“อ่า...เร็วอีกคนดี...อ่า”แม่ทัพหนุ่มเร่งเร้าภรรยา ก่อนที่นางจะหยุดการกลืนกิน แล้วเคลื่อนตัวขึ้นนั่งอย่าเหนือท่อนเอ็นแข็งขึง หญิงสาวจ่อปลายท่อนเอ็นที่รูเล็กแคบของนาง แล้วค่อย ๆ กดลงไปเพียงครึ่งลำ ก่อนจะขยับยกขึ้นมาที่ปลายท่อนอีกครั้งอย่างช้า ๆการทำเช่นนี้ของนาง ไม่ต่างอันใดกับการที่นางจงใจทรมานเขา ให้อดกลั้นการปลดปล่อย เสียงหัวเราะในลำคอปนเปไปด้วยเสียงคราง ในทุกครั้งที่หญิงสาวขยับขึ้นลง“โอว์...เชียงเชียง...อ่า...”ชายหนุ่มสะดุกสุดตัว เมื่อภรรยากระแทกกายลงทับท่อนเอ็นของเขาจนหายไปจนมิดด้าม ก่อนที่นางจะเริ่มขยับโยกสะโพกส่ายร่อนไปมา แม่ทัพหนุ่มใช้สองมือกระชับเอวคอดเอาไว้แน่น ก่อนจะเด้งขึ้นสวนรับแรงกระแทกจากภรรยา“อ๊า...แรงอีกเด็กดี อ๊า...อย่างนั่น โอ้วววว”เสียงเนื้อกระทบกันปนเสียงครางกระเส่าของทั้งคู่ ยิ่งเพิ่มความหฤหรรษ์ให้บทรักอันเร้าร้อน หญิงสาวโน้มตัวลงกระซิบบอกสามีให้ลุกนั่ง ชายหนุ่มมิรอช้าทำตามอย่างว่าง่าย สองแขนเรียวโอบรอบลำคอสามีหลวม ๆ ก่อนจะเพิ่มแรงขยับโยก สลับบดเนินเนื้อกับท่อนเอ็นของสามีหญิงสาวกดใบหน้าหล่อเหล่ากับสองเต้างาม ใบหน้าหวานแหงนไปด้านหลังพร้อมเสียงครางมิขาดสาย ยิ่
คอนโดหรูใจกลางฮ่องกง ภายในห้องบนสุด บนเตียงกว้างมีสองร่างกำลังเริงรักกันอย่างเร้าร้อน “โอ้ววว แอนนา แบบนั้นแรง ๆ ผมชอบเวลาคุณทำแบบนี้” ชายหนุ่มพูดกับคนเหนือร่าง ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า โดยที่หญิงสาวกำลังขยับเคลื่อน โยกสะโพกขึ้นลงจากเนิบช้าเป็นกระชั้นถี่ เร่งเร้าตามแรงอารมณ์ที่คุระอุร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ แอนนาครางเสียวทุกครั้ง ที่ท่อนเอ็น ของชายหนุ่มผ่านเข้าออกรูสวาท จากจังหวะการขยับโยกที่เธอเป็นผู้ควบคุมมันอยู่ในตอนนี้ “เดวิดฉันชอบจังเลยค่ะ อ่า!” เดวิดจับเอวคอดของแอนนาเอาไว้ ก่อนจะเด้งขึ้นรับแรงกระแทกจากหญิงสาว ตับ ตับ ตับ เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้อง เดวิดขยับตัวเปลี่ยนเป็นนั่งพิงหัวเตียง สองมือกอบกุมสองเต้าเต่งตึงของแอนนา ชายหนุ่มใช้ปลายลิ้นรัวถี่ ๆ บนหัวนมสีชมพู ที่กำลังแข็งเป็นไตตอบรับการเล้าโลมจากเขา ชายหนุ่มดูดเม้มแรง ๆ สลับไปมาทั้งสองเต้า “อ่า เดวิด โอ้ววว ยอดรัก” แอนนาขยับโยกแรงขึ้น ตามอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่านในรสสวาท ที่ชายหนุ่มกำลังปรนเปรอให้เธออย่างถึงใจ “ทรมานผมสิทู
สามวันต่อมา หลังข่าวการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของนางแบบสาว เรื่องราวควรที่จะเงียบหายไป เพราะทางโรงพยาบาลแจ้งว่าหญิงสาวแพ้เกสรดอกไม้ จนทำให้ถึงแก่ชีวิต แต่เพียงข้ามคืนหลังจากการเสียชีวิตของจื่อลู่ถิง ภาพการร่วมรักอย่างถึงพริกถึงขิง ระหว่างเจ้าของห้องเสื้อชื่อดัง กับคู่หมั้นหนุ่มของนางแบบสาวได้กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ ทำให้พี่ชายของนางแบบสาว ทำการขอให้มีการรื้อคดี ผ่าชันสูตรศพใหม่อีกครั้ง เพราะมีเรื่องความสัมพันธ์ของแอนนาและเดวิดเป็นแรงจูงใจเสียแล้วนั้นเอง ในที่สุดเรื่องทั้งหมดก็ถูกเปิดเผย เมื่อแอนนาไม่อาจทนรับแรงกดดันได้ เธอยอมรับถึงการนำผงไข่มุกโรยไว้บนดอกไม้ เดวิดเป็นคนบอกเธอด้วยตัวเอง ว่าจื่อลู่ถิงแพ้ผงไข่มุกขั้นรุนแรงถึงชีวิตได้เลย เธอรับรู้ถึงความผิดปกติของนางแบบสาวเป็นอย่างดี แค่เธอจงใจที่จะถ่วงเวลาให้อีกฝ่ายอาการสาหัส จนไม่อาจยื้อชีวิตเอาไว้ได้ แต่ไม่คิดว่านางแบบสาว จะมีคลิปการร่วมรักของเธอ กับคู่หมั้นของนางแบบสาวเองอยู่ในมือมิติคู่ขนาน จื่อลู่ถิงขยับตัวเล็กน้อย หัวของนางรู้สึกปวดจนแทบจะระเบิดออกมาเลยทีเดียว ดวง
“ท่านพี่ ให้เรียกข้าเช่นภรรยาบ้านอื่นเขาทำกัน สนทนาส่วนตัวมิจำเป็นต้องมีพิธีให้วุ่นวาย” เฟยเทียนเอ่ยกับภรรยาเสียงเรียบ โดยที่ความสนใจทั้งหมดของชายหนุ่ม ยังอยู่ที่ถ้วยชาในมือนั้นเอง “เจ้าค่ะ ท่านพี่” จื่อลู่ถิงไม่คิดจะดื้อรั้นกับเรื่องเพียงเล็กน้อยนี้ สำหรับนาแล้ว ต่อให้สามีมิรักใคร่ ทว่าฐานะที่เขามอบแก่นาง ก็ยังคงเป็นประโยชน์สำหรับตัวนางอยู่นั้นเอง “นั่งลงก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะคุยด้วยสักหน่อย” เฟยเทียนควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ ชายหนุ่มพยายามอย่างที่สุด ในการข่มกลั้นอารมณ์พลุ่งพล่าน ที่พร้อมปะทุออกมาหากเขารั้งอยู่กับนางนานกว่านี้ “เรื่องใดกันเจ้าคะ” “ข้าได้รับพระบัญชาให้เดินทางไปยังชายแดนตะวันออก เพื่อเป็นตัวแทนร่วมงานแต่งของอ๋องน้อยจางเสิ่น เจ้าต้องเดินทางไปกับข้าด้วย” ชายหนุ่มบอกถึงจุดประสงค์ ที่เขามาพบนางถึงเรือน ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว เขามิจำเป็นต้องมาด้วยตนเองก็ย่อมได้ แต่ด้วยเป็นพระบัญชาจากฮ่องเต้ ให้ทุกอย่างสมพระเกียรติในฐานะตัวแทนของพระองค์ เขาจึงไม่อาจละเลยให้ภรรยาจัดเตรียมทุกอย่าง โดยไร้เขาเป็นผู้ควบคุม “เจ้าค่ะ ข้าจะรีบจัดเตรียมข้าวของในการเดินทาง มิให้ขาดต
จื่อลู่ถิงยิ้มกว้าง เมื่อเห็นน้ำตกเล็ก ๆ หญิงสาวถอดชุดคลุมออก ก่อนจะก้าวตามโขดหินไปยังเป้าหมายที่ต้องการ โดยมีผู้เป็นสามีคอยจับตามองทุกฝีก้าว “ระวังหน่อยถิงเอ๋อร์ หินมันลื่น” “ว๊าย!” ยังมิทันสิ้นคำ เสียงหวีดร้องก็ดังขึ้น เมื่อเท้าเปล่าเปลือยของหญิงสาวเกิดลื่นตะไคร่น้ำที่เกาะอยู่บนโขดหิน พรึ่บ! ก่อนที่จะบางจะตกลงไปในน้ำ เอวคอดก็ถูกรวบเอาไว้ได้เสียก่อน “ยังมิทันไร เจ้าก็ขัดคำสามีเสียแล้ว” ชายหนุ่มแสร้งดุหญิงสาวเบา ๆ อย่างไม่จริงจังนัก “มิได้เจ้าค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุต่างหากล่ะเจ้าค่ะ” จื่อลู่ถิงตอบเสียงอู้อี้อยู่กับอกของสามี หญิงสาวรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับกลิ่นกายหอมละมุนของสามีโดยมิรู้ตัว นางมั่นใจว่าเขาขี่ม้ามาตลอดทั้งวัน เหตุใดบนกายกลับไร้กลิ่นเหงื่อเล่า “มาเถอะ ข้าจะพาเจ้าลงเล่นน้ำเอง” “เอ่อ...ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” ร่างสูงไม่ได้ใส่ใจคำปฏิเสธของภรรยา กลับช้อนอุ้มร่างเย้ายวนนั้นก้าวลงในน้ำแทน เพียงกายสัมผัสน้ำ เฟยเทียนรู้สึกแข็งทื่อไปชั่วขณะ เมื่อความรู้สึกบางอย่างแล่นเขามาให้หัว
“อื้อ อ่า”หญิงสาวส่งเสียงคราง พร้อมยกก้นรับกับลิ้นร้ายของสามี ที่กำลังตวัดโลมเลียทั่วเนินสวาทของนาง ทำให้ตลอดทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน เฟยเทียนดูดเม้มยังเม็ดสวาทสีหวานของภรรยา เพื่อสร้างความหฤหรรษ์ให้แก่นาง เพียงความหวานที่สัมผัสปลายลิ้น เขาแทบจะควบคุมความกระสันอยากในกายเอาไว้มิได้ แต่ทว่าชายหนุ่มจำต้องข่มกลั้นเอาไว้เสียก่อน เพราะเจ้าของร่างอวบอิ่ม ที่กำลังเด้งรับปลายลิ้นของเขาอยู่ในตอนนี้ ยังไม่พร้อมให้เขาจู่โจมด้วยอาวุธประจำกาย “โอ้ววว ท่านพี่ อ่า...” ร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งกาย เมื่อถูกปลายลิ้นของสามีรุกล้ำเข้าไปยังเส้นทางสวาทของนาง รูเล็กแคบชื้นไปด้วยน้ำหวานที่เริ่มไหลเยิ้มออกมา สัมผัสกับปลายลิ้นของชายหนุ่ม “เร็วอีกเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าต้องการมากเหลือเกิน อ่า” เมื่อได้ยินคำเร่งเร้าของภรรยา เฟยเทียนมิคิดขัดใจ ชายหนุ่มดูดเม้มยังเม็ดสวาทของภรรยาแรงขึ้น ตามความต้องการของนาง “อ๊า ท่านพี่ ข้าจะไม่ไหวแล้วนะเจ้าคะ” หญิงสาวเอ่ยเร่งเร้าสามีมากขึ้น เมื่อร่างเย้ายวนสั่นสะท้านไปด้วยความเสียวซ่าน จื่อลู่ถ
“ไยต้องสน หากมันผู้ใดล่วงล้ำเข้ามา พี่จะสังหารมันทิ้งเสีย โทษฐานที่เห็นเรือนร่างงามของเจ้า” เอ่ยจบเฟยเทียนกดจูบยังซอกคอหอมกรุ่นของภรรยา ก่อนจะถอดถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสวาท แต่ทว่าชายหนุ่มยังมิได้ปล่อยร่างอวบอิ่มออกจากอ้อมแขนอย่างที่ควรจะเป็น “อาบน้ำกัน” จื่อลู่ถิงรู้สึกแสบเล็กน้อย เมื่อนั่งลงในน้ำอีกครั้งหลังจากถูกสามีจับกินกลางลำธาร หญิงสาวพยายามที่จะระงับความร้อนรุ่ม ที่ดูเหมือนกำลังถูกก่อกวนด้วยมือหยาบกร้านของสามี ที่ลูบไล้ไปทั่วกาย ก่อนจะหยุดยังเนินสวาทของนางอีกครั้ง “ท่านพี่อย่าเร่งร้อนสิเจ้าค่ะ คืนนี้ข้ามิหนีหายไปที่ใดสักหน่อย” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงยั่วเย้ากับอกของสามี เฟยเทียนเชยคางของภรรยาขึ้น ก่อนจะกดจูบลงไปอย่างอ่อนหวาน จื่อลู่ถิงตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจมิแพ้กัน มันมิใช่สิ่งผิดอันใดกับเรื่องของนางและสามี ความสัมพันธ์นี้ย่อมเป็นธรรมชาติของชายหญิง สองร่างต่างแลกรสจูบอันเร้าร้อนให้แก่กันจนความมืดกลืนกินไปรอบบริเวณ ทำให้สองสามีภรรยาจำต้องกลับไปยังที่พัก หลังมื้อค่ำทุกอย่างดูปกติ หาได้มีสิ่งใดผิด
“อ๊ะ อ่า แรงอีกเจ้าค่ะ ท่านพี่”เอวสอบกระแทกท่อนเอ็นเข้าสู่รู้สวาทของภรรยา ตามคำเรียกร้องของนาง ทั้งรุนแรงและเน้นหนัก เพื่อสนองตอบอารมณ์คุกรุ่นของเขาและนาง“ช่างคับแน่นอะไรอย่างนี้”เฟยเทียนพูดด้วยน้ำเสียงแหบพล่า เมื่อท่อนเอ็นของเขาถูกบีบรัดจากรูเล็กของภรรยา“อ่า ท่านพี่ข้า อ่า”ถ้อยคำของหญิงสาวถูกกลบด้วยแรงกระแทกจนสิ้น ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นนั้นแล่นไปทั่วกาย มือบางกำผ้าปูที่นอนแน่น เมื่อสามีกระแทกท่อนเอ็น เข้าสู่ตัวนางอย่างเน้นหนักตามคำร้อง“เจ้าชื่นชอบแบบใด พี่จะสนองต่อเจ้าเอง อ่า”เฟยเทียนบอกภรรยาด้วยน้ำเสียงกระเส่า ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วกาย ชายหนุ่มเลื่อนมือรวบจับขาเรียวงามลงจากบ่า ก่อนจะถอดถอนท่อนเอ็นออกมาจากร่างภรรยา“หันหลังให้พี่เด็กดี”ชายหนุ่มบอกภรรยาด้วยน้ำเสียงแหบพล่า ก่อนจะเข้าประชิดก้นงอนงามของหญิงสาว เมื่อนางทำตามที่เขาต้องการ ร่างอวบอิ่มโก่งโค้งรอการเติมเต็มจากสามี“อะ อ่า”เพียงท่อนเอ็นสัมผัสยังร่องสวาท จื่อลู่ถิงถึงกับสั่นไปทั้งกาย เพี๊ยะ! มือหยาบตบลงยังก้นงาม พร้อมกับกระแทกท่อนเอ็นเข้าภายในรูสวาทจนสุดลำ เสียงเนื้อกะทบกันดังประสานกับเสียงครางกระเส่าของทั้งคู่
สามเดือนต่อมา หลังจากการสืบสวนของศาล ผลสรุปของคดี ฉีชางพร้อมด้วยมารดาเลี้ยงของเขา ได้รับโทษประหาร ส่วนฮั่วเยว่อิงและมารดารวมถึงเฉินป๋อหยาถูกส่งไปใช้แรงงานในเหมือง ในฐานะนักโทษเป็นเวลาสิบปี ทางด้านเด็กน้อยเสี่ยวเป่า ฮั่วเสารับดูแลในฐานะลูก โดยทุกคนได้รับคำสั่งไม่ให้พูดเรื่องชาติกำเนิดแท้จริงกับเด็กน้อย เฉินห้าวหนานยืนมองเป้าหมาย ที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ไม่ไกล เขาหอบลูกติดตามหญิงสาวมาจนถึงชายแดนตะวันออก ทว่าทางสำนักคุ้มภัยบอกแก่เขาว่านางอยู่ที่นี่ หลังจากทำการเจรจากับท่านตาและท่านยายของหญิงสาวเป็นที่เรียบร้อย เขาจึงได้มาหานางที่นี่ ชายหนุ่มวางบุตรชายเอาไว้บนพื้นหญ้า ก่อนจะทำให้เจ้าก้อนแป้งส่งเสียงร้องงอแง ฮั่วเหลียนชินหันหาที่มาของเสียงร้อง ที่นางคุ้นเคยในทันที ก่อนที่นางจะเดินตามเสียงนั้นเสมือนต้องมนต์ แม้ในใจจะคิดว่านางคงกำลงคิดถึงหลานชายจนหูแว่ว “ห้าวหยาง!” ร่างบางวิ่งเข้าอุ้มหลานชายขึ้นสู่อ้อมแขนในทันที หญิงสาวกดจมูกลงบนแก้มอวบอ้วนด้วยความคิดถึง “เจ้ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน บิดาเจ้ารังแกเช่นนั้นรึ หลี
“ท่านแม่! ข้าเป็นลูกของท่านพ่อใช่หรือไม่ ข้ามิใช่ลูกเขาใช่ไหมขอรับ” เฉินป๋อหยาเอ่ยถามมารดา ด้วยน้ำเสียงแหบแห้งกว่าปกติหลายเท่านัก มารดาบอกแก่เขาว่าตนเป็นลูกของนางอย่างแท้จริง แต่เฉินห้าวหนานเป็นลูกชายของน้องสาว ที่แต่งมาเป็นอนุของบิดา ทว่าตอนนี้ไยทุกอย่างมันกลับกลายเป็นเขา ที่มิใช่สายเลือดสกุลเฉินไปได้ “แม่ขอโทษป๋อหยา’ ไม่ต้องมีคำอธิบายใด ๆ อีกแล้ว ทุกอย่างกระจ่างชัดจนชายหนุ่มทนรับมันต่อไปไม่ได้ ร่างสูงก้าวช้า ๆ ตรงไปยังประตูห้องจัดเลี้ยง เขาไม่ใช่คนสกุลเฉิน แต่เป็นลุกพ่อบ้านจวนสกุลฮั่ว หนำซ้ำคนผู้นั้นยังเป็นคนอยู่เบื้องหลังการตายของใครอีกหลายคน มารดาของเขาคือฆาตกรสังหารน้องสาวตนเอง เพื่อช่วงชิงลูกของนางมาเป็นของตนเอง ทุกอย่างมันร้ายแรงเกินกว่าที่เขาจะทนรับมันได้ ทว่าเพียงก้าวพ้นประตู เฉินป๋อหยาก็ถูกทหารรวบตัวเอาไว้ เพราะมีส่วนร่วมในการลอบสังหารฮูหยินในท่านแม่ทัพเฉินห้าวหนาน เฉินป๋อหยาไม่มีท่าทีขัดขืนใด ๆ ชายหนุ่มเหม่อลอยจนน่าตกใจ ก่อนที่เขาจะหันกลับเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง มารดาถูกคุมตัวนั่งเคียงข้างบิดาที่เขาเพิ่งรู้จัก อีกข้า
“หยุดนะห้าวหนาน วันนี้เป็นวันดีของน้องชาย เจ้าจะเอาเรื่องไร้สาระเช่นนี้ มาเล่าเพื่อสิ่งใดกัน” “อย่าได้ร้อนตัวสิขอรับท่านแม่ อย่างไรก็ฟังให้จบเสียก่อนจะดีกว่า” “นั่นสิ! เฉินฮูหยินให้หลานชายข้าเล่าต่อให้จบเถิด” ท่านเจ้ากรมการคลัง ได้พูดแทรกขึ้น เพราะเขาเองก็อยากจะฟังเรื่องนี้ให้จบ เพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่เขาเคยได้ยินมานั้น มันมิใช่สิ่งที่คิดไปเอง ซึ่งแขกในงานต่างแสดงความต้องการ เช่นเดียวกันกับท่านเจ้ากรม “เช่นนั้นต่อเลยนะขอรับ ในวันที่น้องสาวของนางคลอดบุตรชาย ตัวนางเองก็คลอดบุตรชายเช่นกัน อ่อ! ในตอนนั้น นางเลือกที่จะพาน้องสาวกลับไปคลอดยังบ้านเกิดมารดา อีกทั้งสามีที่เป็นแม่ทัพก็มิอาจปลีกตัวติดตามไปได้ ข่าวดีและร้ายได้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน นั่นคือท่านแม่ทัพได้บุตรชายสองคน ทว่าเพียงสองชั่วยามภรรยาและลูกชายอีกคนได้สิ้นใจลงอย่างน่าอนาถ” “แล้วมันยังไง ก็แค่เมียเอกกับเมียน้อยคลอดลูกพร้อมกัน ส่วนเรื่องคลอดลูกแล้วตกเลือดจนตายก็นับเป็นเรื่องที่มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย เด็กไม่แข็งแรงจะสิ้นใจก็ไม่แปลก” “แปลกตรงที่แท้จริงเมียเอกมิได
ตลอดสามวันที่เขาปล่อยข่าวว่าออกนอกเมืองไป มันทำให้เขาได้รู้เห็นเรื่องในบ้าน จนเรียกว่าเจ็บจนแทบจะกระอักเลือดเลยก็ว่าได้ “สัญญากับข้า อย่าได้แหวกหญ้าให้งูตื่น เพียงเพราะโทสะของท่าน” “ข้าสัญญา เจ้าก็ต้องรับปากข้า ว่าจะไม่เอาตนเองมาเสี่ยงเช่นนี้อีก เข้าใจหรือไม่” “เราเป็นอะไรกันเช่นนั้นรึ จึงต้องทำตามคำขอของท่าน ซึ่งมันมิใช่ส่วนรวมเช่นคำขอของข้าเลยสักนิด” “เจ้ากับลูกเป็นทุกสิ่งของข้า” “อย่าได้หมิ่นเกียรติข้าเกินไปนัก รู้ตนเองบ้างว่าท่านกับข้าเป็นใคร” “เพราะรู้ข้าถึงกล้ายอมรับมัน” “…” ฮั่วเหลียนชินมิอาจเอ่ยสิ่งใดตอบโต้ชายหนุ่มได้ นางทำเพียงก้าวเคียงข้าเขาไปเงียบ ๆ เพราะคร้านจะโต้แย้ง “ความรู้สึกมิใช่เงินตราก็ซื้อหาได้ ข้าคิดเช่นไรก็พูดออกไปเช่นนั้นมิได้โป้ปด ทุกอย่างสุดแท้แต่เจ้าจะมองเห็นเหลียนชิน” เฉินห้าวหนานเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมกระชับร่างบางให้แนบกายมากขึ้น ด้วยเกรงว่าเขาจะมิได้ชิดใกล้นางเช่นนี้อีก หลังจากกลับมาถึงจวน เฉินฮูหยินได้รีบมาที่เรือนของลูกสะใภ้ พร
“หึ ๆ ไม่นึกว่าวันนี้จะได้ยลโฉมคุณหนูใหญ่สกุลฮั่ว” เสียงจากด้านหลังหินก้อนใหญ่กลางสวน ไม่ได้ทำให้หญิงสาวทั้งสามรู้สึกตื่นเต้นเลยสักนิด ยิ่งอีกฝ่ายเรียกนางได้อย่างถูกต้อง นั่นแสดงว่าจิ้งจอกพิการทั้งสอง รนรานกลับไปหานายเก่าแล้ว และหากนางเดาไม่ผิดทั้งสองคนไร้ลมหายไปแล้วเช่นกัน “รวดเร็วทันใจดีแท้ หึ ๆ” หญิงสาวเอ่ยเบา ๆ กับสาวใช้ทั้งสอง ก่อนจะมองไปยังคนที่เผยตัวออกมาอย่างใจเย็น ทว่าเขายังคงปิดบังใบหน้าตนเองเอาไว้ “ไยต้องบิดบังใบหน้าด้วยเล่า ช่างไร้มารยาทในการพบเจอยิ่งนัก” “ไม่นึกเลยว่าเด็กขี้โรคเมื่อวันวาน จะกลายเป็นหญิงงามในวันนี้” “ขอบคุณที่ชม แต่ข้าก็ยังแปลกใจอยู่ดี ว่าเหตุใดกันเจ้าจึงมารอพบข้าที่นี่ อย่าบอกนะว่าเป็นเรื่องบังเอิญ มันย่อมไม่มีทางเป็นเช่นนั้นไปได้ เพราะความบังเอิญนี้มันเหมาะเจาะจนเกินไป” ฮั่วเหลียนชินกระชับอ้อมแขนรัดร่างอ้วนให้แน่นขึ้น นางสัมผัสได้ถึงไอสังหารที่อีกฝ่าย ตั้งใจปลดปล่อยออกมาเพื่อกดดันนาง อีกอย่างคือกำลังประเมินฝีมือของนางไปในตัว “จะกล่าวเช่นนั้นก็ย่อมได้ น่าเสียดา
สามวันถัดมา เฉินฮูหยินได้ให้สาวใช้มาแจ้งแก่ฮั่วเหลียนชิน ว่าจะพานางกับลูกไปไหว้พระ เพื่อขอพรให้กับครอบครัว หญิงสาวได้ตอบรับคำเชิญของแม่สามี หญิงสาวยกยิ้มร้าย เมื่อกล้าท้าทายนางก็พร้อมท้าชนเช่นกัน “บาดแผลของนายหญิง ยังไม่หายดีนะเจ้าคะ” “บาดแผลหนักกว่านี้พวกเราก็ผ่านกันมาแล้ว หากให้ผู้อื่นรู้ว่าข้าบาดเจ็บย่อมต้องเป็นสงสัยของทุกคน แค่เขารู้คนเดียวข้าก็หนักใจอยู่ไม่น้อย” ฮั่วเหลียนชินรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ เพราะถึงแม้ตอนนี้นางไม่รู้ว่าจะวางใจเฉินห้าวหนานได้มากแค่ไหน แม้เขาจะพูดกับนางอย่างตรงไปตรงมา ถึงความรู้สึกที่มีต่อน้องสาวของนาง ‘แม้ข้ามิได้รักนาง แต่ข้าก็มิคิดที่จะให้นางกับลูกตาย ห้าวหยางคือลูกชายของข้า ไยข้าจะชิงชังเขาได้เล่า แต่ข้าไม่นึกว่าการเดินทางของนาง จะเป็นการจากไปมิหวนคืนเช่นนี้’ “จิ้งจอกถูกปล่อยแล้วใช่หรือไม่” “เจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพี่ฉงอานกำลังจับตาดูอยู่เจ้าค่ะ” “ดี! มองอยู่เงียบ ๆ รอให้สาวถึงปลาตัวใหญ่ ค่อยลงมือในคราเดียว” “สาวใช้จากเรือนหลีหยา มาป้วนเปี้ยนบ่อยยิ่งนักเจ
ตอนสาย ณ เรือนเหลียนฮวา หลี่เยี่ยน กำลังยืนเผชิญหน้าอยู่กับมารดาของท่านแม่ทัพ ที่อยู่ ๆ วันนี้ต้องการพบลูกสะใภ้ ทั้งที่ทุกครั้งหากต้องการพบกับฮูหยินของนาง เฉินฮูหยินจะให้สาวใช้มาเชิญนายหญิงของนางไปพบ “เหลียนฮวาไปที่ใด นี่ก็สายมากแล้ว ไยนายเจ้ายังไม่ตื่นอีกเล่า” “เอ่อ…” “ท่านแม่มีสิ่งใดหรือขอรับ วันนี้จึงได้มารบเร้าอยากเจอสะใภ้ถึงเรือนเล่าขอรับ” เฉินฮูหยินถึงกับตัวชาไปทั้งร่าง ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หญิงสูงวัยคลี่ยิ้มกว้างส่งให้บุตรชาย “แม่แค่อยากชวนฮวาเอ๋อร์ออกไปดื่มชา กับบรรดาฮูหยินยังเหลาชีเหลียงเท่านั้นเอง” “เมื่อคืนนางแทบมิได้นอน ข้าเลยสั่งให้นางพักต่ออีกสักหน่อยขอรับ” “เจ้าค้างที่นี่เช่นนั้นรึ” “ข้าย้ายมาอยู่กับลูกเมียนานแล้วขอรับ เพียงแต่มิได้บอกผู้ใด เพราะนี่ถือเป็นเรื่องปกติของสามีภรรยามิใช่หรือขอรับ ข้าไม่นึกว่าท่านแม่อยากทราบเลยมิได้บอกขอรับ” “เช่นนั้นแม่กลับก่อนดีกว่า หากแม่รู้ว่าเจ้าอยู่ด้วยจะไม่มากวนใจพวกเจ้าผัวเมียเลย แม่ยิ่งอยากได้หลานเพิ่มอีกส
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” เฉินห้าวหนานประคองร่างบางให้แนบกาย ก่อนจะมองไปยังกลุ่มคนสวมหน้ากาก ที่ยืนหันหลังให้แก่เขาและคนในอ้อมแขน จะมีเพียงแค่ชายหนุ่มที่เข้าช่วยเขาและนางในคราแรก ที่ยืนมองเขามิวางตา “ไม่ว่าท่านจะรูเห็นสิ่งใดในวันนี้ จงลืมมันเสีย” หญิงสาวขยับผละออกห่างอกแกร่ง หญิงสาวเดินไปหาคนสนิท หมับ! ทว่าก่อนที่มือของฉงอานจะทันได้แตะต้องตัวผู้เป็นนาย แม่ทัพหนุ่มได้คว้าร่างบางนั้นกลับมาชิดกายอีกครั้ง ก่อนจะช้อนอุ้มนางขึ้นสู่อ้อมแขน “ข้าจะไม่ยินยอมให้บุรุษใดแตะต้องเจ้า” ร่างสูงก้าวออกจากตรอกเล็ก ตรงไปยังทิศทางออก โดยไม่สนใจว่าคนสวมหน้ากากทั้งหมดจะมองเขาเช่นไร ฮั่วเหลียนชินไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน หญิงสาวจำต้องซบใบหน้ากับอกกว้างของชายหนุ่ม ก่อนที่ดวงตาคู่งามจะปิดลง “ท่านแม่ทัพ! โปรดตามข้าน้อยมาทางนี้เถอะขอรับ เราจะให้ผู้ใดรู้ว่านายหญิงบาดเจ็บไม่ได้เป็นอันขาด” เฉินห้าวหนานไม่เอ่ยสิ่งใด ร่างสูงก้าวตามชายผู้นั้นไปอย่างเร่งร้อน เสียงลมหายใจของคนในอ้อมแขน ดูจะเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย เขากลัวเหลือเกินว่าลุกธนูนี้จะมียา
“เครื่องหอมนี้ข้ามิรู้ชื่อ แต่ข้ามีตัวอย่างนำมาให้ นายหญิงของข้าปรารถนาจะมีในครอบครอง” “วางลงตรงกล่องซ้ายมือ แล้วรอข้าสักครู่” ชายหนุ่มทำตามที่คนด้านในบอกทุกอย่าง ฮั่วเหลียนชินยังคงใจเย็นอยู่เช่นเดิม นางรู้กฎของคนค้าขายในเงามืดดี ทั้งเจ้าเล่ห์และคดโกง หมับ! ฟึ่บ! มือบางคว้าคอเสื้อของคนสนิทได้ทัน ก่อนทั้งคู่จะเบี่ยงกายหลบลูกดอก ที่พุ่งออกมาจากประตู แน่นอนว่ามันต้องอาบไปด้วยยาพิษ ฮั่วเหลียนชินไม่คิดที่จะบุ่มบ่ามเข้าไป หญิงสาวก้าวไปยังคบไฟที่ปักอยู่เสาเรือน ก่อนจะใช้วิชาตัวเบาขึ้นไปยืนอยู่บนหลังคา เมื่อให้เปิดประตูดี ๆ ไม่ทำ นางก็แค่เชิญคนด้านในอย่างเป็นมิตร เพียงครู่เดียวคนสนิทของหญิงสาวได้ขึ้นมายืนเคียงข้างผู้เป็นนาย โดยในมือมีขวดน้ำเต้าที่บรรจุเหล้าป่าเอาไว้ แน่นอนว่ามันคือหนึ่งในอาวุธที่นางชื่นชอบ ชายหนุ่มเปิดกระเบื้องออกอย่างเบามือ เมื่อแน่ใจว่าด้านล่างคือห้องเครื่องหอม ที่ไวต่อไฟในมือของผู้เป็นนาย เพล้ง! ฟรึ่บ! เพียงพริบตาไฟได้ลุกขึ้นลามไปที่เครื่องหอมและตัวบ้าน สองนายบ่าวยืนมองเปลวเพลิงค่อย ๆ ลุกลามไปเรื่อย ๆ