มาถึงคอนโดปุ๊บชนนก็ออกไปข้างนอกต่อแม้ว่าจะหกโมงเย็นแล้ว ชายหนุ่มบอกว่าเพื่อนนัดคุยกับลูกค้าและอยากให้เขาไปเจอด้วยพร้อมกันบราลีไม่ได้ซักไซ้อะไร ใช้พลังในการแสดงกับสมองในการจำบทมาทั้งวันเธอเพลียและอยากพัก หญิงสาวอาบน้ำเสร็จก็เข้านอนทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งในตอนดึก ดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็เห็นว่าสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ร่างโปร่งอรชรออกไปนอกห้องเพราะหิวขึ้นมานิดๆ เธอมีนมกล่องติดบ้านไว้ดื่มหลังกลับจากถ่ายละครอยู่แล้วเพราะไม่ทานอาหารดึกเสียงในห้องน้ำบอกให้รู้ว่าชนนอยู่ในนั้น หญิงสาวตั้งใจจะกลับเข้าห้องก่อนที่ชายหนุ่มจะออกมา ทว่าไม่ทันแล้ว ร่างสูงกำยำก้าวออกจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าขนหนูผูกพันเอวไว้ชนนมองมายังเธอ บราลีเองก็มองหน้าคมเข้มกับเรือนกายกำยำที่มีน้ำเกาะพราว ขณะดูดนมที่เสียบหลอดจากกล่องแล้วกลืนเสียงดัง นั่นเองทำให้รู้สึกตัวว่าตนเผลอมองอีกฝ่ายเต็มตาหญิงสาวหันหน้าหนีทันทีแล้วเร่งรีบก้าวเท้าเร็วๆ ตรงเข้าห้องของตน แต่กลับต้องตัวแข็งทื่อ เพราะรับรู้ถึงความเย็นจัดจากหยดน้ำที่ซึมผ่านเนื้อผ้าชุดนอนพร้อมการโอบรัดจากด้านหลัง ร่างหนาด้วยมัดกล้ามแนบชิดทำเอาใจดวงน้อยหล่นวูบ“ทะ...ทำอะไร”เสียงหวานถามแ
มาถึงคอนโดปุ๊บชนนก็ออกไปข้างนอกต่อแม้ว่าจะหกโมงเย็นแล้ว ชายหนุ่มบอกว่าเพื่อนนัดคุยกับลูกค้าและอยากให้เขาไปเจอด้วยพร้อมกันบราลีไม่ได้ซักไซ้อะไร ใช้พลังในการแสดงกับสมองในการจำบทมาทั้งวันเธอเพลียและอยากพัก หญิงสาวอาบน้ำเสร็จก็เข้านอนทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งในตอนดึก ดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็เห็นว่าสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ร่างโปร่งอรชรออกไปนอกห้องเพราะหิวขึ้นมานิดๆ เธอมีนมกล่องติดบ้านไว้ดื่มหลังกลับจากถ่ายละครอยู่แล้วเพราะไม่ทานอาหารดึกเสียงในห้องน้ำบอกให้รู้ว่าชนนอยู่ในนั้น หญิงสาวตั้งใจจะกลับเข้าห้องก่อนที่ชายหนุ่มจะออกมา ทว่าไม่ทันแล้ว ร่างสูงกำยำก้าวออกจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าขนหนูผูกพันเอวไว้ชนนมองมายังเธอ บราลีเองก็มองหน้าคมเข้มกับเรือนกายกำยำที่มีน้ำเกาะพราว ขณะดูดนมที่เสียบหลอดจากกล่องแล้วกลืนเสียงดัง นั่นเองทำให้รู้สึกตัวว่าตนเผลอมองอีกฝ่ายเต็มตาหญิงสาวหันหน้าหนีทันทีแล้วเร่งรีบก้าวเท้าเร็วๆ ตรงเข้าห้องของตน แต่กลับต้องตัวแข็งทื่อ เพราะรับรู้ถึงความเย็นจัดจากหยดน้ำที่ซึมผ่านเนื้อผ้าชุดนอนพร้อมการโอบรัดจากด้านหลัง ร่างหนาด้วยมัดกล้ามแนบชิดทำเอาใจดวงน้อยหล่นวูบ“ทะ...ทำอะไร”เสียงหวานถามแ
“อะ ให้มองเต็มๆ ตาอีกที แล้วคิดใหม่”“ไม่ดูแล้วย่ะ ฉันเห็นหมดแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรน่ามองสักนิด เลิกตอแยฉันแล้วก็ไปใส่เสื้อผ้าได้แล้ว ไป ชิ่ว”บราลีเบะปากพลางไล่อีกฝ่าย ทว่าชนนกลับกระตุกยิ้ม“นั่นไง วันนั้นเธอเห็นน้องชายเราจริงๆ ด้วย”คนถูกจับได้อึ้งไปทันใด ใบหน้าร้อนซ่าน ไม่แน่ใจว่าหน้าตัวเองแดงตามไปด้วยหรือเปล่า“เราไม่ยอมนะ เธอต้องรับผิดชอบ”“รับผิดชอบบ้าบออะไร ฉันไม่พูดกับนายแล้ว”หญิงสาวบอกปัดอย่างคนร้อนตัว ทั้งยังพยายามจะดึงมือตัวเองจากมือหนา แต่ชนนกระตุกพาร่างโปร่งอรชรกลับไปชิดกายแกร่ง รวบกอดเอวเล็กอย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมเข้มขยับมาใกล้แม้บราลีจะพยายามเอนตัวหนีก็ยังห่างเพียงแค่คืบ“แค่ยอมรับว่าเธอก็สนใจเรา มันยากนักหรือไง”“ฉันน่ะเหรอสนใจนาย”เสียงหวานแข็งขึ้น เข้าใจว่าอีกฝ่ายหาเรื่องตนอีกแล้ว“เราจูบโบไปกี่ครั้งแล้ว”อยู่ๆ ชนนก็ถามขึ้นมา คิ้วเรียวสวยขมวดอย่างไม่เข้าใจ ทว่าประโยคต่อมาของเขาทำเอาเถียงไม่ออก“ถ้ารังเกียจกันจริง เราคงโดนตบคว่ำตั้งแต่แรกแล้ว จริงไหมล่ะ แถมเมื่อตอนบ่าย เธอยังเคลิ้มด้วย ถ้าแพรวไม่มาตามก่อนล่ะก็...”“ใครเคลิ้มไม่ทราบ”เธอแว้ดใส่อีกฝ่ายทันที แต่ชนนยังไม่หมด
“ไอ้บ้านน!”บราลีแทบจะกรีดเสียงตวาดอีกฝ่าย เธอผลักและทุบตีคนตัวโตกว่าไม่หยุด ความคิดเดียวของหญิงสาวคือชนนหาเรื่องกวนโมโหเธอ เหล้าเข้าปากแล้วยิ่งห่ามมากขึ้น“ปากเหรอที่พูดเนี่ย คิดว่าฉันสู้นายไม่ได้ใช่ไหม ดูถูกกันมากไปแล้ว”“ไม่ใช่ เดี๋ยว...ฟังก่อน”เพราะมือบางทุบตีเขาอย่างแรง ชนนจึงพยายามจะจับมืออีกฝ่ายไว้ ทำให้ต้องปล่อยเอวคอด แล้วบราลีก็เห็นเป็นจังหวะพอที่จะหนีหลุดจากชายหนุ่ม หญิงสาวยกเข่ากระแทกขึ้นสูงทันที“อึก”ชนนตัวงอ แทบจุก แม้ว่าเข่าแหลมเล็กจะไม่ถูกจุดอันตรายแต่ก็ใกล้เคียง“โอย มือเท้าหนักจังเลยนะเธอ เฉียดฉิวเลยนะเนี่ย”“ปากสุนัขไม่รับประทานอย่างนาย น้อยไปด้วยซ้ำ”ร่างโปร่งอรชรถอยหลังอย่างรวดเร็วไม่ให้มือหนาคว้ามาถึงเธอ“บอกไว้เลย ฉันเคยฝึกมวยในละครมาย่ะ ถ้าทำรุ่มร่ามน่าเกลียดกับฉันหรือพูดบ้าๆ อีก ฉันชกปากแตกจริงๆ ด้วย”เธอขู่เขาแล้วรีบเข้าห้องตัวเอง แต่ก่อนจะปิดประตูยังไม่ลืมแลบลิ้นใส่ชายหนุ่มที่กุมท้องตัวงอ ทั้งยังต้องจับปมผ้าขนหนูไม่ให้หลุดอย่างทุลักทุเลชนนมองประตูห้องที่เพิ่งปิดลงแล้วถอนหายใจ สีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมาจากห้องของตัวเองในเช้าวันใหม่ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ ก่
“หมอนั่นคิดจะอยู่ที่นี่ยาว โบจะหาคอนใหม่”หญิงสาวโทรไปฟ้องวิมาดา แต่เรื่องที่พูดถึงมีเพียงเรื่องที่ชนนคิดจะตั้งรกรากที่คอนโดนี้‘ใจเย็นสิจ๊ะโบ พี่เข้าใจนะ นนเป็นผู้ชายมันก็น่าลำบากใจอยู่ แต่จะให้พี่ไล่น้องชายไปอยู่ที่อื่น พ่อแม่คงไม่สบายใจ’“โบถึงได้บอกว่าโบจะไปเองไงคะ”‘อยู่คอนโดนี้พี่ยังฝากให้นนช่วยดูแลโบแทนได้ อีกอย่าง พี่ยังไม่แน่ใจเลยว่าหลังคลอดจะทำงานได้เมื่อไหร่ เราคุยกันเรื่องนี้แล้วนี่จ๊ะ’บราลีเม้มริมฝีปาก ใบหน้าสวยงอง้ำ เธอเป็นคนบอกเองว่าอยากให้วิมาดาเลี้ยงดูลูก ให้เวลากับลูกให้มากที่สุด ลูกสำคัญกับผู้จัดการสาวมากกว่าเธอ‘พี่ไม่อยากทิ้งโบ แต่แพรวก็ต้องดูแลไอมี่’แพรวาเป็นผู้ช่วยของวิมาดา ช่วยดูแลเอมิกาเพราะมารดาของอีกฝ่ายขอให้ช่วย หลังจากได้รู้จักกันตอนที่เอมิกาแสดงเป็นน้องสาวของบราลีเมื่อปีที่แล้ว โดยเจ้าตัวเป็นน้องใหม่ของช่อง วิมาดาจึงช่วยให้คำแนะนำมารดาของอีกฝ่ายจนสนิทสนมกัน มารดาของเอมิกาฝากฝังบุตรสาวกับผู้จัดการคนเก่ง สุดท้ายวิมาดาก็รับปากแล้วให้แพรวาเป็นคนดูแลนักแสดงหน้าใหม่โดยตนเองคอยให้คำปรึกษา‘จริงๆ จะให้แพรวดูทั้งสองคนก็ได้ แต่คุณแม่ของไอมี่ค่อนข้างห่วงน้อง แค่นี
“ยังไม่หิวก็มากินเถอะ ตอนเช้าเธอกินไปนิดเดียวเอง กินข้าวให้ตรงเวลา โรคกระเพาะจะได้ไม่ถามหา”คนเล่นตัวเริ่มลังเล และคนข้างนอกก็ยังคะยั้นคะยอต่อ“นี่สูตรแม่เราเลยนะ เธอเคยชอบมากไม่ใช่เหรอ”มารดาของวิมาดากับชนนเปิดร้านอาหารตามสั่งใกล้โรงเรียน บราลีมักสั่งอาหารที่นั่นทานรอบิดามารับหลังเลิกเรียน เพราะบ้านของเธออยู่ไกลจากตัวเมืองนั่นทำให้รู้จักสนิทสนมกับวิมาดาซึ่งอยู่เรียนชั้นมัธยมปีที่หก ก่อนอีกฝ่ายจะมาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แม้เธอจะเพิ่งเข้าเรียนมัธยมต้น อาจเพราะความถูกชะตา วิมาดาจึงเป็นรุ่นพี่ที่เลือกเธอทำกิจกรรมเป็นเชียร์ลีดเดอร์ หรือแม้แต่ดรัมเมเยอร์เนื่องจากบราลีค่อนข้างสูงตั้งแต่อายุยังน้อยรวมทั้งแนะนำให้เธอสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ในมหาวิทยาลัยที่เจ้าตัวเคยเรียนด้วยเห็นอีกฝ่ายอวดว่าเป็นสูตรของมารดา บราลีจึงคิดว่าน่าลองดู ลึกๆ ก็คิดถึงตอนสมัยยังเด็กที่เพียงแค่ไปกลับบ้านกับโรงเรียน ไม่ต้องปวดหัวและเหนื่อยกับการทำงานเปิดประตูออกไปก็เห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปชั่วอึดใจ อาจไม่ทันคิดว่าเธอจะเปิดประตูกะทันหัน แต่แล้วริมฝีปากได้รูปก็ยิ้มมุมปาก“สนใจแล้วใช่ไหมล่ะ”“แค่อยากรู้ว่า ที่อวดว่าเป็นสู
“ฮะ? ง่ายๆ อย่างนี้เนี่ยนะ”บราลีถามกลับพร้อมหน้าเหวอ เธอถึงกับมึนไปเลย ไม่แน่ใจว่าชนนจะมาไม้ไหน“ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย แล้วอยู่ๆ มาชวนคบกัน นายสติดีอยู่หรือเปล่า”ใบหน้าคมเข้มส่ายไปมาพลางมองเธอด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายใจ“ถามจริงเถอะ จูบของเราไม่มีความหมายกับเธอจริงเหรอ”คราวนี้แววตาของชายหนุ่มไม่มีล้อเล่น ทำให้บราลีนิ่งไปเช่นกัน อดย้อนกลับไปคิดถึงความรู้สึกยามที่ริมฝีปากอุ่นแนบชิดเคล้าคลอกลีบปากตนไม่ได้ แล้วก็ถึงกับต้องขบกลีบปากตัวเองเพราะใจเต้นรัวขึ้นมาขณะสบตาคมเข้มดำขลับเธอรู้สึกอย่างไรกับจูบของชนนอย่างนั้นหรือ?บราลีสับสนในความรู้สึกของตัวเอง เธอโกรธที่ชายหนุ่มกลั่นแกล้งตนด้วยการบังคับกอดจูบ แต่ในทุกครั้งเนื้อตัวกลับอ่อนปวกเปียก ต่างจากจูบในละครเวลาเข้าฉากกับนักแสดงที่ร่วมงานด้วยหญิงสาวเข้าใจว่าการทำงานทำให้เธอไม่รู้สึกใดๆ แต่กับชนนคิดว่าอีกฝ่ายดูถูกและไม่ให้เกียรติ จึงทั้งโมโหระคนน้อยใจ“มีสิ ฉันโกรธนาย โกรธมากด้วย”“แค่กๆ”ชนนถึงกับสำลักน้ำที่ยกขึ้นดื่มพอดี“โธ่ โบ...”หลังไอหน้าดำหน้าแดงชายหนุ่มก็เอ่ยด้วยเสียงอ่อนใจ“เราไม่เชื่อหรอกว่าเธอไม่หวั่นไหวกับเราเลย”“นายจะมาจับผิดฉันทำไ
“ถ้าไม่พอใจ ไม่อยากตอบ ก็ไม่เป็นไร ถึงพี่วิจะให้นายช่วยเป็นผู้จัดการส่วนตัวฉันชั่วคราว แต่เรื่องส่วนตัว คนเป็นผู้จัดการไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”บราลีเชิดใส่อีกฝ่าย ตั้งใจออกไปหาซื้ออาหารใกล้ๆ คอนโดหากชนนยังไม่มีสำนึก ไม่คิดปรับปรุงตัวเอง ไม่ยอมรับออกมาว่าเขาคิดกับเธออย่างไร หรือแท้จริงเขาเพียงแกล้งหยอกเธอ ทำให้เธออับอาย เธอก็จะไม่แคร์ ตัดเขาออกไปจากความคิดเช่นกันทว่าร่างสูงกำยำกลับก้าวตามมากอดเธอจากด้านหลัง หญิงสาวชะงักเพราะไม่ทันคิดแต่ก็พยายามสะบัดตัวไม่ยอมให้ชายหนุ่มล่วงเกินตนได้ดังใจ“นายนน ปล่อยฉัน”“เราไม่อยากให้เธอนัดเจอเขา เห็นๆ กันอยู่ว่าเขาจีบเธอ”“แล้วยังไง ฉันอายุเท่าไหร่แล้ว มีคนหล่อรวยมาจีบก็ควรเปิดรับไม่ใช่หรือไง”“เราหวง”เสียงทุ้มอ่อนโยนบอกชิดใบหู ทำเอาหญิงสาวขนลุกไปทั้งท้ายทอย ทว่าริมฝีปากอิ่มยังเม้มขัดอกขัดใจ“นายมีสิทธิ์อะไรมาหวงฉันไม่ทราบ”“ยังไม่มี หรือจะปล้ำซะดีไหม”“นายนี่มันน่านัก”พร้อมกัดฟันเข่นเขี้ยว หญิงสาวก็กระแทกศอกเล็กเข้าใส่หน้าท้องแกร่งเต็มแรง“โอ๊ย!”แรงกระทุ้งจากศอกแหลมเล่นเอาเจ็บไม่น้อย หากแขนกำยำกลับยิ่งรัดเอวเล็ก ทั้งยังจับข้อมือทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้
กลับมาถึงคอนโดก็เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งแล้ว ด้วยถนนเส้นนั้นติดหนักหฤโหดทีเดียว ระหว่างอยู่บนรถแม้จะหงุดหงิดหากชนนไม่ได้บ่นออกมา เพราะจะเป็นโอกาสให้บราลีตอกย้ำกับเขาว่าไม่ต้องมารับเธอ และหญิงสาวเองก็คุยโทรศัพท์ตลอดเวลา ทั้งโทรหาแพรวาเรื่องออกงานอีเวนต์ คุยกับเพื่อนดาราในวงการไปจนถึงคุยกับหลานชายวัยสามขวบ ลูกของพี่ชายบราลีหญิงสาวมีพี่ชายหนึ่งคนกับน้องชายหนึ่งคน เธอเป็นลูกคนกลางที่แม้บิดามารดาจะรักไม่ต่างกัน ทว่าการเป็นลูกผู้หญิงคนเดียวของบ้าน บราลีจึงไม่สนิทสนมกับพี่น้องนัก แต่ก็ไม่ได้มีปัญหากัน ไม่แปลกนักที่เมื่อได้รู้จักกับวิมาดาที่ถูกชะกันบราลีจึงสนิทสนมกับอีกฝ่าย ปรึกษาเรื่องเรียนและรับฟังพี่สาวของชนนมาตลอดหลายปีร่างสูงกำยำก้าวตามเจ้าของร่างโปร่งอรชรอย่างเอื่อยเฉื่อย ขณะที่บราลีก้าวฉับๆ รวดเร็วเกรงจะมีคนเห็นนับแต่ลงจากรถมาขึ้นลิฟต์ กระทั่งเข้าห้องมาเจ้าตัวก็ถอนหายใจ“ยังไม่เลิกคิดมากเรื่องคนเห็นเราอีกเหรอ”“ยังไงนายก็เป็นผู้ชายนี่นา”“อีกเดี๋ยวคนก็เห็นอยู่ดี ในเมื่อเราต้องตามติดเธอเหมือนเงาอยู่แล้ว”หญิงสาวหันกลับมามองเขาแล้วยักไหล่“ไม่จำเป็น งานอีเวนต์พรุ่งนี้นายไม่ต้องไปก็ได้ ฉันน
เพราะต้องออกกองไปถ่ายต่างจังหวัดกับบราลี ชนนจึงพยายามเคลียร์งานในส่วนของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง หลังจากได้คุยกับลูกค้าพร้อมกับเพื่อนมาแล้ว แม้บริษัทของเพื่อนชายหนุ่มจะไม่ใช่บริษัทใหญ่ และทำงานที่บ้านเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายทรัพยากร ทว่าค่าตอบแทนก็คุ้มค่า มีงานเข้ามาตลอดเวลาไม่เคยขาด ทีมงานเพียงไม่กี่คนแต่เป็นคนที่มีความสามารถทั้งยังคุ้นเคยกันดีหลังจากปรับความเข้าใจกับบราลีแล้ว ชายหนุ่มก็คร่ำเคร่งกับงานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์แทบทั้งคืน กว่าจะเข้านอนก็ตีสาม เช้าวันถัดมาชนนจึงตื่นสาย แต่อาบน้ำแล้วก็ดื่มกาแฟมานั่งทำงานต่อ ทว่าสิบเอ็ดโมงแล้วไม่เห็นหญิงสาวออกจากห้องของตัวเองก็นึกแปลกใจแม้ทุกวันหญิงสาวตื่นสายกว่าตน ทว่าสิบโมงเจ้าตัวจะออกมาทานกาแฟกับขนมปัง คิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกขึ้นมาได้ว่า บราลีบอกว่าเปลี่ยนนัดกับธนากรเป็นวันนี้หรือเธอจะออกไปแล้ว?คิดได้ชนนก็รีบโทรหาหญิงสาวทันที ฟังเสียงรอสายอยู่หลายครั้งกว่าอีกฝ่ายจะรับ ทำเอาเขาร้อนใจทีเดียว“โบอยู่ไหน”‘อะไรของนาย’“ถามว่าอยู่ไหน นัดเจอหมอนั่นที่ไหน เขาพาไปที่แปลกๆ ลับหูลับตาคน ไม่น่าไว้ใจหรือเปล่า”ชายหนุ่มถามรัวเร็วด้วยความเป็นห่วง แต
“ถ้าไม่พอใจ ไม่อยากตอบ ก็ไม่เป็นไร ถึงพี่วิจะให้นายช่วยเป็นผู้จัดการส่วนตัวฉันชั่วคราว แต่เรื่องส่วนตัว คนเป็นผู้จัดการไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”บราลีเชิดใส่อีกฝ่าย ตั้งใจออกไปหาซื้ออาหารใกล้ๆ คอนโดหากชนนยังไม่มีสำนึก ไม่คิดปรับปรุงตัวเอง ไม่ยอมรับออกมาว่าเขาคิดกับเธออย่างไร หรือแท้จริงเขาเพียงแกล้งหยอกเธอ ทำให้เธออับอาย เธอก็จะไม่แคร์ ตัดเขาออกไปจากความคิดเช่นกันทว่าร่างสูงกำยำกลับก้าวตามมากอดเธอจากด้านหลัง หญิงสาวชะงักเพราะไม่ทันคิดแต่ก็พยายามสะบัดตัวไม่ยอมให้ชายหนุ่มล่วงเกินตนได้ดังใจ“นายนน ปล่อยฉัน”“เราไม่อยากให้เธอนัดเจอเขา เห็นๆ กันอยู่ว่าเขาจีบเธอ”“แล้วยังไง ฉันอายุเท่าไหร่แล้ว มีคนหล่อรวยมาจีบก็ควรเปิดรับไม่ใช่หรือไง”“เราหวง”เสียงทุ้มอ่อนโยนบอกชิดใบหู ทำเอาหญิงสาวขนลุกไปทั้งท้ายทอย ทว่าริมฝีปากอิ่มยังเม้มขัดอกขัดใจ“นายมีสิทธิ์อะไรมาหวงฉันไม่ทราบ”“ยังไม่มี หรือจะปล้ำซะดีไหม”“นายนี่มันน่านัก”พร้อมกัดฟันเข่นเขี้ยว หญิงสาวก็กระแทกศอกเล็กเข้าใส่หน้าท้องแกร่งเต็มแรง“โอ๊ย!”แรงกระทุ้งจากศอกแหลมเล่นเอาเจ็บไม่น้อย หากแขนกำยำกลับยิ่งรัดเอวเล็ก ทั้งยังจับข้อมือทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้
“ฮะ? ง่ายๆ อย่างนี้เนี่ยนะ”บราลีถามกลับพร้อมหน้าเหวอ เธอถึงกับมึนไปเลย ไม่แน่ใจว่าชนนจะมาไม้ไหน“ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย แล้วอยู่ๆ มาชวนคบกัน นายสติดีอยู่หรือเปล่า”ใบหน้าคมเข้มส่ายไปมาพลางมองเธอด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายใจ“ถามจริงเถอะ จูบของเราไม่มีความหมายกับเธอจริงเหรอ”คราวนี้แววตาของชายหนุ่มไม่มีล้อเล่น ทำให้บราลีนิ่งไปเช่นกัน อดย้อนกลับไปคิดถึงความรู้สึกยามที่ริมฝีปากอุ่นแนบชิดเคล้าคลอกลีบปากตนไม่ได้ แล้วก็ถึงกับต้องขบกลีบปากตัวเองเพราะใจเต้นรัวขึ้นมาขณะสบตาคมเข้มดำขลับเธอรู้สึกอย่างไรกับจูบของชนนอย่างนั้นหรือ?บราลีสับสนในความรู้สึกของตัวเอง เธอโกรธที่ชายหนุ่มกลั่นแกล้งตนด้วยการบังคับกอดจูบ แต่ในทุกครั้งเนื้อตัวกลับอ่อนปวกเปียก ต่างจากจูบในละครเวลาเข้าฉากกับนักแสดงที่ร่วมงานด้วยหญิงสาวเข้าใจว่าการทำงานทำให้เธอไม่รู้สึกใดๆ แต่กับชนนคิดว่าอีกฝ่ายดูถูกและไม่ให้เกียรติ จึงทั้งโมโหระคนน้อยใจ“มีสิ ฉันโกรธนาย โกรธมากด้วย”“แค่กๆ”ชนนถึงกับสำลักน้ำที่ยกขึ้นดื่มพอดี“โธ่ โบ...”หลังไอหน้าดำหน้าแดงชายหนุ่มก็เอ่ยด้วยเสียงอ่อนใจ“เราไม่เชื่อหรอกว่าเธอไม่หวั่นไหวกับเราเลย”“นายจะมาจับผิดฉันทำไ
“ยังไม่หิวก็มากินเถอะ ตอนเช้าเธอกินไปนิดเดียวเอง กินข้าวให้ตรงเวลา โรคกระเพาะจะได้ไม่ถามหา”คนเล่นตัวเริ่มลังเล และคนข้างนอกก็ยังคะยั้นคะยอต่อ“นี่สูตรแม่เราเลยนะ เธอเคยชอบมากไม่ใช่เหรอ”มารดาของวิมาดากับชนนเปิดร้านอาหารตามสั่งใกล้โรงเรียน บราลีมักสั่งอาหารที่นั่นทานรอบิดามารับหลังเลิกเรียน เพราะบ้านของเธออยู่ไกลจากตัวเมืองนั่นทำให้รู้จักสนิทสนมกับวิมาดาซึ่งอยู่เรียนชั้นมัธยมปีที่หก ก่อนอีกฝ่ายจะมาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แม้เธอจะเพิ่งเข้าเรียนมัธยมต้น อาจเพราะความถูกชะตา วิมาดาจึงเป็นรุ่นพี่ที่เลือกเธอทำกิจกรรมเป็นเชียร์ลีดเดอร์ หรือแม้แต่ดรัมเมเยอร์เนื่องจากบราลีค่อนข้างสูงตั้งแต่อายุยังน้อยรวมทั้งแนะนำให้เธอสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ในมหาวิทยาลัยที่เจ้าตัวเคยเรียนด้วยเห็นอีกฝ่ายอวดว่าเป็นสูตรของมารดา บราลีจึงคิดว่าน่าลองดู ลึกๆ ก็คิดถึงตอนสมัยยังเด็กที่เพียงแค่ไปกลับบ้านกับโรงเรียน ไม่ต้องปวดหัวและเหนื่อยกับการทำงานเปิดประตูออกไปก็เห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปชั่วอึดใจ อาจไม่ทันคิดว่าเธอจะเปิดประตูกะทันหัน แต่แล้วริมฝีปากได้รูปก็ยิ้มมุมปาก“สนใจแล้วใช่ไหมล่ะ”“แค่อยากรู้ว่า ที่อวดว่าเป็นสู
“หมอนั่นคิดจะอยู่ที่นี่ยาว โบจะหาคอนใหม่”หญิงสาวโทรไปฟ้องวิมาดา แต่เรื่องที่พูดถึงมีเพียงเรื่องที่ชนนคิดจะตั้งรกรากที่คอนโดนี้‘ใจเย็นสิจ๊ะโบ พี่เข้าใจนะ นนเป็นผู้ชายมันก็น่าลำบากใจอยู่ แต่จะให้พี่ไล่น้องชายไปอยู่ที่อื่น พ่อแม่คงไม่สบายใจ’“โบถึงได้บอกว่าโบจะไปเองไงคะ”‘อยู่คอนโดนี้พี่ยังฝากให้นนช่วยดูแลโบแทนได้ อีกอย่าง พี่ยังไม่แน่ใจเลยว่าหลังคลอดจะทำงานได้เมื่อไหร่ เราคุยกันเรื่องนี้แล้วนี่จ๊ะ’บราลีเม้มริมฝีปาก ใบหน้าสวยงอง้ำ เธอเป็นคนบอกเองว่าอยากให้วิมาดาเลี้ยงดูลูก ให้เวลากับลูกให้มากที่สุด ลูกสำคัญกับผู้จัดการสาวมากกว่าเธอ‘พี่ไม่อยากทิ้งโบ แต่แพรวก็ต้องดูแลไอมี่’แพรวาเป็นผู้ช่วยของวิมาดา ช่วยดูแลเอมิกาเพราะมารดาของอีกฝ่ายขอให้ช่วย หลังจากได้รู้จักกันตอนที่เอมิกาแสดงเป็นน้องสาวของบราลีเมื่อปีที่แล้ว โดยเจ้าตัวเป็นน้องใหม่ของช่อง วิมาดาจึงช่วยให้คำแนะนำมารดาของอีกฝ่ายจนสนิทสนมกัน มารดาของเอมิกาฝากฝังบุตรสาวกับผู้จัดการคนเก่ง สุดท้ายวิมาดาก็รับปากแล้วให้แพรวาเป็นคนดูแลนักแสดงหน้าใหม่โดยตนเองคอยให้คำปรึกษา‘จริงๆ จะให้แพรวดูทั้งสองคนก็ได้ แต่คุณแม่ของไอมี่ค่อนข้างห่วงน้อง แค่นี
“ไอ้บ้านน!”บราลีแทบจะกรีดเสียงตวาดอีกฝ่าย เธอผลักและทุบตีคนตัวโตกว่าไม่หยุด ความคิดเดียวของหญิงสาวคือชนนหาเรื่องกวนโมโหเธอ เหล้าเข้าปากแล้วยิ่งห่ามมากขึ้น“ปากเหรอที่พูดเนี่ย คิดว่าฉันสู้นายไม่ได้ใช่ไหม ดูถูกกันมากไปแล้ว”“ไม่ใช่ เดี๋ยว...ฟังก่อน”เพราะมือบางทุบตีเขาอย่างแรง ชนนจึงพยายามจะจับมืออีกฝ่ายไว้ ทำให้ต้องปล่อยเอวคอด แล้วบราลีก็เห็นเป็นจังหวะพอที่จะหนีหลุดจากชายหนุ่ม หญิงสาวยกเข่ากระแทกขึ้นสูงทันที“อึก”ชนนตัวงอ แทบจุก แม้ว่าเข่าแหลมเล็กจะไม่ถูกจุดอันตรายแต่ก็ใกล้เคียง“โอย มือเท้าหนักจังเลยนะเธอ เฉียดฉิวเลยนะเนี่ย”“ปากสุนัขไม่รับประทานอย่างนาย น้อยไปด้วยซ้ำ”ร่างโปร่งอรชรถอยหลังอย่างรวดเร็วไม่ให้มือหนาคว้ามาถึงเธอ“บอกไว้เลย ฉันเคยฝึกมวยในละครมาย่ะ ถ้าทำรุ่มร่ามน่าเกลียดกับฉันหรือพูดบ้าๆ อีก ฉันชกปากแตกจริงๆ ด้วย”เธอขู่เขาแล้วรีบเข้าห้องตัวเอง แต่ก่อนจะปิดประตูยังไม่ลืมแลบลิ้นใส่ชายหนุ่มที่กุมท้องตัวงอ ทั้งยังต้องจับปมผ้าขนหนูไม่ให้หลุดอย่างทุลักทุเลชนนมองประตูห้องที่เพิ่งปิดลงแล้วถอนหายใจ สีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมาจากห้องของตัวเองในเช้าวันใหม่ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ ก่
“อะ ให้มองเต็มๆ ตาอีกที แล้วคิดใหม่”“ไม่ดูแล้วย่ะ ฉันเห็นหมดแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรน่ามองสักนิด เลิกตอแยฉันแล้วก็ไปใส่เสื้อผ้าได้แล้ว ไป ชิ่ว”บราลีเบะปากพลางไล่อีกฝ่าย ทว่าชนนกลับกระตุกยิ้ม“นั่นไง วันนั้นเธอเห็นน้องชายเราจริงๆ ด้วย”คนถูกจับได้อึ้งไปทันใด ใบหน้าร้อนซ่าน ไม่แน่ใจว่าหน้าตัวเองแดงตามไปด้วยหรือเปล่า“เราไม่ยอมนะ เธอต้องรับผิดชอบ”“รับผิดชอบบ้าบออะไร ฉันไม่พูดกับนายแล้ว”หญิงสาวบอกปัดอย่างคนร้อนตัว ทั้งยังพยายามจะดึงมือตัวเองจากมือหนา แต่ชนนกระตุกพาร่างโปร่งอรชรกลับไปชิดกายแกร่ง รวบกอดเอวเล็กอย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมเข้มขยับมาใกล้แม้บราลีจะพยายามเอนตัวหนีก็ยังห่างเพียงแค่คืบ“แค่ยอมรับว่าเธอก็สนใจเรา มันยากนักหรือไง”“ฉันน่ะเหรอสนใจนาย”เสียงหวานแข็งขึ้น เข้าใจว่าอีกฝ่ายหาเรื่องตนอีกแล้ว“เราจูบโบไปกี่ครั้งแล้ว”อยู่ๆ ชนนก็ถามขึ้นมา คิ้วเรียวสวยขมวดอย่างไม่เข้าใจ ทว่าประโยคต่อมาของเขาทำเอาเถียงไม่ออก“ถ้ารังเกียจกันจริง เราคงโดนตบคว่ำตั้งแต่แรกแล้ว จริงไหมล่ะ แถมเมื่อตอนบ่าย เธอยังเคลิ้มด้วย ถ้าแพรวไม่มาตามก่อนล่ะก็...”“ใครเคลิ้มไม่ทราบ”เธอแว้ดใส่อีกฝ่ายทันที แต่ชนนยังไม่หมด
มาถึงคอนโดปุ๊บชนนก็ออกไปข้างนอกต่อแม้ว่าจะหกโมงเย็นแล้ว ชายหนุ่มบอกว่าเพื่อนนัดคุยกับลูกค้าและอยากให้เขาไปเจอด้วยพร้อมกันบราลีไม่ได้ซักไซ้อะไร ใช้พลังในการแสดงกับสมองในการจำบทมาทั้งวันเธอเพลียและอยากพัก หญิงสาวอาบน้ำเสร็จก็เข้านอนทันทีรู้สึกตัวอีกครั้งในตอนดึก ดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็เห็นว่าสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ร่างโปร่งอรชรออกไปนอกห้องเพราะหิวขึ้นมานิดๆ เธอมีนมกล่องติดบ้านไว้ดื่มหลังกลับจากถ่ายละครอยู่แล้วเพราะไม่ทานอาหารดึกเสียงในห้องน้ำบอกให้รู้ว่าชนนอยู่ในนั้น หญิงสาวตั้งใจจะกลับเข้าห้องก่อนที่ชายหนุ่มจะออกมา ทว่าไม่ทันแล้ว ร่างสูงกำยำก้าวออกจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าขนหนูผูกพันเอวไว้ชนนมองมายังเธอ บราลีเองก็มองหน้าคมเข้มกับเรือนกายกำยำที่มีน้ำเกาะพราว ขณะดูดนมที่เสียบหลอดจากกล่องแล้วกลืนเสียงดัง นั่นเองทำให้รู้สึกตัวว่าตนเผลอมองอีกฝ่ายเต็มตาหญิงสาวหันหน้าหนีทันทีแล้วเร่งรีบก้าวเท้าเร็วๆ ตรงเข้าห้องของตน แต่กลับต้องตัวแข็งทื่อ เพราะรับรู้ถึงความเย็นจัดจากหยดน้ำที่ซึมผ่านเนื้อผ้าชุดนอนพร้อมการโอบรัดจากด้านหลัง ร่างหนาด้วยมัดกล้ามแนบชิดทำเอาใจดวงน้อยหล่นวูบ“ทะ...ทำอะไร”เสียงหวานถามแ