Share

บทที่ 9

“แล้วใครจะได้สิทธิ์เลี้ยงก่อน” คำถามของเพลงพิณทำเอาโปรดคิ้วขมวด เพราะกำลังหาทางออกให้

“เอางี้ เล่นกับดวงเลยแล้วกัน ถ้ารถที่เลี้ยวเข้ามาคลินิกทะเบียนลงท้ายด้วยเลขคู่ พิณเอาไปเลี้ยงก่อน แต่ถ้าลงท้ายด้วยเลขคี่ เบคเอาไปเลี้ยง โอเคนะ” 

“โอเค” เพลงพิณเอ่ยรับ ใครมันจะไปกล้าขัดสัตวแพทย์โปรดได้...หืม 

“ครับ” เฟร์เรเอ่ยรับเช่นกัน ก่อนจะภาวนาให้รถที่เล่นเข้ามาภายในคลินิกคันต่อไปทะเบียนลงท้ายด้วยเลขคี่ ส่วนเพลงพิณก็ภาวนาตรงกันข้าม 

เลขคู่ เลขคู่ เลขคู๊!!! เสียงแอคโค่เธอดังกึกก้องอยู่ในโสตประสาท แต่ทว่าโชคกลับไม่เข้าข้างคนสวยอยากเลี้ยวแมว

“เลขที่ออก...เจ็ด…จบข่าว อาทิตย์แรกเบคได้เลี้ยงเจ้าลัคกี้ก่อน ส่วนอาทิตย์ต่อไปก็แกพิณ” โปรดเอ่ยสรุปให้เสร็จสรรพ ก่อนจะได้ยินเสียงคนผิดหวังเบาๆ 

“อื้อ” 

เมื่อตกลงเรื่องใครจะเลี้ยงก่อนเลี้ยงหลังลงตัว เฟร์เรและเพลงพิณจึงเข้าไปดูอาการของเจ้าแมวน้อยใกล้ๆ และคนที่ขอตัวก่อนคนแรกคือเพลงพิณ เพราะใกล้ได้เวลาทำงานแล้ว ตามด้วยเฟร์เร

โปรดยืนกอดอกมองรถสองคันที่กำลังขับออกไปจากคลินิก อยู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลแปลกๆ หรือทั้งคู่กำลังชอบพอกันอยู่

“ไม่จริงมั้ง” โปรดส่ายศีรษะแรงๆ เพื่อไล่ความคิดที่อยู่ๆ ก็ผุดเข้ามาในสมองตอนนี้ แต่ถ้าเกิดจริงขึ้นมาก็คงดีไปอีกแบบ เพราะ เพลงพิณจะได้สลัดคานทิ้งเสียที แต่ก็ไม่วายขอเล่นกับดวงอีกสักครั้ง เผื่อลางสังหรณ์เขาจะแม่น

โปรดเพ่งมองไปยังรถที่จะเลี้ยวเข้าคลินิก โดยมีเป้าหมายในใจทั้งสีรถและทะเบียน ก่อนจะตาโต อ้าปากค้าง เมื่อเห็นรถสีแดง ทะเบียนลงท้ายด้วยเลขสอง เลี้ยวเข้ามาจอด 

“โอ้...แม่เจ้า แกได้ลงจากคานแน่ยัยพิณ” 

 

แม้บ้านจะอยู่ติดกัน ขวางกั้นเพียงแค่รั้วเตี้ยๆ แต่ก็ใช่ว่าเพลงพิณจะได้พบหน้าเฟร์เรบ่อยๆ นั่นเพราะตั้งแต่ตกลงเรื่องใครจะเลี้ยงเจ้าโชคดีหรืออีกชื่อคือลัคกี้ก่อน ชายหนุ่มก็หายหน้าหายตาไปอย่างกับนินจา

ทุกวันก่อนไปทำงาน เพลงพิณก็แวะเยี่ยมโชคดีที่คลินิกของโปรดก่อนเสมอ ซึ่งเฟร์เรก็ไม่ได้แวะไปเยี่ยมลัคกี้ของเขาแต่อย่างใด 

“หายไปไหนของเขานะ” เสียงใสๆ บ่นกระปอดกระแปดขณะขับรถไปทำงานที่โรงพยาบาล แต่ขณะนั้นก็คิดถึงปาร์ตี้สละโสดของ ยลดาขึ้นมา 

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่กล้าแต่งงานทั้งๆ ที่สัญญากับเธอเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะเกาะคานด้วยกันแท้ๆ สุดท้ายก็กลืนน้ำลายตัวเอง หึ๋ย! คิดแล้วแค้น

“ฉันขอแช่งแกไว้ตรงนี้เลยยัยฝ้าย ขอให้ผัวรัก ผัวหลง ขอให้เป็นแม่บ้านผู้หาญกล้า ฉันขอให้แกมีแต่ความสุข สามีอยู่ในโอวาท” ดูเหมือนคำแช่งของเพลงพิณมีแต่ประโยคดีๆ ทั้งนั้น

แม้ใจจะหวิวๆ เพราะในกลุ่มเหลือเธอคนเดียวแล้วที่ยังโสด โสดสนิทแบบไม่มีใครอีกด้วย แต่ก็คงต้องปล่อยให้ความโสดอยู่กับตัวต่อไป ปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไปเรียกไปร้อง วิงวอนหาเนื้อคู่มากไปก็คงไม่ใช่ตัวเธอสักเท่าไหร่ (หรา) 

กระทั่งรถของเธอเลี้ยวเข้าไปยังที่ทำงาน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ครบครันด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์อันทันสมัย เพลงพิณก็ตรงขึ้นไปยังห้องทำงานที่อยู่ในแผนกทันตกรรมของที่นี่ ถึงงานจะไม่ได้ยุ่งวุ่นวาย แต่ก็ไม่ได้ว่าง กระทั่งพักเที่ยง เสียงเคาะประตูห้องทำงานก็ดังขึ้น

“เจ้…พักเที่ยงแล้ว ลงไปกินข้าวกัน” เสียงทักของบุหลัน สาวชื่อไทยแต่ใบหน้าเก๋ออกไปทางฝรั่งดังขึ้น บุหลันเป็นนักรังสีเทคนิคของทางโรงพยาบาลและยังเป็นเพื่อนรุ่นน้องของเพลงพิณอีกด้วย

“รอมิ้นแป๊บนึง ตะกี้ไลน์มาบอกเจ้แล้วว่าให้รอ จะไปกินข้าวด้วย” เพลงพิณเอ่ยถึงรุ่นน้องอีกคน มิ้นหรือลลินดาเป็นหมอเด็ก หน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู 

ทั้งบุหลันและลลินดา อายุห่างจากเพลงพิณถึงหกปี แต่น่าแปลกที่ทั้งสามคนกลับเป็นกลุ่มเพื่อนที่ทำงานที่สามารถปรึกษาหารือกันได้ แม้อายุจะห่างกันพอสมควร โดยมีเพลงพิณเป็นเจ้ใหญ่ของน้องๆ 

“บ่มีปัญหาเลย” บุหลันยักคิ้วเรียวสวยขึ้นสองสองสามครั้ง ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งรอลลินดา ไม่ถึงห้านาที คุณหมอเด็กก็เดินยิ้มมาแต่ไกล

“หิวๆ ไปกินข้าวกันเถอะเจ้พิณ ส้ม” ขณะเอ่ยก็ลูบท้องตัวเองไปด้วย 

“แล้วนี่นั่งรอใครอยู่ละจ๊ะ...หืม” เพลงพิณยิ้มให้คนที่ลงมาสายสุด 

“เค้าเอง ครบแก๊งค์แล้วก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวคนเยอะ อดแซ่บ”

“ย่ะ” บุหลันเอ่ยรับ ก่อนจะลุกขึ้นมาควงแขนเพลงพิณข้างหนึ่ง ลลินดาข้างหนึ่ง แล้วพากันเดินไปยังร้านส้มตำข้างๆ โรงพยาบาล

สองคุณหมอสาวกับหนึ่งนักรังสีเทคนิคกำลังโซ้ยส้มตำกันอย่างอร่อย ผิดไปจากเวลาทำงานอย่างสิ้นเชิง แม้ส้มตำจะใส่พริกแค่สามเม็ด แต่มันก็เผ็ดจนทำให้เพลงพิณปากเจ่อได้ง่ายๆ

“เจ้พิณ”

“อะไร” เพลงพิณหันไปมองหน้าบุหลัน ที่ตอนนี้เอาแต่จ้องหน้าเธอเขม็ง

“ปากเจ้แดงน่าจูบมาก”

 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status