ช่วงพักเที่ยงระหว่างรอเรียนวิชา Principle of Accounting 2ในวันหนึ่ง ผมและเพื่อนๆ นั่งเล่นพูดคุย มีน้องปี 1 ล่าประวัติและลายเซ็นของรุ่นพี่ตามประเพณีและสำคั่งของพี่ไซโคที่สั่งให้น้องๆ เฟรชชี่แต่ละคนต้องหาประวัติรุ่นพี่ไม่ต่ำกว่า 100 คน
“พี่ครับ พวกพี่มีนิยามของการแอบรักอย่างไรบ้างครับ?” วันนี้แบงค์มาแปลก ไม่ล่าลายเซ็นรุ่นพี่ แต่มาตั้งกระทู้ถามอะไรแปลกๆ
“ถามไปทำไมยะ?” กระดิ่งถามกลับ
“เอาไปใช้ในวิชา Communication Skills ครับ อาจารย์ตั้งโจทย์ให้พูดโดยฉับพลัน ผมคิดว่าเพื่อนๆ คงจะพูดกันแต่เรื่องว่ามาอยู่ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง มันซ้ำๆ กันจนเกร่อ ผมเลยหาประเด็นที่มันแปลกๆ ฉีกแนวไป” แบงค์อธิบาย
“สำหรับพี่การแอบรักคือ เป็นความชื่นชอบส่วนบุคคล” ชิคให้นิยามการแอบรักแบบไม่โยกโย้
“บอกไปไม่ได้ เดี๋ยวแฟนเขาตบ” นิยามการรักของกระดิ่งโหดมากๆ เพราะมันไปพัวพันกับการรักคนมีเจ้าของ
“สนุก ท้าทายดี” สปันให้นิยามการแอบรักตามที่หล่อนได้ประสบพบเจอมา
“มีความสุข ได้มองหน้าทุกวัน สดชื่นทุกวัน” นิยามการแอบรักของอายดูงดงามเหมือนหน้าตา
“พี่ชิค พี่กระดิ่ง พี่สปันและพี่อายให้นิยามไปแล้ว เหลือแต่พี่แล้วล่ะครับ พี่ตง”
“พี่ครับ พี่ตง มันยากมากเลยหรือครับ พี่ไม่เคยแอบรักใครหรือ?” แบงค์ปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์
ไออ้วน มึงนั่นแหละ ที่ทำให้กูทรมานกับการแอบรักมึง...
“มันยากว่ะ กูสอบเอ็นท์มาก็ไม่เห็นเจอในข้อสอบเลย เวลาเห็นเขา กูจะหลบ แต่เวลาเขาเผลอ กูจะแอบมอง เวลาเขาคุยกับกู กูจะกวนตีนใส่เขา เวลาเขาอยู่กับคนอื่นเยอะๆ กูไม่กล้าไปพูดกับเขา เพราะกลัวคนอื่นรู้ว่าแอบรัก” นิยามรักของผมเข้าท่าดีแท้ อธิบายได้ครอบคลุมความรู้สึกทั้งหมดของผมได้
“งั้น! ผมลาล่ะครับ เดี๋ยวพี่ตงจะกวนตีนใส่ผมอีก” แบงค์เดินออกไปไถ่ถามคนอื่นๆ ต่อไป
... ... ...
ข่าวร้ายที่ทำให้มหาวิทยาลัยแทบจะหยุดการเคลื่อนไหวคือการประสบอุบัติเหตุของน้องโอมและน้องจี๊ดจนมีการเสียชีวิตและบาดเจ็บขึ้น กิจกรรมรับน้องต้องงดไปโดยปริยาย ความเงียบเหงาและเศร้าใจปกคลุมไปทั่วมหาวิทยาลัย
“หมอ... มึงหิวข้าวไหม?” ผมถาม ทว่าสมาธิความสนใจทั้งหมดทั้งมวลของหมออยู่ที่เกมคอมพิวเตอร์ ทำให้ตงชักจะรำคาญจึงขึ้นเสียง “ไอเชี่ยหมอ มึงเนือยข้าวไหมวะ มึงจะไปแดกข้าวไหมวะ”
“อะไรวะไอตง มึงทำตัวเป็นเบลล์ไปอีกคนแล้วนะ กูไม่อยากออกไปไหน มึงจะไปก็ไปแต่คนเดียว กูฝากซื้อข้าวด้วยนะ เอาอะไรก็ได้ นี่ตังค์” หมอหยิบเงินตรงบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ส่งให้ตง
“มึงบอกว่าอะไรก็ได้ใช่ไหม เดี๋ยวกูซื้อขี้มาให้มึงแดก” ผมพูดประชด
“ไอเชี่ยตง”เสียงสบถของหมอไล่หลังตงมา ช่วงนี้เวลานี้ทุกๆ คนในมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ผมต้องงดไปเที่ยวกินในเมืองสักระยะหนึ่ง จุดหมายในการรับประทานอาหารมื้อเย็นเป็นหอส้ม ผมได้เจอกับแบงค์แป๊บนึง
“อ้าว! พี่มากินข้าวเหรอ” แบงค์ทักขณะเดินออกมาจากร้านอาหารข้างหอส้ม
“เออ งานกูเพิ่งเสร็จ กูเนือยข้าวก็เลยออกมากิน”
“ผมต้องกลับก่อนล่ะครับ ถ้าผมมาคนเดียว ผมคงจะอยู่กับพี่ แต่เจฟมาด้วย ผมต้องรีบกลับแล้วครับ ไว้เจอกัน”
“อืม”ผมเดินไปสั่งข้าว ส่วนแบงค์กลับเข้าหอในไปกับเจฟ
“ข้าวหมูทอดจานหนึ่งครับ และข้าวผัดไก่กล่องหนึ่งด้วยครับ” ผมสั่งแล้วไปหาที่นั่ง ทว่าไม่มีโต๊ะว่างเลย
“นั่งโต๊ะนี้ก็ได้จ้ะ” วรรณรุ่นพี่ปี 3 สาขาสิ่งแวดล้อมเชื้อเชิญ หล่อนมากับเพื่อนอีกสองคนคือ เอ ดรีม มีเก้าอี้ว่างหนึ่งตัว ผมไม่รีรอที่จะไปนั่งตรงเก้าอี้ตัวนั้น
“เปิดเทอมมาไม่ค่อยได้เจอกันเลย เมื่อก่อนที่น้องอยู่ปีหนึ่งแวะเวียนมาหาพี่อยู่บ่อยๆ มีของกินอะไรดีๆ ก็เห็นเอามาให้” วรรณตัดพ้อกับผม
“ต้องขอโทษด้วยครับ ช่วงรับน้องค่อนข้างยุ่ง” ผมแก้ตัว
“อย่าโทษแต่ตงฝ่ายเดียวเลย ต้องโทษแกด้วยล่ะวรรณ พอพวกเราขึ้นปีสาม ตารางเรียนที่แน่นเอี๊ยดขนาดนี้ ไม่มีเวลาว่างมากนักหรอก” เอแก้ตัวด้วยการเอาเรื่องการเรียนมาอ้าง
“เอาเถอะวรรณ น้องตงก็มานั่งอยู่ตรงนี้แล้ว จะงอนน้องเขาไปถึงไหนเชียว” ดรีมแนะ
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย มักจะมีเรื่องรุ่นน้องแอบปลื้ม แอบรักรุ่นพี่เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องนี้ไม่เว้นผม ผมก็แอบรัก แอบปลื้มวรรณอยู่มากโข ผมติดตามวรรณมาเนิ่นนาน แต่เหมือนหมาหยอกไก่เสียมากกว่า วรรณเล่นตัวจนผมรู้สึกเบื่อๆ และห่างเหินกันไปก่อนช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ไม่ถึงเดือน 3 สาว 1 หนุ่มรับประทานอาหารมื้อค่ำเสร็จพร้อมที่จะจ่ายเงินแล้วแยกย้ายกันไป ผมล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมาจ่ายเงินค่าอาหารในส่วนที่เขารับประทานไป
“ไม่ต้องหรอกตง พี่เลี้ยงเอง” วรรณยื่นไมตรีจิตมาขนาดนี้ มีหรือว่าคนอย่างตงจะไม่ปฏิเสธ
“ขอบคุณครับ”
“ตงไปส่งวรรณแทนคำขอบคุณดิ พวกพี่ซ้อนสามกันมา มันอันตรายนะ” เอแนะนำ
“พี่วรรณพักอยู่แถวไหนครับ?” ผมถาม
“หอวิจัย พี่เห็นตงแวะมาหาเพื่อนผู้หญิงอยู่บ่อยๆ พวกนั้นอยู่ชั้น 4 ส่วนพี่พักอยู่ชั้น 3”
ผมไปส่งวรรณที่หอวิจัย บรรยากาศหอในทุกหอเงียบเชียบ ร้านค้าชมรมอาสายังคงเปิด มีลูกค้ามาซื้อขนมบ้างแต่ซื้อแล้วไป ไม่แวะพูดคุยกัน ผมมองหาแบงค์เผื่อว่าจะเจอแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา เจ้าเด็กอ้วนคงจะพักผ่อนอยู่ในห้องหับ ผมขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านเช่า เพราะต้องไปส่งข้าวให้หมอที่กำลังจะตายคาคอมพิวเตอร์
อะไรคือความรักที่เป็นไปได้และความที่เป็นไปไม่ได้?
โค้งสุดท้ายของการรับน้อง เป็นช่วงเวลาวุ่นวาย แบงค์รุกเร้าเข้ามาพัวพันในชีวิตของผมมากขึ้นกว่าเดิม ผมดูออกว่าแบงค์รู้สึกอย่างไรต่อตัวเอง การกระทำอะไรหลายอย่างของแบงค์ไม่ต่างจากที่ผมกระทำต่อวรรณเมื่อในอดีตและสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
“พี่ตงครับ นี่คือประวัติทั้งหมดของพี่ ผมขอโอกาสที่จะได้เป็นน้องเลิฝของพี่ได้ไหม?” แบงค์ยื่นสมุดที่เขียนประวัติของผมไว้ 2 หน้ากระดาษ ผมรับมันมาอ่าน ผมจับความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลของแบงค์ที่มีต่อผมได้ ผมควรจะดีใจหรือเสียใจที่ผู้ชายคนหนึ่งกำลังจะมีใจให้แก่ผมเพราะว่า การที่รุ่นน้องมีประวัติรุ่นพี่ยาวขนาดนี้โดยไม่ได้เป็นคำสั่ง แปลว่ารุ่นน้องคนนั้นแอบรักแอบปลื้มรุ่นพี่เจ้าของประวัติ
“ไม่ได้หรอกนะ ผู้ชายกับผู้ชายจะเป็นพี่เลิฝน้องเลิฝกันไม่ได้” ผมปฏิเสธ
“พี่เทคล่ะครับ พี่เป็นพี่เทคของผมได้ไหม?” แบงค์อ้อน
“ยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย มึงมีเบลล์เป็นพี่เทคอยู่แล้ว จะมีซ้ำซ้อนไม่ได้”
“งั้น! พี่เป็นพี่โดนใจของผมนะ” แบงค์ยังไม่ละความพยายาม
“ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพี่อะไรก็ตาม ก็เป็นไม่ได้” ผมข่มใจอย่างเต็มที่ก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากผมไม่ใจแข็งพอ ผมจะเป็นฝ่ายขอแบงค์เป็นแฟนเสียเองให้รู้แล้วรู้รอดไป อย่างไรก็ตาม ผมได้เซ็นชื่อกำกับไว้ในประวัติ เมื่อแบงค์หลบออกไปอย่างจ๋อยๆ ผมก็กลับบ้านเช่าไปโดยไม่สนใจใครคนไหนอีก
จบบท
ผมกลับมาถึงบ้านเช่าอย่างเหนื่อยล้า เดินไปนั่งพักผ่อนที่หลังบ้าน สูบบุหรี่พ่นควันครุ่นคิดในเรื่องปัญหาหัวใจที่เกิดอยู่ กำลังผ่านพ้นไป และเกิดขึ้นในอนาคต เราควรจะทำอย่างไรดี เรารักใครกันแน่ พี่วรรณหรือแบงค์ ทำไมเราสับสนเช่นนี้ สับสนขนาดหนัก สับสนทางเพศเลยทีเดียว ที่สำคัญทั้งพี่วรรณและแบงค์ต่างก็มีใจให้เรา แม้ว่าเราจะมีคำตอบอยู่แล้วว่าเราเลือกใคร แต่เราก็สงสารคนที่เราไม่ได้เลือก เราไม่อยากให้ใครมาหักอกเรา เราก็ไม่อยากหักอกใครเช่นกัน... เกือบ 4 ทุ่มหมอและแป๊ะกลับมาพร้อมเบียร์ 3 ขวด ทำให้ผมนึกเปรี้ยวปากอยากจะดื่มเพื่อคลายความกลัดกลุ้มภายในหัวใจ “กูจะรักกับพี่วรรณดีไหมวะหมอ แป๊ะ?” ผมถามด้วยความรู้สึกวิตกกังวล “พวกมึงจะว่าไงบ้าง?” “กูจะว่าอะไรมึงได้ มึงเองก็ชอบ
ความสัมพันธ์ที่คาราคาซังดำเนินมาถึงภาคเรียนที่ 2 มีบางอย่างเปลี่ยนไป บ้านเช่าที่พวกเพื่อนๆ ผู้หญิงทั้ง 4 จองเอาไว้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกหล่อนย้ายออกมาจากหอวิจัย แป๊ะก็ย้ายมาอยู่คนเดียวที่ห้องข้างๆ กับพวกผู้หญิง ผมย้ายออกมาเช่นกันแต่ก็อยู่บ้านสีเขียวห้องแรกเพียงแค่คนเดียวเพื่อเป็นการสะดวกหากวรรณจะมาเยี่ยมมาเยียนใช้เวลาตามประสาคนรักกัน ส่วนหมอยังเช่าบ้านสีเขียวอยู่ห้องเดิม แบงค์ถอยรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติกติดตามรุ่นพี่มาเป็นแขกประจำของห้องเช่า แบงค์ยังตั้งชื่อบ้านเช่าตรงหน้ามหาวิทยาลัยที่ทั้งผู้หญิงทั้ง 4 และแป๊ะแห่แหนกันไปเช่าว่า บ้านพิกุลทอง ตามชื่อพรรณไม้ที่ปลูกยืนต้นเรียงรายเป็นแนวรั้วกั้นบ้านกับถนนคอนกรีตในค่ำคืนหนึ่ง บรรยากาศช่างดูเงียบเหงากว่าปกติ ตงสังเกตได้ เมื่อผมแวะบ้านพิกุลหลังกลับมาจากส่งวรรณเข้าหอวิจัยในจมหาวิทยาลัย ไม่ได้พบเจอแบงค์เหมือนอย่างเคยเป็นมา เลยนึกสงสัย“อีแบงค์ไม่มาเหรอสปัน?” “อะไรของแกยะตง ตอนแบงค์อยู่ไม่คุยอะไรกับมัน พ
แบงค์ช่างแสนดี เขาทำตามที่พูดไว้ว่า จะไม่วุ่นวายกับผม ขอแค่ได้แอบรักอยู่ในใจ เราสองคนก็เป็นไปตามครรลองรุ่นพี่รุ่นน้องที่รู้จัก เมื่อผมอยู่กับวรรณแล้วมีแบงค์แวดล้อมอยู่ เขาไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวาย ถ้าแบงค์เข้าเมืองไปหาอะไรกินกับพวกเพื่อนๆ ของผม เขาจะแวะเอาของกินที่ผมชอบมาฝากสม่ำเสมอ เวลาผ่านไปล่วงเลย ผ่านพ้นปีใหม่มา เรื่องเศร้าๆ ประเดประดังเข้ามา ทั้งเกิดสึนามิ จังหวัดตรังบ้านเกิดผมก็โดนคลื่นยักษ์ แม้ผมไม่ใช่ผู้ประสบภัยแต่ก็ได้เห็นภาพแสนเศร้า ชายหาดที่สวยงามต้องมาพังพินาศ และเรื่องบี-บุหงา รุ่นน้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ที่สตูล แป๊ะเดินทางไปเยี่ยมศพบีพร้อมคณาจารย์และนักศึกษาจำนวนหนึ่งเพราะว่าบีเป็นน้องเลิฝ แต่เรื่องเศร้าๆ เหล่ายังดูไกลตัวผมนัก เมื่อเทียบกับเรื่องของแบงค์ เรื่องมันมีอยู่ว่า “กระดิ่ง อีแบงค์ไม่มาเหรอ?” “ถามหามันอีกแระ” กระดิ่งบ่น “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้เจอมันตั้งหลายวันอีกแล้ว ส
ผมขับรถพาแบงค์ตระเวนเล่นไปทั่วซอยพิเศษ เข้ามหาวิทยาลัย วิ่งไปตามถนนช้าบ้างเร็วบ้างสลับกัน ลมเย็นๆ เดือนมกราคมพัดผ่านมา อาจทำให้รู้สึกหนาวสะท้าน “เป็นไงสร่างเมายัง” ผมถามแบงค์ “หายแล้วพี่ จอดตรงนี้ได้ไหม วิวสวยดี” แบงค์บอก ผมจอดรถไว้ริมถนนเส้นรอบนอกของมหาวิทยาลัย “สวยจริงว่ะ” อย่างที่แบงค์บอกมันสวยจริงๆ ตึกเกือกม้าตามไฟไว้สว่างเรื่อเรือง เบื้องหลังเป็นเขาท่าเพชรดำทะมึน ไฟสีส้มจากเสาไฟตัดกับหลังคาสีฟ้าของตึกเกือกม้าขับให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูงดงาม “มองดาวตรงนี้ก็สวยไม่แพ้กับศาลาจานบินเลย” แบงค์ลงไปนอนนับดาวบนท้องฟ้าเสียแล้ว “เฮ้ย! แบงค์ มึงลงไปนอนกับพื้นถนนเลยหรือวะ”
“เมารึเปล่าพี่ตง กล้าจังเนอะ” “มึงเชื่อแล้วใช่ป่ะ ว่ากูรักกมึงจริงๆ” “ไม่เชื่ออ่ะ” “แล้วจะให้ทำยังไง มึงจะได้เชื่อ” ผมจนใจแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างการกระทำต่างๆ ล้วนมาจากใจ ใจของผมสั่งให้ทำตามหัวใจต้องการ “หลับตาลงสิครับพี่ตง อยู่เฉยๆ นะ” แบงค์สั่งผมด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม เขาเอามือสัมผัสลูบไล้ร่างกายของผม มือของแบงค์นุ่มนวลอย่าน่าประหลาดราวกับมือของผู้หญิง มันเสียวซ่านอ่ะ เสียวสะท้านไปทั้งตัว “เชี่ยแล้วไง ก็เสียวนะเว้ย” “เสียวจริงหรือว่ารังเกียจ”
ความสารเลวของผมกำลังทำร้ายคนสองคนอย่างเจ็บแสบ ผมวางตัวห่างเหินจากวรรณ เราสองคนได้พบเจอกันเฉพาะรับประทานอาหารมื้อเย็นเท่านั้น ไต่ถามสารทุกข์สุขดิบ เหมือนเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น พอไปส่งวรรณเสร็จ ผมแวะเวียนไปรอพบเจอแบงค์ที่บ้านพิกุลทอง เหมือนอย่างที่แบงค์รอคอยได้เห็นหน้าผม ชะรอยว่าเป็นเวรเป็นกรรมของผม แบงค์ไม่ได้มาบ้านพิกุลทองทุกค่ำคืนเหมือนอย่างเมื่อก่อน แบงค์วางตัวกับแบบเดิมๆ คือ ไม่เหินห่างแต่ไม่ได้สนิทสนมกัน เพราะอย่างที่แบงค์ได้ลั่นวาจาไป ถ้าผมไม่เลิกรากับวรรรอย่างเป็นทางการ สัมพันธภาพระหว่างเราสองคนจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ “ตง” วรรณเรียกผมระหว่างรับประทานอาหารเย็นในร้านกุ๊กสิทธิ์ด้วยกัน “หือ” ผมขานรับ “มีอะไรเหรอ” “ช่วงนี้ตงเรียนหนักมากเลยหรือไง เลยไม่ค่อยเวลาให้วรรณบ้างเลย”&n
“ตง... วรรณมีอะไรจะบอก” จู่ๆ วรรณโทรศัพท์มาหาผมในขณะที่ผมกำลังตรวจสินค้าเข้าร้านอยู่ “ว่ามาสิ ตงฟังอยู่” “เราเลิกกันเถอะตง” ทุกอย่างหยุดนิ่ง ผมหูฝาดไปหรือเปล่านี่ “เดี๋ยวๆๆๆ พูดว่าอะไรนะ ล้อเราเล่นใช่ไหมวรรณ” ผมหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วตั้งใจฟังวรรณพูดทวนอีกครั้ง “ไม่ได้ล้อเล่นเลยตง เราพูดจริงๆ เราเลิกกันเถอะ เราสองคนอาจจะเคยรักกัน แต่วันนี้ไม่แล้วล่ะ วรรณเจอใครที่ดีกว่าตง ส่วนตงเองก็รักใครอีกคนอยู่เหมือนกันไม่ใช่หรือ” วรรณพูดถึงเหตุผลที่ทำให้เธอต้องเอ่ยคำว่าเลิกกันกับผม “ก็ได้วรรณ เราขอโทษ เราเสียใจที่นอกใจวรรณ” ผมออดอ้อน ยอมรับความผิดที่ได้ก่อไว้ &
นี่ความฝันหรือความจริง... ไม่รู้ว่าแบงค์เผลอหลับไปนานเท่าไหร่ เขาสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างมึนงง เขาปรับตัวเรียกสติกลับมาอยู่พักหนึ่ง สิ่งที่แบงค์เห็นหลังจากคืนสติเต็มตัวแล้วคือ ห้องเกียรติยศบนชั้นสอง หอบรรณสารสนเทศมืดสนิท เครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน “ไฟดับอีกแล้วหรือ?” แบงค์พึมพำกับตนเองแล้วเก็บหนังสือ อุปกรณ์การเขียน ลงใส่กระเป๋าเดินออกจากหอบรรณสารสนเทศอย่างรีบเร่ง ตึกเกือกม้าในภาคเรียนฤดูร้อนเงียบอยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าขัดข้องทั้งนักศึกษาและบุคลากรก็ละทิ้งการเรียนและการงานของตน แบงค์ยังอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว เขาเดินไปนั่งทบทวนเหตุการณ์ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลในความฝันตรงม้านั่งตึกในลานตึกเกือกม้า ทำไมหนอ... ทำไมให้เราฝันถึงคนที่จากเราไปไกลแสนไกลแล้ว ทำไมให้เรากับพี่
นี่ความฝันหรือความจริง... ไม่รู้ว่าแบงค์เผลอหลับไปนานเท่าไหร่ เขาสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างมึนงง เขาปรับตัวเรียกสติกลับมาอยู่พักหนึ่ง สิ่งที่แบงค์เห็นหลังจากคืนสติเต็มตัวแล้วคือ ห้องเกียรติยศบนชั้นสอง หอบรรณสารสนเทศมืดสนิท เครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน “ไฟดับอีกแล้วหรือ?” แบงค์พึมพำกับตนเองแล้วเก็บหนังสือ อุปกรณ์การเขียน ลงใส่กระเป๋าเดินออกจากหอบรรณสารสนเทศอย่างรีบเร่ง ตึกเกือกม้าในภาคเรียนฤดูร้อนเงียบอยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าขัดข้องทั้งนักศึกษาและบุคลากรก็ละทิ้งการเรียนและการงานของตน แบงค์ยังอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว เขาเดินไปนั่งทบทวนเหตุการณ์ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลในความฝันตรงม้านั่งตึกในลานตึกเกือกม้า ทำไมหนอ... ทำไมให้เราฝันถึงคนที่จากเราไปไกลแสนไกลแล้ว ทำไมให้เรากับพี่
“ตง... วรรณมีอะไรจะบอก” จู่ๆ วรรณโทรศัพท์มาหาผมในขณะที่ผมกำลังตรวจสินค้าเข้าร้านอยู่ “ว่ามาสิ ตงฟังอยู่” “เราเลิกกันเถอะตง” ทุกอย่างหยุดนิ่ง ผมหูฝาดไปหรือเปล่านี่ “เดี๋ยวๆๆๆ พูดว่าอะไรนะ ล้อเราเล่นใช่ไหมวรรณ” ผมหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วตั้งใจฟังวรรณพูดทวนอีกครั้ง “ไม่ได้ล้อเล่นเลยตง เราพูดจริงๆ เราเลิกกันเถอะ เราสองคนอาจจะเคยรักกัน แต่วันนี้ไม่แล้วล่ะ วรรณเจอใครที่ดีกว่าตง ส่วนตงเองก็รักใครอีกคนอยู่เหมือนกันไม่ใช่หรือ” วรรณพูดถึงเหตุผลที่ทำให้เธอต้องเอ่ยคำว่าเลิกกันกับผม “ก็ได้วรรณ เราขอโทษ เราเสียใจที่นอกใจวรรณ” ผมออดอ้อน ยอมรับความผิดที่ได้ก่อไว้ &
ความสารเลวของผมกำลังทำร้ายคนสองคนอย่างเจ็บแสบ ผมวางตัวห่างเหินจากวรรณ เราสองคนได้พบเจอกันเฉพาะรับประทานอาหารมื้อเย็นเท่านั้น ไต่ถามสารทุกข์สุขดิบ เหมือนเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น พอไปส่งวรรณเสร็จ ผมแวะเวียนไปรอพบเจอแบงค์ที่บ้านพิกุลทอง เหมือนอย่างที่แบงค์รอคอยได้เห็นหน้าผม ชะรอยว่าเป็นเวรเป็นกรรมของผม แบงค์ไม่ได้มาบ้านพิกุลทองทุกค่ำคืนเหมือนอย่างเมื่อก่อน แบงค์วางตัวกับแบบเดิมๆ คือ ไม่เหินห่างแต่ไม่ได้สนิทสนมกัน เพราะอย่างที่แบงค์ได้ลั่นวาจาไป ถ้าผมไม่เลิกรากับวรรรอย่างเป็นทางการ สัมพันธภาพระหว่างเราสองคนจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ “ตง” วรรณเรียกผมระหว่างรับประทานอาหารเย็นในร้านกุ๊กสิทธิ์ด้วยกัน “หือ” ผมขานรับ “มีอะไรเหรอ” “ช่วงนี้ตงเรียนหนักมากเลยหรือไง เลยไม่ค่อยเวลาให้วรรณบ้างเลย”&n
“เมารึเปล่าพี่ตง กล้าจังเนอะ” “มึงเชื่อแล้วใช่ป่ะ ว่ากูรักกมึงจริงๆ” “ไม่เชื่ออ่ะ” “แล้วจะให้ทำยังไง มึงจะได้เชื่อ” ผมจนใจแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างการกระทำต่างๆ ล้วนมาจากใจ ใจของผมสั่งให้ทำตามหัวใจต้องการ “หลับตาลงสิครับพี่ตง อยู่เฉยๆ นะ” แบงค์สั่งผมด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม เขาเอามือสัมผัสลูบไล้ร่างกายของผม มือของแบงค์นุ่มนวลอย่าน่าประหลาดราวกับมือของผู้หญิง มันเสียวซ่านอ่ะ เสียวสะท้านไปทั้งตัว “เชี่ยแล้วไง ก็เสียวนะเว้ย” “เสียวจริงหรือว่ารังเกียจ”
ผมขับรถพาแบงค์ตระเวนเล่นไปทั่วซอยพิเศษ เข้ามหาวิทยาลัย วิ่งไปตามถนนช้าบ้างเร็วบ้างสลับกัน ลมเย็นๆ เดือนมกราคมพัดผ่านมา อาจทำให้รู้สึกหนาวสะท้าน “เป็นไงสร่างเมายัง” ผมถามแบงค์ “หายแล้วพี่ จอดตรงนี้ได้ไหม วิวสวยดี” แบงค์บอก ผมจอดรถไว้ริมถนนเส้นรอบนอกของมหาวิทยาลัย “สวยจริงว่ะ” อย่างที่แบงค์บอกมันสวยจริงๆ ตึกเกือกม้าตามไฟไว้สว่างเรื่อเรือง เบื้องหลังเป็นเขาท่าเพชรดำทะมึน ไฟสีส้มจากเสาไฟตัดกับหลังคาสีฟ้าของตึกเกือกม้าขับให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูงดงาม “มองดาวตรงนี้ก็สวยไม่แพ้กับศาลาจานบินเลย” แบงค์ลงไปนอนนับดาวบนท้องฟ้าเสียแล้ว “เฮ้ย! แบงค์ มึงลงไปนอนกับพื้นถนนเลยหรือวะ”
แบงค์ช่างแสนดี เขาทำตามที่พูดไว้ว่า จะไม่วุ่นวายกับผม ขอแค่ได้แอบรักอยู่ในใจ เราสองคนก็เป็นไปตามครรลองรุ่นพี่รุ่นน้องที่รู้จัก เมื่อผมอยู่กับวรรณแล้วมีแบงค์แวดล้อมอยู่ เขาไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวาย ถ้าแบงค์เข้าเมืองไปหาอะไรกินกับพวกเพื่อนๆ ของผม เขาจะแวะเอาของกินที่ผมชอบมาฝากสม่ำเสมอ เวลาผ่านไปล่วงเลย ผ่านพ้นปีใหม่มา เรื่องเศร้าๆ ประเดประดังเข้ามา ทั้งเกิดสึนามิ จังหวัดตรังบ้านเกิดผมก็โดนคลื่นยักษ์ แม้ผมไม่ใช่ผู้ประสบภัยแต่ก็ได้เห็นภาพแสนเศร้า ชายหาดที่สวยงามต้องมาพังพินาศ และเรื่องบี-บุหงา รุ่นน้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ที่สตูล แป๊ะเดินทางไปเยี่ยมศพบีพร้อมคณาจารย์และนักศึกษาจำนวนหนึ่งเพราะว่าบีเป็นน้องเลิฝ แต่เรื่องเศร้าๆ เหล่ายังดูไกลตัวผมนัก เมื่อเทียบกับเรื่องของแบงค์ เรื่องมันมีอยู่ว่า “กระดิ่ง อีแบงค์ไม่มาเหรอ?” “ถามหามันอีกแระ” กระดิ่งบ่น “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้เจอมันตั้งหลายวันอีกแล้ว ส
ความสัมพันธ์ที่คาราคาซังดำเนินมาถึงภาคเรียนที่ 2 มีบางอย่างเปลี่ยนไป บ้านเช่าที่พวกเพื่อนๆ ผู้หญิงทั้ง 4 จองเอาไว้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกหล่อนย้ายออกมาจากหอวิจัย แป๊ะก็ย้ายมาอยู่คนเดียวที่ห้องข้างๆ กับพวกผู้หญิง ผมย้ายออกมาเช่นกันแต่ก็อยู่บ้านสีเขียวห้องแรกเพียงแค่คนเดียวเพื่อเป็นการสะดวกหากวรรณจะมาเยี่ยมมาเยียนใช้เวลาตามประสาคนรักกัน ส่วนหมอยังเช่าบ้านสีเขียวอยู่ห้องเดิม แบงค์ถอยรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติกติดตามรุ่นพี่มาเป็นแขกประจำของห้องเช่า แบงค์ยังตั้งชื่อบ้านเช่าตรงหน้ามหาวิทยาลัยที่ทั้งผู้หญิงทั้ง 4 และแป๊ะแห่แหนกันไปเช่าว่า บ้านพิกุลทอง ตามชื่อพรรณไม้ที่ปลูกยืนต้นเรียงรายเป็นแนวรั้วกั้นบ้านกับถนนคอนกรีตในค่ำคืนหนึ่ง บรรยากาศช่างดูเงียบเหงากว่าปกติ ตงสังเกตได้ เมื่อผมแวะบ้านพิกุลหลังกลับมาจากส่งวรรณเข้าหอวิจัยในจมหาวิทยาลัย ไม่ได้พบเจอแบงค์เหมือนอย่างเคยเป็นมา เลยนึกสงสัย“อีแบงค์ไม่มาเหรอสปัน?” “อะไรของแกยะตง ตอนแบงค์อยู่ไม่คุยอะไรกับมัน พ
ผมกลับมาถึงบ้านเช่าอย่างเหนื่อยล้า เดินไปนั่งพักผ่อนที่หลังบ้าน สูบบุหรี่พ่นควันครุ่นคิดในเรื่องปัญหาหัวใจที่เกิดอยู่ กำลังผ่านพ้นไป และเกิดขึ้นในอนาคต เราควรจะทำอย่างไรดี เรารักใครกันแน่ พี่วรรณหรือแบงค์ ทำไมเราสับสนเช่นนี้ สับสนขนาดหนัก สับสนทางเพศเลยทีเดียว ที่สำคัญทั้งพี่วรรณและแบงค์ต่างก็มีใจให้เรา แม้ว่าเราจะมีคำตอบอยู่แล้วว่าเราเลือกใคร แต่เราก็สงสารคนที่เราไม่ได้เลือก เราไม่อยากให้ใครมาหักอกเรา เราก็ไม่อยากหักอกใครเช่นกัน... เกือบ 4 ทุ่มหมอและแป๊ะกลับมาพร้อมเบียร์ 3 ขวด ทำให้ผมนึกเปรี้ยวปากอยากจะดื่มเพื่อคลายความกลัดกลุ้มภายในหัวใจ “กูจะรักกับพี่วรรณดีไหมวะหมอ แป๊ะ?” ผมถามด้วยความรู้สึกวิตกกังวล “พวกมึงจะว่าไงบ้าง?” “กูจะว่าอะไรมึงได้ มึงเองก็ชอบ
ช่วงพักเที่ยงระหว่างรอเรียนวิชา Principle of Accounting 2ในวันหนึ่ง ผมและเพื่อนๆ นั่งเล่นพูดคุย มีน้องปี 1 ล่าประวัติและลายเซ็นของรุ่นพี่ตามประเพณีและสำคั่งของพี่ไซโคที่สั่งให้น้องๆ เฟรชชี่แต่ละคนต้องหาประวัติรุ่นพี่ไม่ต่ำกว่า 100 คน “พี่ครับ พวกพี่มีนิยามของการแอบรักอย่างไรบ้างครับ?” วันนี้แบงค์มาแปลก ไม่ล่าลายเซ็นรุ่นพี่ แต่มาตั้งกระทู้ถามอะไรแปลกๆ “ถามไปทำไมยะ?” กระดิ่งถามกลับ “เอาไปใช้ในวิชา Communication Skills ครับ อาจารย์ตั้งโจทย์ให้พูดโดยฉับพลัน ผมคิดว่าเพื่อนๆ คงจะพูดกันแต่เรื่องว่ามาอยู่ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง มันซ้ำๆ กันจนเกร่อ ผมเลยหาประเด็นที่มันแปลกๆ ฉีกแนวไป” แบงค์อธิบาย “สำหรับพี่การแอบรักคือ เป็นความชื่นชอบส่วนบุคคล” ชิคให้นิยามกา