“โอเคจ้ะ ขอบใจมากแพรว ยังไงฝากแจ้งพี่อีกทีนะจ๊ะ ว่ามีถ่ายอะไรบ้าง จะได้เตรียมตัว”
‘ค่ะ วันถ่ายพี่โบไปพร้อมกับน้องไอมี่ดีไหมคะ แพรวจะได้ให้รถไปรับ ไปด้วยกันพี่โบจะได้มีเพื่อน’
“ไม่เป็นไร พี่ไปเองดีกว่า”
เธอปฏิเสธสั้นๆ อีกฝ่ายจึงวางสายไปด้วยเสียงอ่อยๆ คงเข้าใจว่าบราลีโกรธเอมิกาที่ทำให้ตนต้องเจ็บตัว แต่สำหรับเธอเพียงอยากหลับไปในรถระหว่างเดินทางเงียบๆ ไม่มีคนอื่นมาชวนพูดคุย
ใกล้เที่ยงคืน บราลียังไม่หลับเพราะวันนี้นอนทั้งวัน แม้จะทานยาไปแล้ว หญิงสาวนอนอ่านบทไปเรื่อยๆ และรู้สึกหิวน้ำ แต่น้ำที่เอามาไว้ในห้องหมดแล้วจึงออกไปหยิบขวดใหม่ข้างนอก
เธอรู้ว่าชนนกลับมาพักหนึ่งแล้วเพราะได้ยินเสียงประตู หากก็ไม่ได้สนใจนัก ร่างโปร่งอรชรตรงไปเปิดตู้เย็น อยากดื่มน้ำเย็น เนื่องจากวันนี้ดื่มเพียงน้ำอุณหภูมิห้องปกติ ได้น้ำที่ต้องการก็ปิดตู้เย็นลง จะหันกลับก็ต้องสะดุ้งเพราะเจอเข้ากับร่างสูงกำยำ ทว่าที่ทำเอาบราลีผงะถอยมายืนติดตู้เย็นก็เพราะบ่าหนากับแผงอกกว้างเปลือยเปล่า
ชนนใส่เพียงกางเกงวอร์มตัวเดียว!
ริมฝีปากอิ่มเผยอกำลังจะต่อว่าที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็เดินมาชิดตนโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง ที่สำคัญยังแต่งตัวล่อแหลมต่อสายตาเธออีกต่างหาก มือหนากลับยื่นมาหยิบขวดน้ำจากมือเธอไป เปิดขวดยกขึ้นดื่มหน้าตาเฉย
“น้ำฉันนะ นายหิวก็หยิบเองสิ”
บราลีพยายามเสียงแข็งใส่อีกฝ่ายและมองเพียงใบหน้าคมเข้ม ทว่ากลับกลายเป็นเผลอมองริมฝีปากได้รูปจรดปากขวดกับลำคอหนาที่ขยับกลืนน้ำ อยู่ๆ เธอก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว และชนนก็ปรายตามองอยู่จึงเห็นเข้า อีกฝ่ายลดขวดน้ำลงพลางยิ้มมุมปาก
“หิวน้ำ หรือ หิวเรา”
“บ้า!”
มือบางผลักอกเปลือยอย่างลืมตัวเพราะหน้าตัวเองร้อนจัด แล้วกลับต้องสะดุ้งโหยงเมื่อฝ่ามือปะทะอกหนาแน่นปึกกับยอดอกของชายหนุ่มเต็มๆ
“นายมาแย่งน้ำฉันทำไม”
ชายหนุ่มตาโต มองเธอพลางอ้าปากหวอ ราวตกใจทว่าบราลีรู้สึกเหมือนถูกล้อ จึงรีบหันหน้าหนี หมุนตัวกลับจะเปิดตู้เย็นหยิบขวดใหม่ แต่มือหนากลับวางทาบบนมือเธอกดลงให้ปิดตู้เย็น หญิงสาวชักมือกลับ หันไปเอาเรื่องก็ต้องชะงักเพราะใบหน้าคมเข้มโน้มมาใกล้
“น้ำของเธอไม่ใช่ในนี้”
แขนกำยำเคลื่อนผ่านต้นแขนเธออย่างเฉียดฉิวไปหยิบขวดน้ำจากแพ็กที่วางบนเคาน์เตอร์ใกล้ตู้เย็นมาส่งให้
“ฉันอยากกินน้ำเย็น”
“ไม่ได้ เธอป่วยอยู่”
“ฉันไม่เป็นไรแล้ว ตัวไม่ร้อนแล้ว”
“จริงอะ”
บราลีส่งเสียงจิ๊กจั๊กขัดใจ แต่ก็ต้องหยุดยิ่งเมื่อมือหนาอีกข้างวางทาบบนหน้าผาก หญิงสาวทำได้เพียงเม้มริมฝีปาก ทั้งที่รู้สึกกระอักกระอ่วน เนื้อตัวร้อนวูบวาบราวไข้กลับ ด้วยร่างสูงกำยำที่โชว์ผิวเนื้อแท้ยืนชิดใกล้ ดวงตาคู่กลมโตมองสบกับดวงตาคู่เข้มดำขลับ ขณะหัวใจเริ่มเต้นเร็วขึ้น สุดท้ายเธอก็ปัดมือของเขาออกเพราะไม่อยากให้ตนเองเกิดอาการประหลาดมากไปกว่านี้
“ฉันบอกว่าดีขึ้นแล้วก็ดีขึ้นแล้วสิ ฉันไม่ใช่เด็กๆ นะ ที่จะไม่รู้ว่าตัวเองป่วยหรือเปล่า”
“อืม ตัวไม่ร้อนแล้ว แต่กินน้ำธรรมดาไปก่อนเถอะ”
“เอ๊ะ นายนี่”
ทั้งที่เห็นว่าเธอไม่พอใจแต่อีกฝ่ายกลับเปิดขวดยื่นให้
“อะ”
“นายนน”
“ครับคุณโบ”
ชายหนุ่มตอบรับด้วยน้ำเสียงยียวน
ความจริงบราลีไม่อยากยอมอีกฝ่าย ทว่าเพราะร่างสูงกำยำที่ประชิดขวางทางอยู่ในสภาพชวนให้หงุดหงิดใจ เธอจึงอยากรีบกลับเข้าห้องตัวเอง หญิงสาวยอมรับขวดน้ำมาจากอีกฝ่ายพลางบอก
“หลบไป ฉันจะเข้าห้อง”
คิ้วเข้มยกขึ้นสูง ก่อนชนนจะขยับกายออกเปิดทางเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเธอจะเดินผ่านเขาก็จับมือไว้ บราลีสะดุ้งสุดตัว กระตุกมือกลับแต่ชายหนุ่มรั้งไว้พลางยัดบางอย่างใส่มือ
“ตกใจอะไร เอาฝาขวดไปด้วย”
คำพูดปนขำของอีกฝ่ายทำให้บราลีฉุนจัด ดึงมือตัวเองออกอย่างแรงแล้วเดินกระแทกเท้ากลับห้องตัวเอง ขณะที่ร่างสูงกำยำเดินล้วงกระเป๋าก้าวช้าๆ สีหน้ายิ้มกริ่ม ทว่าเข้าห้องไปแล้วก่อนจะปิดประตูหญิงสาวก็พูดในสิ่งที่คิดว่าต้องเอ่ยกับชายหนุ่ม
“ต่อไปนายห้ามถอดเสื้อออกมาเดินเพ่นพ่านนอกห้องแบบนี้อีก”
“อะไรของเธอ มาจำกัดสิทธิคนอื่นได้ไง เราก็เป็นของเราแบบนี้ ปกติก็ไม่ได้ใส่เสื้อนอนอยู่แล้ว”
“นายจะใส่หรือไม่ใส่นอนก็เรื่องของนาย แต่ออกมาข้างนอก นายต้องใส่”
บราลีย้ำในสามคำสุดท้าย ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ้มมุมปาก
“หรือว่า...เธอกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ ก็นะ เราเข้าใจ อะไรๆ ที่เคยได้เห็นเต็มๆ มาแล้ว มันก็ต้องล่อตาล่อใจให้คิดถึงเป็นธรรมดา”
“ห้ามใจไม่ได้บ้านนายสิ”
ปัง!
ประตูห้องหญิงสาวปิดลงเสียงดังหลังเจ้าตัวสวนกลับมาเสียงเข้ม ทว่าชนนกลับยืนมองประตูพลางยิ้มบาง ดวงตาคู่คมเข้มพราวระยับ
=====
นนชวนทะเลาะตลอด ไม่ถูกโบแว้ดใส่ สงสัยนอนไม่หลับ ^^
ฝากกดติดตาม กดหัวใจ และคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะคะ^^
มีเวลาพักผ่อนสามวันก็ถึงวันที่ต้องออกกองอีกครั้ง แพรวานัดแนะเวลาให้คนขับรถมารับบราลีอย่างเรียบร้อย แม้เจ้าตัวจะถามย้ำว่าเธอจะเดินทางไปกับเอมิกาหรือไม่ แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธเช่นเดิมตีสี่ครึ่งบราลีได้ยินเหมือนเสียงอาบน้ำจากห้องน้ำด้านนอก เพราะเธอตื่นอาบน้ำเตรียมตัวตั้งแต่ตีสี่ แม้แปลกใจว่าชนนจะรีบตื่นไปไหน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของเธออยู่แล้วดูเหมือนชายหนุ่มเริ่มทำงานของเขาแล้ว เพราะเห็นนั่งประจำที่โต๊ะทานข้าว เขียนเมาส์ปากกาลงบนบอร์ดและมองจอโน้ตบุ๊กหน้านิ่วคิ้วขมวด หรือคุยโทรศัพท์บางครั้งบราลีต้องเลี่ยงมาทานข้าวที่โซฟา แม้อีกฝ่ายจะเก็บของให้แต่เธอบอกว่าไม่เป็นไร สุดท้ายทั้งสองก็มักนั่งทานข้าวที่โซฟาใช้โต๊ะเตี้ยแทนใกล้ตีห้าบราลีก็ออกจากห้องของตนเพื่อลงไปรอลุงเกษมคนขับรถ แต่ก็เห็นร่างสูงกำยำลุกขึ้นจากโซฟาเดินมาหาตนพลางเอ่ย“เอาอะไรไปเยอะแยะ กระเป๋าใหญ่เชียว”กระเป๋าที่บราลีถือเป็นทรงใหญ่ที่จุของได้เยอะ แม้จะไม่ได้พกอะไรมากมาย แต่หญิงสาวก็ใส่ของที่เผื่อตนต้องการไปจนครบ“กระเป๋าฉัน ฉันจะเอาอะไรไปก็ได้”“แขนเธอเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไง”“เรื่องของฉัน ฉันถือได้ก็แล้วกัน”หญิงสาวนึกเคืองที่อีกฝ่ายจุ้น
วันนี้โลเคชันในการถ่ายทำอยู่แถวปริมณฑล ใช้เวลาในการเดินทางไม่นานนัก บราลีรู้ว่านับแต่ตนก้าวลงจากรถทุกสายตาต่างก็มองด้วยความสงสัยใคร่รู้เพราะมีผู้ชายร่างสูงกำยำเดินตามต้อยๆ ทว่าเหมือนปัทมากับแพรวาจะรู้อยู่แล้ว เพราะทั้งสองออกมารับหน้าเธอและเอ่ยทักทายกับชนนอย่างยินดี“สวัสดีค่ะ คุณนนใช่ไหมคะ”“สวัสดีครับ”แววตาของปัทมากับแพรวาลอบกวาดมองเจ้าของร่างสูงกำยำด้วยความสนใจ“นี่รู้กันทุกคนเลยใช่ไหม”บราลีมองออก ความหงุดหงิดทำให้เอ่ยด้วยเสียงไม่พอใจ“พี่วิบอกเอาไว้น่ะค่ะ”แพรวาเป็นคนตอบและปัทมารีบเสริม“พี่วิบอกกับพี่ด้วย ให้พี่แจ้งคุณทามกับพี่ชายว่ามีผู้ช่วยคนใหม่ตามมาดูแลน้องโบแทนพี่วิ”“อ้อ รู้กันหมด ยกเว้นโบ”หญิงสาวเอ่ยประชดเบาๆ แล้วเดินต่อเข้าไปด้านใน ปัทมากับแพรวาสบตากันแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มจืดเจื่อนให้ชนน แล้วก็รีบกุลีกุจอนำทางพานางร้ายคนสวยไปยังส่วนที่จัดไว้สำหรับแต่งหน้าทำผม“พี่โบเจ็บก็มีหนุ่มหล่อถือกระเป๋าเดินตาม เปิดตัวคนรู้ใจหรือเปล่าคะ”ช่างทำผม ทำผมพลางถามเธอด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น ความจริงบราลีเห็นมาสักพักนับแต่เธอเข้ามาในห้องนี้ และชนนถือกระเป๋ามาวางไว้ให้ก่อนจะเลี่ยงออกไป คิ
“คัต”“ขอซับหน้านักแสดงค่ะ”เสียงผู้กำกับสั่งตามด้วยเสียงของคอนทินิวไม่นานคิตตี้ก็ก้าวเร็วๆ เข้ามาซับหน้าที่มีเหงื่อซึมจนไหลลงข้างแก้มของบราลี เพราะถ่ายกันในบ้านไม้ อากาศช่วงบ่ายค่อนข้างร้อน“ขอน้ำค่ะ”นางร้ายสาวบอกสั้นๆ แม้จะเป็นฉากไม่หนักแต่เธอก็ต้องพูดบทยาวกับนักแสดงอีกคน“ขอน้ำให้พี่โบหน่อยค่า”คิตตี้ร้องบอกครู่หนึ่งร่างสูงกำยำก็ถือแก้วน้ำเก็บความเย็นส่วนตัวของบราลีเข้ามาส่งให้ หญิงสาวรับมาพลางขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่ม เพราะหลายคนต่างจ้องมายังตน แม้แต่นักแสดงชายที่เข้าฉากด้วย เธอจิบน้ำเล็กน้อยก็ส่งคืนโดยไม่เอ่ยคำใด ชนน เองก็กลับออกไปยืนยังมุมของตนเงียบๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นกัน แต่ไม่รู้เพราะอะไรบราลีกลับรู้สึกว่าใจของเธอไม่นิ่งเอาเสียเลย แม้จะพยายามวางสีหน้าปกติทว่าหญิงสาวกลับหงุดหงิดในใจ‘ทำไมเธอต้องใส่ใจสายตาคนอื่น’บราลีบ่นตัวเอง ใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะรวบรวมสมาธิถ่ายฉากนั้นจนผ่านไปได้ระหว่างรอถ่ายอีกฉากหญิงสาวจึงแยกตัวออกมาสงบจิตใจตัวเอง เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แม้จะค่อนข้างระมัดระวังในเรื่องการวางตัวกับนักแสดงชายเพราะไม่อยากให้มีข่าวเสียหายแต่ก็ไม่ได้กลัวจนเกินเหตุ ต่างจากครั้
บราลีไม่อยากคิดเลยว่าถ้ากระถางนั่นหล่นมาโดนเธอเข้าพอดีจะเป็นอย่างไร จำได้ว่าตอนถ่ายฉากตรงระเบียงยังคิดอยู่เลยว่า บ้านสวนหลังนี้จัดตกแต่งได้น่ารักดี มีกระถางต้นไม้เล็กๆ ห้อยและวางที่ระเบียงเป็นมุมน่านั่งอีกมุมของบ้าน“น้องโบไม่เป็นอะไรแน่นะคะ”ปัทมาถามย้ำ เจ้าตัวเองหน้าถอดสีไปเลย เมื่อมาเกิดเรื่องอันตรายขึ้นกับบราลีซ้ำอีก“เฮ้ย คนจัดของข้างบน ระวังหน่อยสิวะ แล้วขยับอะไรจากตรงไหน ก็วางไว้ที่เดิมให้มันเข้าที่เข้าทางดีๆ”ผู้กำกับตะโกนขึ้นไป แล้วผู้ช่วยที่ชะโงกลงมามองตั้งแต่ได้ยินเสียงของตกตอบก็ตอบกลับ“ก่อนหน้านี้ไม่มีใครอยู่ตรงนี้นะพี่ เซตฉากกันอยู่ข้างใน”“ไม่มีใครอยู่ แล้วกระถางมันหล่นลงมาได้ยังไง ผีผลักหรือไง”“เอ้า พี่ชายทำไมปากหมะ...เฮ้อ...”คิตตี้ยั้งปากตัวเองได้ทันแล้วถอนหายใจเสียงดัง ถ้าเป็นคนอื่นพูดเจ้าตัวคงตีปากไปแล้ว“เปิ้ลไปเคลียร์กับเจ้าของบ้านไป ส่วนน้องโบ วันนี้กลับเลยก็ได้ เหลือฉากเดียวไม่ต้องถ่ายแล้ว ว่าแต่พรุ่งนี้ไหวไหม พี่ว่าจะถ่ายฉากที่ค้างครั้งก่อนไว้ มันโลเดียวกันพอดี”“ได้ค่ะ โบไม่เจ็บแขนแล้วค่ะ”“โอเค ไหวก็ไหว พี่จะให้เขาหลบแขนก็แล้วกัน”“ค่ะ สวัสดีค่ะพี่ชาย”ชนนเ
“เรื่องวันนี้อย่าบอกพี่วินะ”บราลีเอ่ยขึ้นขณะรถเคลื่อนไปบนถนน“คิดว่าปิดปากเราได้ แล้วคนอื่นจะไม่พูดเหรอ เชื่อเหอะ ตอนนี้ไม่โปรดิวเซอร์ ก็ผู้ช่วยพี่วิ หรือไม่ ก็เจ๊คิตตี้นั่นแหละกดโทรรายงานเรียบร้อยไปแล้ว เห็นเจ๊แกบอกว่าซี้ปึ้กกับพี่วิไม่ใช่เหรอ”“อ๋อ แอบสัมภาษณ์กันมาแล้วสินะ”“ทำไมต้องแอบ เขาชวนคุย เราก็ตอบแค่นั้น”“แล้วเจ๊คิตตี้ถามเรื่อง...”“เรื่องอะไร”ชายหนุ่มถามกลับเพราะหญิงสาวชะงักคำพูดตัวเองไป ทว่าบราลีเพียงส่ายหน้า ชนนกำลังจะซักไซ้ต่อแต่เสียงโทรศัพท์มือถือของนักแสดงสาวดังขึ้นมาก่อน เธอจึงควานหาในกระเป๋าที่ชายหนุ่มวางไว้ข้างตน ไม่นานก็เจอและเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์วิมาดาก็หน้าจ๋อย ยกโทรศัพท์ตนให้ชนนดู“บอกแล้วว่าไม่ต้องรอให้เราพูดหรอก”ชายหนุ่มย้ำนางร้ายสาวได้เพียงถอนหายใจอย่างหนักใจ ก่อนจะรับสายในที่สุด วิมาดาถามไถ่อย่างห่วงใยกระทั่งมั่นใจว่าเธอไม่เป็นอะไรจริงๆ แต่ก่อนวางสายอีกฝ่ายกลับเอ่ยสิ่งที่ทำเอาบราลียิ่งหนักใจ‘พี่คิดถูกจริงๆ ที่ให้นนตามไปด้วย คงต้องฝากให้นนช่วยดูแลระหว่างที่โบถ่ายเรื่องนี้จนจบ เพราะต้องมีไปต่างจังหวัดด้วย’“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะพี่วิ เนี่ยแขนโบก็จะหายด
“นายนน...อุ๊บ”ริมฝีปากอิ่มถูกปิดด้วยริมฝีปากได้รูป หลังจากมือหนาเลื่อนขึ้นมาล็อกท้ายทอยของเธอ แรงบดเบียดเม้มลงมาหนักหน่วงทำให้คนที่ตั้งตัวไม่ติดลมหายใจสะดุด แต่เมื่อดึงสติกลับมาได้บราลีก็เอียงหน้าหนี“อื้อ นายนน หยุดนะ”หากปากอุ่นยังไล่ตามบดขยี้เม้มกลีบปากเธอ หญิงสาวขยับหนีได้ไม่มากนักเพราะชายหนุ่มกดรั้งท้ายทอยตนไว้“อยู่ๆ มาว่าเราปากเหม็น ก็ให้มันรู้กันไปเลย ว่าเหม็นจริงหรือเปล่า”“ไอ้บ้า อื้อ”ชนนกดริมฝีปากจูบซับปากอิ่มอย่างไม่ลดละ ละเลียดชิมทั้งบนล่าง แม้หญิงสาวจะพยายามเลี่ยงเขาก็ไล่จูบแนบแน่น จนคนที่ขยับไปมาในอ้อมกอดเขาเริ่มหยุดนิ่ง หอบแรง มือกำเสื้อเขาดึงเบาๆ เห็นว่าร่างโปร่งอรชรตัวอ่อนยวบลง ชายหนุ่มจึงผละปากตน แต่ยังไม่ถอยห่างจากกลีบปากนุ่มละมุน“รังเกียจเรามากเหรอ”คนถูกถามมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาปรือปรอย ในหัวว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก“เรารู้ว่าสมัยเรียนเธอไม่ชอบขี้หน้าเรา แต่ไม่คิดว่าจะรังเกียจมากขนาดนี้”“ฉัน...”บราลีกำลังเรียบเรียงคำพูดของตนทว่าอีกฝ่ายพูดต่อโดยไม่เว้นช่องว่างให้เธอ“ตอนนั้นเรามันก็แค่ไอ้เด็กเกเร เด็กหลังห้องไม่สนใจเรียน มีเรื่องชกต่อยให้ถูกทำโทษบ่อยๆ เด็กเรียนดี
แม้จะขู่ชนนแต่สุดท้ายบราลีก็ไม่กล้าบอกเรื่องที่ชายหนุ่มบังคับจูบตนเองกับวิมาดาไป อายที่จะพูดเรื่องนี้กับคนอื่นแม้แต่ผู้จัดการที่รักเหมือนพี่สาวหญิงสาวไม่ยอมออกจากห้องอีกเลยกระทั่งเย็นชายหนุ่มมาเคาะประตูถามว่าจะทานอะไรเป็นมื้อเย็น เธอก็บอกว่าไม่หิว อีกฝ่ายเงียบหายไปพักใหญ่ มีเสียงเคาะอีกครั้ง บราลียังไม่ยอมเปิดเหมือนเดิม“เราซื้อสลัดอกไก่มาให้ ออกมากินเถอะ ถ้ากลัวเราดักปล้ำจูบล่ะก็ เราจะเข้าไปนั่งทำงานในห้อง”พูดจบเสียงข้างนอกก็เงียบไปเลยคนฟังอดค้อนชนนไม่ได้ที่รู้ทันว่าเธอระแวงเขา แต่ทนได้ไม่นานก็ต้องยอมแพ้เพราะท้องร้องประท้วงอย่างหนัก“แค่จูบใครกลัว ขืนมาขโมยจูบอีกแม่จะกัดเอาคืนเลยคอยดู”บราลีบ่นพึมพำปลุกใจตัวเอง บอกตัวเองว่าเพียงแค่ถูกชนนจูบไม่ทำให้เธอเสียศูนย์ง่ายๆ หรอกจากนั้นก็ออกไปข้างนอก แต่ไม่มีชายหนุ่ม เขาเข้าไปในห้องอย่างที่บอกจริง ใบหน้าสวยสะบัดใส่ประตูห้องอีกฝ่ายแล้วเดินไปยังโซนพื้นที่ครัวซึ่งมีสลัดวางอยู่บนโต๊ะ ชนนน่าจะทานจากข้างนอกมาแล้วเพราะเขาหายไปนาน เธอจึงจัดการอาหารของตนเพียงลำพัง หากก็คอยเหลือบมองประตูห้องของเขาอย่างไม่ไว้ใจ ทว่าชายหนุ่มไม่ออกมาอีกจนเธอกลับเข้าห้อ
แน่นอนว่าการแสดงออกของผู้จัดหนุ่มซึ่งอายุเข้าใกล้เลขสี่ ทว่ายังโสดสนิทนั้น คนในกองถ่ายต่างก็พอเดาได้ เพราะอีกฝ่ายใส่ใจบราลีมากกว่าใครตั้งแต่ละครเรื่องก่อนแล้ว แต่หญิงสาววางตัวปกติมีระยะห่าง หากก็ไม่มากเกินไปจนดูเหมือนรังเกียจผู้จัดหนุ่มไฟแรงที่กำลังขึ้นชื่อว่าทำเรื่องไหนก็ดังเปรี้ยงปร้างในช่วงสองสามปีมานี้ธนากรเป็นทายาทของผู้กำกับชื่อดังที่ไม่ได้เดินสายเดียวกันกับบิดา ชายหนุ่มเรียนจบบริหารธุรกิจและทำงานในสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศหลายปี แต่ด้วยบิดามีค่ายละครอยู่ชายหนุ่มจึงเข้ามาสานต่อเมื่อท่านอายุมากขึ้น ทว่าในฐานะผู้จัดแทนผู้กำกับ“ขอบคุณค่ะ เอ่อ...”“น้ำครับ”อยู่ๆ ร่างสูงกำยำของชนนก็แทรกเข้ามาพร้อมยื่นน้ำแก้วใหญ่ของหญิงสาวให้พร้อมกับพูดต่ออย่างไหลลื่น“เห็นเจ๊คิตตี้บอกว่า ช่างผมต้องทำผมคุณทรงใหม่ในฉากต่อไป ผมว่าไปเตรียมตัวดีกว่านะ ก่อนที่พี่บี๋ช่างผมจะยุ่ง”บราลีรับแก้วน้ำมาถือพลางมองเขาอย่างแปลกใจ แต่ก็พยักหน้ารับแล้วหันไปพูดกับธนากร“โบขอตัวไปเตรียมตัวก่อนนะคะ”ดูเหมือนชนนจะเข้ามาได้จังหวะพอดี หญิงสาวกำลังคิดว่าจะเลี่ยงอย่างไรไม่ให้ผู้จัดหนุ่มเสียหน้า เธอไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้
“อืม”ชนนครางในลำคอ ทว่าเมื่อเขาอยากลูบไล้ผิวเนื้อแท้เนียนนุ่มบ้างหญิงสาวกลับจับมือตนไว้ พลางถอนจูบแล้วส่ายหน้าบ่งบอกว่ายังไม่ถึงเวลาที่เขาจะแตะต้องเธอจากนั้นบราลีก็ถอดเสื้อชายหนุ่มออก จุมพิตแผ่วเหนือปากแกร่ง แตะเบาๆ ลงมายังแผงอกหนา ปลายลิ้นเล็กเลียไล้ยอดอกสีเข้ม ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยนวนเขี่ยเหนือยอดอกอีกข้าง รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มหายใจแรงก็เหลือบมองนิดๆ พลางยิ้มหวานแล้วเม้มหยอกเย้าสลับจูบซับไปมาทั้งสองข้างไม่เพียงเท่านั้น สะโพกอวบที่อยู่บนตักแกร่งยังจงใจบดลงหาตัวตนชายหนุ่มเชื่องช้า กระตุ้นให้กายแกร่งแข็งกร้าวขึ้น ชนนถึงกับกัดฟันกรอดถอนหายใจแรงเมื่อร่างกายตื่นตัวรับสัมผัสนุ่มนวลจากภรรยาบราลีไม่เคยเริ่มลงมือกับเขาก่อน ยกเว้นเขาเอ่ยขอหลังจากปลุกอารมณ์เจ้าตัว แต่ครั้งนี้ชนนตื่นเต้นและอดคาดหวังไม่ได้ เพราะหญิงสาวเป็นฝ่ายเริ่มบรรเลงบทรักดวงหน้าสวยเงยขึ้นมาก่อนอีกฝ่ายจะบอกเสียงเบา“นน ขยับไปนั่งบนโซฟาสิ”ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองหน้าเหวอไปชั่วอึดใจ ก่อนจะยันกายขึ้น ในขณะที่มือบางช่วยถอดกางเกงให้เขา หัวใจแกร่งถึงกับเต้นแรงแทบทะลุอก เพราะภรรยาสาวไม่เคยถอดกางเกงให้เขามาก่อนบราลีข่มอาการเขินอายเ
ดูเหมือนบราลียังต้องใช้เวลาคิด ชนนมองออก เขาจึงไม่เซ้าซี้ ร่างสูงกำยำขยับห่างก่อนจะคลุมร่างอรชรด้วยเสื้อของเจ้าตัวแล้วช้อนอุ้มพาไปที่ห้องน้ำ“เดี๋ยวนนไปล้างตัวข้างนอกนะ”เอ่ยจบร่างเปลือยเปล่าก็ผละไปแล้วคว้าเสื้อผ้าของเขาถือติดมือไปด้วยบราลีรู้สึกใจหายแปลกๆ เพราะชนนมักขอล้างเนื้อล้างตัวกับเธอ หรือไม่ก็นัวเนียจนเธอต้องใจอ่อนยอมให้เขารุกเร้าต่อในห้องน้ำ แต่วันนี้ชายหนุ่มกลับแยกตัวออกไป หรือว่าเขาไม่พอใจที่เธอไม่ตอบเรื่องแต่งงานกับเรื่องลูกหญิงสาวยืนใต้ฝักบัวปล่อยให้น้ำไหลผ่านผิวกาย ความเย็นซึมซับเข้าสู่ผิว รู้สึกหนาวขึ้นมาเมื่อไม่มีเรือนกายหนากำยำด้วยมัดกล้ามคลอเคลียอาบน้ำด้วยกันเธอรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเช็ดตัวใส่เสื้อผ้าใหม่ ออกมาด้านนอกไม่เห็นชนนก็เม้มริมฝีปาก ภายในอกวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูกเขาจะไม่กลับมาแล้วหรือ?บราลีอยากออกไปขอโทษชายหนุ่ม แต่เธอยังไม่คิดถึงเรื่องแต่งงานจึงยั้งเท้าตนแล้วกลับไปนอนบนเตียงห่มผ้าหนาให้ความอบอุ่นกับร่างกายตน แม้อดนึกถึงอ้อมกอดอุ่นไม่ได้ ทว่าชนนก็ไม่ได้นอนกับเธอทุกคืนหากเขาต้องเร่งทำงานให้เสร็จหญิงสาวถอนหายใจอย่างหนักใจ ตอนนี้เธอมีความสุขทั้งเรื่อ
“อยู่กับนนนะ”“จะบอกที่บ้านว่ายังไง”บราลีถอนหายใจ หากคำพูดก็บอกเป็นกลายๆ ว่าเจ้าตัวเริ่มใจอ่อน“แค่บอกว่า อาทิตย์นี้ไม่ได้กลับ ไม่เป็นไรหรอก พ่อแม่เราสองคนเข้าใจอยู่แล้ว”ดวงหน้าสวยร้อนผ่าว รู้ว่าครอบครัวคงพอเดาได้ว่าสองหนุ่มสาวอยากใช้เวลาด้วยกัน นั่นทำให้เธออดนึกอายไม่ได้ ทว่ายังไม่ทันได้คิดมากไปกว่านั้น ริมฝีปากอุ่นก็แนบลงบดเบียดกลีบปากตนหนักหน่วง ส่งปลายลิ้นมาเกลี่ยไล้ให้เธอเปิดดรับเขา บอกให้รู้ว่าต้องการเริ่มต้นบทรักอย่างจริงจัง“ดะ...เดี๋ยว อื้อ...”หญิงสาวพยายามขยับปากห้าม จะบอกว่าคุยกันก่อน แต่กลายเป็นชายหนุ่มฉวยโอกาสเคลื่อนไล้มาเกี่ยวพันรัดรึงคลอเคลียกับลิ้นเธอ จนสุดท้ายบราลีก็ได้เพียงทอดถอนใจอย่างอ่อนใจกับจูบเย้ายวนอารมณ์ของชายหนุ่มมืออุ่นเริ่มลูบไล้ไปตามเนื้อตัวหญิงสาว เกาะกุมบีบเคล้นอกอวบใหญ่ พาให้คนที่ถูกรุกเร้าร่างกายอ่อนยวบ อกใจสั่นระรัวกับสัมผัสของคนรักที่ไม่ว่าจะถูกแตะต้องกี่ครั้งเธอก็ตื่นเต้นระคนหวาบหวามเร้าใจเสมอร่างอรชรที่เริ่มอ่อนปวกเปียกถูกประคองให้นอนลงพร้อมกับใบหน้าคมเข้มซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นสบู่เหลวอันแสนเซ็กซี่ที่บราลีเป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมมือหนาก็เริ่มปล
‘แอบซุ่มดูใจกันมานาน สุดท้ายนักแสดงสาว โบ บราลี ก็ยอมว่าหนุ่มใกล้ตัวเป็นคนรู้ใจตัวจริง แฟนคลับเป็นปลื้ม...บอกแอบเชียร์คู่นี้อยู่จ้า’‘ล่าสุดนางร้ายสุดฮอต โบ บราลี ยอมรับออกสื่อแล้วว่าหนุ่มหล่อน้องชายของผู้จัดการส่วนตัว ที่เห็นไปไหนมาไหนตัวติดกันตลอดเวลา คือหวานใจตัวจริง’ข่าวบันเทิงหลายสำนักทั้งโซเชียลมีเดียและรายการต่างมีข่าวของบราลี หลังจากที่เจ้าตัวตอบคำถามนักข่าวในงานเปิดตัวละครเรื่องที่ทุกคนต่างรอคอย เพราะใช้เวลาในการถ่ายทำค่อนข้างนาน เนื่องจากมีปัญหาภายในกองจนต้องหยุดพักไปแม้นักแสดงสาวจะรับบทนางร้ายเป็นเรื่องที่สอง ทว่าเป็นบทนำ ทำให้ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากว่าเมื่อออกอากาศแล้วเรตติ้งจะเป็นอย่างไร เพราะเรื่องแรกที่บราลีรับบทร้ายเป็นการประกบนางเอกอันดับหนึ่งของประเทศ นับได้ว่าละครเรื่องใหม่นี้คือบทพิสูจน์ฝีมืออย่างแท้จริงของนักแสดงสาว ในการเป็นนักแสดงมากฝีมือแถวหน้าของวงการ“เฮ้อ คนสนใจข่าวของโบ มากกว่าข่าวเปิดตัวละครซะอีก”วิมาดานั่งเช็กข่าวในโซเชียลพลางส่ายหน้า“โบไม่ได้ตั้งใจ ไม่ทันคิดว่าจะเป็นแบบนี้ พอดีพี่นักข่าวเห็นนนมารับโบตอนกลับ เขาถามโบก็ตอบ ไม่ใช่ตอนให้สัมภาษณ์ในง
ร่างสองสองร่างตอบโต้ขยับเขยื้อนสอดรับไปพร้อมกัน จากเชื่องช้าด้วยบราลีเป็นคนกำหนด เริ่มเร็วขึ้นเมื่อสะโพกแกร่งกระทั้นขึ้นมาเร่งเร้า แล้วไม่นานคนที่สะท้านแรงก็กลับกายเป็นหญิงสาวทว่าขณะที่กำลังหอบหายใจหนักอยู่นั้น ชายหนุ่มก็โอบเอวรั้งให้เธอคุกเข่าบนเตียงยกพื้น หันสะโพกให้เขาแล้วเบียดแทรกเข้ามาใหม่จนเต็มรัก“อ๊ะ”แรงกระแทกมาในครั้งเดียวทำเอาบราลีหลุดอุทาน มือที่วางยันที่นอนกำแน่นด้วยความสยิวซ่าน แรงส่งจากด้านหลังไม่มีแผ่ว เต้าอวบกลมกลึงสองข้างถูกขยำหนักมือ หญิงสาวหอบจนตัวโยน ทั้งยังเหมือนอ่อนแรงจนต้องทิ้งกายแอ่นสะโพกสูงรับสะโพกแกร่งที่เบียดอัดเข้าใส่สะโพกตนเสียงดัง ราวจะก้องไปทั่วแพและผืนน้ำเวิ้งว้างเพียงอึดใจต่อมาพิษรักร้อนเร่าก็พร่าพรายทั่วกายทำเอาร่างอรชรกระตุกไม่หยุดหากมีเพียงหญิงสาวที่พานพบสายรุ้งงามหลงฝนกระหน่ำ ชนนยังไม่เห็นแสงสีใดๆ เขายังจมดิ่งลึกลงในมหาสมุทรแห่งตัณหา หาทางออกไม่เจอชายหนุ่มขบกรามแน่นขณะปล่อยให้คนตัวเล็กไขว่คว้าความสุขพร้อมกับบีบเค้นเขาอย่างหนัก ครู่หนึ่งจึงพลิกร่างสวยให้กลับไปนอนหงายบนเตียง อุ้มจัดท่าทางให้เจ้าตัวนอนอย่างสะดวกสบาย ทว่าความเป็นจริงแล้วบราลีกำลัง
ชนนไม่ให้เวลาบราลีได้คิด ชายหนุ่มกอดรัดร่างนุ่มนิ่มที่เสื้อผ้าเปียกชุ่ม เลื่อนไล้มือไปตามสัดส่วนโค้งเว้าสวยงามของหญิงสาว พร้อมใบหน้าคมเข้มโน้มลงมามอบจูบดูดดื่มเร่าร้อนให้คนรักร่างโปร่งอรชรสั่นนิดๆ นอกจากหนาวแล้วยังสั่นด้วยแรงอารมณ์ เพราะสะโพกถูกบีบเคล้นด้วยมือหนากดให้เธอบดเบียดกับกายแกร่งที่กำลังลุกโพลง พร้อมจูบลึกซึ้ง ลิ้นอุ่นเกี่ยวรัดเรียกร้องให้เธอตอบรับ หญิงสาวได้เพียงถอนหายใจขณะพัวพันลิ้นตนกับชายหนุ่มอย่างยอมจำนนชนนช่วยถอดชุดให้หญิงสาวเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายขนลุกเกรียวทั้งกาย พาให้ร่างสวยนั่งลงบนพื้นยกสูงซึ่งปูที่นอนบางไว้ยามเขาปลดกางเกงอีกฝ่ายลงบราลีกอดตัวเองที่ยังมีเสื้อชั้นในกับกางเกงซับในตัวบาง มองชายหนุ่มถอดเสื้อของเขาอย่างรอคอยกระทั่งร่างสูงกำยำโน้มมาหา ประคองดวงหน้างามให้เงยขึ้นรับจูบอีกครั้ง ก่อนฝ่ามือหนาทั้งสองข้างจะไล้ไปตามผิวเนื้อบาง ความกระด้างพาให้ผิวบอบบางวิบวับร้อนรุมตามรอยสัมผัสที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ตะขอเสื้อชั้นในถูกปลดชายหนุ่มไล่ริมฝีปากจูบซับลำคอบาง จุมพิตแผ่วที่บ่าเล็ก ไล้ลิ้นเขี่ยสายเสื้อชั้นในลง ขณะที่มือเข้าตระกองกุมอกอวบ โดยที่มืออีกข้างเกี่ยวเสื้อลูกไม้ชิ
ครอบครัวของบราลีกับชนนรับรู้ว่าสองหนุ่มสาวคบหากันนับแต่หญิงสาวกลับมาพักที่บ้าน ชนนไปมาหาสู่บ่อยๆ แล้วก็แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ดาราสาวเองก็ไปที่บ้านของชายหนุ่มเช่นกัน ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายไม่มีปัญหา ในเมื่ออายุทั้งคู่ก็ถึงวัยมีครอบครัวแล้วยิ่งมารดาของชนนยิ่งพอใจที่ชายหนุ่มคบหากับบราลี ไม่ใช่เพราะเป็นดาราดังแต่จำได้ว่าสาวน้อยหน้าสวยคนนี้มาทานข้าวร้านตนทุกวัน ค่อนข้างสนิทสนมกับวิมาดาจึงเอ็นดูมากชนนขับรถไปตามเส้นทางที่มีป่าเขียวครึ้มทั้งสองข้าง บราลีมองความสวยของธรรมชาติสองข้างทางแล้วก็ยิ้มออกมา“ต้นไม้เยอะดีดัง ชอบบรรยากาศบ้านที่กาญฯ ที่สุดเลย”“งั้นสร้างเรือนหอที่นี่นะ”ชายหนุ่มพูดถึงเรือนหอขึ้นมาทำเอาบราลีหันมองเขา“ทำไม จะไม่สร้างเหรอ”ชนนหันมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะมองเส้นทางต่อ“นายคิดเรื่องแต่งงานแล้วเหรอ”“คิดตั้งแต่โบเปิดห้องน้ำเข้าไปเห็นเราโป๊แล้ว”ใบหน้าสวยร้อนจัด จนอดตีไหล่คนที่พูดไปขำไปไม่ได้“ถึงพี่วิจะฝากให้เรามาดูโบ แต่เราก็ไม่ได้มโนเก่งอะไร คิดแค่ว่ามาเจอเพื่อนเก่า โบอาจจะมีใครที่คบอยู่ ส่วนเราเองก็เคยมีคนรักมาแล้ว แต่กลับมาเจอกันสภาพนี้ มันกระตุ้นความคิดอยากจีบโบขึ้นมา แล
‘พี่โบช่วยไอมี่ค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุค่ะ’‘พี่โบเองก็เจ็บตัวเหมือนกันค่ะ การผิดคิวในกองเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้วค่ะ’‘ไอมี่รู้จักพี่โบมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ เราสนิทกันมาก มีผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกัน พี่โบคอยให้คำปรึกษาเรื่องการแสดงกับไอมี่ตลอด เราไม่เคยมีปัญหากันเลยค่ะ’‘ที่ไอมี่เงียบไปเลย เพราะตกใจมากจนขวัญเสียค่ะ แล้วก็ทำใจไม่ได้ ตอนนั้นสภาพจิตใจแย่มาก คุณแม่ต้องขอให้จิตแพทย์มาคุยกับไอมี่ถึงที่บ้านเลยค่ะ ใช้เวลาพักหนึ่งเลยกว่าจะดีขึ้น’‘พี่โบเองก็ตกใจมากเลยค่ะ เจอเรื่องเข้าใจผิดไปด้วย คงเสียใจมาก ไอมี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จิตใจแย่จนไม่หยิบมือถือเลย ไม่กล้าส่องกระจก ไม่อยากออกจากห้อง เพิ่งมารู้ไม่นานว่าคนเข้าใจผิดพี่โบก็เลยปรึกษาพี่วิ อยากบอกความจริงให้ทุกคนเข้าใจพี่โบน่ะค่ะ’‘พี่โบน่ารัก ใจดีมากค่ะ ถ่ายละครทุกฉากพี่โบทุ่มเทมากจริงๆ ค่ะ’การให้สัมภาษณ์ของเอมิกาในรายการหนึ่งผ่านทางโทรศัพท์ มีคลิปวิดีโอตัดแชร์ไปมากมายในโซเชียล แน่นอนว่าคอมเมนต์ถล่มทลายเช่นกัน‘หน้าแหกจ้า พวกที่เมนต์ด่าน้องโบไว้ หายหัวไปไหนหมด ออกมาขอโทษก็ยังดีนะ’‘พวกจิตป่วย เมนต์แย่ๆ ไปไหนกันหมด’
เพราะบราลีบาดเจ็บที่มือ ทำนั่นนี่ไม่สะดวกนัก วิมาดาจึงอยู่ที่คอนโดหนึ่งสัปดาห์ แม้น้องชายจะอาสาดูแลคนรักแต่พี่สาวกลับไม่เชื่อใจ สุดท้ายทั้งสี่คนจึงอยู่ด้วยกันหลังจากทิ้งระยะเวลาพอสมควร วิมาดาไปพบเอมิกากับมารดาด้วยตัวเอง โดยมีวสันต์กับแพรวาไปด้วย มารดาของนางเอกสาวยิ้มหวานต้อนรับขับสู้อย่างดี หากกลับจิกกัดนิดๆ“น้องไอมี่บาดเจ็บมาตั้งอาทิตย์นึงแล้ว คุณวิกำลังท้องกำลังไส้ เดินทางลำบากแย่ ถึงไม่มาคุณแม่ก็เข้าใจค่ะ”“ยังไงวิก็ดูแลน้องไอมี่ ไม่มาไม่ได้ค่ะ”วิมาดาพูดอย่างสุภาพวสันต์นั้นรออยู่ด้านนอกในส่วนรับแขกของบ้านหลังใหญ่ ส่วนวิมาดา อมรรัตน์ แพรวา ขึ้นมาบนห้องของเอมิกา เพราะเจ้าตัวอายสภาพจิตใจของนางเอกสาวดูไม่ดีนัก ใส่หมวกไหมพรมคลุมศีรษะและใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ผู้จัดการส่วนตัวเห็นแล้วก็อดสงสารและเป็นห่วงไม่ได้ แม้ไม่ได้สนิทเท่ากับบราลี“ตอนนี้ก็พักผ่อนเยอะๆ ทำใจให้สบายนะจ๊ะ เรื่องละครไม่มีปัญหา ในเมื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น คุณทามแจ้งแล้วว่าจะรับผิดชอบจ่ายค่าชดเชยให้ทีมงานที่ต้องถ่ายงานล่าช้า”ปกติแล้วงานถ่ายละครมักมีกำหนดระยะเวลา เพราะทีมงานส่วนใหญ่เป็นการว่าจ้างตามสัญญา หากก