ฐานที่ 3: ปีนกำแพงบัดดี้หลังจากผ่านฐานคีบลูกโป่งมาได้อย่างราบรื่น เนยและเบียร์เดินต่อไปยังฐานถัดไป — ปีนกำแพงบัดดี้ ฐานนี้ต้องใช้ทั้งความแข็งแรงและความสามัคคีเป็นพิเศษ ทั้งสองคนต้องช่วยกันปีนกำแพงไม้สูงชัน โดยมีบัดดี้คนหนึ่งช่วยดันอีกคนขึ้นไปก่อน และเมื่อคนแรกปีนถึงด้านบนแล้ว จะต้องดึงบัดดี้ของตัวเองขึ้นมาด้วยเชือกที่เตรียมไว้เนยยืนมองกำแพงไม้สูงตรงหน้า ก่อนจะหันไปมองเบียร์ด้วยความกังวลเล็กน้อย“นายดันฉันไหวไหมเนี่ย?” เนยถามล้อ ๆ แต่ในใจแอบจริงจัง“ไหวอยู่แล้ว แต่เธอล่ะ จะดึงฉันขึ้นไหวหรือเปล่า?” เบียร์ยิ้มขำ พร้อมยักคิ้วกวน ๆเนยหรี่ตามอง ก่อนจะถกแขนเสื้อขึ้นอย่างท้าทาย“ลองดูสิ ฉันจะดึงนายขึ้นไปเอง”เบียร์หัวเราะเบา ๆ “โอเค แต่ถ้าดึงไม่ไหวก็อย่าปล่อยฉันตกลงมาล่ะ” เขาเตรียมตัวหมอบลงเพื่อช่วยดันเนยขึ้นเนยปีนขึ้นไปอย่างระมัดระวัง เบียร์ช่วยดันเท้าเธอขึ้นไปตามขั้น แม้กำแพงจะสูงชัน แต่เนยก็เกาะขึ้นไปอย่างมั่นคง จนในที่สุดเธอก็ถึงขอบด้านบน เมื่อเธอมั่นคงอยู่บนกำแพงแล้ว เนยก็ยื่นมือกลับลงมา พร้อมกับเชือกที่ผูกไว้เพื่อดึงเบียร์ขึ้น“จับให้ดีนะ ฉันไม่ยอมปล่อยนายตกลงไปหรอก” เนยพูดจริงจัง ข
หลังจากที่ทุกคนผ่านฐานกิจกรรมทั้งหมดครบถ้วน พนักงานต่างทยอยกลับมารวมตัวกันที่ลานกว้างด้านหน้า พี่โจและพี่หญิงเดินขึ้นไปบนเวทีที่เตรียมไว้ ก่อนจะประกาศกิจกรรมพิเศษสำหรับค่ำคืนนี้“ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่สามารถผ่านกิจกรรมในสามวันนี้ไปได้อย่างยอดเยี่ยมนะครับ!” พี่โจเริ่มต้นกล่าวด้วยรอยยิ้มและเสียงดังฟังชัด พนักงานทุกคนต่างส่งเสียงเฮแสดงความดีใจและความภูมิใจที่สามารถทำได้สำเร็จ“และเพื่อเป็นการฉลองค่ำคืนนี้ให้สนุกสนานยิ่งขึ้น เราจะมีกิจกรรมแคมป์ไฟและบาร์บีคิวด้านหน้านะคะ!” พี่หญิงเสริมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทำให้บรรยากาศรอบลานกว้างเต็มไปด้วยเสียงเชียร์และเสียงปรบมือ“เราจะเริ่มงานกันตั้งแต่ประมาณหนึ่งทุ่มเป็นต้นไป ทุกคนสามารถเตรียมตัวให้พร้อม และมาสนุกกันได้เลยนะครับ” พี่โจกล่าวทิ้งท้าย“บาร์บีคิวฟรีพร้อมกับแคมป์ไฟมันจะมีอะไรดีไปกว่านี้อีกล่ะ” แพรพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ขณะเดินไปพร้อมกับเนยและเจี๊ยบ“ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แค่เตรียมท้องไว้กินก็พอ” เนยตอบพลางยิ้มกว้าง“ใช่เลย! หนูจะกินให้เต็มที่เลย” เจี๊ยบเสริมพนักงานทุกคนต่างกลับไปที่ห้องพักของตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนแห่งการเฉลิ
เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นวันสุดท้ายพนักงานทุกคนต่างเตรียมตัวเก็บกระเป๋าและรอรถบัสมารับกลับ เนยและแพรจัดการเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเดินมาที่ลานกว้างหน้าศูนย์ฝึกอบรม ซึ่งมีพนักงานคนอื่น ๆ มารออยู่ก่อนแล้ว อากาศเช้าวันนี้สดชื่น ลมเย็นพัดโชย ทำให้ความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมหลายวันที่ผ่านมาบรรเทาลงไปบ้างเสียงพี่โจดังขึ้นพร้อมกับเสียงไมโครโฟนเบา ๆ “ขอให้ทุกคนมารวมตัวกันหน่อยครับ เราจะประกาศผลคะแนนรวมของกิจกรรม Outing ครั้งนี้แล้วนะครับ!”เนยและเบียร์ที่ยืนรออยู่ด้วยกัน หันมองหน้ากันเล็กน้อย เบียร์ยกยิ้มกวนๆ“คิดว่าเราจะชนะไหม?”เนยกลอกตาเบาๆ“ก็หวังว่าชนะนะ ไม่งั้นฉันเสียแรงเปล่าเลยล่ะ”พี่หญิงยืนข้าง ๆ พี่โจ เริ่มประกาศด้วยรอยยิ้ม“และทีมที่ได้อันดับหนึ่งในกิจกรรม Outing ครั้งนี้ ได้คะแนนสูงสุดจากการผ่านทุกฐานและทำงานเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยมก็คือ…”เสียงของพนักงานทุกคนเงียบลง รอฟังผลประกาศอย่างตื่นเต้น“ทีมของคุณอมลวัทน์และคุณมนสิชค่ะ!”พี่หญิงประกาศด้วยน้ำเสียงสดใสเสียงปรบมือดังขึ้นทั่วบริเวณ ทุกคนหันไปมองที่เนยและเบียร์ที่ยืนอยู่ เนยยิ้มออกมาเล็กน้อย ขณะที่เบียร์ยกมือขึ้นยิ้มร้าย ๆ พร้อมก
คืนนั้น เมื่อเนยกลับถึงบ้าน ขณะที่เธอกำลังนั่งครุ่นคิดเกี่ยวกับแผนสำหรับวันศุกร์ จู่ๆ แอพ Chatzy ที่เธอใช้คุยกับชายหนุ่มนิรนามก็เด้งแจ้งเตือนขึ้นมาว่าเขาออนไลน์ เนยยิ้มออกมาอย่างลืมตัว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเริ่มบทสนทนากับเขาอีกครั้งB u T T e R: “ไง นายเป็นไงบ้าง เรื่องสารภาพรักน่ะ สาวข้างบ้านว่าไง?”พี่ชายที่แสนดี: “ไม่รู้สิ ตอนนี้ฉันไม่ได้คิดถึงสาวข้างบ้านแล้วอะ”B u T T e R: “หมายความว่าไงอะ? นายเลิกชอบสาวข้างบ้านละหรอ?”พี่ชายที่แสนดี: “ก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอก แต่คนที่ฉันอยากสารภาพไม่ใช่เธอแล้วอะ”B u T T e R: “มันก็ไม่ต่างกันนิ นายก็ต้องลองสารภาพอยู่ดีอะ?”พี่ชายที่แสนดี: “ฉันไม่รู้จะเริ่มยังไง”B u T T e R: “ทำตามหัวใจสิ ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง ลองเริ่มจากคำง่ายๆ ว่า ‘ชอบ’ ก่อนก็ได้”พี่ชายที่แสนดี: “เธอพูดเหมือนมันง่ายเลยนะ”B u T T e R: “บางทีมันก็ง่ายจริงๆ ถ้าคนที่เราชอบเขารอคำนี้อยู่แล้ว”เนยพิมพ์ไปด้วยรอยยิ้ม แม้จะไม่ได้เห็นหน้าเขา แต่เธอกลับรู้สึกใกล้ชิดและเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มในแชทอย่างน่าประหลาดพี่ชายที่แสนดี: “เธอพูดแบบนี้ ทำให้ฉันคิดถึงคนที่อยู่ใกล้ตัวมากเลย”B u T
คอนโดของเบียร์หลังจากที่เนยชวนทุกคนไปผับ ‘มิสทิค เฮเว่น’ เบียร์เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ การที่เธอดูเหมือนจะมีแผนอะไรบางอย่างที่ไม่ได้บอกใครทำให้เขาสงสัย เบียร์จึงตัดสินใจค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผับนี้ในอินเทอร์เน็ตเขาพบว่ามิสทิค เฮเว่นเป็นผับหรูในย่านกลางเมือง ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นหรูหรา มีบรรยากาศครึกครื้นและเป็นที่นิยม แต่เมื่อค้นข้อมูลลึกลงไป เบียร์เจอข่าวลือและรีวิวที่ไม่น่าพอใจ หลายคนพูดถึงการใช้สารเสพติดในผับ โดยเฉพาะยายูโฟเรีย-เอ็กซ์ (Euphoria-X) ยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศและถูกมอมยาโดยไม่รู้ตัวความไม่สบายใจเริ่มก่อตัว เบียร์พบว่าเคยมีการบุกค้นผับนี้หลายครั้ง แต่ก็ยังมีเรื่องราวไม่ดีถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง“มันอันตรายเกินไป...” เขาพึมพำกับตัวเอง ขณะเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในใจ เบียร์รู้ว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้เนยไปที่นั่นโดยไม่รู้ถึงความเสี่ยงนี้ได้“เธอกำลังวางแผนอะไรอยู่...เนย” เบียร์ครุ่นคิดหลังจากค้นหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับผับมิสทิค เฮเว่น เบียร์รู้สึกว่าข้อมูลที่ได้มายังไม่เพียงพอ ความไม่สบายใจทำให้เขาตัดสินใจใช้ทักษะแฮ็กเกอร์ที่ถนัด เจาะลึกหาข้อมูลเพิ่มเติมเขาเปิด
ขณะที่พวกเนยกำลังนั่งกิน ดื่ม และเต้นกันอยู่ในผับ บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงเพลงเร้าใจและแสงไฟสลัวที่เคลื่อนไหวไปตามจังหวะดนตรีกลุ่มของเนยดูเหมือนจะสนุกกับการเฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า สายตาของ คาร์ล เจ้าของผับที่ยืนอยู่บนโซนวีไอพี กำลังจับจ้องพวกเธออย่างเจ้าเล่ห์ โดยเฉพาะเนยที่ตกเป็นเป้าหมายของเขาในคืนนี้เจ้าของผับมีสทิค เฮเว่น เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบใช้ยายูโฟเรีย-เอ็กซ์ คือ “คาร์ลอส” หรือ คาร์ล เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูภูมิฐาน มีเสน่ห์และเป็นที่เคารพของพนักงานและผู้คนในวงการสถานบันเทิง แต่เบื้องหลังนั้น เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบวางยาปลุกเซ็กส์ในผับของตัวเองเพื่อหาผลประโยชน์และควบคุมเหยื่อคาร์ลอสไม่ใช่แค่เจ้าของผับธรรมดา เขามีความรู้เรื่องยาและเคมีอย่างละเอียด และใช้ความรู้นี้ในการผสมยูโฟเรีย-เอ็กซ์ ยาปลุกเซ็กส์ชนิดแรงที่เขาแอบลอบใช้กับแขกบางคนที่มีจุดประสงค์พิเศษ เขามักเลือกเหยื่อที่เป็นคนร่ำรวยหรือผู้หญิงที่ดูโดดเด่นในผับ และทำงานร่วมกับบาร์เทนเดอร์ที่เป็นสายให้เขา ซึ่งบาร์เทนเดอร์คนสำคัญชื่อ “ริค” (Rick) คอยแอบลอบใส่ยาลงในเครื่องดื่มของเหยื่อคาร์ลอสควบคุ
เบียร์ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับอึ้ง ไม่คาดคิดว่าเนยจะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างเร่าร้อนและเฉียบขาดขนาดนี้ เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เนย พลางพยายามควบคุมหัวใจที่เต้นแรงจากทั้งความห่วงและความทึ่งในตัวเธอ“หมอนั่นใครอะ?” เบียร์ถามหลังจากนั่งลงแล้ว ยังคงมองไปทางลุคที่เพิ่งเดินจากไป“ไม่รู้สิ ก็แค่...สุนัขรับใช้ล่ะมั้ง” เนยยิ้มเยาะ พร้อมจิบเครื่องดื่มของตัวเองอย่างไม่ใส่ใจ“เธอรู้?” เบียร์เลิกคิ้วถามเสียงเข้ม“รู้ว่า?”“แก้วนั้น...” เบียร์พยักเพยิดไปทางเครื่องดื่มที่ลุคเสิร์ฟไว้ตรงหน้าเธอเนยพยักหน้าเบาๆ“อื้ม” เธอตอบสั้นๆ ก่อนจะดื่มเครื่องดื่มของตัวเองต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน“รู้ว่าอันตราย แล้วยังจะมาเล่นกับมันเนี่ยนะ?” เบียร์เอ่ยอย่างหัวเสีย เขาเป็นห่วงเธอมาก แต่เธอกลับดูใจเย็นเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา“ไม่เข้าถ้ำหมา จะได้ลูกหมาเหรอ?” เนยยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขา สายตายิ้มเย้ายวน พร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ ที่มุมปาก“เฮ้อ...สุภาษิตเธอเพี้ยนไปหมดแล้ว” เบียร์ถอนหายใจ พลางหัวเราะเบาๆ“สุภาษิตตามใจฉันไงล่ะ” เนยตอบกลับด้วยรอยยิ้มหวาน สายตาหยาดเยิ้มมองเขาจนเบียร์รู้สึกสับสนกับอารมณ์ที่ปะทุขึ้นภายในใจ อยากจ
ทุกคนรีบออกจากผับอย่างรวดเร็ว เบียร์ที่ประคองร่างของเนยไว้ในอ้อมแขน รีบหันไปบอกแพรเสียงจริงจัง“ฉันดูแลเนยเอง พวกเธอรีบกลับบ้านก่อน แล้วหาน้ำให้เจี๊ยบดื่มเยอะๆ จะช่วยลดฤทธิ์ยาได้” เบียร์กำชับ พลางหันไปมองเจี๊ยบที่อยู่ในอ้อมกอดของบี“ฝากนายจัดการพวกเธอต่อนะบี ฉันต้องรีบพาเนยไปที่ปลอดภัยก่อน” เบียร์พูดด้วยความเร่งรีบ ขณะที่เนยเริ่มมีอาการควบคุมตัวเองไม่ได้มากขึ้นบีพยักหน้ารับคำ “ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเอง”“ขอบใจมาก” เบียร์ตบบ่าบีเบาๆ ก่อนจะเร่งพาเนยขึ้นแท็กซี่เบียร์พยุงร่างของเนยที่เริ่มอ่อนแรงขึ้นมานั่งในรถแท็กซี่ ขณะที่เธอพยายามข่มใจ ควบคุมความรู้สึกที่ปั่นป่วนจากฤทธิ์ยา ยูโฟเรีย-เอ็กซ์ ที่ค่อยๆ ออกฤทธิ์เต็มที่“นาย...กำลัง...จะพาฉัน...ไปไหน” เนยพึมพำ น้ำเสียงเครือเบา ขณะที่พยายามไม่ให้ความรู้สึกนั้นเข้าครอบงำ“ไปคอนโดของฉัน” เบียร์ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง จับมือเธอไว้แน่น ปลอบโยนเธอในความมืดมิดภายในรถที่กำลังแล่นไปเนยนั่งพิงไหล่เขา หายใจหนักขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองไม่ตอบสนองต่อความคิดอีกต่อไป ความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่วร่างทำให้เธอเริ่มสั่น เบียร์จับมือเธอไว้แน่นขึ้น“ไ