดีเยี่ยมของโรงเตี๊ยมทั่วไปพักคืนละห้าถึงสิบตำลึงเท่านั้น ตามหลักแล้วห้องพักสิบห้องอย่างมากก็เพียงร้อยตำลึง หนึ่งล้านตำลึงทำให้นางตกใจขวัญกระเจิงจริง ๆ“ท่านได้ยินไม่ผิดหรอกเจ้าค่ะ หนึ่งล้านตำลึงจริง ๆ นี่ยังเป็นเถ้าแก่ถงเสียแรงวัวเก้าตัวเสือสองตัวจึงจะแย่งมาได้ ตอนนี้ต่อให้มีสิบล้านตำลึงก็ไม่มีที่พักแล้ว”เสี่ยวอวี้ยิ้มพูด“เอ่อ หนึ่งล้านตำลึงแย่งมาได้สิบห้อง? แถมยังไม่แน่ว่าจะแย่งได้? ตอนนี้ถึงมีเงินก็ไม่มีให้พัก? นี่มันโรงแรมเทพเซียนอะไรกันแน่?!”เยียนอวี่เฉินเพิ่งมาถึงต้าเฉียน ทั้งคนด้านชาไปหมดแล้ว เงินกลายเป็นไม่ใช่เงินอีก เหมือนตัวเลขแถวหนึ่งเท่านั้น แค่พักยังต้องใช้เงินถึงหนึ่งล้าน นี่มันวิมานเซียนอะไรกัน?!“ถูกต้องเจ้าค่ะ ท่านลองเตียงซิมมอนส์ของเราได้ นุ่มสบายมากเลยนะเจ้าคะ”เสี่ยวอวี้ยิ้มหวาน“ฮึ ข้าจะลองดูสิ!”หลัวเทียนเป้าแค่นเสียง กลัวว่าจะมีคนปองร้ายองค์หญิงสาม เขาหย่อนบั้นท้ายลงไปนั่งแรง
“เอ่อ...หญิงงาม น้ำนี่จะดื่มไม่ได้เด็ดขาดนะ มันก็คือจุดที่ท่านจะปลดทุกข์!”ครั้นได้ยินหญิงงามคิดว่าน้ำในชักโครกคือน้ำดื่มก็ทำเอาเสี่ยวอวี้สะดุ้งโหยง นางรีบอธิบาย คนที่สามารถจ่ายเงินหนึ่งล้านจองห้องพักวีไอพีเหนือระดับเช่นนี้ได้ ถ้าไม่ใช่ว่าร่ำรวยก็คือสูงศักดิ์ ทั้งเมื่อครู่ยังคลับคล้ายคลับคลาได้ยินเรียกว่าองค์หญิงสามอีกพวกเขาซึ่งมีฐานะเช่นนี้ หากให้พวกเขาดื่มน้ำในชักโครกมิต้องฆ่าคนหรือ!“อะไรนะ?! นี่ก็คือจุดที่จะปลดทุกข์?! เจ้านี่จะปลดทุกข์ได้ยังไง?!”พอเยียนอวี่เฉินได้ยินการอธิบายของเสี่ยวอวี้ ใบหน้าพลันเขียวปัด กระดากจนพูดออกมาไม่เป็นคำ นี่มารดามันเป็นโรงแรมเทวดาอะไร? หนนี้หน้าตาไม่เหลือแล้ว!ยังดีที่นางถามก่อน ไม่อย่างนั้นถ้าคิดว่ามันเป็นน้ำสำหรับดื่มจริง ต่อไปนางจะสู้หน้าคนยังไงอีก?“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าจะสาธิตให้พวกท่านดูสักหน่อย อย่าทำผิดเด็ดขาดนะเจ้าคะ!”เสี่ยวอวี้เหนื่อยใจสุดแสน ต้องแสดงให้พวกคนรวยไร้ความรู้พวกนี้ทุกทีสิน่า! เฮ้อ! นางหยิบของชิ้นหนึ่งโยนลงไปในชักโครกอีกครั้ง จากนั้นก็ดึงเชือกบนประตูเบา ๆ ก่อนจะปรากฏภาพอัศจรรย์เห็นเพียงตรงกลางชักโครกมีกระแสน้ำเชี่ยวกรากฉ
เยียนอวี่เฉินถลึงตาใส่ถงจินเฉิงแรง ๆ ทีหนึ่ง โรงแรมห้าดาวต้าเฉียนแตกต่างจากทั่วไปก็จริงอยู่ แต่หนึ่งล้านตำลึงทำให้นางปวดใจมาก“เอ่อ ถูกต้อง ไม่เชื่อก็ให้ผู้ช่วยเสี่ยวอวี้พาท่านไปดูห้องอื่น ๆ?”ถงจินเฉิงรีบเปลี่ยนประเด็น กลัวว่าองค์หญิงสามจะโทษเขาอีก เพราะแต่ละห้องแตกต่างกันไป สำหรับถงจินเฉิงที่รักความสนุกแล้ว หนึ่งล้านตำลึงไม่ถึงว่าเป็นเงินกลอนคู่หนึ่งหรือยอดกลอนสักบทก็ขายได้ราคาสูงเป็นล้านแล้ว กอปรกับเบี้ยหวัดและรางวัลที่ดินศักดินาของต้าเยียน ในปีหนึ่ง ๆ ต้องได้หลายสิบล้านแล้วที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การมาต้าเฉียนครั้งนี้คืองานราชการ เขายิ่งไม่สนใจว่าจะถลุงเงินเท่าไร“นำทาง!”เยียนอวี่เฉินพูดด้วยสีหน้าอึมครึมภายใต้การนำของเสี่ยวอวี้ ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องพักห้องข้าง ๆ ครั้นทุกคนเห็นภายในห้องก็อ้าปากเพราะความทึ่งอีกครั้งห้องกว้างมาก มองไปทางไหนก็เป็นโทนสีชมพูไปหมด รวมถึงเครื่องนอนบนเตียงก็เป็นโทนสีชมพูด้วย เยียนอวี่เฉินเห็นห้องน่ารักอบอุ่นเช่นนี้แล้วพลันหวั่นไหวอย่างยิ่งและสิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจมากกว่าคือเตียงใหญ่ทรงกลมตรงกลางซึ่งเตะตามาก ทำให้นางมีความรู้สึกอยากลองอย่างห
“ไม่บอกใช่ไหม? งั้นข้าก็จะไม่ไปแล้ว!”เยียนอวี่เฉินท่าทีเด็ดขาด นั่งลงบนเก้าอี้รูปทรงประหลาดทันที สองมือกอดอก ดวงหน้ารูปไข่สวยงามเย็นชาถึงขีดสุด“ถงจินเฉิง เจ้านี่ยังไงกัน? ก็แค่เก้าอี้ตัวเดียว ถึงก็ต้องเล่นแง่เช่นนี้เชียวรึ? รีบไขข้อข้องใจให้องค์...เถ้าแก่สามเสียสิ!”ทีแรกหลัวเทียนเป้าคิดจะพูดว่าองค์หญิงสาม แต่คิดดูอีกทีเปลี่ยนคำดีกว่า การปกปิดฐานะอย่างเหมาะสมยังเป็นเรื่องที่จำเป็นหลังจากขายหน้าหลายหน หลัวเทียนเป้าทำตัวเรียบร้อยขึ้นมาก เขาพินิจเก้าอี้รูปทรงประหลาดนี้นานแล้วเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกตรงไหนเห็นถงจินเฉิงเอาแต่หมกเม็ดไม่อธิบาย องค์หญิงสามก็งอนอีก เขาจึงได้แต่ก้าวออกมา“นั่นสิหัวหน้าถง ก็แค่เก้าอี้ตัวเดียว มันเอ่ยปากยากขนาดนั้นเชียวรึ?!” คนที่อยู่ข้างหลังเยียนอวี่เฉินก็สมทบขึ้นมาด้วย“ดูท่า ถ้าไม่บอก หญิงงามคงไม่คิดจะออกไปแล้ว”เสี่ยวอวี้แบมือออกอย่างจนใจ มองไปทางถงจินเฉิงและพูดว่า “เถ้าแก่ถง เรื่องนี้ให้ท่านอธิบายเถอะ เพราะเป็นสหายของท่านทั้งนั้น สำหรับประโยชน์ของมัน เมื่อวานท่านได้สัมผัสแล้ว มีสิทธิ์ในการพูดมากกว่าข้า”สำหรับสภาพการดำเนินธุรกิจของโรงแรมห
“คุณหนูใหญ่...”ยามนี้ สาวใช้ยังอยู่ในภาวะใบหน้างุนงง ไม่ตระหนักถึงท่าทางขณะนี้ของตัวเองเลยว่ามิอาจทนมองขนาดไหนเสี่ยวอวี้กับถงจินเฉิงแลกสายตากันหนหนึ่ง ในดวงตาคือความจนใจเต็มประดา ของพรรค์นี้ไม่เหมาะจะอธิบาย แต่เหมาะกับการทดลองใช้งานจริง และเก้าอี้ตัวนั้นไม่ว่าปากจะพูดให้สละสลวยอย่างไรก็มิสู้สัมผัสด้วยตัวเองสักหนเยียนอวี่เฉินที่เขินอายกรุ่นโกรธกลับไปยังห้องแรกทันที พลาดเตียงน้ำหรรษาและห้องม้าหมุนข้างหลัง และพลาดโอกาสได้พบกับโลกใบใหม่พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามวันแล้ว ฉินอวิ๋นฟานอาการดีขึ้นห้าส่วน แม้บาดแผลยังไม่สมานตัวดี แต่โดยรวมแล้วก็ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร ขอแค่ไม่ใช้กำลังหนัก ๆ ก็ไม่มีปัญหา“เสี่ยวฟาน ข่าวที่เจ้าให้ข้าสืบ ได้เรื่องแล้วนะ”ร่างกายของอู่จ้านดีกว่าฉินอวิ๋นฟานมาก หลังจากพักฟื้นสามวันก็หายเจ็ดส่วนแล้ว เช้ามาเขาจึงนำคนออกไปสืบข่าว“เป็นยังไง?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยปากถาม“จากร่องรอยต่าง ๆ ที่เห็น คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องลอบฆ่าน่าจะเป็นองค์ชายรอง ไท่ซั่งหวงพิโรธหนัก ให้หน่วยบูรพาออกมาเคลื่อนไหวโดยตรง คนขององค์ชายใหญ่เข้าร่วมทันที องค์ชายองค์อื่น ๆ ก็สนับสนุนเจ้าด้วย”อู่จ้า
“เอ่อ เจ้าจะเอาแค่จอหงวนแดงหรือ?”อู่จ้านพูดด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจ “เสี่ยวฟาน ก่อนจะมีอู่เหลียงเย่เรา จอหงวนแดงคือเหล้าขาวที่ยอดเยี่ยมที่สุดของต้าเฉียนจริง แต่จอหงวนแดงในตอนนี้ยอดขายน้อยนิดจนน่าสงสาร ทำกำไรอะไรให้เราไม่ได้ เอามันไปก็ไม่มีประโยชน์”นับจากอู่เหลียงเย่แจ้งเกิดบนโลกใบนี้ ธุรกิจสุราของทั้งต้าเฉียนก็กลับตาลปัตร แม้ราคาของอู่เหลียงเย่จะสูงจนทะลุจักรวาล แต่ก็ยังมีคนทุ่มสุดตัวเพื่อซื้อมัน ล้ำค่ายิ่งนักจอหงวนแดงของภัตตาคารเซิ่งหลงกลายเป็นสินค้าคงค้างขายไม่ออก ยอดขายยังไม่ถึงร้อยละหนึ่งในอดีต แทบจะถึงขั้นล้มละลายแล้วรับช่วงสุราเช่นนี้มิเท่ากับหาเรื่องให้ขาดทุนหรือ?“ต้องมีประโยชน์สิ สำหรับข้า จอหงวนแดงก็คือสิ่งที่มีค่าที่สุดในภัตตาคารเซิ่งหลงแล้ว”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะเล็กน้อยและพูด “อาจ้าน ในเมื่อท่านรู้ว่าจอหงวนแดงคือเหล้าที่ขายดีที่สุดของต้าเฉียนในสมัยก่อน แล้วทำไมยอดขายมันถึงลดลงล่ะ? นั่นเป็นเหตุจากอู่เหลียงเย่ทั้งหมด!”เห็นใบหน้าฉินอวิ๋นฟานมีความมั่นใจล้นทะลัก หัวของอู่จ้านพลันมึนตึบเล็กน้อย ในความเป็นจริงก็ด้วยเหตุนี้มิใช่หรือ? หรือว่ายังจะมีเหตุอื่นอีก? อู่จ้านพิจา