“เอ่อ...หญิงงาม น้ำนี่จะดื่มไม่ได้เด็ดขาดนะ มันก็คือจุดที่ท่านจะปลดทุกข์!”ครั้นได้ยินหญิงงามคิดว่าน้ำในชักโครกคือน้ำดื่มก็ทำเอาเสี่ยวอวี้สะดุ้งโหยง นางรีบอธิบาย คนที่สามารถจ่ายเงินหนึ่งล้านจองห้องพักวีไอพีเหนือระดับเช่นนี้ได้ ถ้าไม่ใช่ว่าร่ำรวยก็คือสูงศักดิ์ ทั้งเมื่อครู่ยังคลับคล้ายคลับคลาได้ยินเรียกว่าองค์หญิงสามอีกพวกเขาซึ่งมีฐานะเช่นนี้ หากให้พวกเขาดื่มน้ำในชักโครกมิต้องฆ่าคนหรือ!“อะไรนะ?! นี่ก็คือจุดที่จะปลดทุกข์?! เจ้านี่จะปลดทุกข์ได้ยังไง?!”พอเยียนอวี่เฉินได้ยินการอธิบายของเสี่ยวอวี้ ใบหน้าพลันเขียวปัด กระดากจนพูดออกมาไม่เป็นคำ นี่มารดามันเป็นโรงแรมเทวดาอะไร? หนนี้หน้าตาไม่เหลือแล้ว!ยังดีที่นางถามก่อน ไม่อย่างนั้นถ้าคิดว่ามันเป็นน้ำสำหรับดื่มจริง ต่อไปนางจะสู้หน้าคนยังไงอีก?“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าจะสาธิตให้พวกท่านดูสักหน่อย อย่าทำผิดเด็ดขาดนะเจ้าคะ!”เสี่ยวอวี้เหนื่อยใจสุดแสน ต้องแสดงให้พวกคนรวยไร้ความรู้พวกนี้ทุกทีสิน่า! เฮ้อ! นางหยิบของชิ้นหนึ่งโยนลงไปในชักโครกอีกครั้ง จากนั้นก็ดึงเชือกบนประตูเบา ๆ ก่อนจะปรากฏภาพอัศจรรย์เห็นเพียงตรงกลางชักโครกมีกระแสน้ำเชี่ยวกรากฉ
เยียนอวี่เฉินถลึงตาใส่ถงจินเฉิงแรง ๆ ทีหนึ่ง โรงแรมห้าดาวต้าเฉียนแตกต่างจากทั่วไปก็จริงอยู่ แต่หนึ่งล้านตำลึงทำให้นางปวดใจมาก“เอ่อ ถูกต้อง ไม่เชื่อก็ให้ผู้ช่วยเสี่ยวอวี้พาท่านไปดูห้องอื่น ๆ?”ถงจินเฉิงรีบเปลี่ยนประเด็น กลัวว่าองค์หญิงสามจะโทษเขาอีก เพราะแต่ละห้องแตกต่างกันไป สำหรับถงจินเฉิงที่รักความสนุกแล้ว หนึ่งล้านตำลึงไม่ถึงว่าเป็นเงินกลอนคู่หนึ่งหรือยอดกลอนสักบทก็ขายได้ราคาสูงเป็นล้านแล้ว กอปรกับเบี้ยหวัดและรางวัลที่ดินศักดินาของต้าเยียน ในปีหนึ่ง ๆ ต้องได้หลายสิบล้านแล้วที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การมาต้าเฉียนครั้งนี้คืองานราชการ เขายิ่งไม่สนใจว่าจะถลุงเงินเท่าไร“นำทาง!”เยียนอวี่เฉินพูดด้วยสีหน้าอึมครึมภายใต้การนำของเสี่ยวอวี้ ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องพักห้องข้าง ๆ ครั้นทุกคนเห็นภายในห้องก็อ้าปากเพราะความทึ่งอีกครั้งห้องกว้างมาก มองไปทางไหนก็เป็นโทนสีชมพูไปหมด รวมถึงเครื่องนอนบนเตียงก็เป็นโทนสีชมพูด้วย เยียนอวี่เฉินเห็นห้องน่ารักอบอุ่นเช่นนี้แล้วพลันหวั่นไหวอย่างยิ่งและสิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจมากกว่าคือเตียงใหญ่ทรงกลมตรงกลางซึ่งเตะตามาก ทำให้นางมีความรู้สึกอยากลองอย่างห
“ไม่บอกใช่ไหม? งั้นข้าก็จะไม่ไปแล้ว!”เยียนอวี่เฉินท่าทีเด็ดขาด นั่งลงบนเก้าอี้รูปทรงประหลาดทันที สองมือกอดอก ดวงหน้ารูปไข่สวยงามเย็นชาถึงขีดสุด“ถงจินเฉิง เจ้านี่ยังไงกัน? ก็แค่เก้าอี้ตัวเดียว ถึงก็ต้องเล่นแง่เช่นนี้เชียวรึ? รีบไขข้อข้องใจให้องค์...เถ้าแก่สามเสียสิ!”ทีแรกหลัวเทียนเป้าคิดจะพูดว่าองค์หญิงสาม แต่คิดดูอีกทีเปลี่ยนคำดีกว่า การปกปิดฐานะอย่างเหมาะสมยังเป็นเรื่องที่จำเป็นหลังจากขายหน้าหลายหน หลัวเทียนเป้าทำตัวเรียบร้อยขึ้นมาก เขาพินิจเก้าอี้รูปทรงประหลาดนี้นานแล้วเหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกตรงไหนเห็นถงจินเฉิงเอาแต่หมกเม็ดไม่อธิบาย องค์หญิงสามก็งอนอีก เขาจึงได้แต่ก้าวออกมา“นั่นสิหัวหน้าถง ก็แค่เก้าอี้ตัวเดียว มันเอ่ยปากยากขนาดนั้นเชียวรึ?!” คนที่อยู่ข้างหลังเยียนอวี่เฉินก็สมทบขึ้นมาด้วย“ดูท่า ถ้าไม่บอก หญิงงามคงไม่คิดจะออกไปแล้ว”เสี่ยวอวี้แบมือออกอย่างจนใจ มองไปทางถงจินเฉิงและพูดว่า “เถ้าแก่ถง เรื่องนี้ให้ท่านอธิบายเถอะ เพราะเป็นสหายของท่านทั้งนั้น สำหรับประโยชน์ของมัน เมื่อวานท่านได้สัมผัสแล้ว มีสิทธิ์ในการพูดมากกว่าข้า”สำหรับสภาพการดำเนินธุรกิจของโรงแรมห
“คุณหนูใหญ่...”ยามนี้ สาวใช้ยังอยู่ในภาวะใบหน้างุนงง ไม่ตระหนักถึงท่าทางขณะนี้ของตัวเองเลยว่ามิอาจทนมองขนาดไหนเสี่ยวอวี้กับถงจินเฉิงแลกสายตากันหนหนึ่ง ในดวงตาคือความจนใจเต็มประดา ของพรรค์นี้ไม่เหมาะจะอธิบาย แต่เหมาะกับการทดลองใช้งานจริง และเก้าอี้ตัวนั้นไม่ว่าปากจะพูดให้สละสลวยอย่างไรก็มิสู้สัมผัสด้วยตัวเองสักหนเยียนอวี่เฉินที่เขินอายกรุ่นโกรธกลับไปยังห้องแรกทันที พลาดเตียงน้ำหรรษาและห้องม้าหมุนข้างหลัง และพลาดโอกาสได้พบกับโลกใบใหม่พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามวันแล้ว ฉินอวิ๋นฟานอาการดีขึ้นห้าส่วน แม้บาดแผลยังไม่สมานตัวดี แต่โดยรวมแล้วก็ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร ขอแค่ไม่ใช้กำลังหนัก ๆ ก็ไม่มีปัญหา“เสี่ยวฟาน ข่าวที่เจ้าให้ข้าสืบ ได้เรื่องแล้วนะ”ร่างกายของอู่จ้านดีกว่าฉินอวิ๋นฟานมาก หลังจากพักฟื้นสามวันก็หายเจ็ดส่วนแล้ว เช้ามาเขาจึงนำคนออกไปสืบข่าว“เป็นยังไง?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยปากถาม“จากร่องรอยต่าง ๆ ที่เห็น คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องลอบฆ่าน่าจะเป็นองค์ชายรอง ไท่ซั่งหวงพิโรธหนัก ให้หน่วยบูรพาออกมาเคลื่อนไหวโดยตรง คนขององค์ชายใหญ่เข้าร่วมทันที องค์ชายองค์อื่น ๆ ก็สนับสนุนเจ้าด้วย”อู่จ้า
“เอ่อ เจ้าจะเอาแค่จอหงวนแดงหรือ?”อู่จ้านพูดด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจ “เสี่ยวฟาน ก่อนจะมีอู่เหลียงเย่เรา จอหงวนแดงคือเหล้าขาวที่ยอดเยี่ยมที่สุดของต้าเฉียนจริง แต่จอหงวนแดงในตอนนี้ยอดขายน้อยนิดจนน่าสงสาร ทำกำไรอะไรให้เราไม่ได้ เอามันไปก็ไม่มีประโยชน์”นับจากอู่เหลียงเย่แจ้งเกิดบนโลกใบนี้ ธุรกิจสุราของทั้งต้าเฉียนก็กลับตาลปัตร แม้ราคาของอู่เหลียงเย่จะสูงจนทะลุจักรวาล แต่ก็ยังมีคนทุ่มสุดตัวเพื่อซื้อมัน ล้ำค่ายิ่งนักจอหงวนแดงของภัตตาคารเซิ่งหลงกลายเป็นสินค้าคงค้างขายไม่ออก ยอดขายยังไม่ถึงร้อยละหนึ่งในอดีต แทบจะถึงขั้นล้มละลายแล้วรับช่วงสุราเช่นนี้มิเท่ากับหาเรื่องให้ขาดทุนหรือ?“ต้องมีประโยชน์สิ สำหรับข้า จอหงวนแดงก็คือสิ่งที่มีค่าที่สุดในภัตตาคารเซิ่งหลงแล้ว”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะเล็กน้อยและพูด “อาจ้าน ในเมื่อท่านรู้ว่าจอหงวนแดงคือเหล้าที่ขายดีที่สุดของต้าเฉียนในสมัยก่อน แล้วทำไมยอดขายมันถึงลดลงล่ะ? นั่นเป็นเหตุจากอู่เหลียงเย่ทั้งหมด!”เห็นใบหน้าฉินอวิ๋นฟานมีความมั่นใจล้นทะลัก หัวของอู่จ้านพลันมึนตึบเล็กน้อย ในความเป็นจริงก็ด้วยเหตุนี้มิใช่หรือ? หรือว่ายังจะมีเหตุอื่นอีก? อู่จ้านพิจา
“ฉะนั้น นี่ก็คือสาเหตุหลักที่ข้าคิดจะเอาจอหงวนแดงอย่างไรเล่า โรงเก็บเหล้านารีแดงของตระกูลมู่หรงถูกอู่เหลียงเย่แทนที่หมดแล้ว และเหล้าจอหงวนแดงดีกว่านารีแดงจริง ๆ”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยต่อ “ดังนั้นข้าจึงคิดจะเอาจอหงวนแดง ขายให้ชาวบ้านในราคาไหละห้าอีแปะ ให้พวกเขาได้ดื่มเหล้าเลิศรสในวันวานบ้าง”“เอ่อ ไหละห้าอีแปะ? ราคานี้มันจะขาดทุนเอานะ!”อู่จ้านใบหน้าฉงน จอหงวนแดงคือยอดสุรารสเลิศในอดีต คือน้ำสุราที่ขุนนางคหบดีตลอดจนราชนิกุลดื่ม ที่ตั้งราคาไว้ที่ห้าตำลึง ก็เพื่อไม่ให้ประชาชนคนทั่วเอื้อมถึงถ้าลดราคาจอหงวนแดงเหลือห้าอีแปะจะไม่เหมือนกัน ประชาชนส่วนใหญ่จะพอดื่มได้บ้างเป็นบางครั้ง เพียงแต่การทำเช่นนี้จะต้องจ่ายในราคาสูงมาก“อาจ้าน ท่านรู้ไหมว่าทำไมข้าถึงตั้งราคาต่ำสุดของอู่เหลียงเย่สูงเช่นนี้?”ฉินอวิ๋นฟานยกมุมปากเล็กน้อยและพูด“ก็มีแต่เจ้าที่หมักอู่เหลียงเย่ได้ไง ราคาก็ต้องเอาเจ้าว่า มันผูกขาดนี่นะ ต่อให้พวกเขาไม่พอใจก็ไม่กล้าพูดอะไรกระมัง?”อู่จ้านตอบ“ท่านพูดถูกครึ่งเดียว”ฉินอวิ๋นฟานส่ายหน้าพูด “ที่ข้าตั้งราคาอู่เหลียงเย่สูงเช่นนี้ ความคิดในตอนแรกก็คือเพื่อปล้นคนรวยช่วยเหลือคนจน ความเ
ฟ้ามืดลงทุกที เทศกาลโคมไฟอยู่ระหว่างการเตรียมงานตามขั้นตอน เห็นท้องถนนไกล ๆ ประดับประดาไปด้วยโคมไฟสารพัดรูปแบบ รวมไปถึงโคมดอกไม้ขอพรที่ลอยอยู่กลางทะเลสาบ ฉินอวิ๋นฟานระบายยิ้มน้อย ๆถ้าทั้งราชวงศ์ต้าเฉียนบนล่างเป็นภาพสวยงามปรองดองเช่นนี้ได้ ปราศจากการคดโกงหลอกลวง ปราศจากความเหลื่อมล้ำในความรวยจนเด่นชัด ปราศจากการหาผลประโยชน์บีบคั้น เช่นนั้นจะดีสักแค่ไหน“พี่อวิ๋นฟาน อาการของท่านยังไม่หายดี กลางคืนอากาศเย็น พวกเราอย่าไปร่วมสนุกเลยนะ?”ในขณะที่ฉินอวิ๋นฟานกำลังเหม่อลอย มู่หรงจิ่นถือเสื้อคลุมมาคลุมอยู่บนตัวของฉินอวิ๋นฟาน ทั้งสองสี่สายตาประสาน เต็มไปด้วยความรักลึกซึ้งไม่นานมานี้ นี่มิใช่ชีวิตที่ฉินอวิ๋นฟานเคยใฝ่ฝันหรือ? รักใคร่และพยายามด้วยกันกับคนที่รักที่สุด เข้างานเลิกงานด้วยกัน ดูพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกด้วยกัน เพลิดเพลินกับความงดงานบนแดนดินนี้ด้วยกันแต่สถานการณ์ในเวลานี้ไม่อนุญาตให้เขาผ่อนคลาย ในฐานะที่เป็นองค์ชายผู้ทะลุมิติมา เขาได้แต่ก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังหนึ่งก้าวคือเหวลึกหมื่นจั้ง แม้แต่คนที่รักที่สุดข้างตัวก็จะปกป้องไม่ได้ได้แต่พูดว่าทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับชะตากำหนด ม
“โอ้โฮ สะพานลายนี้สวยจังเลย”พอมู่หรงจิ่นเห็นทางเดินเชื่อมต่อที่ห้อยโคมไฟทั้งทะเลสาบก็ตื่นเต้นจนมือโบกเท้ารำ กระดี๊กระด๊าเหมือนเด็กสาว ฉินอวิ๋นฟานกลับจูงมือหยกของนางอยู่ด้านข้าง ร่วมชมทิวทัศน์สวยงามนี้ด้วย“นั่นสิเจ้าคะ คุณหนู คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ เทศกาลโคมไฟของปีนี้จะพิเศษกว่าปีก่อน ๆ สะพานลอยนี้ยิ่งเพิ่มดอกไม้บนลายผ้าทอ แต่งแต้มสีสันให้กับทั้งทะเลสาบ”เสี่ยวจวี๋ก็พูดด้วยความตื่นเต้นอยู่ด้านข้างด้วยการอารักขาของฉินอวิ๋นฟานในครั้งนี้แตกต่างจากก่อนหน้านี้ชัดเจน ไม่เพียงแต่มีอู่จ้านอยู่ด้วย หลัวเหิงที่ร่างกายฟื้นฟูแปดเก้าส่วนก็อยู่ด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เซี่ยงเทียนเวิ่นคุ้มครองอยู่ข้างกายเขา อารักขาระวังภัยตลอดเวลา“จิ่นเอ๋อร์ ได้ยินว่าอีกเดี๋ยวจะมีการแสดง พวกเราไปดูที่โรงแรมเถอะ ถึงตอนนั้นเราจะได้ชมไปพลางดูการแสดงไปพลางไม่เสียเวลา”ผ่านไปอีกพักหนึ่ง ฉินอวิ๋นฟานจึงเอ่ยปากสบาย ๆ“ได้!”ภายใต้การนำของฉินอวิ๋นฟาน ไม่นานพวกเขาก็มาถึงโรงแรมห้าดาวต้าเฉียน ขณะที่พวกเขาอยู่ห่างประตูโรงแรมไม่ถึงห้าสิบเมตร ผู้หญิงท่วงทำนององอาจห้าวหาญเดินพกพาลมคนหนึ่งสะท้อนเข้าม่านตาของฉินอวิ๋นฟานมองอ