ที่หอวั่งเจียงการค้าดีเทน้ำเทท่าอย่างนี้ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะอู่เหลียงเย่ของฉินอวิ๋นฟาน เมื่อมีกรรมสิทธิ์ตัวแทนจำหน่ายอู่เหลียงเย่แต่เพียงผู้เดียว หอวั่งเจียงของพวกนางก็เรียกได้ว่ามีกำไรเป็นกอบเป็นกำ“อื่ม!”ฉินอวิ๋นฟานพยักหน้า เค้นรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยนี่คือการประท้วงหวงต้าหยวนแบบไร้เสียง การปฏิบัติระดับสูงสุด การแสดงสุดล้ำของหอวั่งเจียงที่ว่าล่ะ? ในฐานะที่เป็นนางรำ ใส่เสื้อผ้าหนาเตอะอย่างนั้นมันใช่การแสดงที่ไหน!หวงต้าหยวนยิ้มอย่างรับรู้ นางหรือจะมองความคิดของฉินอวิ๋นฟานไม่ออก? ก็ผู้ชายนี่นะ มาที่นี่ก็เพื่อผ่อนคลายกับระบายความใคร่ด้วยกันทั้งนั้นมิใช่หรือ? การแสดงเช่นนี้ไม่เพียงพอดึงดูดใจจริง ๆ นั่นแหละแต่...นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น!หลังจากพวกนางร่ายรำตามลำดับ จู่ ๆ หัวหน้านางรำก็ใช้มือสวย ๆ ปลดกระดุมตรงคอออก ไม่รอให้ฉินอวิ๋นฟานตอบสนอง นางก็ปลดกระดุมเม็ดบนสุดออกแล้วจากนั้นนางก็เคลื่อนมือลงไปห้าเซนติเมตรต่อ วางนิ้วมือหยกไว้ตรงกระดุมเม็ดที่สองจากด้านล่าง ด้วยการเคลื่อนไหวของนาง นางรำคนอื่น ๆ ต่างเลียนแบบทีละหนึ่ง ฉินอวิ๋นฟานที่อยู่ในภาวะเบื่อหน่ายเต็มทนในแต่เดิม ตกตะลึงตาค
“แค่ก ๆ รัชทายาท ข้อเรียกร้องนี้ของท่านจะมากเกินไปหน่อยหรือไม่? อย่างไรพวกเราหอนางคณิกาชั้นสูงวั่งเจียงก็ขายศิลปะไม่ขายตัว ถ้าถอดอีกก็คงไม่ต่างอะไรกับหอโคมเขียวแล้ว”หวงต้าหยวนได้แต่อธิบายด้วยความจนปัญญา“ถ้าที่นี่เหมือนกับพวกหอโคมเขียวข้าก็ไม่มาแล้ว ข้ายังแยกแยะการขายเนื้อหนังกับขายศิลปะได้ดีอยู่น่า ก็สัดส่วนของศิลปะมันมีสูงมาก เติมเต็มจิตใจคนได้ สง่างามไม่ธรรมดา ไม่เหมือนหอโคมเขียวที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายนังแมวยั่วสวาท”ฉินอวิ๋นฟานชมเชยพลางวิจารณ์ “แต่ถ้าจุดไฟให้ศิลปะสง่างามได้บ้าง จะมิยิ่งเข้าถึงมากกว่าหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานยังไม่ตายใจ คืบคลานทีละน้อย ความต้องการสืบเสาะสมควรตายนั่น ทำให้เขาคาดหวังกับการปอกหัวหอมมากขึ้น“รัชทายาทไม่เหมือนคนอื่นจริงแท้ ความคิดบัดสีบัดเถลิงเช่นนี้ยังสามารถกล่าวออกมาได้ใสซื่อบริสุทธิ์ กลับทำให้ข้ารู้สึกว่าที่ท่านกล่าวมาเหมือนจะมีเหตุผลมาก”หวงต้าหยวนเกือบถูกการอธิบายของฉินอวิ๋นฟานชักนำความคิดแล้ว นางในเวลานี้อึดอัดใจยิ่งนัก ด้วยความเข้าใจในตัวอีกฝ่าย เขาคือคนที่ต่างจากคนอื่นมากและมีปัญญาสูงส่งยิ่งแม้ฉินอวิ๋นฟานจะตัณหาจัด กลับเป็นคนที่ให้เกียรติสตรีเ
หวงต้าหยวนประหลาดใจเล็กน้อย นางรู้ว่าฉินอวิ๋นฟานมากเล่ห์เพทุบาย มักไม่เดินตามทาง แต่นางรำแปดคนนี้เป็นคนที่นางฝึกฝนมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือบุคลิกล้วนไม่ต่างไปจากต้าซวงและเสี่ยวซวงสักเท่าไร ทั้งยังฝึกซ้อมอย่างมีแบบแผน คงไม่ถึงกับตกอยู่ในกำมือของฉินอวิ๋นฟาน“แน่ใจ เป็นยังไง? กล้าให้ข้าลองหรือไม่?”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องเห็นฉินอวิ๋นฟานท่าทางมั่นอกมั่นใจจึงกระตุ้นความอยากเอาชนะของหวงต้าหยวนขึ้นมาโดยสมบูรณ์ นางไม่เชื่อหรอกว่าฉินอวิ๋นฟานจะมีไม้เด็ดอะไรจริง“ได้ แค่ทำตามได้ ข้าจะไม่ขวาง!”หวงต้าหยวนรับปากทันใด นางก็อยากดูสิว่าฉินอวิ๋นฟานจะใช้ลูกไม้อะไร ทำให้ผู้หญิงที่ฝึกฝนมาอย่างมีระเบียบแบบแผนเหล่านี้ถอดชุดตัวบางเองเห็นเพียงฉินอวิ๋นฟานถอดชุดตัวนอกออก บิดร่างกายแล้วเดินตรงมาถึงท่ามกลางผู้หญิงเหล่านั้น ภาพนี้ทำเอาพวกนางตกตะลึงอย่างหนัก ต้าซวงและเสี่ยวซวงที่อยู่ด้านข้างมุมปากกระตุก แม่เจ้าโว้ย พอฉินอวิ๋นฟานจะร่านขึ้นมาผู้หญิงยังสู้ไม่ได้! ยังจะมีงานของผู้หญิงอีกที่ไหน?!“อ๊ะ นี่...”หวงต้าหยวนอ้าปากหวอ ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเลย นางแพ้ฉินอวิ๋นฟานราบคาบ
บรรดาหญิงสาวสนุกติดลมบนตามฉินอวิ๋นฟานโดยสมบูรณ์ ไม่นานพวกนางก็ล้อมวงกัน ยิ้มแย้มเริงร่า หญิงนางหนึ่งหยิบผ้าเช็ดหน้าผ้าผืนบางปิดดวงตาของฉินอวิ๋นฟานอย่างรู้ใจอย่างยิ่ง“พวกเจ้าเตรียมตัวพร้อมหรือยัง?”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มร้าย“ฮี่ ๆ เตรียมพร้อมแล้วเจ้าค่ะ!”เหล่าหญิงสาวครื้นเครงกระตู้วู้ ทั้งตื่นเต้น ทั้งคาดหวัง ไม่นานพวกนางก็พากันมามุงล้อมฉินอวิ๋นฟานเอาไว้ฉินอวิ๋นฟานกลับทำหน้าได้ใจ กระโจนไปข้างหน้า สองมือควานหาสะเปะสะปะ ถึงอย่างไรจับไปก็คือสาวงาม จับอย่างไรก็ไม่ขาดทุนว้าย ๆ...อยู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็กระโจนเข้ามาหา เหล่าหญิงสาวสะดุ้งรีบหลบ กลัวว่าจะถูกจับได้ ท่ามกลางภาพที่ตื่นเต้นเร้าใจเช่นนี้ เหล่าหญิงสาวหวีดร้องว้าย ๆ ด้วยความตื่นเต้นถึงครั้งแรกจะจับไม่ได้สักคน แต่ฉินอวิ๋นฟานกลับได้สัมผัสแขนเรียวเล็กเนียนละเอียด อย่าให้พูดเลยว่ามันเร้าใจแค่ไหน“หึ ๆ พวกเจ้าหนีไม่พ้นหรอก ข้ามาแล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานจู่โจมอีกครั้ง ใต้ผ้าเช็ดหน้าผืนบางสามารถมองเห็นได้ราง ๆ แม้จะเห็นดวงหน้าไม่ชัด กลับสามารถมองเห็นยอดสูงชันแกว่งอยู่ตรงหน้า ฉินอวิ๋นฟานผู้อยู่ตรงกลางเลือดลมปั่นป่วน หยุดไม่ได้เลย“อ๊า ๆ ๆ...”
แต่ก็สายไปแล้ว ถ้าห้ามตอนนี้จะเป็นนางที่ทำลายกฎไม่รู้จักมองการณ์ไกล ไม่เพียงเท่านั้น ยังจะทำฉินอวิ๋นฟานหมดสนุกด้วย สำคัญคือนางเหล่านี้ถูกฉินอวิ๋นฟานลูบไปหมดแล้ว ห้ามแล้วจะมีประโยชน์อะไร?“เจ้าเด็กนี่จะหลงระเริงไปแล้วนะ?”อู่จ้านอยู่ด้านข้างเห็นแล้วกลับหลั่งน้ำตาแห่งความอิจฉา มิน่าคนรวยจึงมาสนุกที่หอวั่งเจียง ชีวิตที่มีเงินทองท่วมหัวนี่มันดีจริง ๆ เลยนะ!แม่นางต้าซวงและแม่นางเสี่ยวซวงบรรเลงเพลงไปก็จ้องฉินอวิ๋นฟานเขม็งไป ในใจเกิดความรู้สึกที่บอกไม่ถูก พวกนางเห็นความสุขที่ไม่เคยสัมผัสจากตัวของฉินอวิ๋นฟานหลังจากหมดเวลาหนึ่งก้านธูป ฉินอวิ๋นฟานเหนื่อยจนกระหืดกระหอบ เหงื่อไคลท่วมตัว เล่นกับพวกนางจนคึกสุดโต่ง ระหว่างที่พวกเขากำลังสุขสันต์อย่างบ้าคลั่ง พวกนางต่างปราชัยสิ้น ผุดหยดเหงื่อหอมทั่วเรือนกาย“รัชทายาท ท่านเก่งจริง ๆ พวกเราพี่น้องหนีไม่พ้นเงื้อมมือมารของท่านเลยเจ้าค่ะ”“นั่นสิ ท่านราวกับดาวพิฆาตของพวกเราพี่น้องแน่ะ พวกเราสู้ไม่ได้เลยสักนิด”......หลังจากเล่นเกมสนิทสนมกันแล้ว พวกนางก็พบว่าฉินอวิ๋นฟานไม่วางมาดสักนิด กลับมีนิสัยร่าเริงรักสนุก พวกนางพี่น้องแทบจะกอดคอกับฉินอวิ๋นฟาน
“เอ่อ ได้!”แม่นางต้าซวงและแม่นางเสี่ยวซวงก็ถูกบรรยากาศสุขสันต์ผ่อนคลายเช่นนี้ส่งผลเหมือนกัน พวกนางสองคนกำลังหิวพอดีเลยจึงแลกสายตากันทีหนึ่ง ไม่เกรงใจอีก ไปร่วมวงกับเขาด้วย“เอ่อ...เจ้าหอหวง เจ้า...ไม่หิวหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานหันไปมองหวงต้าหยวนแล้วถามเสียงอ้อมแอ้มอย่างไรเสียหวงต้าหยวนก็ปิดหน้าตลอดเวลา แถมนางยังให้ความสำคัญกับการถูกคนอื่นเห็นโฉมหน้ามาก ถ้ากินอาหารจะต้องถอดผ้าออก ดังนั้นฉินอวิ๋นฟานจึงไม่อยากฝืนใจ แต่จะให้ทุกคนนั่งล้อมวงกินด้วยกัน แล้วทิ้งเถ้าแก่เนี้ยผู้นี้อยู่อีกทางหนึ่งก็ดูไม่เหมาะสมนัก“พวกท่านกินกันเถอะ ข้าจะออกไปสะสางงานอื่นสักหน่อยแล้วค่อยกลับมา”หวงต้าหยวนอยู่ไม่ไหวแล้วจริง ๆ เห็นท่าทางฉินอวิ๋นฟานและนางอื่น ๆ ผ่อนคลายสบายใจสมานฉันท์ครื้นเครงทำให้นางเกิดความรู้ในที่บอกไม่ถูก และนางก็มิอาจเข้าวงพวกเขาได้ ดังนั้นจึงได้แต่จากไปแบบหยิ่ง ๆเห็นเงาหลังหวงต้าหยวนออกไป ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ไม่ยี่หระ“แม่นางต้าซวง แม่นางเสี่ยวซวง คืนนี้พวกเจ้ามีเวลาหรือไม่? ข้ามีการค้าหนึ่งคิดจะถ่ายทอดให้พวกเจ้าพี่น้อง รับรองว่าต้องทำให้พวกเจ้ามีรายได้เป็นกอบเป็นกำแน่”ฉินอวิ๋นฟานขยับไปถึ
ดวงหน้าของฉินอวิ๋นฟานเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจ แม้เขาจะยังไม่รู้ตัวตนของหวงต้าหยวน แต่ด้วยประสบการณ์และสัมผัสที่หกของเขา นางผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่ ที่ร่วมมือกับเขาจะต้องมีจุดประสงค์ล้ำลึกมิอาจคาดเดาสตรีคนหนึ่งซึ่งดูธรรมดาเรียบง่ายกลับสามารถกำหอวั่งเจียงที่ลึกลับเช่นนี้ ฝีมือและความสามารถระดับนี้ใช่คนทั่วไปจะทำได้ที่ทำให้ฉินอวิ๋นฟานระแวดระวังที่สุดคือ นางกลับสวมผ้าปิดหน้าผืนบางเหมือนฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวเหมียวชิงอี ทั้งหวงต้าหยวนยังรู้การสนทนาลับ ๆ ระหว่างเขากับเหมียวชิงอีอีก จากเรื่องนี้เห็นได้ว่านางผู้นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ “เทียบกับองค์ชายที่อยู่กินรอความตาย วัน ๆ จมปลักอยู่กับอำนาจพวกนั้นแล้ว ท่านต่างออกไปโดยแท้ เละข้าก็มีจุดที่เหมือนกับท่าน นั่นคือเดินเส้นทางพิเศษ ชอบใช้วิธีการไม่เหมือนใคร ใช้เล็กพนันใหญ่”หวงต้าหยวนหัวเราะเล็กน้อยแล้วพูด “อีกอย่าง ข้ามั่นใจในการตัดสินใจและสัญชาตญาณของตัวเองมาก กับท่านซึ่งมีความทะเยอทะยานรุนแรงแล้วเหมาะสมกันมาก”หวงต้าหยวนไม่ปกปิดการชื่นชมและชมเชยต่อฉินอวิ๋นฟานสักนิด แม้บางครั้งเขาจะไม่ต่างอะไรกับพวกหัวงู แต่นางดูออก ฉินอวิ๋นฟานคือคนที่รู้จักความ
“เช่นนั้นหรือ? มันก็ไม่แน่!”แม่นางเสี่ยวซวงพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์“มาเถอะ แม่หวานใจ มีบางเรื่องพวกเราต้องคุยกันบนเตียงนะ”ฉินอวิ๋นฟานแทบอดรนทนไม่ไหวแล้ว ลากมือสองดรุณีไปยังส่วนในของห้องนอน แต่ที่ทำให้ฉินอวิ๋นฟานประหลาดใจเล็กน้อยคือ พวกนางสองพี่น้องมิใช่หญิงพรหมจรรย์รึ? ทำไมถึงไม่มีท่าทางเขินอายขัดขืนเลยล่ะ?ไม่รอให้ฉินอวิ๋นฟานตอบสนอง ขณะที่เขาเตรียมจะอุ้มพวกนางขึ้นพร้อมกัน กลับถูกพวกนางขัดจังหวะกะทันหันแม่นางต้าซวงพลันเอ่ย “รัชทายาท ท่านจะสอนการทำการค้ากับพวกเราพี่น้องมิใช่หรือ? มิเช่นนั้นพวกเราก็นั่งคุยกันตรงขอบเตียงก่อนเถอะ?”“เอ่อ นั่นสิ ๆ”ฉินอวิ๋นฟานอึ้ง เกาศีรษะพลางพูดอย่างกระดาก “ข้ามีการค้าบางอย่างอยากคุยกับพวกเจ้าพี่น้องจริง ๆ”ฉินอวิ๋นฟานที่ไฟร้อนพลุ่งพล่านดับสนิทเดี๋ยวนั้น อย่างไรพวกนางยังเป็นนักเรียนของเขา แม้ระหว่างพวกเขาจะบอกเป็นนัย ๆ แต่ถ้ารีบจนเกินไปจะเหมือนเดรัจฉาน ดูจะไม่ค่อยเหมาะฉินอวิ๋นฟานจึงได้แต่ทำเป็นจริงจัง เขากระแอมกระไอแล้วพูด “ว่ามาเถอะ พวกเจ้าพี่น้องมีคำถามอะไรก็ถามข้ามาได้เลย ข้าจะบอกหมดเปลือกแน่”สองดรุณีสบตากันทีหนึ่ง จากนั้นก็แย้มยิ้มแห่งชัยชน