Share

บทที่ 7

last update Last Updated: 2024-10-27 11:30:59

“เออๆ ไม่ต้องพูด ฉันเดาได้” เพลงพิณรีบยกมือขึ้นห้าม 

“งั้นพรุ่งนี้ผมจะมาถามอาการมันแต่เช้า” เฟร์เรเอ่ยขึ้นบ้าง แม้ลุคเขาจะออกเถื่อนๆ แต่ใครจะรู้ว่าเขาอ่อนโยนกับสัตว์มากเหมือนกัน 

“ได้ครับ” เสียงทุ้มของสัตวแพทย์โปรดตอบกลับไป ก่อนจะพินิจมองใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้า แล้วหันมากระซิบกระซาบถามเพื่อนสาวที่ยืนตัวเตี้ยอยู่ข้างๆ 

“พิณ…ใครวะ แฟนแกเหรอ” น้ำเสียงของโปรดนั้นฟังดูตื่นเต้น จนเพลงพิณค้อนให้อย่างหมั่นไส้ 

“แฟนที่ไหน เพื่อนบ้าน รั้วติดกันเลย เขาชื่อ…” พอจะตอบคำถามโปรด เพลงพิณก็ชะงัก 

นั่นสิ…ผู้ชายข้างๆ เธอนี่ชื่อว่าอะไร ถ้าจำไม่ผิด เขาน่าจะชื่อว่าเฟร์เรใช่ไหม แต่เพราะฟอร์ม เพลงพิณจึงแสร้งทำเป็นจำชื่อหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ เธอหันกลับมามองหน้าเฟร์เร แล้วเอ่ยถามชื่อเขาออกไป 

“ว่าแต่คุณชื่ออะไรนะ”

“เฟร์เร ผมชื่อเฟร์เรหรือจะเรียกผมว่าเบคก็ได้” เมื่อได้ยินแบบนี้ เพลงพิณก็หันมาคุยกับโปรด

“แกได้ยินแล้วใช่ไหม เขาชื่อเบค” 

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมโปรด เป็นเจ้าของคลินิก” เอ่ยทักทายเสร็จก็ยื่นมือไปรอสัมผัส เฟร์เรไม่ลังเลที่จะสัมผัสมือของโปรดกลับมา

“ส่วนคนข้างๆ นี่พิณ” โปรดแนะนำเพลงพิณเสร็จสรรพ 

“ยินดีที่ได้รู้จักคุณสองคนเช่นกันครับ…เอ่อ…ผมขอเข้าไปดูแมวหน่อยได้ไหม”

“ได้สิครับ เชิญ” โปรดผายมือให้ชายหนุ่มมาดเซอร์สุดหล่อเข้าไปดูอาการเจ้าแมว นั่นทำให้เขามีโอกาสอยู่คุยกับเพื่อนสนิทตามลำพัง และเมื่ออยู่กันตามลำพัง โปรดจึงไม่จำเป็นต้องเก๊กแมนอีกต่อไป 

“น่ากินว่ะแก” 

“เก็บอาการหน่อยยัยโปรด...เก็บ!” เพลงพิณหันมาแยกเขี้ยวให้เพื่อนสาวในร่างชาย ที่ออกอาการกระดี๊กระด๊าเสียเหลือเกิน 

“แหม…แกก็ สเปคฉันเลยนะยะ มาดเซอร์หน่อยๆ ดูดิบเถื่อนนิดๆ ผมยาว มัดจุก โอ๊ย! ใจละลาย” สีหน้าของโปรดดูฟุ้งๆ แววตาก็หวานหยาดเยิ้มขณะมองไปที่เฟร์เร พลอยทำเอาเพลงพิณขนลุกไปด้วย 

“หล่อนอย่ามาสาวแตกตอนนี้ เก๊กหน้าหล่อไว้”

“หมู่บ้านแก เขาขายบ้านไปหมดหรือยัง พอรู้มะ”

“ทำไมยะ แกจะลงทุนไปซื้อบ้านเพื่อไว้แอ๊วหนุ่มมาดเซอร์ มัดจุกผู้รักแมวคนนี้หรือไง” เพลงพิณเอ่ยภาษาเหนืออย่างขำๆ เพราะคำว่าแอ๊วของเธอ หมายถึงการไปจีบหนุ่มนั่นเอง 

“อื้อ” โปรดหันมาเอ่ยรับอย่างไม่ลังเล 

“พอๆ เพ้อเจ้อ เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวพี่เสือแกรู้เข้าจะหนาวยัยโปรด” เมื่อโปรดชักจะเลยเถิด เพลงพิณจึงหยิบยันต์กันเจ้าชู้ที่ชื่อว่าเสือออกมาใช้ เพราะนี่คือชื่อสุดที่รักของโปรดนั่นเอง

“พูดถึงพี่เสือแล้วคิดถึง ไปญี่ปุ่นตั้งอาทิตย์หนึ่งแล้ว กลับมาคืนนี้คงต้องจัดสักหน่อย” แววตาของโปรดนั้นวิบวับเป็นประกาย พลอยทำให้คนโสดขนลุกไปด้วย 

“แกก็พูดสองแง่สามง่าม” 

“ย่ะ…งั้นคนนี้ฉันยกให้แกไปยัยมะพร้าวทึนทึก เกาะคานเป็นลิงเกาะต้นไม้เชียว ปล่อยมือได้แล้ว มดลูกฟ่อ หมดอายุกันพอดี” 

“เออนะ แกไม่ต้องมาตอกย้ำฉันเรื่องคาน เรื่องมดลูกนี่หรอก”

“เปล่าตอกย้ำ ฉันแค่สนับสนุนให้แกลงจากคาน คนนี้เป็นไง หล่อดีออก ฉันว่าเขาเหมาะกับแกดีนะพิณ” โปรดตอบกรุ้มกริ่ม 

“เหมาะตรงไหน แกนี่ก็เพ้อระดับสิบ” แม้จะพูดแบบนี้ แต่อีกใจก็อดหวั่นไหวหนุ่มมาดเซอร์ มัดจุกคนนี้ไม่ได้จริงๆ นะ แต่ก็คงเพ้อแค่ในมโนตัวเองเท่านั้น 

“เอ้า! แกก็...”

“หยุด…เก๊กแมนบัดเดี๋ยวนี้ เขาเดินออกมานู่นแล้ว” เพลงพิณหันมาส่งสายตาดุๆ ให้โปรด เมื่อเห็นเฟร์เรเดินตรงมาหาพวกเขา 

“ท่าทางมันไม่ค่อยสู้ดี” ทันทีที่ออกจากห้องตรวจภายในคลินิก เฟร์เรก็เอ่ยขึ้น

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมอยู่เฝ้าให้เอง” โปรดเอ่ยบอกเสียงทุ้ม ตัดจริตจะกร้านทิ้งไปชั่วคราว ผิดไปกับโปรดคนเมื่อครู่

“งั้นฝากแกด้วยนะโปรด พรุ่งนี้ฉันจะแวะมาดูแต่เช้า”

“ไม่มีปัญหา” 

“ฉันกลับก่อนแล้วกัน แกจะได้ทำงาน”

“อืม” โปรดเอ่ยรับในคอ ก่อนจะมองมายังเฟร์เรจนเพลงพิณหมั่นไส้ เฟร์เรโค้งคำนับให้เป็นการบอกลา แต่ก่อนจะกลับออกไปจากคลินิก เขาก็ยังชะเง้อเข้าไปมองแมวด้วยความเป็นห่วง ได้แต่ภาวนาให้มันใจสู้ เพราะถ้าหาย เขาจะรับมันไปเลี้ยงเอง

เพราะความที่คลินิกของหมอโปรดอยู่ใกล้ เพลงพิณขับรถไม่นานเท่าไหร่ก็ถึงหน้าบ้านเสียแล้ว ทำไม๊...ทำไม เวลาแบบนี้ถึงเดินเร็วนักก็ไม่รู้ 

“หวังว่าพรุ่งนี้เราจะได้ข่าวดีจากหมอ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น หลังก้าวลงจากรถแล้วมายืนอยู่หน้าบ้านตัวเอง 

“อื้อ…ฉันก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน” 

“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณพิณ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้า 

“เชิญค่ะ ฉันก็จะเข้าบ้านเหมือนกัน” เอ่ยเสร็จ เพลงพิณก็หมุนตัวเข้าบ้าน เพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับเฟร์เรเหมือนกัน 

เสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาภายในบ้าน ทำให้ฟาโรห์หันไปมอง ก่อนจะเห็นว่าคือพี่ชายที่เอาขยะไปทิ้ง แต่ทว่ากลับหายไปเป็นชั่วโมงๆ กระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นคราบเลือดบนเสื้อตัวที่เฟร์เรสวม จึงรีบถาม

“นายหายไปไหนมา แล้วนั่นเลือดอะไร” คนอยากรู้เดินมาถาม มองดูว่าเลือดของใคร พี่ชายได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า การเอาขยะไปทิ้งช่างอันตรายเหลือเกินสินะสำหรับที่นี่

“พอดีเจอแมวถูกรถชนที่หน้าบ้าน ก็เลยพาไปหาหมอ”

“พาไปหาหมอ นายไปยังไง รถนายก็ยังจอดอยู่ที่เดิมไม่ใช่เหรอ” ฟาโรห์เลิกคิ้วสงสัย 

“บ้านหลังข้างๆ พาไป”

“อ้อ…ผู้หญิงคนนั้น”

 

Related chapters

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 8

    “อื้อ…คนที่ฟาดนายด้วยไม้เบสบอลนั่นแหละ เธอยังเข้าใจผิดว่าฉันคือนาย” พูดไปแล้วก็รู้สึกแปลกๆ แม้ก่อนหน้านี้จะมีเหตุการณ์เข้าใจผิดว่าคนไหนคือเขา คนไหนคือน้องชายฝาแฝด แต่เฟร์เรกลับไม่รู้สึกอะไร แต่ครั้งนี้ทำไมเขาถึงไม่ชอบก็ไม่รู้ “เอ้า! แล้วนายได้บอกไปมั้ย ว่านายเป็นใคร” งานนี้น้องชายแปลกใจ ปกติเฟร์เรจะออกตัวว่าตนมีฝาแฝดป้องกันการเข้าใจผิด“ไม่ได้บอก”“อืม…อีกหน่อยเธอก็คงรู้เองว่าเราเป็นฝาแฝดกัน” ฟาโรห์เลิกคิ้วสูง ในเมื่อดูเหมือนพี่ชายไม่อยากบอก ไม่มีเหตุผลอะไรที่ตนจะต้องไปออกตัว“แต่ฉันกลับไม่อยากให้เธอรู้” เฟร์เรเอ่ยกับตัวเอง เขามีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อยากให้ผู้หญิงบ้านข้างๆ รู้ว่าเขานั้นมีฝาแฝด เพราะถ้ารู้ก็กลัวว่าเธอจะหลงความหล่อของฟาโรห์จนไม่มีใจมองมาที่เขา แต่ทว่า…ความคิดนี้ก็ต้องหยุดลง เพราะเหตุผลหลักๆ ที่เฟร์เรมาที่นี่คือการมาตามหาหญิงสาวในภาพถ่ายคนนั้นให้พบ คนที่เขาหลงรักอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ใช่แบ่งใจไปรักผู้หญิงอื่น แต่ก็ไม่วายที่จะมองไปยังบ้านหลังที่อยู่ติดกัน“จะไม่เข้าบ้านเหรอ” พอเห็นว่าพี่ชายเอาแต่ยืนนิ่ง ฟาโรห์ก็เอ่ยขึ้น“อืม” เสียงทุ้มเอ่ยรับในลำคอ ก่อนจะเดินผ่านน้องชาย และเสี

    Last Updated : 2024-10-27
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 9

    “แล้วใครจะได้สิทธิ์เลี้ยงก่อน” คำถามของเพลงพิณทำเอาโปรดคิ้วขมวด เพราะกำลังหาทางออกให้“เอางี้ เล่นกับดวงเลยแล้วกัน ถ้ารถที่เลี้ยวเข้ามาคลินิกทะเบียนลงท้ายด้วยเลขคู่ พิณเอาไปเลี้ยงก่อน แต่ถ้าลงท้ายด้วยเลขคี่ เบคเอาไปเลี้ยง โอเคนะ” “โอเค” เพลงพิณเอ่ยรับ ใครมันจะไปกล้าขัดสัตวแพทย์โปรดได้...หืม “ครับ” เฟร์เรเอ่ยรับเช่นกัน ก่อนจะภาวนาให้รถที่เล่นเข้ามาภายในคลินิกคันต่อไปทะเบียนลงท้ายด้วยเลขคี่ ส่วนเพลงพิณก็ภาวนาตรงกันข้าม เลขคู่ เลขคู่ เลขคู๊!!! เสียงแอคโค่เธอดังกึกก้องอยู่ในโสตประสาท แต่ทว่าโชคกลับไม่เข้าข้างคนสวยอยากเลี้ยวแมว“เลขที่ออก...เจ็ด…จบข่าว อาทิตย์แรกเบคได้เลี้ยงเจ้าลัคกี้ก่อน ส่วนอาทิตย์ต่อไปก็แกพิณ” โปรดเอ่ยสรุปให้เสร็จสรรพ ก่อนจะได้ยินเสียงคนผิดหวังเบาๆ “อื้อ” เมื่อตกลงเรื่องใครจะเลี้ยงก่อนเลี้ยงหลังลงตัว เฟร์เรและเพลงพิณจึงเข้าไปดูอาการของเจ้าแมวน้อยใกล้ๆ และคนที่ขอตัวก่อนคนแรกคือเพลงพิณ เพราะใกล้ได้เวลาทำงานแล้ว ตามด้วยเฟร์เรโปรดยืนกอดอกมองรถสองคันที่กำลังขับออกไปจากคลินิก อยู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลแปลกๆ หรือทั้งคู่กำลังชอบพอกันอยู่“ไม่จริงมั้ง” โปรดส่าย

    Last Updated : 2024-10-27
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 10

    “บ้า…มาจูบสิ รสปลาร้าเต็มๆ” พี่ใหญ่ของกลุ่มค้อนควักให้คนแซวเรื่องปาก ที่มาแซวอะไรเอาตอนนี้ เดี๋ยวตบด้วยข้าวเหนียวในมือซะเลย “เผ็ดเหรอเจ้” สีหน้าของลลินดานั้นแสดงออกว่าห่วงเจ้ของเธอแบบสุดๆ “อื้อ…วันนี้ป้าแกโกรธอะไรเจ้เปล่า ใส่พริกซะเยอะซะแยะ เคี้ยวคำไหนเจอแต่พริก”“ไม่ได้โกรธหรอก คงเป็นพริกค้างครกมากกว่า เอ้า...น้ำๆ จะได้แก้เผ็ด” เอ่ยเสร็จ ลลินดาก็ส่งน้ำเย็นๆ ให้เพลงพิณดื่มดับเผ็ด“ขอบใจจ้ะ”“นี่เจ้…เค้ากำลังจะแต่งงานแหละ” ประโยคนี้ของลลินดาทำเอาเพลงพิณแทบจะบ้วนน้ำเย็นๆ ลงแก้วที่ถืออยู่ ก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนรุ่นน้องตาปริบๆ “นี่เจ้เผ็ดจนหูแว่วไปเลยเหรอที่ได้ยินมิ้นบอกว่าจะแต่งงาน” เพลงพิณยิ้มแห้งๆ ให้ เพราะคิดว่าตัวเองหูฟาด “ไม่ได้หูแว่ว เค้ากำลังจะแต่งงานจริงๆ” ลลินดาย้ำให้ได้ยินอีกครั้ง ส่วนบุหลันนั้นก็ดูจะอึ้งไปอีกคน อึ้งจนข้าวเหนียวที่เพิ่งส่งเข้าปากหล่นมากองบนโต๊ะอย่างไม่รู้ตัว “แต่งกับใคร” คนที่เอ่ยถามถึงว่าที่เจ้าบ่าวของลลินดาคือเพลงพิณ เพราะดูท่าเธอจะตั้งสติได้แล้ว “ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละเจ้ก็” ท่าทางของว่าที่เจ้าสาวดูขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด เพราะผักบุ้งที่อยู่ในมือตอนน

    Last Updated : 2024-10-27
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 11

    งานแต่งงานของยลดาและเจ้าบ่าวร้อยล้าน ที่ได้ชื่อแบบนี้เพราะเจ้าบ่าวอย่างบูรพานั้น เป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง แค่เอ่ยชื่อ คนครึ่งค่อนประเทศก็ร้องอ๋อภายในงานประดับประดาด้วยดอกไม้สีม่วงขาว ซึ่งเป็นสีโปรดของเจ้าสาว และคนที่โดดเด่นที่สุดของงานก็คงหนีไม่พ้นยลดา ที่วันนี้มาในชุดแต่งงานสีขาวจากแบรนด์ดัง ยิ่งส่งให้เธอเหมือนเจ้าหญิงที่ควงแขนมากับเจ้าชายผู้หล่อเหลา ธีมงานแต่งงาน คือธีมในฝันของสาวโสดหลายๆ คน ทุกอย่างดูโรแมนติกมาก มากเสียจนต่อมอิจฉาของเพลงพิณทำงานอย่างแรง“เฮ้อ...เราจะมีงานแบบนี้กับเขาบ้างมั้ยน้อ” คนโสดที่รั้งตำแหน่งคนสุดท้ายของกลุ่มตัดพ้อในโชคชะตา เรื่องเรียน เรื่องกิจกรรม เธอมักจะคว้าที่หนึ่งหรือลำดับต้นๆ มาครองเสมอ แต่เรื่องสละคานกลับรั้งที่สุดท้ายเสียได้แต่ขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่เพลินๆ ช่อบูเก้เจ้าสาวก็หล่นตุ้บมาอยู่บนตัก สายตาแทบทุกคู่ในงานจับจ้องมาที่ทันตแพทย์คนสวยทันที เพลงพิณยิ้มแห้งๆ ให้ทุกคน ก่อนจะถูกลากตัวขึ้นไปบนเวที“ว่าที่เจ้าสาวคนต่อไป” คำพูดของพิธีกรในงานย

    Last Updated : 2024-10-28
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 12

    ตลอดเวลาที่เจ้าโชคดีหรือลัคกี้ รักษาตัวอยู่ที่คลินิกสัตว์ของโปรด ทั้งเพลงพิณและเฟร์เรก็ต่างแวะเวียนไปเยี่ยมเจ้าแมวน้อย แต่ไปทีไรก็คลาดกันตลอด กระทั่งครั้งล่าสุดที่เพลงพิณแวะไปก็เห็นว่าโชคดีนอนอยู่บนตักเฟร์เร“หมั่นไส้”“เอ้า! แกนี่ก็แปลก อยู่ๆ มาบอกหมั่นไส้ฉัน” เพลงพิณหันมาแหวใส่คนข้างๆ“แกนี่เลยจุดว่าหมั่นไส้ไปนานแล้วย่ะ ที่ฉันหมั่นไส้คืออีแมวนั่นต่างหาก แหม…ทีอย่างนี้มาทำเป็นอ้อน นอนตักผู้ชาย ทีฉัน…แค่จับนางมาตรวจแผลหน่อยเดียว มีข่วน มีขู่ฟ่อๆ ยังกะงูเห่า” โปรดเบ้ปาก หมั่นไส้แมวได้น่าหมั่นไส้มาก แต่ความจริงคือเขาเป็นคนชอบสัตว์ทุกชนิดต่างหาก ไม่งั้นคงไม่เรียนและเลือกที่จะมาเป็นหมอสัตว์หรอก“นังบ้า อิจฉาได้แม้กระทั่งแมว”“หรือไม่จริง” สีหน้าของโปรดยังคงจริงจังอยู่ เพลงพิณหมั่นไส้จึงตีลงไปบนแขนแรงๆ จนสัตวแพทย์หนุ่มสะดุ้ง“สงสัยแมวมันจะรู้ว่าแกคือชะนีในร่างผู้ชาย นางเลยไม่ยอมให้เข้าใกล้”

    Last Updated : 2024-10-29
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 13

    ของคาวผ่านไปก็ตามด้วยของหวาน เฟร์เรได้แต่มอง ขณะที่เพลงพิณสั่งของหวานมาทาน สีหน้าเขาดูงุนงงกับของหวานที่ได้เห็น เพราะนึกว่าจะเป็นไอศกรีมหรือเค้กเสียอีก“ลองทานดูไหมคะ”“ของหวานของคุณหน้าตาแปลกดี” เฟร์เรมองไปยังถ้วยของหวานที่มีน้ำแข็งและอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้จักลอยอยู่ในนั้น“มันเรียกว่าสละลอยแก้ว ทานตอนอากาศร้อนๆ อร่อย” สีหน้าของคนพูดดูจะมีความสุขกับการได้กินเมนูโปรดหน้าร้อน“ชื่อก็แปลก”“แน่สิ…ก็อาหารไทยนี่นา ลองชิมดู” เพลงพิณหยิบช้อนอีกคันมาตักสละลอยแก้วแล้วยื่นให้เฟร์เร ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยื่นมือไปรับช้อนคันนั้นมาถือไว้ ก่อนจะลองชิมรสชาติดู“อร่อยไหม” คำถามของเพลงพิณ เฟร์เรตอบด้วยการส่ายหน้า นั่นทำให้เธอหัวเราะออกมา สงสัยเขาจะไม่ชอบรสหวานอมเปรี้ยวติดเค็มที่ปลายลิ้นของสละลอยแก้วถ้วยนี้ แต่สำหรับเธอ บอกเลยว่า ปลื้มมากเมื่อทานอิ่ม เฟร์เรก็ขับรถพาเพลงพิณกลับมาที่คลินิกส

    Last Updated : 2024-10-30
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 14

    “ใช่…สลับกันเลี้ยงคนละอาทิตย์กับผู้หญิงบ้านข้างๆ คนที่ตีนายจนน่วมนั่นแหละ”“นายให้เธอเลี้ยงคนเดียวไม่ได้หรือไง” สีหน้าของฟาโรห์ช่างดูน่าสงสาร ตัวก็โตกว่า แต่มาแพ้แมวตัวเล็กๆ เสียได้“คงไม่ได้ นายมีปัญหาอะไรมั้ย”“พอดีว่าฉัน…ฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย!” ยังไม่ทันจะได้บอก ฟาโรห์ก็จามติดกัน“ว่างๆ ก็ไปให้หมอตรวจหน่อย” สีหน้าของเฟร์เรนั้นแสดงออกว่าห่วงน้องชายอยู่ไม่น้อยที่เอาแต่จามอยู่แบบนี้ และจังหวะที่เขาเดินเข้าไปใกล้ น้องชายก็จามออกมาอีกสองสามครั้ง พร้อมกับรีบขยับหนีไปอีกทาง“นายยืนอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องเข้ามาใกล้”“ทำไม ไม่อยากอุ้มเจ้านี่เหรอ” เจ้านี่ที่ว่าคือแมวน้อยสีขาวที่เฟร์เรอุ้มอยู่ แล้วยังหวังดี ทำท่าส่งให้ฟาโรห์อุ้มบ้างอีกต่างหาก“ไม่…เอาออกไปห่างๆ ฮัดเช้ย!”“เอ้า! จามขนาดนี้ รีบไปหาหมอซะไป” เฟร์เรไล่น้องชายไปหาหมออ

    Last Updated : 2024-10-31
  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 15

    หลังรับยาเสร็จ ฟาโรห์ก็ตรงกลับบ้าน เพื่อบอกพี่ชายเรื่องจะย้ายออกไปอยู่คอนโดมิเนียม แต่ยังไม่ทันจะได้พูดเรื่องนี้ ก็เห็นเฟร์เรสะพายกล้องเหมือนจะออกไปที่ไหนสักแห่ง“นั่นนายจะไปไหน”“มีงานด่วนเข้ามา ฉันฝากนายดูแลลัคกี้สักสามสี่ชั่วโมงสิ” งานด่วนที่ว่าคืองานถ่ายภาพที่สตูดิโอของเพื่อนสนิท ซึ่งมาเปิดธุรกิจผลิตสื่อโฆษณาที่เมืองไทยแม้จะไม่อยากรับงานด่วน แต่งานด่วนที่ว่าก็ช่างน่าสนใจ เพราะเป็นการถ่ายแบบที่มีสัตว์อย่างม้าเป็นองค์ประกอบหลัก ปกติ เฟร์เรนั้นชอบสัตว์อยู่แล้ว เขาจึงไม่เกี่ยงหากจะทำงานร่วมกับมัน“ห๊า!” คนฟังอุทานเสียงหลง แค่อยู่ใกล้ชีวิตเขายังลำบาก นี่เฟร์เรยังฝากให้ดูแลเจ้าแมวอีกเหรอ แค่คิดฟาโรห์ก็หน้าซีด“อย่าทำหน้าแบบนั้นไอ้น้องชาย แค่ดูแลแมว มันก็งานง่ายๆ เหมือนกับที่นายคอยเทคแคร์สาวๆ นั่นแหละ” เอ่ยจบเฟร์เรก็ก้าวตรงไปยังรถแล้วขับออกไปทันทีปล่อยให้ฟาโรห์ยืนอึ้ง ก่อนจะก้มมองถุงยาในมือตาปริบๆ งานนี้ดูท่าเขาจะรอดยาก ยืนถอนหายใจดังเฮือกสองสามครั้ง ก่อนจะเดินไปยืนด้อมๆ มองๆ แมวที่มุมห้อง

    Last Updated : 2024-11-01

Latest chapter

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 64 - จบ

    “เซอร์ไพรส์” ทุกคนในห้องต่างตะโกนคำว่าเซอร์ไพรส์อย่างพร้อมเพรียง นอกจากพ่องานอย่างเฟร์เร ลลินดา ภาคิน บุหลันแล้ว ยังมีโปรดที่ยืนฉีกยิ้มหวานอีกคน ซึ่งโปรดไม่ได้มาคนเดียว ยังพาโชคดีมาด้วยแต่ยังไม่ทันที่เพลงพิณจะได้พูดอะไร เธอก็ต้องตกใจยกกำลังสอง เมื่อเห็นรูปของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ จนถึงปัจจุบันปรากฏอยู่บนโทรทัศน์ขนาดสี่สิบสองนิ้วที่ติดไว้กับกำแพงห้องโดยเฉพาะรูปปัจจุบันที่อิริยาบถต่างๆ นั้นแทบไม่ซ้ำกัน มีรูปตอนเธอไปซื้อต้นไม้กับเฟร์เร ที่หน้าเยินๆ ตอนไปกินข้าว ดูหนัง อันนี้สวยหน่อย รูปทีเผลอ ตอนเธอนอนน้ำลายยืด หรือแม้แต่ตอนไม่ได้แต่งหน้า และสิ่งที่สะดุดสายตาของเพลงพิณนั่นคือป้ายข้อความที่มักจะถูกใส่ไว้หรือแทรกอยู่มุมใดมุมหนึ่งบนรูปอ่านปะติดปะต่อได้เป็นคำว่า ‘Will you marry me’ นั่นยิ่งทำให้อกซ้ายของเพลงพิณเต้นรัว หายใจก็ชักจะไม่ค่อยทั่วท้องและทันทีที่ฉายมาถึงรูปสุดท้าย คำว่า Will you marry me ก็ชัดขึ้นด้วยป้ายตัวอักษรที่ถูกปล่อยลงมาตรงหน้าเพลงพิณได้อย่างพอดิบพอดี“โรแมนติกสุดๆ” บุหลันเพ้อออกมา เพราะจะมีอะไรโรแมนติกไปมากกว่านี้ไม่

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 63

    หลังจบงานแต่งงานของลลินดาและภาคิน บรรดาเพื่อนสนิทก็ยังคงอยู่กันครบ ไม่มีใครหนีหายกลับกรุงเทพฯ ก่อน เพราะยังไม่จบภารกิจเสียทีเดียวทุกคนดูมีลับลมคมในแปลกๆ แปลกจนเพลงพิณอดที่จะสงสัยไม่ได้ พอถามใครก็บอกว่าไม่มีอะไรอย่างพร้อมเพรียง“เจ้…เย็นนี้เค้าอยากกินปูไข่ เราออกไปซื้อที่ท่าเรือกันนะ”“ไปสิ” เพลงพิณเอ่ยรับปากส้มไปโดยไม่ได้เอะใจอะไรสักนิด ว่าเธอกำลังถูกหลอกให้ออกไปจากโรงแรมก่อนชั่วคราวเมื่อบุหลันพาเพลงพิณไปแล้ว ที่เหลือเริ่มจัดสถานที่ ซึ่งก็คือห้องจัดเลี้ยงเล็กริมสระว่ายน้ำของทางโรงแรมนั่นเอง โดยมีเจ้าสาวหมาดๆ อย่างลลินดาคอยช่วยจัดส่วนหนุ่มๆ อย่างภาคินและเฟร์เรก็ถนัดใช้งานออกแรง ปีนป่ายติดรูปของเพลงพิณจนทั่วห้อง จากนั้นขบวนลูกโป่งก็ถูกนำเข้ามา“เป็นอะไรส้ม ท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกๆ” เพราะเห็นว่าบุหลันเอาแต่มองโทรศัพท์ เพลงพิณจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น ส่วนคนถูกถามก็แอบสะดุ้งมีพิรุธเบาๆ“เป็นอะไร ถามแค่นี้ต้องสะดุ้งด้วย”“เปล่าเจ้พิณ ไม่มีอะไร พอดีเค้าแค่นั่งคิดอะไร

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 62

    “อะไรคะ”“ผมต้องกลับเยอรมัน” ประโยคที่ได้ยินทำเอาเพลงพิณถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ทำไมมันถึงได้ปุบปับแบบนี้ เธอยังไม่อยากห่างกับเฟร์เร“กลับเยอรมัน เมื่อไหร่คะ”“อีกสองอาทิตย์ครับ ผมทิ้งภาระให้ลูกน้องรับผิดชอบงานของผมมานานมากพอแล้ว ผมต้องกลับไปคุมต่อ” เหตุผลของเฟร์เร ทำให้เพลงพิณไม่อาจแย้งเขาได้ และเธอก็โตพอที่จะเข้าใจคนรัก แม้จะหวิวๆ ในใจที่ต้องอยู่ห่างเขาก็เถอะ“ฉันเข้าใจ”“ผมอยากให้คุณไปด้วย”“สองอาทิตย์ฉันคงลางานไม่ได้แน่ เอางี้…คุณกลับไปก่อน ขอฉันเคลียร์งานแล้วจะบินตามไปนะ” ประโยคที่ได้ยิน ทำให้ใจของเฟร์เรชื้นขึ้นมาได้มาก เพลงพิณเข้าใจเขา“คุณโกรธผมหรือเปล่าที่อยู่ที่เมืองไทยต่อกับคุณไม่ได้”“ไม่โกรธค่ะ แต่ก็รู้สึกหวิวๆ ในอกอยู่เหมือนกัน เสียดายที่เราเจอกันช้าไป เพราะถ้าเจอกันเร็วกว่านี้ ฉันก็คงได้อยู่กับคุณนานกว่านี้”“โธ่…ที่รัก” เฟร์เรคว้าเธอมากอด ฝ่ามืออุ่นๆ ลูบศีรษะของเธอไปมาอย่างปลอบโยน ยิ่

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 61

    “ผมมาที่นี่ก็เพราะมาตามหาคุณ” ยิ่งฟัง เพลงพิณก็ยิ่งงง“ตามหาฉันเหรอ ตามหาทำไม” นั่นน่ะสิ เขามาตามหาเธอทำไม ก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ หรือโปรดทำอะไรมิดีมิร้ายแฟนเธอ“เพราะผมรักคุณ ผมรักผู้หญิงคนที่คุณเห็นจากกล้องถ่ายรูปเมื่อครู่นี้ ผมรักเธอ จนยอมทิ้งทุกอย่างแล้วมาตามหาเธอ” เฟร์เรเอ่ยคำว่ารักให้เพลงพิณฟังครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนโปรดนั้นเมื่อรู้และเห็นอะไรมากพอ จึงหมุนตัวกลับออกไป เพราะดูท่าเพลงพิณกับเฟร์เรจะมีเรื่องให้คุยกันอีกนานและก็จริงอย่างที่โปรดคิด เพราะตอนนี้เฟร์เรตั้งคำถามกับ เพลงพิณถึงเรื่องเมื่อครั้งที่เธอไปเที่ยวเบอร์ลิน และเพลงพิณก็ถาม เฟร์เรย้ำอีกครั้ง ว่าเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะหรือ พอได้คำตอบก็ยิ้มแก้มแตก ก่อนจะกระโดดกอดชายหนุ่มแน่น“คุณมาตามหาฉันเหรอ” พอคลายอ้อมกอดออกก็เอ่ยถาม“ครับ ข้ามฟ้า ข้ามทะเลมาตามหาความรักถึงที่นี่” คำพูดหวานๆ ที่ได้ยินทำเอาเพลงพิณแทบจะลอยได้ รู้สึกว่าความรักครั้งนี้ของเธอมันอยู่เหนือคำว่าพรห

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 60

    ความรักของเพลงพิณและเฟร์เรก่อตัวขึ้นอย่างสวยงาม แม้เธอจะเอ่ยบอกขอชายหนุ่มแต่งงานไปตอนเมามาย แต่เฟร์เรกลับคิดจริงจัง และเตรียมเซอร์ไพรส์เพลงพิณไว้แล้ว เพียงแค่รอเวลาเหมาะๆ เท่านั้น และช่วงนี้เขาก็นิ่ง ไม่เอ่ยอะไรเกี่ยวกับคืนนั้นอีกทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ทั้งคู่มักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันเสมอ อย่างเมื่อครู่เธอก็อยู่กับเฟร์เร แต่เขาขอตัวไปเอาของที่บ้าน ส่วนเพลงพิณก็นั่งเล่นใต้ซุ้มชิงช้าไม้รอ อยู่ๆ เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น พอหันไปมอง จึงเห็นว่าเป็นโปรด ที่ยืนยิ้มหล่อละลายใจเกย์อยู่“เข้ามาสิแก ประตูไม่ได้ล็อค”“ฉันไม่ได้มาหาแกย่ะ” โปรดตอบกลับมาได้อย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด จริตจะก้านนี่มาเต็ม“เอ้า! แล้วมาหาใครยะ อย่าบอกนะว่าแกมาหาแฟนฉัน”“ใช่…แต่แหม ไม่เจอกันแค่แป๊บเดียว นี่หล่อนแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของได้แรงเหมือนกันนะยะ” คำพูดของโปรด เพลงพิณทำเพียงแค่ไหวไหล่รับเบาๆ เท่านั้น“ก็แน่ล่ะ ว่าแต่แกจะไปหาเบคเขาทำไม”

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 59

    “อะไรนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง กลัวว่าเขาหูฝาดที่ได้ยินว่าเพลงพิณชวนเขาแต่งงาน“เราแต่งงานกันตอนนี้เลยได้มั้ย ฉันแก่แล้ว มดลูกก็ใกล้จะเสื่อมเต็มที ถ้าขืนชักช้าไปกว่านี้ ฉันกลัวมีลูกยาก” เหตุผลของเพลงพิณดูเหมือนจะฟังขึ้น“นี่คุณพูดจริงหรือแค่พูดขำๆ ตอนเมากันที่รัก”“ฉันพูดจริงๆ ให้เวลาคุณคิดก่อนก็ได้อ่ะ ไว้…พรุ่งนี้ ฉันจะมาฟัง คำ…ตอบ” พูดจบเพลงพิณก็น็อคกลางอากาศ ร่างบางโอนเอน จนเฟร์เรต้องรีบเข้าไปพยุง“คุณพิณ พิณครับ” คนตัวโตเขย่าร่างกึ่งเปลือยในอ้อมกอด แต่เพลงพิณก็ไม่มีท่าทีจะรู้สึกตัว“เมาจนหลับไปแล้วเหรอ” ชายหนุ่มส่ายหน้าให้เธอ ก่อนจะอุ้มกลับมานอนที่เตียง จากนั้นก็หาผ้าไปชุบน้ำหมาดๆ ก่อนจะมาเช็ดตัวให้เธอ เสร็จก็หาเสื้อยืดของเขาในตู้ออกมาให้เธอสวม จากนั้นก็นั่งมองคนที่กำลังหลับพริ้ม“คำว่า...เราแต่งงานกันมั้ย ผมควรจะพูดไม่ใช่เหรอครับ” เฟร์เรเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะลุก

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 58

    “เซอร์ไพรส์มาก มากจนฉันเลยดูตลกไปเลยที่หึงจนทำตัวไม่เข้าท่าไปแบบนั้น” พูดไปแล้ว แพรวพราวก็ตกใจจนตาโต ที่เผลอหลุดปากบอกว่าหึงฟาโรห์“ดีใจจังที่รู้ว่าคุณทั้งรักทั้งหึงผมแบบนี้” คนหล่อเอ่ยเข้าข้างตัวเองได้อย่างน่าหมั่นไส้“ไม่ต้องมาพูดเลย” แพรวพราวแหวใส่คนชอบแซว ก่อนจะจงใจเปลี่ยนประเด็น ด้วยการหันไปคุยกับพี่สาวแทน ซึ่งคำถามก็ไม่ได้มีอะไรนอกไปจากพี่สาวเธอรู้จักหนุ่มข้างบ้านที่ชื่อว่าเฟร์เรได้ยังไงรู้จักกันมานานหรือยัง และคำถามเด็ดตอนนี้คบกันเป็นแฟนแล้วใช่ไหม ซึ่งเพลงพิณก็ตอบทุกคำถามอย่างไม่ปิดบัง ก่อนที่เธอจะถามแพรวพราวด้วยรูปประโยคแบบเดียวกันบ้าง แต่คนตอบก็ยังคงลีลา ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง แต่เพลงพิณก็สรุปได้ ว่าทั้งคู่กำลังคบหากันอยู่ส่วนเฟร์เรกับฟาโรห์ก็ทำหน้าที่แค่นั่งฟังสองพี่น้องคุยกันเท่านั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งมองหน้ากันและกัน ยิ้มแล้วหัวเราะออกมา เพราะความที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันมาก ภาพที่เห็นจึงเหมือนภาพสะท้อนของกระจกบานใหญ่ ใครจะไปคิดว่าพวกเขาต่างคบ

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 57

    เมื่ออยู่คนเดียว แพรวพราวได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ โลกจะกลมไปไหน สถานที่มีออกตั้งเยอะ ดันมาเจอพี่สาวที่นี่ซะได้ จะออกไปขอเปลี่ยนสถานที่กับฟาโรห์ก็กระไรอยู่ ที่สำคัญ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เธอขอไปเจอหน้าหนุ่ม ที่วันนี้มากับเพลงพิณพี่สาวหน่อยก็คงดีเหมือนกันเพลงพิณเดินยิ้มหวานกลับมาที่โต๊ะ เฟร์เรก็ชวนเธอเลือกอาหาร ซึ่งแต่ละเมนูนั้นหน้าตาน่ากินไปหมด ก่อนที่เขาจะชี้มาที่เมนูประเภทสลัด เพราะทุกครั้งที่ไปกินข้าวด้วยกัน เพลงพิณมักจะสั่ง“คุณอยากกินอะไร นี่มั้ย” ชายหนุ่มชี้มายังสลัดแซลมอนรมควันอโวคาโด“ก็ดีค่ะ” เพลงพิณพยักหน้าให้ รู้สึกอิ่มตั้งแต่ยังไม่ได้กินอะไรด้วยซ้ำ รู้ว่ามีแฟนแล้วดีแบบนี้ เธอมีไปนานแล้ว...อ๊ากก“แล้วคุณล่ะ อยากกินอะไร”“อืม…น่ากินทั้งนั้นเลย แต่ถ้าให้เลือก ขอกินคุณดีกว่า”“บ้า…นี่ก็ยังจะทะลึ่งอีก” เพราะเขิน เพลงพิณจึงเอื้อมมือไปตีต้นแขนของเฟร์เรหนักๆ คนบ้าอะไร มาพูดทะลึ่งเอาตอนนี้ เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเธอก็ชวนกลับบ้านเสียเลยแต่แล้วอยู่ๆ ขณะที่เพลงพิณกำลังเขินหนั

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 56

    “ไม่ดี”“ทำไมล่ะครับ คุณไม่ชอบเหรอ” คนหล่อเลิกคิ้วสูงถาม“ไม่ชอบ เพราะฉันชอบที่คุณเป็นตัวของคุณเองมากกว่า ฉันชอบเวลาคุณมัดจุก เท่ดีออก อ้อ…แต่ถ้าจะจูบฉัน ต้องโกนหนวดก่อน ตกลงมั้ยคะ” เพลงพิณตั้งข้อแม้“งั้นคุณก็ต้องโกนหนวดให้ผมทุกวัน”“เอ้า! ใครจะไปอยู่กับคุณได้ทุกวันกัน...เชอะ” เอ่ยจบก็เดินเลี่ยงไปยังรถ ขืนยืนอยู่ต่อ เธอได้อายม้วนไม่เป็นท่าต่อหน้าเฟร์เรแน่ๆเฟร์เรรีบก้าวตามหลังเพลงพิณมาติดๆ ก่อนจะเข้ามาขวาง เมื่อเห็นว่าเธอจะเปิดประตูรถ“ผมนึกขึ้นได้พอดี ว่าเมื่อเช้าพึ่งโกนหนวดไป งั้นตอนนี้ เราก็จูบกันได้แล้วสิ” คำพูดห่ามๆ ของเฟร์เรทำเอาคนฟังแยกเขี้ยวขาวๆ ให้“ทะลึ่ง! มาจูบอะไรตรงนี้ อายคนอื่นเขา”“งั้นก็รีบกลับบ้าน ผมอยากจูบคุณจะแย่แล้ว” แทนที่จะหยุดพูด เฟร์เรกลับยิ่งพูดให้เพลงพิณอาย เกิดมาก็เพิ่งจะเขินหนักจนไปไม่เป็นกับเขาก็งานนี้“บ้า!” เพลงพิณยกกำปั้นขึ้นมาทุบต้นแขนคนตรงหน้าไปแรงๆ“

DMCA.com Protection Status