วันต่อมา09:00น.สนามบิน เบสท์เวิร์คแอร์ไลน์......เอริ ฐิติมน........"วันนี้เป็นอะไรนะ?"ฉันเอ่ยพึมพำกับตัวเองขึ้นหลังจากที่เดินกลับไปยังห้องด้านหลังของตัวเครื่องบินเพื่อจะไปจัดการทำความสะอาดอุปกรณ์ของใช้ของผู้โดยสารและจะได้เลิกงานกลับบ้านแต่วันนี้ที่ฉันบ่นขึ้นมาเพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะและรู้สึกพะอืดพะอมยังไงไม่รู้อาการแปลกๆ พอเวลาเครื่องบินเเลนด์ดิ้งก็เวียนศีรษะเกือบเซล้มดีที่น้องแอร์โฮสเตสที่มีเที่ยวบินเดียวกันพยุงร่างไว้ได้ทัน ฉันจึงไม่หงายหลังล้มตึงหัวกระแทกพื้นไปเสียก่อน"วันนี้พี่เอริไม่สบายหรือเปล่าคะ....มองหน้าตาดูซีดๆนะคะ"เสียงของน้องน้ำฝนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เธอเพิ่งจะเดินกลับมาจากการทำความสะอาดห้องที่นั่งผู้โดยสารเสร็จแล้วฉันก็ละสายตาจากจานแก้วที่ฉันกำลังล้างอยู่ในซิงค์ไปมองหน้าเธอ"อืมพี่ก็รู้สึกเหมือนจะไม่สบายเหมือนกันนะ...รู้สึกแปลกๆ"ฉันตอบน้ำฝนไป เธอก็มองฉันด้วยสายตาเป็นห่วง ฉันกับเธอเราเพิ่งจะเคยทำงานด้วยกันแค่สองครั้งแต่แปลกทำไมเธอดีกับฉันจัง ไม่สิ ไม่ใช่แค่เธอที่ดีกับฉัน แต่ทุกคนเลยต่างหากล่ะที่ดีกับฉันน่ะ ดีจนฉันอดที่จะแปลกใจไม่ได้หรืออาจจะเป็นเพราะฉันอาจจะมองโลกในแ
โรงพยาบาลเอกชน Q3ชั่วโมงต่อมาห้องพักผู้ป่วยVVIPเอริ ฐิติมน....."อื้อออ"ฉันเริ่มบิดตัวไม่มาอย่างเมื่อยล้าและอ่อนเพลีย รู้สึกหนักศีรษะและยังมึนๆอยู่บ้าง ฉันจึงยกแขนขึ้นมากุมศีรษะตัวเองก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่น เพราะครั้งสุดท้ายก่อนที่ฉันจะหมดสติไป ฉันจำได้ว่าฉันหมดสติที่หน้าสนามบินเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์หนิและตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน มองไปทางไหนก็เป็นสีขาวไปหมด รวมถึงผ้าห่มที่ห่มร่างกายฉันอยู่ด้วยก็ยังเป็นสีขาวบริสุทธิ์"โรงพยาบาลเหรอ?"ฉันพึมพำออกมาก่อนจะรู้ได้เมื่อสายตามองไปสำรวจรอบห้องแล้วก็พบว่าที่นี่มันคือโรงพยาบาลและชุดที่ฉันใส่อยู่ก็เป็นชุดของโรงพยาบาลอีกด้วยว่าแต่ใครกันที่พาฉันมาโรงพยาบาลนะพรึบฉันพยายามขยับตัวเพื่อจะยันกายลุกขึ้นนั่งแต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาอย่างตกใจ"คุณเอริจะไปไหนครับ"เสียงตกใจเอ่ยเสียงดังก่อนที่ร่างสูงโปร่งของหนุ่มลูกครึ่งจะวิ่งถลามาอย่างรวดเร็วเพื่อมาประคองร่างกายช่วยฉันกลัวว่าฉันจะตกเตียง"คุณเควิน?"ฉันเอ่ยชื่อคุณเควินไปพลางมองหน้าเขาไปอย่างสงสัยที่เห็นว่าเขาอยู่ที่นี่ งั้นแสดงว่าคนที่พาฉันมาโรงพยาบาลก็คือเขาน่ะสิ"อยากไ
วันเดียวกันบ้านเอริ17.50น.เอริ ฐิติมน......."ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"ฉันเอ่ยขอบคุณคุณเควินไปที่เขาเป็นคนอาสาขับรถมาส่งฉันที่บ้านหลังจากที่ฉันนอนโรงพยาบาบมาเกือบหนึ่งวันเต็มๆโดยที่คุณเควินออกค่ารักษาให้ฉันทั้งหมด แต่ฉันไม่ยอมแต่ก็สู้เขาไม่ได้เพราะเขาไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายก่อนฉัน แถมเขายังไม่รับเงินคืนจากฉันเสียอีก"พรุ่งนี้และยาวไปถึงอาทิตย์หน้า.....คุณเอริมีไฟล์บินทุกวัน"ฉันมองหน้าคุณเควินอย่างงุนงงและสงสัยว่าเขารู้เกี่ยวกับตารางงานไฟล์บินของฉันได้ยังไงหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ยิ้มกริ่มให้ฉันอย่างมีเลศนัย"ผมในสถานะท่านประธานแห่งเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์ขออนุญาตให้คุณเอริหยุดงานได้จนกว่าร่างกายของคุณจะพร้อมที่จะกลับไปทำงานได้ครับ""และเงินรายเดือนก็จะได้รับเท่ากับเงินเดือนรวมไปถึงเงินพิเศษบวกเพิ่มจากตารางการบินด้วยครับ""ผมขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้บอกคุณเอริก่อนว่าผมเป็นใคร"คุณเควินเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด แววตาของเขาเศร้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่ฉันมองเขาด้วยแววตาตื่นตกใจปนไม่พอใจนิดหน่อยฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมพนักงานในเบสท์เวิร์คแอร์ไลน์ถึงได้ดีกับฉัน และฉันก็เข้าใจอีกว่าทำไมฉันถึงได้อภิสิทธ
"ค่ะ...ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆที่ให้กันและการลางานที่คุณเสนอให้ฉันคิดว่าฉันคงจะไม่กลับไปบินอีกแล้วล่ะค่ะเพราะฉันมีเจ้าตัวเล็ก""อะไรๆก็คงจะไม่สะดวก""งั้นคุณย้ายไปทำงานตำแหน่งอื่นดีไหมครับ....คุณเคยเป็นเลขามาก่อนหนิ""ใช่ค่ะ....และฉันก็ยังต้องการงานด้วย....งั้นรบกวนคุณเพื่อนเควินช่วยหางานที่เหมาะสมให้กับเพื่อนเอริคนนี้ด้วยนะคะ""ได้ครับไม่มีปัญหา"คุณเควินว่าพร้อมยิ้มแก้มปริอย่างดีใจ ที่ได้ยินคำพูดที่สนิทจากปากของฉัน และฉันก็เอ่ยขอตัวลงจากรถเพื่อจะเข้าบ้าน"งั้นฉันไปก่อนนะคะไว้ได้งานแล้วก็ติดต่อมาได้ค่ะ""โอเคครับ....ไว้เจอกันครับเพื่อนเอริ""ยินดีเสมอค่ะเพื่อนเควิน"ฉันยิ้มให้คุณเควินก่อนจะเปิดประตูรถสปอร์ตของคุณเควินลงมาและหันไปยิ้มลาให้เขาก่อนจะมุ่งหน้าเดินตรงเข้าบ้าน"เดี๋ยวครับเอริ"แต่แล้วฉันก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้าลงเมื่อได้ยินเสียงเรียกรั้งของคุณเควินดังขึ้นจากทางด้านหลัง ฉันที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดบ้านก็ต้องหันกลับไปมองยังต้นเสียงของเขาก็พบว่าคุณเควินวิ่งถือซองยาบำรุงครรภ์ที่หมอให้ฉันมาทานลืมไว้บนรถเขาจนได้"รินี่ขี้ลืมจริงๆขอบคุณนะคะ"ฉันเอ่ยขอบคุณคุณเควินไปหลังจากที่เขาวิ่งมาหยุ
หลายวันต่อมา บ้านเอริ 10:30น. เอริ ฐิติมน...... "ตัดตรงนี้ให้สั้นอีกไหมครับคุณเอริ?"เสียงทุ้มแห้งของคุณลุงเอ่ยถามฉันขึ้น หลังจากที่ฉันมายืนสั่งงานให้ลุงเขาทำความสะอาดสวนในตัวบ้านฉัน โดยทำการตัดหญ้าและตัดแต่งกิ่งไม้ ฉันมักจะจ้างเขาคนนี้อยู่เป็นประจำ ลุงแกรับจ้างทั่วไปและรับจ้างคนในหมู่บ้านทำสวนด้วย ฉันรู้จักและได้คำแนะนำให้รู้จักลุงมาจากยามเฝ้าหน้าหมู่บ้านน่ะ "ก็ดีนะคะคุณลุง"ฉันก้มหน้าลงไปมองยังจุดที่คุณลุงบอกก่อนจะตัดสินใจและเห็นด้วยกับสิ่งที่ลุงว่า เพราะฉันเองก็ไม่อยากเป็นเจ้านายงี่เง่าจุกจิกเช่นกัน "โอเคครับถ้าคุณเอริไม่ชอบตรงไหนบอกลุงได้นะ" "โอเคค่ะคุณลุง"ฉันยิ้มรับคุณลุงไปก่อนจะเดินไปดูดอกไม้หลายชนิดที่ถูกปลูกไว้ในบ้านอย่างสวยงาม ก่อนจะชื่นชมมันด้วยความสงบร่มเย็นก่อนจะยื่นมือขึ้นมาลูบที่หน้าท้องที่ยังคงแบนราบของฉันอยู่ก่อนจะยิ้มกริ่มออกมาอย่างคนที่กำลังมีความสุขมากๆ "ชอบไหมคะอากาศร่มเย็นแบบนี้"ฉันเอ่ยพูดกับลูกในท้องไปก่อนจะสูดดมกลิ่นบริสุทธิ์ไปด้วยหัวใจที่พองโต ตอนนี้คุณหญิงนฤมิตรและขุนศึกก็อยู่ที่บ้านหลังนี้มาได้อาทิตย์กว่าแล้ว โดยอาการของคุณหญิงก็ดีขึ้นเรื่อยๆแต่เธอก็ยั
นี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับผมในรอบหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมมีกำลังใจที่จะเผชิญปัญหาข้างหน้าตาอึไปแล้ว ผมจะไม่คิดสั้นตัดช่องน้อยอีกแล้ว เพราะชีวิตของผมต่อจากนี้ มันมีสิ่งลำ้ค่าที่สุดในชีวิตผมกำลังรอเจอและรอรับความรักจากผมอยู่"พ่อจะสู้เพื่อหนูนะ....เจ้าตัวเล็ก"ผมเอ่ยออกมากับภาพถ่ายอัลตราซาวด์สีขาวดำก่อนจะผุดรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าของผม นี่ก็เป็นรอยยิ้มแรกของผมในรอบหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเช่นกัน......วันเดียวกันผับ W23:45น."สวัสดีครับ"ผมยกมือไหว้คุณณัฐวุฒิไปด้วยความอ่อนน้อมทันทีที่ผมมาหยุดยืนมี่โต๊ะวีไอพีของเขา เขาที่นั่งดริ้งค์อยู่กับสาวๆอีกสองคนมี่มีเรือนร่างหุ้นสะบึ้มอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ก่อนจะกระตุกรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นก่อนจะยกมือรับไหว้ผมอย่างเต็มใจ"สวัสดีครับคุณขุนณรงค์เชิญนั่งก่อนครับ"เขาว่าพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญให้ผมนั่ง "ขอบคุณครับ"ผมก็เอ่ยขอบคุณเขาไปก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตัวเองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับคุณณัฐวุฒิตามคำเชิญของเขาคุณณัฐวุฒิคือหนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัทSMบริษัทแม่ของบริษัทAKของผม เท่ากับเขามีความสำคัญมากในการที่ผมมาขอเขาเข้าพบในวันนี้แต่ผมกลับไม่เบ้าใจว่าเราจะคุยธุรกิ
เช้าวันต่อมา08:00น.บ้านเอริเอริ ฐิติมน......"ไม่สบายดีขึ้นหรือยังเรา?"เสียงเป็นห่วงดังมาจากป้าบัวที่เอ่ยขึ้นทักฉันทันทีที่ร่างของฉันเดินเข้ามาในส่วนของห้องครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันก็ยิ้มบางๆให้ท่านก่อนจะเดินเข้าไปหาท่านที่จัดเตรียมอาหารใส่ปิ่นโตเหมือนจะเอาไปให้ใครเรื่องฉันท้อง ฉันยังไม่ได้บอกป้าบัว และยังไม่มีใครรู้นอกจากฉันและคุณเควิน ฉันก็ตั้งใจจะบอกป้าบัวนั้นแหละ แต่ค่อยหาโอกาสเหมาะๆบอกท่านดีกว่า"ดีขึ้นแล้วค่ะ....แต่ยังเพลียๆอยู่"ฉันเอ่ยตอบป้าบัวไปก่อนจะเดินไปยังตู้เย็นและหยิบเอาขวดน้ำผลไม้ออกมาจากตู้เย็นและทำการเทใส่แก้วกินน้ำและดื่มมันแก้กระหาย น้ำผลไม้ทำให้ร่างกายที่แพ้ท้องของฉันมันชุ่มชื่นขึ้นด้วยมานะ ฉันรู้สึกอย่างนี้จริงๆฉันเลยซื้อมาตุนไว้เยอะๆเลยน่ะ"ป้าบัวเตรียมอาหารจะเอาไปให้ใครเหรอคะ?"ฉันวางแก้วน้ำผลไม้ที่ฉันดื่มทีเดียวจนหมดแก้วลงบนซิ้งค์ล้างจานและเอ่ยถามป้าบัวไปอย่างสงสัยพร้อมกับมองปิ่นโตในมือท่านไปด้วยท่านก็เงยหน้าจากปิ่นโตเถาโตมามองหน้าฉัน"ของคุณขุนศึกน่ะ.....เขาเข้าโรงพยาบาล""เขาเป็นอะไรคะป้า?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไปอย่างตกใจและแทบจะทันทีที่ป้าบัวพูดจบ ป้าบัวก็
ฉันจึงหันไปมองก็พบว่าคุณหญิงนฤมิตรตื่นแล้วจริงๆและตอนนี้ท่านก็กำลังนอนลืมตาทั้งสองข้างมองไปรอบๆห้องแห่งนี้อยู่แววตาของท่านดูสงบลงกว่าวันแรกๆที่ท่านรู้ว่าตัวเองเดินไม่ได้มาก เหมือนท่านจะพยายามยอมรับมันแต่ฉันเชื่อว่าท่านยังไม่สามารถรับมันได้อย่างเต็มใจหรอก เพราะถ้าเป็นฉัน ฉันก็คงจะรับมันไม่ไหวเหมือนกัน หมดตัวไม่มีบ้านอยู่ แถมตัวเองยังต้องมานอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองแบบนี้ไม่ได้อีก ฉันสงสารท่านเหมือนกันนะฉันรีบเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนและทำการล้างมือให้สะอาดเพื่อจะไปทำการป้อนข้าวป้อนยาคุณหญิงและก็จะเปลี่ยนแพมเพิสให้ท่าน เพราะต้องเปลี่ยนทุกสามชั่วโมงเพื่อไม่ให้คุณหญิงรู้สึกไม่สบายตัวและไม่เป็นการสะสมของเชื้อแบคทีเรียด้วยฉันใช้เวลาล้างมือจนสะอาดไม่ถึงสองนาทีก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับมือที่แห้งและสะอาดเดินมุ่งไปยังเตียงนอนของคุณหญิงพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงของท่านคุณหญิงก็เหลือบหางตามามองหน้าฉัน ฉันก็มองหน้าท่านด้วยสายตาที่อ่อนลงก่อนจะยื่นมือไปจัดการไขเตียงให้สูงขึ้นเพราะฉันสั่งเตียงนอนแบบนี้มาให้คุณหญิงโดยเฉพาะฉันจัดการไขให้ส่วนศีรษะของท่านตั้งขึ้นอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ
"ยังมีอีกคน"แก้มหวานว่าพร้อมกับตบมือขึ้นสามครั้ง ฉันก็เงยหน้าไปมองเธอและก็มีผู้ชายผมเผ้ารกรุงรังหัวฟูสวมใส่เสื้อผ้าขาดๆเนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบอะไรไม่รู้สีดำฟันของมันดำทุกซี่ หน้าตาเป็นขี้กลากขี้เกลื้อนมันกำลังเดินมาหาฉันด้วยท่าทางที่เหมือนคนไม่เต็มเต็งอย่าบอกนะว่าเป็นคนสติไม่ดีเป็นคนบ้า"ผัวแกก็มีคนบ้าด้วย..ลูกแกต้องเกิดมาเป็นบ้าแน่เลยฮ่าๆๆๆๆๆ"แก้มหวานเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างสะใจฉันก็กำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจ และโกรธเธอคนนี้คนที่ฉันไม่เคยคิดที่จะโกรธ แต่ครั้งนี้ฉันโกรธเธอและจะไม่มีวันให้อภัยเธอเด็ดขากเพราะเธอคิดไม่ดีกับลูกของฉัน ฉันไม่ยอม!!!!!"เจ๊ให้พวกผมก่อน.....ผมไม่อยากใช้ของต่อจากไอ้บ้านี้!!"ชายคนหนึ่งที่จับขาฉันยึดไว้หันไปบอกแก้มหวาน"ได้....ไอ้บ้าแกออกมาก่อน!!"แก้มหวานรับคำชายชุดดำก่อนจะหันไปเอ่ยบอกคนบ้า คนบ้าก็เหมือนจะพูดรู้เรื่องและมันก็หยุดอยู่กับที่"ให้พวกกูก่อน....เสร็จแล้วค่อยคิวมึง"ชายคนที่ถือเข็มฉีดยาเอ่ยขึ้น ตอนนี้มันนำยาไปไว้ในเข็มแล้วและมันก็ดันก้นสปริงออกมานิดหน่อยทำให้ตัวยาที่อยู่ด้านบนพุ่งออกมาเล็กน้อยก่อนที่มันจะเดินมาหาฉันพร้อมกับทำส
"เปล่าหรอก......ที่ผู้ชายเขาไม่เลือกเธอมันเป็นเพราะนิสัยของเธอมากกว่าล่ะแก้มหวาน""นิสัยของเธอ.....ลองมองย้อนดูกลับไปว่าอะไรที่เราสองคนไม่เหมือนกัน""นี่แกจะบอกว่านิสัยแกดีกว่าฉันเหรอ?"แก้มหวานกดเสียงต่ำจ้องฉันด้วยแววตาแข็งกร้าวกว่าเดิม เธอพร้อมที่จะประทุอารมณ์ใส่ฉันได้ทุกเมื่อ"ไม่ใช่.....ฉันแค่อยากจะบอกว่าบางทีทัศนคติหรือความชอบความคิดเห็นสองผู้ชายสองคนนั้นไม่ตรงกับเธอ""แต่มาตรงกับฉันมากกว่า"ฉันเอ่ยออกไปอย่างในความคิดฉันจริงๆแต่ดูเหมือนคำพูดของฉันจะทำให้แก้มหวานไม่พอใจฉันเพิ่มขึ้นไปอีกดูจากการจับเส้นผมของฉันดึงก็รู้ได้เพราะว่าเธอดึงมันแรงขึ้นจนฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดไปที่ศีรษะนาทีนี้ฉันไม่ควรจะยั่วโมโหแก้มหวาน เพื่อความปลอดภัยของตัวฉันเองและลูกในท้องของฉัน"หึ.....เข้าข้างตัวเองจริงๆนะ.....ถ้าแกไม่ให้ท่าเควินเขาก็ไม่มีวันสนใจแกหรอก""เขาเชื่อฟังฉันและเอาใจฉันมาตลอดแต่พอมีเเกเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตของเขา.....เขาก็เปลี่ยนไป""เขาทำตัวห่างเหินกับฉันไม่เหมือนเมื่อก่อน.....เควินชีวิตของเขาไม่เคยได้รู้จักผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ....เขาเลยไม่รู้ว่าผู้หญิงน่ะมันตอแหล!!!""เหมือนเธอไงเอริ.....ทำตัวใ
ฉันก็มองจ้องเธอเขม่น แววตาสั่นไหวอย่างไม่ไว้ใจเธอ"แกมีผัวอยู่แล้วและยังจะมายุ่งกับผัวคนอื่นอีกทำไม!!"แก้มหวานตะโกนใส่หน้าฉันสีหน้าและแววตาของเธอที่จ้องมองมาที่ฉันเเปรเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวและไม่พอใจและเธอก็เอื้อมมือมาจับผมของฉันพร้อมกับออกแรงกระชากจนหน้าฉันหงายไปข้าง"โอ้ย!""เธอพูดเรื่องอะไรแก้มหวาน.....ฉันไม่เคยไปยุ่งกับสามีของใคร"ฉันเอ่ยบอกแก้มหวานไปพร้อมกับน้ำตาแอบเล็ดไปด้วยเพราะฉันรู้สีกเจ็บที่หนังศีรษะมาก เพราะแก้มหวานเธอดึงผมฉันแรงมากแรงเหมือนอยากจะดึงมันให้ขาดออกไปจากหนังศีรษะฉันฉันก็ใช้มือของตัวเองมั้งสองข้างมาจับมือของแก้มหวานที่จับผมฉันไว้ให้เธอปล่อยผมฉันแต่เธอก็ยิ่งกำมันและออกแรงดึงมันให้แรงขึ้นแรงขึ้นและแรงขึ้น"ยังจะมาตีหน้าซื่ออีกเหรอแกนี่มันมารยาสาไถยจริงๆ""ไม่เข้าใจว่าพวกผู้ชายชอบผู้หญิงแบบแกลงไปได้ยังไง"แก้มหวานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงและแววตาดูถูกฉัน ฉันก็จ้องมองเธอด้วยความงุนงงว่าเธอพูดถึงใครกันและใครกันที่ฉันไปแย่งสามีเขามาเท่าที่ฉันจำได้ ฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนเลยนะ ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่ไหน"แกแย่งผู้ชายที่ฉันรักไปทั้งสองคน......""และก็เป็นแกที่ท
"ไอ้จอม?"ผมหันไปทันทีที่ได้ยินเสียงที่ผมโคตรจะไม่อยากได้ยิน แต่ก็ต้องได้ยินเพราะพี่ชายต่างแม่ของผมกำลังยืนมองหน้าผมอยู่ด้วยสีหน้าแปลกใจ หน้าตามันโคตรกวนตีน ยิ่งเห็นหน้ามันยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งเกลียดมัน "มึงมาทำไม?"ผมถามมันไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างชัดเจนว่าผมไม่อยากเจอมัน "กูมาหาเอริ..."มันตอบผมมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆเช่นกันแต่หน้าตาโคตรกวนประสาท ผมเกลียดชี้หน้ามันชิบหาย เพราะมันพ่อถึงไม่เคยรักผม "แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่หรือว่า....มึงอยู่กับริเหรอ?"มันถามผมมาพลางชี้มาที่ผมด้วยหน้าตาเหมือนหมาสงสัย "เอ่อกูกับริกำลังมีลูกด้วยกัน.....แค่นี้มึงก็ควรจะรู้ได้แล้วนะว่าเลิกยุ่งกับเมียกูสักที"ผมอ่ยบอกไอ้จอมไปเสียงเเข็ง มันก็มองมาที่ผมด้วยสายตาตกใจแต่แวบหนึ่งผมก็เห็นเหมือนสายตาเป็นประกายในดวงตาคู่สวยของมันแต่ผมไม่มั่นใจเพราะเห็นแค่กระพริบตาเดียวเท่านั้น ที่ผมพูดกันท่าแบบนี่ทั้งที่ผมเองก็รู้ตัวดีว่าผมไม่มีสิทธิ์แต่ผมไม่อยากให้เอริคบกับไอ้จอม เพราะไอ้จอมมันก็เจ้าชู้ไม่ต่างจากผม มันน่ะ......เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งกว่าผมเสียอีก ผมไม่อยากให้ริต้องกลับไปเจ็บแบบที่เคยเจ็บมาอีกแล้ว.....ผ
เธอก็บอกว่าจะไม่แก้แค้นอะไรผมอีกแล้ว แต่ขอสู้คดีให้ถึงที่สุด ถ้าผมแพ้ ผมก็ต้องยอมรับชะตากรรม เธอบอกว่าถือเสียว่าผมชดใช้กรรมให้เธอ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะผมมั่นใจว่าผมจะไม่แพ้คดีนี้แน่ ผมรีบเดินออกมาจากห้องและเดินไปยังห้องฝั่งตรงข้ามที่เป็นห้องของเควิน ที่ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่าคอนโดนี้เควินเป็นเจ้าของ โดยมันให้เอริอยู่ห้องมันฟรีๆดูก็รู้ว่ามันชอบเอริ และจ้องจะเคลมเธอและที่ผมรู้ไปกว่านั่นอีกคือเควินเป็นลูกชายของผู้ชายที่แก้มหวานแต่งงานด้วยออดดดดดดดดดดดดผมกดออดห้องของเควินอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ผมสักที สงสัยมันจะไม่อยู่จริงๆหรือมันจะออกไปกับเอริ"ขอให้แน่ใจหน่อยจะได้หมดห่วง"ผมพูดออกมาอย่างยอมรับชะตากรรมถ้าเอริจะชอบผู้ชายคนนี้ผมก็คงจะไม่มีสิทธิ์ไปขัดขวางอะไรเธอ เพราะผมกับเธอมีหน้าที่เป็นพ่อแม่ของลูกเท่านั้น ส่วนสถานะอย่างอื่นเราก็เป็นเพื่อนกันผมเดินเข้าลิฟต์ไปยังชั้นล่างและเดินมุ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์ของประชาสัมพันธ์ที่มีไว้ต้อนรับลูกค้าและดูแลคนที่อยู่ในคอนโคนี้"ผมขอเบอร์คุณเควินหน่อยได้ไหมครับ""พอดีผมมีเรื่องจะคุยกับเขาน่ะครับ"ผมเอ่ยบอกพนักงานผู้หญิงที่ทำหน้าที่ประ
คอนโดเควินห้องของเอริ19:00น.ขุนศึก ขุนณรงค์...."ริไปไหนเหรอครับป้าบัว....มืดแล้วยังไม่เห็นกลับมาเลย?"ผมเอ่ยถามป้าบัวไปในขณะที่ท่านกำลังเก็บจานข้าวที่ผมเพิ่งกินเสร็จอยู่ที่จริงผมนั่งชะเง้อคอมองเอริมาตั้งแต่ที่เห็นเธอแต่งตัวออกไปตั้งแต่ตอนห้าโมงเย็นแล้ว กะว่าเธอไปแค่แปปเดียวก็คงจะกลับเพราะไม่เห็นเธอบอกผมว่าเธอจะไปไหน"เห็นว่าออกไปหาเพื่อนนะคะ....คุณขุนศึกมีอะไรหรือเปล่าคะ?""อ้อเปล่าครับ.....ผมเห็นว่ามันเริ่มมืดแล้ว....."ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างเป็นห่วงสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมาเพราะเอริเป็นผู้หญิงและกำลังท้องอยู่ด้วยไม่น่าจะออกไปข้างนอกคนเดียวแบบนี้นะหรือว่าเธอจะออกไปหาเพลงขวัญ"ลองโทรหาดูไหมคะ.....""เดี๋ยวผมโทรเองครับป้า....ขอบคุณมากนะครับ""โอเคค่ะงั้นป้าขอตัวไปดูคุณหญิงก่อนนะคะ""ครับป้า.....เดี๋ยวผมรอริสักพักก็จะเข้าไปดูคุณแม่นะครับ""ค่ะ.....เดี๋ยวป้านอนเฝ้าคุณหญิงเองค่ะ....คุณขุนศึกไปนอนพักผ่อนเถอะค่ะ""ครับ....ขอบคุณมากนะครับ"ผมเอ่ยบอกป้าบัวไปอย่างซาบซึ้งใจที่ท่านดีกับผมและคุณแม่ของผมจากใจจริงท่านไม่คิดที่จะทอดทิ้งผมและคุณแม่......ในความโชคร้ายของผมก็ถือว่ายังมีโชคดีอยู่บ้างที
"กะจะเผาทั้งเป็นแม่ของขุนศึกเลยนะ""เธอร้ายกาจมากมากจนฉันอยากรู้ว่าแก้มหวานแค้นอะไรขุนศึกมากมายขนาดที่จะฆ่าจะแกงกันได้"นามิเอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจและอยากรู้มากๆ"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราทั้งสามคนในเมื่อก่อนมันจะเป็นต้นเรื่องที่ทำให้แก้มหวานแค้นฉันขนาดนี้ไหม"ฉันเอ่ยออกไปเสียงแผ่วเบามันถึงเวลาแล้ว ที่ฉันจะต้องไปเผชิญหน้าและถามแก้มหวานตรงๆว่าสิ่งที่เธอทำงไปในตอนนี้ เพราะอยากจะเอาคืนขุนศึกที่เขาทำกับเธอตอนที่เธอเรียนอยู่มหาลัยใช่ไหมเพราะสิ่งที่ขุนศึกไม่ตั้งใจในคราวนั้นแต่กลับทำให้คนที่ถูกกระทำเครียดแค้นเอาเป็นเอาตายขนาดนี้"ฉันขอตัวก่อน"ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงนามิก็ลุกขึ้นพรวดพราดตามฉันมาทันทีด้วยความตื่นตกใจ"เธอจะไปไหนไม่เอาหลักฐานแล้วหรือไง""ไม่แล้วล่ะ....ฉันไม่ต้องการมันแล้ว"ฉันเอ่ยบอกนามิไปก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินและจำ้อ้าวเดินออกมาจากร้านอาหารนี้อย่างไวตอลดทางเดินฉันหยิบโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องแพงของตัวเองขึ้นมากดดูบันทึกรายการบันทึกเสียงฉึก"โอ้ย!!"ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจและความเจ็บปวดที่แล่นแวบเข้ามาที่ก้านคอของฉันฉันจึงรีบเอามือไปคลำดูก็พ
"ฉันเลยเตรียมของมาให้เธอได้พิสูจน์....ว่าฉันไม่โกงเธออย่างแน่นอน"ฉันก็มองหน้านามิอย่างจ้องเขม็งและสงสัยในสิ่งที่เธอพูด เธอเตรียมอะไรมาให้ฉันพิสูจน์"ในรถฉันมีโน้ตบุ๊กอยู่....เธอจะไปดูมันกับฉันไหมล่ะ?"นามิเอ่ยถามฉันมา ฉันก็จ้องเธออย่างไม่วางใจ"ฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆจะไปทำอะไรเธอได้.....?"เธอก็เอ่ยออกมาเสียงใสอย่างรู้ทันความคิดของฉัน"ในนั้นมีหลักฐานทั้งหมดจริงๆใช่ไหม?"ฉันเอ่ยถามนามิไป เธอก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบให้ฉัน"หลักฐานที่แก้มหวานโกงบริษัทของคุณหญิงนฤมิตรจนทำให้ทั้งคุณหญิงและขุนศึกต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นคนคดโกง""ใช่...."นามิตอบมาเสียงดังฟังชัด ฉันก็ทำหน้านิ่งเฉยและเอ่ยถามเธอต่อไป"แก้มหวานเป็นคนอยู่เบื้องหลังแผนการทั้งหมด......ทั้งเรื่องที่โยนความผิดว่าคุณหญิงนฤมิตรฟอกเงินที่ผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน""เป็นคนต้นคิดการเทรดเงิน....โดยใช้การเทรดเงินเป็นเบื้องหน้าให้คุณหญิงนฤมิตรตายใจและให้คุณหญิงเปิดบัญชีเป็นชื่อของท่านเพียงคนเดียวและนำเงินที่ฟอกมาทั้งหมดโอนใส่ไปในบัญชีของคุณหญิง"นามิเอ่ยออกมา ฉันก็จ้องมองหน้าเธอด้วยท่าทางนิ่งเฉย ฉันต้องทำ
"เธอเป็นใคร"ฉันเอ่ยถามปลายสายที่เป็นเสียงผู้หญิงออกไปน้ำเสียงของปลายสายฟังดูคุ้นหูฉันมาก (นามิเอง....) "นามิ....เธอมีอะไรกับฉัน" (ฉันมีเรื่องเกี่ยวกับขุนศึกอยากปรึกษาเธอ) "เรื่องอะไร?" (หลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับคดีที่ขุนศึกเจออยู่ในตอนนี้.....ถ้าได้หลักฐานอันนี้ไปเขาพ้นคดีแน่) "แล้วเธอไปเอามาจากไหน?"ฉันเอ่ยถามนามิไป ในใจฉันสงสัยและไม่เข้าใจเธอว่าเธอจะช่วยขุนศึกทำไม ในเมื่อก่อนหน้านี้เรื่องของสองคนนี้จบกันไม่ดีเท่าไหร่ อาจจะมองหน้ากันไม่ติดถึงขั้นเกลียดขี้หน้ากันเลยก็ได้ (ฉันโดนนังแก้มหวานหักหลัง....มันเป็นคนต้นเรื่องทั้งหมด) (ฉันพูดจริงๆเอริ....ตอนนี้ฉันกับแม่กำลังเดือดร้อน....ฉันขอขายหลักฐานของขุนศึกให้เธอในราคาสิบล้านก็ได้) (ฉันกับแม่จะใช้เงินก้อนนี้เป็นก้อนหลบหนีนังแก้มหวาน) (มันราวีชีวิตของฉันกับแม่ไม่เลิกนะเอรินะ) (นังแก้มหวานมันสั่งให้ฉันเข้าไปตีสนิทก้บขุนศึกมันอยู่เบื้องหลังทุกอย่างทั้งเรื่องที่คุณหญิงโดนฟ้องว่าฟอกเงิน....การเทรดหุ้นที่ไม่เอาเงินไปเทรดแต่เอาไปใช้เอง....ตลาดหุ้นที่ผิดกฏหมาย) (นังแก้มหวานมันเป็นคนวางแผน....ฉันมีคลิปวิดีโอในการคุยของฉันกับมันในตอนที่มัน