ตั้งแต่ที่ฉันจำความได้คุณแม่ของฉันพาฉันไปหาคุณพ่อทุกวันอยากจะใช้ฉันมัดคุณพ่อให้อยู่หมัด“เรื่องในวันนั้นเป็นอุบัติเหตุ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องปิดบังผม คลอดเด็กคนนี้ออกมา!”“ต่อให้คลอดออกมาแล้ว ผมก็ไม่มีทางยอมรับเธอ!”คุณแม่ของฉันหยิกแขนของฉันอย่างแรง ฉันทนความเจ็บปวดไม่ไหวจึงร้องไห้ออกมาทันที“เธอเป็นลูกสาวของคุณ ทำไมคุณถึงใจร้ายขนาดนี้!”“คนใจร้ายก็คือคุณ! ระหว่างผมกับคุณไม่ได้รักกันอยู่แล้ว ต่อให้คุณจะใช้เด็กมามัดตัวผม พวกเราก็จะไม่มีความสุข เพราะว่าผมไม่ได้ชอบคุณเลยด้วยซ้ำ!”คนที่อยู่โดยรอบเข้ามามุงดูเยอะขึ้นเรื่อยๆเสียงตำหนิเริ่มดังขึ้นทุกทีคุณแม่กลับทำเหมือนไม่ได้ยิน คุกเข่าอยู่บนพื้นและหยิกฉันอย่างแรง “ไม่ได้เรื่องเลย ฉันมีแกไว้จะมีประโยชน์อะไร!”เสียงร้องไห้ของฉันดังขึ้นเรื่อยๆคุณพ่อหมุนตัวรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว จนแทบจะวิ่งเลยก็ว่าได้คุณแม่เห็นดังนั้นจึงไม่หยิกฉันต่อ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปในทิศทางตรงกันข้ามฉันไม่สนใจความเจ็บปวด แล้วรีบวิ่งตามคุณแม่ไปฉันไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไร ความรักที่คุณแม่มีต่อคุณพ่อกลับแปรเปลี่ยนเป็นความแค
หลายปีมานี้ คุณแม่ของฉันไม่ได้ใกล้ชิดแต่ก็ไม่ได้เหินห่างกับฉัน แต่ฉันก็ยังรักเธอเหมือนเดิมวันที่ฉลองวันเกิดของเธอในวันนั้น ฉันนำเงินที่ได้จากการเก็บขยะขายไปซื้อต่างหูให้เธอคู่หนึ่งฉันผลักประตูบ้านด้วยความตื่นเต้นภายในห้องรับแขกกลับมีนักเรียนของคุณแม่นั่งอยู่เต็มห้องเธอเหลือบตามองฉันหนึ่งที แล้วพูดด้วยความเย็นชา “กลับเข้าห้องของเธอไป อย่ารบกวนการเรียนของพวกเขา”จากนั้นเธอจึงหมุนตัวแล้วพูดเสียงเบาๆ นุ่มๆ กับนักเรียนว่า “พวกเรามาดูข้อต่อไปกันนะคะ”ฉันเบ้าตาแดงเอ่ยพูดอย่างใจกล้าว่า “คุณแม่! คุณแม่!”ฉันเรียกติดต่อกันสองสามครั้งแต่ไม่มีการขานตอบนักเรียนของเธอกลับจ้องมองฉันตาไม่กะพริบคุณแม่จึงหันหน้ามา “เธอจะตะโกนทำไม! ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว อย่ามารบกวนเวลาฉันสอนอยู่! และฉันไม่ใช่แม่ของเธอ!เรียกฉันว่าคุณครูหยาง!”ฉันน้ำตาคลอเบ้า กล่องของขวัญที่กำอยู่ในมือ ถูกฉันวางลงเบาๆ แล้วจึงวิ่งกลับเข้าไปในห้องตอนที่ออกมาอีกครั้งพบว่า กล่องของขวัญถูกโยนทิ้งในถังขยะแล้วฝุ่นชอล์กเกลื่อนเต็มอยู่ข้างบนกล่องฉันเอื้อมมือลงไปหยิบกล่องของขวัญออกมาโดยไม่คิดอะไรเลยแล้วจึงเช็ดฝุ่นที่อยู่ข้างบ
ฉันกับคุณแม่ไม่สนิทกันอีกต่อไปเธอลืมวันเกิดของฉันจึงสมเหตุสมผลแล้วแต่ตอนที่ฉันถือเค้กกลับบ้าน กลับมองเห็นอาหารจัดวางอยู่เต็มโต๊ะฉันอดไม่ได้ที่จะเบ้าตาแดง ที่แท้คุณแม่จำได้ตลอดว่าวันนี้เป็นวันเกิดของฉันคุณแม่ของฉันยังรักฉันเหมือนเดิมวินาทีต่อมา สวี่เจียอี้ลูกศิษย์คนโปรดของเธอเดินออกมาจากห้องรับแขกคุณแม่ของฉันก็ถือกุ้งตัวใหญ่ออกมาจากห้องครัว พลางมองเค้กที่ฉันถืออยู่ในมือ“เธอรู้ได้ยังไงว่าวันนี้จะฉลองที่เสี่ยวอี้ได้ที่หนึ่งจากการแข่งขันฟิสิกส์?”ที่แท้ไม่ได้ทำเพื่อฉลองวันเกิดของฉัน แต่เลี้ยงฉลองให้สวี่เจียอี้ที่ได้ที่หนึ่งจากการแข่งขันฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ที่แท้ได้ที่หนึ่งก็สามารถเฉลิมฉลองได้เพียงแต่คนนั้นไม่ใช่ฉันเท่านั้นเองฉันจำได้ว่าตอนอยู่ชั้นประถม มีการจัดการแข่งขันคณิตศาสตร์ และฉันได้รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งของโรงเรียนตอนที่ได้ใบประกาศเกียรติคุณ ฉันรีบวิ่งกลับบ้านทันที แต่เพราะตื่นเต้นเกินไปจึงหกล้มลงบนพื้น แต่ฉันกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้แต่น้อย รีบคลานลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วฉันยื่นใบประกาศเกียรติคุณให้คุณแม่อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อแบ่งปันความสุ
ความสัมพันธ์ของฉันกับคุณแม่หักสะบั้นลงคือตอนที่สวี่เจียอี้มาสารภาพรักกับฉันตอนที่เขายืนอยู่ตรงหน้าฉันด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และพูดสามคำด้วยความประหม่าว่า ‘ผมชอบคุณ’ฉันอยากหลอกใช้เขา เพื่อดึงดูดความสนใจจากคุณแม่ของฉันอย่างยิ่ง แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ทำอย่างนั้นฉันปฏิเสธสวี่เจียอี้ไปแต่สวี่เจียอี้กลับไม่ยอมแพ้มาที่บ้านของฉันบ่อยขึ้นถึงขนาดเอาจดหมายรักมายัดไว้ในห้องของฉันวันนั้นฉันเพิ่งถึงบ้าน คุณแม่ของฉันก็ถือจดหมายรักรอฉันอยู่ฉันยังไม่ทันพูดอะไร ก็โดนตบหน้าเข้าอย่างจังฉันเอามือป้องใบหน้าด้วยสีหน้างุนงงจากนั้นจดหมายรักจึงฟาดมาบนใบหน้าของฉัน“สวี่เจียอี้ไม่เหมือนเธอ เขาจะต้องสอบเข้าที่ชิงเป่ย! (มหาวิทยาลัยปักกิ่งและมหาวิทยาลัยชิงหวา)”“แม้แต่พ่อของเธอก็ยังไม่สนใจเธอ ฉันเองก็เอาไม่อยู่แล้ว อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่ครูประจำชั้นของเธอ ต่อให้เธอออกไปขายตั*วก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน!”“แต่เธอไม่ควรอ่อยนักเรียนของฉันเลย!”อ่อยเหรอ?ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมคำนี้ถึงพูดออกมาจากปากของคุณแม่ของฉันแต่ว่าฉันไม่อยากเป็นแพะรับบาป“เขาเป็นคนมาสารภาพรักกับหนูเอง!”คุณแม่กระชากเส้นผมของฉัน “ดี
ฉันไม่รู้ว่าเดินออกมาจากบ้านได้อย่างไรตอนที่ฉันรู้สึกตัวอีกที ก็เดินมาอยู่ใต้ตึกของคุณพ่อของฉันแล้วฉันไม่อยากไปรบกวนชีวิตครอบครัวของคุณพ่อของฉันอีกแต่ขณะที่ฉันกำลังจะหมุนตัว ก็เห็นครอบครัวของคุณพ่อฉันลูกสาวตัวน้อยนั่งอยู่บนไหล่ของเขาภรรยายิ้มหน้าระรื่นคอยหยอกล้อกับลูกสาวตัวน้อยของเธอแต่พอมองเห็นฉัน รอยยิ้มของเธอกลับหายไปทันทีดูเหมือนว่าไม่ว่าฉันจะเดินไปที่ไหน ล้วนเป็นส่วนเกินไปเสียทุกที่ฉันรู้สึกเก้อเขินอยากวิ่งหนีไปแต่กลับถูกคุณพ่อวิ่งตามมามองดูผู้ชายมีอายุที่อยู่ตรงหน้าคนนี้แล้ว คงอาจจะเป็นเพราะว่าเขามีลูกสาวตัวน้อย ความเคร่งขรึมบนใบหน้าจึงน้อยลง มีความรักและเมตตาเพิ่มขึ้นฉันอยากจะเรียกเขา แต่กลับไม่รู้ว่าควรเรียกว่าอะไรพวกเขามองการเกิดมาของฉันเป็นความน่าอับอายคำที่พูดออกจากปาก จึงกลายเป็น “คุณครูเจียง”คุณพ่อยิ้มพลางพยักหน้า หยิบเงินห้าร้อยออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ฉัน“ต่อไปอย่ามาหาฉันอีก เธอก็เห็นแล้วว่าฉันมีครอบครัวใหม่แล้ว น้องสาวของเธอจะหึงหวงเอาได้”ฉันส่ายหน้าไม่หยุด อยากจะพูดอธิบายแต่เสียงเด็กที่อ่อนหวานกลับดังขึ้นมาจากข้างหลัง “คุณพ่อ”คุณพ่อมี
ฉันเดินเตร่ไปมาอยู่ข้างนอก เดินเตร็ดเตร่จนฉันรู้สึกว่าคุณแม่น่าจะใจเย็นลงแล้วแต่ฉันกลับมองเห็นข้าวของวางอยู่หน้าประตูบ้านถูกใส่อยู่ในกล่องสองใบ ข้าวของทุกอย่างของฉันถูกใส่อยู่ข้างในนี้ฉันเคาะประตู“คุณครูหยาง”ฉันที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และไม่มีเพื่อนฝูงสักเท่าไร ซ้ำยังไม่มีที่ไปอีก“เคาะหาอะไร! เธอไม่ใช่ลูกสาวของฉันแค่คนเดียว ไปหาพ่อของเธอไป๊!”หลังจากเสียงตะโกนด้วยความโกรธ ก็ตามมาด้วยเสียงล็อกประตูท่าที่เคาะประตูค้างเติ่งอยู่กลางอากาศอันที่จริงฉันรู้ดี เหตุการณ์ของสวี่เจียอี้ไม่ใช่ชนวนของเรื่องราว แต่เป็นเพราะหาเหตุผลที่เหมาะสมไม่ได้ต่างหากบางทีคุณแม่คงอยากจะตัดความสัมพันธ์กับฉันมานานแล้วเสียดายที่หาเหตุผลไม่เคยเจอตอนนี้จึงอาศัยเหตุการณ์ของสวี่เจียอี้ ในที่สุดเธอก็สามารถหลุดพ้นจากตัวภาระอย่างฉัน ที่คอยย้ำเตือนความอัปยศอดสูในอดีตของเธอตลอดเวลาได้ฉันหยิบกระต่ายตัวน้อยที่อยู่บนกล่องเท่านั้นนี่คือสิ่งที่คุณยายมอบให้ฉัน เป็นของเล่นเพียงชิ้นเดียวของฉันซึ่งในบรรดาข้าวของของฉัน เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ไม่ใช่ของมือสองเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เป็นของของฉันทั้งๆ ที่รู้นานแ
คุณพ่อให้เงินฉันมาห้าร้อย เป็นเงินเก็บก้อนเดียวของฉันฉันเสียดาย ไม่อยากเอาเงินนี้ไปเปิดห้องนอนในโรงแรมจึงหาร้านอินเทอร์เน็ตค่าเฟ่เหมานอนหนึ่งคืนฉันเลือกมุมหนึ่ง อยากจะนอนหลับที่นี่หนึ่งคืน เพราะวันพรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียนอีกแต่กลับคิดไม่ถึงว่า จะได้เจออันเข่อซิน เพื่อนร่วมชั้นที่ห้องเรียนคณิตศาสตร์โอลิมปิกสมัยชั้นประถมศึกษาเธอกำลังทำแบบจำลองคณิตศาสตร์อยู่บนคอมพิวเตอร์ แต่กลับติดขัดอยู่ที่หนึ่งฉันอดไม่ได้ที่จะเสนอความคิด“หยางชิง! เป็นเธอจริงๆ ด้วย! เธอรู้ไหม? ตอนนั้นที่เธอถอนตัวออกจากห้องเรียนคณิตศาสตร์โอลิมปิก คุณครูหูเสียใจอยู่นานมาก”ห้องเรียนคณิตศาสตร์โอลิมปิกในปีนั้น เป็นคุณครูหูเปิดสอนฟรีให้นักเรียนที่อยากเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกคุณครูหูบอกฉันว่า เธอเป็นนักเรียนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดเท่าที่เคยเห็นในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่คุณแม่ของฉันดันเกลียดที่ฉันมีพรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์“การแข่งขันระดับจังหวัดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว หยางชิง เธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์ดีที่สุดในเรื่องคณิตศาสตร์เท่าที่ฉันเคยเห็นมา!”ดูเหมือนคณิตศาสตร์จะกลายเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในใจ ไม่กล้าและไม
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันกอดตุ๊กตากระต่ายตัวน้อยยืนอยู่ตรงหน้าคุณครูประจำชั้นเพื่อขอยื่นเรื่องพักอยู่ในโรงเรียนกับเธอครูประจำชั้นมองคุณแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาสอบถามคุณแม่กลอกตาขาว “อย่าถามฉัน ตอนนี้เธอปีกกล้าขาแข็งแล้ว ฉันคุมไม่อยู่แล้ว”แต่คนที่ไล่ฉันออกจากบ้านก็คือเธอแท้ๆครูประจำชั้นจึงพูดด้วยความจริงใจ “เธอดูสิ ตอนนี้ก็เปิดเทอมมาตั้งนานแล้ว โรงเรียนก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอ แม่ลูกทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติมาก เธอก็ยอมๆ แม่ของเธอหน่อย ระหว่างแม่กับลูกไม่มีหรอกที่จะโกรธกันข้ามคืน”ยอมแม่?ดูเหมือนฉันยอมคุณแม่มาตลอดตั้งแต่ที่ฉันเกิดมาหลังจากที่เธอพาฉันไปหาคุณพ่อและถูกปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วน ฉันร้องไห้บอกคุณแม่ว่าหนูขอโทษ อย่าทอดทิ้งหนูตอนที่เธอเผากระดาษข้อสอบคณิตศาสตร์ของฉัน ฉันคุกเข่ากับพื้นบอกคุณแม่ว่าหนูไม่ชอบคณิตศาสตร์หนูเกลียดคณิตศาสตร์ตอนที่เธอไล่ฉันออกจากบ้าน ฉันเคาะประตูบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขอร้องให้เธอยอมให้ฉันเข้าไปแต่ทั้งหมดนี้ล้วนไม่ใช่ความผิดของฉันเลยเสียงแหลมของคุณแม่ดังขึ้นข้างหู “มีหรือที่ฉันจะกล้าให้เธอยอมฉัน!”ครูประจำชั้นก็ไม่สนใจอีก แล้วจึงจัดห้องพักใ
ฉันกลับจากต่างประเทศในปีถัดมาฉันนำความรู้ที่ได้เรียนมา กลับมาตอบแทนประเทศบ้านเกิดและงานที่ฉันทำคือ การออกแบบวงโคจรของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศฉันเชื่อว่าคุณยายที่อยู่บนสวรรค์ จะมองเห็นผลงานชิ้นเอกของฉันแน่นอนเรือเบาแล่นผ่านหมื่นภูเขา ประหนึ่งความลำบากและความท้าท้ายที่ผ่านมาในชีวิต จะทำให้เรากล้าเผชิญหน้าและมีความหวังอีกครั้ง
หลังจากสิ้นสุดการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ฉันจึงศึกษาต่อที่ต่างประเทศเวลาประมาณตีสามตีสี่ ฉันรับสายจากคุณแม่หู“ชิงชิง ครูหยางถูกจับแล้ว”คนที่จับเธอก็คือสวี่เจียอี้ นักเรียนคนโปรดของเธอเรื่องแรกที่สวี่เจียอี้ทำหลังจากย้ายไปที่สำนักการศึกษา ก็คือทำการสืบสวนคุณแม่ตอนนั้น ผลการเรียนในชั้นคุณแม่ทำไมถึงดีขนาดนั้น เป็นเพราะเธอใช้การหลอกล่อทางจิตวิทยา กับพวกเขามานานกว่าสามปีถึงขนาดที่ว่านักเรียนที่ผลการเรียนไม่ดีและชอบเล่นสนุก จะถูกลงโทษทางร่างกายโดยให้พวกเขาตบหน้าซึ่งกันและกันเดิมทีฉันคิดว่าคุณแม่ไม่ใช่แม่ที่ดี แต่กลับเป็นครูที่ดี แต่ดูจากตอนนี้แล้วเธอไม่มีอะไรดีเลยในวันที่เรื่องราวถูกสอบสวนออกมา คุณแม่ก็ถูกถอดรายชื่อออกทันทีจากคุณครูหยางที่มีคนเคารพนับถือ กลายเป็นหนูข้างถนนแต่อาศัยว่าเป็นคุณแม่ของฉัน คนพวกนั้นจึงไม่ได้ซ้ำเติม และยังช่วยดูคุณแม่อยู่บ้างเพราะเห็นแก่หน้าของฉันแต่ฉันจะเป็นคนซ้ำเติมเองแน่นอน โจมตีเธอให้ตายวิดีโอในตอนนั้นฉันยังเก็บไว้ตลอดเดิมที อยากจะรอให้ชีวิตของคุณแม่อยู่บนจุดสูงสุดในชีวิตแล้วปล่อยออกมาแต่ตอนนี้เป็นจังหวะที่ดีหลังจากปล่อยวิดีโอออกมา
ฉันได้เจอคุณแม่อีกครั้งคือตอนที่ฉันกลับมาเยี่ยมคุณแม่หูครั้งนี้ ฉันต้องไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศกลัวว่าคุณแม่หูจะเป็นห่วงจึงกลับมาเยี่ยมเธอหลายปีที่ผ่านมา ฉันกับอาจารย์ที่ปรึกษาทำโปรเจคอยู่บ้าง จึงทำเงินได้ไม่น้อยเรียนรู้วิธีการใส่สร้อยคอลงในกล่องมันฝรั่งทางออนไลน์คุณแม่หูเบ้าตาแดงก่ำส่วนฉันสบตากับคุณแม่ที่ยืนอยู่นอกหน้าต่างพอดีเธอผอมลงมากและแก่มากเหมือนกัน ไม่มีความแข็งกร้าวแบบนั้นอีกแล้วสุดท้ายฉันก็ออกไปพบเธอ“ครูหยาง คุณไม่อยู่ฉลองปีใหม่กับครอบครัวของคุณเหรอ? นักเรียนของคุณไม่มาเยี่ยมคุณเหรอ?”ในฐานะลูกสาวของเธอ ฉันรู้ดีว่าคำพูดไหนแทงใจเธอมากที่สุด“ชิงชิง ฉันเป็นแม่ของเธอนะ”“แม่ของฉันอยู่ข้างในโน่น ครูหยาง คุณอย่ามาตีสนิทกับฉัน”เธออยากจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับฉันแต่ฉันไม่อยากการทำร้ายยังคงอยู่ตลอดและฉันก็ไม่ใช่แม่พระ ให้อภัยในสิ่งที่ผ่านมาไม่ได้
ก่อนที่จะเข้ารั้วมหาวิทยาลัยดูเหมือนสวรรค์จะเล่นตลกกับฉันจู่ๆ คุณพ่อก็ถูกเปิดเผยว่าเขาปลอมวุฒิการศึกษาผลสอบวิชาคณิตศาสตร์ของเขา แม้แต่สอบผ่านก็ยังทำไม่ได้ไม่แปลกใจเลยที่เขาอยากให้ฉันไปสอนลูกสาวของเขาเวลานี้ ฉันเองก็ตระหนักขึ้นได้ว่า พรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์ของฉัน ถูกถ่ายทอดมาจากคุณแม่แต่รู้สึกว่าตลกสุดๆทุกอย่างในตอนแรกเหมือนเป็นเรื่องตลกขนาดฉันยังตระหนักขึ้นได้ คุณแม่เองก็เช่นกันการโจมตีเช่นนี้ เธอรับไม่ได้แน่นอนเธอจะยอมรับได้อย่างไรว่า สาเหตุที่เกลียดฉันมานานหลายปี แท้จริงแล้วเป็นเรื่องโกหกเธอแก่ลงไปมากฉันเจอเธออีกครั้ง ตอนที่อยู่สนามบินเธอยืนส่งฉันจากที่ไกลพอสมควรฉันได้แต่ทำเป็นมองไม่เห็น และยังคงบอกลากับคุณครูหูไม่ใช่สิ ตอนนี้เป็นคุณแม่หูแล้ว“ที่ปักกิ่งอากาศแห้งมาก หนูอย่าลืมทาโลชั่นเยอะๆ นะ”“ไม่ต้องประหยัดเงินเพื่อแม่ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมชั้น...”จนกระทั่งอันเข่อซินมาถึง คุณแม่หูจึงแยกจากฉันอย่างอาลัยอาวรณ์
ได้เจอคุณแม่อีกครั้ง ก็หลังจากที่สิ้นสุดการสอบเอนทรานซ์วันที่สองที่ผลสอบออกมา ได้มีการจัดงานเลี้ยงฉลองเรียนจบของรุ่นสวี่เจียอี้สอบได้ที่หนึ่งของเมือง ถึงแม้จะสอบเข้าชิงเป่ยไม่ได้ แต่ก็เลือกมหาวิทยาลัยดีๆ ได้เต็มที่คุณแม่ดีใจมาก พูดชมต่างๆ นานา“บอกแล้วใช่ไหมว่าเจียอี้ของเราเก่งมาก!”“มาพวกเรา ยกแก้วพร้อมกัน แสดงความยินดีที่เจียอี้เรียนจบอย่างราบรื่น!”ทั้งๆ ที่คนที่เรียนจบในปีนี้ไม่ได้มีแค่สวี่เจียอี้คนเดียวเท่านั้น แต่ในสายตาของคุณแม่มีเขาคนเดียว“ครูหยางเก่งจริงๆ ลูกสาวถูกส่งตัวเข้าชิงเป่ย นักเรียนก็สอบได้ที่หนึ่งในเขตเมือง!”เมื่อคำพูดนี้ดังออกไป ทุกคนจึงมองมาที่ฉันใบหน้าของคุณแม่แดงขาวสลับกันเธอดึงแขนเสื้อของฉันพูดเบาๆ ว่า “เธอมาทำอะไรที่นี่? ที่นี่เขาฉลองนักเรียนที่สอบเอนทรานซ์ได้ ไม่ได้ต้อนรับเธอ”ฉันหัวเราะขึ้นมา “ครูหยาง คุณจะไม่แสดงความยินดีที่ฉันได้เหรียญทองหน่อยเหรอ? แถมยังเป็นเหรียญทองของคณิตศาสตร์อีกด้วย!”ใบหน้าของคุณแม่เขียวปัด เสียงหัวเราะเย็นชาออกมาตามซอกฟัน “ก็ไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีอะไร ข้อสอบการแข่งขันแบบนี้ก็ยังทำได้”การสร้างข่าวลือเสื่อมเสียให้ใครคน
เมื่อกลับมาที่ตัวจังหวัดมีป้ายแขวนไปเกือบทุกที่ ล้วนเป็นการเฉลิมฉลองที่ฉันได้เหรียญทอง ถูกส่งตัวไปชิงเป่ยได้สำเร็จเพราะฉัน อัตราการรับสมัครนักเรียนใหม่ของโรงเรียนจึงเพิ่มขึ้นไม่น้อยแม้แต่คุณพ่อที่หลบหน้าฉันแทบตาย ก็ยังมาหาฉันฉันยังคงนั่งอยู่ในสถาบันของคุณครูหูเหมือนเดิม คอยช่วยงานเล็กๆ น้อยๆคุณพ่อนั่งอยู่ในห้องรับแขกอย่างตื่นเต้น ใช้มือถูกางเกง เช็ดเหงื่อที่อยู่ในมือเป็นครั้งคราวนั่นคือครั้งแรกที่ฉันเห็นรอยยิ้มเอาใจบนใบหน้าของคุณพ่อพอฉันเข้าไป เขาก็ยื่นนมลังหนึ่งที่ซื้อมาให้ฉัน“เสี่ยวชิง พ่ออยากปรึกษาหนูเรื่องหนึ่ง น้องสาวของหนูเรียนคณิตศาสตร์แย่มาก อยากให้ลูกไปช่วยสอนเธอหน่อย ไม่รู้ว่าหนูจะมีเวลาไหม”ฉันเหลือบตาขึ้นมองด้วยความงุนงงคุณพ่อเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องให้ฉันไปช่วยสอนน้องสาวด้วยคุณพ่อเกาเส้นผมที่บางตาอย่างเขินอาย“หนูก็รู้ว่าระหว่างคนในครอบครัวเป็นยังไง พ่อสอนน้องสาวของหนูได้ไม่ดี พ่ออดไม่ได้ที่จะใช้คำพูดรุนแรงกับเธอ”ฉันสะอึกเล็กน้อยตอนเด็กคุณพ่อใช้ไม้กวาดไล่ฉันออกมาจากในบ้านใช้ก้อนหินทุบฉัน พูดจากับฉันด้วยคำพูดสกปรกต่างๆ นานาฉันรู้
โชคชะตาเมตตาฉันอีกครั้งฉันได้รับเหรียญทอง และได้โควต้าส่งตัวเข้าชิงเป่ยน้ำตาไหลลงมาโดยไม่รู้ตัวคนส่วนใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ล้วนเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่เคยร่วมเข้าแข่งขันหลายครั้งแล้วถ้าหากไม่ใช่อันเข่อซินที่บอกฉัน ฉันคงไม่มีวันรู้ว่า อยากจะเข้าชิงเป่ยยังมีเส้นทางนี้ด้วยวินาทีนี้ ฉันสัมผัสได้อย่างลึกซึ้งถึงประโยคที่ว่า พื้นฐานทางการเงินเป็นตัวกำหนดโครงสร้างชั้นบนจุดเริ่มต้นของคนอื่น ฉันต้องใช้เวลาสิบเจ็ดปีกว่าจะเดินมาถึงแต่ก็ยังดี ที่ฉันได้บัตรเข้างานสายตาของฉันแหงนมองขึ้นไปโดยไม่รู้ตัว อยากจะมองท้องฟ้าผ่านหน้าต่าง อยากจะบอกคุณยายว่าฉันกำลังพยายามที่จะกลายเป็นนักคณิตศาสตร์อยู่แต่หน้าต่างข้างนอกกลับเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ฉันมองอยู่นาน จึงจะมองเห็นท้องฟ้าที่สามารถมองเห็นได้ตามชนบทตอนที่ได้รับการสัมภาษณ์ เมื่อเทียบกับความนิ่งของคนอื่นๆ แล้วฉันตื่นเต้นจนเสียงสั่นเครือแต่วินาทีที่สบตากับคุณครูหูและอันเข่อซิน ฉันจึงใจเย็นลงฉันเดินมาถึงจุดนี้ได้ มีคนที่อยากขอบคุณมากมายเหลือเกินถ้าหากไม่มีพวกเขา ฉันคงไม่ได้ออกมาจากตำบลเล็กๆ นั่นตลอดไปครั้งนี้ไม่มีใครเผากระดาษข้อสอบ และฉี
หลังจากการแข่งขันลีก คุณครูหูจึงจัดสถานที่ที่ไม่มีใครรู้ ยกเว้นฉันกับเธอการเรียนคณิตศาสตร์ของฉันถูกย้ายไปเรียนออนไลน์จะเกิดความผิดพลาดขึ้นกับฉันไม่ได้อีกหลังจากผลการแข่งขันลีกออกมา คุณแม่ก็จะรู้เรื่องที่ฉันถนัดมือซ้ายในไม่ช้าดังคาด ในวันนั้นที่ผลการแข่งขันออกมาครูที่อยู่ในห้องทำงานมาแสดงความยินดีกับคุณแม่คุณแม่ไม่เชื่ออย่างแน่นอน“พูดมั่วอะไร มือขวาของหยางชิงหักแล้ว จะเขียนหนังสือยังไง คุณจะต้องดูผิดแน่นอน”คุณครูรีบพาคุณแม่เดินไปทันที เทียบทุกอย่างตั้งแต่โรงเรียนไปจนถึงรายละเอียดอย่างอื่น“คุณดูสิ ฉันมองผิดตรงไหน มองไม่ออกเลยว่าชิงชิงของพวกคุณจะเป็นอัจฉริยะจริงๆ”คุณแม่ยืนไม่มั่นคง ปากพูดพึมพำ “ไม่มีทางๆ”เธอไปหาสำนักการศึกษาและเจ้าหน้าที่อีกครั้ง การรายงานในครั้งนี้คือสงสัยว่าสถาบันครูหูจะซื้อรายชื่อหลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว จึงคืนความบริสุทธิ์ให้แก่สถาบันคุณแม่ได้พูดอีกว่าเครื่องต้องมีปัญหาแน่เจ้าหน้าที่รู้สึกรำคาญคุณแม่สุดขีด“มีแม่อย่างคุณที่ไหน ไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองประสบความสำเร็จ!”หลังจากความพยายามสองสามครั้ง ผลที่ได้คือผลการแข่งขันของฉันนั้นขาวสะอา
หลังจากคุณครูหูรู้ว่าคุณแม่เป็นคนที่ขี่รถชนฉันเธอจึงโทรแจ้งความโดยไม่คิดอะไรแล้วแต่ถูกฉันห้ามไว้ เพราะฉันยังนึกถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวอยู่แต่อยากใช้สิ่งนี้ปลดปล่อยให้ฉันเป็นอิสระคุณครูหูติดต่อคุณแม่โดยใช้วิดีโอจากกล้องวงจรปิดข่มขู่เธอคุณแม่ปรากฏตัวในห้องคนไข้ในไม่ช้าเธอมองมือขวาของฉันที่ใส่เฝือกอย่างพึงพอใจ“จะให้ฉันส่งเธอไปแข่งขันไหม?”เธอพูดแทงใจดำทุกคำพูด ถ้าหากฉันถนัดมือขวาอย่างเดียวจริงๆฉันในตอนนี้ที่ได้ฟังคำพูดเหล่านี้คงจะบ้าตายแน่นอนคุณครูหูเร่งให้ที่ปรึกษากฎหมายของสถาบัน นำหนังสือตัดขาดความผูกพันทางสายเลือดยื่นให้คุณแม่ทันทีบนนั้นระบุชัดเจนว่า สำหรับเธอแล้ว ฉันมีหน้าที่แค่เลี้ยงดูตามกฎหมายเท่านั้น“ครูหยางถ้าหากคุณไม่เซ็น ฉันก็ไม่ถือสาที่จะนำคลิปวิดีโอนี้โพสต์บนอินเทอร์เน็ต ให้พวกเขาได้เห็นว่าครูดีเด่นคนนี้ ปฏิบัติกับลูกสาวของตัวเองอย่างไรบ้าง”คุณแม่หัวเราะ “หยางชิง เธอประเมินตัวเองสูงเกินไปหรือเปล่า ฉันจะบอกเธอให้นะ ถึงแม้จะไม่มีคลิปวิดีโอนั้น ฉันก็เซ็นเหมือนเดิม ฉันไม่สนใจเงินค่าเลี้ยงดูแค่นั้นของเธอหรอก นักเรียนที่ฉันสอนมาจะเลี้ยงดูฉันตอนแก่”“ยิน